ปัจฉิมบทของภาค Muda ni Kaizouban 3
หลังจากที่เกิดโนบิตะ เดคิสุงิ และไจแอนท์สามารถนั่งเฮลิคอปเตอร์หนีออกมาจากเมืองก่อนที่จะถูกจรวดนิวเคลียร์ทำลายล้าง >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Final Chapter - part 8 (Final Part)
จากวันนั้นก็ผ่านมาได้ 3 เดือนแล้ว
พวกโนบิตะจะเป็นอย่างไรต่อไป....
ในที่สุดเนื้อเรื่องภาค 3 ก็มาถึงบทสรุปสุดท้ายเสียที...
บทส่งท้าย
ทางเลือกของผู้ที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอยู่
จะจมปลักกับความเจ็บปวดในอดีตหรือเผชิญหน้ากับฝันร้ายเพื่อค้นหาแสงสว่างแห่งความหวัง
ผ่านมา 3 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ผมหนีออกมาจากเมืองที่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเมือง R แห่งนั้น
ตอนนี้ผมอาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากพื้นทวีปประเทศเดิมที่ผมเคยอยู่
เหตุการณ์การแพร่ระบาดของที-ไวรัสนั้นไม่สามารถอาจจะหยุดยั้งได้ง่าย พวกผมในตอนนั้นไม่อยากที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนั้นอีกแล้ว พวกผมจึงได้แต่อยู่กันอย่างสงบที่นี่ ณ เกาะทางตอนใต้แห่งนี้ เพื่อพักฟื้นจิตใจที่พึ่งได้รับการเยียวยาหลังจากที่ต้องประสบกับเรื่องราวร้ายๆมาถึง 3 ครั้ง
ริมชายฝั่งของเกาะ ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทาง พร้อมกับมองวิวทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตาจากบ้านเกิด
ในตอนนั้นสายตาของผมก็มองไปเห็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเข้าให้
"หือ? คุณเซย์นะนี่นา"
เด็กสาวรุ่นพี่ที่แก่กว่าผม 1 ชั้นปี มิโดริคาว่า เซย์นะ ยืนมองดูทะเลอย่างเหม่อลอย ผมไม่ค่อยได้เห็นเธอในสภาพนี้เท่าไหร่นัก
ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปทักดู
"เอ่อ คุณเซย์นะ...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"
เธอได้ยินเสียงของผมจึงหันกลับมา...
ในวันนั้นที่เกิดการแพร่ระบาดในเมืองเมื่อ 3 เดือนก่อน คุณเซย์นะได้อาศัยรถอพยพฉุกเฉินของพวกตำรวจเที่ยวสุดท้ายหนีออกมาได้ทันเวลา
คุณเซย์นะเนี่ยโชคดีจริงๆ
ถ้าหากวันนั้นผมรู้สึกตัวเร็วกว่านี้ (ออกมาจากร้านอาหารเร็วกว่านี้) คงไม่ต้องเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้หรอก ให้ตายสิ
คุณเซย์นะตอบผมด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยผิดกับทุกทีที่มักจะหันมามองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส
"อ้ะ...โนบิตะคุงเองเหรอ? อืม..ก็ พอดีคิดถึงเรื่องในอดีตนิดหน่อยน่ะนะ"
"จากวันนั้นก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วสินะ.... ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนั้นเลย...."
นอกจากนั้นเธอยังบอกผมอีกว่า จนถึงตอนนี้ยังรู้สึกอยู่เลยว่าเหตุการณ์เมื่อตอนนั้นเหมือนกับพึ่งผ่านมาเมื่อวานเอง เธอไม่อาจจะลืมเรื่องเลวร้ายพวกนั้นได้ง่ายๆ
ตอนนั้นเองดูเหมือนเธอจะรู้สึกผิดเพราะคิดว่าเรื่องที่เธอพูดมาอาจจะสร้างความเจ็บปวดให้กับผมด้วย
"....อ้ะ...ขอโทษนะ ที่ดันพูดเรื่องอะไรแบบนั้นออกไป"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมเองก็ไม่ติดใจอะไรอยู่แล้ว"
"พวกเราน่ะ..จนถึงตอนนี้ยังก็เป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆเองนะ"
"หือ?"
เธอบอกว่า จากวันธรรมดาแสนสงบของชีวิตนักเรียนทั่วไปกลับต้องมาพลิกผันให้จับอาวุธปืนลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดกับเหล่าสัตว์ร้ายพวกนั้นในโลกแห่งความเป็นจริง
เธอได้เล่าเรื่องระบายความในใจต่างๆให้ผมฟังทั้งเรื่องที่เธอต้องสูญเสียครอบครัว เพื่อน (รวมไปถึงแฟนเก่า) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกับผมในวันนั้น แถมต้องมาเจอเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้ถึง 3 ครั้ง ตอนนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนรับมันได้มากแค่ไหน
"คุณเซย์นะ..."
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปลอบใจเธอยังไงดี...
"ขอโทษด้วยนะที่ต้องมาเล่าเรื่องอะไรแบบนี้ให้ฟัง โนบิตะคุง..."
"แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นล่ะ ... ขอบคุณมากนะ แล้วก็
ฉันขออยู่ที่นี่อีกสักพักนึง..เชิญโนบิตะคุงตามสบายเลย"
"อือ..ถ้างั้นไว้เจอกันนะ.."
แล้วผมก็เดินไปตามทางเดินต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาพบ..ชายคนหนึ่งที่ผมรู้จักดี.....นั่นก็คือ...ซูเนโอะ...
ซูเนโอะนั้นหนีออกมาจากเมืองได้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดการระเบิดอีกทั้งยังได้รับการฉีดวัคซีนที่ได้มาจากพวกผมหยิบติดมาด้วยจนหายกลับมาเป็นปกติ
แต่วันนี้ผมรู้สึกได้ว่าซูเนโอะแปลกไป เพราะปกติเขามักจะขลุกอยู่กับที่พักของตนไม่ยอมออกมาข้างนอกง่ายๆ
"ซูเนโอะ นายมาทำอะไรในที่แบบนี้น่ะ..?"
"โนบิตะเองเหรอ..... อืม..ก็ คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ...ว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไหมนะ?"
ผมรู้สึกสงสัยในคำพูดของซูเนโอะ
"ทั้งหม่าม้า ไม่สิ ทั้งพ่อ ทั้งแม่จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ตั้งแต่วันที่หนีออกมาจากเมืองบ้านเกิดวันนั้น"
"ซูเนโอะ...."
ผมได้แต่ฟังสิ่งที่ซูเนโอะพูดออกมาอย่างเงียบๆ เขาพูดออกมาพร้อมร้องไห้ไปด้วย
"ขอโทษนะ ทั้งๆที่พยายามจะไม่คิดถึงแล้วแท้ๆ แต่ว่า แต่ว่า..ทำยังไงมันก็ลืมไม่ลงสักที"
ผมเองก็พอเข้าใจอยู่เหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะลืมฝันร้ายนั้นไปได้...แต่แล้วซูเนโอะก็เช็ดน้ำตาพร้อมกับหันมาพูดกับผม
"นายน่ะแข็งแกร่งมากเลยนะโนบิตะ ทั้งๆที่ผ่านศึกหนักมามากกว่าใครแท้ๆ
แต่นายไม่เคยร้องไห้เลย"
"ไม่หรอก...ฉันน่ะ..ไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนั้นหรอก...
ที่จริงแล้วฉันร้องไห้บ่อยกว่านายอีก จนถึงวันนี้ฉันเองก็ยังทำใจไม่ได้เหมือนกัน..."
"งั้นเหรอ..."
"นั่นสินะ..เรื่องที่ต้องมาจับปืนขึ้นมาฆ่าคนอะไรแบบนั้นก็คงจะลืมไม่ลงจริงๆนั่นแหละ แล้วก็
นายมีธุระที่อื่นต่อใช่ไหมล่ะ...ถ้างั้นก็เชิญเลย เดี๋ยวฉันจะตามไปทีหลังนะ"
"อือ...เข้าใจแล้วล่ะ... แล้วเจอกันนะ"
หลังจากนั้นผมก็เดินต่อไป
ผมเดินต่อมาตามทางจนถึงชายฝั่งอีกด้านหนึ่ง ที่นั่นผมได้พบกับเด็กสาวที่ผมรู้จักดี..
ชิสุกะจัง.....โชคดีจริงๆที่เธอยังมีชีวิตอยู่... เธอสามารถเอาตัวรอดหนีออกจากเมืองด้วยตัวเองเพียงลำพังได้ทันเวลา และได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีจนทำให้เธอมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ได้
"ชิสุกะจัง..."
เธอหันกลับมาทักผมด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"อ้ะ..โนบิตะ...... วันนี้อากาศดีนะว่าไหม?"
ผมรู้สึกดีใจมากที่เห็นรอยยิ้มที่สดใสของชิสุกะจังอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะทำใจกับเรื่องต่างๆได้เร็วมาก
"อ้ะ..แล้วโดราเอม่อนล่ะ...ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?"
เธอเริ่มพูดถึงเพื่อนซี้คนสนิทอีกคนของผมซึ่งก็คือโดราเอม่อน....โดยปกติแล้ว ผมกับโดราเอม่อนมักจะตัวติดกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแม้จะอยู่ในที่แห่งนี้ เธอคงแปลกใจที่เห็นผมอยู่คนเดียว
"เรื่องโดราเอม่อนน่ะไม่ต้องเป็นห่วงหรอก....หมอนั่นคงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่แหละ.."
"ตอนที่อยู่ในเมืองนั้น โชคดีที่ หมอนั่นไม่เจอหนูซอมบี้
หมอนั่นเลยเอาตัวรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่เมืองจะระเบิดเลยล่ะ"
แน่นอนว่าโดราเอม่อนก็รอดออกมาได้เช่นกัน ซึ่งผมได้มาพับกับเขาในตอนหลัง.....
"โนบิตะ...."
ดูเหมือนชิสุกะจะทำท่าทางแปลกใจหลังจากที่จู่ๆผมเกิดเล่นมุกติดตลกในเรื่องที่คนอื่นเขาซีเรียสซะอย่างนั้น ซึ่งนั่นแหละ เธอคงจะทายใจผมออก...ถึงผมจะพูดเรื่องวันนั้นให้เป็นเรื่องตลก แต่ในใจของผมก็ยังคงเจ็บปวดเช่นเคย แต่จะให้ผมมัวแต่เศร้าใจในขณะที่เห็นเธอยิ้มได้อย่างไร
"อือ..ก็นะ...เดี๋ยวฉันจะไปที่รวมกลุ่มกันที่นึง จะไปด้วยกันไหม?"
"ขอโทษด้วยนะ....ขอฉันอยู่ตรงนี้สักครู่นึงก่อน แล้วค่อยตามไปทีหลัง"
"อือ..เข้าใจแล้วล่ะ ชิสุกะจัง"
แล้วผมก็เดินต่อไป...ถึงกระนั้น ผมก็ยังแอบหันกลับไปดูเธอเล็กน้อย ชิสุกะจังมองออกไปยังท้องทะเลด้วยสายตาที่ดูหดหู่ผิดกับตอนที่ทักทายผมด้วยรอยยิ้ม เธอเองก็ยังมีความเจ็บปวดลึกๆอยู่ในใจเช่นกัน
ผมเดินก้าวออกไปเรื่อยๆ ได้พบกับผู้คนมากมาย รวมไปถึงเหล่าทหารที่กำลังวอร์มร่างกายฝึกฝนเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นบนเกาะ
บนเกาะแห่งนี้ก็มีผู้รอดชีวิตคนอื่นๆเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ พวกเขาก็ผ่านพ้นเรื่องราวที่เจ็บปวดและฝันร้ายมาแล้วทั้งนั้น
ให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปมันดีแล้วหรือ?
(ผมกำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ)
จนกระทั่งถึงที่พักรวมพลซึ่งเป็นเป้าหมายของผม.... สถานที่แห่งนั้น ผมได้พบกับเพื่อนๆของผมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโดราเอม่อน ชิสุกะจัง ไจแอนท์ ซูเนโอะ เดคิสุงิ และกลุ่มคนอื่นๆมากมาย
พวกผมตัดสินใจรวมกลุ่มกันอีกครั้ง....
ผมทราบข่าวคราวจากโลกภายนอกว่ายังคงมีการแพร่ระบาดด้วยเชื้อไวรัสอยู่ ผู้คนมากมายล้มตาย..ความสิ้นหวังแผ่ขยายไปทั่ว ผู้คนรวมถึงตัวผมและเพื่อนที่อยู่ตรงนี้ต่างเจ็บปวดและอยากลืมเลือนเหตุการณ์นั้น
แต่ว่า......ผมตัดสินใจแล้ว....ว่าพวกผมจะไม่ยอมแพ้...
ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ มีพวกพ้องอยู่...ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นเพียงฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนและสร้างความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว!!
จนถึงตอนนี้
ตั้งแต่วันนั้นวันที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น
ผืนทวีปที่กลายเป็นนรกบนดินแห่งนั้น
จะต้องถูกหยุดลง...
พวกพ้องคนสำคัญของผมพร้อมที่จะลุยไปด้วยกัน...
คลิปประกอบ
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด
Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak)
จบบริบูรณ์
เจ้าของบล็อกขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอด
===========================================
ภาคต่อไป จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์
"ถ้าเป็นเจ้านั่นล่ะก็ จะต้องช่วยทุกคนได้แน่นอน...."
"เจ้านั่นหรือว่าจะเป็น...."
"ไทม์แมชชีน!!"
Doraemon : Nobita no Biohazard
Muda ni Kaizouban 4 [Umbrella Chronicle]
to be continue>>>
=======================================
สามารถดูเงื่อนไขการทำฉากจบแบบต่างๆได้ที่
การจบเนื้อเรื่องโดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) แบบต่างๆ
สงสัยนิดนึงใน biohazard มี time machine ด้วยหรอครับแบบว่าไม่เคยเล่น
ตอบลบไม่มีหรอก ที่มันมีก็เพราะโดราเอม่อนต่างหาก - -
ลบอ่อครับ ปกติเห็นก็อปเรื่องจากไบโอมาแทบทั้งหมด เลยคิดว่านี่ก็ก็อปมาเหมือนกัน ><
ลบโนบิตะนี่แย่จริงๆ เวลาแบบนี้มันต้องเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจเซย์นะจังเซ่!!
ตอบลบ=w= เห็นด้วยครับ แต่คงจะไม่โดนเซย์นะจังตบเอานะ กอดไม่รู้เวล่ำเวลา โนบิตะนี่พระเอกฮาเร็มจริง ๆ
ลบจู่ๆเข้าไปกอดนะมันเหมือนกับคนโรคจิตนะ
ลบถ้าภาคนี้มีบทของตัวละครทุกตัวก็ดีนะสิ
ตอบลบ