จากบทความที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3]
พวกโนบิตะสามารถลอบเข้าไปยังบ้านเกิดของพวกตนที่ถูกรัฐบาลปิดไว้เป็นพื้นที่อันตรายได้โดยอาศัยความร่วมมือจากโอทากะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชายแดนที่รู้จักกับพวกโนบิตะ
พวกเขาไม่ได้กลับบ้านเกิดอีกเลยเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์หายนะครั้งนั้นขึ้น บัดนี้พวกเขาได้พบว่า เมืองบ้านเกิดที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขกับผู้คนที่รู้จัก บัดนี้ได้กลายเป็น....
========================================================================
บทที่ 4
เมืองร้างที่ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย
พวกโนบิตะได้ผ่านเขตชายแดนบริเวณทุ่งหญ้าซุซุกิมาได้ก็จะเป็นป่าโปร่งด้านใน
อาวุธที่โนบิตะพกติดตัวในตอนนี้มีเพียง 3 อย่างคือ
1) มีดพก - ไนฟ์ [Knife - ナイフ]
2) ปืนพก - แฮนด์กัน [Handgun - ハンドガン]
3) ปืนลูกซองรุ่นมอสเบิร์ก M590 00B [Mossberg M590 00B - モスバーグ M590 00B] ที่สะพายอยู่ด้านหลัง
โนบิตะรีบวิ่งตามเพื่อนคนอื่นๆที่เดินไปก่อนล่วงหน้าจนมาเจอซูเนโอะกับไจแอนท์ที่ถือปืนคอยระวังหลังให้พวกพ้อง
ซูเนโอะบอกว่าบริเวณรอบเมืองนี้มันดูเงียบจนน่ากลัวไปเลย แถมไม่มีวี่แววว่าจะมีพวกซอมบี้โผล่มาด้วย
ทางด้านไจแอนท์ก็พูดขึ้นมาว่าเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขาต้องจับปืนจริงต่อสู้กับสัตว์ประหลาดพวกนี้มาตลอด และเขาต้องการที่จะจัดการกับพวกมันให้หมดไปจากโลกให้ได้
ปังๆๆ
ในตอนนั้นเองโนบิตะ ไจแอนท์ ซูเนโอะ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น มันต้องเป็นเสียงปืนที่มาจากพวกเพื่อนของพวกเขากลุ่มที่เดินนำหน้าแน่ๆ
"มันเกิดอะไรกันขึ้นน่ะ"
"รีบตามไปดูกันเถอะ!!"
พวกโนบิตะจึงรีบวิ่งตามกลุ่มของเดคิสุงิที่อยู่ด้านหน้าทัน และเมื่อมาถึงเขาก็พบว่า โดราเอม่อน เดคิสุงิ เซย์นะ และยาสุโอะดึงอาวุธคู่กายของตนขึ้นมาพร้อมกับยืนล้อมรอบตัวอะไรบางอย่าง...
"โดราเอม่อน...อะ...ไอ้เจ้าตัวนี้มัน....?"
"ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยเห็นเจ้านี่มาก่อน"
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาคือศพของสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกับแต่มีขนาดตัวใหญ่มาก ซึ่งก็คือ ฮันเตอร์แกมม่า นั่นเอง
และพอมองหน้าตามันชัดๆแล้ว เซย์นะก็เอะใจและพูดขึ้นมาว่า..
"ฉันเคยสู้กับเจ้าตัวนี้มาก่อนค่ะ...."
เธอเริ่มนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในเมือง R เมื่อ 2 ปีก่อน เซย์นะเคยสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้มาก่อนในบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 17]
เซย์นะจึงเล่ารายระเอียดข้อมูลเกี่ยวกับมันให้ฟัง เดคิสุงิได้เดินเข้าไปสำรวจศพของมันในระยะใกล้
"เจ้านี่เป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ เลือดของมันยังไหลไม่หยุดเลย แสดงว่ามันตายได้สินะ...."
เดคิสุงิเองก็บอกว่า เขาเองก็พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกัน
"เจ้านี่น่าขยะแขยงชะมัด ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราต้องมาเจอตัวอะไรแบบนี้"
ยาสุโอะรู้สึกแย่กับสัตว์ประหลาดตัวนี้มาก ท่าทางเขาไม่ค่อยจะมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับตัวประหลาดประเภทนี้เท่าไหร่
"ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าพวกนั้นคงเอาไวรัสไปสร้างอาวุธชีวภาพสายพันธุ์ใหม่อย่างเจ้านี่มาแน่ๆ"
โดราเอม่อนคาดการณ์ไว้ว่า สิ่งมีชีวิตตัวนี้จะต้องเป็นอาวุธชีวภาพชนิดใหม่ที่อัมเบรล่าสร้างขึ้นอย่างแน่นอน เขาแทบไม่อยากนึกเลยว่าพวกเขาจะต้องเจอสัตว์ประหลาดแบบนี้อีกจำนวนมากแค่ไหน
"ดูกี่ทีก็รู้สึกแย่เหมือนเดิมเลยนะคะ"
ซูเนโอะกับไจแอนท์ที่เดินตามหลังเข้ามาก็พูดขึ้นมาบ้าง...
"มันโผล่มาจากไหนกันนะ ไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นน่ะ"
ไจแอนท์เองก็ยังสงสัยอยู่เกี่ยวกับที่มาของมัน เพราะถ้าเขารู้ล่ะก็ เขาจะต้องตามไปทำลายมันไม่ให้เหลือซากแน่ๆ
แต่ซูเนโอะกลับคิดไปว่า..
"หวังว่าในเมืองคงไม่ต้องมาสู้กับไอ้ตัวแบบนั้นนะ?"
หลังจากนั้นทุกคนจึงเดินล่วงหน้าต่อไปจนกระทั่ง....พวกเขาเดินออกมาจากป่า และที่เบื้องหน้าของพวกเขาตอนนี้ก็คือ...
หลายคนต่างพูดไม่ออกเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ความรู้สึกต่างๆเริ่มประดังกันเข้ามา ทั้งความคิดถึงความเจ็บปวด และความทรงจำที่เลวร้าย
ใครบางคนพยายามฝืนพูดออกมา...
"กะ..กลับ...."
"..เรากลับมาแล้วล่ะ...."
"เมืองบ้านเกิดของพวกเรา..."
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังยืนซึมอยู่...เดคิสุงิเห็นว่าบรรยากาศรอบข้างไม่ค่อยดีนักจึงพูดขึ้นมาว่า..
"ไปกันเถอะ...พวกเรา......บ้านของโนบิตะคุงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ใช่ไหม"
"อะ...อืม..."
หลังจากที่ตอบคำถามของเดคิสุงิ โนบิตะก็ก้มหน้าลง
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินทางกลับเข้าไปในเมือง โนบิตะยังคงรู้สึกกังวลใจมาก เพราะเขาคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าหากเขาเดินทางไปถึงบ้าน..บ้านเขาในตอนนี้...ก็...คง....
และแล้วพวกโนบิตะทุกคนก็เดินก้าวเข้ามาในเมืองบ้านเกิดของตนที่กลายสภาพเป็นเมืองร้าง....สายลมที่พัดผ่านเมืองนี้ต่างนำความรู้สึกเศร้าหมองชวนหดหู่ใจมาให้ เมืองที่เคยสวยงาม มีชีวิตชีวา บัดนี้เป็นเพียงเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ร่องรอยของอุบัติเหตุ ซากเมืองที่เริ่มทรุดโทรม รวมไปถึงซากศพและกองกระดูกจำนวนมากที่กระจายอยู่ทั่วพื้นถนน
เมืองนี้ได้กลายเป็นเมืองแห่งความตายโดยสมบูรณ์
เดคิสุงิที่เดินไปสำรวจบริเวณถนนรอบข้างก่อนบอกว่า เส้นทางนี้ไม่สามารถเดินไปต่อได้เพราะมีแนวรถขนาดใหญ่ขวางกั้นไว้
"...บริเวณรอบข้างนี้ได้ยินแต่เสียงลมเท่านั้นเอง
ไม่อยากเชื่อเลยว่า 2 ปีถัดมาจะกลายเป็นเมืองร้างได้ขนาดนี้"
เขาเองก็รู้สึกแย่และดูหดหู่กับบรรยากาศในเมืองไม่น้อยกว่าคนอื่นเลยทีเดียว
เซย์นะเองก็รู้สึกย่ำแย่ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อเธอมองเห็นโครงกระดูกซากศพที่มีเครื่องประดับบางอย่างบนพื้น...เธอไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้.... ดูเหมือนว่าโครงกระดูกนั้นจะเป็นของคนที่เธอรู้จัก
โดราเอม่อนที่อยู่ด้านหน้าก็เช่นเดียวกัน..
"เหมือนเมืองผีสิง (Ghost Town - ゴーストタウン) เลยแฮะ ไม่อยากจะเชื่อเลย..."
โนบิตะเดินสำรวจตัวเมืองพร้อมกับพวกเพื่อนๆไปเรื่อยๆ ก็เห็นพวกไจแอนท์ที่กำลังยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า..และบริเวณด้านหน้าของพวกเขามีฝูงอีกากำลังรุมจิกกันซากศพอยู่
"ในที่สุด...ก็กลับมาที่เมืองของพวกเราแล้ว......"
ตัวของไจแอนท์เริ่มสั่นและมีน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตา
"ทั้งๆที่ได้กลับมาแล้วแท้ๆ... แต่ทำไม....."
"มันถึงได้.."
"มันถึงได้กลายเป็นแบบนี้วะ!!! ไอ้บ้าเอ้ย!!!
ไจแอนท์หมดความอดทนแล้วจึงรีบวิ่งไปชกอีกาที่กำลังรุมจิกกินซากศพ แต่พวกมันไหวตัวทันจึงรีบบินหนีไปอย่างรวดเร็ว ไจแอนท์ก็ได้แต่ตะโกนร้องไห้ทั้งน้ำตา
"อย่ามาล้อเล่นกันนะโว้ย!! ไอ้พวกบ้า!!!
คนพวกนี้ไม่ใช่อาหารของพวกแกนะ!!!!!"
ในวินาทีนั้นไม่มีใครที่คิดจะเข้าไปห้ามไจแอนท์เลยไม่ว่าจะเป็นซุเนโอะหรือยาสุโอะที่อยู่ใกล้ๆ
"ปล่อยให้ไจแอนท์ระบายออกมาแบบนแหละดีแล้ว
พวกเราเองก็คงไปห้ามอะไรเขาไม่ได้หรอก"
โนบิตะเดินเข้าไปใกล้ไจแอนท์
"แฮ่กๆ....ไอบ้าเอ้ย...ไอ้บ้าเอ้ย!!!"
โนบิตะเองก็รู้สึกสงสารไจแอนท์ไม่น้อย แต่ปล่อยไว้แบบนี้คงจะดีกว่า..ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำใจมาแล้วว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้ก็ตาม แต่ว่ามันก็หนักหนาสาหัสเกินไปกว่าที่พวกเขาจะทำใจได้จริงๆ
แต่แล้วสักพัก ไจแอนท์ก็ทำใจได้พร้อมกับเดินถืออาวุธประจำตัวของตนไปสำรวจตามถนนเส้นข้างเคียงต่อ ทางด้านโนบิตะจึงรีบเดินล่วงหน้าไป จนกระทั่งถือหัวมุมถนนแห่งหนึ่งบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ
!!!!!!!!!!
เบื้องหน้าของเขาคือฝูงอีกาจำนวนมหาศาลที่กำลังจิกแทะกินซากศพของตัวอะไรบางอย่างอยู่
"พวกอีกานั่น...."
และในตอนนั้นเองเดคิสุงิก็เดินเข้ามาจากทางด้านหลังของโนบิตะ ทำเอาโนบิตะสะดุ้งโหยง
"ดูท่าทางของนายแล้ว นายคงจะสงสัยเรื่องศพที่อีกากำลังจิกอยู่อย่างนั้นสินะ"
"ดะ...เดคิสุงิคุงเองเหรอ? อย่าทำให้ตกใจแบบนั้นสิ"
"นั่นก็คงจะเป็นพวกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนกันนั่นแหละ
แต่ฉันว่านายไม่ควรจะอยู่ตรงนี้นานนะ..."
โนบิตะพูดรับปากเดคิสุงิว่าจะรีบไปจากตรงนี้ แต่ว่าเขาก็ยังอดสงสัยเกี่ยวกับเจ้าสิ่งประหลาดที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้
(มันอะไรกันนะ? เจ้าศพนั่นน่ะ ให้ความรู้สึกคุ้นเคยยังไงอย่างบอกไม่ถูก)
*ศพนั้นคือศพของฮันเตอร์เบต้าซึ่งเป็นฮันเตอร์ที่พัฒนามาจากฮันเตอร์อัลฟ่าที่โนบิตะเคยสู้บ่อยๆ
ทันใดนั้น ฝูงอีกาทั้งหมดก็หันหน้ามาทางโนบิตะ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเจอแหล่งอาหารแหล่งใหม่แล้ว
!!!!
"แย่ล่ะสิ...พวกมันรู้ตัวแล้ว"
พรึ่บ!!!!
อีกาทุกตัวที่อยู่ตรงนั้นเริ่มกระพือปีกและขึ้นบินมาทางโนบิตะทันที
"ว้าาาาาาก!! พวกมันบินมาทางนี้แล้ว!!!!"
"โนบิตะคุงรีบล่วงหน้าไปก่อนเลยเร็วเข้า!!
สู้กับพวกมันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก!!"
แล้วเดคิสุงิก็ชักปืนพกคู่กายของตนขึ้นมายิงอีกาจำนวนมากอย่างแม่นยำ
"ขะ เข้าใจแล้ว!! ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ!!"
โนบิตะเองก็ชักปืนพกขึ้นยิงพวกอีกาด้านหน้าตามพร้อมกับออกวิ่งฝ่าพวกมันไปอย่างรวดเร็ว
แม้จะวิ่งหลบเข้ามาตามถนนแล้ว พวกอีกาก็ยังยินไล่ตามโนบิตะไม่เลิก
"ไอ้เจ้าพวกนี้ ตามไม่เลิกจริงๆ!!"
โนบิตะจึงหันกลับมาใช้ปืนพกยิงสอยพวกอีการ่วงลงมาเป็นจำนวนมาก แต่จำนวนของมันมีเยอะเกินไป แต่ว่า...
เสียงปืนดังต่อเนื่องขึ้นมา พร้อมกับสอยอีกาจำนวนมากที่บินอยู่บนท้องฟ้าร่วงตกลงมาตายบนพื้น
"ฉันคอยระวังหลังให้นายเอง โนบิตะคุง!"
เดคิสุงิที่ใช้ปืนพกไล่ยิงฝูงอีกาจากทางด้านหลังตะโกนบอก
"ขอบใจมากนะเดคิสุงิ"
และแล้วโนบิตะก็รีบวิ่งนำหน้าไป โดยปล่อยให้เดคิสุงิต่อสู้กับฝูงอีกาตามลำพัง (แต่หากสังเกตดูดีๆจะพบว่า ยังไม่ทันที่โนบิตะจะวิ่งไปสุดถนน เดคิสุงิก็ใช้ปืนพกยิงพวกอีกาจนเหลือแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น)
โนบิตะเดินสำรวจเมืองไปตามถนนอยู่นาน และแล้วไม่กี่นาทีต่อมา...
"โถ่เว้ย!! ไอ้พวกนี้มันยังไม่ตายกันอีกเหรอเนี่ย!?"
โนบิตะกำลังวิ่งหนีฝูงสุนัขซอมบี้เคลเบรอสมาตามถนน... ถึงแม้ว่าเขาสำรวจภายในเมืองไปบ้างแล้วและไม่เจอซอมบี้เลยสักตัว แต่ว่า ก็ยังมีสิ่งมีชิวิตประเภทสุนัขและอีกาเหลือรอดอยู่
เขาวิ่งหนีไปเรื่อยๆและบางครั้งก็หันกลับไปใช้ปืนพกยิงใส่.... แต่พวกมันก็ยังคงมีจำนวนมากเกินไปอยู่ดี...
โนบิตะกำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว...
ปัง!!!!!!
เสียงปืนดังขึ้น 1 นัดพร้อมกับกระสุนที่พุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนไรเฟิล เข้าทะลุใส่หัวเคลเบรอสตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้กับโนบิตะจนล้มตายลงไป
"ไจแอนท์!! ซูเนโอะ!!!"
คนที่ออกมาช่วยโนบิตะไว้ก็คือไจแอนท์กับซูเนโอะ....พวกเขาทั้งคู่ผ่านมาบนถนนที่โนบิตะอยู่พอดี
"เกือบไปแล้วนะโนบิตะ..."
คนที่ยิงปืนไรเฟิลช่วยโนบิตะไว้ก่อนก็คือซูเนโอะ
"ไอ้หมาบ้าพวกนี้ ฉันจะฆ่ามันให้หมดเลย!!!"
"ฉันจะช่วยพวกนายสู้แล้วกัน!!"
แล้วโนบิตะก็พยายามจะเอื้อมมือไปหยิบปืนลูกซองที่สะพายออกมาเพื่อช่วยยิงฝูงเคลเบรอส
แต่ว่า...
"นายน่ะรีบไปเถอะ พวกฉันจะอยู่จัดการที่นี่เอง..."
ไจแอนท์ตะโกนบอกให้โนบิตะรีบล่วงหน้าไปเจอกับพวกโดราเอม่อน ยาสุโอะ และเซย์นะที่จะมาเจอกันที่ทางแยกด้านหน้าไปก่อน โนบิตะยังคงลังเลว่าจะทิ้งให้ไจแอนท์กับซูเนโอะต่อสู้แบบนี้ต่อไปหรือไม่ และในตอนนั้นเองก็มีเคลเบรอสตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาไจแอนท์ด้วยความไวสูง
"ไจแอนท์ อันตราย!!!"
แต่ก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาประชิดตัวไจแอนท์ได้ หัวของมันก็ถูกกำปั้นของไจแอนท์ทุบอย่างรวดเร็วจนพุ่งอัดก็อปปี้ติดพื้นพร้อมเลือดที่สาดกระเซ็นแล้วตามด้วยเหยียบซ้ำจนหัวเละเทะ
"ไม่มีหมาตัวไหนทำอะไรฉันได้หรอกน่า! นายนั่นแหละรีบไปเร็ว!!"
"ขะ เข้าใจแล้วล่ะ งั้นฝากด้วยนะ..."
โนบิตะจึงรีบวิ่งออกไปตามถนนอย่างเร็ว ถึงจะมีฝูงเคลเบรอสคอยตามก้นไปด้วย แต่มันก็ถูกซูเนโอะกับไจแอนท์ที่ไล่ยิงมาจากด้านหลังตายไปเกือบหมด พวกมันที่เหลือจึงหันมาสนใจทางด้านไจแอนท์และซูเนโอะแทน
โนบิตะรีบมุ่งหน้าต่อไปตามถนนเรื่อยๆ จนมาพบกับกลุ่มของเซย์นะกับยาสุโอะ ซึ่งเซย์นะบอกกับโนบิตะว่า น่าแปลกมากที่ภายในเมืองเขตนี้ไม่มีพวกซอมบี้ที่เป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
บริเวณทางด้านหน้าไม่สามารถไปต่อได้ พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปทางใต้แทน
"โนบิตะคุง นายคอยอยู่ที่นี่ก่อนนะ
เดี๋ยวฉันกับคุณเซย์นะจะไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้าให้ก่อน"
ยาสุโอะพูดจบ เขาก็จับปืนเกรเนดลันเชอร์คู่กายไว้แน่นก่อนที่วิ่งล่วงหน้านำไป
เซย์นะเองก็วิ่งเดินตามยาสุโอะไปเช่นกัน
แต่ทว่าโนบิตะก็พูดเอ่ยขึ้นมาก่อน
"ทางด้านผมก็เจอแต่พวกสุนัขกับอีกาเท่านั้นเอง ซอมบี้ที่เป็นมนุษย์ผมก็ยังไม่เห็นเลยนะครับ"
เมื่อได้ยินดังนั้น เซย์นะจึงหยุดที่มุมตึกพร้อมกับหันกลับไปตอบโนบิตะ
"นั่นสินะ....หรือว่าเป็นเพราะพวกซอมบี้ที่เป็นคนไม่มีอะไรจะกินแล้วเลยล้มตายลงไป"
"อือ...มันก็น่าเป็นไปได้นะครับ ก็คงเหมือนกับคนหรือเปล่าถ้าไม่มีแหล่งอาหารก็อดตาย....."
และก่อนที่จะพูดอะไรมากกว่านั้น
เฮือก!!!
โนบิตะก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ราวกับว่ามีสายตาบางอย่างกำลังจับจ้องมาทางตน
"แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องนั้นต่อ.....เราคงต้องหยุดตามยาสุโอะไปสักระยะนึงก่อนใช่ไหม"
"ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวกำลังมาทางนี้นะ"
"....คุณเซย์นะ....ก็รู้สึกได้เหมือนกันสินะครับ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกับว่า...."
จิตสังหารที่คุ้นเคย ความรู้สึกที่คุ้นเคย เสียงเท้าที่คุ้นเคย เสียงขู่ที่คุ้นเคย
ทุกอย่างนั้นอยู่ด้านหลังถนนที่โนบิตะมุ่งหน้ามา
รูปร่างมันคือหมา 3 หัวอดีตคู่แค้นของโนบิตะ อาวุธชีวภาพอันแสนจะร้ายกาจที่ตามไล่ล่าพวกโนบิตะตั้งแต่ภาค 2 ยันภาค 3 จนกระทั่งภาค 4
...ทินดาลอส...
และในคราวนี้มันก็ไม่ได้มาตัวเดียว..... ทินดาลอสอีกตัวหนึ่งกระโดดลงมาจากทางแยกที่พวกเขาผ่านเข้ามาไม่ได้อีก 1 ตัว
รวมทั้งเส้นทางที่โนบิตะมองเห็นได้ล่วงหน้าก่อนที่เขาจะไป ก็โผล่ออกมาอีก 1 ตัว
"ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย!! ในตอนนั้นมันควรจะตายหมดแล้วไม่ใช่เหรอ!?"
"โนบิตะคุง!!"
"แถมรอบนี้มากัน 3 ตัวอีก? จะทำยังไงดีเนี่ย!!!"
ในระหว่างที่โนบิตะกับเซย์นะกำลังถูกล้อมอยู่นั้น พวกเขาคิดว่าจะต้องรับมือกับทินดาลอสถึง 3 ตัว แต่แล้ว
ทินดาลอสตัวที่ 4 ก็กระโดดออกมาจากหน้าต่างชั้นบนของตึกที่เซย์นะยืนพิงอยู่
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ลงมาเบื้องหน้าของเซย์นะ
มันไม่รอช้าพุ่งเข้าจู่โจมเซย์นะทันที!!
ฉัวะ!!!!
เลือดของเซย์นะสาดกระเซ็น.....เธอไม่อาจจะใช้ปืนจัดการมันได้ทัน
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เร็วเกินกว่าที่โนบิตะเข้าไปช่วยได้ทัน...
ฝันร้ายในครั้งนั้นได้หวนกลับมาอีกแล้ว....?
โปรดติดตามตอนต่อไป.....>>>
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5]
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5]
รู้สึกเดจาวู ตอนภาค2 =w=' เซย์นะจะกลายเป็น ฮาฟซอมบี้อีกรอบไหมเนี่ย!!!!!!!!!!!
ตอบลบก็นะ...
ลบรู้สึกว่าเซย์นะจังเนี่ยรับบทหนักตลอดเลยนะเนี่ย OTL
ตอบลบฆ่ามานนนนน ถือโอกาสนี้ปักธงเซย์นะจังให้ได้!!!
ตอบลบ