โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Original + Remake [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]
ศึกสุดท้าย
การต่อสู้ระหว่างโนบิตะ เด็กชายผู้ที่มีพลังของที-ไวรัสอยู่ในร่างจนทำให้ตัวเองมีทักษะความแม่นยำและสัญชาติญาณการต่อสู้สูงขึ้น กับไทแรนท์ T-002 สุดยอดอาวุธชีวภาพที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังและความดุร้ายจึงได้เริ่มต้นขึ้นโนบิตะต่อสู้กับไทแรนท์ด้วยความยากลำบาก ถึงแม้ว่าตนเองจะมีสมรรถภาพทางด้านกายภาพสูงขึ้นเนื่องด้วยพลังจากที-ไวรัส (แบบอ่อน)ที่อยู่ในร่าง แต่ก็เพิ่มได้เพียงพลังสมาธิ ความแม่นยำ และซิกส์เซ้นส์ในการเอาตัวรอดเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มพละกำลังและความเร็วจำนวนมหาศาลแบบไทแรนท์แต่อย่างใด แต่ผนวกกับความสามารถในการยิงปืนที่ยิงได้อย่างแม่นยำเข้าจุดตาย ผนวกกับการหลบหลีกที่มีความเร็วมากขึ้นจนรอดพ้นขีดอันตรายได้บ้าง ทำให้โนบิตะสามารถเอาชนะไทแรนท์ได้
หลังจากเอาชนะไทแรนท์ได้ โนบิตะจึงไปสำรวจร่างของชิสุกะปรากฏว่าเธอตายแล้ว เขาไม่อาจจะช่วยอะไรได้เลย เขาจึงเดินออกจากห้องทดลองเพื่อตามหาเพื่อนๆคนอื่นๆ โดยเฉพาะไจแอนท์ที่โดนโดราเอม่อนกับชิสุกะจำไปขังไว้ในห้องขัง
แต่ทันทีที่โนบิตะเดินออกมา เสียงสัญญาณเตือนภัยของห้องทดลองจึงได้ดังก้องไปทั่วทุกที่พร้อมกับแจ้งเตือนระบบการทำลายตัวเองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สถานที่แห่งนี้จะถูกทำลายในไม่ช้า พร้อมกับมีคำสั่งอพยพให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่รถไฟลี้ภัยชั้นใต้ดินข้างล่าง
โนบิตะคาดเดาว่านี่ต้องเป็นฝีมือของโดเรม่อนแน่ๆที่คิดจะกำจัดตนและพวกเพื่อนทั้งหมด
หลังจากนั้นทางซูเนโอะก็โทรศัพท์มาหาโนบิตะเพื่อบอกข่าวเกี่ยวกับการทำลายตัวเองของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งซูเนโอะบอกว่าเขากำลังจะเส้นทางหนีบริเวณรถไฟใต้ดินที่มีไว้สำหรับหนีที่ชั้นล่างสุดไว้ให้แล้วขอให้พวกโนบิตะรีบตามมาด่วน
แต่โนบิตะบอกซูเนโอะว่าเขาจะต้องไปช่วยไจแอนท์ที่อยู่ในห้องขังออกมาก่อน แล้วฝากหน้าที่ในการเตรียมรถไฟสำหรับหนีไว้ให้ซูเนโอะ
โนบิตะตามหาห้องขังของไจแอนท์ได้อย่างยากลำบากเพราะว่าเวลานั้นมีจำกัด แต่โชคดีที่ได้เจอกับทาโร่ เด็กที่ไจแอนท์ดูแลอยู่กลางทาง ซึ่งเขาได้บอกว่า ก่อนที่พี่ทาเคชิ (ไจแอนท์) จะถูกจับไปเขาได้หนีออกมาก่อน แล้วบอกว่าพี่ทาเคชินั้นอยู่ในห้องขังชั้น B3 ขอให้พี่โนบิตะรีบไปช่วยด่วน
โนบิตะขอให้ทาโร่ไปรอไว้ที่ทางขึ้นลิฟต์ ส่วนตนนั้นจะไปช่วยไจแอนท์เอง ซึ่งทาโร่ก็รับคำแล้วในที่สุดโนบิตะก็พบกับไจแอนท์ที่ห้องขังชั้น B3 ห้องในสุด
ไจแอนท์บอกว่าจะช่วยเขาออกไปได้นั้นจะต้องใส่รหัสที่มีรูปแบบพัซเซิล (Puzzle) ที่แผงควบคุมด้านขวาข้างนอก
"ตรงนี้ใช่ไหม"
หลังจากนั้น โนบิตะก็ได้ยินเสียงลิฟต์บางอย่างกำลังเคลื่อนไหว ไจแอนท์บอกว่า มันเป็นลิฟต์ที่ขังพวกเคลเบรอสจำนวนมากไว้และมันกำลังจะถูกปล่อยเข้ามาในห้องของเขา ขอให้โนบิตะรีบแก้พัซเซิลเพื่อช่วยเขาออกไปโดยด่วน
ภารกิจช่วยชีวิต 5 แก้ปริศนาช่วยไจแอนท์
การช่วยชีวิตเพื่อนครั้งนี้อาจจะเรียกได้ว่ายากที่สุดก็เป็นได้ เพราะต้องใช้สมองในการแก้ปริศนาพัซเซิล แล้วต้องทำในวลาจำกัดด้วย โดยมีเวลาจำกัด 1 นาที (60 วินาที) ซึ่งจะมีเลขปรากฏที่มุมขวาบนวิธีแก้ปริศนาคือจะต้องทำให้ปุ่มทั้ง 9 ปุ่ม นี้เป็นสีเหลืองทั้งหมด
วิธีเล่นคือ เมื่อเลือกกดปุ่มใดปุ่มหนึ่ง ปุ่มนั้นและปุ่มทั้ง 4 ทิศรอบข้าง (บน-ล่าง-ซ้าย-ขวา) จะเปลี่ยนเป็นสีตรงข้ามกับที่มันเป็น ตัวอย่างเช่น จากรูปข้างบน ถ้าเราเลือกกดปุ่มที่ 3 แถวบน (ซ้ายไปขวา) ปุ่มที่กดที่เคยเป็นสีเหลืองจะกลายเป็นสีดำ และปุ่มที่อยู่รอบข้าง (ทางซ้าย-ล่าง) ที่เคยเป็นสีดำจะกลายเป็นสีเหลือง ดังรูปข้างล่าง
จะต้องแก้พัซเซิลให้ปุ่มทุกปุ่มเป็นสีเหลืองทั้งหมด ซึ่งโนบิตะสามารถแก้ได้ทันเวลา
หลังจากที่แก้ได้ทันเวลา ไจแอนท์จะรีบออกมาจากห้องและปิดประตูทันที ซึ่งตนบอกว่าเกือบไปแล้ว และได้ขอบคุณกับโนบิตะเป็นการใหญ่ โนบิตะกับไจแอนท์จึงต้องรีบกลับไปสมทบกับพวกซูเนโอะโดยเร็ว
โนบิตะกับไจแอนท์ได้เดินมาตามทางจนถึงลิฟต์ที่หมายซึ่งทาโร่ได้รอก่อนอยู่แล้ว พวกเขาทั้งสามจึงกดลิฟต์ลงไป แต่ทันทีที่กดลิฟต์ ก็มีเสียงประกาศจากทางระบบว่า ระบบจะทำลายตัวอาคารภายในเวลา 5 นาที (มีเวลานับถอยหลังที่มุมขวาบน)
เมื่อถึงชั้นล่างก็พบว่าซูเนโอะกับเซย์นะได้รอพวกโนบิตะอยู่แล้ว
ซึ่งทาเคชิกับทาโร่ก็ได้รีบขึ้นไปก่อน หลังจากนั้นซูเนโอะจึงบอกให้โนบิตะกับเซย์นะรีบตามเขาขึ้นไปทันที แต่หลังจากที่ซูเนโอะขึ้นรถไฟไปแล้วและเซย์นะกำลังจะเดินตามขึ้นไป ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับมีอะไรบางอย่างพังทลายลงมาทำให้เซย์นะสะดุดหกล้ม
โนบิตะจึงรีบเข้าไปดูอาการของเซย์นะ แต่เซย์นะบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แค่หกล้มเล็กน้อย แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เกิดแรงสั่นสะเทือนนั้นทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของตัวรถไฟทำงาน จึงทำให้ประตูที่เทียบชานชลาปิดล๊อคโดยอัตโนมัติ
ทำให้เซย์นะกับโนบิตะตกตะลึงกันถ้วนหน้าอีกทั้งเพื่อนข้างในยังไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้อีกด้วย
ทันใดนั้นเอง เพดานของชานชลาก็ถล่มลงพร้อมกับการปรากฏตัวของไทแรนท์อีกครั้ง
ไทแรนท์ตัวนี้คือตัวที่โนบิตะจัดการลงไป ซึ่งมันยังไม่ตายและไล่ตามโนบิตะมาเพื่อล้างแค้น เซย์นะรู้สึกตกใจมากและสงสัยว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่?
โนบิตะจึงได้ออกมายืนประจัญหน้ากับมัน เขาบอกว่าไว้ค่อนอธิบายทีหลังว่ามันคืออะไร และเห็นทีจะต้องจัดการมันที่นี่ก่อนที่จะขึ้นรถไฟเสียแล้ว ไม่งั้นมันคงตามพวกเขามาแน่
เซย์นะเห็นด้วย จึงได้หยิบปืนพกขึ้นมาพร้อมกับตั้งท่าต่อสู้ร่วมกับโนบิตะ
"อีกสัก 1 นัดเป็นยังไงคะ คุณสัตว์ประหลาด"
โนบิตะกับเซย์นะจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้กับไทแรนท์
ภารกิจเอาชีวิตรอดพร้อมช่วยชีวิตครั้งสุดท้ายร่วมมือกับเซย์นะปราบไทแรนท์ให้ได้! โดยระวังอย่าให้เซย์นะตาย!
การต่อสู้กับไทแรนท์ครั้งนี้ โนบิตะจะต้องคอยระวังมากเพราะว่า มันได้เพิ่มท่าวิ่งเข้ามาใช้ในการต่อสู้ด้วยทำให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว และการต่อสู้ร่วมกับเซย์นะนั้นถึงแม้ว่า เธอจะช่วยทำความเสียหายให้ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้มันเข้าไปเล่นงานเธอด้วย ซึ่งการต่อสู้นี้ โนบิตะจะต้องพยายามดึงไทแรนท์ไว้ไม่ให้พุ่งไปที่ตนเองหรือเซย์นะมากเกินไป และการโจมตีของมันนั้นมีโอกาสที่จะโจมตีทีเดียวตายได้ โดยเฉพาะเซย์นะซึ่งอาจจะถูกท่าโจมตีทีเดียวตายโดยไม่ทันตั้งตัวดังรูปข้างล่าง ซึ่งเป็นท่าแทงงัดขึ้นทำให้เป้าหมายถูกแทงแล้วยกขึ้นมาตายทันทีก่อนปล่อยลงพื้นหลังจากที่โนบิตะกับเซย์นะสร้างความเสียหายให้ไทแรนท์เป็นระยะช่วงเวลาหนึ่งปรากฏว่า มันไม่เป็นอะไรเลย ถ้าหากไม่มีอาวุธที่แรงกว่านี้มาใช้ พวกเขาคงจัดการมันไม่ได้แน่ๆ แต่ทันใดนั้นซูเนโอะก็ปรากฏตัวขึ้นบนหลังคารถไฟพร้อมกับโยนของสิ่งหนึ่งวางไว้บนชานชะลา
"โนบิตะ ใช้เจ้านี่จัดการมันซะ..!"
โนบิตะจึงเดินเข้าไปเก็บก็พบว่ามันคือเครื่องยิงจรวด
"ร็อคเก็ตลันเชอร์ (Rocket Launcher)" นั่นเอง ซึ่งโนบิตะจะต้องใช้เจ้าอาวุธชิ้นนี้ในการปราบไทแรนท์ให้ได้ ซึ่งต้องระวังในเรื่องของการตั้งท่ายิงด้วย เพราะว่าการตั้งท่ายิงของอาวุธชนิดนี้ใช้เวลานานมาก แต่ถ้าสามารถยกมันขึ้นมาได้ก็ให้ใช้มันยิงใส่ไทแรนท์ กระสุนร็อคเก็ตลันเชอร์สามารถระเบิดร่างของไทแรนท์ให้แตกกระจายได้ภายในนัดเดียว
หลังจากที่เอาชนะไทแรนท์ได้ โนบิตะกับเซย์นะก็ได้ขึ้นรถไฟพร้อมกับหนีออกมาได้ทันเวลา
หลังจากที่ขึ้นรถไฟได้ พวกเขาทั้ง 4 ก็ได้นั่งคุยกัน
"จบแล้วสินะ"
โนบิตะเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับบอกว่าอย่างน้อยเขาก็ช่วยได้พวกเพื่อนได้หลายคน
แต่ดูเหมือนทางซูเนโอะกับเซย์นะเองจะยังคงรู้สึกกังวลและคิดถึงอนาคตต่อไปว่า เราจะเอายังไงกันต่อดี เราสูญเสียเพื่อนและคนอื่นๆไปมากแล้ว แล้วจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้หรือเปล่า
ซึ่งท่าทางของทั้งสองคนทำให้ไจแอนท์หัวเสียและตะโกนว่า เรื่องพวกนั้นเอาไว้คิดทีหลังไม่ได้หรือไง!! อย่างน้อยพวกเราก็ยังรอดชีวิตและมีวันพรุ่งนี้อยู่อีกนะ!!
หลังจากนั้นโนบิตะจึงได้เอ่ยปากพูดออกมาว่า..
"ใช่ อย่างที่ไจแอนท์พูดนั่นแหละ เราต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป แถมเรายังต้องมีเรื่องที่ต้องสะสางด้วย เราจะไปที่นั่นกัน"
ทุกคนจึงถามโนบิตะว่าไปที่ไหน
โนบิตะจึงบอกว่าแน่นอน..
"เราจะไปที่อัมเบรล่ากัน"
จะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องในบทนี้จะอ้างอิงมาจาก RE1 [90%] และ RE2 [10%] ผสมกัน โดยเนื้อหาหลักจะเป็นของ RE1 นั่นคือหลังจากที่คริสโค่นไทแรนท์ในห้องทดลองแล้ว เขาจึงได้กลับไปหารีเบคก้าให้รอที่ลิฟต์ หลังจากนั้นเขาจึงลงไปช่วยจิลที่อยู่ในห้องขัง และช่วงนั้นเองที่สัญญาณเตือนภัยระเบิดตัวเองได้ทำงาน แบรดที่เป็นนักบินก็ได้ติดต่อมาหาคริสว่าเขากำลังจะเตรียมทางหนีให้
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์
ทาโร่ รับบท รีเบคก้า แชมเบอร์
ไจแอนท์ รับบท จิล วาเลนไทน์
ซูเนโอะ รับบท แบรด วิคเกอร์
ตามคลิปนี้
พอลงไปช่วยจิลเสร็จ ทุกคนก็ได้มารอที่ทางหนี ซึ่งตรงทางหนีนี้ถ้าเป็น RE 1 จะเป็นเฮลิคอปเตอร์ แต่ตรงนี้จะประยุกต์ใช้เนื้อเรื่องของ RE2 แทน คือจะเป็นการเตรียมทางหนีโดยรถไฟ (แต่ก็เจอไทแรนท์เหมือนกันแต่ม่ใช่ ไทแรนท์ T-002) และไทแรนท์จะกระโดดลงมาข้างล่างไม่ใช่ขึ้นข้างบนแบบ RE1 แถมธีมเพลงในเกมโนบิตะตอนสู้กับไทแรนท์ครั้งสดท้ายก็ใช้ ธีมของ RE2 ด้วย
หลังจากที่ทางหนีได้เปิดออกแล้วปรากฏว่า ไทแรนท์ T-002 ที่คริสจัดการไปดันตามมันขึ้นมา จิลกับรีเบคก้าที่ตามมาทีหลังก็ช่วยกันสู้ แต่จิลถูกตีสลบไปก่อนทำให้คริสกับรีเบคก้าต้องช่วยกันสู้ โดยการต่อสู้นี้คริสต้องระวังไม่ให้รีเบคก้าตายด้วย และต่อสู้จนกระทั่งแบรด คนขับเฮลิคอปเตอร์ได้ส่งร็อคเก็ตลันเชอร์มาให้คริสใช้ส่งไทแรนท์ลงนรกก่อนที่จะขึ้นยานพาหนะหนีระเบิดทำลายตัวเองได้ทัน
โนบิตะ รับบท คริส เรดฟิลด์
เซย์นะ รับบท รีเบคก้า แชมเบอร์
====================== จบเกม =======================
อ่านบทความวิเคราะห์ภาพรวมต่อได้ในนี้ >> บทวิเคราะห์ส่วนตัวของโนบิตะตะลุยซอมบี้ภาคออริจินอล + รีเมค
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น