" />

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 34]

หลังจากที่ทิ้งท้ายช็อตเด็ดไว้ในช่วงสุดท้ายของ โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 33]

นั่นคือฉากที่รีซิสซ่าถูกฮันเตอร์ (เบต้า) ฆ่าตาย..... 


มันเป็นสิ่งที่พวกลิทชี่ไม่คาดคิดไว้....


และแล้วพวกลิทชี่ก็ไม่สามารถติดต่อกับรีซิสซ่าได้อีกเลย





บทที่ 35
จนมุม!!

ความเดิมตอนที่แล้ว พวกลิทชี่สามารถแย่งชิงข้อมูลการทดลองจากอัมเบรล่าออกมาได้สำเร็จ และข้อมูลนี้จะเป็นหลักฐานที่ช่วยเปิดโปงและทำลายอัมเบรล่าได้อย่างถอนรากถอนโคน

หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้หลบหนีออกมาจากสถาบันวิจัยพร้อมกับพวกโนบิตะ และมายังจุดนัดพบที่ควรจะได้เจอกับรีซิสซ่าแต่ทว่า...


"อีก 3 นาที....ขอร้องล่ะ รออีก 3 นาที เถอะนะ..."


"ถึงจะบอกว่าขออีก 3 นาทีก็เถอะ แต่นี่มันก็เลยมาตั้ง 10 นาทีแล้วนะ"


"ขอร้องล่ะ รีซี่ต้องมาแน่ๆ.... ยัยนั่น จะต้อง..มาแน่ๆ"


แต่ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน รีซิสซ่าก็ไม่กลับมา...นั่นเพราะเธอไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว ซึ่งพวกลิทชี่ไม่มีวันรู้ถึงเรื่องนี้ได้เลย อีกทั้งรอบข้างนี้เริ่มมีพวกฮันเตอร์ตามมาถึงแล้ว

"จะรอแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กันล่ะครับ!? รีบหนีออกไปจากที่นี่ดีกว่า...!!"


"อย่างที่โนบิตะคุงพูดนั่นแหละครับ!!
รีบหนีไปจากที่นี่เถอะ!!"


แต่ดูท่าว่าลิทชี่จะยังไม่ยอมตัดใจง่ายๆ
"ขอร้องล่ะ..."


จนกระทั่งซาช่าเดินเข้ามาหาลิทชี่พร้อมกับบอกไปว่า สถานการณ์ตอนนี้มันย่ำแย่มากตามที่เด็กพวกนั้นบอก พวกเขาไม่ควรจะอยู่ที่ตรงนี้นานนัก ได้โปรดออกคำสั่งให้พวกเราย้ายออกไปจากตรงนี้ทีเถอะ


"รีซี่...ยัยนั่นน่ะ ไม่มีทางตายง่ายๆหรอก"


ซาช่าก็พูดขึ้นมาว่า ถึงจะไม่ได้มาตามนัดก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องตายสักหน่อย (พยายามคิดในแง่ดีเข้าไว้) บางทีเธออาจจะเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าพวกเรายังขืนรออยู่ตรงนี้ต่อไปล่ะก็ พวกเราต่างหากที่จะต้องตายกันหมด


เมื่อดูท่าว่าการเกลี้ยกล่อมของซาช่าไม่ได้ผล เธอจึงเริ่มใช้ไม้แข็งโดยการกระชากคอเสื้อลิทชี่พร้อมกับบอกว่า...ถ้าแกอยากรออยู่ที่นี่ก็รอไปเลย! ฉันจะทิ้งแกไว้ที่นี่แหละ




ตอนนั้นเองเซก้าก็หันปากกระบอกปืนมาทางซาช่าด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร


ซาช่ายังคงไม่สนใจเซก้าพร้อมกับพูดต่อไปว่า ถ้าหากภารกิจทุกอย่างต้องมาสูญเปล่าเพราะการเอาแต่ใจของนายแบบนี้ ยานอฟและคนอื่นๆที่ตายไปเพราะช่วยพวกเราไว้จะดีใจงั้นเหรอ?


เมื่อได้ยินชื่อนั้นลิทชี่จึงพูดออกมาว่า... "เข้าใจแล้ว"


"ต้องไปต่อสินะ..."


จากนั้น ซาช่าก็หันไปบอกกับเซก้าว่า เธอจะขอเป็นคนขับรถแทนลิทชี่เอง...


ซึ่งเซก้าเองก็เข้าใจดีจึงพยักหน้าตอบรับ


หลังจากที่พวกเขาเตรียมตัวขึ้นรถ ในตอนนั้นเองโนบิตะก็เอ่ยชื่อเรียกเดคิสุงิ ในขณะที่ดูเหตุการณ์ทั้งหมด



เดคิสุงิก็เห็นด้วยกับสิ่งที่โนบิตะอยากจะสื่อว่า พวกเขาเป็นห่วงหัวหน้าลิทชี่มาก เพราะต้องเสียลูกน้องที่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมรบไปมากมายขนาดนั้น คงจะทำใจลำบากน่าดู


"น่าเป็นห่วงนะ"


"อืม..."



จากนั้นพวกลิทชี่และพวกโนบิตะก็ขึ้นไปบนรถเพื่อขับหนีออกไปจากอาณาเขตของสถาบันวิจัยของอัมเบรล่า และในอีก 30 นาทีต่อมา


พวกเขาก็ต้องมาหยุดรถอยู่กลางสะพานใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของพื้นที่สถาบันวิจัย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเจอปัญหาบางอย่างที่ต้องทำให้หยุดรถเอาไว้ที่นี่


"ไม่ไหว...รถแก๊สคันนี้ยางแตกจนไปต่อไม่ได้เลย"
ลิทชี่พูดออกมาหลังตรวจสภาพรถ 


"ปัดโถ่เว้ยย!! ดันมาเสียทำไมกลางสะพานตรงนี้ฟระ!!"

ไจแอนท์บ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย
ทั้งๆที่จะได้ออกจากพื้นที่อันตรายแบบนี้แล้วแท้ๆ
 ดันมาเกิดเรื่องไม่คาดฝันพรรค์นี้ขึ้นมาได้


ลิทชี่ประเมินสถานการณ์พักใหญ่จึงพูดขึ้นมาว่ารถคันนี้อาจจะไม่สามารถวิ่งได้
และรถอีกคันก็คงจะไม่สามารถบรรทุกคนได้หมดด้วย เห็นทีอาจจะต้องมีคนเดินไปซะแล้ว


เพียงแค่ลิทชี่พูดขึ้นว่า เดินไปจากตรงนี้ ซูเนโอะถึงกับร้องลั่นออกมาในทันที

"หาา!??"


มันเป็นไปได้ยากมากที่จะเดินจากตรงนี้ไปถึงเมืองใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร

"จะเอาไง ก็เอาเถอะ...."


"ตะตะ แต่ว่ามัน......"


โครม!!!!

ในตอนนั้นเอง ถนนบนสะพานที่อยู่ด้านหน้าของพวกเขาก็ถูกอะไรบางอย่างถล่มจากด้านล่างจนสะพานขาดออกจากกันทำให้พวกเขาไม่สามารถขับรถข้ามสะพานต่อได้



แถมยังมีตัวอะไรบางอย่างปีนขึ้นมาจากรอยแยกกลางสะพานนั้นด้วย


เจ้าสิ่งนั้นปีนขึ้นมาบนสะพานจนทุกเคยได้เห็นร่างของมันที่แท้จริง ซึ่งมันก็คือ....


"มะ ไม่จริงนะ!!!  
เจ้านั่นมัน....!!!"


"..ให้ตายสิ...ไอ้บ้านี่จะตามไม่เลิกเลยใช่ไหม"

ลิทชี่บ่นออกมา ซึ่งเขาจำมันได้ดี เพราะมันคือไทแรนท์ที่เซก้าเคยเจอในสถาบันวิจัยและสลัดการตามของมันจนพ้นหลังจากที่ลิทชี่พาเขาหนีขึ้นลิฟต์

หลังจากที่ไทแรนท์ตัวนั้นได้สบตากับพวกลิทชี่แล้ว มันก็รีบวิ่งปรี่เข้ามาทางพวกเขาโดยเร็ว


"อะ...ไอ้เจ้าบ้านั่นกำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว แถมเร็วชะมัดเลย!!"


มันวิ่งได้เร็วเกินกว่าที่เดคิสุงิคาดการณ์ไว้ ถึงแม้ว่าเดคิสุงิจะเคยต่อสู้กับไทแรนท์ระดับนี้มาก่อน แต่ก็ไม่เคยเห็นเจ้าตัวที่วิ่งได้เร็วขนาดนี้ ท่าทางจะเป็นไทแรนท์รุ่นที่มีการพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาใหม่...

"หนอย... ถ้างั้นล่ะก็...คงต้อง..."

"เดี๋ยวก่อน!! ฉันจัดการเอง!!!"

ลิทชี่ตะโกนขึ้นมาหลังจากมองเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านหน้าที่คั่นอยู่ระหว่างพวกเขากับไทแรนท์

เขายกปากกระบอกปืนกลเล็งไปทาง... รถถังแก๊สกลางสะพานที่ใกล้กับที่ไทแรนท์ตัวนั้นกำลังจะวิ่งไปถึง



พร้อมกับเหนี่ยวไปยืงออกไปจนกระสุนพุ่งเข้าไปโจมตีใส่รถถังน้ำมันคันนั้น



ตูม!!



รถถังน้ำมันคันนั้นระเบิดไปพร้อมกับไทแรนท์ที่อยู่ใกล้ๆ...... 

(ไอ้เจ้าบ้านี่มันคงไม่ตายง่ายแบบนี้หรอก...แล้วก็...)

ตอนนั้นเองลิทชี่ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่วิ่งไล่ตามมาบนสะพานด้านหลังพวกเขา... มันคือ...

ฝูงฮันเตอร์...!!!

สถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่มาก เพราะทางด้านหน้า พวกเขาก็เจอกับไทแรนท์
ส่วนทางด้านหลังก็มีฝูงฮันเตอร์ไล่ตาม เขาต้องรีบหาวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์นี้


ลิทชี่คิดพร้อมกับพูดตะโกนออกคำสั่งบอกให้เซก้าช่วยคุ้มครองเด็กพวกนี้ไว้ก่อน..
แล้วฝากจัดการทางด้านฝูงฮันเตอร์ที่ตามมาด้านหลังด้วย เพราะการต่อสู้กับฝูงฮันเตอร์น่าจะปลอดภัย
มากกว่าการต่อสู้กับไทแรนท์


จากนั้นลิทชี่ก็บอกให้ซาช่าคอยช่วยยิงไทแรนท์ถ่วงเวลาให้เขาเตรียมอาวุธหนักด้วย...


"อือ...จะพยายามนะ"


หลังจากนั้น ทุกคนจึงทำตามหน้าที่... เด็กๆทุกคน (ยกเว้นโนบิตะ) และเซก้า ตัดสินใจออกไปตั้งรับฝูงฮันเตอร์ที่อยู่ด้านหลัง...


มีเพียงโนบิตะเท่านั้นที่ยังยืนประจัญหน้าพร้อมกับพวกลิทชี่ที่เหลือ ลิทชี่พยายามไล่ให้โนบิตะหนีไปอยู่ด้านหลังดีกว่า เพราะการต่อสู้กับไทแรนท์ สุดยอดอาวุธชีวภาพไม่ใช่เรื่องง่าย


"โนบิตะคุง!!!"



"ผมจะอยู่ที่นี่... และจะจัดการมันเองครับ!!
ให้ผมช่วยเถอะ...!!"


ลิทชี่ไม่เห็นด้วยแต่ว่า... ซาช่าก็พูดออกตัวแทนมาก่อนว่า...

"......ให้หนูแว่นนี่อยู่ช่วยเถอะน่า."


ลิทชี่จึงปล่อยเลยตามเลยว่า...เอาก็เอา... ตอนนี้ห้ามไปก็คงไม่ฟังหรอก...ขออย่างเดียวคือ อย่ามาถ่วงแข้งถ่วงขาละกัน


ประโยคเมื่อกี้บิทชี่พูดเป็นภาษาอื่นทำให้โนบิตะไม่เข้าใจ

"?? เอ๋ เมื่อกี้ เขาพูดว่ายังไงนะครับ"


"เอ่อ... อ่า..... ปา ยา ยาม เค้า นะ...."


"คะ ครับ!!"


ในช่วงที่ไทแรนท์ถูกไฟไหม้ลุกท่วมอยู่นั้น


ทำให้สลักเสื้อคลุมภายนอกที่มีไว้ป้องกันการกลายพันธุ์หลุดออก



มันเลยส่งผลให้กล้ามเนื้อของไทแรนท์


กลายพันธุ์และขยายขนาด


เผยให้เห็นลักษณะมือที่กลายเป็นกรงเล็บแหลมคมงอกออกมา




มันได้เดินย่างก้าวออกมาจากกองไฟเผยให้เห็นร่างกายขนาดใหญ่


"มันมาแล้ว!!!"


"ไม่น่าเชื่อ...ไทแรนท์นั่นมันกลายพันธุ์ได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย"


"หึ... สมกับเป็นผลการทดลองของปีศาจจริงๆ"


"แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะทำลายมันให้หมด ฉันจะไม่ยอมให้มีมันเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด"


"ทางนี้เองก็ไม่ยอมตายง่ายๆเหมือนกันล่ะน่า"


"ผมก็เหมือนกัน... ผมจะไม่ยอมให้ใครตายไปมากกว่านี้อีกแล้ว!!"

โนบิตะพูดจบจึงวิ่งกระโดดออกมายืนประจัญหน้า


กับไทแรนท์ร่างยักษ์ที่กลายเป็นซุปเปอร์ไทแรนท์ที่
กำลังวิ่งมาทางนี้้ด้วยความเร็วสูง



"เข้ามาเลย...ไอ้สัตว์ประหลาด!!"


การต่อสู้เอาชีวิตรอดครั้งสุดท้ายของภาคนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว....

(เสียงดนตรีประกอบตอนสู้กับไทแรนท์)

คลิปประกอบ


to be continue



แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น