โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]

เนื้อหาในบทความนี้เป็นเนื้อหาส่วนที่ 4 ซึ่งผู้ที่อ่านบทความนี้ควรอ่านเนื้อหาส่วนก่อนหน้าเสียก่อน
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3]

 

บ้านพักปริศนาที่ภูเขาหลังโรงเรียน

 

หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากเซย์นะ เซย์นะจึงแยกตัวคอยลาดตระเวนภายในโรงเรียนต่อไป ส่วนโนบิตะก็ได้ออกสำรวจพื้นที่่อีกครั้ง โดยในคราวนี้เขาได้ไปสำรวจบริเวณพื้นที่ภูเขาหลังโรงเรียน ซึ่งดูน่ากลัวผิดปกติ

แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุดคือการที่มีบ้านพัก (ในเกมใช้คำว่าเรียวคัง :
旅館 โรงแรมสไตล์บ้านพักแบบเรียบง่ายในญี่ปุ่น) ปริศนาตั้งอยู่ที่แห่งนี้โดยที่พวกเขาไม่คาดคิด

อันนี้ขอย้อนกลับมาเรื่อง RE1 หน่อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการดำเนินเรื่องนั้นได้มาถึงจุดเปลี่ยนสถานที่จากคฤหาสน์มายังบ้านพักพวกคนงานนักทดลองไวรัสที่อยู่คฤหาสน์แล้ว ดังนั้นบ้านพักที่โนบิตะเจอก็คือบ้านพักของพวกคนงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดนั่นเอง...

หลังจากนั้นโทรศัพท์มือถือของโนบิตะก็ดังขึ้น ปรากฏว่าคนที่โทรมานั้นคือไจแอนท์นั่นเอง ซึ่งเขาได้สอบถามว่าตอนนี้โนบิตะอยู่ที่ไหน

โนบิตะจึงบอกว่าเขาได้พบบ้านพักที่ภูเขาหลังโรงเรียนซึ่งทำให้ไจแอนท์รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกันเพราะทุกคนต่างก็ไม่เคยรู้ว่ามีบ้านพักตั้งอยู่ที่นี่ แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวเขากับกลุ่มของเคนจิจะตามไปทีหลัง ให้โนบิตะสำรวจก่อนได้เลย

พอได้ยินคำนั้นโนบิตะก็สงสัยว่า แล้วชิสุกะล่ะหายไปไหน?

 ไจแอนท์ก็บอกว่าไม่รู้ เพราะดูเหมือนชิสุกะจะขอแยกตัวไปสำรวจอีกทีนึงเอง เมื่อเห็นความตั้งใจดังนั้นไจแอนท์จึงไม่คิดจะถามต่อ แต่เขามั่นใจว่าชิสุกะนั้นดูแลตัวเองได้แน่นอน ซึ่งทำให้โนบิตะกังวลไม่น้อย

หลังจากนั้นไม่นานไจแอนท์จึงวางสาย เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นโนบิตะจึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจในบ้านแห่งนั้น

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าหากย้อนกลับไปที่ RE1 จะเป็นฉากตอนที่คริสได้รับการติดต่อมาทางวิทยุตอนที่จะมุ่งหน้าไปบ้านพักคนงานในสวนหลังคฤหาสน์นั่นเอง ซึ่งการจับคู่ครั้งนั้นทำให้พอได้ข้อสรุปว่า
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์ ในการมุ่งหน้าไปยังบ้านยามเป็นคนแรก
ไจแอนท์ รับบท แบรด (Brad Vicker) ที่ติดต่อวิทยุมาหาคริสตอนไปบ้านยาม
เหตุการณ์เกิดขึ้นในคลิปข้างล่างช่วงวินาทีที่ 6.22

สถานที่แห่งนั้นโนบิตะได้พบกับเอกสารการทดลองบางอย่างมากมาย แต่ก็ยังไม่อาจจะทำความเข้าใจหรือเรียบเรียงในตอนนี้ได้ทั้งหมด หลังจากที่โนบิตะได้เดินออกสำรวจสักพัก ก็ได้พบกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอีกครั้ง



หลังจากที่โนบิตะได้ทำการสำรวจบ้านพักจนมาถึงห้องๆหนึ่ง...สถานที่แห่งนั้นเขาได้พบกับเคนจิที่ตามมาทีหลังอีกครั้ง แต่เขาแปลกใจกับท่าทางของเคนจิมากเหมือนกับกลัวอะไรสักอย่างแถมยังบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

สิ่งที่เคนจิพูดนั้นมีเพียงแค่...

"โนบิตะ  รีบหนีไป!!!"

ยังไม่ทันทีโนบิตะจะรู้เรื่องอะไรมากกว่านั้น ก็เข้าสู่ฉากคัตซีน  โนบิตะมองเห็นหน้าเคนจิที่บาดเจ็บสาหัส

เขาเงยขึ้นไปมองด้านบนของเคนจิเห็นโคมไฟระย้า

แล้วสิ่งที่อยู่บนโคมไฟนั้นคือ...

สัตว์ประหลาด!!!!!!!

ชั่วพริบตาเคนจิก็ถูกพวกสัตว์ประหลาดที่ดูคล้ายกับกอริลล่าพวกนั้นมาขนาบข้างไว้ เขารู้ตัวดีว่าตนเองนั้นไม่รอดแน่จึงหันไปมองทางโนบิตะก่อนจะบอกกล่าวคำว่า..

"โนบิตะ  ฝากดูแลทาโร่ด้วยนะ"

หลังจากพูดจบพวกสัตว์ประหลาดก็ตรงเข้ามากัดเคนจิพร้อมกันแล้วดึงออกอย่างแรงจนกระทั่ง..

 แคว่ก!!!!!!!!!!!!!!

 

เคนจิถูกพวกมันกัด กระชากจนร่างกายของเขาหลุดออกเป็น 2 ท่อนอย่างสยดสยองต่อหน้าต่อตาโนบิตะ

การปรากฏตัวของเคนจิในลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ใน RE1 มาก ตอนที่ริชาร์ดถูกซอมบี้ฉลามยักษ์ที่มีชื่อว่า "เนปจูน (Neptune)" งาบเพื่อช่วยคริสที่เดินเข้ามาในเขตอควริง (Aqua Ring) ที่เป็นที่อยู่อาศัยของซอมบี้ปลาฉลามยักษ์แบบโง่ๆไม่รู้เรื่องราว

 โนบิตะ รับบทเป็น คริส เรดฟิลด์ ที่เดินเข้ามาแบบไม่รู้เรื่องแล้วพบว่าริชาร์ดกำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่

เคนจิ รับบทเป็น ริชาร์ด ไอเคน ที่มีการตายในรูปแบบที่สองคือหลังจากที่เขาเตือนคริสแล้วก็ถูกพวกตัวประหลาดฆ่าตาย 

 

โนบิตะจึงกลายเป็นเป้าหมายรายต่อไปของพวกมัน ซึ่งโนบิตะต้องใช้ปืนยิงสู้กับพวกมันให้ได้ และในที่สุดโนบิตะก็ล้มพวกมันได้หมด..แต่ว่าก็เกิดสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ เขานึกว่าฆ่ามันจนล้มลงไปนอนตายได้แล้ว มันกลับลุกขึ้นมาพร้อมที่จะเล่นงานเขาใหม่อีกรอบ

แต่ก่อนที่พวกมันจะถึงตัวเขาปรากฏว่าพวกมันโดนใครบางคนยิงสอยจนตายหมดเสียก่อน

คนๆนั้นก็คือ ไจแอนท์นั่นเอง ซึ่งไจแอนท์ได้ใช้ปืนพลังสูงเข้ามาช่วยโนบิตะได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียดเลยทีเดียว

เนื้อหาตรงนี้ก็ทำมาล้อเลียน RE1 อีกเช่นกัน แต่เป็นคนละรูปแบบกับกรณีของเคนจิกับโนบิตะ สำหรับเมื่อกี้นี้คือการล้อเลียนฉากตอนจิล วาเลนไทน์สู้กับต้นไม้ปีศาจ แพลนท์ 42 (Plant 42) ที่เติบโตในบ้านพักคนงานนั่นเอง ซึ่งก็คือเป็นลักษณะเดียวกันคือ จิลนึกว่าเธอจัดการมันได้แล้ว แต่มันกลับแผงฤทธิ์อีกครั้ง และในขณะที่จิลกำลังจนมุม แบรี่ เบอร์ตัน (Barry Burton) ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับปืนไฟสุดร้อนแรงและเผาร่างของเจ้าแพลนท์ 42 ได้สำเร็จ ดังนั้นจะเห็นว่า เนื้อเรื่องในเกมช่วงนี้ช่วงเดียวสามารถทำล้อเลียน RE1 ได้ทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลยทีเดียว
โนบิตะ รับบทเป็น จิล วาเลนไทน์ ที่ประมาทกับปีศาจที่ตนคิดว่าจัดการได้แล้วจะถูกเล่นงานกลับอีกรอบ
ไจแอนท์ รับบทเป็น แบรี่ เบอร์ตัน ที่มาพร้อมกับปืนโคตรแรงปราบปีศาจเพื่อช่วยจิลทั้งหมด

หลังจากที่ไจแอนท์ช่วยโนบิตะได้แล้วทำให้โนบิตะเอ่ยชมในความสุดยอดของปืนที่ไจแอนท์ใช้

ไจแอนท์บอกว่าเขาใช้ปืนรุ่น EAGLE 6.0 น่ะนะ

แล้วทีนี้ไจแอนท์ก็หันไปมองดูร่างของเคนจิ

โนบิตะจึงกล่าวขอโทษและ รู้สึกผิดมากพร้อมกับโทษตัวเองว่า ถ้าเขารู้สึกตัวเร็วกว่านี้เคนจิก็คงไม่ตาย

ทันใดนั้นเองไจแอนท์ก็ตวาดใส่โนบิตะประมาณว่า..

"เลิกโทษตัวเองได้แล้ว จะมีใครตายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย!" และแล้วเขาก็พูดถึงกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสุเนโอะ เซย์นะ ชิสุกะ ต่างก็เอาตัวรอดกันเต็มที่จะมัวแต่มาเสียใจกับคนที่ตายแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก อย่าพึ่งหมดหวังกับเรื่องแค่นี้นะ!!

ซึ่งคำพูดของไจแอนท์ทำให้โนบิตะได้สติอีกครั้ง ใช่แล้ว เขาจะยังยอมแพ้ไม่ได้ จนกว่าจะได้เจอกับโดราเอม่อนอีกครั้ง

แล้วดูเหมือนทีนี้โนบิตะกับไจแอนท์จะเริ่มสงสัยเกี่ยวกับที่มาของสัตว์ประหลาดพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้ากิ้งก่ายักษ์ หรือกอริลล่าที่พวกเขาสู้กันเมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าจะมีที่มา มาจากการทดลองเรื่องประหลาดบางอย่างซึ่งเป็นความลับของทางโรงเรียน ซึ่งเขาได้พบหลักฐานและเอกสารต่างๆภายในบ้านพักแห่งนี้จำนวนมากด้วยว่าโรงเรียนนี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

จากนั้นไจแอนท์จึงบอกว่าเห็นทีจะต้องไปดูที่ห้องทดลองลับที่ว่านั่นในโรงเรียนกันสักหน่อยแล้ว มันต้องมีการทดลองอะไรบางอย่างที่นั่นแน่ๆ และอาจจะเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดด้วย ดังนั้น

 แต่ก่อนที่จะกลับไปที่โรงเรียนกันโนบิตะก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่า เคนจิได้ขอร้องให้เขาช่วยดูแลทาโร่ต่อด้วย ซึ่งเขาคิดว่าเคนจิคงพาตัวทาโร่ไปซ่อนก่อนซึ่งคาดว่าทาโร่เองคงอยู่ในห้องแถวนี้

ไจแอนท์จึงให้โนบิตะไปหาตัวทาโร่ ส่วนตนเองนั้นจะเก็บกวาดศพของเคนจิไม่ให้ทาโร่เห็นเอง

โนบิตะจึงเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ใกล้เคียงก็พบทาโร่ที่อยู่ในห้องซักล้าง ทาโร่นั้นดีใจมากที่ได้เจอกับโนบิตะ แล้วพอทาโร่เอ่ยปากถามว่า

"แล้วพี่เคนจิล่ะ..?"

โนบิตะจึงได้เงียบไปสักพักเพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี เขาจึงได้บอกกับทาโร่ว่า..

"...เขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้วล่ะ"

ซึ่งคำตอบนั้นทำให้ทาโร่ถึงกับช็อก ดูเหมือนว่าเขาเองก็พอเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..

โนบิตะไม่มีเวลาให้ทาโร่ได้เสียใจ เขาจึงบอกต่อว่าตอนนี้ขอให้ทาโร่ไปกับพวกพี่เร็วๆเข้า

ก่อนที่จะออกจากห้อง ทาโร่ก็บอกกับโนบิตะว่า ก่อนที่พี่เคนจิจะไปเขาฝากเจ้าสิ่งนี้ไว้ให้กับพี่โนบิตะ ซึ่งมันคือกุญแจลับของคนงานที่ใช้เดินทางผ่านไปยังเส้นทางลับในโรงเรียนนั่นเอง

(หากทาโร่ตายก่อนจะได้รับกุญแจดอกนี้จากไจแอนท์)

เนื้อหาตรงนี้ทำมาเพื่อล้อเลียน RE1 อีกในตอนที่คริสกลับไปบอกกับรีเบคก้าว่าริชาร์ดไปดีแล้ว ดังนั้น
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์ ที่มาบอกข่าวการเสียชีวิตของริชาร์ดกับรีเบคก้าที่ช่วยตนไว้
ทาโร่ รับบท รีเบคก้า แชมเบอร์ ที่ช็อกและเสียใจจากการจากไปของริชาร์ด
ในคลิปข้างล่างช่วงวินาที 09:25

 หลังจากนั้นโนบิตะจึงเดินกลับออกมาด้านนอกซึ่งพบว่าไจแอนท์นั้นได้เก็บกวาดศพของเคนจิและสัตว์ประหลาดเรียบร้อยแล้ว และจะขอดูแลทาโร่แทนเคนจิเองซึ่งตอนนี้ทาโร่เองก็ทำใจได้แล้วและบอกกับพี่โนบิตะว่าให้ระวังตัวด้วย

 หลังจากนั้นโนบิตะจึงหาทางออกจากบ้านพักแห่งนี้แต่แล้วขณะที่เขากำลังเดินอยู่ในบ้านพักเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังยิงปืนต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่

พอเดินไปยังต้นตอของเสียงเขาก็พบกับคนที่เขาคุ้นเคย...นั่นคือ

"โดราเอม่อน!!!"

ใช่แล้วโดราเอม่อนพึ่งจะใช้ปืนจัดการกับเจ้าเบรนซัคเกอร์ได้

โดเรม่อนจึงหันมาทักโนบิตะและรู้สึกดีใจที่โนบิตะไม่เป็นอะไร ซึ่งโนบิตะถามเขาว่าทำไมพึ่งมาอยู่ที่นี่เอาป่านนี้ เขาบอกว่าขอโทษทีตอนที่ไปหามี่จังดันมาเจอกับเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้เลยต้องหาทางหนีก่อน

 แต่อย่างน้อยการที่โนบิตะเห็นโดราเอม่อนก็ทำให้เขาโล่งอกแล้วนั่นก็เพราะเขาสามารถยืมของวิเศษจากโดราเอม่อนได้นั่นเอง โดยเขาบอกว่างั้นใช้ประตูไปที่ไหนก็ได้พาพวกเราหนีออกจากแถวนี้ก่อน

 แต่โดราเอม่อนกลับตอบมาว่า

ตอนนี้กระเป๋าของเขาพังจนใช้งานไม่ได้แล้ว ทำให้โนบิตะกังวลจึงถามแม้แต่ของวิเศษอย่างอื่นที่เหลืออยู่เช่นคอปเตอร์ไม้ไผ่ล่ะ นำมาใช้งานไม่ได้เลยเหรอ

แน่นอนว่าโดราเอม่อนก็ตอบว่า ตัดพวกเรื่องของวิเศษไปได้เลย ใช้ไม่ได้สักอย่าง

 แต่แล้วโดราเอม่อนก็บอกว่า ให้กลับไปรวมตัวกับเพื่อนๆกันที่โรงเรียนก่อนซึ่งขอให้โนบิตะล่วงหน้าไปที่นั่นก่อนได้เลย

ส่วนตนจะสำรวจที่บ้านพักที่อันตรายแห่งนี้เพิ่มเอง

โนบิตะจึงต้องกลับไปรวมตัวกับเพื่อนที่โรงเรียนอีกครั้ง


ซึ่งการกลับมาที่โรงเรียนในครั้งที่ 2 นี้เอง....โนบิตะจึงได้รู้ว่า ความลับอันน่าสะพรึงกลัวที่เขาไม่เคยรู้มาตลอดชีวิตกำลังจะถูกเปิดเผยและสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล


หมายเหตุ การพบกันของโดราเอม่อนกับโนบิตะในบ้านพักนี้เปรียบเสมือนฉากล้อเลียน RE1 อีกแล้ว โดยเป็นฉากที่คริสที่กำลังจะออกจากบ้านยามได้เจอกับอัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) โดยบังเอิญ
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์  ที่กำลังจะเดินออกจากบ้านพักคนงานพอดีแล้วจ๊ะเอ๋กับเวสเกอร์ ซึ่งบอกให้คริสไปรวมตัวกับเพื่อนๆที่คฤหาสน์
โดราเอม่อน รับบท อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ที่มาพบเจอกับคริสที่บ้านพักคนงานตอนคริสกำลังจะออกจากบ้านพักกลับคฤหาสน์พอดี
ช่วงวินาทีที่ 00:08

อ่านบทความต่อไปได้ที่ >>  โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5]

แสดงความเห็นบน Facebook!