" />

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11]

แน่นอนว่าขึ้นเนื้อเรื่องส่วนที่ 11 ต้องเคยอ่านเนื้องส่วนที่ 10 มาก่อน
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 10]

มุ่งหน้าสู่ทางลับชั้นใต้ดิน


ความเดิมตอนที่แล้ว เซย์นะกับเคนจิได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจนกระสุนหมด เธอจึงต้องหาอาวุธป้องกันตัวจากสัตว์ประหลาดอีกตัวที่บุกเข้ามา ซึ่งเหลือเพียงแค่มีดเล่มเดียวเท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง เจ้าสัตว์ประหลาดก็ถูกใครบางคนยิงใส่หัวและหน้าท้องพร้อมกัน





คนที่เข้ามาช่วยเซย์นะไว้ก็คือไจแอนท์กับซูเนโอะ พวกเขาต่างปรากฏตัวพร้อมกับอาวุธที่รุนแรงทั้งคู่ ไจแอนท์ใช้ปืนลูกซอง ส่วนซูเนโอะใช้ปืนไรเฟิล** ซึ่งพวกเขาได้มันจากการที่พบคลังอาวุธในบ้างพักโดยบังเอิญนั่นเอง

**อันที่จริง ปืนไรเฟิลของซูเนโอะนั้นเขาได้มาตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาในโรงเรียนแล้ว ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคซูเนโอะ



"ทะ...ทาเคชิคุง  ซูเนโอะคุง"  เซย์นะเอ่ยชื่อทั้งคู่

"ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะต้องมาเจอสภาพนี้"

ในตอนนั้นเองที่เซย์นะได้ร้องเตือนไจแอนท์ว่า ระวังเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ให้ดี ถ้าหากสมองของมันยังไม่ถูกทำลายมันจะฟื้นฟูบาดแผลตัวเองได้เรื่อยๆ ไจแอนท์จึงได้มองเห็นสิ่งที่เซย์นะพูดถึง คือการที่บาดแผลของมันกำลังสมานจนหายเป็นปกติ



ไม่กี่วินาทีต่อมา สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างสมบูรณ์  ซูเนโอะและไจแอนท์ต่างก็อดทึ่งในความสามารถของมันไม่ได้ ซูเนโอะเริ่มที่จะลังเลว่าตัวเองจะจัดการเจ้านี่ได้หรือไม่ ไจแอนท์จึงได้บุกตะลุยเข้าไปซึ่งๆหน้า พร้อมกับฝากบอกให้ซูเนโอะยิงคุ้มกันเขาจากระยะไกลด้วย ซูเนโอะจึงได้แต่ทำตามสิ่งที่ไจแอนท์บอก


กระสุนที่ซูเนโอะยิงไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้มันได้มาก และก่อนที่ไจแอนท์จะถึงตัวมัน มันก็ได้ฟาดแขนหมายจะใช้เล็บโจมตีไจแอนท์ แต่ทว่า ซูเนโอะก็ยิงเข้าใส่ที่แขนไว้จนมันเกร็งไปชั่วครู่

"ยิงได้สวย ซูเนโอะ"


ไจแอนท์วิ่งเข้าไประยะประชิดพร้อมกับส่องปากกระบอกปืนไว้ข้างหน้ามัน

"ปืนลูกซองน่ะถึงจะโจมตีได้รุนแรงมาก แต่มีข้อเสียอยู่ตรงที่ไม่สามารถยิงในระยะไกลได้อย่างแม่นยำแถมกระสุนยังกระจายออกไปมั่วอีก แต่ว่า...ถ้าหากใช้มันโจมตีในระยะประชิดล่ะก็...ตอนนี้แหละ!!"

 


 ปัง!!

ปืนลูกซองของไจแอนท์ยิงเข้าใส่หัวของสัตว์ประหลาดในระยะประชิดจนเกิดพลังทำลายล้างที่น่ากลัวถึงกับทำให้หัวของสัตว์ประหลาดทั้งหัวกระจุยหายไป.oการโจมตีเพียงครั้งเดียว!!!  เซย์นะได้เห็นดังนั้นก็อดทึ่งในความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาและปืนที่พวกเขาใช้ไม่ได้ มันช่างมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงจริงๆ

 

หลังจากที่ปราบสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ ไจแอนท์จึงโทรเรียกพวกโนบิตะที่ยังพักอยู่ในห้องพักตามมาสมทบทั้งหมดยกเว้นชิรามิเนะคนเดียวที่ยังเดินสำรวจบ้านพักอยู่ แต่ก็แจ้งข่าวให้เขารับทราบแล้วเช่นกัน

(อันที่จริงอยากจะบอกว่า เพราะชิรามิเนะไม่มีตัวตนในโดจินมากกว่า - -)

เมื่อทุกคนมาถึง ชิสุกะจึงรับหน้าที่เข้าไปปฐมพยาบาลบาดแผลให้เคนจิ


"แบบนี้..เป็นไรหรือเปล่า"


ชิสุกะที่พันผ้าพันแผลอยู่ได้เอ่ยถามออกมาเพราะกลัวว่าเคนจิจะบาดเจ็บเพิ่ม

"อ่ะ..อืม..ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ"


เคนจิจึงได้สวมเสื้อนอกกลับเข้าไปอีกครั้งหลังจากที่ชิสุกะพันแผลให้เสร็จจากนั้นเดคิสุงิจึงได้หันมาทักเขา

"นายน่ะ เคนจิสินะ"


"เออ...มีอะไรเหรอ"


เดคิสุงิจึงได้ถามต่อว่าทำไมเขาถึงมาทำอะไรในที่แบบนี้ แถมยังเรื่องที่พูดกับพวกเขาก่อนหน้าซะอีก (ที่ในเกมเคนจิเปิดประตูมาไล่พวกเขาให้ออกไปจากที่นี่) ซึ่งตอนนี้เดคิสุงิก็พอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เคนจิเคยพูดว่าทุกคนในบ้านพักนี้น่าจะเป็นซอมบี้ไปหมดแล้วหมายความว่ายังไงจากข้อมูลบันทึกที่เซย์นะให้มา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่เคนจิเดินสำรวจไปมาอยู่ที่นี่คืออะไร

เคนจิก็บอกไปว่า เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อน (ช่วงที่โนบิตะไปพักร้อนที่เกาะ) ที่พวกเขาพบว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไปหลังจากที่ทางโรงเรียนก่อสร้างบ้านพักแห่งนี้เสร็จ ผู้คนในโรงเรียนเริ่มมีอาการแปลกๆ และกลายเป็นซอมบี้ไปทีละคน เขาได้แต่หนีและหาทางเอาตัวรอดพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน แต่สุดท้ายก็เหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหาเบาะแสเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไล่ตามมาจนถึงบ้านพักแห่งนี้ และเขาก็ได้ค้นพบข้อมูลสำคัญต่างๆที่ได้จากบ้านพักแห่งนี้ (รวมถึงบันทึกที่เซย์นะเจอด้วย) ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มคนได้กระทำลักลอบทำการทดลองบางอย่างลับๆที่นี่ แต่สำหรับเขาคนเดียวนั้นการสำรวจตามส่วนต่างๆของบ้านพักขนาดนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะที่นี่มีซอมบี้เพ่นพ่านเต็มไปหมด แต่อย่างน้อยเขาก็พบข้อมูลจากเอกสารต่างๆในบ้านนี้ว่า การทดลองที่ว่านั้นพวกเขาดำเนินการในห้องทดลองลับที่อยู่ชั้นใต้ดินนั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน


เดคิสุงิจึงสงสัยเกี่ยวกับห้องทดลองลับใต้ดินที่เคนจิเล่าให้ฟัง



และช่วงนั้นเองที่ได้รับการติดต่อจากชิรามิเนะเพิ่มเติมว่า เขาได้พบทางลับลงไปชั้นใต้ดินแล้วซึ่งมันอยู่หลังห้องพักแห่งหนึ่ง แต่มันติดตรงที่ว่า มันมีประตูลูกกรงเหล็กขวางอยู่ทำให้เขาไม่สามารถไปต่อได้ เขาต้องการกุญแจเพิ่มเติม ทีนี้เซย์นะก็สังเกตเห็นห้องที่อยู่ข้างๆตรงที่พวกโนบิตะอยู่นี้ซึ่งเป็นห้องที่เธอยังไม่ได้เข้าไปสำรวจ เธอจึงเดินเข้าไปและพบกับกุญแจชั้นใต้ดินอยู่ข้างๆศพ

 
จากนี้ไปเธอจึงบอกกับพวกโนบิตะว่าขอตนเองไปจัดการเรื่องปริศนาบางอย่างที่คาใจเธอให้เรียบร้อยก่อนและขอให้พวกโนบิตะอยู่ดูแลเคนจิอยู่ที่ห้องนี้


หลังจากได้กุญแจแล้วเธอจึงรีบนำมันไปใช้กับประตูห้องใต้ดินทันที ซึ่งจากรายงานนั้นเธอรู้ว่ามันเป็นทางลับที่อยู่ในห้องพักที่ 103 ทางด้านหลังตู้หนังสือ หากผลักออกไปด้านข้างจะพบกับทางลง



เธอจึงได้เดินลงไปข้างล่างก็พบศพจำนวนมากที่โดนยิงไป (ซึ่งเธอคงคิดว่าชิรามิเนะคงจัดการมันไปก่อนหน้านั้นแล้ว)



เธอเดินจนมาถึงจุดที่มีประตูล๊อคอยู่ เธอก็ได้ใช้กุญแจที่ได้มาไขเข้าไป


ตามทางนั้นเธอได้พบว่าสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนเป็นกรงขังพวกสุนัขซอมบี้เคลเบรอสจำนวนมาก แถมมีบางตัวที่หลุดออกมาเดินเพ่นพ่านด้วย เธอจึงใช้ปืนจัดการพวกที่เหลืออยู่ แล้วก็เดินเข้าไปสำรวจที่ห้องแห่งหนึ่งในชั้นใต้ดิน


ที่ห้องนี้เธอได้พบสิ่งที่เธอต้องรู้สึกสนใจอีกอย่างนั่นคือหนังสือปริศนาที่เธอพบก่อนหน้านั้นอีกส่วนหนึ่ง และถ้าหากมันมารวมกันแล้วก็จะเป็นหนังสือแห่งความตายที่มีหน้าปกข้างบนว่า

"EAGLE of EAST WOLF of WEST"

(ไอเท็มนี้มีในเกม RE1 จริงๆ และยังเป็นสิ่งที่ใช้พบเหรียญด้วย)




หลังจากนั้นชิรามิเนะจึงได้รายงานกับเซย์นะทางโทรศัพท์อีกว่า เขาสำรวจถึงห้องที่มีแท่นหินที่มีข้อความสลักไว้ว่า "EAGLE of EAST WOLF of WEST" อีกด้วย ที่เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความหมายของมันคืออะไร เมื่อได้ยินดังนั้นเซย์นะจึงก้มมองดูหนังสือหน้านั้นอีกครั้ง และพบว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างในด้วยซึ่งมันก็คือเหรียญนกอินทรีย์ (Eagle Medal) เอง และถ้าหากเอาคำที่อยู่บนบันทึกมาตีความ WOLF ที่ว่า มันต้องหมายถึงเหรียญหมาป่าที่เธอเก็บได้จากห้องลับแน่นอน


(ไอเท็มนี้มีในเกม RE1 จริงๆ แถมใช้มันในการเปิดห้องทดลองลับด้วย)


เธอจึงรีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ชิรามิเนะพูดถึงทันทีและที่แห่งนั้นเธอก็ได้พบกับแท่นหิน 3 แท่นและดูเหมือนว่าแท่นซ้านกับขวานั้นมีช่องวงกลมสำหรับใส่บางอย่างอยู่ด้วย ทำให้เธอมันใจทันทีว่า

EAGLE of EAST  : อินทรีย์แห่งตะวันออก นั่นคือเหรียญอินทรีย์ต้องใส่ไว้ที่แท่นหินทางทิศตะวันออก (ทางด้านขวา)

WOLF of WEST  : หมาป่าแห่งตะวันตก นั่นคือเหรียญหมาป่าต้องใส่ไว้ที่แท่นหินทางทิศตะวันตก (ทางด้านซ้าย)


เซย์นะจึงนำเหรียญทั้ง 2 ไปใส่ไว้ในช่องจนครบ


เธอสงสัยเหลือเกินว่าเมื่อใส่เหรียญแล้วมันเกิดอะไรขึ้น



และทันใดนั้นเองเธอก็พบว่าแท่นหินที่อยู่ตรงกลางนั้นได้เลื่อนเปิดออกมา ดูเหมือนเธอจะพบกับทางเข้าลับเข้าให้แล้ว



เธอจึงเดินไต่บันไดลงไปแล้วก็พบลิฟต์ที่อยู่ปลายทางซึ่งดูเหมือนจะใช้การไม่ได้เพราะขาดแบตเตอรี่


แต่เธอก็จำได้ว่า เธอเคยเห็นแบตเตอรี่มาก่อนในห้องที่เธอได้กุญแจชั้นใต้ดิน เธอจึงติดต่อให้พวกโนบิตะฝากไปเอามาให้หน่อยและขอให้ทุกคนมารวมตัวเจอกันในห้องลับที่เธออยู่ตอนนี้เลย

(แบตเตอรี่ก็เป็นไอเท็มที่มีในเกม RE1 ที่ต้องใช้กับลิฟต์เหมือนกัน)





ทุกคนจึงเตรียมตัวเดินทางมาที่ทางลงที่เซย์นะพบ



เดคิสุงิกับโนบิตะจึงเดินลงมาสำรวจข้างล่างก่อนก็พบทางเดินไปต่อ แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องที่เซย์นะรออยู่

 "นะ..นี่มัน..ทางลับใต้ดินในบ้านพักสินะ"


"อืม..เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ...ไปกันต่อเถอะ"




ตอนต่อไป...สำรวจอุโมงค์ใต้ดิน เส้นทางที่นำไปสู่ห้องทดลองลับที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด..



บทความหน้า สำรวจอุโมงค์ลับและเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลักจากเซย์นะกลับมาเป็นโนบิตะ




ปล. อันที่จริงแล้วเนื้อหาในบทความนี้เราไม่ได้เขียนเนื้อเรื่องที่ตรงกับเกมหรือโดจินเป๊ะ ท่านสามารถอ่านความเห็นเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11.5] - เนื้อหาที่มีการตัดแต่งระหว่างเนื้อเรื่องตัวเกมกับโดจิน 


ส่วนบทความช่วงต่อไปสามารถอ่านต่อได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12]

แสดงความเห็นบน Facebook!

5 ความคิดเห็น :

  1. รอตอนต่อไปนะครับ ^_____^ สู้ๆๆ ครับ

    ตอบลบ
  2. เขียนได้ละเอียดมากครับ อ่านเพลิน รอติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ

    ตอบลบ
  3. ตอนนี้ อ่าน doraemon nobita biohazard I จบแล้วอ่ะครับ อยากได้ doraemon nobita biohazard II ไม่ทราบหาได้เว็ปไหนดีอ่ะครับ อ่านปุ่นออกหรอกครับ แต่ไห้เพื่อนแปลไห้ ^^

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณทุกท่านที่ Comment จ้า

    เนื้อหาของภาคไคโซวบัง (มุริโนะไน) ภาค 2 คนเขียนโดจินท่าน diodio เขียนมากสุดแค่ตอนที่โนบิตะหลบเข้าไปในสถานีตำรวจแค่นั้นเอง (อัพเดทเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ดังนั้นคงจะต้องรอไปอีกสักระยะ)

    ถ้าอยากรู้เนื้อหาคร่าวๆต่อไป คงต้องดูจากคลิป youtube หรือ เว็บ niconico เอาเองจ้า

    http://www.youtube.com/watch?v=iqdSCwzmnIo

    เนื้อหาในโดจินที่เขาเขียนนั้นค่อนข้างอิงตามเกมนั้นเกือบ 80% เลย แต่อาจจะมีปรับเปลี่ยนบ้างเพื่อให้เนื้อเรื่องสามารถดำเนินต่อไปและสอดคล้องกับภาคจี (G) ได้

    ตอบลบ