ความเดิมตอนที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Final Chapter - part 2
โนบิตะ เดคิสุงิ และไจแอนท์ ออกตามหาเบาะแสของศาสตราจารย์ทัตสิอาเกะ ผู้คิดค้นสูตรวัคซีนรักษาการติดเชื้อที-ไวรัส ที่มีชื่อว่า [เดย์ไลท์] ภายในมหาวิทยาลัย
ในที่สุดพวกเขาก็ตามหาเบาะแสจนพบ และตามไปถึงห้องลับที่ศาสตราจารย์คนนั้นอยู่ แต่ก็พบว่า เขาได้ถูกใครบางคนฆ่าตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว...
พวกโนบิตะจะทำอย่างไรต่อไป ในเมื่อศาสตราจาย์ผู้ที่คิดค้นสูตรสร้างวัคซีนได้ตายลงไปแล้ว พวกเขาจะหาวิธีการสร้างวัคซีนเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องที่ติดเชื้อกันหมดได้หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปในความนี้
Final Chapter - Decisions, Decisions [Part 3]
การตัดสินใจตามหาส่วนผสมสร้างวัคซีน
- ห้องลับ (Secret's Room)
"แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ"
เหล่าพระเอกทั้ง 3 จึงต้องคิดหาวิธีใหม่อีกครั้ง ระหว่างนั้นโนบิตะก็เหลือบไปเห็นเอกสารบางอย่างตั้งไว้บนโต๊ะข้างๆกล่อง
มันเขียนไว้ว่า [กล่องที่อยู่ทางด้านขวานี้มีหวานเย็น (น้ำแข็งใส) อยู่ ทุกคนสามารถทานได้เลยนะ...ลงท้ายชื่อ สึโดกะ]
"วะ หวานเย็นงั้นเหรอ?"
โนบิตะจึงเดินเปิดกล่องข้างๆดู....แต่ปรากฏว่า หวานเย็นที่ว่าไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่มีอยู่ในนั้นมีเพียงน้ำแข็งแห้ง [ดรายไอซ์ - Dry Ice] ที่ยังไม่ละลายเท่านั้นเอง
"โถ่เอ้ย! เรายังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานเลยแท้ๆ"
โนบตะรู้สึกผิดหวังมากที่ไม่เจอของกินเลย
(คนเขียนบล็อก : เฮ้ย!! สรุปคือ ตั้งแต่บาร์นั่นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม!!?)
ทีนี้โนบิตะลองสำรวจกล่องดูอีกครั้ง เขากำลังคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับน้ำแข็งแห้งนั้น...
โนบิตะมองดูถุงน้ำแข็งแห้งด้านใน
"เจ้าของแบบนี้...จะพกติดตัวไปด้วยดีไหมนะ เพื่อว่ามันจะมีประโยชน์อะไรสักอย่าง.."
ตอนนี้ก็จะเป็นตัวเลือกขึ้นมาว่า โนบิตะจะเอาน้ำแข็งแห้งไปด้วยหรือไม่
- หยิบมันไปด้วย
- ไม่ต้องเอาไปหรอก
แน่นอนว่าสิ่งที่โนบิตะเลือกคือ...
"เอามันไปด้วยดีกว่า..."
เขาจึงหยิบถุงน้ำแข็งแห้งขึ้นมา...และ..
"ยะ เย็น!!!!"
รีบเก็บมันไว้ในกระเป๋าสะพายไอเท็มทันที
ในตอนนั้นเองเดคิสุงิก็ตะโกนขึ้น
"โนบิตะคุง! ทาเคชิคุง! มาดูอะไรนี่สิ!?"
"มีอะไรงั้นเหรอ?"
เดคิสุงิจึงบอกให้ทั้งคู่ลองอ่านเอกสารที่อยู่ตรงมุมโต๊ะด้านซ้ายดู
มันคือบันทึกวิธีการสร้างวัคซีน!!
ส่วนผสมจำเป็นที่ใช้ในการสร้างวัคซีนเดย์ไลท์มีทั้งหมด 3 อย่าง ได้แก่..
1) พี-เบส (P-Base)
2) วี-พอยซั่น (V-Poison)
3) ที-บลัด (T-Blood)
ส่วนผสมทั้ง 3 อย่างนี้สามารถหาได้ตามมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ส่วนผสมที่ 1) พี-เบส
สารพื้นฐานในการสร้างวัคซีน จำเป็นที่จะต้องใช้สารเร่งปฏิกิริยาจำนวน 2500 ml ที่ได้เตรียมไว้ในขวด ในห้องทดลองชั้นใต้ดิน เข้าไปในเครื่องผลิตวัคซีน
ส่วนผสมที่ 2) วี-พอยซั่น
พิษที่สกัดมาจากตัวต่อยักษ์ภายในรังชั้นใต้ดินส่วนลึกของมหาวิทยาลัยนี้
ส่วนผสมที่ 3) ที-บลัด
เลือดของสิ่งมีชีวิตในโครงการ [T]
*ต้องไปขอยืมตัวอย่างจากอาราทานิมาเท่านั้น
นอกจากนี้ เดคิสุงิยังให้ดูจดหมายเปื้อนเลือดที่วางบนโต๊ะอยู่ใกล้กับศพศาสตาจารย์ให้ดูด้วย
จดหมายเปื้อนเลือด
ถึงคุณทาเกะนากะ..(ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย)
หรือใครก็ตามที่ได้อ่านจดหมายนี้ ผมรู้ดีว่า ผมคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก ได้โปรดรีบตามหาส่วนผสมทั้ง 3 เพื่อใช้ในการสร้างวัคซีนและหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
<มีข้อความลายมือถูกขีดฆ่าจำนวนมาก>
ส่วนผสมทั้ง 3 นั้น วางอยู่ บนโต๊ะ ซ้าย มือ ให้รีบ ทำ... ให้เร็วที่ สุด..
<หลังจากนั้นก็ไม่สามารถอ่านข้อความต่อได้อีกเนื่องจากถูกเลือดทับ>
"ดูเหมือนว่าก่อนที่คนๆนี้จะตาย เขาได้เขียนสูตรการสร้างวัคซีนให้กับพวกเราแล้ว
ดังนั้น เราคงต้องแยกย้ายกันหาวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้สร้างวัคซีนกันแล้วล่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องลงไปตามหาวัคถุดิบในชั้นใต้ดินสินะ"
"เฮ้! พวกนาย ฉันเจอเจ้านี่ด้วย.."
หลังจากนั้นไจแอนท์ก็หยิบเอกสารบางอย่างที่อยู่ข้างเก้าอี้ให้พวกโนบิตะดู
บันทึกระบบรักษาความปลอดภัย
นอกจากจะต้องเข้ารหัสที่ลิฟต์แล้ว ก็ต้องใส่โค้ดเพื่อปลดล็อกการทำงานของลิฟต์ด้วยซึ่ง
โค้ดที่ปลดล็อกระบบการทำงานไฟฟ้าของลิฟต์คือ : 3876
(ตัวเลขอาจจะสุ่มไปเป็นอย่างอื่นก็ได้...)
เมื่อรวบรวมข้อมูลในห้องนี้ได้มากพอแล้ว เด็กหนุ่มทั้ง 3 จึงเดินกลับไปที่ลิฟต์ของชั้น 1 อีกครั้ง
- ทางเดินไปสู่ลิฟต์ชั้น 1 [1F Passage Elevator]
ในตอนนี้พวกเขาได้รหัสทั้ง 2 ชุดมาแล้ว
เมื่อสำรวจที่คอมพิวเตอร์ข้างลิฟต์ ในตอนแรกจะเป็นการใส่รหัสยืนยันตัวผู้ใช้งานลิฟต์ก่อน ซึ่งรหัสตัวนี้ได้จากข้อความเลข 4 หลัก ที่ตกอยู่ข้างประตูทางเดินใน part 1
เมื่อใส่รหัสสำเร็จ จะมีการยืนยันรหัสสำหรับปลดล็อกระบบไฟฟ้าอีกครั้ง ซึ่งรหัสตัวนี้ก็คือตัวเลขที่ได้มาจากห้องลับของศาสตราจารย์ทัตสึอาเกะเมื่อสักครู่
ตื้ดดด!!!!
เมื่อใส่รหัสทั้ง 2 ครั้งถูกต้อง พวกเขาก็จะได้ยินเสียงยืนยันการทำงานขึ้นมา พวกเขาสามารถใช้งานลิฟต์ได้แล้ว...
"ว่าแต่จะไปชั้นไหนก่อนดีล่ะ...."
พวกโนบิตะเดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อเลือกตำแหน่งชั้นที่จะไป
"ขึ้นไปชั้น 3 ก่อนเลย..."
โนบิตะจึงทำตามที่เดคิสุงิบอก ลิฟต์จึงเลื่อนขึ้นไปยังชั้น 3
- ทางเดินไปสู่ลิฟต์ชั้น 3 [3F Passage Elevator]
เมื่อมาถึงชั้น 3 ประตูลิฟต์จึงได้เปิดออก โนบิตะเดินก้าวออกจากประตูเพียงคนเดียว...บริเวณรอบข้างปลอดภัย แต่ดูเหมือนว่าเดคิสุงิกับไจแอนท์ไม่มีท่าทีว่าจะออกมาจากลิฟต์เลย และตอนนั้นเองประตูลิฟต์ก็กำลังปิดลง
"เอ๋!? แล้วพวกนายทั้ง 2 คนล่ะ?"
"เราแยกสำรวจกันตรงนี้จะเร็วกว่านะ โนบิตะคุง"
"นายสำรวจชั้นนี้ไปแหละดีแล้ว ชั้นใต้ดินมันอันตรายเกินไปสำหรับนาย"
แล้วประตูลิฟต์ก็ปิดลง...ทิ้งให้โนบิตะอยู่บนชั้น 3 ตามลำพัง...
"โถ่เว้ย!! เจ้าพวกนั้น....ทำอะไรไม่บอกกล่าวกันสักคำเล้ยย!!"
โนบิตะไม่มีทางเลือกอื่น จึงหยิบปืนพกออกมาและตัดสินใจเดินไปสำรวจตามทางเดินเพียงลำพัง ซึ่ง ชั้นที่ 3 นี้ดูเหมือนว่าจะมีซอมบี้ปริมาณน้อยมาก โนบิตะจึงใช้ปืนจัดการและเดินฝ่าพวกมันมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก จนถึงห้องด้านในสุด
- ห้องปฏิบัติการทดลอง [Laboratory]
สิ่งที่ทำให้โนบิตะสนใจคือเครื่องจักรที่อยู่ด้านในห้องนั้น
"เครื่องแบบนี้มัน..."
โนบิตะรู้สึกคุ้นเคยกับเครื่องจักรตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก...เหมือนเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน
และในที่สุดเขาก็จำได้แล้วว่ามันคือ..
"อ๋อ!? เครื่องผลิตวัคซีนนี่นา..."
เจ้าสิ่งนี้ต้องเป็นเครื่องผลิตวัคซีนที่ใช้สร้างเดย์ไลท์แน่ๆ แถมยังมีรูเสียบหลอดทดลอง 3 ช่องพอดีด้วย...
แต่ว่า..ตอนนี้เขายังใช้งานมันไม่ได้ เพราะยังไม่มีวัตถุดิบทั้ง 3 เลยนี่นา...
เขาเดินไปสำรวจประตูด้านในสุดก็พบว่ามันถูกล็อกด้วยระบบไฟฟ้าอยู่
"ที่ชั้นนี้ไม่มีอะไรเลย... เห็นทีต้องไปรวมกลุ่มกับ 2 คนนั้นที่ชั้นใต้ดินแล้วสินะ..."
โนบิตะจึงเดินฝ่าฝูงซอมบี้กลับไปที่ลิฟต์อีกครั้ง และพบว่ามีซอมบี้กลุ่มหนึ่งกำลังกรูมาทางเขา
จากตรงนี้ถ้าหากลองสำรวจลิฟต์ดูจะพบว่าชั้นบางชั้นไม่สามารถไปได้ เช่น ถ้ากดชั้น B1 จะขึ้นเตือนมาว่าอยู่ในระหว่างการปรับปรุง
และถ้าเป็นชั้น 2
ก็อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเช่นเดียวกัน..
"โถ่เว้ย!! พวกมันกำลังมาแล้วนะเฟ้ย!!!"
ดังนั้นโนบิตะจึงตัดสินใจกดลิฟต์เลื่อนไปยังชั้นใต้ดินลึกสุดที่ชั้น B4 ซะเลย!!! ประตูลิฟต์จึงเปิดออก เขาจึงรีบเข้าไปด้านในและปิดประตูลงก่อนที่พวกซอมบี้จะมาถึง
"เกือบไปแล้ว!!"
- ทางเดินยาวในชั้น B4 [B4F Corridor]
ทันทีที่โนบิตะเปิดประตูมา...
"เหวอ!! ไอ้เจ้าพวกนี้อีกแล้วเหรอ!!?"
โนบิตะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอาวุธชีวภาพ คิเมร่า...พวกนี้โดยตรงจึงรีบติดไนตรัส วิ่งหนีไปยังทางเข้าด้านในโดยเร็ว!!!
จนกระทั่งหนีออกมาจากเดินในตึกได้และออกมายัง...
- ทางรถไฟใต้ดินเก่า [Old Subway Tracks]
"ทะ ที่นี่มันอะไรกันเนี่ย!?"
โนบิตะหนีออกมายังบริเวณที่เป็นอุโมงค์รถไฟใต้ดินขนาดกว้างใหญ่ บริเวณนี้แต่เดิมนั้นถูกใช้เป็นอุโมงค์รถไฟใต้ดินมาก่อน แต่ดูจากสภาพความเก่าของเครื่องจักรและตัวรางรถไฟที่ผุพังแล้ว ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่ได้ใช้งานมานานมาก
แต่ถึงกระนั้นบริเวณรอบข้างก็ยังคงมีแสงสว่างส่องออกมาจากตัวรถไฟอยู่ แสดงว่าคงมีใครบางคนพึ่งเปิดมันได้ไม่นานนัก
อีกทั้งแถวๆนี้ก็ยังมีฝูงซอมบี้เดินเพ่นพ่านตามรางรถไฟด้วย
แต่โนบิตะก็สามารถใช้ปืนลูกซองจัดการพวกมันเป็นกลุ่มได้อย่างไม่ยากเย็น
"อ้ะ!! ตรงนั้นมีศพที่น่าสงสัยอยู่..."
โนบิตะเดินเข้าไปสำรวจศพเจ้าหน้าที่ด้านในและพบว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในกระเป๋า...
มันคือกุญแจห้องเครื่องยนตร์
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เขาจึงเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์มืดที่ยังพอมีแสงไฟสาดส่องตามทางเดิน
- อุโมงค์รถไฟใต้ดินเก่า [Old Subway Tunnel]
บริเวณนี้มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาคือ สุนัขซอมบี้เคลเบรอส
แต่ในเมื่อโนบิตะมีปืนอยู่ในมือก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
เขาได้วิ่งหนีไปด้านในพร้อมกับเอาปืนยิงพวกเคลเบรอสไปด้วยจนกระทั่งพบกับ ศพของชายในชุดทหารคนหนึ่ง...
และที่ข้างศพนั้นมีปืนกลแอสซัลท์ ไรเฟิล (Assualt Rifle) รุ่น MP5SD5 ตกอยู่
*ในภาพมาจาก RE Outbreak รุ่น M4A1 ซึ่งต่างจากโนบิตะซีรี่ย์ที่ป็น MP5SD5
"ตายซะเถอะ ไอ้พวกลูกหมา!!!"
โนบิตะคว้าปืนกลกราดยิงพวกเคลเบรอสและซอมบี้แถวๆนั้นจนตายเกือบหมด....
หลังจากกวาดศัตรูกลุ่มใหญ่ได้แล้ว เขาจึงสังเกตเห็นประตูทางเข้าด้านข้าง แต่เขาไม่รู้เลยว่า บริเวณนั้นมีอะไรบางอย่างกำลังรอเขาอยู่....
ตัวต่อที่มีขนาดตัวใหญ่ยักษ์ผิดปกติ
- ทางเดินรูปตัวที [T-Shaped Passage]
ภายในทางเดินด้านในโนบิตะพบว่าบริเวณนี้มีซอมบี้อยู่ไม่มากนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการกับมัน
เขาเดินไปสำรวจห้องที่อยู่ใกล้ที่สุด
ข้างในนั้นมีบันทึกที่น่าสงสัย
บันทึกอะไรสักอย่าง..
บ้าเอ้ย!! ตอนนี้เราเหลือเพียง วี-พอยต์ซั่น (V-Poison) ชุดเดียวเท่านั้น แต่ว่ามัน..มันดันตั้งอยู่กลางรังต่อพวกนั้น พวกมันร้ายกาจมาก!! พระเจ้า เราจะเข้าไปเอามันยังไงดี..
ใครที่จะไปเอามันได้ ต้องระวังอย่าให้ถูกมันต่อยเด็ดขาด แม้เพียงเข็มเดียว รับรองได้ไปทัวร์นรกไม่เกินรุ่งอรุณแน่ ทั้งๆที่บอกให้เจ้าพวกนั้นเก็บรวบรวมไว้ในแล็ปก่อนที่จะแพร่พันธุ์มันแล้วแท้ๆ
ตึง!!!!
หลังจากที่โนบิตะอ่านบันทึกจบก็มีตัวอะไรบางอย่างพังประตูเข้ามาหาเขาพอดี และการปรากฏตัวของมันสร้างความประหลาดใจให้กับโนบิตะมาก
"แกอีกแล้วเรอะ!?"
โฮกกกกกกกกกก!!!!!!
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าโนบิตะ คือ หมาสามหัวเจ้าเก่าทินดาลอส....
ปัง!!!!!
แต่เพียงแค่โนบิตะยิงกระสุนปืนลูกซองใส่มันไม่กี่นัด มันก็ล้มลงนอนตายทันที...
ดูท่าว่า ทินดาลอสตัวนี้คงจะเป็นผลงานที่ถูกสร้างมาแบบลวกๆ หรือว่า รุ่นผลิตจำนวนมาก (Mass Product) ที่ไร้คุณภาพแน่ๆ
"กะ..เกือบไปแล้ว....โชคดีที่มันไม่ร้ายกาจเท่าตัวที่อยู่ในเมือง R หรือแล็ปแช่แข็ง"
สิ่งที่โนบิตะได้จากการอ่านบันทึกคือ หนึ่งในวัตถุดิบ V-Poison ที่ถูกสกัดมาจากตัวต่อเหลือเพียงชุดเดียวเท่านั้น ถ้าหากเขาหามันไม่เจอละก็ มีหวังต้องสกัดจากตัวต่อที่ร้ายกาจพวกนั้นเองแน่ๆ เขายิ่งไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับแมลงที่ร้ายกาจแบบนั้นอยู่ด้วย
โนบิตะก็ได้เดินกลับมายังทางเดินรูปตัว T ลงไปยังด้านล่างเพื่อสำรวจห้องถัดไป...
และก็ต้องตกใจอย่างแรง
"ยังมีอีกตัวเหรอเนี่ย!?"
โฮกกกกกก!!!
เจ้าทินดาลอสอีกตัวในห้องนั้นรีบกระโจนใส่โนบิตะทันที แต่โนบิตะสามารถหลบได้และเห็นปืนลูกซองอีกกระบอกหนึ่งในห้องนั้น
เขาจึงหยิบมันขึ้นมายิงสวนทะลุร่างของมันจนตายทันที
"ไอ้เจ้าบ้าพวกนี้มันมีกี่ตัวกันแน่นะ!!"
นอกจากศพทหารและปืนลูกซองในห้องนั้นแล้วที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้สำรวจอีก แถมประตูด้านในของทางเดินรูปตัว T อีกด้านนั้นก็พังจนไม่สามารถเข้าไปด้านในต่อได้ด้วย...
ถ้าเป็นต้นฉบับเกม RE Outbreak จะโหดกว่าตรงที่ทางเดินรูปตัว T ด้านในจะต้อง
เดินเกาะผนังไปยังห้องฝั่งตรงข้ามเพื่อที่จะไปแก้ปริศนากดสวิตช์พัซเซิลให้เครื่อง
จักรลิฟต์ขนาดใหญ่กลางห้องทำงาน แต่ในเวอร์ชั่นโดราเอม่อนนี้ไม่จำเป็นต้องทำ
เช่นนั้นเพราะว่าก่อนที่โนบิตะจะมาถึงนั้นมีใครบางคนไปกดให้ก่อนแล้ว
เหลือเพียงทางเดียวคือ ราวบันไดเหล็กตรงกลางทางเดินรูปตัวที
"ไม่มีอะไรที่นี่แล้ว ขึ้นบันไดไปชั้นบนดีกว่า..."
ว่าแล้วโนบิตะก็ไต่บันไดขึ้นไป
เขาเดินไปตามเส้นทางเดินจนกระทั่งถึง...
- หอคอยปฏิบัติการแผ่รังสีส่วนล่าง [Emission Tower Lower Part]
บริเวณรอบข้างของหอคอยขนาดใหญ่นี้ โนบิตะได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนดังต่อเนื่อง และประหลาดใจกับพื้นที่ความกว้างขนาดใหญ่ของหอคอยกว้างส่วนนี้มาก
"อัมเบรล่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่แบบนี้แน่ๆ"
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โนบิตะนึกถึงที่มาของสถานที่แบบนี้ได้
โนบิตะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวความกว้างรอบข้างนัก เขาจึงรีบเดินเข้าไปในประตูลิฟต์ของหอคอยตรงกลางอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ารอบข้างนั้นมีตัวอะไรคอยจับจ้องเขาอยู่...
เมื่อโนบิตะเข้าไปในลิฟต์ส่วนกลาง ประตูลิฟต์ก็ได้ปิดลง
- ลิฟต์ใจกลางหอคอยปฏิบัติการแผ่รังสี [Emission Tower Elavator]
เขามองไปที่แผงควบคุมเพื่อกดสวิตช์เปิดการทำงานของลิฟต์ขึ้นไป
"เอาล่ะ...ขึ้นไปกันเถอะ"
ลิฟต์ขนาดใหญ่ได้พุ่งขึ้นไปยังชั้นบน และตอนนั้นเองโนบิตะก็พบว่าตนเองถูกล้อมแล้ว...
"พวกตัวต่อนี่มันอะไรกันเนี่ย!!! ทำไมมันถึงได้ตัวใหญ่แบบนี้!!!"
เจ้าสิ่งที่เฝ้ามองโนบิตะมาตลอดได้ปรากฏตัวออกมา มันคือตัวต่อยักษ์ (Giant Wasp) ซึ่งเป็นตัวต่อที่กลายพันธุ์จนมีร่างกายขนาดใหญ่ขึ้นด้วยฤทธิ์ของเชื้อที-ไวรัส
"ถ้าถูกมันต่อยเข้าล่ะก็แย่แน่!!"
โนบิตะจึงหยิบปืนพก 2 กระบอกมาไว้กับตัวและ คอยยิงต่อสู้กับพวกตัวต่อขณะที่ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้นบนเรื่อยๆ
ในเกมภาค RE Outbreak ต้องคอยวิ่งหลบมันจนกว่าลิฟต์จะถึงชั้นบน
โนบิตะกราดยิงกระสุนใส่พวกตัวต่อหลายนัด แต่ก็ยากที่จะโดนในสภาพที่มืดเช่นนี้ อีกทั้งพวกมันยังบินหลบกระสุนได้อีกด้วย เขาพยายามหลบหลีกการพุ่งโจมตีของมันอย่างสุดความสามารถ ซึ่งโชคดีมากที่มันมีแต่พวกร่างกายขนาดใหญ่ทำให้โนบิตะสามารถสังเกตเห็นมันได้ง่ายก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใช้เหล็กในแทงใส่
ไม่นานนัก ประตูลิฟต์ก็เปิดออก โนบิตะจึงรีบวิ่งออกมาจากลิฟต์ที่เต็มไปด้วยพวกต่อยักษ์
- หอคอยปฏิบัติการแผ่รังสีชั้น B1 [Emission Tower B1F]
"นะ นี่มัน... รังต่อใช่ไหม!?"
โนบิตะต้องตกตะลึงเมื่อมองสภาพรอบข้าง เขาพบว่าตอนนี้ตัวเองได้โผล่เข้ามากลางรังต่อขนาดยักษ์ บริเวณผนังรอบข้างเป็นรูโพรงขนาดใหญ่ และมีตัวอ่อนของต่อที่ขยับไปมาอยู่ด้านใน
ไม่นานนัก เขาก็สังเหตว่ามีฝูงต่อขนาดใหญ่กำลังบินพุ่งจู่โจมเข้ามาทางเขาอย่างรวดเร็ว
"ไม่ไหว ขืนเป็นแบบนี้แย่แน่"
เมื่อคิดได้ดังนั้นโนบิตะจึงต้องรีบวิ่งหาที่ปลอดภัยในบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว..
ถึงแม้ว่าวัตถุดิบที่ต้องการ อย่าง V-Poison จะหาได้จากที่นี่ แต่การที่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับฝูงตัวต่อโดยมีอาวุธแค่ปืนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะไม่โดนพวกมันต่อยจนตาย
เขารีบวิ่งขึ้นบันไดที่อยู่ใกล้ๆ หนีฝูงต่อที่บินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เมื่อขึ้นบันไดมาได้ เขาก็เห็นประตูบานหนึ่ง
"เจอที่ปลอดภัยแล้ว!!!"
โนบิตะรีบเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปในประตูบานนั้นทันที
- ห้องควบคุมหอคอยปฏิบัติการแผ่รังสี [Emission Tower Station]
"กะ...เกือบไปแล้ว...."
โนบิตะสามารถหนีฝูงตัวต่อเข้ามาในห้องควบคุมได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่จะถูกพวกมันรุมทึ้ง... เขาเดินสำรวจภายในห้อง และเดินไปถึงตู้เก็บสารเคมีที่ควรจะมี V-Poison เก็บไว้แต่ว่า....
บ๋อแบ๋......
"ไม่มีจริงๆด้วยสิ.... แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? ต้องฝ่าฝูงต่อพวกนั้นไปเก็บมาเหรอ?"
และทันใดนั้น ผู้ที่เปิดประตูออกก็เดินเข้ามาด้านใน ซึ่งเป็นการปรากฏตัวที่คาดไม่ถึงของ....
"โนบิตะคุง!?"
"เดคิสุงิคุง!!!"
โนบิตะรีบเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อเช็คดูว่าใช่เดคิสุงิคุงจริงๆหรือเปล่า ปรากฏตัวเขาเป็นตัวจริงแท้ไม่ใช่ผีหลอกวิญญาณหลอนแต่อย่างใด
"ดะ..เดคิสุงิคุงจริงๆด้วย ดีจริงๆที่ยังเห็นนายปลอดภัยดี"
"อือ ดีจริงๆที่นายไม่เป็นอะไรเช่นกัน....แปลกจังเลยนะ ที่มาเจอนายในที่แบบนี้..."
"อือ... ว่าแต่เดคิสุงิคุง ทำไมถึงได้...."
ขณะที่โนบิตะกำลังจะถามเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเดคิสุงิ เพราะสงสัยมากว่าเขามาถึงที่นี่ได้ยังไงทั้งๆที่ต้องฝ่าฝูงตัวต่อจำนวนมหาศาลเช่นนั้น เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นของบางอย่างในมือเดคิสุงิ
"อ้ะ นั่นมัน...."
"V-Poison ส่วนผสมในการทำวัคซีนยังไงล่ะ"
แล้วเดคิสุงิก็โชว์สิ่งที่เขาถือไว้ในมือให้โนบิตะดู มันเป็นแคปซูลหลอดแก้วที่บรรจุพิษตัวต่อสีเหลืองไว้ด้านใน
"ดะ...เดคิสุงิคุง... นายไปเอามันมาได้ยังไงน่ะ...มันอยู่กลางดงตัวต่อพวกนั้นไม่ใช่เหรอ?"
"ก็ไม่เห็นยากเลยนี่ แค่ใช้ไบก้อน (ยาฆ่าแมลง) ที่ได้มาจากห้องเก็บของแถวๆนี้
ฉีดไปรอบๆ พวกตัวต่อก็ตายสนิทแล้ว ถึงมันจะตัวใหญ่แค่ไหน แต่มันก็ยังเป็นแมลงอยู่ดีนั่นแหละ...."
ใน RE Outbreak เจ้ายาพ่นนี่ก็ฆ่าตัวต่อได้นะ
"เอ๋!? มีของแบบนั้นด้วยเหรอ?"
"อย่าบอกนะว่า นายมาถึงที่นี่ได้เพราะใช้ปืนสู้กับตัวต่อพวกนั้น...."
......................................
"นายนี่มันโชคดีชะมัดเลยรู้ไหม ขืนใช้ปืนยิงต่อสู้กับพวกมันก็ยิ่งทำให้พวกมันเข้ามารุมนายมากขึ้น"
"แฮะๆ ตอนหลังจะระวังละกัน...."
หลังจากนั้น เดคิสุงิจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
"ว่าแต่ว่า..ขอถามอะไรหน่อยนะ... ที่ชั้นใต้ดินเมื่อกี้ มีศพเจ้าหมา 3 หัว 2 ตัวนอนตายอยู่
เป็นฝีมือของนายงั้นเหรอ? โนบิตะคุง..."
"นั่นนะเหรอ? อืม...ฝีมือฉันเองแหละ"
"ให้ตายสิ นายนี่มันจอมโหดโคตรแสบชะมัดเลย จัดการได้ถึง 2 ตัวด้วย...
ท่าทางฝีมือนายจะพัฒนามากขึ้นเลยนะเนี่ย.."
"ฮะๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก"
"อ้ะ!..จริงสิ....ตอนที่ฉันสำรวจข้างล่างเมื่อสักครู่นี้ ดูเหมือนฉันจะเห็นอะไรดีๆด้วยล่ะ และคิดว่า
มันน่าจะมีประโยชน์กับปืนกระบอกนั้นของนายนะ"
สิ่งที่เดคิสุงิยื่นให้โนบิตะคือ...กระสุนบางอย่างที่ส่องแสงประกายสีฟ้าสวยงาม
มันคือกระสุนประจุพลังไฟฟ้าเรย์บุลเล็ท (Ray Bullet)
ซึ่งมันคือกระสุนปืนสำหรับปืนชนิดพิเศษที่ไร้กระสุนเรย์ธันเดอร์เอ (Ray Thunder A) ที่โนบิตะเก็บได้ก่อนเข้าไปในโรงแรมที่เพลิงไหม้ใน Chapter 4 นั่นเอง
(คนเขียนบล็อก : ปืนเก็บได้นานแล้วแต่พึ่งยิงได้ตอนนี้เรอะ!!!)
"อ้ะ..ขอบคุณมากนะ เดคิสุงิคุง แล้วก็ ฉันมีเรื่องอะไรอยากจะบอกนาย..."
แล้วโนบิตะก็เล่าเรื่องที่ตนไปสำรวจที่ชั้น 3 ให้ฟัง
"เจอเครื่องผลิตวัคซีนแล้วงั้นเหรอ สุดยอดไปเลยนะโนบิตะคุง.
ถ้างั้นฉันขอฝาก V-Poison ไว้กับนายเลยละกัน"
แล้วเดคิสุงิก็ส่งหลอดพิษตัวต่อให้โนบิตะ จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา
"เดี๋ยวฉันขอสำรวจเส้นทางชั้นใต้ดินต่ออีกสักนิดนึงนะ ถ้านายเจอทาเคชิคุง
และส่วนผสมอื่นๆแล้วก็บอกเขาให้ไปเจอกันในห้องทำวัคซีนชั้น 3 เลยละกัน"
"โนบิตะคุง ระวังตัวด้วยนะ"
"เข้าใจแล้ว นายก็เหมือนกันนะ เดคิสุงิคุง"
แล้วเดคิสุงิก็เดินออกจากห้องไป
"สุดยอดไปเลยแฮะ เดคิสุงิคุงได้ส่วนผสมตั้งชิ้นนึงแล้ว"
โนบิตะพูดขณะที่กำลังปลดล็อกประตูด้านในห้อง
"ฉันจะหาเจอสักชิ้นไหมน้า...."
หลังจากนั้นโนบิตะจึงเดินออกไปยังด้านนอกห้องและพบว่าบริเวณนี้เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ตรงส่วนหลังของมหาวิทยาลัย
- จตุรัสลานกว้างหลังมหาวิทยาลัย [Back Square]
โนบิตะเดินออกมาสูดอากาศด้านนอกได้ไม่นานนัก... ตรงอาคารมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ด้านหน้าของเขา
เพล้ง!!!
มีอะไรบางอย่างกระโดดพุ่งทะลุกระจกชั้นบนลงมา
"!!!!!!"
ชื่อของเจ้าสิ่งนั้นคือ... ทานาทอส (Thanatos)
เทพเจ้าแห่งความตาย ไทแรนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ผู้สังหารหมู่ผู้รอดชีวิตทุกคนภายในมหาวิทยาลัยทั้งหมด
ได้ปรากฏกายต่อหน้าโนบิตะแล้ว!!!
to be continue >>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Final Chapter - part 4
แถมคลิปประกอบการหา V-Poison ใน RE ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ
เริ่มจากลิฟต์จนออกมาถึงจัตุรัสหลังมหาวิทยาลัย
โนบิตะอย่ายอมแพ้เซย์นะจังนะ ใช้มีดเพียวๆสู้โลด โย่ว!!!
ตอบลบทุกคนสู้กับบอสรุ่นหนึ่งแต่โนบิตะเจอบอสรุ่นพัฒนา เจริญจริงๆ
ตอบลบ