พวกโนบิตะถูกใครบางคนลอบโจมตีเข้ามาในขณะที่กำลังปักหลักอยู่ในบ้านเก่าของโนบิตะ ....
ผู้ที่ลอบโจมตีโนบิตะนั้นอยู่บนตึกที่อยู่ห่างจากบ้านโนบิตะ เธอเป็นหญิงสาวผมสั้นสีชมพู นัยน์ตาสีแดง สวมชุดทหาร มีนามว่า "ซาช่า (Sasha)"
ภาพร่างซาช่า โดยคุณ diodio ผู้วาดต้นฉบับโดจิน Doraemon : Nobita no Biohazard |
เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของอัมเบรล่าในหน่วยกองกำลังรักษาความมั่นคงของอัมเบรลล่า หรือที่เรียกว่า U.S.S. [Umbrella Security Sercive] ซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษของอัมเบรล่าที่ถูกฝึกมาในภารกิจเฉพาะเจาะจงในเรื่องของการเก็บข้อมูลและการลอบสังหารเป็นหลัก (แตกต่างจากหน่วย U.B.C.S ที่เป็นหน่วยปฏิบัติการกวาดล้างและช่วยเหลือซึ่งมีขอบเขตงานกว้างกว่า)
เธอได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเก็บข้อมูลภายในเมืองของโนบิตะและลอบสังหารพวกโนบิตะที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของอัมเบรล่ามาโดยเฉพาะ.... จึงได้ทำการใช้ปืนไรเฟิลซุ่มยิงพวกโนบิตะที่กำลังอยู่ในบ้านของเขาจากระยะไกล
พวกโนบิตะจะสามารถจัดการรับมือกับมือสังหารสาวน้อยผู้น่ารักคนนี้ได้หรือไม่
โปรดติดตามในบทความนี้ได้เลย...
บทที่ 8
มือสังหารจากอัมเบรล่า
ตัดกลับมาที่ในบ้านของโนบิตะ ภายในห้องนั่งเล่น โนบิตะกับเดคิสุงิหลบกันที่ผนังคนละมุม ส่วนโดราเอม่อนก็ได้เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับพวกเพื่อนๆที่เหลือฟัง พวกเขาจึงหาที่หลบอยู่หลังกำแพงทั้งหมด
ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!!
กระสุนจำนวนหลายนัดเริ่มยิงเจาะเข้ามาบริเวณกำแพงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่โดนพวกเขา
"เจ้านั่น...ยังยิงมาทางนี้ไม่หยุดเลยแฮะ"
"นั่นสินะ...ทั้งๆที่ฉันถูกยิงโดนแค่เฉียดแท้ๆ แต่ก็ยังยิงไม่หยุดเลยแฮะ
ท่าทางเจ้านั่นกะจะฆ่าพวกเราจริงๆซะด้วยสิ"
"แล้ว..เดคิสุงิคุงพอจะรู้รึยังว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงไหน?"
"ก็พอเดาได้แล้วล่ะ...คิดว่าน่าจะอยู่แถวๆอพาร์ทเมนต์ที่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก"
"เดคิสุงิคุงสุดยอดเลย..รู้ตำแหน่งของเจ้านั่นด้วย"
"พอลองส่องผ่านกระจกออกไปดูข้างนอกก็เห็นแสงอะไรสักอย่างกะพริบอยู่น่ะ
รีบเข้าไปให้ถึงตัวก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวเถอะ!!"
"อืม
แต่ว่า พวกเราจะออกจากที่นี่ได้ยังไงล่ะ?
ขืนเดินโท่งๆออกไปมีหวังโดนยิงแน่"
เดคิสุงิก็บอกกับโนบิตะว่า เขาพอจะใช้ผ้าม่านสีอ่อนที่อยู่ในบ้านหลังนี้พรางตัวไปตามกำแพงและผนังออกไปได้ แถมบริเวณรอบข้างก็มีหมอกในระดับหนึ่งทำให้อีกฝ่ายมองเห็นสีได้ยาก
ทุกคนต่างก็ยอมรับไอเดียของเดคิสุงิทั้งหมดและเริ่มดำเนินการรวบรวมผ้าม่านที่เขาต้องการมาในทันที...
ตัดกลับไปที่ซาช่าอีกครั้ง
เธอกำลังหงุดหงิดเป็นอย่างมากจึงได้พูดกับตัวเองออกมาเป็นภาษาต่างประเทศ
..ทั้งที่มีเหยื่อชั้นดีอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ!"
ปัง!!!!
เธอเหลือบเห็นหัวของพวกโนบิตะกำลังเคลื่อนไหวเลยยิงออกไปอีกหนึ่งนัด
แต่ปรากฏว่าไม่เกิดอะไรขึ้นเลย...เธอยิงพลาด
หลังลั่นไก เธอจึงหยิบกระสุนปืนไรเฟิลบรรจุเข้าไปใหม่พร้อมกับเล็งไปยังบ้านของพวกโนบิตะอีกครั้งแต่เธอก็ไม่เห็นวี่แววการเคลื่อนไหวใดๆในบ้านนั้นอีก...
"อ๊ะ!! คลาดสายตาไปแล้วเหรอ..."
เธอจ้องมองอยู่นานแต่แล้วจึงได้เอาปืนวางลงพร้อมกับสบถออกมา
"ชิ!! หนีไปจนได้งั้นเหรอ"
เธอจึงลดปืนลงพร้อมกับเดินหันหน้ากลับเข้าไปในห้อง...พร้อมกับถอนหายใจออกมา
มันคงไม่มีประโยชน์ต่อไปแล้วที่จะส่องแบบนี้ต่อไป...เธอหันไปดูกองเอกสารบนโต๊ะด้วยสีหน้าเฉยชา
จากนั้นสีหน้าของเธอดูเครียดและมีเหงื่อผุดขึ้นมา
"อยู่ญี่ปุ่นนี่ร้อนตับจะแตก
อยากกลับยุโรปเร็วๆชะมัด~"
ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!!
และในตอนนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงปืนจากข้างล่างดังลั่นขึ้นมานับไม่ถ้วน!!!
"จะ เจ้าพวกนั้น!!! คิดจะมาที่นี่ยังงั้นเหรอ....!?"
ซาช่าจึงได้ยกกระบอกปืนขึ้นมาประทับขึ้นพร้อมกับส่องเล็งอีกครั้ง
"พวกแกคิดผิดแล้วล่ะ....!!!"
ตัดกลับไปทางฝั่งพวกโนบิตะที่มายืนอยู่บนถนนด้านหน้าของอพาร์ทเม้นที่ซาช่าอยู่ ในระหว่างทางพวกเขาได้เผชิญหน้ากับฝูงฮันเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นทำให้ตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขาถูกเปิดเผยมาให้ซาช่าเห็นโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.... แถมบริเวณรอบข้างนี้ก็ไม่สามารถใช้ผ้าม่านพรางตัวได้อีกแล้ว...
ซาช่าเริ่มยิงกระสุนใส่พวกโนบิตะอีกครั้งแต่โชคดีที่พวกโนบิตะวิ่งมาถึงแนวกั้นรถที่อยู่ด้านหน้าอพาร์ทเม้นต์ก่อน พวกเขาจึงอาศัยแนวกั้นรถเป็นที่กำบังได้
"บ้าจริง คำนวณพลาดไปอย่างงั้นเหรอ..?
อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วแท้ๆ...."
เดคิสุงิรู้สึกเจ็บใจไม่น้อยที่แผนของเขาที่จะเข้าประชิดถึงตัวมือสังหารกลับต้องมาพังเพราะว่าดันมาเจอพวกฮันเตอร์ดักซุ่มโจมตีเข้ากลางทางเสียก่อน..แถมตอนนี้ก็ไม่มีทางหนีอีกแล้ว อุปกรณ์ช่วยเหลือก็ไม่มี
"โถ่เว้ย! นั่นเป็นเพราะว่าเสียงปืนแน่ๆ เจ้านั่นถึงหันมาโจมตีพวกเราอีกแล้ว
ถ้าไม่ยิงปืนออกไปซะก็ดีหรอก"
ซูเนโอะพูดบ่นออกมาขณะที่เขากำลังก้มตัวหลบกระสุนอยู่ข้างรถ
"ไม่ยิงงั้นเหรอ? ถ้าแกไม่ยิงปืนออกไปเมื่อกี้ แกคงกลายเป็นอาหารของพวกฮันเตอร์ไปแล้ว!!"
"อะ..ไอ้แบบนั้นก็ไม่เอานะ!!"
"หยุดพูดถึงเรื่องนั้นได้แล้วทั้งสองคน!!"
เดคิสุงิบอกเตือนพวกไจแอนท์..ปัญหาในตอนนั้นก็แล้วไป สิ่งสำคัญคือปัญหาที่พวกเขาเผชิญอยู่ตรงนี้ต่างหาก
เดคิสุงิจึงได้เสนอแผนขึ้นมาว่า..จากตรงนี้ปืนไรเฟิลที่เขาพกมาน่าจะมีระยะที่เล็งยิงไปถึงคนทีซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แล้ว แต่ปัญหาคือ..ต้องมีใครสักคนเป็นเหยื่อวิ่งล่อดึงความสนใจของมือสังหารคนนั้นก่อน...และคนที่ว่านั้นต้องมีความคล่องตัวและหลบเก่งด้วย เพื่อเพิ่มเวลาและโอกาสให้คนที่ใช้ปืนไรเฟิลเล็งยิงคนข้างบนได้
"ซูเนโอะ...แกนั่นแหละไปซะ.."
ไจแอนท์เล็งเห็นแล้วว่าคนที่เหมาะกับตำแหน่งนี้มากที่สุดน่าจะเป็นซูเนโอะที่ตัวเล็กกว่าเขาเพื่อน น่าจะหลบกระสุนได้ดีที่สุด
ซูเนโอะได้ยินเช่นนั้นถึงกับทำหน้าถอดสี
"ไม่เอา!!! ฉันไม่เอาเด็ดขาด!!! ไจแอนท์ นายกล้านักนายก็ไปเองซะสิ!!"
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยงกันนั้น เซย์นะก็เสนอตัวเองขึ้นมา..
".....หะ..ให้ฉันออกไปเองดีไหมคะ?"
เดคิสุงิก็พูดขึ้นมาว่าเซย์นะไปไม่ได้หรอก เพราะเธอยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนไจแอนท์ก็คงไม่ไหว เพราะตัวใหญ่เกินไปตกเป็นเป้าเล็งได้ง่าย...โดราเอม่อนขาสั้นก็เคลื่อนไหวได้ช้าคงจะโดนยิงสอยซะก่อน (แต่เดคิสุงิไม่พูดคำนี้เสียงดังเพราะโดราเอม่อนอาจจะได้ยินและโมโหเอา) ดังนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นตัวเขาเอง แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด...
"ให้ฉันไปเองเถอะ..."
"โนบิตะ(คุง)!!!!!?"
ทุกคนในกลุ่มถึงกับอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจในการตัดสินใจของโนบิตะ
นอกจากนั้นเขายังเล่าให้ฟังอีกว่า เขาเคยมีประสบการณ์ในการวิ่งหลบกระสุนมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ดังนั้นครั้งนี้ไม่น่าจะต่างกันมาก
"วะ วิ่งหลบกระสุนที่ว่าเนี่ย!? ก่อนเข้าสถานีตำรวจเมือง R ที่เคยเล่าให้ฟังตอนนั้นน่ะเหรอ?"
เซย์นะยังคงจำเรื่องราวที่โนบิตะเคยเล่าให้เธอฟังตอนที่อยู่ในเมือง R ได้ ตอนที่เขาวิ่งหลบกระสุนจากพวกตำรวจสติแตกที่ไล่ยิงคนมั่วก่อนเข้าสถานีตำรวจเมือง R ในบทความนี้
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3]
โนบิตะได้ยืนยันอย่างแน่วแน่อีกครั้งจนในที่สุดทุกคนก็เห็นพ้องต้องตาม
"ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้...ฉันจะรีบจัดการเจ้านั่นให้เร็วที่สุด
ระหว่างนั้น...ระวังตัวด้วยล่ะโนบิตะคุง"
เดคิสุงิอาสาเป็นมือปืนจัดการคนที่อยู่ข้างบนให้เอง..เขาจึงรับปืนไรเฟิลมาจากซูเนโอะ ในระหว่างที่โนบิตะกำลังเตรียมใจอยู่นั้นไจแอนท์ก็ยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้เขา
"นายเนี่ยเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ
โชคดีล่ะ...โนบิตะ"
"ขอบใจมากนะ ไจแอนท์ แล้วก็ทุกคนด้วย..."
หลังจากนั้นทุกคนจึงเตรียมเบิกทางให้โนบิตะและมีเดคิสุงิคอยให้สัญญาณการออกตัว...โนบิตะเองก็รู้สึกกังวลในใจไม่ค่อยน้อย
(ถึงจะเคยทำมาแล้วก็เถอะ แต่ยังไงก็อันตรายอยู่ดี)
เหตุการณ์ในครั้งนี้มันผิดกับเมื่อ 2 ปีก่อนมาก เพราะในตอนนั้นคนที่ยิงเป็นเพียงนายตำรวจที่สติไม่ดีคนนึงที่ยิงปืนออกมามั่วๆ แต่ในคราวนี้เป็นถึงมือสังหารที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนและถูกส่งมาฆ่าพวกเขาโดยเฉพาะ
โนบิตะเริ่มรู้สึกใจเต้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่เนื่องด้วยหน้าที่...เขาจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้ได้ ไม่ว่าจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม
(หม่าม้า ป่าป๊า พระเจ้า!! ได้โปรด!! ช่วยผมด้วย!!!)
เดคิสุงิจับปลายปืนโผล่ขึ้นมาพร้อมกับเบี่ยงไปเล็กน้อยเพื่อหลบวิถีกระสุนหลอกล่อมือสังหารให้ยิง..ออกมา เพราะทันทีที่กระสุนถูกยิงออกมา นั่นคือสัญญาณให้โนบิตะออกตัวได้!!
ปัง!!
"ไปได้!!!!"
ถ้าเป็นในเกมส์จะมีการเลือกระดับในการเล่นมินิเกมส์แบบนี้คือ ง่าย(บน)กับยาก(ล่าง) จนที่แตกต่างกันคือ...ระดับง่ายจะมีสัญญาณเตือนทุกครั้งที่กระสุนกำลังจะพุ่งมา แต่ถ้าเป็นยากจะไม่มีสัญญาณเตือนเลยแม้แต่น้อย
และแน่นอนว่าถ้าถูกยิงแม้แต่นัดเดียวคือตาย เกมส์โอเวอร์ทันที
โนบิตะรีบออกสตาร์ทวิ่งไปยังรถที่อยู่บริเวณใกล้ที่สุดทันที...
ซึ่งแน่นอนว่าซาช่าสังเกตเห็นโนบิตะจึงได้เล็งปืนตามเขาไป
(จะ เจ้านั่น.....)
ปัง!!!
กระสุนพุ่งเข้าไปใส่รถที่โนบิตะหลบซ่อนไว้ได้อย่างทันพอดี...
"เอาล่ะ...ถ้าจะไปต่อก็คงต้องเป็นตัวล่อ..."
โนบิตะตัดสินใจหยิบก้อนหินแถวนั้นขึ้นมา 1 ก้อนเพื่อเหวี่ยงออกไปเป็นเป้าหลอก เหมือนกับที่เคยใช้ได้ผลเมื่อคราวนั้น
แต่ปรากฏว่า...ก้อนหินนั้นกลับไม่ถูกยิง...ราวกับว่ามือสังหารคนนั้นรู้ดีว่ามันเป็นเป้าหลอก
(คิดจะใช้เป้าหลอกอย่างงั้นเหรอ...
เจ้าพวกโง่เอ้ย...ฉันรู้หรอกน่าว่า..คนที่จะยิงฉันน่ะ...)
เดคิสุงิเงยหัวขึ้นมาเล็งปืนไรเฟิลหาตำแหน่งมือสังหารอย่างรวดเร็ว แต่ว่า...เขาต้องรีบก้มหมอบลงเมื่อรู้สึกถึงกระสุนที่พุ่งเข้ามาอย่างเร็วไปทางเขา
(เจ้าเด็กเสื้อฟ้าที่ถือไรเฟิลข้างหลังนั่นต่างหาก...แล้วก็นะ
ไอ้การวิ่งเป็นตัวล่อแบบนี้น่ะ..เข้าทางฉันพอดี....)
"บ้าจริง.... ต้องรีบไปให้เร็วกว่านี้...ไม่งั้นคงจะถ่วงเวลาให้เดคิสุงิไม่ได้"
โนบิตะจึงตัดสินใจวิ่งไปยังจุดหลบซ่อนที่อยู่ด้านหน้าโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งที่เขาคิดผิดคือ...
ปัง!!!
"อั่กกกกก"
โนบิตะถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาอย่างจัง!! เขาคำนวณเรื่องการกะช่วงระยะเวลาของกระสุนผิดไป.... มือสังหารคนนี้จู่ๆก็เร่งความเร็วในการบรรจุกระสุนมากขึ้นจนยิงถูกโนบิตะก่อนที่เขาจะหลบไปอยู่หลังรถได้สำเร็จ.... ร่างของโนบิตะล้มลงไปกลางถนน...พร้อมด้วยเลือดที่สาดกระจาย...
(ความเร็วในการบรรจุกระสุนที่ฉันยิงใส่พวกแกตอนแรก
มันไม่ใช่ความเร็วมาตราฐานของฉันหรอกนะ)
ด้วยการที่เธอเร่งการบรรจุกระสุนพร้อมกับเล็งยิงให้เร็วขึ้น ทำให้กระสุนพุ่งคลาดเคลื่อนไปจากจุดตายของโนบิตะ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เธอคาดการณ์ไว้ เพราะถึงแม้จะยิงไม่ถูกจุดตาย แต่ก็ถูกจุดที่แรงมากพอที่ทำให้เขาล้มชะงักจนไม่สามารถวิ่งหลบได้อีก....
"แย่แล้ว..ต้องรีบหลบ....."
โนบิตะพยายามจะขยับเขยื้อนตัวเองคลานเข้าไปใต้รถกำบังให้ได้ แต่มันช้าเกินไป...บัดนี้เป้าเล็งของซาช่าได้เล็งมายังศีรษะของโนบิตะเรียบร้อย...
(บ๊ายบาย.....)
ในตอนที่ซาช่ากำลังเหนี่ยวไก...เธอได้สังเกตเห็นบางอย่างที่ประหลาดผ่าน
ลำกล้องเล็งนั้น...!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ปัง!!!!
ซาช่าถึงกับตกใจเมื่อพบว่า...กระสุนปืนที่ควรจะพุ่งทะลุหน้าผากโนบิตะ...กลับตกไปฝันอยู่บนถนนแทน ส่วนร่างของโนบิตะก็หายไปอย่างรวดเร็ว...
เธอจึงรีบถอนสายตาออกห่างจากลำกล้องปืนไรเฟิลที่เธอเล็งอยู่พร้อมกับถอยห่างออกมาจากหน้าต่าง..มือไม้ของเธอเหงื่อออกและสั่นเกร็งไปหมดราวกับถูกสะกดจิตด้วยอะไรบางอย่าง...ที่รุนแรง...
"มะ...เมื่อกี้นี้........"
ตัดกลับมาทางด้านโนบิตะซึ่งตอนนี้ได้มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นจุดหลบซ่อนของมือสังหาร เขารู้สึกแปลกใจมากที่จู่ๆ มือสังหารก็หายไปจากหน้าต่างเฉยๆ หลังจากที่เมื่อสักครู่เขายังเห็นเงาของคนๆนั้นอยู่เลยแท้ๆ
"....ยะ หยุดยิงแล้วเหรอ?"
ในช่วงนั้นเขาจึงใช้สเปรย์ปฐมพยาบาลที่พกมาฉีดรักษาบาดแผลที่ตัวเขา พร้อมกับใช้ปืนพกเล็งไปตามหน้าต่างบานต่างๆบนอพาร์ทเม้นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมือสังหารที่อาจโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน
"แปลกชะมัดเลยแฮะ จู่ๆก็หยุดยิง"
ในตอนนั้น โนบิตะจึงโบกมือให้สัญญาณเพื่อนๆว่า ตอนนี้ไม่มีวี่แววของมือสังหารแล้ว ให้เดินผ่านมาทางนี้ได้เลย
ตัดกลับไปทางชั้นบนสุดของอพาร์ทเม้นต์ที่ซึ่งมือสังหารสาวน้อยหัวชมพูซาช่ายืนอยู่ เธอยังคงสั่นและรู้สึกสับสนกับความรู้สึกแปลกๆนี้ไม่หยุด
"อะ...เจ้าเด็กนั่น..มันเป็นตัวอะไรกันแน่น่ะ!!"
เธอพยายามสงบจิตสงบใจของตัวเองให้เข้าที่เรียบร้อยพร้อมกับทำสมาธิอยู่ชั่วครู่..จนในที่สุดเธอก็ตั้งสติได้... เธอจึงเดินหันหลังผละจากทางหน้าต่างเข้ามาในตึก....พร้อมกับประเมินสถานการณ์ต่างๆ
เธอรีบเปลี่ยนแผนใหม่ เพราะตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ที่จะเล็งยิงเด็กพวกนั้นจากระยะไกลต่อ เพราะมีบางคนสามารถเดินเข้ามาถึงหน้าทางเข้าของที่นี่แล้ว...แถมพวกนั้นก็คงรู้ตำแหน่งของเธอแล้วด้วย
"ถ้าเจ้าพวกนั้นคิดจะมาที่นี่ล่ะก็..."
เธอเดินออกไปจากห้องที่เธอซุ่มยิงอยู่พร้อมกับหยิบกล่องบางอย่างออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก...
"ไม่อยากเชื่อเลยว่า เด็กพวกนั้นทำให้ฉันต้องงัด
'ความสามารถพิเศษ' ของฉันออกมาใช้จนได้...."
ตัดภาพกลับไปอพาร์ทเมนต์ด้านล่างชั้น 1 ที่ซาช่าอยู่ บัดนี้โนบิตะและพวกพ้องได้บุกเข้ามาในตัวอาคารแล้ว....
เดคิสุงิเองก็ยังรู้สึกแปลกๆ ที่จู่ๆ มือสังหารคนนั้นก็ทิ้งตำแหน่งของตนไปเฉยหลังจากที่เขากำลังจะเล็งจัดการได้
"คนๆนั้นอาจจะยังอยู่ในตึกนี้ก็ได้นะ"
"ถ้าอยู่ในตึกนี้จริงล่ะก็คงจะหนีไปไหนไม่ได้แล้วสินะ?"
แต่ซูเนโอะก็ยังมองว่าถึงมือสังหารคนนั้นจะไม่สามารถหนีออกไปจากตึกนี้ได้ ก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี และเขาก็รู้สึกกลัวนิดหน่อยที่จะต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารคนนั้น
"เอาล่ะ ฟังฉันให้ดีนะ ทุกคน...."
เดคิสุงิจึงเริมอธิบายแผนการของเขาให้ฟัง เขาบอกว่าจะแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่ม
- พวกทาเคชิคุง (ไจแอนท์กับซูเนโอะ) ให้ไปเฝ้าทางออกบันไดหนีไฟฉุกเฉินข้างตึกเอาไว้ (เผื่อว่ามือสังหารจะอาศัยเส้นทางนั้นหลบหนี)
- ส่วนโดราเอม่อนกับคุณเซย์นะให้เฝ้าประตูทางเข้าด้านหน้าเอาไว้
- ส่วนเขากับโนบิตะ...
"ฉันกับเดคิสุงิจะไล่สำรวจภายในอาคารนี้เอง...."
"อืม...ตามนั้นแหละ...."
"แล้วก็จำไว้นะทุกคน!! ไม่ว่าจะเกิดเรื่องหรือเสียงอะไรขึ้น ขอให้รักษาตำแหน่งของตัวเองไว้
แล้วก็อย่าให้เจ้านั่นหนีไปได้เด็ดขาด!! ระังตัวด้วยล่ะ ทุกคน..."
"ไว้ใจพวกฉันได้เลย!! ทั้ง 2 คน (โนบิตะ + เดคิสุงิ) ก็ระวังตัวด้วยนะ"
"ถ้างั้น ปะ ไปกันเถอะ..."
แล้วไจแอนท์กับซูเนโอะก็เดินออกไปด้านข้างตึก เฝ้าตรงทางออกบริเวณบันไดฉุกเฉิน
"ยังไงก็แล้วแต่ เจ้านั่นก็มีอาวุธอยู่ด้วย ระวังตัวด้วยนะทั้ง 2 คน"
"เรื่องทางเข้าไว้ใจพวกเราได้เลย แล้วก็ระวังตัวด้วยนะคะ"
ส่วนโดราเอม่อนกับเซย์นะก็เดินออกไปเฝ้าบริเวณทางเข้าด้านหน้าตึก...
เดคิสุงิจึงหยิบอาวุธออกมาพร้อมกับบรรจุกระสุนให้เรียบร้อย
"ถ้างั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ โนบิตะคุง"
ทางด้านโนบิตะก็หยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมพร้อมไว้แล้วเช่นกัน
"ถ้างั้นก็มาเริ่มไล่ล่าเจ้านั่นกันเถอะ...."
เพล้ง!!
!!!!!!!!!!!!!!
แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินสำรวจขึ้นไปตามอาคาร...ก็มีฮันเตอร์เบต้าตัวหนึ่งกระโดดพังหน้าต่างเข้ามาเสียก่อน....
เดคิสุงิจึงรีบยกปืนขึ้นมาในช่วงที่ฮันเตอร์กำลังสิ่งเข้ามาเล่นงานเขาเป็นเป้าหมายแรก
"ให้ตายสิ....ในเวลาแบบนี้ยังจะโผล่มา..."
ฮันเตอร์เบต้ากำลังวิ่งเข้ามาทางเดคิสุงิด้วยความเร็วสูง และในตอนนั้นเอง... ดวงตาของเดคิสุงิก็กลายเป็นสีแดงและสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
!!!!!!
บางสิ่งที่คั่นอยู่กลางระหว่างเขากับฮันเตอร์ตัวนั้น บางสิ่งที่บางมากจนมองแทบไม่เห็น มันเหมือนกับเส้นด้ายบางอย่าง....
ฮันเตอเบต้าพุ่งเข้ามาอย่างเร็วจนกระทั่ง...สัมผัสเส้นนั้น...
พร้อมกับมีเสียง กริ๊ก.......!!!
เดคิสุงิรีบตะโกนเสียงดัง!!!
"โนบิตะหมอบลง!!!!!"
!!!!!!!
เดคิสุงิกับโนบิตะหมอบลงตามสัญชาตญาณอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นก็เกิดแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นที่ข้างผนังที่ฮันเตอร์เบต้าตัวนั้นอยู่
ตูมมมมม!!!
ฮันเตอร์เบต้าถูกแรงระเบิดฉีกร่างกระจัดกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย....ต่อหน้าต่อตาพวกเดคิสุงิ
"มะ มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?"
"โนบิตะคุง....เมื่อกี้นายมองไม่เห็นงั้นเหรอ....?"
"เห็นสิ...ฮันเตอร์สีแดงตัวนั้นจู่ๆก็ระเบิดจนร่างเละ..."
"ไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย!! เมื่อกี้นายไม่เห็น 'กับระเบิด' อย่างงั้นเหรอ?"
"เอ๋ ถ้ามีของแบบนั้นติดอยู่....? คะ ใครกันที่ทำแบบนั้น?"
"ฉันรู้สึกได้ว่าเจ้ากับระเบิดนี่คงจะไม่ได้ถูกติดตั้งที่เดียวด้วยสิ...
ที่เลวร้ายที่สุดมันคงจะติดตั้งทั่วตึกนี้แน่ๆ ร้ายกาจจริง...เจ้าบ้านั่น!!!"
"ฉันคือผู้เชี่ยวชาญการวาง 'กับระเบิด' เป็นอันดับหนึ่งของอัมเบรล่าเชียวนะ.."
"แน่จริงจับฉันให้ได้สิ....เจ้าพวกเด็กน้อยทั้งหลาย!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป... >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 9]
คลิปประกอบเนื้อเรื่อง
เนตรวงแหวน
ตอบลบอาจจะใช้ก็ได้นะ.... (ตามหนังภาพยนตร์ RE ภาค 2)
ลบตะ..ตกใจงะT[]T หน้าซาช่าตอนสุดท้ายน่ากลัววว>_<
ตอบลบแล้วใครกันนะ...ทำซาช่าผู้น่ากลัวซึนแตกได้
พี่สาวรู้แล้วใช่ไหมค่ะ??·_·
คนเขียนดูคลิปมาหมดแล้วล่ะจ้ะ =w= แต่จะมีเวลามาเขียนบอกไหมนี่ อีกเรื่องนึง
ลบหน้าชาช่าดูจิตขึ้นทุกรอบที่อ่าน =='' (ช่วงนี้ฟินคู่เดคิสุงิกับโนบิตะมากมาย >///<)
ตอบลบอ่าฮะๆๆๆๆๆๆๆ
ลบ