>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 3 - part 4 (Final Part)
ได้สำเร็จ...
เขาเดินวนเวียนอยู่ในท่อระบายน้ำอยู่นาน และในที่สุดเขาก็โผล่ขึ้นมายังสถานที่แห่งหนึ่งในตัวเมือง แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หลังจากที่ผ่านสถานที่เย็นหนาวเหน็บ และเฉอะแฉะเลอะเทอะอยู่นาน เขาต้องมาผจญภัยในสถานที่ที่ร้อนระอุเหมือนนรกเพิ่มไปอีกใน Chapter ใหม่นี้...
Chapter 4 - Hellfire [Part 1]
เพลิงนรกที่ลุกไหม้
บทเกริ่นนำ (ไม่แปลตามภาพจากเกม RE แต่แปลประยุกต์ตามเกมโดจินนี้)
- หลังจากที่ผมหลบพ้นจากการระเบิดของเปลวเพลิงมาได้
- ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมต้องผจญกับควันเพลิงในโรงแรมทีลุกไหม้
- ผมพึ่งจะรู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นรก" ก็คราวนี้แหละ
ด่านที่ 4 โรงแรม
ในที่สุดโนบิตะก็หาทางออกจากท่อระบายน้ำจนพบ...
ปัจจุบันคือวันที่ 29 เดือนธันวาคม ปี 2004 เวลา 16.30 นาฬิกา (ตอนเย็น) ณ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
โนบิตะรีบตรวจสอบสถานที่โดยรอบเพื่อเช็คความปลอดภัย เขาพบว่าบริเวณนี้ถูกรายล้อมไปด้วยตึกสูงที่ดูเหมือนจะเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง เขาแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าก็พบว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาค่ำแล้ว
"ให้ตายสิ เดินอยู่ในท่อน้ำมืดๆอยู่นานพอออกมาได้มันก็มืดซะแล้วเหรอเนี่ย..!?"
โนบิตะไม่พอใจมากที่ตนเองมัวแต่ใช้เวลาเดินหลงทางอยู่ในท่อน้ำนานไม่รู้กี่ชั่วโมง กว่าจะออกมาได้ก็มืดเสียแล้ว เขาคิดว่าพอออกมาจะได้เจอคนอื่นสักหน่อย แต่เขาคิดผิด บริเวณรอบข้างนั้นไม่มีใครเลย แถมยังดูวังเวงด้วย ซึ่งดูแล้วมันไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
"แต่ยังก็เถอะ ต้องรีบหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดดีกว่า..."
"โดราเอม่อน....ทุกคน...จะเป็นยังไงกันบ้างนะ"
โนบิตะจึงเดินไปรอบๆเพื่อหาทางออกไปจากที่นี่ เขาจึงเดินมาด้านล่างก่อน ก็พบกับกรีนเฮิร์บและศพทหารที่มีปืนบางอย่างตกอยู่
"ไอ้เจ้านี่มันอะไรกันเนี่ย? ดูเหมือนของที่ใช้งานไม่ได้เลย..."
ปืนที่โนบิตะเห็นมันคือเรย์ธันเดอร์-เอ (Ray Thunder A)* แต่ดูท่าทางมันจะเป็นของที่ใช้งานไม่ได้
(จากที่เราดูคลิปแคสต์เกมแล้วมันก็ใช้สู้จริงๆไม่ได้นั่นแหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเก็บไปทำหอกอะไร...)
โนบิตะหันไปมองอีกฝั่งของตึก เขามองเห็นประตูขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเข้าโรงแรม
"เอ..ดูเหมือนประตูนั้นน่าจะพาออกไปจากที่นี่ได้นะ"
โนบิตะจึงเดินไปยังประตูบานนั้น โดยที่เขาไม่ทันสังเกตเลยว่า บริเวณนอกหน้าต่างของอาคารแห่งหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่ดูรูปร่างคล้ายคนกำลังไต่กระจกขึ้นไป
ด้านบนของห้องนั้นมีชายสองคนเดินผ่านมา
พวกเขาคือเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงที่มาตรวจเช็คสภาพพื้นที่โดยรอบ..
"เฮ่ยย นายเห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่า B1"
"ฉันก็มองเห็นอยู่นะ B2"
ไอน้ำที่พุ่งออกมาจากเครื่องมากขึ้นจนน่ากลัว
แรงดันไอน้ำที่ร้อนระอุกำลังแผ่พุ่งทะลุออกมาด้านนอก เครื่องจักรไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่าอไปแล้ว!!!
"ได้เวลาเผ่นแล้ว....เว้ย!!!"
เจ้าหน้าที่กล้วยหอม เอ้ย!! เจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงทั้งสองนายเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้ทันที
เครื่องจักรด้านล่างโอเวอร์ฮีทและเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
เปลวไฟอันร้อนแรงจากการระเบิดแผ่พุ่งขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว
มันเร็วเกินกว่าที่พวกเขาทั้งสอง..
จะหลบพ้นได้....
ซู่มมมมม!!
การระเบิดจากด้านในนั้นรุนแรงมาก
ประตูทางออกห้องต้มน้ำถึงกับพังกระเด็นออกมา..
โครม!!!!!
โนบิตะจึงหันไปมองทางที่เกิดแรงระเบิดนั้น
"วะ เหวอ!!! มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ!!"
เขาพบว่าประตูบานเล็กได้กระเด็นออกมาจนเป็นรูกว้าง
"มันเกิดอะไรขึ้นในนั้นกันแน่นะ?"
ด้วยความสงสัยโนบิตะจึงเดินเข้าไปยังรูที่เคยเป็นประตูห้องต้มน้ำ
คลิปประกอบ...
ทันทีที่โนบิตะเดินเข้ามาด้านในห้อง เขาก็พบว่าอุณหภูมิภายในห้องนี้สูงขึ้นมาก ถ้าไม่ติดที่ว่าเขาไปมุดท่อระบายน้ำมาก่อนหน้านี้ ไม่งั้นมันคงจะร้อนจนเขาเดินลุยเข้าไปไม่ไหวแล้ว
"บ้าเอ้ย!! ที่นี่มัน..."
บริเวณรอบข้างเขาพบกับเครื่องจักรที่มีไฟลุกท่วม และสิ่งที่สะดุดตาของเขามากที่สุดคือ..
"อ้ะ! มีคนอยู่ตรงนั้น"
โนบิตะรีบเดินเข้าไปดูอาการของคนที่นอนอยู่ในห้องนั้น เขาคือหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงเมื่อสักครู่นี้ ท่าทางของเขานอนแน่นิ่งจมกองเลือดแถมร่างกายส่วนหัวก็บิดเบี้ยว และแตกร้าวเหมือนกับตกลงมาจากที่สูง ใช่...เขา
"ตายแล้ว...."
"แถมดูท่าว่าจะตายได้ไม่นานด้วย ...โถ่เว้ย...ถ้าเรามาเร็วกว่านี้..."
ก่อนที่โนบิตะจะพูดอะไรต่อ เขาก็ได้ยินเสียงตื้ดๆ ดังออกมาจากศพของเจ้าหน้าที่คนนั้น
"นิชิชิม่า....! (西島 - nishishima)..... นิชิชิม่า....!
...เฮ้ย!!....ได้ยินแล้วตอบด้วย....! ! นิชิชิม่า...
ตอนนี้พวกเรา..."
[ถ้าเป็นใน RE เจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อ ชาร์ลี (Charlie)]
"ทุกคน...อพยพ....กันหมดแล้ว...
ถ้าได้ยินข้อความนี้.....ให้รีบหนีออกมา
..จากโรงแรมนั่นซะ..."
"ขอย้ำอีกครั้ง....รีบ...หนี...ออกมา...โดย ด่วน..ที่สุด..."
เสียงได้ตัดขาดหายไป โนบิตะจึงรีบยกวิทยุสื่อสารนั้นขึ้นมา
"ฮัลโหล ฮัลโหล...!?"
แต่สิ่งที่ตอบกลับมามีแต่ความเงียบเท่านั้น ดูเหมือนว่าสัญญาณจะถูกตัดไปแล้ว...ความซวยจึงมาเยือนโนบิตะอีกครั้ง...เมื่อเขาได้รู้ว่าตอนนี้ ที่ที่เขาอยู่ไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมแล้ว..
"บ้าชิบ!! มันพังซะแล้ว..."
"ยังไงก็เถอะ รีบหาทางหนีออกจากที่นี่ดีกว่า.."
(มุดท่อน้ำเน่าไม่พอ ยังต้องมาลุยไฟอีกเหรอวะเนี่ย ทำไมมันซวยแบบนี้ฟะ)
หากเป็นในเกม จากตรงนี้ไปจะสามารถเลือกทางเข้าได้ 2 ทางคือ
1) ปีนบันไดจากห้องต้มน้ำขึ้นไป
2) ออกไปทางลานกว้างเดินเข้าโรงแรมทางประตูหลัก
ซึ่งทางเลือกทั้ง 2 ทางจะเจอปริศนาที่ต่างกันแต่สุดท้ายแล้วมันจะมาบรรจบที่จุดเดียวกัน เช่นถ้าไปทาง 1) และแก้ปริศนาในทาง 1) ได้ก็จะต้องมาแก้ปริศนาในทาง 2) ต่อ
ในสถานการณ์ตอนนี้ โนบิตะจึงเลือกที่จะปีนบันไดห้องต้มน้ำขึ้นไปด้านบน
โครม!!!
เมื่อเขาขึ้นมาด้านบนได้เขาแทบใจหายเมื่อพบว่าบันไดที่เขาพึ่งปีนขึ้นมานั้นเกิดพังครืนลงมาพอดี (ไม่สามารถย้อนกลับไปทางเดิมได้แล้ว)
(กะ...เกือบไปแล้ว)
นอกจากนี้บริเวณด้านบนเขาก็พบกับศพคนหัวขาดอีกศพหนึ่ง ซึ่งก็คือศพเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงอีกคนที่มาปฏิบัติภารกิจด้วยกัน แน่นอนว่าทั้งคู่ตายจากการระเบิด
[ถ้าเป็นใน RE เจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อ เลน (Len)]
โนบิตะจึงมุ่งหน้าไปตามทางเดินจนในที่สุด เขาก็เดินผ่านประตูเข้ามายังอาคารของตัวโรงแรม
"ที่นี่มันแย่จริงๆ ทั้งไฟ ทั้งควันเต็มไปหมดเลย"
โรงแรมที่โนบิตะยืนยู่ตรงนี้อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ราวกับนรกก็ไม่ปาน ตามทางเดินมีไฟลุกไหม้และซากไม้ที่ผุพังที่อาจจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ แถมยังมีควันขโมงเต็มไปหมด
แต่โนบิตะก็ยังคงฝืนตัวเองแล้วเอามือปิดจมูกเพื่อป้องกันการสูดควันเข้าไปแล้วรีบคลำหาทางออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เขาจะไม่ยอมตายที่นี่เป็นอันขาด
นอกจากไฟที่ลุกไหม้แล้ว ตามทางเดินก็ยังมีพวกซอมบี้คอยออกมาก่อกวนเป็นระยะอีก ดูท่าทางพวกมันจะไม่สะทกสะท้านเรื่องความร้อนจากเปลวเพลิงและควันไฟบริเวณรอบข้างเลย (ก็แหงล่ะ ตายไปแล้ว ก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก)
โนบิตะยังคงฝืนเดินออกมาตามทางที่เขาคิดว่ามีไฟไหม้น้อยที่สุด เพราะการเดินในบริเวณที่ไฟไหม้นั้นมีความเสี่ยงสูงมาก
เขาเดินวนไปตามทางเรื่อยๆจนพบกับป้ายประกาศแผ่นหนึ่งแปะอยู่บนกำแพง
มันคือบันทึกโน้ตประกาศของภารโรง
- ปิดอุปกรณ์ห้องไฟฟ้า
- ซ่อมแซมเครื่องจักรในห้องต้มน้ำ
- กุญแจนิรภัยในตู้เซฟห้อง 302 และ 303
- ตรวจสอบบันไดฉุกเฉินที่ล็อบบี้ (ห้องโถงหลักของโรงแรม)
- ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะต้องพร้อมใช้งานในเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเกิดอันตราย
ซึ่งบันทึกเหล่านี้ทำให้โนบิตะรู้ว่า การจะออกไปจากที่นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว เพราะดูเหมือนเขาต้องจัดการสะสางสิ่งที่ภารโรงทิ้งไว้บางส่วนให้สำเร็จ
"ให้ตายสิ ทำไมถึงได้ยุ่งยากชะมัด"
โนบิตะเดินเข้าไปสำรวจด้านในและพบว่าตรงทางเดินมีสเปรย์ปฐมพยาบาลวางอยู่
โนบิตะได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากทางด้านหลังเขา และพอเขาหันกลับไปมองก็พบกับ...
"ไอ้นี่มัน....ตัวบ้าอะไรเนี่ย!?"
เจ้าสัตว์ประหลาดที่มองโนบิตะผ่านกระจกหน้าโรงแรมได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา มันคือ.. ลิคเกอร์ (Licker)
[ในเกมใช้โมเดลของคิเมร่า แต่คุณสมบัติตามเนื้อเรื่องคือลิคเกอร์]
มันรีบพุ่งเข้ามาโจมตีใส่โนบิตะอย่างรวดเร็ว แต่ว่าโนบิตะในตอนนี้ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาเยอะ ทำให้เขาได้สติและชักปืนพกขึ้นมาด้วยความเร็วที่มากพอกันจ่อเล็งไปที่ศีรษะของมันอย่างแม่นยำ
ปัง!!!
กระสุนปืนพกเจาะทะลุสมองซึ่งเป็นจุดตายที่ชัดเจนที่สุดของลิคเกอร์...ทำให้มันสิ้นฤทธิ์ทันทีด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว
โนบิตะจึงลองเดินเข้าไปสำรวจศพของลิคเกอร์ตัวนั้นและพบว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในร่างกายของมันด้วย
มันคือกุญแจสีทอง (Gold Keys) ที่ดูสวยงามมาก..
มันอาจจะเป็นของที่สำคัญมาก เขาจึงเก็บมันไว้กับตัว
หลังจากนั้นโนบิตะได้เดินไปสำรวจอีกทางและพบกับหน้าต่างที่ไร้ซึ่งกระจกและท่าทางจะเดินออกไปตามระเบียงได้
โนบิตะจึงเดินออกไป..
"ฟู่ววว ค่อยยังชั่ว ได้พักหายใจหน่อย"
ถึงแม้มันจะไม่ใช่ทางออกจากโรงแรม แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสถานที่ที่ปลอดโปร่งให้เขาได้สูดอากาศจากภายนอก ซึ่งดีกว่าการสูดดมควันในตึกเป็นอย่างมาก
เขามองไปด้านซ้ายและเห็นทางเดินขอบผนังตึกเล็กๆแคบๆ แถมยังไม่มีรั้วกั้นอีกต่างหาก แต่อย่างน้อยมันก็กว้างพอที่เด็กตัวผอมอย่างเขาจะเดินไต่ไปตามตึกได้..
"เหวอ!? ท่าทางอันตรายชะมัดเลย"
เขาจึงเอามือทั้งสองเกาะไปที่อิฐตามกำแพงเพื่อยึดไว้ และค่อยๆไต่ไปตามทางเดินขอบตึก...พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นรัวมากขึ้น เพราะถ้าพลาดเพียงนิดเดียวเท่ากับตาย
"เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ตรงนั้นมัน.."
แต่ก่อนที่จะไปไกลกว่านั้น โนบิตะสายตาดีมองเห็นอะไรบางอย่างที่ตกอยู่ข้างๆทางที่เขาออกมา
ซึ่งมันก็คือกุญแจดอกเล็กที่ดูแล้วน่าจะใช้ไขอะไรบางอย่างที่สำคัญ โนบิตะจึงเก็บมันไปด้วย
"เอาล่ะ..คราวนี้ลุยกันเลย..."
ตอนนี้โนบิตะเริ่มชินเส้นทางมากขึ้นแล้ว เขาจึงจับท่าได้อย่างมั่นคงและไต่ไปเรื่อยๆ และตกใจที่หน้าต่างบานที่ 2 ที่ขอบตึกไม่น้อยเพราะด้านในนั้น
"เฮ่ยๆๆๆ"
มีซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังจ้องมองเขาผ่านทางกระจกหน้าต่าง ดูเหมือนว่ามันจะพยายามใช้มือทุบกระจกพังออกมาหาเขา มันยังคงทุบอยู่อย่างนั้นเพราะกระจกแข็งมาก คงจะยื้อเวลาได้สักพัก
โนบิตะจึงรีบไต่ข้ามต่อไปโดยพยายามไม่สนใจมัน จนเขาไต่เกือบพ้นกระจกหน้าต่างออกมาได้แล้ว!!
เพล้ง!!!!
"แว้กกก!!!!"
ซอมบี้ตัวนั้นพังกระจกออกมาจนได้ แต่ว่าแรงที่มันพังกระจกมาส่งผลให้ตัวของมันลอยพุ่งเฉียดตัวโนบิตะไปอย่างฉิวเฉียด
และดิ่งลงไปยังพื้นเบื้องล่าง...ตายคาที่
"ฮะๆๆ เกือบไปแล้วไหมล่ะ ไอ้บ้าเอ้ยย!"
โนบิตะพยายามสงบจิตใจ และไต่ไปตามขอบตึกจนถึงหัวมุม
เขาพยายามขยับตัวช้าๆในการเคลื่อนลำตัวไปยังอีกด้านหนึ่งของตึก และไต่มาตามทางเรื่อยๆ
"อีกนิดเดียว "
"ถึงสักที!!!"
เท้าทั้งสองของโนบิตะก็ได้แตะพื้นโดยที่ไม่ต้องใช้มือจับกำแพงอีกต่อไป เขาไต่ไปจนถึงระเบียงอีกด้านของขอบตึกโดยสวัสดิภาพ
โนบิตะเดินเข้าไปสำรวจประตูตรงระเบียงนั้นแต่ว่ามันล็อกอยู่ไม่สามารถเปิดได้ เขาจึงเลือกที่จะไต่บันไดเหล็กข้างๆลงไป
"เรื่องแค่นี้ง่ายซะยิ่งกว่าปลอกกล้วยซะอีก ฮะๆๆ"
ตอนที่โนบิตะปีนลงบันไดอยู่นั้นเขาไม่ทันสังเกตเห็นอีกาสีดำที่กลมกลืนกับท้องฟ้าตัวหนึ่งบินผ่านมาเฉียดมือพอดี....ทำให้เขาตกใจมากจนเผลอปล่อยมือจากราวบันได
"เอ๊ะ.......?"
หัวของโนบิตะที่ควรจะตั้งอยู่ได้กลับทิศดิ่งลงไปบนพื้นพลัดตกจากบันได
"แว้ก!!!!!!!"
โนบิตะดิ่งพสุธาหัวลงพื้นระเบียงชั้นล่างอย่างงดงาม อย่างน้อยเขาก็ยังโชคดีที่ไม่ใช่อิฐปูนชั้นล่างสุด
คลิปประกอบ
แต่ในเวลาไม่นานนักเขาก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว
"บ้าเอ้ย!! ประมาทไปหน่อย"
โนบิตะรีบเช็ดเลือดที่ไหลบนหัวและใช้สเปรย์ปฐมพยาบาลรักษาบาดแผลตัวเองก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังประตูตรงระเบียง
โชคดีที่ประตูบานนี้สามารถเปิดเข้าไปได้ ทำให้โนบิตะกลับเข้ามาในโรงแรมอีกครั้ง
"อุ๊บ!! กลิ่นควันมาอีกแล้ว"
เขารีบเดินเข้าไปยังประตูห้องฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
ห้องที่เขาเดินเข้าไปตรงนี้ ถึงแม้จะมีกลิ่นควันไฟหลงเหลืออยู่บ้าง แต่อย่างน้อยภายในห้องก็ไม่มีจุดที่เกิดไฟไหม้เหลืออยู่เลย
ห้องนี้คงจะเป็นห้องของ รปภ. ที่มีระบบความปลอดภัยสูงพอสมควร โนบิตะจึงได้หยุดพักหายใจที่ห้องนี้สักระยะ
เขาลองสำรวจดูในตู้ของห้องนี้ก็พบกับ...
"ชะ ช็อตกันเหรอ...เจ๋งไปเลย"
ปืนลูกซองเรมิงตัน M870
พร้อมกับกระสุนจำนวนหนึ่ง...
ในที่สุดเขาก็ได้อาวุธหนักมาอยู่ในมือเพื่อพร้อมรับมือกับเหล่าศัตรูท่ามกลางเปลวเพลิงนรกแห่งนี้แล้ว แต่การผจญภัยที่แท้จริงมันพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!!
to be continue .....
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น