" />

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]

 

บทความนี้เป็นเนื้อหาส่วนที่ 6 ของเนื้อเรื่องเกมโดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ดภาคมุดะนิไคโซวบัง ซึ่งควรจะอ่านเนื้อเรื่องส่วนที่ 5 ที่ โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5] มาก่อนหน้านั้นแล้ว

เนื้อหาส่วนที่ 6 จะเล่าเหตุการณ์ในส่วนของคลิปนี้..






เนื้อหาของส่วนนี้จะเริ่มกลับมาออกทะเลที่เป็นเนื้อเรื่องเสริมของโดจินที่มีเฉพาะในเกมอีกครั้ง ผู้อ่านหลายคนจะสามารถมองเห็นถึงเนื้อเรื่องส่วนเสริมที่อยู่นอกเหนือโดจินได้อีก แล้วก็ขออภัยที่คนเขียนกว่าจะเอามาลงก็ข้ามไปหลายวัน เพราะทางเราต้องเดินทางไปต่างจังหวัดทุกอาทิตย์เลยอาจจะลงช้าไปหน่อย


จิตใจที่เจ็บปวด


ความเดิมตอนที่แล้ว ชิรามิเนะได้ฝากให้เดคิสุงิช่วยไปสำรวจที่ห้องวิทยาศาสตร์ที่ชั้น 3  แทนเขาให้หน่อยพร้อมกับบอกกำชับว่าให้ระวังตัวด้วย หลังจากที่ชิรามิเนะกับเดคิสุงิได้ออกจากห้องไป โดราเอม่อนก็บอกกับโนบิตะว่าเขาจะอยู่ดูแลยาสุโอะให้เอง 




โนบิตะตัดสินใจที่จะตามไปสมทบกับเดคิสุงิจึงได้รีบออกจากห้องพยาบาล แล้วตามขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังชั้น 3 และทันทีที่โนบิตะก้าวขึ้นมาถึงทางเดินบนชั้น 3 เขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมาทางห้องวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ปรากฏว่าคนที่โทรมาหาเขาคือเดคิสุงินั่นเอง เขาพูดผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก

"โนบิตะคุง... ในห้องวิทยาศาสตร์ มีตัวอะไรบางอย่างอยู่จริงๆ!"



โนบิตะได้ยิงเสียงโครมคราม เสียงปืน และเสียงคำรามของตัวอะไรบางอย่างผ่านมาทางมือถือ ทำให้เขาเริ่มกังวลมากขึ้น ดูเหมือนว่าเดคิสุงิกำลังต่อสู้กับตัวอะไรบางอย่างในห้องวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งได้ยินเสียงสุดท้ายซึ่งก็คือเสียงกัดกระชากและเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของเดคิสุงิก่อนที่ สัญญาณโทรศัพท์จะหายไป  โนบิตะพยายามติดต่อกลับไปหาเดคิสุงิเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ โนบิตะจึงรีบมุ่งหน้าไปยังห้องวิทยาศาสตร์ทันที



ประตูใหญ่ของห้องวิทยาศาสตร์นั้นเขาไม่สามารถเข้าไปได้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้ประตูเชื่อมในห้องเก็บอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ในการเข้าไปแทน และทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เขาก็พบกับเดคิสุงิที่นอนจมกองเลือด



โนบิตะจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบว่าเดคิสุงินอนบาดเจ็บจมกองเลือดอยู่ข้างประตูเชื่อมที่ปิดอยู่อย่างแน่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว ทำให้โนบิตะรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย และมีความคิดด้านลบว่า บางทีเดคิสุงิอาจจะ...


สักพักเขาก็ได้ยินเดคิสุงิส่งเสียงร้องพร้อมกับเรียกชื่อเขาออกมา จึงทำให้โนบิตะโล่งอกขึ้นบ้างเพราะอย่างน้อยเดคิสุงิก็ยังไม่ตาย



แต่ถึงกระนั้นอาการบาดเจ็บของเดคิสุงินั้นก็เข้าขั้นสาหัส แถมยังมีบาดแผลจำนวนมากทางร่างกายด้วย ทำให้โนบิตะอดเป็นห่วงเดคิสุงิไม่ได้


เดคิสุงิพยายามบอกกับโนบิตะว่าข้างในนั้นมีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่อยู่ข้างใน


ทันใดนั้น โนบิตะก็นึกขึ้นได้ว่า อาจจะเป็นเจ้าตัวนั้น...เจ้ากิ้งก่ายักษ์ที่เขาเจอในโรงยิมครั้งแรกตอนนี้มันมาอยู่ที่ห้องวิทยาศาสตร์แล้ว



เดคิสุงิได้ย้ำเตือนกับโนบิตะว่าขอให้เขาระวังตัวด้วย เจ้านั่นน่ะแข็งแกร่งมาก เขายิงปืนพกใส่ไปตั้งหลายนัดยังทำอะไรมันไม่ได้เลย


โนบิตะจึงบอกว่าอย่าพึ่งห่วงเรื่องนั้นเลย เขาต้องหาทางพาเดคิสุงิออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่เขาจะทำได้ยังไง เพราะเขาคนเดียวตอนนี้คงจะไม่สามารถแบกร่างของเดคิสุงิวิ่งฝ่าฝูงซอมบี้ที่ยังเหลืออยู่ตามทางเดินของโรงเรียนได้


โนบิตะจึงได้ตัดสินใจโทรหาไจแอนท์เพื่อขอความช่วยเหลือ ไจแอนท์รู้สึกดีใจที่โนบิตะยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับบอกมาว่า เขาใกล้จะถึงโรงเรียนแล้ว (แสดงว่าเขายังไม่ได้อยู่ในโรงเรียน)




โนบิตะจึงรีบบอกกับไจแอนท์ว่า ขอให้เขารีบกลับเข้ามาในโรงเรียนให้ไวที่สุด และช่วยมาพาตัวเดคิสุงิที่อยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ชั้น 3 กลับไปห้องพยาบาลโดยด่วน  เพราะเดคิสุงิตอนนี้อาการสาหัสเป็นอย่างมาก


แต่ไจแอนท์บอกกับโนบิตะว่าให้อดทนรอไว้ก่อน พร้อมกับบ่นออกมาทางโทรศัพท์ว่า ไอ้พวกบ้านี่มันขวางทางเต็มไปหมดเลย ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนของไจแอนท์ดังมาทางโทรศัพท์




เสียงนั้นทำให้โนบิตะรู้ว่าตอนนี้ไจแอนท์กำลังต่อสู้อยู่ อีกทั้งไจแอนท์ก็ได้ปิดโทรศัพท์ไปแล้วด้วย ทำให้เขากังวลใจกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไจแอนท์คงมาช่วยไม่ได้แน่ๆ


แต่โชคยังดีที่ชิรามิเนะได้เปิดประตูห้องตามเข้ามาดูตามสถานการณ์พอดี


"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!? โนบิ! ไอ้หมอนี่ตายแล้วเรอะ?"

นั่นคือสิ่งที่ชิรามิเนะพูดขึ้นมาตอนเข้าในห้องครั้งแรก โนบิตะรู้สึกดีใจที่ชิรามิเนะมาหาพวกเขาได้ถูกเวลาแถมยังเรียกชื่อตัวเองได้ถูกต้องเสียที แต่ก็รู้สึกไม่ดีที่ดันพูดมาว่าเดคิสุงิตายแล้ว 



โนบิตะจึงรีบบอกแก้ให้ว่าเดคิสุงินั้นยังไม่ตาย แต่อาการของเขาสาหัสมาก เนื่องจากถูกสัตว์ประหลาดในห้องวิทยาศาสตร์ต้องรีบนำตัวไปรักษาที่ห้องพยาบาลโดยด่วน



ชิรามิเนะได้ยินดังนั้นจึงมั่นใจว่า ต้องมีอะไรบางอย่างที่อันตรายอยู่ในห้องวิทยาศาสตร์ตามที่เขาคิดไว้แน่ๆ เขาบอกให้โนบิตะคอยเฝ้าระวังอยู่แถวนี้ก่อน ส่วนเขาจะแบกร่างของเดคิสุงิไปที่ห้องพยาบาลเอง (เนื่องจากว่าชิรามิเนะคือนักเรียนรุ่นพี่ชั้นปี 6 ที่มีร่างกายแข็งแรงและตัวใหญ่พอสมควรทำให้เขาสามารถแบกร่างของเด็กนักเรียนที่เป็นรุ่นน้องกว่าได้สบาย)




แล้วก็ได้กำชับกับโนบิตะว่า อย่าแม้แต่คิดที่จะเข้าไปสำรวจในห้องวิทยาศาสตร์คนเดียวเป็นเด็ดขาด!


ว่าแล้ว ชิรามิเนะก็แบกร่างของเดคิสุงิลงไปที่ห้องพยาบาล (ดูในเกมแล้วเหมือนเก็บตัวละครใส่กระเป๋าเลย เหอๆๆๆๆ)


หากแต่ว่าตามเนื้อเรื่องในเกมนั้นโนบิตะจะไม่ฟังคำเตือนของชิรามิเนะจึงได้ตัดสินใจเข้าไปดูในห้องวิทยาศาสตร์ (เนื่องจากว่าเดคิสุงิใช้กุญแจเปิดประตูเข้าไปในห้องวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านั้นแล้วจึงทำให้โนบิตะเดินเข้าไปดูได้)


และที่แห่งนั้นเขาก็ได้พบกับกิ้งก่ายักษ์ไบโอเกลลัสที่เคยเจอที่โรงยิมอีกครั้ง





หลังจากที่รู้ตัวต้นเหตุ โนบิตะตัดสินใจที่จะปราบเจ้านี่ลงให้ได้เพื่อแก้แค้นให้เพื่อนๆของเขาที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสทั้งเดคิสุงิ ทั้งยาสุโอะ แถมมันยังเป็นคนที่ทำให้ฮารุโอะต้องตายด้วย


สำหรับโดจินนั้นจะมีเนื้อหาแตกต่างกับตัวเกมตรงที่ การต่อสู้กับกิ้งก่ายักษ์ที่ห้องวิทยาศาสตร์มันคือการต่อสู้ครั้งแรกของเขา หลังจากที่ได้พบกับโดราเอม่อนและยาสุโอะครั้งแรกเลย (ไม่มีการวิ่งไปเอายาให้ยาสุโอะ)








แต่การต่อสู้ในเกมนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโนบิตะเลย เพราะเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีผิวหนังที่หนาจนกระสุนปืนพกของโนบิตะไม่อาจจะทำอันตรายมันได้แม้แต่น้อย แถมยังมีความสามารถในการล่องหนและพลังความเร็วที่เหลือเชื่ออีกด้วย ทำให้โนบิตะไม่อาจจะเอาชนะมันได้ง่ายนัก



แล้วในที่สุดโนบิตะก็จะพลาดท่าและถูกมันทำร้ายจนเขาลอยกระเด็น ศีรษะไปกระแทกกับขอบโต๊ะและรู้สึกว่าสติของเขากำลังเลือนรางใกล้ที่จะหมดสติ  (ฉากจะเริ่มมืดลงเรื่อยๆที่มีบทพูดออกมาราวกับสติของตัวละครกำลังจะหายไป)



เขารู้สึกสมเพชในความอ่อนแอของตัวเองและเจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะแก้แค้นให้กับเพื่อนๆ  แถมคิดว่าตัวเองอาจจะต้องมาจบชีวิตตรงนี้เสียแล้ว และเริ่มนึกเสียใจที่ตัวเองไม่ฟังคำเตือนของรุ่นพี่ชิรามิเนะที่ห้ามเขาไม่ให้เข้ามาที่นี่เพียงคนเดียว

 ก่อนที่สติจะหมดไป เขาได้นึกถึงโดราเอม่อน พ่อ แม่ และคนอื่นๆที่สำคัญกับเขา  หลังจากที่เขาสลบไปแล้ว ก็จะมีเสียงร้องคำรามของกิ้งก่ายักษ์ดังก้องและเสียงกระจกหน้าต่างจำนวนมากได้แตกออก



เนื้อหาตรงนี้จะมีจุดร่วมจุดหนึ่งที่ยังคงเหมือนกับโดจินซึ่งก็คือ กิ้งก่ายักษ์นั้นเป็นสัตว์ประหลาดในโรงเรียนที่ร้ายกาจมากและไม่สามารถเอาชนะมันด้วยปืนพกธรรมดาได้ แต่ถ้าเป็นภาคโดจิน เจ้ากิ้งก่ายักษ์จะถูกโนบิตะจัดการภายในห้องวิทยาศาสตร์ด้วยปืนลูกซองเพื่อที่เรื่องจะได้ไม่ยืดมากนัก แต่ถ้าเป็นในเกมโนบิตะจะไม่สามารถเอาชนะได้และถูกทำร้ายจนสลบ





เวลาผ่านไปโนบิตะที่นอนสลบอยู่ก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้น


 เขาแปลกใจมากที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นสาเหตุใด? ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะว่า กิ้งก่ายักษ์เข้าใจว่าโนบิตะที่สลบอยู่ตายไปแล้วมันจึงหยุดโจมตีและหนีไปที่อื่นโดยการพังกระจกหนีออกไป แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายเป็นอย่างมาก


หลังจากนั้นเขาจึงได้สำรวจดูบนโต๊ะก็พบกับพาสโค้ดที่เป็น 1 ในไอเท็มที่เซย์นะเคยบอกว่าเป็นตัวปลดล๊อคระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางต่อไปยังเส้นทางภูเขาหลังโรงเรียนได้


และได้ลองสำรวจศพที่อยู่ในห้องนี้ดูก็ยังพบกับคีย์การ์ดใบสุดท้ายที่ใช้เปิดชัตเตอร์ทางขึ้นบันไดไปยังชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโรงเรียนอีกด้วย


หลังจากนั้นเขาก็พยายามฝืนสังขารลากตัวเองที่ยังบาดเจ็บอยู่เดินออกมาจากห้องวิทยาศาสตร์และดูเหมือนว่า เป็นโชคดีของเขาที่เพื่อนของเขารีบตามขึ้นมาหาโนบิตะพอดี จึงได้พาเขาลงไปที่ห้องพยาบาลชั้น 1 และโดราเอม่อนก็ช่วยปฐมพยาบาลเขาจึงหายกลับมาเป็นปกติ (โนบิตะแค่สลบไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเป็นแผลเหมือนเดคิสุงิหรือติดพิษเหมือนกับยาสุโอะเลยฟื้นตัวได้ไว แต่บางทีก็ไวจนน่าประหลาดเหมือนกัน?)  ที่ห้องนี้เราก็จะได้พบกับไจแอนท์และซูเนโอะอีกครั้งซึ่งพวกเขากลับมาพอดี



แล้วในตอนนั้นเองไจแอนท์ก็ทำสีหน้าโมโหแล้วพูดออกมาว่า..

"ให้ตายสิ โนบิตะ นายคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกไปเสี่ยงตายแบบนี้!!"




โนบิตะจึงกล่าวขอโทษและให้เหตุผลว่า ก็เพราะเจ้าสัตว์ประหลาดบ้านั่น มันทำให้คนอื่นบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมากแบบนี้ และถ้าหากไม่จัดการมันให้ได้พวกเขาก็จะไม่ปลอดภัยในการเดินทางต่อไปแน่ๆ ถ้าหากว่าจัดการมันได้ ทุกคนก็จะสามารถออกไปจากโรงเรียนนี้ได้อย่างปลอดภัย


ทันใดนั้นเองชิรามิเนะที่ยืนเงียบอยู่ก็ได้เดินเข้ามาหาโนบิตะพร้อมกับชกเข้าไปที่หน้าของเขาอย่างแรง
พร้อมกับตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด

"อย่ามาพูดบ้าๆนะ โนบิ!!! ฉันไม่ได้บอกนายหรือไงว่าห้ามไปเผชิญหน้ากับเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นคนเดียว!!!!"


การกระทำของชิรามิเนะนั้นทำให้คนอื่นรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม

"คุณชิรามินะ" ซูเนโอะเอ่ยออกมา



"เพื่อให้คนอื่นปลอดภัยงั้นเหรอ.. นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นายออกไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นงั้นเหรอ มันงี่เง่าสิ้นดี!!! นายไม่สนใจหรือไงว่าเพื่อนของนายคนอื่นเขาจะรู้สึกยังไงเมื่อนายไปเสี่ยงตายแบบนั้น" ชิรามิเนะได้ต่อว่าโนบิตะอีก ซึ่งทำให้โนบิตะได้สติกลับคืนมาว่าเขาไม่ควรจะทำอะไรแบบนั้น เขาทำไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นของตัวเองและพยายามหาข้ออ้างอื่นๆ แต่สิ่งนั้นมันก็ยิ่งทำให้เพื่อนของเขาเป็นห่วงมากขึ้นแถมยังทำให้ตัวเองต้องเสี่ยงตายอีกด้วย จากนั้นชิรามิเนะจึงได้กำชับกับโนบิตะอีกครั้งว่า...

"สัญญากับฉันสิ โนบิ....นายห้ามทำแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 นะ"


โนบิตะจึงเอ่ยคำว่า "ครับ" ออกมา



หลังจากที่เรื่องวุ่นวายสงบลง โดราเอม่อนจึงบอกว่า โชคดีมากที่ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันแล้ว ซึ่งเป้าหมายต่อไปของพวกเขาคือ ต้องไปช่วยเซย์นะกับชิสุกะที่ติดอยู่ในห้องกลางดงซอมบี้นั่นเอง


ไจแอนท์บอกว่าแค่ตัวเขากับซูเนโอะไปกัน 2 คนก็พอแล้ว




อีกทั้งเขายังให้เหตุผลสนับสนุนอีกว่า พวกเขาสองคนรู้จักทางหนีทีไล่บริเวณที่เซย์นะกับชิสุกะซ่อนตัวอยู่พอดี การที่เขาไปแค่สองคนจะไปช่วยได้เร็วกว่า


ไจแอนท์จึงได้ฝากให้ทั้ง 3 คน ซึ่งได้แก่โดราเอม่อน โนบิตะ และชิรามิเนะ ฝากดูแลยาสุโอะ กับเดคิสุงิ ที่ยังไม่ฟื้นในห้องพยาบาลด้วย


โนบิตะจึงได้รับปาก


แต่ก่อนที่ไจแอนท์จะไป เขาก็ย้ำกับโนบิตะอีกครั้งว่า... จะทำอะไรคราวหน้าก็ช่วยคิดให้มันรอบคอบกว่านี้หน่อย



โนบิตะก็เข้าใจถึงสิ่งที่ไจแอนท์พูด




หลังจากที่ไจแอนท์กับซูเนโอะออกไป โนบิตะจึงขออนุญาตโดราเอม่อนกับชิรามิเนะออกจากห้องเพื่อที่จะนำคีย์การ์ดที่เขาได้ เปิดตัวควบคุมชัตเตอร์ให้ขึ้นไปยังอาคารชั้น 4 ได้


โดราเอม่อนกับชิรามิเนะเห็นดังนั้น ก็พอที่จะอนุญาตให้ไปได้ แต่โดราเอม่อนก็ได้ย้ำอีกครั้งว่า อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายแบบเมื่อกี้อีกนะ


และยังให้เหตุผลว่า ถ้าหากนายตายไป เซวาชิที่เป็นคนส่งโดราเอม่อนมาก็จะไม่มีตัวตนด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลไปถึงการที่โดราเอม่อนนั้นจะไม่มีวันได้มาหาโนบิตะด้วยนั่นเอง




โนบิตะได้กล่าวขอบคุณโดราเอม่อนอีกครั้งที่ช่วยเตือนเขา



หลังจากนั้นโนบิตะจึงได้เข้าไปคุยกับชิรามิเนะ ซึ่งเขาก็บอกปัดว่า ถ้าหากโนบิตะคิดจะทำอะไรที่มันเสี่ยงตายบ้าๆอีกล่ะก็ เขาจะขังโนบิตะไว้ในห้องนี้ซะเลย


หลังจากนั้นโนบิตะจึงเดินมาที่ห้อง รปภ. เพื่อใช้คีย์การ์ดที่ใช้ในการเปิดชัตเตอร์ทางเดินขึ้นไปยังอาคารเรียนชั้น 4


เมื่อโนบิตะขึ้นมาบนอาคารเรียนชั้น 4 ก็พบว่า สภาพของอาคารนี้ไม่ต่างกับชั้นที่ผ่านมามากนัก เพราะมีแต่ซากศพเต็มไปหมด


เขาจึงเดินไปสำรวจแถวๆล็อคเกอร์และได้กุญแจห้องแนะแนวที่แขวนอยู่บนผนังตู้มาดอกหนึ่ง


ทันทีที่เขาหยิบกุญแจ เขาก็แทบตกใจที่จู่ๆมีศพของคุณครูที่เต็มไปด้วยบาดแผลอันน่าสยดสยองได้ร่วงออกมาจากตู้ที่อยู่ข้างๆลงมานอนกองบนพื้น



และยังไม่ทันที่เขาจะเดินกลับลงไปยังบันไดชั้นล่าง ปรากฏว่าศพที่โผล่พรวดมาจากตู้ล๊อคเกอร์และศพอื่นๆที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ได้ลุกขึ้นมากลายเป็นซอมบี้พร้อมกับเข้าไปเล่นงานเขา ทำให้โนบิตะต้องหนีกลับไปยังชั้น 3 แล้วค่อยเข้าไปสำรวจที่ชั้น 4 ในอีกฝั่ง



บริเวณที่อาคารเรียนชั้น 4 ในอีกฝั่งเขาได้ลองสำรวจลึกเข้าไปในตัวอาคาร ก็พบซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังแทะศพของกลุ่มเด็กที่อยู่มุมห้องอย่างเอร็ดอร่อย และหันมาทางเขาเพื่อที่จะเล่นงานเขา

 
เขาจึงใช้ปืนจัดการซอมบี้ตัวนั้นได้สำเร็จ


แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่ว่า ซอมบี้ที่เขาจัดการไปแล้วนั้นกลับเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา!!! (ซึ่งไม่ระบุแน่ชัดว่าเป็นใคร)



ทำให้เขารู้สึกช๊อคและตกใจมากที่พึ่งรู้ว่าเขาพึ่งจะยิงเพื่อนของตัวเองไป..เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเรื่องแบบนี้มันถึงได้เกิดขึ้นได้ ทำไมเพื่อนและแม่ของเขาต้องกลายเป็นพวกซอมบี้




 แล้วพอเข้าไปดูในบริเวณศพที่ซอมบี้เมื่อสักครู่กัดกินอยู่ก็ต้องช็อค

"โหดร้ายที่สุด.....ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้"


คนที่อยู่ตรงมุมห้องนั้น คือคนที่เขารู้จักดี เพราะคนพวกนี้ทั้งหมดคือเพื่อนร่วมห้องของโนบิตะทั้งสิ้น!!!! เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมมันถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้กับเพื่อนของเขา


โนบิตะไม่อาจจะช่วยอะไรพวกเขาได้แล้ว และทางเดินที่อยู่บนชั้น 4 เขาก็สำรวจหมดแล้วด้วย เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปรวมกลุ่มที่ห้องพยาบาล แต่ก่อนหน้านั้นโดราเอม่อนได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาโนบิตะเสียก่อน ซึ่งเขาบอกมาว่า ตอนนี้เดคิสุงิเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้พวกไจแอนท์ก็ได้เข้าไปช่วยเซย์นะกับชิสุกะออกมาแล้วด้วย



ส่วนยาสุโอะนั้นก็ได้รู้สึกแล้ว และคิดว่าเดคิสุงิคงจะหายดีในไม่ช้า





เมื่อได้ยินข่าวดีเช่นนั้น โนบิตะก็รู้สึกดีใจด้วย




โดราเอม่อนยังพูดเสริมอีกว่า ทีนี้ก็เหลือแค่รอให้โนบิตะกลับมาเพราะว่าตอนนี้พวกเขายังขาดไอเท็มอย่างหนึ่งที่โนบิตะพกติดตัวอยู่ซึ่งก็คือคีย์การ์ดที่ใช้ปลดล็อคประตูที่เปิดเส้นทางไปยังภูเขาหลังโรงเรียนนั่นเอง


โนบิตะจึงบอกว่า เดี๋ยวจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้




แต่ยังไม่ทันทีโนบิตะจะเดินกลับลงไปจากชั้น 4 เขาก็ได้ยินเสียงร้องครางดังมาจากข้างหลังเขา และพอเขาหันกลับไปมองก็พบว่า ศพเพื่อนของเขานั้นจู่ๆก็ได้ลุกขึ้นมาในสภาพซอมบี้แล้ว เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่า เพื่อนของเขาได้กลายเป็นพวกเดียวกับเจ้าพวกนั้น

"โกหกน่ะ...ไม่จริงใช่ไหม?"



เพื่อนของเขาที่กลายเป็นซอมบี้ได้เดินเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ โนบิตะไม่อาจจะเชื่อสิ่งที่ตาของเขาเห็นได้

"นี่มันฝันร้ายชัดๆ"

เขาไม่อยากเชื่อเลย...พวกซอมบี้หรือสัตว์ประหลาดที่ผ่านๆมา.. พวกเขาเคยเป็นคนที่โนบิตะรู้จักมาก่อนงั้นหรือ? ทำไม พอถูกกัดแล้ว พวกเขาก็กลายเป็นแบบนี้งั้นหรือ? โนบิตะจะพยายามเดินถอยห่างออกมา  ในครั้งนี้เขาไม่กล้าชักปืนยิงออกมา... เขาพยายามเรียกสติของเพื่อน

"ได้โปรด อย่าเข้ามา"

เขาเกิดความรู้สึกลังเล และไม่กล้า... เขาไม่อาจจะยิงเพื่อนของตัวเองได้


ทันใดนั้นเองก็มีกระสุนวิ่งทะลุเข้าที่หน้าผากซอมบี้อดีตเพื่อนของโนบิตะอย่างแม่นยำ


ซึ่งนั่นเป็นฝีมือของชิรามิเนะที่ตามโนบิตะขึ้นมายังชั้น 4 นั่นเอง

"ไม่เป็นไรใช่ไหม? โนบิ"


"ผมไม่เป็น ผมไม่เป็นไร แต่.."

โนบิตะยังไม่อาจจะละสายตาจากเพื่อนของเขาที่พึ่งถูกยิงไปได้



เมื่อได้เห็นท่าทีของโนบิตะ ชิรามิเนะเองก็พอเข้าใจสิ่งที่น่าจะมีความเป็นไปได้  เขาไม่เคยเห็นโนบิตะมีความลังเลขนาดนี้มาก่อน และดูจากสภาพนิสัยของโนบิตะแล้ว เขาจึงเอ่ยออกมาว่า..

"คนพวกนี้...คงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องของนายสินะ.."


สิ่งที่โนบิตะตอบกลับมาคือความเงียบพร้อมกับสีหน้าที่เศร้าหมอง ทำให้ชิรามิเนะรู้ว่าตัวเองคิดถูก



"คุณชิรามิเนะ...ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ได้"

โนบิตะได้ถามชิรามิเนะ


"ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือเพื่อนของผม ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้!!"


"ฉันเองก็ไม่รู้......ฉันเองก็อยากจะตื่นจากฝันร้ายนี่..."

ชิรามิเนะเองก็ไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกับโนบิตะมากนักที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แล้วก็สังเกตเห็นว่าโนบิตะเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา


"หลายครั้งฉันเองก็อยากร้องไห้"  ชิรามิเนะพยายามหาคำพูดปลอบใจโนบิตะ เขาเองก็คงผ่านเรื่องอะไรที่เลวร้ายมาเหมือนกัน


ทันใดนั้น ชิรามิเนะเองก็เปลี่ยนน้ำเสียงกะทันหันพร้อมกับบอกว่า ร้องไห้เสียใจไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ ในตอนนี้เรามีสิ่งสำคัญกว่าที่จะต้องทำนั่นคือกลับไปรวมกับพวกยัยเซย์นะแล้วช่วยกันเอาตัวรอดจากที่นี่ให้ได้ก่อน


โนบิตะเห็นด้วยกับสิ่งที่ชิรามิเนะพูดจึงได้สงบจิตใจ แล้วตามชิรามิเนะกลับไปรวมกลุ่มกันที่ห้องพยาบาลอีกครั้งซึ่ง พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะหนีออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้แล้ว



จบสำหรับบทความนี้....

- ในเนื้อหาโดจินจะตัดเนื้อเรื่องส่วนนี้ออกไปค่อนข้างมาก สิ่งที่ใกล้เคียงเล็กน้อยตรงนี้คือตอนที่โนบิตะบอกกับเซย์นะว่าเขาไม่กล้ายิงเพื่อนตัวเอง



- ถ้าเป็นรูปแบบของเนื้อเรื่องในเกมจะเห็นว่า เนื้อเรื่องของตัวประกอบอย่างรุ่นพี่ชิรามิเนะนั้นมีบทเยอะมากถึงมากที่สุด!!!! และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของโนบิตะมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งในโดจินนั้นค่อนข้างทำแบบรวบรัดตรงและก่อให้เกิดความรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่ว่า ทำไมโนบิตะถึงทำใจกับเรื่องแบบนี้ได้เร็วมากเว่อร์  แต่ถ้าเป็นเนื้อเรื่องในเกมจะเห็นถึงลำดับความเติบโตการพัฒนาทางจิตใจของโนบิตะไปทีละเล็กละน้อย

- เนื้อเรื่องในเกมบทนี้จะมีการเปิดเผยให้เห็นว่า โนบิตะเริ่มช็อกเมื่อได้รู้ว่า คนรู้จักที่ถูกซอมบี้กัดเข้าไปจะตายและกลายเป็นซอมบี้ต่อนั้นพึ่งปรากฏเอาในบทความนี้ แต่ถ้าเป็นในโดจินจะเปิดเผยเนื้อหารูปแบบนี้ตอนที่เจอตำรวจที่ให้ปืนมาตอนแรกเลย





- จากที่สรุปโดยรวมย่อยๆจะเห็นว่า เกร็ดเล็กน้อยที่เป็นเนื้อหาเล็กๆรวมกันในบทความตรงนี้นั้น คนที่เขียนโดจินจะมีการปรับปรุงเนื้อเรื่องใหม่แล้วใส่ไว้ในรายละเอียดของโดจินย่อยๆนั้นเลย ซึ่งทางเราอยากจะให้คนอ่านได้รู้จักเนื้อหาส่วนที่แตกต่าง จึงเสนอเนื้อเรื่องรูปแบบเกมเอาไว้

- บทในเกมชิรามิเนะโคตรเด่น แต่ทำไมทางคนทำเกมไม่ทำให้แม้แต่รูป Avatar ของพี่แกก็ไม่รู้ - -?
 ในโดจินเลยไม่มีตัวละครชิรามิเนะไปโดยปริยาย

- ในบทนี้จะเผยให้เห็นความรู้สึกเบื้องลึกภายในจิตใจของโนบิตะเป็นอันมาก และดูเหมือนว่าคนที่ดูขี้ขลาดอย่างโนบิตะนั้นกลับเข้มแข็งขึ้น(จนบางทีออกแนวบุ่มบ่าม)มากเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนๆของเขา และเห็นได้ว่าเขานี่แหละที่มีนิสัยสมกับเป็นสุดยอดพระเอกอย่างแท้จริง นั่นคือการเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นเขาก็อาจจะลืมนึกถึงสิ่งที่คนอื่นนึกถึงตนด้วยเช่นกัน..





ท่านสามารถอ่านบทความตอนต่อไปได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 7]

แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น