" />

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2]

ความเดิมต่อจากคราวที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

เหล่าเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. ได้รับภารกิจในการปราบปรามเหล่าผู้ก่อการร้ายบนเรือสเปนเซอร์เรนที่ถูกขโมยมาจากอัมเบรล่า ท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิก....

แต่สิ่งที่พวกเขาพบบนเรือมีเพียงฝูงซอมบี้จำนวนมากเท่านั้น...ดูเหมือนว่า จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสบนเรือลำนี้ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

==================================================================

บทที่ 2

U.B.C.S. Show Time - ภาคปลาย


หัวหน้าหน่วยลิทเชนคุสกี้ (หรือที่ทุกคนเรียกติดปากว่า ลิทชี่) กับคู่หูที่ชื่อ เซก้า ได้เอาชีวิตรอดฝ่าฝูงซอมบี้ จากตอนที่บุกเข้ามาด้านใต้ท้องเรือจนขึ้นมาบนถึงโกดังตู้คอนเทนเนอร์ที่ใจกลางเรือ พวกเขาตัดสินใจสำรวจภายในตู้คอนเทนเนอร์ตู้หนึ่งภายในโกดังนั้น


ลิทชี่ได้เปิดประตูเดินนำเข้าไปก่อนเป็นคนแรก 

กลิ่นเหม็นเน่าอันรุนแรงโชยออกมาเตะจมูกทันทีที่เปิดประตู

เขาถึงกับร้องอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายในตู้นั้น...




ตู้คอนเทนเนอร์สีเลือดที่ภายในมีแต่กองซากศพ!!!


"ดูนี่สิ เซก้า...."


"...ไอ้แบบนี้นี่มันแย่สุดๆ  ดูเหมือนว่าที่แบบนี้คงจะไม่มีอะไรเหลือแล้วล่ะ"....

สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ภายในห้องนี้ มีเพียงกลิ่นอายแห่งความตายเท่านั้น


ลิทชี่สามารถคาดเดาได้ว่า คนพวกนี้คือผู้ที่หนีเอาชีวิตรอดบนเรือหลังจากเกิดอุบัติเหตุบางอย่างที่ทำให้ไวรัสแพร่ระบาด แต่สุดท้ายก็มาจนมุมในโกดังนี้และพวกซอมบี้ที่เหลือก็ตามเข้ามารุมเล่นงานพวกเขาจนหมด

เขายกวิทยุมือถือพร้อมกับรายงานสถานการณ์ถึงเซก้า...ว่าตนได้พบกับซากศพจำนวนมากของผู้ที่น่าจะอยู่บนเรือนี้ทั้งหมด ที่ถูกซอมบี้รุมแทะ


ท่าทางแบบนี้คงไม่คนเหลือรอดอยู่บนเรือลำนี้แล้ว สถานการณ์บนเรือลำนี้ ย่ำแย่กว่าที่คิด


ดูเหมือนว่า ไวรัสบนเรือลำนี้จะเกิดการแพร่ระบาดออกมาทั่วเรือแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีพวกซอมบี้เป็นจำนวนมากด้วย


เอสเตอร์ตอบรับพร้อมกับบอกว่า ทางด้านหน่วยของตนจะระวังพวกซอมบี้ให้มากขึ้น แถมพวกเขาก็ได้ปะทะกับฝูงซอมบี้กลุ่มนึงมาแล้วด้วย จากนั้นเอสเตอร์ก็ได้นัดหมายตำแหน่งให้มาพบกันที่ห้องโถงเก็บโกดังส่วนกลาง


เสียงของยานอฟดังขึ้นเพื่อยืนยันสถานการณ์ล่าสุดว่าตนพึ่งเก็บกวาดฝูงซอมบี้กลุ่มใหญ่ได้


ลิทชี่จึงตอบรับทุกคนอีกครั้งพร้อมกับเตือนให้ทุกคนระวังตัวด้วย


ภายในคอนเทนเนอร์ตู้นี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกแล้ว ลิทชี่กับเซก้าจึงเดินออกไป  ตอนนั้นเองที่ลิทชี่หันเหลือบมาเห็นว่ายังมีตู้คอนเทนเตอร์อีกตู้หนึ่งเหลืออยู่ เขาฝากไว้เซก้าเดินไปดูให้หน่อย


เซก้าพยักหน้าน้อมรับคำสั่งของหัวหน้าหน่วย จึงเดินไปยังหน้าโกดังตามที่เขาบอก


แต่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เซก้ายืนชะงักอยู่ที่หน้าประตูนิ่งๆ เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นลิทชี่ที่อยู่ห่างจึงรู้ทันทีว่า ภายในคอนเทนเนอร์ตู้นั้นจะต้องมีพวกซอมบี้เต็มไปหมดแน่ เขาสามารถอ่านท่าทางแปลกๆที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของเซก้าได้เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

ลิทชี่ตัดสินใจที่จะให้เซก้ากำจัดพวกซอมบี้ด้านในให้หมดตอนที่พวกมันไม่รู้ตัว 


เซก้าน้อมรับคำสั่ง เขาจึงแง้มประตูออกเล็กน้อยพร้อมกับโยนระเบิดเข้าไปด้านในก่อนที่จะปิดประตูเหล็กไว้แน่นตามเดิม


ตูม!!!!


สิ้นเสียงการระเบิด ลิทชี่ก็บอกให้เซก้าตามเขามาต่อ


ก่อนที่จะออกไปจากบริเวณนี้จะมีจุดเซฟไว้ด้วย


อีกด้านหนึ่งของโกดัง เซก้าก็เดินตามหัวหน้าหน่วยของเขามาเงียบๆ จนกระทั่งหัวหน้าของเขาหยุดชะงักลง เพราะว่าบริเวณลานกว้างเบื้องหน้าของเขาเต็มไปด้วยพวกซอมบี้


ลิทชี่สังเกตเห็นว่าพวกมันยังคงเดินออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ยักษ์ที่อยู่อีกฝั่ง ที่ยังเปิดประตูค้างไว้มาเรื่อยๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด


จำนวนซอมบี้ที่อยู่ด้านหน้าของเขาเป็นเพียงหยิบมือเดียวจากในบรรตู้คอนเทนเนอร์นั้น ถ้าหากพวกมันหลุดออกมามากกว่านี้ล่ะก็ พวกเขาคงจะเดินออกไปยังจุดนัดพบกับพวกเซก้าไม่ได้แน่ๆ


ลิทชี่จึงตัดสินใจให้เซก้ารีบวิ่งออกไปปิดล็อกบานประตูเหล็กที่ตู้คอนเทนเนอร์นั้นซะ


ส่วนตนจะคอยยิงคุ้มกันพวกซอมบี้ที่ลานกว้างนั้นเอาไว้เอง ขอให้เซก้ารีบวิ่งไปล็อกประตูตู้นั่นให้เร็วที่สุด...


หลังจากที่ลิทชี่บอกแผนกับเซก้าแล้ว เขาจึงหยิบปืนกลคู่กายขึ้นพร้อมกับเดินออกมาต่อหน้าฝูงซอมบี้พวกนั้นพร้อมกับตะโกนร้อง

"ไป ไป ไป!!!"



กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืนของลิทชี่ ดึงความสนใจซอมบี้ทุกตัวในบริเวณนั้นทั้งหมดให้เขามาหาตน และในขณะเดียวกันเซก้าก็หยิบมีดยักษ์คู่กายวิ่งตรงเข้าไปยังใจกลางวงล้อมฝูงซอมบี้


ฝูงซอมบี้พยายามจะเข้ามารุมล้อมเซก้า แต่พวกมันก็ถูกเซก้าใช้มีด ฟันตวัดคอขาดกระเด็น อีกทั้งตัวไหนที่เข้าไปเล่นงานใกล้กับเซก้าได้ ก็ถูกกระสุนปืนกลของลิทชี่ยิงเจาะทะลุสมองก่อนที่มันจะได้เข้าเล่นงานเซก้า  เซก้าล็อกคอซอมบี้ตัวหนึ่งไว้เป็นโล่กำบังพร้อมกับเหวี่ยงมันฟาดตัวที่อยู่รอบข้างไปมาพร้อมกับใช้มีดแทงทะลุสมองปลิดชีพมันในภายหลัง


กระสุนปืนกลยิงกราดใส่ฝูงซอมบี้ที่กำลังล้อมวงรุมเซก้าอย่างต่อเนื่อง พวกมันต่างพากันล้มตายลงไปเป็นจำนวนมาก แถมกระสุนที่ถูกยิงออกไปก็ไม่ถูกเซก้าเลยสักนัด การประสานงานของทั้งคู่นั้นยอดเยี่ยมมาก สมกับที่เป็นคู่บัดดี้กัน

ในที่สุด เซก้าก็สามารถวิ่งฝ่าฝูงซอมบี้กลางลานกว้างไปจนถึงปากทางตู้คอนเทนเนอร์ได้สำเร็จ เขาจึงทำการดันบานประตูปิดลงพร้อมทั้งพยายามจะล็อกมันให้ได้ แต่มันก็ไม่ง่ายนักเพราะว่าพวกซอมบี้ที่อยู่ด้านในก็พยายามผลักดันบานประตูให้ออกมาด้วย

(ตอนที่ปิดประตูจะมีคำเตือนว่าให้กดปุ่มแอคชั่นรัวๆ เพื่อออกแรงต้านในการดันประตูให้เข้าที่ก่อนที่จะล็อกมัน)


ถึงแม้ว่าพวกซอมบี้จะมีเรี่ยวแรงมหาศาลแถมยังมีจำนวนนับไม่ถ้วนภายในตู้ แต่ว่าเซก้าเองก็เป็นคนที่มีพละกำลังมหาศาลผิดมนุษย์เช่นกัน เพียงแค่เขาคนเดียวก็สามารถดันประตูจนลงล็อกได้สำเร็จ เมื่อได้ยินเสียงล็อกประตูดังขึ้น ลิทชี่จึงบอกให้เซก้าช่วยกันเก็บกวาดพวกที่เหลืออยู่ข้างนอกทั้งหมด


เซก้าหันไปมองพวกซอมบี้ที่กำลังกรูกันเข้ามาทั้งตนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเช่นเคย....พวกมันมีจำนวนน้อยลงมากหลังจากที่ถูกเก็บกวาดโดยหัวหน้าลิทชี่ เขาตั้งท่าจับมีดยักษ์ในมือไว้แน่น


ไม่กี่อึดใจต่อมา พวกซอมบี้ที่อยู่ตรงลานกว้างก็ถูกกวาดล้างจนเหี้ยน....


"ทำได้ดีมาก...เซก้า ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"

ลิทชี่กล่าวชมลูกน้องของตัวเอง...ถึงเซก้าจะไม่ได้เอ่ยปากตอบกลับนอกจากพยักหน้าและใช้ผ้าเช็ดเลือดออกจากตัวและมีดคู่ใจ แต่เขาก็รู้สึกดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยจากหัวหน้าของเขา


"โอเค ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วก็ รีบไปกันต่อเถอะ"


แล้วลิทชี่ก็เดินนำเซก้าไปยังจุดต่อไป...


ห้องโกดังถัดไปนี้เอง ก็คือห้องที่นัดกับพวกเอสเตอร์ไว้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาถึงที่ห้องนี้ก่อน  ลิทชี่บอกว่าภายในห้องนี้มีตู้คอนเทนเนอร์อีก 2 ตู้ ซึ่งดูเหมือนว่ายังไม่มีคนไปสำรวจ เขาอยากให้เซก้าวานสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ให้หน่อย ส่วนตนจะขอเดินสำรวจภายในโกดังรอบห้องนี้พร้อมกับคอยระวังหลังให้ เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยและปลอดภัย ก่อนที่พวกเอสเตอร์จะมาถึง


ตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ เซก้าเลือกที่จะเดินเข้าไปสำรวจตู้ด้านในสุดก่อน


เซก้ายืนหยุดที่หน้าตู้เช่นเคย พร้อมกับหลับตาเงี่ยฟังเสียง...ที่อยู่ด้านใน (มีคำสั่งขึ้นมาว่าจะตัดสินเข้าไปหรือไม่)

"อือ....อาาาา..."

 เซก้าสะดุ้งลืมตาขึ้น เพราะเขาได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากข้างในและเสียงแบบนี้จะต้องเป็นพวกซอมบี้แน่นอน

ตอนนี้จะมีตัวเลือกขึ้นมา เซก้าได้เลือกตัวเลือกที่ 1 ซึ่งก็คือ... เก็บกวาดพวกมันให้เรียบร้อย ไม่ให้เป็นอุปสรรคในภายหลัง



เซก้าจึงแง้มประตูออกพร้อมกับเหวี่ยงระเบิดอีกลูกเข้าไป พร้อมกับปิดประตูลง


ตูม!!!!!

พวกซอมบี้ที่อยู่ด้านในถูกระเบิดอัดเข้าเต็มตู้จนตายไม่มีเหลือ


หลังจากนั้น เซก้าจึงเดินออกมายังตู้ถัดไปด้านนอก ซึ่งแน่นอนว่า เขาก็มาหยุดยืนที่หน้าตูพร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียงที่อยู่ด้านในเช่นเคย


(ตรงนี้ถ้าหากว่าเลือกที่จะโยนระเบิดอีกครั้ง)


(มันจะบอกว่า ระเบิดหมดแล้ว)


แต่สิ่งที่เซก้าสัมผัสได้คือ...ความเงียบ...

ภายในตู้นั้นไม่มีอะไรอยู่ เขาจึงเปิดประตูเดินเข้าไป

สิ่งที่อยู่ภายในนั้นมีเพียงกล่องเปล่าจำนวนมากและบันทึกเล่มหนึ่งที่เขียนขึ้นมาเป็นภาษาต่างประเทศที่เขาอ่านไม่ออก.... เซก้าจึงเดินออกจากห้องไปสมทบกับลิทชี่ด้านนอก


ลิทชี่ได้เอ่ยปากขอบคุณเซก้าที่ช่วยสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ให้  ภายในโกดังนี้ก็ปลอดภัย


"ไปกันเถอะ เซก้า ไปรอเจ้าพวกนั้นที่หน้าประตูกัน"


ลิทชี่กับเซก้าจึงพากันเดินมาจนถึงหน้าประตูซึ่งคาดว่า พรรคพวกของเขาจะเข้ามาทางนี้ ระหว่างนั้นเองลิทชี่ก็ได้พูดเกี่ยวกับภารกิจว่า เรือนี้เป็นเรือที่ใช้ขนส่งไวรัสกับอาวุธชีวภาพ (BOW) แท้ๆ


แต่เขายังไม่เห็นอาวุธชีวภาพที่ว่านั่นนอกจากพวกซอมบี้เลย พร้อมกับสงสัยว่า หรีอบางทีมันอาจจะไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้มั้ง


ตึง!!!!!

ประตูที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาถูกพังกระแทกกระเด็นออกมาอย่างรุนแรง สร้างความประหลาดใจให้ทั้ง 2 หนุ่มมาก


"มันอะไรน่ะ!? เมื่อกี้...."

ลิทชี่บอกให้เซก้าซ่อนตัวอยู่ด้านหลังชั้นคอนเทนเนอร์หลังประตูไปก่อน ส่วนตนจะออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น...


ในระหว่างนั้นลิทชี่ก็คิดในใจว่า เจ้ายานอฟนี่อาจจะเล่นอะไรแผลงๆอย่างพังระเบิดเปิดประตูเข้ามาเท่ๆแบบนี้ก็ได้ (เพราะว่ายานอฟเป็นผู้เชี่ยวชาญระเบิด) และคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็คงจะต้องไปต่อว่ากันสักหน่อยแล้ว เพราะถ้าเกิดเขากับเซก้าอยู่หลังประตูในตอนนั้นคงจะบาดเจ็บหนักพอสมควร

แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ออกมาจากประตูนั้นคือ...

เจ้าอาวุธชีวภาพที่ลิทชี่เคยบอกว่าคงจะไม่มีอยู่บนเรือ...บัดนี้ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว...



มันคือ ไทแรนท์....อาวุธชีวภาพในร่างมนุษย์ที่โหดร้ายและแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น...

เมื่อได้เห็นมันเดินเข้ามาด้านใน ลิทชี่ถึงกับรีบติดไนตรัสวิ่งกลับไปซ่อนตัวแทบไม่ทัน

"เฮ้ย!! ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย...."



ลิทชี่เหงือตกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ทางด้านเซก้าเองก็ตกใจท่าทีของหัวหน้าตนไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยปากออกมา แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่หัวหน้าของตนเจอคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

"เซก้า....เราซวยแล้วล่ะ... ไม่อยากเชื่อเลยว่า ตัวอย่างอาวุธชีวภาพที่รายงานพูดถึงจะเป็นไทแรนท์... บ้าเอ้ย!! ทำไมไม่บอกให้ละเอียดกว่านี้ฟะ!!"


ลิทชี่หัวเสียอย่างหนักพร้อมกับบอกให้เซก้าเตรียมระเบิดมือไว้ด้วย แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะดูเหมือนว่า เซก้าเองก็ไม่มีลูกระเบิดเหลือแล้ว (และลิทชี่ก็ใช้จัดการพวกซอมบี้ไปหมดเช่นกัน)

ลิทชี่คิดหนักมากว่าเขากับเซก้าจะเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้อย่างไร (ดูเหมือนว่าพวกหน่วย U.B.C.S. เองก็รู้จักไทแรนท์ดีในระดับนึง) อาวุธที่เขามีอยู่ในตอนนี้ มีเพียงมีดกับปืนกลเท่านั้น ซึ่งโอกาสที่จะเอาชนะไทแรนท์ด้วยอาวุธเช่นนี้มีความเสี่ยงมากในการต่อสู้


"ถ้าพวกเราไม่มีระเบิดล่ะก็...เราฆ่ามันไม่ได้แน่ โถ่เว้ยยย ถ้ามีบาซูก้าหรืออาร์พีจีสักอันล่ะก็..."


ในตอนนั้นเอง...วิทยุสื่อสารของลิทชี่ก็ดังขึ้น ผู้ที่อยู่ปลายสายคือยานอฟ...
เขารายงานมาว่า ในตอนนี้เขาได้เข้ามายังห้องที่นัดพบแล้ว (ซึ่งก็คือห้องที่ไทแรนท์พึ่งเดินเข้ามา) ซึ่งเขาอยู่อีกฝั่งของห้อง


ยานอฟบอกว่า...ตอนนี้เขามองเห็นพวกหัวหน้าลิทชี่กับไทแรนท์จากระยะไกลในห้องนี้แล้ว  (และโชคดีที่ไทแรนท์ยังมองไม่เห็นพวกยานอฟที่เข้ามาในห้องตรงอีกฝั่ง) เขาจึงสอบถามว่าหัวหน้าหน่วยว่าจะให้จัดการไทแรนท์เลยไหม...


เสียงนั้นทำให้ลิทชี่รู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด เพราะดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้างอยู่เพราะยานอฟที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธทำลายล้างประจำกลุ่มเข้ามาในห้องทันที 

ลิทชี่ไม่รอช้า..รีบออกคำสั่งผ่านทางวิทยุ

"จัดการมันซะยานอฟ.....อย่าทำให้ฉันผิดหวัง..."


"รับทราบครับผม จะจัดการมันเดี๋ยวนี้ล่ะครับ..."


ปัง!!!

กระสุนปืนไรเฟิลถูกยิงออกมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองของมันอย่างแม่นยำ



ไทแรนท์ที่สูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและเริ่มอ่อนกำลังลงด้วยความเจ็บปวด

ชั่วพริบตา ก็มีอะไรบางอย่างพุ่งตรงเข้ามาทางไทแรนท์อย่างรวดเร็ว...มันคือหัวจรวดอาร์พีจีที่มีพลังทำลายล้างสูง  เมื่อมันกระทบเข้าไปที่ลำตัวของไทแรนท์ก็เปล่งแสงสีขาวออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็...


ตูม!!!
ร่างของไทแรนท์ถูกระเบิดกระจัดกระจายไม่เหลือแม้แต่ซาก


ลิทชี่มองดูผลงานที่น่าประทับใจของลูกน้องตนจึงออกมาจากที่ซ่อน

"ทางสะดวกแล้ว ตอนนี้แหละ รีบไปรวมกับพวกนั้นเถอะ"


ลิทชี่และเซก้ารีบเดินมาสมทบกับเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. ที่เหลือที่อยู่อีกฝั่งของห้อง


"คุณหัวหน้า.... คุณเซก้า....ทั้งสองคนปลอดภัยดีนะครับ"


ชายผมสั้นสีฟ้าอ่อนได้ทักพวกลิทชี่ก่อน เขาถือเครื่องยิงจรวดอาร์พีจีไว้ในมือซ้าย (ที่พึ่งใช่สอยไทแรนท์ตัวเมื่อสักครู่ไป) และยกมือขวาขึ้นทำความเคารพหัวหน้าหน่วยและเพื่อนร่วมงานด้วยท่าทางขี้เล่น  คนๆนี้ก็คือ ยานอฟ พลอาวุธหนักประจำหน่วยที่ชอบการระเบิดเป็นชีวิตจิตใจ


"เกือบไปแล้วนะพวกนาย...ถ้าพวกฉันมาช้ากว่านี้หน่อยคงถูกเจ้านั่นเจี๋ยนทิ้งไปแล้วล่ะมั้ง?"

หญิงสาวที่แบกปืนไรเฟิลขนาดใหญ่ยืนอยู่ชั้นบนระเบียงของโกดังตะโกนลงมาหาพวกที่อยู่ข้างล่าง



สาวสวยผมทองที่คาดผมสีแดง ดูห้าวๆคนนี้คือ รีซิสซ่า พลแม่นปืนประจำหน่วย  และเธอคนนี้เองที่เป็นคนยิงดวงตาของไทแรนท์ก่อนที่ยานอฟจะใช้จรวดอาร์พีจียิงปิดฉากมันทีหลัง เธอออกเป็นคนที่จะรั้นและมั่นใจในตัวเองสูงไปหน่อยแต่ก็เป็นคนที่มีฝีมือดีมากเช่นกัน


"ข้างบนนั่นมีแต่พวกซอมบี้เต็มไปหมดเลย ทางด้านนายเองก็คงจะลำบากไม่น้อยเลยนะ เซก้า.."


ชายผมสีน้ำตาล คาดผ้าสีขาวไว้ตรงหน้าผากคนนี้ก็คือ เอสเตอร์ ที่เป็นผู้รายงานภารกิจข้อมูลให้พวกลิทชี่นั่นเอง


หลังจากนั้น พวกคนในหน่วยก็ได้คุยกัน พวกเขาบอกว่า ตอนนี้เหลือเพียงที่เดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้สำรวจดู ก็คือ...ตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ตรงนี้เท่านั้น



ลิทชี่เลยถามว่า จะให้พวกเราเข้าไปสำรวจในนี้เลยไหม


เจ้าหน้าที่ U.B.C.S. ที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคจึงอธิบายว่า บางทีในตู้คอนเทนเนอร์ตู้นี้อาจจะเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสก็ได้ (เพราะพวกเขาต่างค้นห้องจนทั่วแล้วเหลือที่นี่ที่เดียวเท่านั้น) ผู้ที่สวมชุดป้องกันจะเป็นคนเข้าไปสำรวจเองและขอให้พวกหัวหน้าลิทชี่ที่ไม่ได้ใส่ชุดป้องกันเชื้อรออยู่ด้านนอกจะดีกว่า...


"เรื่องด้านในให้พวกผมจัดการเองเถอะครับ"


ลิทชี่เข้าใจสถานการณ์ดีจึงบอกกลับไปว่า

"เออ... เรื่องข้างในนั้นฝากพวกนายจัดการด้วยล่ะ..."


เจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกันทั้งหมดจึงเดินเข้าไปด้านในโดยทิ้งให้พวกหัวหน้าหน่วยรออยู่ข้างนอก


การสำรวจดำเนินต่อไป ในตอนนั้นพวกลิทชี่ก็ได้ยินเสียงพวกเจ้าหน้าที่ด้านในตะโกนมาว่า เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ในห้องนี้มีพวกหลอดแคปซูลบรรจุสารบางอย่างแตกกระจายเต็มไปหมด


ไม่อยากเชื่อเลยว่า เจ้าของพรรค์นี้จะทำให้คนทุกคนบนเรือมีสภาพเป็นแบบนี้ไปได้


รีซิสซ่าที่ได้ยินเสียงพูดคุยกันข้างล่าง จึงพูดออกมาว่า บางทีอาจจะเป็นฝีมือของพวกหนูทดลองในนั้นก็ได้ที่ไปทำของพรรค์นั้นแตกเสียหาย


เอสเตอร์ก็ให้ข้อมูลเสริมว่า อัตราการแพร่ระบาดของเชื้อที-ไวรัสนั้นรวดเร็วมากเลยทีเดียว แต่ก็ระเหยไปในอากาศด้วยเวลาอันสั้นเช่นกัน บางทีตอนนี้พวกไวรัสที่อยู่ในอากาศตอนนี้อาจจะหายไปหมดแล้ว


เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านในบอกว่า เขาได้รวบรวมสิ่งของที่น่าจะเป็นหลักฐานไว้ให้ได้มากที่สุดเรียบร้อย


เมื่อเห็นเช่นนั้น ลิทชี่จึงประกาศขึ้นมาว่า ภารกิจนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว...


"แล้ว จะเอายังไงกับเรือนี้ต่อดีล่ะครับ หัวหน้า...ตอนนี้เรือก็กลายเป็นเรือผีสิงไม่มีคนอยู่แล้ว"


ยานอฟเอ่ยขึ้นมาว่ามันคงอันตรายแน่ถ้าหากทิ้งเรือนี้ไว้ให้มันลอยเข้าไปติดชายฝั่งในประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะว่าเรือลำนี้ยังมีซอมบี้อีกจำนวนมากหลงเหลืออยู่


ลิทชี่ตัดสินใจออกมาได้อย่างรวดเร็ว จึงได้สั่งการออกมาว่า...

"ทำลายเรือลำนี้ทิ้งไปซะ.....เราจะเผาทุกสิ่งทุกอย่างบนเรือลำนี้ให้หมด"


ลิทชี่บอกให้ทุกคนรีบออกไปจากเรือนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมกับพูดติดตลกออกมาว่าอีกไม่นานจะมีโชว์ปาร์ตี้ดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ไว้ดูกัน

(花火パーティー : ฮานาบิปาร์ตี้ = ปาร์ตี้ดอกไม้ไฟ)


"รับทราบ!!!"
เจ้าหน้าที่ทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน


"เอ้าได้ยินที่หัวหน้าพูดแล้วใช่ไหม รีบออกไปจากที่นี่ได้แล้วเร็วเข้า!!!"


เอสเตอร์พูดเร่งก่อนที่จะนำพวกสมาชิกที่เหลือวิ่งกลับออกไปด้านบนดาดฟ้า...รีซิสซ่าที่อยู่ด้านบนระเบียงก็รีบวิ่งออกไปจากห้องเช่นกัน


ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้ว โดยมีเซก้าทิ้งท้าย แต่เขาก็ยืนชะงักอยู่ที่หน้าประตู เพราะเขาสังเกตเห็นว่า หัวหน้าลิทชี่ยังคงยืนหน้านิ่งอยู่ที่หน้าประตูโกดังนั้น...เซก้าได้ยิน เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ


"........อัมเบรล่าน่ะตกต่ำถึงขนาดนี้เลยสินะ"
(Umbrella mo ochime dana)


เซก้าไม่มีอะไรจะตอบกลับ หรือทำท่าทางใดๆที่จะเข้าใจความรู้สึกของหัวหน้าลิทชี่ในตอนนั้น ..... เขาทำได้แต่เพียงยืนรอให้หัวหน้าของเขาเดินกลับออกมาพร้อมกัน.....

คลิปประกอบ



จบเนื้อเรื่องบทนำของหน่วย U.B.C.S.
หลังจากนั้นจะมีให้เซฟก่อน



และตอนหน้าก็จะวกกลับไปที่เนื้อเรื่องของพวกโนบิตะ.....

ในตอนนี้พวกโนบิตะกำลังจะทำอะไรกันอยู่น้า.....ต้องติดตามกันต่อไป....

แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น