" />

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3]

เนื้อหาในบทความนี้เป็นเนื้อหาส่วนที่ 3 ซึ่งผู้ที่อ่านบทความนี้ควรอ่านเนื้อหาส่วนก่อนหน้าเสียก่อน
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2]

ไขปริศนาความลับของโรงเรียน

ความเดิมตอนที่แล้วโนบิตะสามารถนำยาห้ามเลือดมาให้ยาสุโอะได้ทันเวลาทำให้ยาสุโอะรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดและเซย์นะเองก็รู้สึกโล่งอกแล้ว แต่ก่อนหน้าที่ยาสุโอะจะหลับไป เขาได้มอบโน้ตเพลงให้กับโนบิตะก่อน เขาบอกว่ามันเป็นกุญแจไขความลับบางอย่างของโรงเรียนนี้ (หากยาสุโอะตายก็ยังคงได้รับโน้ตเพลงเช่นกัน)




โนบิตะกับเซย์นะจึงพายาสุโอะมาพักผ่อนไว้ทีห้องๆหนึ่งก่อน 


หลังจากนั้นเซย์นะจึงถามว่าซูเนโอะที่แยกกับตนกลางทางเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งโนบิตะก็ตอบไปว่าซูเนโอะยังปลอดภัยดี  หลังจากนั้นโนบิตะจึงแยกกับเซย์นะ

หลังจากที่ได้โน้ตเพลงมาแล้วโนบิตะจึงตัดสินใจนำมาวางไว้ที่ห้องดนตรีแต่ว่าโนบิตะนั้นกลับอ่านโน้ตไม่ออก


และขณะที่กำลังลำบากใจอยู่นั้นก็มีคนเดินเข้ามาหาโนบิตะ ซึ่งคนๆนั้นก็คือเคนจิ กับทาโร่นั่นเอง



เคนจิจึงได้พูดคุยกับโนบิตะที่กำลังมีปัญหาอยู่ หลังจากที่ได้คุยกับโนบิตะแล้วเคนจิจึงได้ตัดสินใจเล่นเปียโนด้วยเพลงที่ได้จากโน้ตของโนบิตะ ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นเพลงมูนไลท์โซนาต้า (Moonlight Sonata) ของบีโทเฟ่น (Beethoven) ศิลปินเอกชื่อก้องโลก หลังจากนั้นเคนจิจึงเล่นเปียโนให้ฟัง พอเขาเล่นจนจบเพลงทาโร่ก็เอ่ยชมเคนจิว่า "สุดยอดมากเลย พี่เคนจิ"



หลังจากที่เคนจิเล่นเพลงดนตรีจบแล้วก็ได้เกิดทางลับขึ้นที่ผนังทำให้โนบิตะสำรวจมองหาจิ๊กซอว์ปริศนาชิ้นต่อไปได้




ซึ่งจะเห็นได้ว่าเนื้อหาตรงนี้เป็นปริศนาที่ทำล้อเกม RE1 อีกแล้ว
โนบิตะ รับบทเป็น คริส เรดฟิลด์ ที่โง่ๆในเรื่องเปียโน
เคนจิ รับบทเป็น รีเบคก้า แชมเบอร์ ที่ใช้ความสามารถของตนเล่นเปียโนเปิดทางลับที่ผนังห้องเพื่อแก้ไขปริศนาชิ้นต่อไปได้




หลังจากที่ได้ชิ้นส่วนปริศนาและได้กุญแจนำทางมาสู่ห้องลับแล้ว ซึ่งห้องลับนั้นอยู่ตรงข้างกับห้องที่ยาสุโอะได้รับบาดเจ็บครั้งแรกนั่นแหละ และพอเข้าไปในห้องนั้นก็พบว่าห้องนั้นเป็นห้องวิทยาศาสตร์ พบเดินไปข้างหน้าได้สักพักก็จะฉากคัตซีน มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของโนบิตะอย่างรวดเร็ว



แต่โนบิตะก็หลบได้ทันและพบว่าเจ้าสิ่งที่พุ่งมานั้นมันแทงพื้นกระเบื้องแตกเลยทีเดียว


ทันใดนั้นก็มีเท้าขนาดใหญ่เดินก้าวเข้ามา


สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าโนบิตะนั้นคือ กิ้งก่ายักษ์กลายพันธุ์ที่ทำร้ายยาสุโอะนั่นเอง!! ซึ่งตอนหลังเราพบข้อมูลของตัวมันซึ่งใช้ชื่อว่า ไบโอเกลลัส [Biogellas])




และการเปิดตัวของมันนั้นก็คือการล้อเลียนยอว์น (Yawn) บอสงูยักษ์ใน RE1 นั่นเอง
ดังนั้น กิ้งก่ายักษ์ รับบท ยอว์น บอสงูยักษ์


เจ้ากิ้งก่ายักษ์ตัวนี้ โนบิตะสามารถเอาชนะได้ยากมากเพราะมันทั้งอึด ทั้งเก่ง แถมยังล่องหนได้ และแล้วในที่สุดโนบิตะก็เสียท่าให้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้


แต่ก่อนที่โนบิตะจะเข้าตาชน ยาสุโอะที่หายดีแล้วก็ได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับปืนยิงลูกระเบิดเกรเนดลันเชอร์ (Grenade Launcher)

 "เอานี่ไปแดกซะ!!!"



ยาสุโอะสาดกระสุนระเบิดโจมตีใส่มันอย่างต่อเนื่อง (ราวกับล้างแค้นที่มันทำกับเขาไว้ก่อน) จนมันร่นถอยไป


แต่กระสุนปืนของยาสุโอะนั้นเกิดติดขัดกลางคัน ทำให้มันจ้องหันมาเล่นงานยาวสุโอะแทน ยาสุโอะจึงถูกกิ้งก่ายักษ์ไบโอเกลลัสเขมือบตายในทีเดียว


ซึ่งเนื้อเรื่องตรงนี้มันช่างคล้ายคลึงกับเกม RE1 ตอนที่จิล วาเลนไทน์ (Jill Valentine) ต่อสู้กับงูยักษ์แล้วริชาร์ดออกมาช่วยจนตัวตายเลยทีเดียวดังนั้นในรอบนี้
โนบิตะ รับบท จิล วาเลนไทน์ (Jill Valentine) ที่เข้าต่อสู้กับงูยักษ์
ยาสุโอะ รับบท ริชาร์ด ไอเคน ที่ปรากฏตัวมาพร้อมลูกซองปืนโหดสู้กับงูยักษ์พร้อมจิลแล้วถูกมันเขมือบตาย
ตามคลิปข้างล่างช่วงวินาทีที่ 4 : 32

 

ขอกลับเข้าเรื่องเกมอีกครั้ง หลังจากที่ยาสุโอะถูกกินไม่นาน ปรากฏว่ากระสุนลูกระเบิดของเกรดเนดลันเชอร์ที่ยาสุโอะพกติดตัวอยู่ที่มันเขมือบเข้าไปพร้อมกับร่างของยาสุโอะด้วยเกิดการระเบิดกันอย่างรุนแรงจนร่างของมันเละทันที (แต่ใน RE ต้องสู้ต่อ)


แต่ในกรณีที่ยาสุโอะตายจากการทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียก่อน พอสู้กับไบโอเกลลัสได้จะเจอคัตซีนโนบิตะสู้กับมันไม่ได้เช่นกัน แล้วเขาก็ถูกมันใช้ลิ้นปัดกระเด็นไปกระแทกกับโต๊ะ ในตอนที่เขาเข้าตาจนนั้นเอง เขาได้เหลือบหาเครื่องมือที่จะช่วยให้เขาเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์นี้ได้ แล้วเขาก็มองเห็นสารอันตรายวัตถุไวไฟวางอยู่บนโต๊ะ

"เจ้านี่ล่ะ..."






เขาได้สังเกตทีท่าของเจ้าสัตว์ประหลาดและเห็นว่ามันพร้อมจะพุ่งเข้ามาเขมือบเขาแล้ว เขาจึงใช้โอกาสนั้นชั่วพริบตา

"ตอนนี้ล่ะ!!"


โนบิตะรีบกระโดดหลบตอนที่มันกระโจนใส่เขาทันทีจนสารเคมีนั้นตกเข้าไปในท้องมันจากนั้นก็ บูม!!! เละเป็นโก้โก้ครั้นช์




สรุปคือสำหรับเนื้อเรื่องออริจินอลหรือรีเมคต่อให้ช่วยยาสุโอะได้ ถึงอย่างไรยาสุโอะก็ตายอยู่ดี...

และสิ่งนี้คือคำสุดท้ายที่โนบิตะพูดกับยาสุโอะ

"ขอบคุณนะ ยาสุโอะ.....  ลาก่อน"



ซึ่งนั่นคือเหตุการณ์ที่สูญเสียเพื่อนครั้งแรกไปต่อหน้าต่อตาโนบิตะ (เป็นเหตุการณ์บังคับไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้)

หลังจากที่เวลาแห่งความเศร้าเสียใจหมดไป โนบิตะได้เก็บไอเท็มที่สำคัญที่ใช้เป็นทางผ่านในห้องแล้ว เขาจึงเดินออกมานอกห้อง แต่ทันทีที่เขาเดินออกมานอกห้องได้ไม่นาน เขาก็รู้สึกเจ็บบาดแผลอย่างรุนแรง อีกทั้งเลือดที่บาดแผลยังไหลไม่ยอมหยุดด้วย




ซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่า เขาติดพิษจากกิ้งก่ายักษ์เหมือนที่ยาสุโอะโดนเสียแล้ว และดูเหมือนเรี่ยวแรงของเขาก็หมดลงจนขยับแทบไม่ได้อีกด้วย


และในเวลาเดียวกันนั้นเองเซย์นะก็เดินผ่านทางแถวนั้นพอดี เธอได้พบกับโนบิตะที่ดูท่าทางบาดเจ็บสาหัสจึงรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง

"โนบิตะคุง เป็นอะไรหรือเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?"


 โนบิตะจึงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาให้เซย์นะฟังว่า ดูเหมือนว่าจะถูกพิษเอาซะแล้วสิ เลือดไหลไม่หยุดเลย


ทันทีที่เซย์นะได้ยินดังนั้น เธอจึงตอบปากรับคำว่าจะเป็นคนรีบไปเอายาแก้พิษมาให้ ขอให้โนบิตะรออยู่ตรงนี้ก่อน

"เข้าใจแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้เอง"


ตอนนี้จึงได้มีการเปลี่ยนผู้เล่นจากโนบิตะเป็นเซย์นะชั่วคราวเพื่อบังคับตัวเธอให้เดินไปที่ห้องพยาบาลที่คาเนดะ เจ้าคนแก่ไร้ประโยชน์ที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องนั้นเพื่อไปเอายารักษาพิษมาให้โนบิตะ แต่ก่อนที่จะได้เข้าไปในห้องพยาบาล เธอได้ยินเสียงกรีดร้องของคาเนดะทำให้เธอสงสัยมาก เธอจึงเดินเข้าไปในห้องพยาบาลและไม่พบกับคาเนดะ แต่กลับพบรอยเลือดบางอย่าง..


ทันใดนั้น!! ก็เกิดภาพคัตซีนอย่างเร็ว.....คาเนดะที่ห้อยหัวโผล่ออกมาจากเพดานในสภาพตาหลุดจากเบ้าและมีเลือดท่วมตัว..

เซย์นะจึงส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ!


 ร่างของคาเนดะหล่นตุ้บลงมาบนพื้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเบรนซัคเกอร์ซึ่งเป็นตัวการที่ฆ่าคาเนดะ เซย์นะจึงต้องใช้ปืนของเธอกำจัดมัน


ซึ่งฉากนี้เป็นฉากล้อเลียน RE3 ตอนที่นิโคไล ซิโนวิว (Nicholai Zinoviev) ถูกเนเมซิสฆ่าตายแล้วลากศพไปไว้บนเพดาน
เซย์นะ รับบทเป็น จิล วาเลนไทน์ ใน RE3 ที่กำลังเดินมาอยู่ดีๆ
คาเนดะ รับบทเป็น นิโคไล ซิโนวิว ใน RE3 ที่ทำตัวเป็นคนขวางโลกแล้วถูกเนเมซิสฆ่าตายเอาศพห้อยไว้บนเพดาน ในช่วงวินาทีที่ 0.48



หลังจากที่ปราบเบรนซัคเกอร์ที่ฆ่าคาเนดะได้ เซย์นะจึงหยิบยาแก้พิษในห้องเพื่อนำมันไปให้โนบิตะ โนบิตะจึงขอบคุณเซย์นะ




ซึ่งเซย์นะเองก็ตอบว่า..

"เพื่อนกันก็ย่อมต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว"



หลังจากนั้นเธอยังบอกเรื่องของคาเนดะกับโนบิตะถึงแม้เธอจะยังไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด แต่โนบิตะก็พอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ หลังจากนั้นเซย์นะจึงขอแยกตัวไปสำรวจตามอาคารเรียนต่อ  การผจญภัยของโนบิตะจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง



ซึ่งเนื้อเรื่องที่ต้องเล่นเป็นเซย์นะเพื่อนำพิษมารักษาแผลโนบิตะนี่มีใครคุ้นบ้างเอ่ยย...ใช่แล้วใน RE1 ก็มีเหตุการณ์เช่นนี้อยู่ ในตอนที่เล่นเป็นคริสแล้วพลาดท่าถูกงูกัดนั่นเอง
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์ ใน RE1 ตอนที่ถูกงูกัดแล้วพอเดินไปสักพักอาการพิษของงูก็จะกำเริบทำให้เวียนหัว ปวดเมื่อย หมดแรง แล้วบังเอิญรีเบคก้าผ่านมาเห็นพอดี
เซย์นะ รับบท รีเบคก้า แชมเบอร์ ที่เข้ามาช่วยเหลือคริสโดยการรีบวิ่งไปเอาเซรุ่มแก้พิษที่ห้องพยาบาลมาให้






อ่านบทความต่อไปได้ที่ >>  โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]



แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น