" />

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Sword Series : Sword 1 [ตอนที่ 1]

ห่างหายกันมานาน มาเขียนเนื้อเรื่องภาคซอร์ดกันต่อเลยดีกว่า ซึ่งตรงนี้จะเริ่มเข้าเนื้อเรื่องหลักๆของการผจญภัยสักที ซึ่งแน่นอน กรุณาย้อนกลับไปอ่านตอนที่แล้วก่อน
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Sword Series : Sword 1 [ปฐมบท]

ก็มาเริ่มดูเนื้อเรื่องภาคนี้กันเลยดีกว่า

=======================================================================


ความเดิมตอนที่แล้ว....

โนบิตะได้บุกเข้ามาช่วยตำรวจได้ทันเวลาก่อนที่จะถูกฮันเตอร์ฆ่า 



แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อรถยนต์ที่อยู่ใกล้ๆเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
จนทำให้โนบิตะสลบไป...



"โน........ตะ..........คุง"


ใครบางคนกำลังเรียกชื่อเด็กหนุ่มชื่อของเด็กหนุ่ม...


"โน....บิ...........................ตะ.......คุง"



โนบิตะพยายามลืมตาขึ้นมา


และเขาก็พบว่าในตอนนี้...เขาถูกพาตัวมายังห้องสี่เหลี่ยมหนึ่ง 
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ
เขาพบว่า..มีเพื่อนๆของเขากำลังเฝ้ามองดูอยู่ด้วยความเป็นห่วง


"โนบิตะคุง... ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!!"



"โดราเอม่อน!!! "

โนบิตะรีบลุกขึ้นมาด้วยความดีใจที่เห็นโดราเอม่อน เพื่อนที่สนิทที่สุดของเขา
ถึงกับโดเข้าไปกอดเลยทีเดียว

"ดีใจจริงๆที่นายปลอดภัย"

"อื้อ...ฉันก็ดีใจที่ได้เจอนายอีกครั้ง"

หลังจากที่ทั้งคู่ทักทายกันมาพอสมควรแล้ว...

"จะว่าไปแล้ว ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?"


คนที่ตอบคำถามโนบิตะนั้นคือ สาวน้อยผมดำที่คาดผมสีเหลืองที่อยู่ด้านหลัง.... ชื่อของเธอคือ มิโดริคาว่า เซย์นะ...

"ที่นี่คืออาคารลี้ภัย (เชลเตอร์ = Shelter ) ประจำเมืองน่ะ"

นอกจากนี้เธอยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ตึกนี้ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ต่างๆในเมืองที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเลิศ ซึ่งเป็นที่ที่ตำรวจจะพาผู้อพยพทที่ยังมีชีวิตรอดทุกคนมาไว้ที่นี่
พวกเธอเองก็เกาะกลุ่มผู้อพยพนี้มาเช่นกัน


คราวนี้ก็มีชายหนุ่มร่างยักษ์ชุดสีส้มเดินเข้ามาหาโนบิตะด้วยท่าทางโมโห... ชื่อของเขาคือโกดะ ทาเคชิ หรือที่รู้จักในชื่อ... ไจแอนท์

"ให้ตายสิ....อย่าทำให้เป็นห่วงจะได้ไหมฟะ"

นอกจากนี้โนบิตะยังถูกไจแอนท์ต่อว่าอีกว่า ไม่ยอมติดต่อกลับมาที่กลุ่มบ้างเลย
แถมยังไม่ยอมเอาอาวุธปืนไปอีก...ถ้าเกิดอันตรายขึ้นมามันจะรับมือไม่ทันนะ...


อา.... เข้าใจแล้ว ขอโทษนะ


และในตอนนั้นเอง สายตาของโนบิตะก็หยุดลงที่ตำรวจนายหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง บุรุษในชุดทหารสีเขียวภายในห้อง และโนบิตะก็จำได้ว่า นายตำรวจคนนั้นคือคนที่โนบิตะพุ่งเข้าไปช่วยเหลือให้รอดพ้นจากเฝื้อมมือของฮันเตอร์และอยู่ด้วยกันตอนที่เกิดการระเบิดนั่นเอง

"คุณน้าตำรวจ!!!"

นายตำรวจคนนั้นก็หันมาทักทายโนบิตะพร้อมกับบอกว่าตัวเองสบายดี
นอกจากนี้ เขายังพูดเพิ่มเติมด้วยว่า... หลังจากที่เขากับโนบิตะสลบไปเพราะแรงระเบิดแล้ว
พวกเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในชุดสีเขียวทั้งสองคนนี้ไว้




===============================================================

ย้อนกลับไปในเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น

ภายในเมืองที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดและฝูงซอมบี้

เสียงอาวุธสงครามดังขึ้นออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งเป็นอาวุธที่อยู่ในมือของชายในชุดสีเขียวคนหนึ่ง

เขากราดปืนยิงพวกสัตว์ประหลาดจนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
พร้อมกับบรรจุกระสุนชึดต่อไป

"หึ...เจ้าพวกนี้ก็ไม่เท่าไหร่หรอกน่า..."



เขาพูดอย่างดีใจขณะที่มองผลงานของตัวเองเบื้องหน้า แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง

"เฮ้ย!! อย่าประมาทดีกว่า...
แล้วก็ใช้กระสุนประหยัดหน่อยสิฟะ"

เสียงนั้นดังมาจากชายในชุดเขียวอีกคนซึ่งเป็นคู่หูของเขา


"เฮอะ... ไม่ต้องไปสนเรื่องหยุมหยิมแบบนั้นเลย...
อันที่จริงแล้วนายเองก็ท่าทางจะสนุกไม่น้อยกว่าฉันนักหรอก..."


"เงียบน่า...."


ด้วยฝีมือการต่อสู้ด้วยอาวุธปืนของชายทั้งสอง ทำให้พวกเขาทั้งสองสามารถจัดการพวกซอมบี้และสัตว์ประหลาดที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างง่ายดาย และในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงจุดที่มีไฟลุกท่วมเต็มไปหมด...

ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า... ไฟตอนนี้ก็ยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ ยังพอเดินฝ่าไปได้.... ดีไม่ดี อาจจะเจอคนที่ยังติดอยู่ด้านในก็ได้นะ



เพื่อนคู่หูก็บอกว่า ให้ตายสิ...ถ้าจะต้องมาคอยช่วยคนไปด้วย สู้กับสัตว์ประหลาดไปด้วย มันลำบากชะมัดเลย... แต่ทำไงได้ มันเป็นหน้าที่ที่พวกเขาได้รับมอบหมายมานี่นา...


เพื่อนอีกคนก็หัวเราะกลบเกลื่อน พร้อมกับบอกว่า ถ้ากลัวนักจะรออยู่ตรงนี้ก็ได้นะ


ว่าแล้ว ชายในชุดเขียวคนหนึ่งก็เดินนำเข้าไปในกองไฟ


ในตอนนี้เราสามารถบังคับชายในชุดเขียวอีกคนให้เดินตามไปได้ ซึ่งแน่นอน มีเหรอ ที่พวกเขาจะกลัว...



และในตอนนั้นเอง ชายในชุดเขียวก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากด้านใน...

"เฮ้ย!! อะไรฟระ!?"


เขาจึงรีบเดินเข้าไปยังจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ก็พบว่าเพื่อนของเขากำลังยืนอยู่แถวนั้น

"นี่มัน....."


และตอนนั้นเอง... พวกเขาทั้งสองก็สังเกตเห็น โนบิตะและตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ด้านหลังรถที่กำลังไฟลุกท่วมเข้าพอดี....  พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทั้งคู่ออกมาได้ทันเวลา



=====================================================

ตัดกลับมายังปัจจุบันอีกครั้ง

เด็กหนุ่มอัจฉริยะประจำกลุ่มของโนบิตะก็พูดขึ้นมาว่า...

"ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้นะครับ
เอ่อ....พวกคุณ....."


นายทหารที่สวมหมวกเกราะเดินเข้ามาด้านหน้าพร้อมกับแนะนำตัวเองว่า..."ฉันชื่อ บลัด [Blood]"


จากนั้นนายทหารสวมหมวกผ้าอีกคนก็เดินก้าวเข้ามาด้านหน้า "ส่วนฉันชื่อ วอลซ์ [Waltz]"


ทั้งคู่แนะนำเพียงแค่ว่า...เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่ถูกส่งมาช่วยเหลือชาวเมืองแห่งนี้เท่านั้น...และต่อจากนี้พวกเขายังมีภารกิจบางอย่างที่ต้องสะสางอีก....

จากนั้นคนที่เ้ป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าให้ทุกคนดูแลกันเองไปก่อน ส่วนเขามีภาระนิดหน่อยที่ต้องจัดการ


จากนั้นตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดเขียวทั้งสองก็เดินออกไปจากห้อง......


แต่ก่อนหน้านั้น.....ชายที่ชื่อบลัดก็หันกลับมามองด้านหลัง...


"อ่า... เซย์นะจังใช่ไหม?
คราวหลังไปกินข้าวด้วยกันกับน้า...."


ยังไม่ทันที่บลัดพูดจบ มือลึกลับของวอลซ์เพื่อนคู่หูก็ทำการล็อกคอและลากออกไปหลังประตูราวกับหนังสยองขวัญ ก็ไม่ปาน ตามมาด้วยเสียงโหยหวนของบลัดที่ดังขึ้นมาว่า....

"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!"


ทุกคนที่อยู่ในห้องถึงกับ........  โดยเฉพาะเจ้าตัวคนที่ถูกพูดถึง..........

...........................................




ในตอนนั้นเอง ไจแอนท์ก็พูดตัดบทขึ้นมาว่า.....



"อา...ใช่ๆ ตอนนี้ฉันได้รับการติดต่อจากทางซูเนโอะมาน่ะ
พวกเราหลายคนไม่ว่าจะเป็นชิสุกะ ยาสุโอะ หรือเคนจิ ต่างก็อยู่นอกเมืองปลอดภัยดี"


ทีนี้ก็เหลือแต่พวกเรา...ที่ติดอยู่ในเมืองนี้เท่านั้น ซึ่งถ้าเราหนีออกไปสมทบกับพวกนั้นได้ก็เรียบร้อย


เมื่อได้ยินข่าวนั้น ทุกคนก็ดีใจกันยกใหญ่...

"ดีจริงๆที่ได้ข่าวว่าทุกคนปลอดภัยดี"


"งั้นฉันขอตัวไปหาข้าวกลางวันกินก่อนนะ
ชักหิวซะแล้วสิ ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย"


"ถ้างั้นฉันเองก็ขอตัวก่อนนะ"


"อื้อ... แล้วทางด้านพวกนายล่ะ
โนบิตะคุง? เดคิสุงิคุง?"


...........

"ทางฉันยังไงก็ได้..."


"ฉันก็เหมือนกัน.."


"งั้นตามใจพวกนายละกัน
ฉันขอตัวก่อนนะ"


หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไปหมดแล้ว..... โนบิตะเองก็อยากจะออกไปจากห้องด้วย แต่ก่อนหน้านั้นเดคิสุงิก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับพูดออกมาว่า...

"นี่โนบิตะคุง..... หลังจากที่พวกเราจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว
ช่วยไปเจอที่ห้องฟากตะวันออกของตึกนี้ได้ไหม...
ฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับทุกคนสักหน่อยน่ะ..."


"เรื่องอะไรเหรอ?"


"ก็...นิดหน่อยน่ะ..
เอาเป็นว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะเล่าให้ฟังละกัน"


จากนั้นเดคิสุงิก็ออกจากห้องไป ปล่อยให้โนบิตะยังคงยืนสงสัยอยู่ว่า..

(มีเรื่องอะไรนะ... รู้สึกใจคอไม่ดีเลยแฮะ...)


จากนั้น โนบิตะจะเดินออกมาจากห้องมายังห้องโถง ซึ่งก็พบกับผู้คนมากมายที่ลี้ภัยมายังตึกแห่งนี้จำนวนมาก


(มีจุดเซฟอยู่ข้างห้องด้วยนะ)


โนบิตะเดินไปดูรอบด้านก็พบว่า บริเวณทางเข้าออกหลายจุดมีชัตเตอร์ที่แข็งแรงพอที่จะกันพวกสัตว์ประหลาดด้านนอกได้..


บริเวณห้องมุมซ้ายบนนั้นเป็นห้องพยาบาล ที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเมืองเป็นจำนวนมาก... เสียงร้องโหยหวนของผู้บาดเจ็บดังระงม และบรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยกลื่นคาวเลือด....ซึ่งไม่น่าพิศมัยเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าโนบิตะเริ่มชินกับบรรยากาศพวกนี้แล้ว


เพื่อนผู้บาดเจ็บบางรายถึงกับสวดอ้อนวอนพระเจ้า..


ผู้บาดเจ็บหลายคนร้องครวญครางอย่างทรมาน...


เด็กสาวตัวน้อยที่เป็นผู้บาดเจ็บก็ได้แต่ร้องเรียกหาแม่


และในตอนนั้นเองที่ หมอหันมาตวาดใส่โนบิตะว่า ถ้าไม่คิดจะช่วยอะไรพวกเขาก็ให้รีบออกไปได้แล้ว เกะกะ!!


"ขะ...ขอโทษนะครับ!!!"

ส่วนทางด้านห้องทิศตะวันออกมุมขวาบนจะพบไจแอนท์ที่กำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจโลก

"งั่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงจะเป็นที่หลบ
งั่มๆๆๆๆๆๆ ก็...งั้มๆๆ
อย่อยดีแฮะ.....งั่มๆๆๆ"

โนบิตะก็คิดในใจว่า
พูดไม่รู้เรื่องเลยแฮะ...กินให้เสร็จก่อนค่อยพูดสิเฟ้ยยย


ส่วนทางด้านเซย์นะ...
"ถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็ต้องปลอดภัยหายห่วงแน่นอน
เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเป็นจำนวนมากเลยล่ะ"


จากนั้นโนบิตะก็เดินออกมาจากห้อง และพบว่า บริเวณใกล้เคียงนั้น มีเด็กสาวคนนึงกำลังร้องเพลง..อยู่ซึ่งเธอพยายามร้องเพลงเพื่อให้ลืมความทุกข์ที่เกิดขึ้นรอบด้าน..

"จับมันที่มือคู่นี้...แล้ว เหนี่ยวไกยิงออกไป..."



"ฮะๆๆๆๆ หนูยูโกะจังร้องเพลงเพราะมากเลยจ้ะ..."

และคนที่กำลังเอ่ยชมเด็กสาวอย่างดีใจคนนั้นคือ....นายบลัด....นั่นเอง


..................................
(หมอนี่มัน.....โลลิค่อนนี่หว่า.....)



โนบิตะก็ได้ไปคุยกับวอลซ์ที่อยู่ใกล้ทางออก ซึ่งเขาบอกว่าเขากำลังตามหาตัวบลัดอยู่ โนบิตะจึงบอกเรื่องของบลัดไป จนทำให้วอลซ์เกิดอาการตาลุกเป็นไฟ พร้อมกับกำหมัดขึ้นมาและพูดว่า...

"เอาอีกแล้วเหรอ!? ไอ้เจ้าบ้านั่น!!! เผลอเป็นไม่ได้เลยนะเว้ย
ต้องดัดนิสัยไอ้ที่ชอบเข้าหาเด็กผู้หญิงนี่อย่างจริงจังซะแล้ว... เจ้าหมีเฮนไต...บลัด!!"


จากนั้นโนบิตะก็เห็นวอลซ์เดินไปลากคอบลัดออกไปให้ไกลจากเด็กผู้หญิง..

โนบิตะลองเดินออกไปดูบรรยากาศข้างนอกก็พบว่า
สถานที่แห่งนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาตามที่เซย์นะบอกไว้เลยทีเดียว
ซึ่งคงเป็นไปได้ยากที่พวกสัตว์ประหลาดนั่นจะมาบุกถล่มที่นี่



หลังจากที่ทำธุระทุกอย่างจนเสร็จ โนบิตะจึงมุ่งหน้าไปยังห้องที่เดคิสุงินัดเอาไว้...


ห้องตะวันออกด้านในสุด


ที่ซึ่งเดคิสุงิกำลังรอเขาอยู่ที่นั่น...


"เดคิสุงิ นายมีเรื่องอะไรจะบอกพวกเรางั้นเหรอ?"


"เดี๋ยวฉันจะเล่าให้นายและทุกคนฟังเอง"


และไม่นานนัก ทุกคนก็มารวมตัวกันตามนัด....
[ขออนุญาตไม่ทำอีโมชั่นเพื่อความเร็ว]

"มีเรื่องอะไรจะพูดฟระ..?
ตรูยังทานเข้าไม่อิ่มเลยนะเฟ้ย!?"


"ไจแอนท์นายกินไป 5 จานแล้วยังไม่อิ่มอีกเรอะ"


"มีเรื่องอะไรเหรอจ้ะ"


"อืมม ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ"


จากนั้นเดคิสุงิจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องถึงความผิดปกติบางอย่างในเมืองนี้ อีกทั้งการมีสถานที่สำคัญอย่างอาคารหลบภัยที่นี่อีก ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญที่จะมีการตั้งสถานที่ที่โคตรปลอดภัยแบบนี้ในใจกลางเมืองอีก ราวกับว่า สถานที่นี้ถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับอะไรบางอย่าง.... ใครสักคนที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง.... เดคิสุงิยังได้ข้อมูลจากการสำรวจตึกนี้เพิ่มอีกและก็พบกับสิ่งที่เขากังวลอยู่ในใจมาตลอด


ใช่แล้ว...มันเป็นอย่างที่เขาคิด...สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นได้ไม่นานโดยมีองค์กรหนึ่งที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง...

"ตึกหลบภัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเวชภัณฑ์ที่พวกเรารู้จักกันดี
อัมเบรล่า คอเปอเรชั่น ยังไงล่ะ"


"อัมเบรล่างั้นเหรอ!!!! ทำไมกันล่ะ...ก็เจ้าบริษัทนี้มัน..."


ทุกคนต่างไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะกลับมาได้ยินชื่อของบริษัทมหันตภัยร้ายแรงแบบนี้อีกครั้ง ทั้งๆที่พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำลายถอนรากถอนโคนออกไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน



เดคิสุงิบอกว่า ที่เขาเรียกมาในห้องนี้ก็เพราะว่า ท่อตะแกรงด้านหลังเขานั้นเป็นเส้นทางลับ ที่สามารถเข้าไปสำรวจเขตหวงห้ามส่วนลึกของตึกได้อีก ซึ่งอาจจะเจออะไรบางอย่างก็ได้ เลยถามทุกคนว่าต้องการจะร่วมสำรวจที่นี่ไหม


เซย์นะลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลง


โนบิตะเองก็ตอบตกลงเช่นกัน


เมื่อได้ยินเรื่องนั้น ตาของไจแอนท์ก็กลับมาลุกโชนพร้อมบอกว่า ก็จัดไปเลยเซ่!


โดราเอม่อนเตือนว่า แต่มันอาจจะมีอันตรายรออยู่ด้านในเป็นจำนวนมากก็ได้นะ รอให้ออกจากที่นี่ไปก่อนแล้วค่อยส่งเรื่องนี้ไปให้ทางคนที่ไว้ใจได้และชำนาญการมาจัดเการดีกว่า


เดคิสุงิก็บอกว่า มันก็ได้อยู่หรอก ซึ่งเขาเองก็ไม่คิดที่จะบังคับใครอยู่แล้ว แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ถ้่ามีเจ้าพวกตัวใหญ่ที่อยู่ด้านหลังท่อนี้จริง มันอาจจะชิ่งหนีไปก่อนแล้วก็ได้ แล้วใครจะเป็นคนหยุดมันล่ะ...

ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่า มาถึงขั้นนี้ก็มีแต่ต้องลุยล่ะนะ พวกเขาเองก็ผ่านประสบการณ์เฉียดตายเพราะเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันมากหรอก


ไจแอนท์เลยพูดเสริมขึ้นมาว่า... เออ ไม่เป็นไรอยู่แล้วน่า


เซย์นะก็บอกว่า ฉันเองก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน


โนบิตะพูดสั้นๆว่า โอเค....


"ถ้างั้นก็ดี....
เอาล่ะ ถ้าทุกคนพร้อมกันแล้วก็...."

โครก.....

ทันใดนั้นก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมา

"....ขอโทษนะ.... ขอไปขี้ก่อนได้ไหม......"



.............................


.......................................


โนบิตะคุง........  นายเนี่ยน้า........


"เอ็งรีบไปขี้เลยไป!!!!!"



และแน่นอนว่า โนบิตะก็รีบวิ่งไปห้องน้ำชายที่อยู่ด้านข้าง



พอกลับมาห้องก็พบว่าทุกคนนั้นล่วงหน้าไปก่อนแล้ว....




โนบิตะจะต้องเผชิญกับสิ่งที่อยู่ด้านหลังท่อตะแกรงเหล็กนี้
และสิ่งนั้นจะเป็นอะไร โปรดติดตามตอนต่อไป...

แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น