ก็ต้องพบเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทำให้สมาชิกของหน่วย U.B.C.S. บางคนไม่สามารถหนีรอดออกมาจากป่าลึกในประเทศจีนได้ การผจญภัยของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป...
บทที่ 11
UBCS ตะลุยประเทศจีน (ภาคจบ)
หลังจากที่ตราสัญลักษณ์ขึ้นเสร็จก็มีตัวเลือกว่าจะข้ามฉาก Event หรือไม่
- ข้าม
- ไม่ข้าม
แน่นอนว่าคนเก็บเนื้อเรื่องย่อมตอบว่า ไม่ข้าม
ลิทเชนคุสกี้หรือที่รู้จักในชื่อลิทชี่ : หัวหน้าหน่วย U.B.C.S. ได้พูดสบถออกมาในขณะที่กำลังนั่งแดกเสบียงอาหารอยู่กลางป่าพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คนที่เหลือ
เขาบ่นประมาณว่า ... "ให้ตายสิ ดันมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ แย่ชะมัด"
หญิงสาวผมทองลูกน้องของลิทชี่ พลแม่นปืนไรเฟิลซุ่มยิง ที่ชื่อว่า "รีซิสซ่า" สาวสวยประจำกลุ่มก็พูดเห็นด้วยที่ว่า ตอนนี้พวกเขาทั้งสามกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้ว
มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่พูดออกมา....
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่เป็นสมาชิกอีกคนที่สวมหมวกสีเขียวปีกกว้างอยู่ตลอดเวลา "เซก้า" ยังคงนั่งกินเสบียงอยู่อย่างเงียบๆ
พวกเขาทั้ง 3 คนควรจะได้หนีออกจากป่าแห่งนี้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ออกมาลำสุดท้าย แต่ปรากฏว่าดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ U.S.S. ที่อยู่บนเครื่องเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจู่ๆก็ติดเชื้อและกลายเป็นซอมบี้ พุ่งเข้าเล่นงานคนขับเฮลิคอปเตอร์จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตกลงมากลางป่า
มีเพียงพวกเขาทั้ง 3 คนที่ออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ได้ทัน แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถใช้วิทยุสื่อสารติดต่อพวกพ้องที่หนีออกไปได้ พวกเขาจึงปักหลักเติมพลังอยู่แถวๆนั้น
ลิทชี่รู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
รีซิสซ่าก็บอกหัวหน้าหน่วยของตนพร้อมกับบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า พร้อมกับโยนช็อกโกแลตบาร์ให้หัวหน้าไปเคี้ยวเล่นแก้อารมณ์เสียหลังจากพักทานเสบียงเสร็จ
ลิทชี่เคี้ยวช็อกโกแลตบาร์จนหมดอย่างรวดเร็วพร้อมกับประเมินสถานการณ์รอบข้างก่อนที่จะตัดสินใจเคลื่อนย้ายไปหาสถานที่ที่สามารถขอความช่วยเหลือได้
รีซิสซ่าดีใจที่ได้เห็นหัวหน้าของตนไฟติดขึ้นมา เธอจึงสะพายไรเฟิลและอุปกรณ์ประจำตัวขึ้นหลังตามไป พร้อมกับหันมามองชายหนุ่มร่างยักษ์สวมหมวกผู้เงียบขรึมและพูดว่า..
"เฮ้ย..เซก้า รีบแดกเร็วๆเข้า"
จากนั้นภาพต่างๆจะมองเห็นชัดขึ้น แล้วเราจะสามารถควบคุมตัวละครชายผู้สวมหมวกที่ชื่อเซก้าได้
ยืนยันสถานที่ปัจจุบัน พวกเขายังคงอยู่ในประเทศจีน
ที่ไหนสักแห่งในป่าลึกบนภูเขา ซึ่งมีสมาชิก 3 คนได้แก่
ลิทเชนคุสกี้ รีซิสซ่า และเซก้า
ลิทชี่บอกกับลูกน้องทั้งสองของตนว่า...ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวให้มากขึ้นและเตรียมอาวุธให้พร้อม เพราะเส้นทางต่อจากนี้ อาจจะมีพวกอาวุธชีวภาพเดินเพ่นพ่านหรือไล่ตามมาที่นี่ก็ได้ (ถึงจะบินหนีออกมาไกลแล้วก็ตาม)
รีซิสซ่าพูดอย่างมั่นใจพร้อมกับตบปืนไรเฟิลของตัวเองประมาณว่า ถ้าโผล่มาให้เห็นสักตัวล่ะก็ แม่จะยิงให้เหี้ยนเลย
ซึ่งท่าทางของรีซิสซ่าทำเอาลิทชี่รู้สึกหน่ายใจตรงที่ ไอ้ความมั่นใจไฮเปอร์ของเธอนั่นแหละที่ทำให้พวกเขาต้องมาอยู่ที่นี่เพราะ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น บนเฮลิคอปเตอร์ รีซิสซ่ารีบใช้ปืนไรเฟิลยิงหัวของซอมบี้อย่างเร็วโดยไม่ระวังทำให้กระสุนถูกยิงออกไปพุ่งเข้าทะลุที่ควบคุมเฮลิคอปเตอร์จนควบคุมไม่ได้
("แล้วที่ต้องมาตกอยู่ที่นี่มันเป็นเพราะใครกันล่ะฟะ?)
ลิทชี่เหลือบสายตาจิกกัดไปทางรีซิสซ่า ทำให้เซก้ารู้สึกขำเล็กๆ แต่เขาก็ยังคงไม่พูดออกมาเช่นเคย
"น่าน่า เรื่องที่ผ่านมาก็แล้วไปเถอะหัวหน้า"
ภารกิจต่อจากนี้ ลิทชี่จะบอกให้เราหาตำแหน่งสัญญาณหรืออะไรก็ตามที่จะใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากพวกเอสเตอร์ที่บินออกไปก่อนได้ และหาสถานที่ที่เหมาะกับการรับความช่วยเหลือด้วย ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่นานนัก เพราะเอสเตอร์เองตอนนี้ก็คงจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่หัวหน้าหน่วยของตนกับพวกที่เหลือกลับไปช้าแล้ว
หลังจากที่เคลื่อนไหวได้ เซก้าจะเดินลงมาตามทางในป่าทิศใต้
และจะพบจุดเซฟ ให้เซฟให้เรียบร้อย
มาถึงจุดๆหนึ่งลิทชี่จะบอกให้เราหยุด
"เดี๋ยวก่อนเซก้า ลองดูตรงนั้นสิ!!"
เบื้องหน้าของพวกเขาก็พบว่ามีสุนัขซอมบี้เคลเบรอสกำลังกินซากศพของอีกา ท่าทางพวกมันจะหิวจัด
"ที่นี่ก็มีพวกมันด้วยเหรอเนี่ย!?" รีซิสซ่าพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆหยิบปืนไรเฟิลอกมาจับให้แน่น
ลิทชี่ได้บอกกับทุกคนว่าเป็นอย่างที่คาดไว้ บริเวณนี้ยังมีพวกมันอยู่่ ควรพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับพวกมันไว้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะเสียงปืนอาจจะเรียกความสนใจจากพวกที่อยู่รอบข้างมารุมกินโต๊ะเอาได้
"หัวหน้า!!!"
รีซิสซ่าตะโกนขึ้นเมื่อพบว่าพวกมันทั้ง 2 ตัวหันมามองทางพวกเขา ดูเหมือนพวกมันจะจับได้แล้วว่ามีคนอยู่ตรงนี้
"ชิ!! จัดการมันเลย!!!"
ลิทชี่เล็งปืนกล M16 คู่กายยิงใส่เคลเบรอสทางด้านซ้ายที่วิ่งเข้ามา ส่วนรีซิสซ่าก็ใช้ปืนไรเฟิลยิงอีกตัวทางขวา โดยที่เซก้าถือมีดยักษ์เตรียมตัวสู้ระยะประชิดกรณีทั้ง 2 คนยิงพลาด
จากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ลิทชี่คิดหนัก เพราะขนาดซ่อนตัวไว้มันยังรู้ตัว ดูท่าเขาจะดูถูกความสามารถในการดมกลิ่นของเคลเบรอสมากเกินไป ดูท่าว่าการเดินทางออกจากป่าแถวนี้ท่าทางจะอันตรายเสียแล้ว
หลังจากบังคับได้ เซก้าจะเดินมาตามเส้นทางด้านล่าง แต่ก็ต้องหยุดเมื่อพบว่า ลิทชี่ได้ยินเสียงของน้ำที่ไหลออกมาทางขวา เขาจึงอยากให้เซก้าไปสำรวจทางนั้นก่อน
พวกลิทชี่ได้เดินทางมาถึงบริเวณริมแม่น้ำ รีซิสซ่าบอกว่า แม่น้ำตอนนี้ไหลแรงมาก คงฝ่าข้ามไปไม่ได้
จากนั้นเซก้าจะเดินเข้าไปคุยกับลิทชี่ เขาจะบอกว่า จะต้องหาเส้นทางข้ามแม่น้ำสายนี้ไปให้ได้เสียก่อน
เขากับรีซิสซ่าจะหาเส้นทางบริเวณนี้ และขอให้เซก้าล่วงหน้าไปดูเส้นทางทางใต้ก่อน ซึ่งเขาเองก็ไว้ใจ้เซก้ามากและมั่นใจว่าเซก้าจะสามารถเอาตัวรอดเมื่ออยู่คนเดียวได้ และลองให้รีซิสซ่าใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับพวกเอสเตอร์อีกครั้ง
ลิทชี่ได้มอบเฮดโฟนให้กับเซก้า เซก้าจึงรับมันมาติดไว้โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนด้านรีซี่ยังคงติดต่อพวกเอสเตอร์ไม่ได้เช่นเคย แต่บริเวณฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ พวกเขามองเห็นลานกว้างอยู่ ถ้าไปที่นั่นก็อาจจะมีสัญญาณติดต่อได้
หลังจากบังคับตัวละครได้ เซก้าจะเดินแยกออกมาจากกลุ่มไปตามเส้นทางหลักทางใต้
ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับเคลเบรอสบ้าง แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรเซก้าได้
และพอถึงจุดๆหนึ่ง เซก้าก็ได้รับการติดต่อจากรีซิสซ่า เธอบอกว่า..
"เซก้า นี่ฉันเอง รีซี่นะ นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม...ฟังฉันให้ดีนะ"
จากนั้นเธอก็บรรยายสถานการณ์บางอย่างด้วยน้ำเสียงที่แปลกๆ
"นายต้องหาทางข้ามแม่น้ำนั่นไปเดี๋ยวนี้!!..ฝั่งนี้มันมี.....อะไรบางอย่าง...มันแข็งแกร่งมาก...และกำลังมุ่งหน้าไปหานาย...."
จากนั้นสายก็ถูกตัดไป เซก้าเองก็รู้สึกแปลกใจในคำพูดของรีซิสซ่าตอนนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเขา แต่มันก็ทำให้เขาจับมีดในมือไว้กระชับขึ้น เพราะลางสังหรณ์ของเขาบ่งบอกว่า เขากำลังจะเจอศึกหนัก...
เขาเดินทางสำรวจต่อไป โดยที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่จับจ้องไปที่ตัวเขาตลอดเวลา....
จนกระทั่ง เขาพบเส้นทางเชื่อมที่เป็นท่อนไม้หล่นลงมาคั่นแม่น้ำเอาไว้ เขาประเมินแล้วว่าเขาสามารถเดินข้ามไปได้
เขาค่อยๆเดินขึ้นไปบนสะพานอย่างช้าๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่บนสะพาน และตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาในเฮดโฟนที่ติดกับเขา
"ฮัลโหล เป็นอะไรไปน่ะ เซก้า..?
เห็นทางข้ามแล้วใช่ไหม? เฮ้ย เป็นอะไร รีบๆตอบหน่อยสิ"
เซก้ารับรู้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวพ่นออกมาจากทางด้านหลัง .... ในพุ่มไม้ใกล้ๆ เซก้ายืนตัวแข็งพร้อมกับเหงื่อตก ก่อนที่จะค่อยๆหันไปมองด้านหลังช้าๆ โดยที่ไม่ตอบเสียงรีซิสซ่ากลับ....
"ถ้าเจอสะพานแล้ว รีบข้ามมาเดี๋ยวนี้นะ!!! พวกฉันข้ามมาหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ไอ้เจ้านั่น....."
พูดไม่ทันขาดคำ เจ้าสิ่งที่รีซิสซ่าว่าก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเขา... มันเป็นเสือที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตมาก!!!
"เซก้า!!! ตอบหน่อยสิ!!! เซก้า!!!"
แล้วเสียงของรีซิสซ่าก็ถูกตัดไปด้วยการกดปุ่มปิดการสื่อสารของตัวเซก้าเอง เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะจับมีดยักษ์ไว้ในมือเพื่อใช้มันเผชิญหน้ากับเจ้าสิ่งที่อยู่ด้านหลังของเขา!!!
พญาเสือโคร่งแห่งดินแดนมังกร
ที่กลายมาเป็นอาวุธชีวภาพสุดร้ายกาจ
ฉัวะ!!!
ไม่กี่อึดใจต่อมาบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยเลือดที่สาดกระจาย
หลายนาทีผ่านไป.....
ลิทชี่กับรีซิสซ่ารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีที่เซก้าไม่ได้ตอบกลับพวกเขามาเป็นเวลานานแล้วหลังจากการติดต่อครั้งล่าสุด พวกเขาทั้งสองจึงวิ่งลงมาตามเส้นทางป่าด้านใต้เพื่อตามหาเซก้า...
และในที่สุด พวกเขาทั้งสองคนก็พบกับเซก้าที่นั่งหอบในสภาพเลือดท่วมตัว...
และ..
ศพของพญาเสือโคร่งขนาดยักษ์ที่ถูกมีดยักษ์ปักเข้าที่กลางศีรษะทะลุสมองคานไว้ในช่องปาก
ลิทชี่กับรีซิสซ่าเลยรีบเข้ามาดูอาการของเซก้าโดยเร็วและพบว่า เลือดที่ติดอยู่ตามตัวเซก้านั้น ต่างเป็นของเสือตั้วนั้นทั้งสิ้น เขาไม่มีบาดแผลจากการถูกกัดหรือข่วนเลย
เมื่อเห็นดังนั้นลิทชี่จึงพูดขึ้นว่า...
"สุดยอดเลย เซก้า....
นาย..ปราบเจ้าเสือยักษ์นี่ได้ด้วย"
"เห เจ้านี่ดูท่าจะเป็นราชาของพวกเสือแถวนี้ด้วยล่ะมั้งเนี่ย? ฉันประทับใจนายมากเลยล่ะ"
รีซิสซ่าเอ่ยปากชมเซก้าบ้างพร้อมกับพูดเกทับไปว่า... คนที่น่าจะเป็นหัวหน้าหน่วยนี้น่าจะเหมาะกับเซก้ามากกว่าลิทชี่อีกนะเนี่ย
ทำเอาลิทชี่รู้สึกจั๊กจี้ใจดำเล็กน้อย ก่อนที่จะกระแอมออกมาว่า แหม เจ้าเสือนี่ก็ไม่ได้เก่งกว่าพวกไทแรนท์ที่เขาปราบเป็นประจำสักเท่าไหร่หรอกน่า ทำเอารีซิสซ่าเหล่มองด้วยสายตาเหมือนกับจะพูดว่า
"เหรออออออ"
เซก้าเองก็รู้สึกอดขำในท่าทีของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ แต่สำหรับเซก้าแล้ว เขาคิดว่าผู้ที่จะเหมาะที่จะเเป็นหัวหน้าหน่วยนั้นมากที่สุดก็คือลิทชี่มากกว่า เพราะแค่พูดออกมา เขายังทำไม่ค่อยจะได้เลย... จะให้มาสั่งการโน่นนี่นั่นคงไม่ไหวหรอก (และเห็นแบบนี้ลูกน้องทุกคนในกลุ่มต่างก็ยอมรับลิทชี่เป็นหัวหน้าทั้งนั้น )
รีซิสซ่าเห็นท่าทีของเซก้าแล้วจึงแอบยิ้มด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์มาว่า
"รู้สึกสนุกใหญ่เลยนะ เซก้า ตอนที่ต่อสู้กับเจ้าเสือนั่นน่ะ"
ลิทชี่ก็แอบพูดปรอยๆว่า "ก็คงอารมณ์ประมาณสู้ชนะพวกบอสในเกมส์อะไรแบบนี้ล่ะมั้ง...."
แล้วก็ตัดบทไปก่อนที่จะค่อยๆพยุงเซก้าขึ้นมาแล้วออกเดินทางต่อ
"เอาล่ะ ไปกันต่อเถอะ..."
และพอพวกเขาเดินมาถึงจุดหนึ่งจะพบกับจุดเซฟ
เมื่อเดินมาตามทางเรื่อยๆ ก็จะออกมายังบริเวณลานกว้างพื้นที่โล่งได้สำเร็จ และพบว่าบริเวณนี้ รีซิสซ่าสามารถใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับพวกเอสเตอร์ได้สำเร็จ จนในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงเย็นๆที่คุ้นหูของเอสเตอร์อีกครั้ง
"เป็นห่วงแทบแย่แน่ะ รีซี่ !!! พวกนายทุกคนไม่เป็นอะไรใช่ไหม!?"
รีซิสซ่ารายงานสถานการณ์ให้เอสเตอร์ฟังว่า พวกเขาเหลือกันแค่ 3 คนเท่านั้น นักบินกับเจ้าหน้าที่ USS ตายซะแล้ว
เอสเตอร์ถึงกับบ่นเปรยๆว่า "เฮ้อ ไม่น่าให้พวก USS เข้ามายุ่งด้วยเลยนะ งานนี้"
จากนั้นรีซิสซ่าก็ได้ส่งขอความช่วยเหลือให้พวกเอสเตอร์มารับพวกตนโดยด่วน
เอสเตอร์ตอบรับทราบและบอกว่า ตอนนี้พวกเขาก็กำลังบินไปทางพิกัดที่พวกรีซิสซ่าแจ้งไว้อยู่
ในตอนนั้นเอง ลิทชี่ก็หยิบวิทยุขึ้นพร้อมกับพูดแทรกเข้ามาในสายว่า ถ้ามารับแล้วล่ะก็เห็นทีคงต้องเลี้ยงเบียร์กันหน่อยแล้วมั้ง
แต่เอสเตอร์พูดตอบกลับมาว่า น่าเสียดายนะหัวหน้า ดูเหมือนว่างานฉลองคงต้องเอาไว้วันหลัง เพราะตอนนี้ได้มีภารกิจฉุกเฉินเกิดขึ้นในญี่ปุ่นที่เขาต้องการให้หน่วยเราไปปฏิบัติหน้าที่ต่อให้เร็วที่สุด
"หา..?"
รีซิสซ่าถึงกับอุทานออกมา
เอสเตอร์หยิบแฟ้มข้อมูลขึ้นมาดูซึ่งมีรูปถ่ายของผู้หญิงหัวสีชมพูคนหนึ่งแปะอยู่
เขาพูดรายงานข้อมูลมาตามสายว่า...
ดูเหมือนเจ้าหน้าหน่วย USS เฉพาะกิจที่อยู่ในเมืองแถวทุ่งสุสุกิจะขาดการติดต่อเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นคนที่ได้รับภารกิจลับพิเศษที่เป็นที่ต้องการตัวมาก ดังนั้นทางเบื้องบน (อัมเบรล่า) จึงสั่งให้เราดำเนินการค้นหาตัวเธอโดยด่วนหลังจากกลับไปที่ญี่ปุ่น
หลังจากอธิบายเสร็จ เอสเตอร์ก็รีบตัดสายไปเพราะเขารู้ทันในเวลาต่อมาว่า หัวหน้าหน่วยของเขาจะต้องบ่นแน่ๆ ที่งานฉลองดื่มเบียร์ที่เขาโปรดปรานต้องมาชะงักด้วยเหตุบ้าๆบอๆพรรค์นี้
รีซิสซ่าก็หัวเราะเบาๆก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า แต่ยังไงก็คงต้องไปอาบน้ำกันก่อน และดื่มสักกระป๋องก็ยังดีเนอะ
ลิทชี่ : "เออ ตรูจะให้เจ้า 2 คนนั้น (เอสเตอร์/ยานอฟ) เลี้ยงด้วยคอยดูสิ"
รีซีสซ่า : "เอ้อ.....เซก้า? คอยระวังหลังอย่าให้หัวหน้าของเราเมาอาละวาดด้วยนะ"
หลังจากนั้นไม่นานนัก ก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมารับพวกเขาทั้ง 3 คนพาออกจากป่าในที่สุด
และมุ่งหน้าไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นเป้าหมายของภารกิจต่อไปที่จะถึง...
เนื้อหาส่วนหน้าจะวกกลับมาที่เนื้อเรื่องของพวกโนบิตะอีกครั้ง...
โปรดติดตามตอนต่อไป..
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12]
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น