" />

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 39] [True End]

ความเดิมตอนที่แล้ว >>

ในขณะที่พวกโนบิตะกับพวกลิทชี่พยายามต้านทานกองทัพฮันเตอร์ที่ล้อมเข้ามาบนสะพานทางออก

ตอนนั้นเองก็มี ฮันเตอร์ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนสะพานและอยู่เบื้องหน้าโนบิตะ

"เหวออ!! มันขึ้นมาจากแม่น้ำ......"


และชั่วพริบตานั้น โนบิตะเริ่มมองเห็นภาพชัดเจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป... ใช่แล้ว... เขาเริ่มจำได้แล้วว่า.... เหตุการณ์ที่เหมือนกับเดจาวูที่เขารู้สึกตอนนั้น... ถ้าหากว่า.... เดคิสุงิเป็นคนยิงฮันเตอร์ตัวนี้ล่ะก็....
"โนบิตะคุง อันตราย!!"


เดคิสุงิหันปากกระบอกปืนลูกซองไปทางฮันเตอร์ตัวนั้นพร้อมกับใช้นิ้วเหนี่ยวไก...
"เดคิสุงิ!!!. อย่า!!!.."


ปัง!!!!

และแล้วกระสุนปืนก็ถูกยิงออกมาใส่ฮันเตอร์ตัวนั้น.....


ถ้าหากกระสุนที่ออกจากปากกระบอกปืนของเดคิสุงิถูกยิงใส่ฮันเตอร์ตัวนั้นในทิศทางนี้ จะทำให้กระสุนพุ่งกระเด็นไปยังถังแก๊สที่ติดกับตัวรถใกล้ๆ และจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้น!!


ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยอีกครั้งแล้วอย่างนั้นหรือ?

ในที่สุดเรื่องราวของมุดะนิไคโซวบังภาค 4 ก็มาถึงบทสรุปที่แท้จริงแล้ว!!



บทที่ 39
(ตอนจบฉบับสมบูรณ์)
ลาก่อนเหล่า U.B.C.S.

ในช่วงที่พวกโนบิตะและพวกลิทชี่กำลังชุลมุนวุ่นวายกับการต้านทานฝูงกองทัพฮันเตอร์นั้น พ
วกเขาไม่ทันสังเกตเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่ลำหนึ่งที่บินอยู่ห่างจากสะพานลำนี้ 


และแล้วเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินลดต่ำลงมาอยู่ในระดับเดียวกับสะพาน
ประตูของเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 2 ฝั่งเปิดออกเผยให้เห็นใครคนหนึ่ง นอนราบอยู่บน


พร้อมกับยื่นปากกระบอกปืนไรเฟิลเล็งออกมาด้านนอก


นิ้วสีขาวที่เรียวยาวเตรียมพร้อมลั่นไกปืนตลอดเวลา


และในตอนนั้นเอง ก็มีฮันเตอร์ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาจากสะพานมาปรากฏตัวเบื้องหน้าโนบิตะ


"เหวออ!! มันขึ้นมาจากแม่น้ำ......"



เป็นเวลาเดียวกับที่เป้าเล็งของมือปืนบนเฮลิคอปเตอร์ล็อกไว้ที่ศีรษะของฮันเตอร์ตัวนั้นพอดี


"โนบิตะคุง อันตราย!!"


และก็เป็นจังหวะที่เดคิสุงิหันปากกระบอกปืนลูกซองมาที่ฮันเตอร์ตัวนั้นพร้อมกัน เมื่อโนบิตะเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกมาว่า...

"เดคิสุงิ!!!. อย่า!!!.."




"ตอนนี้แหละ!!"


ปัง!!!


กระสุนปืนไรเฟิลถูกยิงออกมาจากมือปืนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์


พุ่งลอดผ่านราวกั้นสะพานและตรงเข้าไปยังเป้าหมาย


นั่นคือศีรษะของฮันเตอร์.....


ฮันเตอร์ถูกลูกกระสุนปืนนั้นยิงเข้าใส่สมองจนกระเด็นตาย


"เมื่อกี้นี้มัน....!?"


ลิทชี่ตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก ทำให้เขาหันไปมองที่มาของกระสุน ก็พบกับเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น
และไม่นานนักเฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นมาอยู่ตำแหน่งเหนือสะพานทางด้านหน้าพวกเขา


มือปืนปริศนาโรยตัวมาจากเครื่องเฮลิคอปเตอร์ลงมาบนสะพาน ซึ่งพวกลิทชี่และโนบิตะต่างก็คุ้นเคยกับมือปืนคนนั้นดี เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงหน่ายๆว่า

"ให้ตายสิ"


"ไม่นึกเลยว่าพวกนายจะมาถูกพวกฮันเตอร์มาล้อมเอาบนสะพานนี้"


"แถมยังไปรับฉันช้าซะจนเกือบถูกพวกฮันเตอร์ขย้ำเอาอีกต่างหาก"


มือปืนคนนั้นเดินเข้ามาทางลิทชี่เรื่อยๆ  ลิทชี่จึงเอ่ยปากพูดทักทายไปว่า...

"เหอะๆๆ นึกว่าจะเป็นเทพเจ้าที่ไหนสักอีก แล้วก็ขอโทษทีไปรับช้านะ"


"รีซิสซ่า....."


"เอ๋!!!?"


โนบิตะรู้สึกตกใจมากกับการปรากฏตัวของรีซิสซ่า และไม่ทราบว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไร ซึ่งคำถามนั้น เซก้าก็ได้เอ่ยปากถามรีซิสซ่าเอง


รีซิสซ่าจึงอธิบายออกมาว่า ในระหว่างที่เธอกำลังรอที่จุดนัดพบ เธอก็ถูกฝูงฮันเตอร์ซุ่มเล่นงาน
จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และในตอนนั้นเอง ก็มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเธอไว้และพาเธอ
ขึ้นไปสังเกตการณ์บนเฮลิคอปเตอร์แทนที่จะรออยู่ข้างล่างที่อันตรายมาก แต่ก็ตามหาพวกลิทชี่ลำบากมาก เพราะพวกเขาออกมาช้าเกินไป  แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมาติดกันบนสะพานทางออกนี้


ลิทชี่จึงพูดตะโกนออกมาว่า ถ้าออกมาแล้วก็ติดต่อมาบ้างสิยัยบ้าเอ้ย!!


รีซิสซ่าก็บอกว่า อยากทำอย่างนั้นอยู่ แต่ต้องคอยลาดตระเวนไปด้วยพร้อมกับจัดการฝูงฮันเตอร์ไปด้วยมันลำบากนะ


และในจังหวะนั้น เอสเตอร์ก็หันไปมองทางด้านหลังก็พบว่า ยังมีฝูงฮันเตอร์อีกกลุ่มกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ดูท่า ว่าพวกฮันเตอร์ยังถูกจัดการไม่หมด


ลิทชี่กับพวกโนบิตะจึงหันปืนเล็งไปยังฝูงฮันเตอร์ที่กรูกันเข้ามาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบว่า... ฝูงฮันเตอร์ที่กำลังกรูกันเข้ามานั้น ถูกคนทั้งสองคนที่เดินตามมาข้างหลังจัดการจนเรียบ และชวนตกใจยิ่งนัก


เพราะ คนสองคนที่จัดการฝูงฮันเตอร์ที่เหลือนั้นเป็นเพียงหญิงสาว 2 คนเท่านั้น!!!

คนแรกเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาผมสีน้ำตาล มัดผมแกละ สวมชุดสีชมพูที่ดูคุ้นตา


"โนบิตะ!! ทุกคน!!!"


ชิสุกะพูดทักทายขณะที่ใช้ปืนพกยิงไปที่ศีรษะของฮันเตอร์ตัวหนึ่งจนสมองกระจุย

ส่วนหญิงสาวที่เดินมาอีกคน คือ หญิงสาวใช้ชุดสีน้ำเงิน ไว้ผมสั้นสีน้ำเงิน

"อาเร๊ะ.. พวกเธอมาจอดรถชมวิวล่อฮันเตอร์กันบนถนนหรือจ้ะ?"


หญิงสาวคนนั้นพูดพลางใช้มือจับทุ่มฮันเตอร์ที่พุ่งเข้ามาโจมตีเธอตัวหนึ่งจนลอยกระเด็นกลางอากาศ พร้อมกับยกปืนพกขึ้นเล็งฮันเตอร์เข้าที่สมองขณะอยู่กลางอากาศนั้นจนตายคาที่พร้อมกับกระเด็นตกสะพานลงไปในแม่น้ำ

"ถ้างั้นให้พวกเราแจมด้วยได้ไหมม้า...."


เธอยังคงพูดด้วยสีหน้าไร้เดียงสาพร้อมกับใช้เท้าบดขยี้ศีรษะของฮันเตอร์ที่นอนล้มบนพื้นจนสมองกระจัดกระจาย.... เธอคนนั้นคือ สุดยอดเจ้าหน้าที่ของอัมเบรล่า... โทชิบะนั่นเอง

หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองคนได้ปรากฏตัวออกมาโชว์เทพล้มฝูงฮันเตอร์ที่เหลือจนหมด ก็รีบเดินเข้ามาหาพวกโนบิตะโดยเร็ว



"อ้ะ ชิสุกะจัง!!"


"นะ นี่เธอ ทำไมถึงได้...."


โทชิบะรีบตอบคำถามที่ลิทชี่ประหลาดใจว่าเธอมาได้ยังไง เธอบอกว่า หลังจากที่เธอจัดการธุระเรื่องยานอฟแล้ว เธอจึงรีบส่งกำลังเสริมตามไปช่วยลิทชี่โดยเร็วที่สุด และชิสุกะเองก็อยากจะตามมาด้วย เธอรู้อยู่แล้วว่า แผนการลอบบุกเข้าไปของพวกลิทชี่ต้องมีการผิดพลาดแน่ๆ เธอจึงรีบให้เจ้าหน้าที่คนอื่นหาตัวพวกลิทชี่พาหนีออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งมีแต่รีซิสซ่าเท่านั้นที่พาออกมาได้ก่อน...แต่เธอก็ยังคอยนั่งเฮลิคอปเตอร์สอดส่องหาพวกลิทชี่ต่อไป ซึ่งกินเวลานานมากกว่าจะหาเจอ..


เอสเตอร์ที่ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกฉุนนิดๆ (เพราะตนเป็นคนคิดแผนลอบเข้าไปขึ้นมา) ก็พูดว่า ถ้ามันลำบากมากขนาดนั้นก็ไม่ต้องมาช่วยพวกเราก็ได้นะ? เรื่องแค่นี้เราจัดการกันเองได้อยู่แล้ว...


"ห้ะ??"
โทชิบะเอ่ยเสียงด้วยสีหน้าที่ยิ้ม แต่เหมือนจะมีรอยเส้นเลือดปูดขึ้นบนหัวๆ


(เอสเตอร์ ปากนายพาหาเรื่องอีกแล้วนะ)


จากน้้นเธอก็หันไปมองชิสุกะ พร้อมกับพูดออกมาว่า

"ป่ะ ชิสุกะจัง พวกเรากลับกันเถอะ"


"เอ๋?"


"เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ!!"


"ดะดะ..เดี๋ยวก่อนสิครับ!!"


ลิทชี่จึงเบิร์ดกะโหลกเอสเตอร์ไปหนึ่งทีพร้อมกับพูดกับโทชิบะว่า
"...ช่วยพาพวกเราออกไปทีได้ไหม?"


โทชิบะหันไปมองลิทชี่แล้วก็ยิ้ม พร้อมกับบอกว่า ก็ได้นะ


จากนั้น เธอก็มองดูสถานการณ์รอบข้างพร้อมกับพูดออกมาว่า ท่าทางเฮลิคอปเตอร์ที่มาที่นี่อาจจะขนคนกลับไปได้ไม่หมด.. แต่จะให้รอที่นี่อย่างเดียวก็คงจะนานแย่...


เอสเตอร์ก็พูดเสริมมาว่า รถตอนนี้ก็เหลืออยู่คันเดียวซะด้วย

ลิทชี่ก็พูดออกมาว่า... เออ จะเอายังไงก็เอาเหอะ!!
ขอแค่ให้ออกไปจากที่นี่ได้ก็พอแล้ว!!


ตอนนั้นเอง โทชิบะก็ยิ้มอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับเอานิ้วชี้ตัวเองพร้อมกับพูดว่า

"งั้นฉันจะเป็นคนขับร..."


ยังไม่ทันที่โทชิบะพูดจบ ทุกคนที่อยู่แถวนั้นก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี โดยเฉพาะลิทชี่ที่ตะโกนขึ้นมาก่อนว่า...

"ไม่เอาโว้ยยยยย!!!"



"ยะ อย่านะครับ!!!"


เอสเตอร์พูดออกว่า 
"ตรูยอมรออยู่ที่นี่ก็ดีกว่า"


"หนูขอไม่ขึ้นรถละกันค่ะ...."


"ให้คุณเซก้าขับเถอะคร้าบบบบ"


"ฉันยอมขึ้นรถบัสดีกว่า!!"


"ห้ามเด็ดขาดเลยนะ!!"


"แม่จ๋าาาาา!!!!"


คิดว่าเราคงไม่ต้องอธิบายมากว่า ฝีมือการขับรถของโทชิบะเป็นอย่างไรเมื่อเห็นท่าทางของแต่ละคน เพราะทุกคนต่างเคยลิ้มรสฝีมือการขับรถของโทชิบะมาแล้ว ตอนที่ส่งยานอฟเข้าโรงพยาบาล..

จริงอยู่ที่ว่า เพราะฝีมือการขับรถเร็วของโทชิบะช่วยให้ยานอฟถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลได้ทัน แต่หลายคนก็ไม่อาจปฏเสธได้ว่า การขับรถของเธอมันช่าง.....เหลือเกิน

หลังจากที่ได้ยินดังนั้น เซก้าจึงเดินออกมาพูดด้วยว่า มติเป็นเอกฉันท์ ผมจะเป็นคนขับรถพาทุกคนไปเองครับ....


ตอนนั้นเองโทชิบะทำหน้าบูด..


พร้อมกับตะโกนส่งท้ายแบบเด็กๆว่า

"พวกเธอทุกคนใจร้ายที่สุดเลย!!!!!"




==========================================================

หลังจากเหตุการณ์นั้นจบลงพวกโนบิตะและเจ้าหน้าที่หน่วย U.B.C.S. ที่มีชีวิตรอด ก็ได้ใช้หลักฐานข้อมูลการพัฒนาอาวุธชีวภาพและเชื้อไวรัสเพื่อเอาผิดกับบริษัทอัมเบรล่าตัวก่อเรื่อง 
จนทำให้อัมเบรล่าถูกฟ้องร้องและถูกเอาผิดอย่างหนัก....


บริษัทสาขาย่อยของอัมเบรล่าทั่วทุกพื้นที่ในญี่ปุ่นถูกปิดตัวลงไป 
และในไม่ช้า อัมเบรล่าคอเปอเรชั่นก็คงจะล่มสลายในที่สุด


หลายวันต่อมา....


ณ ที่สนามบินภายในตัวเมืองแห่งหนึ่ง...


พวกโนบิตะ และสมาชิก U.B.C.S. ในชุดไปรเวท (มีเพียงลิทชี่กับเซก้าเท่านั้นที่ยังคงใส่เครื่องแบบเต็มยศ) กำลังยืนประจัญหน้ากัน... หลังจากที่ร่วมปฏิบัติภารกิจด้วยกันมาเป็นเวลานาน... ก็ถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายกันสักที พวกเขาจึงได้มานัดเจอกันครั้งสุดท้าย


"...เรื่องทั้งหมดนี่..คงจะจบแล้วสินะ"


"ครับ...."

จากนั้นโนบิตะก็ถามต่อว่า ต่อจากนี้พวกลิทชี่จะเป็นอย่างไรต่อไป...


หลังจากที่อัมเบรล่าล่มสลายลง เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกจับกุมจนเกือบหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเบื้องล่างอย่างพวกลิทชี่ไม่มีงานทำอีกต่อไป... แถมโทชิบะเองก็ยังคงวุ่นกับธุระในการจัดการเรื่องดังกล่าวด้วย

เอสเตอร์บอกว่า ก็คงจะตามหัวหน้าหน่วยไปรับจ้างทำงานอย่างอื่นล่ะนะ เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทำอะไรดี


เดคิสุงิก็แอบแซวออกมาว่า คงไม่ได้ไปทำงานด้านมืดโดยการเอาปืนไปจ่อยิงกบาลใครนะครับ
(ท่าทางคงเข็ดกับประสบการณ์ที่พวก U.B.C.S. ตามไล่ล่าครั้งตอนแรกแหงๆ)


เอสเตอร์บอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะพวกเขาเองก็ถนัดแต่ทำงานแนวๆนี้ล่ะนะ


ลิทชี่เองพูดขึ้นมาว่า อาจจะไปรับหน้าที่เป็นทหารรับจ้างอะไรพวกนี้ต่อล่ะมั้ง


ยานอฟก็บอกกับทุกคนว่า ขอบคุณเด็กๆทุกคนที่คอยให้ความช่วยเหลือพวกเขามาโดยตลอด


ลิทชี่ก็พูดบอกกับเด็กๆทุกคนว่า ยังไงก็ถ้ามีปัญหาล่ะก็เรียกพวกเขาได้นะ


ส่วนรีซิสซ่าก็พูดออกมาว่า เธอตัดสินใจที่จะติดตามพวกลิทชี่ต่อ.... ทีนี้ก็ถึงตา ซาช่ากับเซก้าพูดบ้าง


ซาช่าบอกเองว่า ตอนนี้เธอก็ไม่มีที่ไปแล้ว แถมเธอเองก็ถนัดแต่เรื่องฆ่าอย่างเดียวซะด้วย ก็คงต้องขอติดตามกลุ่มพวกลิทชี่ไปด้วย


เซก้าได้เอ่ยปากขึ้นมาว่า ตอนนี้เขาหาข้อมูลแล้วว่า มีงานรับสมัครทหารรับจ้างมาปฏิบัติการที่รัสเซียอยู่ด้วย...ซึ่งเขาจะไปที่นั่น


ลิทชี่หันมามองหน้าเซก้าด้วยความประหลาดใจ เพราะดูเหมือนว่า เซก้าจะไปสถานที่เดียวกับเขา


เซก้าหันมามองหัวหน้าพร้อมกับบอกด้วยเหมือนกันว่า ผมก็จะไปพร้อมกับคุณด้วยครับ


ดูท่าว่า ฝั่ง U.B.C.S. และซาช่าจะลงเรือลำเดียวกันหมดแม้ว่าหน่วยงานเดิมจะล่มสลายไปแล้ว
พวกเขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังรัสเซียเพื่อเข้าร่วมรบในหน่วยพิเศษ

หลังจากที่พูดกันถึงอนาคตเสร็จพวกลิทชี่ก็เอ่ยถามพวกโนบิตะบ้างว่า พวกเด็กๆจะเอายังไงกันต่อ


แน่นอนว่า พวกโนบิตะตัดสินใจที่จะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นต่อไป ถึงแม้ว่าครอบครัวและชีวิตปกติของพวกเขาไม่อาจจะหวนกลับคืนมาได้แล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเป็นบ้านเกิดของพวกเขา และพวกเขาก็จะปกป้องมันต่อไป..


ลิทชี่ก็พูดขึ้นมาว่า ดีจังเลยนะ...
แล้วก็พูดขึ้นมาว่า ถ้าหากกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้งล่ะก็...ฉันกับยัยนั่น..คง...


จู่ลิทชี่ก็ตัดบท พร้อมกับหันไปมองพวกเด็กๆที่แอบยิ้มราวกับพอจะเดาได้ว่าลิทชี่กำลังจะพูดถึงใคร ซึ่งน่าเสียดายมากที่คนๆนั้นมาไม่ได้เพราะติดธุระด่วน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สัญญากันแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็จะได้กลับมาพบกันอีก.... และเด็กๆพวกนี้ก็เหมือนกัน

เขาจึงเอ่ยปากออกมาว่า "งั้น โชคดีนะ เจ้าหนูทั้งหลาย... หวังว่าพวกเราคงจะได้พบกันอีกนะ..."


ซาช่ากล่าวทิ้งท้ายว่า พยายามเข้านะพวกหนูๆทั้งหลาย
คราวหน้าฉันจะต้องแข็งแกร่งกว่าพวกเธอแน่นอน เตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ


ตอนนั้นเองเอสเตอร์ก็แอบแซวซาช่าเล็กน้อยว่า สงสัยยังไม่เข็ดที่แพ้เด็กๆพวกนี้สิท่า
เอาเป็นว่าคราวหลังฉันจะช่วยติวเข้มให้เธอเอง...

เอสเตอร์ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกซาช่าตุ้ยเข้าที่ท้อง....

"พะ..พูดอะไรออกมาน่ะเจ้าบ้า...."

จากนั้นเซก้าก็ได้กล่าวอำลาเป็นคนสุดท้ายด้วยคำพูดว่า..

"รักษาตัวด้วยนะ....."


หลังจากที่ร่ำรากันเสร็จ เหล่า U.B.C.S. (+1) ทุกคนก็เริ่มทะยอยเดินมุ่งหน้าไปยังทางขึ้นเครื่องบินเพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไปของพวกเขา...ประเทศรัสเซีย...



ในเวลาต่อมาไม่นานนัก เครื่องบินลำที่พวกเขานั่งอยู่ก็บินออกจากท่าอากาศยานมุ่งหน้าสู่ฟากฟ้า พวกโนบิตะได้แต่มองเครื่องบินที่พวกเขานั่งจนหายไปลับสายตา

"พวกเขา...ไปแล้วสินะ..."


"อือ.."


"แล้วต่อจากนี้ เราจะเอายังไงกันต่อดีล่ะ..?"


"ตอนนี้อัมเบรล่าก็คงจะล่มสลายไปแล้ว
ต่อไปพวกเราจะเป็นยังไงกันต่อนะ..."


"แล้ว เมืองของพวกเราล่ะ...
คงไม่อาจจะกลับเป็นเหมือนได้ใช่ไหม?"


"....นั่นสินะ
เรื่องแบบนี้คงลืมไปไม่ได้ง่ายๆแน่"


ในช่วงที่ทุกคนเริ่มเข้าสู่ห้วงบรรยากาศที่อึดอัด เดคิสุงิที่มองรายการข่าวบนหน้าจอทีวี ที่กำลังลงข่าวเกี่ยวกับการปราบปราบอาวุธชีวภาพตามทั่วญี่ปุ่น...ก็เอ่ยปากข้นมาว่า

"ถึงตัวการจะถูกจัดการแล้วแต่พวกสัตว์ประหลาดและอาวุธชีวภาพพวกนั้นยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เหรอ..."

คำพูดของเดคิสุงิเริ่มทำให้ทุกคนตาสว่าง


"นั่นสิ... ทั้งพวกสัตว์ประหลาดเอย ไวรัสเอย ของแบบนั้นคงไม่ได้หมดไปง่ายๆซะเมื่อไหร่
ถึงจะจัดการตัวการใหญ่อย่างอัมเบรล่าได้ เรื่องทุกอย่างก็ยังไม่จบลงหรอกนะ"


"ใช่แล้ว...เรายังต้องทำหน้าที่ล้างบางพวกมันให้หมด!!"


"ถึงฉันจะสู้กับพวกนั้นไม่ค่อยเก่ง แต่ก็
ฉันจะขอสู้ไปพร้อมกับทุกคนด้วย!!"


 "เข้าใจแล้วล่ะ... ถ้างั้น พวกเราไปกันเถอะ...!!
ไปกวาดล้างพวกมันให้หมดไปจากโลกนี้!!"


"อืม!!!"





เหล่าเด็กๆทุกคนมุ่งหน้าออกจากสนามบินด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ
เรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของพวกเขามันพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น....


จบเนื้อเรื่อง Doraemon : Nobita no Biohazard 

ภาคมุดะนิไคโซวบัง 4 (มุริโนะไนไบโอ 4) ฉบับสมบูรณ์ 

ขอบพระคุณที่ทุกคนติดตามมาโดยตลอด



========================================================================



ของแถมท้าย...

โนบิตะจ้องมองปืนพก...พลางกำลังคิดอะไรบางอย่าง....


เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ฮันเตอร์บุกเข้ามาประชิดตัวของเขาบนสะพาน และเขาไม่สามารถหยิบปืนพกออกมายิงได้ทันเวลา....ถ้าหากเขาเชี่ยวชาญอาวุธประชิดตัวหรือมีทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่านิดหน่อยก็คง....


"เรา...พึ่งปืนมากเกินไปหรือเปล่านะ...."


จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโนบิตะวางปืนลง.....?
และหยิบอาวุธใหม่เช่นมีดขึ้นมาแทน...


โปรดติดตามตอนต่อไปใน
Doraemon : Nobita no Biohazard - Sword
ใบมีดที่แหลมคมจะเชือดเฉือนเหล่าศัตรูออกเป็นชิ้นๆ++

แสดงความเห็นบน Facebook!

4 ความคิดเห็น :

  1. กรี๊ดดดด เป็นตอนจบที่โอเคมากกกกก >////<
    ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะคะ ^w^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2557 เวลา 09:31

    น่าจะมีให้อ่านต่อ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ8 ตุลาคม 2557 เวลา 20:00

    เซก้าพูดสลบ

    ตอบลบ