ความเดิมตอนที่แล้ว >>
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 4 - part 2สมมุติว่าถ้าเราได้ยินเสียงลิคเกอร์คุยกันภายในโรงแรมที่กำลังไฟไหม้...
ลิคเกอร์ 1 : บ้าเอ้ย! ทำไมถึงไม่มีใครจัดการไอ้เด็กแว่นนั่นได้นะ มันจะหนีออกไปจากที่นี่อยู่แล้ว
ลิคเกอร์ 2 : ช่างมันสิ! เดี๋ยวค่อยล่าเจ้าคนอื่นที่หลงเข้ามาในนี้ก็...
ทันใดนั้นลิคเกอร์ 2 ก็ถูกอะไรบางอย่างพันรอบคอของมันและถูกยกตัวสูงขึ้นจนลอยกลางอากาศด้วยท่าทางทรมาน
??? : เจ้าพวกโง่...ไร้ประโยชน์! แค่ไอ้เด็กนั่นคนเดียวก็ยังปล่อยให้หนีรอดไปได้!!
ไม่นานนักลิคเกอร์ 2 ก็ถูกเหวี่ยงออกกระเด็นตกหน้าต่างชั้น 4 ของโรงแรมจนร่วงกระแทกพื้นสมองกระจัดกระจาย....ปล่อยให้ลิคเกอร์ 1 กำลังหวาดกลัวกับเจ้าตัวที่อยู่เบื้องหน้ามัน ....
??? : จะต้องไม่มีใครหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้ทั้งนั้น...!!!
Chapter 4 - Hellfire [Part 3 - Final Part]
สิ่งที่รออยู่ตรงทางออกของเพลิงนรก
ความเดิมตอนที่แล้ว...โนบิตะได้อ่านบันทึกสุดท้ายของเด็กชายผู้ที่ไม่อาจรอดชีวิตออกไปจากโรงแรมในห้องพักชั้น 3 ...
ภายในห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ ถ้าจะเข้าไปสำรวจก็ระวังเจ้าลิคเกอร์ที่อยู่ข้างในนั้นให้ดี แต่ถ้าหากไปสำรวจจะพบว่าข้างๆอ่างอาบน้ำจะมีปืนพกพลังสูง 44 AutoMag อยู่
โนบิตะจึงเก็บมันมาและใช้มันจัดการลิคเกอร์ที่อยู่ในห้องน้ำ...หลังจากที่สำรวจโรงแรมบนชั้น 3 จนหมดแล้ว เขาจึงเดินกลับลงมายังชั้น 2 ด้านล่าง ที่ประตูห้อง รปภ. ด้านในนั้น มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ล็อกด้วยระบบไฟฟ้าอยู่ และจำเป็นต้องใช้รหัสผ่านในการเปิดประตูเข้าไป
โนบิตะได้รหัสผ่านมาจาก part 2 ตอนที่ขึ้นไปเก็บบันทึกของเจ้าหน้าที่บนชั้น 3 โนบิตะจึงกรอกรหัสผ่านลงไป (รหัสผ่านเป็นแบบสุ่มดังนั้นให้สำรวจข้อมูลจากบันทึกเอาเอง)
โนบิตะเดินเข้าไปในห้อง รปภ. และพบว่า...
"เอ๋!!? นี่มันห้องเดิมนี่...."
ใช่แล้ว มันเป็นห้อง รปภ. ตอนที่เขาเคยเข้ามาใน part 2 ตอนแรก...ซึ่งตอนนี้เขาได้วนกลับมาที่เดิม
แต่ว่าในครั้งนี้มันต่างออกไป เนื่องจากเขาได้เปิดระบบไฟฟ้าที่ชั้น 1 แล้ว ทำให้ประตูด้านในส่วนลึกที่เขาไม่สามารถเข้าไปได้ทำงาน เขาได้ใช้คีย์การ์ด รปภ. รูดปลดล็อกประตูและเดินเข้าไปได้แล้ว
เขาได้ออกมายังบริเวณชั้นลอยของห้องโถงล็อบบี้ของตัวโรงแรม (ซึ่งเป็นบริเวณที่เจ้าหน้าที่ รปภ. เท่านั้นที่เข้ามาได้) เขามองลงไปยังเบื้องล่าง ก็พบว่ามันสูงน่าดู ถ้าหากกระโดดลงไปเลย เขาอาจจะบาดเจ็บได้ ทางที่ดีคือควรจะหาทางลงอย่างบันไดแถวๆนี้ก่อน
โนบิตะเดินไปยังส่วนกลางของชั้นลอยก็พบกับแผงควบคุมราวบันไดฉุกเฉินอยู่ ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าจะใช้ลงไปยังชั้นล่างได้ เขาสังเกตเห็นรูเล็กๆเหมือนรูกุญแจอยู่
"รูกุญแจงั้นเหรอ?...หรือว่าจะเป็นดอกนี้กันนะ?"
โนบิตะสำรวจที่ตัวก็พบว่ามีกุญแจดอกเดียวเท่านั้นที่เขายังไม่ได้นำไปใช้งาน ซึ่งเป็นกุญแจดอกเล็กที่เขาเก็บได้จากตัวระเบียงตอนไต่ขอบระเบียงขอบตึกด้านนอกใน part1
เขาจึงลองใส่มันเข้าไปในช่องเพื่อไขมันและพบว่า.....แกร๊ก...กุญแจเสียบเข้ากับรูได้พอดีและเปิดการทำงานของเครื่องควบคุมบันได
"ใช่จริงๆด้วย"
โนบิตะไม่รอช้า เขารีบกดปุ่มเลื่อนบันไดลงบนแผงควบคุมนั้น
ไม่นานนักราวบันไดเหล็กก็เลื่อนลงมาด้านล่าง
เป็นทางที่ทำให้เขาสามารถเดินลงไปข้างล่างได้อย่างปลอดภัย
"เอาล่ะ...รีบหนีไปจากที่นี่ดีกว่า.."
โนบิตะรีบไต่บันไดลงไปยังล็อบบี้ด้านล่างของโรงแรม
เขามองไปยังด้านซ้ายก็พบกบทางเดินต่อ
เขาลองเดินเข้าไปก็พบ...
"อ้ะ...เจอประตูทางออกแล้ว...รีบออกไปจากที่นี่ดีกว่า...!!"
ด้วยความดีใจ เขารีบมุ่งหน้าไปยังประตูบานใหญ่ซึ่งเป็นทางออกของโรงแรม...
ลาขาดกันที...สถานที่อันตรายแบบนี้...
แต่ตอนนั้นเอง เขาก็พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นทั้งๆที่ทางรอดซึ่งเป็นความหวังของเขาอยู่เบื้องหน้าแล้วแท้ๆ
ตามคลิปข้างล่าง
โครม!!!
ตะแกรงช่องระบายอากาศที่กั้นระหว่างโนบิตะกับทางออกได้ตกลงอย่างรวดเร็ว
!!!!!
ดูเหมือนว่ามันจะตกลงมาจากเพดานด้านบนนั้น......
แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างปรากฏตัวออกมาจากช่องระบายอากาศ!!! รูปร่างมันเหมือนคนห้อยหัวลงมาจากด้านบนครึ่งตัว ผมสีดำยาวดูรุงรังถูกปล่อยลงมาปกคลุมศีรษะ
ส่วนลำตัวได้ขยับทำให้ใบหน้าของมันปรากฏชัดเจนต่อหน้าโนบิตะ...มันคือสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนคน แต่ดูน่าสะพรึงกลัวราวกับผีญี่ปุ่น มันแลบลิ้นยาวออกมาขู่โนบิตะ
แฮ่!!!!!!!!!!!!!
มันดูคล้ายลิคเกอร์ตรงที่มีลิ้นยาวเหมือนกัน (แต่ยาวกว่าหลายเท่า) และลักษณะที่ต่างกันคือ ส่วนหัวที่ไม่มีสมองบวมเหมือนลิคเกอร์ นามของสัตว์ประหลาดตัวนี้คือ "ซัสเพ็นด์ (Suspended)" ลิคเกอร์สายพันธุ์พิเศษ ที่เป็นหัวหน้าของพวกลิคเกอร์ในโรงแรมแห่งนี้ทั้งหมด!!
"ว้ากกกกกกกกกกกกก!!!! ตัวอะไรวะเนี่ย!!!!?"
ด้วยความตกใจ โนบิตะจึงรีบวิ่งหนีถอยห่างออกจากมันก่อนที่มันจะใช้ลิ้นยาวๆนั่นพุ่งเข้าโจมตีเขา
(ถ้าเป็นใน RE Outbreak หากอยู่ใกล้มันมากเกินไปตอนนี้จะมีโอกาสที่ถูกมันรัดคอซึ่งเสี่ยงต่อการเกมโอเวอร์ในทีเดียว)
หลังจากที่โนบิตะวิ่งถอยออกมาจนหายตกใจแล้ว เขาพยายามตั้งสติ และหันกลับไปมองมันจากระยะไกลดูก็พบว่ามันก็แค่สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวเท่านั้น แถมเขาก็ยังมีอาวุธอยู่ในมือจำนวนมากด้วย
"อะ...ไอ้บ้าเอ้ย!! เล่นเอาตกอกตกใจหมด เอานี่ไปกินซะ!!"
โนบิตะจีงรีบหยิบปืนพก Automag พลังสูงที่เขาพึ่งได้มาเล็งใส่มัน แต่เขาคิดผิด...
!!!!!!
เพี๊ยะ!!!
เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นได้ใช้ลิ้นยาวๆของมันยืดมาปัดมือของเขาอย่างแรง ซึ่งลิ้นของซัสเพ็นด์นั้นทั้งคม ทั้งสากและแข็งแกร่งราวกับแส้ ทำให้โนบิตะทำปืนกระเด็นหลุดมือไปฝั่งตรงข้าม แถมยังใช้ลิ้นปัดกระแทกลำตัวโนบิตะจนเกิดบาดแผลสาหัสอีก
"อ้ากกกกกก..."
โนบิตะ จึงรีบวิ่งถอยห่างออกจากมันให้ไกลที่สุดเพื่อให้พ้นระยะของลิ้นมัน
"ลิ้นของไอ้บ้านั่นมันร้ายกาจจริงๆ!!"
ระหว่างทางที่โนบิตะหาทางออกจากโรงแรม เขาต้องฝ่าฝูงลิคเกอร์จำนวนมาก ซึ่งเขารู้ดีว่า ลิ้นของลิคเกอร์นั้นเป็นสิ่งที่อันตรายไม่ต่างจากกรงเล็บของมัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจัดการกับพวกมันได้ง่าย เจ้าซัสเพ็นด์นี้อันตรายยิ่งกว่าพวกลิคเกอร์เสียอีก เพราะลิ้นของมันทั้งยาว รวดเร็วและรุนแรงกว่าพวกลิคเกอร์หลายเท่า
เขาพยายามหนีไปให้พ้นจากวิถีของลิ้น และพบว่า..
"!!! บ้าน่า..."
นอกจากซัสเพ็นด์ที่ดักเฝ้าตรงประตูทางออกแล้ว พวกลิคเกอร์ทั้งหลายก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากทิศต่างๆเป็นจำนวนมากพร้อมกัน...สถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่สุดขีดเพราะตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่าง..
โนบิตะ VS ฝูงลิคเกอร์นับสิบ + ซัสเพ็นด์ บอสของฝูงลิคเกอร์
[ในเกมลิคเกอร์จะปรากฏตัวออกมาทีละ 2-3 ตัว
แต่จะฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดเพราะมันออกมาได้เรื่อยๆ]
โนบิตะตกอยู่ในวงล้อมของฝูงลิคเกอร์ทั้งโรงแรมโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าพวกมันเตรียมรุมกินโต๊ะโนบิตะไว้อยู่แล้ว พวกมันคงไม่คิดจะปล่อยให้โนบิตะหนีรอดออกไปจากโรงแรมแห่งนี้ได้เป็นอันขาด
"บ้าเอ้ย!! ถูกพวกมันล้อมแล้ว!!"
โนบิตะรีบวิ่งหันหลังเข้าหาผนังเพื่อที่จะได้จำกัดทิศทางการบุกโจมตีของพวกลิคเกอร์ให้ได้มากที่สุด เขาได้หยิบปืนลูกซองที่สะพายหลังออกมา พร้อมกับกระหน่ำยิงใส่ฝูงลิคเกอร์ที่บุกเข้ามาหน้าสุดก่อน
พวกลิคเกอร์หลายตัวพยายามบุกเข้ามาหาโนบิตะพร้อมกับวิ่งหลบกระสุนไปด้วย โนบิตะไม่สามารถจัดการพวกมันได้หมด..ปืนลูกซองเพียงกระบอกเดียวนั้นไม่ไวพอทีจะจัดการพวกมันพร้อมกันได้ เขาจึงเปลี่ยนเป็นปืนพกเล็งยิงใส่หัวมันไปเรื่อยๆจนในที่สุดเขาก็พลาดท่า..
อึกกกก!!!
ที่แย่กว่านั้นคือ ในศึกนี้พวกลิคเกอร์ไม่คิดจะใช้กรงเล็บเป็นอาวุธอย่างเดียว พวกมันหลายตัวได้ใช้ลิ้นที่คมเหมือนแส้พุ่งตวัดใส่ร่างของโนบิตะอย่างต่อเนื่องจากระยะไกล โนบิตะถูกพวกมันใช้ลิ้นรุมฟาดใส่ทั่วร่างกายหลายครั้ง จนทำปืนและอาวุธบางอย่างตกไปบนพื้น
สถานะร่างกายของโนบิตะลดต่ำลงกลายเป็น "อันตราย" (Danger) อย่างรวดเร็ว!!
"พวกมันมีเยอะไป!! ขืนเป็นแบบนี้เราตายแน่!!!"
โนบิตะพยายามฝืนสังขารหนี
ฉัวะ!!!!
ช่วงที่เขาหันหลังวิ่ง ลิคเกอร์ตัวหนึ่งก็บุกเข้ามาประชิดเขาได้พร้อมกับตวัดกรงเล็บฟันเข้าที่น่องขาอย่างรุนแรง
อ้ากกกกกกกก!!!
โนบิตะทนไม่ไหวจึงส่งเสียงตะโกนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และทรุดลง แต่เขาก็ยังฝืนแรงพอที่จะใช้ปืนพกเล็งยิงสมองลิคเกอร์ตวนั้นจนตายอย่างว่องไว
"ไม่ไหวแล้ว!! ขืนไม่รีบออกไปข้างนอกเราได้ตายแน่..."
แต่ตรงทางออกมีซัสเพ็นด์ซึ่งเป็นหัวหน้าลิคเกอร์เฝ้าทางอยู่ การออกไปจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันไม่มีเวลาแล้ว โนบิตะเสี่ยงที่จะสู้กับซัสเพ็นด์ตัวเดียวเพื่อตีฝ่าออกไป ดีกว่าต่อสู้กับฝูงลิคเกอร์ที่เข้ามารุมพร้อมกัน เขาจึงหยิบปืนลูกซองอีกกระบองเล็งยิงใส่ซัสเพ็นด์
แต่ก่อนที่จะได้ยิงก็มีลิคเกอร์อีกสองตัวคลานเข้ามาอย่างเร็ว..
พวกมันใช้ลิ้นพุ่งเข้าไปรัดแขนของโนบิตะทั้งสองข้างไว้พร้อมกับตรึให้โนบิตะอยู่กับที่จนเชาไม่สามารถจับปืนได้เพราะมือทั้ง 2 ของเขาถูกลิ้นของลิคเกอร์ที่บุกเข้ามาพันธนาการอยู่
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
เขามองเห็นลิคเกอร์อีกตัวนึงอยู่เบื้องหน้าเขา
(แย่แล้ว!!)
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
"ไม่นะ....ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ"
โนบิตะพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของลิคเกอร์ทั้ง 2 ที่ใช้ลิ้นตรึงแขนเขาอย่างสุดแรง แต่ก็ไม่ทำให้เขาหลุดได้ และลิคเกอร์ที่บุกเข้ามาก็ใช้กรงเล็บฟาดใส่เขาแล้ว...
ฉัวะ!!!!
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
"แค่กๆ"
โนบิตะถึงกับกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเลี่ยงจุดตายไปได้...เขาก็ยังคงบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี
แล้วแล้วลิคเกอร์ที่ต่อแถวอีกตัวหนึ่งก็เตรียมที่จะพุ่งเข้าจู่โจมเขาอีกตัว ซึ่งดูท่าทางว่า การโจมตีในครั้งนี้ เขาคงจะไม่สามารถหลบได้แบบเมื่อกี้อีกแล้ว
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
(นี่เรา...จะต้อง...ตาย..ที่นี่...เรอะ...)
โนบิตะเข้าสู่เหตุการณ์ที่อยู่ระหว่างเส้นแบ่งระหว่างความเป็นความตายอีกครั้ง..เขาจะทำยังไง..เขาจะยอมแพ้แล้วตายอย่างไม่ต้องทรมานอยู่ที่นี่หรือว่า.....จะฮึดสู้จนถึงที่สุด....
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของโนบิตะ...ทำให้โนบิตะนึกได้ในวินาทีนั้น....เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรือยังไง...ถ้าเขาตาย เขาก็จะไม่ได้พบเพื่อนๆ และไม่สามารถช่วยโลกได้...แบบนั้นมันแย่ยิ่งกว่าสู้จนถึงที่สุดแล้วค่อยตายแบบไม่มีอะไรค้างคาในใจแบบนั้นจะยังดีซะกว่า....
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
ตาของโนบิตะได้กลายเป็นสีแดง เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีสะบัดมือที่อยู่ด้านขวาพร้อมกับจับลิ้นของลิคเกอร์ที่่พัฒนาการแขนของเขาไว้แน่น
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
"ถ้าแกไม่ปล่อยละก็.... ย้ากกกก!!!"
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
ลิคเกอร์ทั้งสองถูกกระแทกกันอย่างรุนแรงจนเลือดสาดกระจายด้วยพลังแรงเหวี่ยงของโนบิตะที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลด้วยไวรัสโหมด
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
"อีกตัวนึง!!!"
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
ภาพปลากรอบท่าทางเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง |
"เข้ามาเลย!!!!!"
โนบิตะคว้าปืนลูกซองทั้งสองกระบอกมาใส่ไว้ในมือทั้งสองข้างพร้อมกับกระหน่ำยิงใส่พวกลิคเกอร์ที่บุกเข้ามา พร้อมกับกระโดดตีลังกาถีบผนังห้องเพื่อหลบหลีกการโจมตีของพวกมันจากระยะไกลไปด้วย...
โนบิตะสามารถเซฟชีวิตตัวเองได้ด้วยพละกำลังที่เหนือมนุษย์ทำให้โนบิตะสามารถวิ่งกระโดดถีบกำแพงหรือหาที่กำบังพวกมันได้อย่างเร็ว แต่พวกลิคเกอร์ยังคงบุกเข้ามาโจมตีโนบิตะโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาหันไปโจมตีกลับได้เลย
"โถ่เว้ย!!!"
โนบิตะยิงกระสุนปืนลูกซองใส่ลิคเกอร์ตัวหนึ่งจนกระเด็นไปถูกสวิตช์กริ่งเรียกลูกค้าที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์โรงแรมจนเกิดเสียงดังหนวกหูขึ้นไปทั่วห้อง...เขาสังเกตเห็นว่า..พวกลิคเกอร์ที่ได้ยินเสียงกริ่งนั้นมีท่าทางสับสนและดิ้นทุรนทุรายไปมา เนื่องจากว่า ลิคเกอร์นั้นมีประสาทสัมผัสทางหูที่ดีเยี่ยมแทนตาที่มองไม่เห็น ทำให้มันได้รับพิษจากการที่ได้ยินเสียงดังมากเกินไปจนเกิดอาการสับสน โนบิตะเห็นท่าทางของพวกมันดังนั้นจึงยิ้มอย่างมีเลศนัยน์
"เข้าใจแล้ว..!!"
โนบิตะไม่รอช้า เขาวิ่งกระโดดไต่ผนังหลบฝูงลิกเกอร์ไปยังหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับใช้มือทุบสวิตช์เสียงสัญญาณเตือนภัยจนพังทำให้เกิดเสียงสัญญาณกระดิ่งดังลั่นไปทั่วล็อบบี้
ลิคเกอร์หลายตัวที่อยู่ในล็อบบี้นั้นรวมถึงตัวซัสเพ็นด์ต่างดิ้นทุรนทุรายจากเสียงสัญญาณนั้นจนเปิดช่องว่างให้โนบิตะใช้ปืนลูกซองจ่อยิงพวกมันทีละตัวขณะที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้
"ฮะๆๆๆๆๆ"
นอกจากพวกลิคเกอร์แล้ว เขาก็ได้ใช้ปืนลูกซองหันไปยิงใส่ซัสเพ็นด์ที่เฝ้าทางออกอย่างต่อเนื่องหลายนัดจนมันชักดิ้นกระแด่วอยู่บนเพดานอย่างทรมาน
"ตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
โนบิตะยังคงกราดยิงกระสุนที่ตนเองมีอยู่ทั้งหมดใส่พวกศัตรูแถวนั้นอย่างบ้าคลั่ง พวกลิคเกอร์สมองแตกกระจาย ไส้ทะลักไปทีละตัว รวมถึงซัสเพ็นด์ที่เลือดพุ่งทะลักออกมาไม่ขาดสาย จนในที่สุดโนบิตะก็ใช้ปืนลูกซองยิงใส่ลิ้นของมันจนขาด
ซัสเพ็นด์ที่เสียอาวุธที่อันตรายที่สุดอย่างลิ้นไปพยายามที่จะหนีโนบิตะกลับเข้าไปทางท่อระบายที่มันออกมา เพราะรู้ดีว่ามนุษย์ที่มันยุ่งด้วยอันตรายเกินไปแล้ว
"หนีไม่พ้นหรอก!!!!"
แต่ยังไม่ทันที่จะได้หนี โนบิตะก็ได้กระโดดจับเส้นผมสีดำของมันที่อยู่ในช่องระบายอากาศพร้อมกับใช้แรงมหาศาลของตนกระชากมันลงมาทั้งตัวจนเส้นผมหลุด
เหมือนกับภาพใน Cover ที่มันหัวโล้นไปแถบ |
ท้ายที่สุดโนบิตะจึงตัดสินใจหยิบปืนพกที่แรงที่สุดของเขาขึ้นมาจ่อศีรษะมันพร้อมกับพูดว่า...
นั่นคือจุดจบของซัสเพ็นด์หัวหน้าของลิคเกอร์ที่อยู่ในโรงแรมทั้งหมด....
คลิปประกอบตอนต่อสู้กับซัสเพ็นด์และฝูงลิคเกอร์
คลิปตอนต่อสู้โนบิตะกับซัสเพ็นด์ (โดยคุณ Holina Sylph)
"อุ๊บ!!"
โนบิตะรู้สึกมึนหัวเล็กน้อยก่อนที่จะรู้สึกกลับมาเป็นปกติพร้อมกับดวงตาที่กลับเป็นสภาพเช่นเดิม ในตอนนั้นเองโนบิตะได้ยินเสียงตึงตังบางอย่างมาจากทางประตูทางเข้า-ออกของโรงแรม
โครม!!!
ประตูทางด้านหน้าของโรงแรมได้ถูกพังออกมา โดยคนในชุดเครื่องแบบตำรวจดับเพลิงที่ถือขวานอยู่
"ระ เรารอดแล้ว!"
เจ้าหน้าที่คนนั้นมองมาทางโนบิตะพร้อมกับตะโกนบอกให้เขาวิ่งออกมาจากโรงแรมเร็วเข้า!!
โนบิตะจึงรีบวิ่งออกจากโรงแรมตามที่เจ้าหน้าที่คนนั้นบอกทันที
ในที่สุดเขาก็ได้กลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง...ท้องฟ้าตอนนี้ก็มืดสนิทกลายเป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว ตอนที่โนบิตะเดินออกมานั้นเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงเป็นจำนวนมากด้วย
"เด็กงั้นเหรอ...? เธอ...เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?"
ตำรวจคนนั้น ถามอาการของโนบิตะซึ่งดูท่าทางสะบักสะบอมมาจากการต่อสู้เมื่อสักครู่
"มะ ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่บาดเจ็บนิดหน่อย"
เมื่อเห็นว่าโนบิตะไม่เป็นอะไร ตำรวจคนนั้นจึงถามต่อ..
"เธอน่ะ ใช่เด็กที่ติดต่อมาทางวิทยุของนิชิชิม่าใช่หรือเปล่า? แล้วนิชิชิม่าเป็นยังไงบ้างล่ะ..เธอเห็นเขาไหม..."
ตำรวจดับเพลิงเอ่ยถามโนบิตะเรื่องนั้น..ซึ่งดูเหมือนว่าความจริงแล้ว ตอนที่โนบิตะพูดตอบวิทยุของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงตอนก่อนเข้ามาในโรงแรมใน part1 นั้น อีกฝั่งก็ได้ยินเสียงของเขาด้วย เพียงแต่ตอบกลับมาไม่ได้เท่านั้นเอง..
"ความจริงแล้ว..."
โนบิตะจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง....
"ยังงั้นเหรอ..? .... พวกหมอนั่น...."
ดูเหมือนว่า ตำรวจดับเพลิงคนนั้นจะรู้สึกเสียใจกับการตายของพวกนิชิชิม่าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานคนสำคัญของเขาไม่น้อย แต่โนบิตะก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
โนบิตะสังเกตมองดูบริเวณรอบข้างก็พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดับเพลิงจำนวนมาก กำลังปฏิบัติหน้าที่กันอย่างฉุดละหุก
พวกเขาพยายามใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำดับไฟในโรงแรมที่โนบิตะพึ่งจะหนีออกมา...
แต่ดูเหมือนว่า การทำงานของพวกเขาจะไม่ทันการแล้ว เนื่องจากตอนนี้มีพื้นที่และอาคารจำนวนมากที่เกิดไฟไหม้ลุกท่วมไปทั่วเมืองเช่นกัน...
ชะตากรรมของพวกโนบิตะในเมืองที่เต็มไปด้วยหายนะแห่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป....
จบ Chapter 4
=======================================================================
ตัดไปยังสถานที่แห่งหนึ่งภายในตัวเมือง ณ สถาบันวิจัยลับชั้นใต้ดินส่วนตัวของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง.... เขาเป็นชายวัยกลางคน สวมแว่นตา ซึ่งคนๆนั้นคือหนึ่งในอาจารย์ของมหาวิทยาลัยประจำเมืองซึ่งมีชื่อว่า "ศาสตราจารย์ อาราทานิ (新谷教授 - Aratani Kyouju)"
ใน RE คือ ศาสตราจารย์ เกร็ก มูลเลอร์ (Greg Mueller)
"เจ้าพวกคนในองค์กรนั่นคิดแต่จะเน้นปริมาณแต่ไร้คุณภาพสิ้นดีเลย" ศาสตราจารย์คนนั้นพูดบ่นไปขณะกำลังคีย์ข้อมูลบางอย่างลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ดูท่าทางเขาไม่พอใจอย่างมากกับองค์กรที่เขาเป็นอยู่ ซึ่งก็คือ อัมเบรล่าคอเปอเรชั่น
"กะอีแค่จัดการเจ้าพวกเด็กที่รู้ความลับนั่นถึงกับเน้นสั่งให้ผลิตอาวุธชีวภาพจำนวนมากไล่ตามพวกมัน โดยไม่เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้งานนี่มัน...งี่เง่าสิ้นดี!"
สิ่งที่ศาสตราจารย์คนนั้นพูดถึงก็คือกลุ่มพวกโนบิตะนั่นเอง ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นหนึงในผู้ที่รับหน้าที่ตามจัดการเก็บกวาดพวกที่ล่วงรู้ความลับและเป็นภัยต่อองค์กรด้วย ซึ่งเขาไม่พอใจในนโยบายขององค์กรเท่าไหร่ที่สั่งให้มีการจัดการพวกโนบิตะโดยการทุ่มทุนสร้างอาวุธชีวภาพที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ... อย่างพวกฮันเตอร์ หรือไทแรนท์รุ่นกระจอกๆที่ถูกเด็กพวกนั้นจัดการเละเทะไม่เหลือชิ้นดี
เขาเดินไปยังแคปซูลขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเก็บร่างของสิ่งมีชีวิตบางอย่างไว้ข้างใน มันคือผลงานที่เขาใช้เวลากับมันมากในตอนนี้
"เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผลงานชิ้นเอกของฉัน"
ศาสตราจารย์อาราทานิดูท่าจะพอใจกับผลงานที่เขาบรรจงทำขึ้นมามากที่สุด...
สิ่งที่อยู่ในนั้นคือสุดยอดอาวุธชีวภาพที่เขากล่าวถึง...สิ่งที่จะนำไปใช้จัดการเจ้าเด็กพวกนั้น...
ไทแรนท์ที่แข็งแกร่งที่สุด....
ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว....
นามของมันคือ....
ทานาทอส (Thanatos)
===================================
ขอต้อนรับเข้าสู่มหากาพย์สุดท้ายของ Season 3
ในบทความหน้า...>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Final Chapter - part 1
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น