" />

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]

เนื้อหาในบทความนี้เป็นเนื้อหาส่วนที่ 6 ซึ่งผู้ที่อ่านบทความนี้ควรอ่านเนื้อหาส่วนก่อนหน้าเสียก่อน
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5]




ความลับของห้องทดลองใต้โรงเรียนและความจริงที่ปรากฏ


ในที่สุดโนบิตะก็เดินทางมาถึงห้องทดลองใต้ดินที่อยู่ข้างใต้โรงเรียน พวกเขาได้พบข้อมูลและเอกสารการสร้างสัตว์ประหลาดซึ่งเป็นอาวุธชีวภาพ (B.O.W.) ต่างๆมากมายซึ่งข้อมูลแต่ละอย่างนั้นเปิดเผยให้เห็นว่า บริษัทอัมเบรล่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินทั้งหมด โดยเฉพาะสไลด์ข้อมูลของพวกอาวุธชีวภาพชนิดต่างๆที่พวกเขาเคยเจอมา


รหัสอาวุธ MA-39 [รหัสนี้มีในเรื่อง RE จริงๆ] สุนัขซอมบี้เคลเบรอส (หรือ เซอร์เบอรัส Cerberus)


รหัสอาวุธ MA-96 [เหมือนรหัสนี้จะไม่มีใน RE นะ] กิ้งก่ายักษ์ ไบโอเกลลัส (ญี่ปุ่นมันเขียน ไบโอเกลลัส แต่ว่าตัวภาษาอังกฤษมันเขียน ไบโอกาลเลส Biogalles)


รหัสอาวุธ MA-121 [รหัสนี้มีในเรื่อง RE จริงๆ] ฮันเตอร์ (Hunter)


รหัสอาวุธ T-002 [รหัสนี้มีในเรื่อง RE จริงๆ] ไทแรนท์ (Tyrant)






และดูเหมือนว่าจะมีอีกชิ้นหนึ่งซึ่งไม่บอกว่าเป็นตัวอะไร ทำให้โนบิตะสงสัยมาก...


แต่เขาก็ต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อน...


นอกจากหาข้อมูลความลับของห้องทดลองแล้วโนบิตะก็ต้องหาทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ด้วย เพราะสถานที่แห่งนี้เองก็ไม่ได้ปลอดภัยเท่าไรนักเพราะมีพวกอาวุธชีวภาพและซอมบี้เดินกันเพ่นพ่าน

โนบิตะจึงหาวิธีเปิดแผงควบคุมการทำงานของลิฟต์จนในที่สุดลิฟต์ก็ใช้การได้  โนบิตะจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ทันที



แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงลิฟต์นั้นปรากฏว่ามีใครคนหนึ่งได้เรียกเขาก่อน..


แล้วคนๆนั้นก็เดินมาหาเขา ซึ่งทำให้โนบิตะดีใจมากเพราะคนๆนั้นคือชิสุกะนั่นเอง






แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังแปลกใจที่ว่าทำไมชิสุกกะถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ซึ่งเธอบอกว่า..ได้ยินมาจากไจแอนท์อีกที พร้อมกับได้หาวิธีทำให้ลิฟต์ใช้งานได้ไปด้วย


โนบิตะก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก เขาจึงบอกกับชิสุกะว่าให้ไปสำรวจเส้นทางด้วยกัน แล้วทั้งคู่ก็ลงลิฟต์ไป



โนบิตะกับชิสุกะได้ลงลิฟต์มาแล้วเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าชิสุกะกลับหันปากกระบอกปืนใส่เขา





และเขาก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อพบว่ามีคนที่เขาไม่คาดคิดเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย

"โดราเอม่อน??  มาทำอะไรที่นี่นะ"

*ต่อจากนี้ผู้เขียนขอเรียกโดเรม่อนนะ


โดเรม่อนก็ทักทายโนบิตะเป็นเรื่องปกติ แล้วก็เริ่มเปิดเผยความจริงว่า เรื่องที่ทำให้อาวุธชีวภาพที่ถูกขังอยู่เดินออกมาเพ่นพ่านในโรงเรียนนั้นเป็นฝีมือของเขาเอง อย่างตอนที่โนบิตะพบกับโดเรม่อนที่บ้านพักที่ภูเขาหลังโรงเรียนนั้น ที่โดเรม่อนให้โนบิตะกลับไปรวมกับเพื่อนๆที่โรงเรียนก่อนก็เพราะเขาไม่ต้องการให้โนบิตะรู้ว่าเขาเป็นคนปล่อย MA-121 หรือฮันเตอร์ออกมาเล่นงานพวกโนบิตะที่อยู่ในโรงเรียนนั่นเอง ทำให้โนบิตะไม่พอใจมากที่รู้ว่า โดเรม่อนเก็บข้อมูลการต่อนั้นโดยให้พวกโนบิตะเป็นคู่มือ


อีกทั้งโนบิตะก็ยังถามว่า งั้นชิสุกะก็เป็นพวกด้วยงั้นเหรอ?





ชิสุกะจึงบอกว่า โทษทีนะ ฉันน่ะเป็นนักเรียนโรงเรียนนี้ก็เพื่อที่จะได้ช่วยเรื่องการวิจัยลับที่อยู่ที่นี่แค่นั้นและเห็นว่ามันน่าสนุกดีก็เลยมาช่วย ไม่ได้เป็นคนของอัมเบรล่าแต่อย่างใด


"ถ้าเป็นของเล่นระดับนี้ล่ะก็..จะขอลองใช้จนชินเลยล่ะ"


โนบิตะเลยถามถึงเดคิสุงิต่อว่า เดคิสุงิน่ะก็เหมือนกันใช่ไหม



ซึ่งโดเรม่อนประหลาดใจมากที่โนบิตะได้เจอกับเดคิสุงิมาก่อนแล้วและบอกว่าหมอนั่นน่ะทำงานได้ดีเลยล่ะ


จากนั้นโดเรม่อนก็อธิบายเพิ่มเติมว่า สถานที่แห่งนี้นั้นมีไว้เพื่อวิจัยการสร้างอาวุธชีวภาพโดยการใช้ "ที-ไวรัส (T-Virus)" นั่นเอง


โนบิตะเลยสงสัยข้อมูลเกี่ยวกับ ที-ไวรัส


จากนั้นโดเรม่อนก็ยังบอกอีกว่า ที-ไวรัสนั้นมีอีกชื่อว่า "ไทแรนท์ ไวรัส (Tyrant Virus)" และเขาก็อธิบายประมาณว่า มีการค้นพบที-ไวรัสที่เป็นตัวจุดประกายสำคัญที่จะนำมาปรับเปลี่ยนลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสุดยอดสิ่งมีชีวิตในอุดมคติ แต่ก็ยังต้องทดลองและเก็บข้อมูลจากการวิจัยหลายๆครั้ง โดยเริ่มจากการทดลองสร้างอาวุธชีวภาพเสียก่อน


จนในที่สุดก็ได้มีการทดลองการสร้างอาวุธชีวภาพโดยมีรูปแบบมนุษย์โดยการนำมนุษย์มาทดลองแต่ปรากฏว่ามนุษย์นั้นไม่สามารถทนรับความแรงของที-ไวรัสได้ อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดการแพร่ระบาดอีก ซึ่งตรงนี้ชิสุกะก็เสริมเข้ามาว่า มนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่สามารถทนรับความแรงของที-ไวรัส ก็จะเริ่มเกิดความอยากอาหารแล้วกลายพันธุ์กลายเป็นซอมบี้ที่เห็นอยู่ตามเมืองนั่นแหละ


โดเรม่อนก็พูดสมทบว่า มันน่ากลัวดีใช่ไหมล่ะ...


แต่ถึงกระนั้น การสร้างอาวุธชีวภาพโดยใช้ที-ไวรัสในรูปแบบมนุษย์ก็ได้ถูกดำเนินการสร้างมาเรื่อยๆ ปรากฏว่ามีคนที่เข้ากับที-ไวรัสได้ แล้วโนบิตะก็ต้องตกใจเพราะว่าคนๆนั้นก็คือ...

"นายยังไงล่ะ โนบิตะ..."

[ในภาค EASY-TYPE จะมีการเฉลยในสไลด์คือการมีตัวตนของอาวุธชีวภาพรหัส T-000 (ไม่มีใน RE แน่นอน) ซึ่งก็คือตัวโนบิตะเอง]


แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ออกมาแทนที่จะเป็นสุดยอดมนุษย์พันธุ์แกร่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์และมีสติปัญญาเป็นเลิศ กลับได้เพียงเด็กสายตาสั้น ไม่เอาไหน หน้าตาโง่ๆ ไม่เฉลียวฉลาด..แต่ถึงกระนั้นยังคงมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่เพราะว่า เขากลับมีทักษะในด้านการยิงปืนซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก

โดเรม่อนที่เป็นผู้วิจัยโครงการนี้จึงกลายมาเป็นผู้ดูแลคอยเฝ้าสังเกตการณ์สิ่งมีชีวิตทดลองตัวนี้เพื่อดูพัฒนาการและความเติบโตจนกระทั่งได้พบข้อมูลสำคัญ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของที-ไวรัส ดูเหมือนว่าพลังที-ไวรัสที่อยู่ในตัวของเขาก็ถูกกระตุ้นให้ร่างกายมีการตอบสนอง แถมยังพบว่า ประสาทสัมผัสโดยรวมและซิกส์เซ้นในการเอาตัวรอดยังเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาทุกครั้งที่เขาได้ต่อสู้ อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีจะได้ทดสอบและเก็บข้อมูลการต่อสู้ระหว่างบรรดาอาวุธชีวภาพที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นกับผู้ที่มีพันธุกรรมเข้ากับที-ไวรัสอีกด้วย

ถ้าลองอ่านจากตรงนี้จะเห็นได้ว่าจะมีการล้อเลียน RE ในส่วนที่ว่า โนบิตะนั้นเป็นเด็กพิเศษเหมือนกับอัลเบิร์ท เวสเกอร์ ที่อยู่ในโครงการ The Wesker Children (แต่ถ้าเป็นซีรี่ย์นี้คิดว่าเป็นเวสเกอร์สาขาญี่ปุ่นที่มีนิสัยตรงกันข้ามกับป๋าเวสเกอร์ใน RE) เพื่อหาผู้ที่เหมาะสมโดยใช้การใช้ความเข้ากันของไวรัสอีกด้วย แล้วก็อาจจะเป็นตัวที่ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมในซีรี่ย์นี้ โนบิตะมันเก่งผิดมนุษย์!!!

หลังจากที่เล่าเรื่องตรงนี้จบลง โดเรม่อนกับชิสุกะยังบอกอีกว่า พวกเขายังได้จับไจแอนท์ คนที่คาดว่าเป็นตัวอันตรายที่จะพังแผนการของพวกเขาไปไว้ในคุกใต้ดินแล้วด้วย แถมยังวางกับดักไว้ในคุกที่ขังเขาไว้ซึ่งมีการนับเวลาถอยหลังเพื่อปล่อยอาวุธชีวภาพเคลเบรอสมาสังหารอีกต่างหาก



ไจแอนท์รับบทจิล วาเลนไทน์ ที่ถูกเวสเกอร์จับไปขังก่อนหน้าที่จะมาเปิดเผยตัวกับพวกคริสนั่นเองนั้น

หลังจากนั้นโดเรม่อนก็บอกกับชิสุกะว่า เขาจะขอกลับไปที่อัมเบรล่าก่อน..และฝากให้ชิสุกะพาโนบิตะไปหา 'เจ้าสิ่งนั้น' ด้วย


และก่อนที่จะเดินไป โดเรม่อนยังบอกด้วยความเสียดายประมาณว่า อยากเห็นการต่อสู้ระหว่างการผลงานจากที-ไวรัส ด้วยตาตัวเองจังเลยนะ  แต่ตนไม่มีเวลาจึงให้ชิสุกะเป็นคนฝากเก็บข้อมูลให้



หลังจากที่โดเรม่อนไปแล้ว ชิสุกะจึงพาโนบิตะมายังสถานที่แห่งหนึ่ง






เมื่อเข้ามาในห้อง  โนบิตะก็รู้สึกแปลกใจมากว่าห้องนี้มันห้องอะไรกันแน่...


ชิสุกะที่ยังเอาปืนจ่อโนบิตะอยู่จึงบอกให้เขามองเข้าไปในแคปซูลตรงหน้านั้น


ทันใดนั้นก็เกิดคัตซีนโนบิตะส่องมองสิ่งที่อยู่ในแคปซูล...




สิ่งที่อยู่ในแคปซูลนั้นคือ!!!!

อาวุธชีวภาพ T-002 ไทแรนท์ นั่นเอง!!!  และมันก็ได้ลืมตาแล้ว!!



โนบิตะรู้สึกตกใจมาก ซึ่งชิสุกะบอกว่า

"หุหุหุ มันน่ารักดีใช่ไหมล่ะ"

(คนเขียน : น่ารักมว๊ากกกกกก!!!!)


เธออธิบายว่า เจ้าสิ่งนี้คือต้นแบบสุดยอดอาวุธชีวภาพที่เกิดจากการทดลองซึ่งส่งตรงมาจากบริษัทแม่ของอัมเบรล่าที่อยู่ต่างประเทศนั่นเอง และสุดท้ายนี้เธอก็อยากจะเก็บข้อมูลการต่อสู้ระหว่างสุดยอดผลงานที-ไวรัสด้วยกัน ซึ่งก็คือ โนบิตะ กับ ไทแรนท์ ตัวนี้นั่นเอง


เธอจึงได้ทำการปล่อยไทแรนท์ตัวนี้ออกจากแคปซูลทันที


หลังจากที่มันเดินออกมาข้างนอกได้ ชิสุกะจึงสั่งให้มันจัดการกับโนบิตะซะ



แต่ดูเหมือนว่าเจ้าไทแรนท์ตัวนี้มันจะหันมาทางชิสุกะแทน..ทำให้เธอสงสัยพฤติกรรมของมัน..


และดูเหมือนว่ามันจะเดินเข้ามาหาชิสุกะเรื่อยๆแถมท่าทางมันก็ไม่ได้เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย เลยทำให้เธอรู้สึกกลัวมากขึ้น

"ดะ..เดี๋ยวสิ!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!  อย่าเข้ามา!!"



และทันใดนั้นเอง ไทแรนท์ก็ใช้กงเล็บของมันแทงทะลุร่างชิสุกะทะลุพร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็น


หลังจากนั้นมันจึงโยนร่างของชิสุกะทิ้ง พร้อมกับหันมาเล่นงานโนบิตะ!!!





การต่อสู้ระหว่างเด็กมนุษย์ที่มีร่างกายเข้ากับที-ไวรัสได้ กับสุดยอดอาวุธชีวภาพที่เกิดจากที-ไวรัส จึงได้เริ่มขึ้น!!!



เนื้อหาตรงนี้มาล้อเลียน RE1 ตรงฉากก่อนเริ่มการต่อสู้กับไทแรนท์นั่นเอง พอคริสลงมาจากลิฟต์ก็เจอเวสเกอร์ดักรออยู่แล้วล่อให้เขาเข้าไปในห้องที่ขังไทแรนท์จากนั้นเวสเกอร์ก็ได้ปล่อยไทแรนท์ออกมาต่อสู้กับคริสแต่ไทแรนท์นั้นไม่ฟังคำสั่งใครเลยฆ่าเวสเกอร์ก่อนที่จะหันมาเล่นงานคริส




อ่านบทความต่อไปได้ที่ >>  โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 7 - ตอนจบ]

แสดงความเห็นบน Facebook!

3 ความคิดเห็น :

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. อะไรมันจะหักมุม ขนาดนั้น โกงหมดเลย เดคิซุงิ โดเรมอน ซิสุกะ :/

    สุดท้ายก็หล่อคนเดียว อีก โนบิตะ :)

    ลบเพราะพิมเป็น ภาษา Eng ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นแหละที่เนื้อเรื่องภาคออริจินอลไม่ค่อยน่าปลื้มเท่าไหร่

      ลบ