หลังจากที่หายกันไปโคตรนานกว่า 10 ปี ในที่สุด คุณ aaa ผู้สร้างตำนานต้นกำเนิดเกม โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original ในปี 2005 ก็กลับมาสานภาคต่ออีกครั้งในปี 2015 ในชื่อ..
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original 2
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้สร้าง : aaa
ซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้าง : RPG Maker 2000
ปล่อยผลงาน : 1 พฤศจิกายน 2015 (ห่างจากภาคแรก 10 ปี)
เวอร์ชั่นล่าสุด : 1.16
ระบบที่รองรับ : WindowXP/Vista/7
ลักษณะของเกมโดยร่วม
- เนื้อเรื่องดำเนินเรื่องต่อจากภาคออริจินอล
- เนื้อเรื่องในภาคนี้ส่วนใหญ่เล่นมุกตามภาค Code Veronica และ G ผสมกัน
- มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆมากขึ้น ทั้งแสง สี เสียง แอคชั่นและภาพเอฟเฟค
- มีศัตรู บอสและสัตว์ประหลาดมากขึ้น
- เปิดตัวตัวละครใหม่จำนวนมาก
- เป็นภาคจบของเกมส์ภาค Original อย่างแท้จริง... (ไม่มีภาคต่อหรือปล่อยให้เนื้อเรื่องคาราคาซังเหมือนภาคแรกอีกแล้ว)
เนื้อเรื่องเกมโดยรวม
- โนบิตะบุกสถาบันอัมเบรล่าเดี่ยวคนเดียว โดนเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วนำตัวไปขังบนคุกบนเกาะแห่งหนึ่ง
- พวกไจแอนท์ (+ซูเนโอะ + เซย์นะ) ตามมาช่วยพร้อมด้วยสมาชิก BSAA
- เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พวกอัมเบรล่าตัดสินใจถล่มโจมตีเกาะ (ทำลายหลักฐานและชิงตัวอย่างการทดลองที่สำคัญบางอย่างบนเกาะ) ทำให้เชือไวรัสแพร่ระบาดและสัตว์ทดลอง [B.O.W.] บุกออกมา
- เจ้าหน้าที่เฝ้าห้องขังติดเชื้อและตัดสินใจเฮือกสุดท้ายช่วยโนบิตะออกจากคุกก่อนกลายเป็นซอมบี้ โนบิตะจึงใช้ปืนเจ้าหน้าที่ยิงที่มาช่วยส่งไปสู่สุขคติ
- ระหว่างทางเดินพบซอมบี้เจ้าหน้าที่มากมาย
- โนบิตะตัดสินใจมุดออกทางช่องระบายอากาศ
- โนบิตะตัดสินใจมุดออกทางช่องระบายอากาศ
- พอออกมาก็เจอสาวรัสเซียที่ชื่อ "อิลิน่า" เอาปืนจ่อหัว แต่โชคดีคนในห้องช่วยไว้ และที่แห่งนั้น โนบิตะได้พบกับ "ไจแอนท์", "ซูเนโอะ" และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ BSAA [ที่ถูกส่งมาจัดการอาวุธชีวภาพ]
ลุงผ้าคาดหัวแดงหัวหน้าหน่วย BSAA : "ไดมง มิสึรุ"
เจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคลูกครึ่งฝรั่งญี่ปุ่น : "ปิแอร์ โมริชิเงะ"
เจ้าหน้าที่ภาคสนาม"ชิรานุอิ คาโอรุ"
เจ้าหน้าที่หญิง "อิลิน่า"
เจ้าหน้าที่หญิง "อิลิน่า"
และคนของบริษัทต่างชาติที่มีส่วนเกี่ยวพันธ์กับอัมเบรล่า
หัวหน้าแผนกเวชภัณฑ์ : "เต๋า อู่หลง" และ เลขานุการสาวแว่น : "ซู เชาริน"
- ทุกคนอยากจะออกจากเกาะแห่งนี้ แต่ติดตรงที่ว่า "เซย์นะ" หายตัวไป และพวกไดมงก็ต้องหาวิธีเปิดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าบนเกาะเสียก่อน
- ระหว่างการหาตัวเซย์นะ (ส่วนพวก BSAA ก็รับหน้าที่จัดการระบบไฟฟ้า) โนบิตะต้องเผชิญกับ B.O.W. จำนวนใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น..
1) ลิกเกอร์ : [Event เปิดตัวแบบ RE2]
1) ลิกเกอร์ : [Event เปิดตัวแบบ RE2]
2) ฝูงสุนัขซอมบี้ เคลเบรอส ที่พุ่งทะลุหน้าต่างออกมา
หรือที่ร้ายที่สุดคือ
3) การปรากฏตัวของ "B.O.W. สายพันธุ์ใหม่ - มิสเตอรี่ ครีเอชั่น (Mystery Creation) : มิสเตอรี่" ที่มีรูปร่างเหมือนไทแรนท์ยักษ์ แต่สวมหน้ากากแก๊ส สวมเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆ และสามารถปล่อยแก๊สออกจากผิวหนังได้ หนำซ้ำยังถือดาบยักษ์ (แบบพีระมิดเฮดจาก SH) เป็นอาวุธคู่กายด้วย
โนบิตะเจอกับมิสเตอรี่ครั้งแรกตอนที่เก็บกุญแจด้านในสุดของห้องซ้อมยิงปืน ทันทีที่เขาเก็บขึ้นมา เขาก็ได้ยินเสียงพังโครมครามและเสียงโลหะบางอย่างที่ลากกับพื้นเข้ามาใกล้... พอเห็นหน้าเท่านั้นแหละ โนบิตะแกโกยไม่คิดชีวิตเลย แถมมันยังตามหลอกหลอน โนบิตะอยู่ระยะนึงด้วย... มันไล่ตามโนบิตะไปเกือบทุกห้อง ขนาดหนีขึ้นข้างบน ยกมีการเอาดาบแทงทะลุพื้นด้วย (โดนสับทีเดียวตายทันที) แต่โนบิตะก็หนีพ้น
- โนบิตะตามหาตัวเซย์นะจนเจอ เธอกำลังซ่อนตัวอยู่ในตู้ล็อกเกอร์ห้องนึงที่มีซอมบี้พยายามพังอยู่ โนบิตะจึงฆ่าซอมบี้และช่วยเซย์นะออกมา แต่เธอบอกว่า เธอขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อที่ห้องน้ำด้านหลังก่อน เพราะ เธอติดอยู่ในล็อกเกอร์มาหลายวันเหนียวตัวไปหมด โนบิตะ ก็ตอบตกลง ว่าจะรอเธอ
- ในช่วงนั้นเองที่มีเสียงโครมครามจากด้านนอก โนบิตะจึงออกมาดูและพบว่า ฝูงซอมบี้จำนวนมากกำลังบุกเข้ามาถึงตึกที่โนบิตะอยู่ (ตอนนี้โนบิตะสามารถเดินเข้าห้องน้ำได้จะพบฉากเซอร์วิส)
- โนบิตะจึงตัดสินใจบู๊กับซอมบี้จนหมด [ตรงนั้นมีถังแก๊สช่วยทุนแรง เลยฆ่าซอมบี้จำนวนมากได้ไม่ยาก] ก่อนจะพาเซย์นะ กลับไปรวมกลุ่มกับพวกพ้อง
- มีเหตุการณ์ปะทะกันในกลุ่ม เต๋าคิดว่าเซย์นะเป็นสปายของอัมเบรล่า เลยพุ่งตรงมาทำร้าย (พร้อมกับถีบโนบิตะกระเด็นออก) แต่ไจแอนท์เข้ามาขวางและชกเต๋ากระเด็น ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย ไดมง หัวหน้า BSAA จึงเข้ามาแยกวง เต๋าจึงเอาความแค้นทั้งหมดไปลงกับเลขาสาวแว่นซู ก่อนที่เจ้าตัวจะขอแยกตัวไปห้องน้ำ
- พวก BSAA ยังเปิดระบบไม่สมบูรณ์ เลยต้องพึ่งโนบิตะกับอิลิน่าในการเปิดคัตเอาท์ที่ชั้นใต้ดิน โดยที่ชั้นใต้ดินนั้นมืดมาก และอิลิน่าก็ได้มอบไฟฉายให้กับโนบิตะ ไปเปิดสวิตช์อีกฝั่ง
- ภายในความมืดนั้น โนบิตะได้เผชิญหน้ากับมิสเตอรี่ที่มาพร้อมกับดาบยักษ์ เขาต้องหนีเอาชีวิตเกือบไม่รอด จนในที่สุดก็กลับมารวมกับอิลิน่าอีกครั้งที่ลานจอดรถใต้ดิน และตอนนั้นเองที่ฝูงซอมบี้กรูกันเข้ามาทางพวกโนบิตะ โนบิตะกับอิลิน่าเลยร่วมมือกันปราบพวกซอมบี้จนหมด (จะสังเกตได้ว่า อิลิน่าต่อสู้เก่งมาก ถ้าเธอโดนซอมบี้เล่นงานประชิดจะสามารถถีบพวกซอมบี้กระเด็นได้ หรือถ้าโดนล้อมเธอจะมีท่ากลิ้งหลบออกมาจากฝูงซอมบี้ได้ ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเธอมาก)
- หลังจากที่เปิดระบบสมบูรณ์ อิลิน่าขอแยกตัวจากโนบิตะไปเตรียมอุปกรณ์ที่อีกฝั่ง ส่วนโนบิตะก็ไปสำรวจอีกด้าน แล้ว เขาก็ได้มาอยู่ในห้องๆหนึ่งและต้องตกใจเมื่อพบว่า ห้องๆนี้เป็นห้องของหัวหน้าแผนกเต๋าที่มีเรื่องกับไจแอนท์ แล้วพบบันทึกในคอมพิวเตอร์ที่ว่า เต๋ามีส่วนรู้เห็นในการบุกจู่โจมเกาะครั้งนี้และคิดจะแย่งชิงต้นแบบไวรัส T-Veronica ที่อยู่บนเกาะนี้ไปด้วย
- และในตอนนั้นเองที่โนบิตะไม่รู้ตัวเลยว่า เต๋าได้ปรากฏตัวด้านหลังโนบิตะในระหว่างที่เขากำลังบันทึก ทำให้เขาตกใจมากจนถูกผลักไปอยู่บนตำแหน่งที่ซึ่งเต๋าได้กดปุ่มสวิตซ์บนโต๊ะทำให้ พื้นที่โนบิตะยืนอยู่แยกออกจนเขาร่วงตกลงไปในท่อระบายน้ำทิ้งขยะด้านล่าง
- ที่ท่อระบายน้ำใต้ดิน โนบิตะต้องเผชิญหน้ากับฝูง B.O.W. จำนวนมาก โดยเฉพาะ "แมงมุมพิษยักษ์" ที่มีเกือบทุกที่ ถ้าถูกกัดก็จะติดพิษและต้องรักษาด้วยสมุนไพรสีฟ้าอย่างเดียว
- โนบิตะเดินออกมาตามเส้นทางหลักของท่อระบายน้ำ จนถึงโถงกว้างที่มีทางระบายน้ำขนาดใหญ่และตอนนั้นเอง ที่เขาได้เผชิญหน้ากับ เจ้าหน้าที่ USS ของอัมเบรล่าที่เป็นตัวการในการบุกถล่มแกะนี้ 3 คน และยิ่งไปกว่านั้น...
- หัวหน้าเจ้าหน้าที่ USS ก็ถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง ... โนบิตะตกใจมากที่เขาได้เจอกับ "เดคิสุงิ" อีกครั้ง ทั้งๆที่เขาคิดว่าเดคิสุงิจะตายตั้งแต่โดนแมงมุมทำร้ายตกเหวในภาค Original แรกแล้ว
- เดคิสุงิบอกว่า เขาแค่ต้องการมาแย่งชิงตัวอย่างไวรัส T-Veronica (ที่เต๋าพูดถึง) และเก็บกวาดเกาะนี้แค่นั้น ซึ่งถ้าโนบิตะมาขวางก็ต้องจัดการเขาด้วย
- แต่ยังไม่ทันที่ลูกน้องของเดคิสุงิจะยิงโนบิตะ ก็มีอะไรบางอย่างขนาดใหญ่พุ่งเข้ามางับ ลูกน้องของเดคิสุงิทั้ง 2 คน... มันคือ "จระเข้ยักษ์" เจ้าถิ่นในท่อระบายน้ำ มันปรากฏตัวตรงกลางระหว่างเดคิสุงิและโนบิตะพอดี และที่ซวยกว่านั้นคือ มันตัดสินใจไล่ตามโนบิตะ ทำให้เดคิสุงิใช้จังหวะนั้นหนีไป.... โนบิตะจึงต้องต่อสู้กับจระเข้ยักษ์ตามลำพัง โดยการยิงท่อแก๊สที่อยู่บนเพดานจนระเบิดและฆ่าจระเข้ยักษ์ได้สำเร็จ....
- โนบิตะมุดออกมาทางท่อระบายอากาศอีกครั้ง และในที่สุดก็โผล่มายังกลางทางเดินที่ซึ่งพวกไจแอนท์และสมาชิกทุกคน (ยกเว้นเต๋า) ตั้งสิ่งกีดขวางสกัดพวกซอมบี้และเคลเบรอสอยู่
- ในตอนนั้นมีทางออกเพียง 2 ทางที่เหล่า BSAA กำลังปลดล็อกประตู... ชิรานุอิกำลังปลดล็อกระบบลิฟต์ทางเหนือ ส่วนปิแอร์กำลังถอดรหัสประตูฝั่งตะวันตก แถมไดมงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขา ในระหว่างนั้นก็เป็นหน้าที่ของโนบิตะกับไจแอนท์ที่จะต้องจับอาวุธและคอยสกัดพวกซอมบี้เอาไว้
- ในตอนนั้นมีทางออกเพียง 2 ทางที่เหล่า BSAA กำลังปลดล็อกประตู... ชิรานุอิกำลังปลดล็อกระบบลิฟต์ทางเหนือ ส่วนปิแอร์กำลังถอดรหัสประตูฝั่งตะวันตก แถมไดมงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขา ในระหว่างนั้นก็เป็นหน้าที่ของโนบิตะกับไจแอนท์ที่จะต้องจับอาวุธและคอยสกัดพวกซอมบี้เอาไว้
- ในที่สุดชิรานุอิ ก็ปลดล็อกลิฟต์ได้สำเร็จ ซูเนโอะที่อยากจะหนีออกไปจากที่นี่เต็มแก่ก็เลยยืนรอหน้าประตูลิฟต์พอดี แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่า ทันที่ลิฟต์เปิดประตู.... มิสเตอรี่พร้อมกับดาบมรณะเล่มโตก็เดินออกมาพร้อมกับเงื้อดาบค้างไว้พร้อมที่จะสับซูเนโอะเป็น 2 ท่อน ชิรานุอิที่อยู่ข้างๆจึงรีบเอาตัวผลักซูเนโอะกระเด็นจนตัวเองถูกมิสเตอรี่ผ่าออกเป็น 2 ซีก....
- ในช่วงนาทีความเป็นความตายนั้นเอง อิลิน่าก็ปรากฏตัวลงมาจากท่อระบายอากาศพร้อมกับกดสวิตซ์ระเบิดทำให้เพดานถล่มลงมาทับร่างของมิสเตอรี่ฝังไว้ด้านใต้แล้วก็ขอให้ทุกคนหนีออกไปตามทางที่ปิแอร์เปิดไว้ ซึ่งโผล่ออกมาตรงลานจอดเครื่องบินพอดี
- ทุกคนในที่แห่งนั้นรีบขึ้นเครื่องบินเตรียมพร้อมที่จะบินหนีออกไปจากเกาะแห่งนี้ (ปิแอร์เป็นคนขับ) และในตอนนั้นเอง บริเวณด้านหน้าเครื่องบิน ทุกคนก็เห็นว่า เต๋าที่ได้รับบาดเจ็บหนักกำลังเดินออกมาพร้อมกับหิ้วกล่องเอกสารบางอย่าง (ซึ่งคาดว่าเป็นเชื้อไวรัส) ทันทีที่เห็นหน้าเต๋า เลขาสาวแว่นซูก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งและรีบวิ่งออกจากเครื่องบินอย่างรวดเร็ว ทำให้โนบิตะต้องรับบทไปตามเธอกลับมา
- โนบิตะรีบวิ่งตามซูไปและพบว่า เธอใช้ปืนที่ซ่อนไว้กับตัวยิงประธานเต๋าจนร่างพรุนเละอย่างบ้าคลั่ง (ราวกับเก็บกดมานาน) พร้อมกับบอกว่า พร้อมกับหยิบกระเป๋าที่เต๋ายกมาไป เธอบอกว่าเธอจะเอาไปดูแลต่อเอง ซึ่งโนบิตะไม่เห็นด้วยและบอกกับซูว่าอย่าทำแบบนี้ ซึ่งตอนนี้เธอบ้าและสติแตกไปแล้ว เธอคิดที่จะยิงโนบิตะอีกคน
- และในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีอะไรบางอย่างขนาดใหญ่ร่วงลงมากระแทกพื้นที่อยู่ข้างซูจนทำให้เธอเสียหลักล้มลงจนทำให้ปืนและกระเป๋าในมือเธอตก...และเจ้าสิ่งนั้นก็ยืนขึ้น มันคือ มิสเตอรี่..เจ้าเดิมที่หลายคนคิดว่ามันโดนทับตายในซากเพดานนั่นไปแล้ว เพียงแต่คราวนี้มันเสียดาบยักษ์ไป แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
- ปัญหาคือ... มันใช้มือเปล่าของมันบีบคอของซูขึ้นพร้อมกับใช้มืออีกข้างกระชากเสื้อผ้าเธอจนหมด เพื่อที่จะใช้มือข้างเดิมจิกต้นคอพร้อมกับกระชากเนื้อหนังของเธอจนเนื้อและลำไส้ อวัยวะภายในขาดกระจายออกจากกันเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตาโนบิตะ [ฉากนี้เหมือนกับใน Silent Hill The Movie ตอนพีระมิดเฮดฆ่าแอนนาหน้าโบสถ์เป๊ะ] ก่อนที่จะทุ่มลงพื้นราวกับเศษขยะจนไปกระแทกกับกระเป๋าบรรจุเชื้อไวรัส ทำให้ไวรัสกระเด็นออกมาใส่มิสเตอรี...และนั่นเองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ประหลาดตนนั้นเกิดการวิวัฒนาการอีกขั้น จนมีมือที่มีกรงเล็บขนาดใหญ่งอกออกมาทั้ง 2 ด้าน และเป้าหมายในการฆ่าของมันก็คือ โนบิตะ
- โนบิตะต้องสู้กับมิสเตอรี่ในร่างปีศาจไทแรนท์ขั้น 2 ที่มีกรงเล็บงอกออกมา แถมยังปล่อยหมอกพิษออกมาจากร่างกายได้ (ถ้าโดนพิษ การเคลื่อนไหวจะช้าลง) อย่างยากลำบาก จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
- โชคดีการต่อสู้ครั้งนั้นเกิดขึ้นหน้าเครื่องบินทำให้ ปิแอร์สามารถใช้ปืนกลของเครื่องบินช่วยปิดฉากมิสเตอรี โดยการยิงมันจนร่างพรุนลงไปกองกับพื้นสำเร็จ ส่วนโนบิตะก็ได้รีบวิ่งกลับมายังเครื่องบินเพื่อเตรียมการหนีออกจากเกาะ....
- หลังจากที่เครื่องบินออกจากเกาะได้ไม่นานนัก ความบรรลัยก็บังเกิดเมื่อพวกโนบิตะพบว่า มิสเตอรี่ที่คิดว่าน่าจะตายแล้ว ดันกระโดดใช้กรงเล็บเกาะเครืองบินตามขึ้นมาด้วย
- มิสเตอรี่ พังประตูห้องเครื่องมุ่งหน้าไปยังบริเวณห้องโดยสารที่พวกโนบิตะอยู่ อิลิน่าที่อยู่ใกล้ที่จึงชักปืนยิงใส่ แต่ไม่ทันการ เธอถูกมิสเตอรี่ตบด้วยหลังมือจนกระเด็นติดข้างฝาพนัง และก่อนที่มันจะทำร้ายพวกโนบิตะ หัวหน้าไดมงตัดสินใจพุ่งออกมาพร้อมกับชักปืนลูกซองยิงอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าจะถูกมันทำร้ายกลับ แต่หัวหน้าไดมงไม่สัน เขายังเดินหน้ายิงมันต่อไปเรื่อยๆจนกระสุนหมด เขาจึงใช้ตัวเองพุ่งกระแทกตัวไทแรนท์จนมันกระเด็นเกือบตกเครื่องโดยที่ยังมีกรงเล็บของมันเกาะคาเครื่องบินไว้เพื่อพยายามปีนกลับขึ้นไปอีก ตอนนั้นเองที่ไจแอนท์ออกมาอยู่บริเวณหน้าประตู และหัวหน้าไดมงตระโกนเสียงดังว่า ให้รีบจัดการมันซะ ไม่อย่างงั้นทุกคนจะตายกันหมด เขาเตรียมใจที่จะเสียสละตัวเองไว้แล้ว
- ไจแอนท์ลังเลอยู่พักนึง แต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาจึงชักปืนแม็กนั่มยิงใส่มิสเตอรี่จนกระเด็นตกจากเครื่องบินไปพร้อมกับหัวหน้าไดมง ที่ตัดสินใจพลีชีพซ้ำด้วยการ ปลดระเบิดมือที่ตัวเองมีอยู่ทั้งหมดขณะที่เกาะอยู่บนตัวมิสเตอรี่ ผลก็คือ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงกลางอากาศทำให้ร่างของมิสเตอรี่กระจายออกเป็นชิ้นๆตายแบบถาวร...
- ปิแอร์ยังคงขับเครื่องบินต่อไปและก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าจู่ๆระบบเส้นทางการบินเกิดการเปลี่ยนแปลงจนควบคุมไม่ได้ และบินไปสถานที่แห่งหนึ่ง เจ้าตัวจึงพยายามที่จะแก้ระบบ แต่แล้วก็ต้องหยุด เมื่อ อิลิน่าตะโกนขึ้นมา... เธอทำสิ่งที่ไม่คาดฝันคือ นั่นคือการ จับเซย์นะเป็นตัวประกัน
- เธอบอกให้ทุกคนทำตามคำสั่งเธอ นั่นคือการให้เครื่องบินบินไปทางที่เป้าหมายมันกำหนดใหม่ เธอเปิดเผยตัวเองว่า ตัวเองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ BSAA แต่เป็น USS ที่ทำงานให้อัมเบรล่า (ซึ่งเป็นสิ่งที่เต๋าสงสัยในตอนต้นว่ามีสปายแอบแฝงเข้ามาแล้วไปโทษเซย์นะ ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือ อิลิน่าต่างหาก) จากนั้นก็เกิดการต่อสู้กันบนเครื่องบินเล็กน้อย เซย์นะถูกอิลิน่าทุบท้ายทอยจนสลบ ไจแอนท์จึงพุ่งเข้าชาร์จเพื่อชกอิลิน่าแต่เธอก็กระโดดหลบไปข้างหลังพร้อมฟาดเท้าเตะเข้าไปที่สันคอไจแอนท์สลบอีกคน ซูเนโอะได้แต่ยืนขาอ่อนไม่กล้าสู้ เหลือแต่โนบิตะที่พยายามตะโกนห้ามอิลิน่าแต่ไม่เป็นผล เธอพุ่งเข้าประชิดตัวโนบิตะอย่างรวดเร็วและซัดเขาจนสลบไปอีกคน...และแล้วเครื่องบินก็บินมายังสถานที่แห่งใหม่...
- โนบิตะตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องแห่งหนึ่ง... เขายังไม่รู้ว่าที่แห่งนี้เป็นที่ไหน รู้แต่เป็นเพียงสถานที่ที่เครื่องบินนั้นพามาส่ง และไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยแน่ๆ ถึุงแม้ว่าประตูจะไม่ได้ล็อกแบบในคุกตอนแรก
- โนบิตะเริ่มออกสำรวจบริเวณทางเดินด้านนอก..เขาพบว่าสถานที่แห่งนี้มันเหมือนคฤหาสน์บางอย่าง และในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกได้ว่า มีอะไรบางอย่างพึ่งจะถูกปล่อยออกมาเดินเพ่นพ่านหลังจากเขาตื่น มันคือ "ฮันเตอร์"...
- โนบิตะสามารถเอาชีวิตรอดจากฝูงฮันเตอร์ได้โดยไม่รู้เลยว่า เขาถูกกลุ่มคนแห่งหนึ่งจับตาดูอยู่ แล้วฉากจะตัดมาทางกลุ่มคนที่กำลังจับตาดูโนบิตะ ที่กำลังกรีดร้องอย่างโหยหวนหลังจากถูกใครบางคนเล่นงาน จนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
- เสียงสัญญาณเตือนภัยดังไปทั่วคฤหาสน์ โนบิตะรีบหนีออกมาตามช่องระบายอากาศแล้วพอลงมาเขาก็พบพวกไจแอนท์+ซูเนโอะ+เซย์นะอีกครั้ง ซึ่งกำลังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่สวมชุดดำอยู่ และเป็นโชคดีที่จังหวะนั้นมีฝูงฮันเตอร์พุ่งตรงเข้ามาเล่นงานพวกเจ้าหน้าที่จึงเปิดโอกาสให้พวกโนบิตะหลบหนี และระหว่างทางเดิน โนบิตะก็เห็นสิ่งปลูกสร้างภายนอกจากทางหน้าต่าง มันช่างคุ้นเคยในความทรงจำของเขามาก ราวกับว่าเขาเคยเจอเจ้าสิ่งนี้ที่ไหนมาก่อน
- พวกโนบิตะพบว่าที่แห่งนี้คงเป็นสถาบันวิจัยลับอีกแห่งของอัมเบรล่าที่ซ่อนอยู่ในที่ไหนสักแห่งบนโลก พวกเขาพบว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ถูกเหล่า B.O.W. ฆ่าตายเกือบหมด
- โนบิตะเดินสำรวจไปเรื่อยๆก็พบข้อมูลและโครงการการทดลองต่างๆมากมาย โดยเฉพาะข้อมูลจากโฮโลแกรมโอเปอเรเตอร์จากเด็กผู้หญิง (ล้อเลียน RE ภาคหนังในภาคแรก)
- โนบิตะเดินสำรวจไปเรื่อยๆก็พบข้อมูลและโครงการการทดลองต่างๆมากมาย โดยเฉพาะข้อมูลจากโฮโลแกรมโอเปอเรเตอร์จากเด็กผู้หญิง (ล้อเลียน RE ภาคหนังในภาคแรก)
- แต่แล้วโนบิตะก็ได้เผชิญหน้ากับเดคิสุงิอีกครั้งบนสะพานราวเหล็กยักษ์และพบว่าสาเหตุที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เกิดความวุ่นวายก็เพราะเดคิสุงิมีส่วนในการทำลายที่นี่ โนบิตะพยายามเกลี้ยกล่อมขอร้องให้เดคิสุงิ เขามาเป็นพวก แต่ไม่มีผล เดคิสุงิบอกว่าตอนนี้เขาถอยกลับไม่ได้แล้ว และต้องการให้ไวรัสตัวสุดท้ายสมบูรณ์ที่สุดเพื่อช่วยใครบางคน ซึ่งต่อให้เป็นโนบิตะ เขาก็จะไม่เว้น และในเมื่อเจรจาไม่ได้ผล เดคิสุงิจึงใช้ไวรัสบางอย่างฉีดเข้าที่ตัวเองพร้อมกับทิ้งตัวลงเหว และทันใดนั้นร่างสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นโดยมีเดคิสุงิอยู่ตรงกลาง โนบิตะจึงตัดสินใจต่อสู้กับเดคิสุงิในร่างสัตว์ประหลาดยักษ์ (เรียกได้ว่าเป็นบอสที่เก่งที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้)
- หลังจากเอาชนะเดคิสุงิได้ เดคิสุงิก็ฝากความหวังไว้ที่โนบิตะว่าจะแก้ไชสิ่งที่ตนทำทั้งหมดได้ แล้วยังบอกด้วยว่าชิสุกะที่น่าจะตายตั้งแต่ภาคแรกยังไม่ตาย และเขาต้องการช่วยเธอเลยเข้าร่วมแผนการครั้งนี้ แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิดหมด โนบิตะนั่นแหละที่เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด... จากนั้นเดคิสุงิก็ตาย...
- โนบิตะบุกตะลุยเข้าไปยังด้านในต่อ และในที่สุดก็ได้พบกับคนที่โนบิตะคาดไม่ถึงอีกคน...และเป็นคนที่มีค่าในความทรงจำกับโนบิตะมากที่สุด นั่นคือ โดราเอม่อน... โดราเอม่อนบอกว่าให้โนบิตะหยุดแค่นี้ดีกว่าไม่อย่างงั้นเขาจะใช้กำลังทั้งหมดทุ่มจัดการ แต่โนบิตะไม่ยอมแต่ก็ไม่อยากทำร้ายโดราเอม่อนด้วย เพราะเขาทนฆ่าเพื่อนของเขาไปอีกคนไม่ได้แล้ว จากนั้นโดราเอม่อนจึงเริ่มโจมตีโนบิตะ (ภายในเกม โนบิตะจะไม่สามารถทำร้ายโดราเอม่อนได้แต่จะเป็นการยื้อโดราเอม่อนให้ได้สติ ซึ่งต้องทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอคัตซีน) จนในที่สุดโนบิตะก็เริ่มสะบักสะบอมไปทั้งตัวและโดราเอม่อนกำลังจะใช้ปืนอัดอากาศปิดฉากโนบิตะ ซึ่งโนบิตะก็ยอมให้ยิงแต่โดยดี และในตอนนั้นเองก็เกิดประกายไฟฟ้าความทรงจำบางอย่างเกิดขึ้นในตัวโดราเอม่อน เขาชะงักไปสักครู่พร้อมกับมีความทรงจำเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเขากับโนบิตะไหลเข้ามามากมาย ทำให้โดราเอม่อนรู้สึกสับสนจนต้องหนีไป....
- โนบิตะบุกตะลุยเข้าไปยังด้านในต่อ และในที่สุดก็ได้พบกับคนที่โนบิตะคาดไม่ถึงอีกคน...และเป็นคนที่มีค่าในความทรงจำกับโนบิตะมากที่สุด นั่นคือ โดราเอม่อน... โดราเอม่อนบอกว่าให้โนบิตะหยุดแค่นี้ดีกว่าไม่อย่างงั้นเขาจะใช้กำลังทั้งหมดทุ่มจัดการ แต่โนบิตะไม่ยอมแต่ก็ไม่อยากทำร้ายโดราเอม่อนด้วย เพราะเขาทนฆ่าเพื่อนของเขาไปอีกคนไม่ได้แล้ว จากนั้นโดราเอม่อนจึงเริ่มโจมตีโนบิตะ (ภายในเกม โนบิตะจะไม่สามารถทำร้ายโดราเอม่อนได้แต่จะเป็นการยื้อโดราเอม่อนให้ได้สติ ซึ่งต้องทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอคัตซีน) จนในที่สุดโนบิตะก็เริ่มสะบักสะบอมไปทั้งตัวและโดราเอม่อนกำลังจะใช้ปืนอัดอากาศปิดฉากโนบิตะ ซึ่งโนบิตะก็ยอมให้ยิงแต่โดยดี และในตอนนั้นเองก็เกิดประกายไฟฟ้าความทรงจำบางอย่างเกิดขึ้นในตัวโดราเอม่อน เขาชะงักไปสักครู่พร้อมกับมีความทรงจำเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเขากับโนบิตะไหลเข้ามามากมาย ทำให้โดราเอม่อนรู้สึกสับสนจนต้องหนีไป....
- หลังจากโดราเอม่อนหนีไปได้ไม่นาน ก็มีชายลึกลับปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบ่นว่าเจ้าแรคคูนสีฟ้านั่นมันไม่ได้เรื่องเลย ทันทีที่เห็นหน้า โนบิตะถึงกับตกใจมากและจำได้ดีเพราะคนๆนั้นคือหนึ่งในอาชญากรที่โนบิตะกับโดราเอม่อนเคยร่วมมือกันปราบ เขาคือ "คัตชู" นักวิจัยอาวุธชีวภาพสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ บอสใหญ่ประจำโดราเอม่อนเดอะมูฟวี่ภาคเกาะมหาสมบัติ
- จากนั้นคัตชูก็เล่าให้ฟัง หลังจากที่ตนถูกตำรวจกาลเวลาจำคุก ก็ได้แหกคุกและทำลายไทม์แมชชีนพร้อมโรงงานผลิตที่โลกอนาคตหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจกาลเวลาตามมาจับตัวได้ พร้อมกับใช้ไทม์แมชชีนที่เหลืออยู่ลำเดียวหนีมากบดานในอดีต
- เขาใช้ความสามารถส่วนตนร่วมกันทำวิจัยใหม่โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทอัมเบรล่า(และเวสเกอร์) ในการสร้างอาวุธชีวภาพ และไวรัสสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาแบบที่เคยทำที่เกาะสมบัติในภาคมูฟวี่ แต่สิ่งที่ปรารถนาที่สุดคือการใช้ไวรัสที่ทำตนเองกลายเป็นอมตะ.. (แถมยังจัดการให้โดราเอม่อน เดคิสุงิ และชิซูกะกลายเป็นพวกเดียวกันด้วย)
- หลังจากเล่าจบ โนบิตะก็พอมีความหวังตรงที่รู้ว่า ถ้าหากสิ่งที่คัตชูเล่าเป็นความจริง ก็แปลว่า ในตอนนี้ยังมีไทม์แมชชีนที่เขานั่งมาอยู่ภายในที่ใดที่หนึ่งบนสถาบันวิจัยแห่งนี้ แต่เจ้าตัวคงไม่ยอมง่ายๆ ดังนั้น โนบิตะจึงเตรียมที่จะสู้กับคัตชู แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร..
- อิลิน่าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกราดยิงกระสุนปืนใส่คัตชูอย่างรวดเร็วจนคัตชูล้มลงไป โนบิตะประหลาดใจกับการปรากฏตัวของอิลิน่าอีกครั้ง อิลิน่าเธอเปิดเผยว่า แท้จริงเธอเป็นสปายของตำรวจกาลเวลาจากอนาคตที่แกล้งมาทำงานให้กับอัมเบรล่าอีกที เพื่อตามจัดการอาชญากรข้ามเวลาให้เด็ดขาดนั่นเอง (เรียกได้ว่าหักหลังกันอีกทีนึง) อิลิน่าจึงเตรียมการจับกุมคัตชูอีกครั้ง
- แต่ทว่า!! คัตชูก็ฟื้นขึ้นพร้อมกับแขนสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ (แบบ G) ที่ตัดลำตัวซีกซ้ายของอิลิน่าจนเลือดสาดขาดกระจาย พร้อมกับบ่นอย่างรำคาญใจว่าแปลกใจมากว่าทำไมถึงมีตำรวจกาลเวลาหลุดมาที่นี่ได้ทั้งๆที่ตนก็ทำลายไทม์แมชชีนไปแล้ว แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ เป้าหมายของคัตชูจึงเบนไปที่โนบิตะ และโนบิตะต้องใช้อาวุธที่มีอยู่ในการจัดการคัตชูที่ฉีด G-Virus ไปในร่างกาย
- โนบิตะต่อสู้กับคัตชูพักใหญ่และพบว่า คัตชูนั้นวิวัฒนาการตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยพลังของ G-Virus จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งและมีพลังน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด โนบิตะก็เริ่มอ่อนแรง... และในตอนนั้นเอง อิลิน่าที่น่าจะตายไปแล้วเพราะร่างกายซีกซ้ายโดนตัดก็ลุกขึ้นมาโจมตีขัดขวางคัตชูได้อีก โนบิตะและคัตชูตกใจมาก เพราะซีกซ้ายที่โดนตัดขาดของอิลิน่าเผยให้เห็นโครงเหล็กที่อยู่ภายใน ทำให้คัตชูรู้ทันทีว่าสาเหตุที่ทำให้อิลิน่าข้ามเวลามาได้โดยไม่ต้องพึ่งไทม์แมชชีนที่จะช่วยมนุษย์ข้ามไทม์แมชชีนแบบปลอดภัยก็เพราะเป็นหุ่นยนตร์ข้ามเวลานั่นเอง
- อิลิน่าบอกให้โนบิตะรีบหนีไป และตอนนั้นเอง ปิแอร์ที่หายตัวไปนานก็ได้ปรากฏตัวขึ้นบอกว่า เขาเตรียมทางหนีและจัดการเรื่องไทม์แมชชีนเรียบร้อยแล้ว... ให้โนบิตะรีบไปแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด ทั้งในอดีตและอนาคตซะ โนบิตะจึงทำตามที่ปิแอร์บอก และหลังจากที่โนบิตะเดินออกจากห้องไปแล้ว ปิแอร์ก็ปิดประตูลงพร้อมกับบอกว่า เขาจะขออยู่ต้านคัตชูพร้อมกับอิลิน่าที่นี่ดีกว่า เพราะยังไง เธอคงจะเอาเจ้านั่นในสภาพนี้ไม่อยู่แน่ๆ และมั่นใจว่าพวกโนบิตะจะต้องแก้ไขความผิดพลาดของกาลเวลานั้นได้แน่นอน..ดังนั้นถึงตนจะตายตรงนี้ก็ไม่เป็นไร...
โนบิตะจึงรีบวิ่งไปโดยทิ้งทั้งสองคนอยู่ด้านหลัง ... ตามมาด้วยเสียงระเบิดอันดังก้อง....ของการพลีชีพของทั้งสองคน
โนบิตะจึงรีบวิ่งไปโดยทิ้งทั้งสองคนอยู่ด้านหลัง ... ตามมาด้วยเสียงระเบิดอันดังก้อง....ของการพลีชีพของทั้งสองคน
- ระหว่างทางที่โนบิตะกำลังวิ่งออกมาเขาก็เดินผ่านห้องทดลองห้องหนึ่งและก็ต้องตกใจ เมื่อด้านในสุดของห้องนั้น มีแคปซูลที่กำลังรักษาร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่เขารู้จักดี... นั่นคือ ชิสุกะ...
ซึ่งผลของการที่เขาขัดขวางเดคิสุงิและทำลายแผนการครองโลกของคัตชู ทำให้ไวรัสที่ใช้รักษาชิซูกะไม่สมบูรณ์ ทำให้เขาไม่สามารถช่วยเธอได้ แต่อย่างน้อย เขาก็ได้ยินเสียงของเธอครั้งสุดท้ายก่อนที่จะตายพร้อมกับฝากความหวังในการแก้อนาคตทั้งหมดไว้ที่เขา
- ซูเนโอะติดต่อผ่านลำโพงมาบอกกับโนบิตะว่า ตอนนี้ไทม์แมชชีนที่ปิแอร์เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และทุกคนก็ขึ้นมาครบแล้วด้วย เหลือแต่โนบิตะเพียงคนเดียวเท่านั้น โนบิตะจึงรีบมุ่งหน้าไปยังลานจอดไทม์แมชชีน แต่ระหว่างทางก็โดนขัดขวางโดยคัตชูที่ยังไม่ตายจากการพลีชีพของทั้ง 2 คนนั้น ซึ่งกลายร่างเป็น G : ที่มีร่างพัฒนาเป็นสัตว์สี่เท้าดักอยู่หน้าลิฟต์ขนาดใหญ่ โนบิตะจึงใช้อาวุธที่ตนมีอยู่ทั้งหมดประเคนใส่สัตว์ประหลาดตัวนั้น จนมันบาดเจ็บหนักและล้มลงไป...
- โนบิตะรีบหนีขึ้นลิฟต์ไปยังลานจจอดไทม์แมชชีนที่ซูเนโอะรออยู่ พร้อมกับออกเดินทางข้ามเวลาทันที
- ไทม์แมชชีนรูปทรงพาหนะขนาดใหญ่คล้ายกับขบวนรถไฟ เคลื่อนที่ไปตามห้วงกระแสเวลา โดยมีโนบิตะ ซูเนโอะ ไจแอนท์และเซย์นะนั่งอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะถึงเป้าหมาย ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างแรงบนไทม์แมชชีน และมีระยางค์แปลกๆพุ่งเข้าโจมตีจากผนังทิศทาง และหนึ่งในระยางค์นั้นก็ดึงโนบิตะไปยังส่วนท้ายของเครื่อง และบริเวณท้ายขบวนโนบิตะก็เผชิญหน้ากับคัตชูในร่าง G ขั้นสุดยอดซึ่งกลายเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เต็มขบวน นี่คงเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว!!
- โนบิตะสาดกระสุนประเคนอาวุธทั้งหมดที่มีอยู่โจมตีใส่ G ร่างสุดท้าย แต่มันกลับไม่เป็นอะไรเลย หนำซ้ำโนบิตัยังถูกมันโจมตีทีเผลอจนทำให้เขาหมดแรงและกำลังเสียท่า และในตอนนั้นเอง โดราเอม่อนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเอาตัวเองบังการโจมตีจากคมเขี้ยวของ G เพื่อปกป้องโนบิตะ จนพัง
- โนบิตะฮึดพลังเฮือกสุดท้าย คว้าปืนใหญ่อัดอากาศของโดราเอม่อนมาใส่มือตัวเองพร้อมกับระดมยิงใส่ G ร่างสุดท้ายอย่างบ้าคลั้ง และหนักหน่วงจนขบวนไทม์แมชชีจถึงกับขาดแยกออกและทิ้งส่วนท้ายของขบวนลงไปในห้วงกาลเวลาที่ดำมืดจนสูญสลายไปพร้อมกับ G
- แก้ไขอดีต ทำลายต้นตอองค์กรก่อนที่จะเกิด และจับขังคัตชูไม่ให้แหกคุก จบ
- เหมือนจะจบและมีความทรงจำเหลืออยู่ คือตอนที่โดราเอม่อนบอกว่า ในโลกอนาคตมีเกมส์เวอร์ชวลแนวสยองขวัญออกใหม่และเป็นที่นิยมมาให้ลองเล่นกันนั่นคือเกมส์ โนบิฮา...
หลายคน - "ไม่อ๊าวววววววววววววววววว!!!!!!"
Nobihaza Original 2 Ending
^ ^
ตอบลบ