" />

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Update โดจินมังกะของคุณ diodio ที่มาหลังบทความแปล [ภาค 2 ตอนที่ 4]

หลังจากที่คุณ diodio อัพเดทต้นฉบับมังกะ Doraemon : Nobita no Biohazard ตอนล่าสุด (ภาค 2 ตอนที่ 3) ในเดือนพฤษภาคมไปใน >> Update โดจินมังกะของคุณ diodio ที่มาหลังบทความแปล [ภาค 2 ตอนที่ 3] แล้ว 

อีก 5 เดือนให้หลัง (วันที่ 22 เดือนตุลาคม 2556) คุณ diodio ก็ได้อัพเดทต้นฉบับมังกะอีกครั้ง (ภาค 2 ตอนที่ 4) ซึ่งเนื้อหานั้นค่อนข้างตรงกับบทความเนื้อเรื่องเกมส์ที่เราเคยเขียนไว้ใน โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]



เนื้อเรื่องมังกะตอนที่ 4 ของภาค 2 เปิดตัวด้วยเหตุการณ์ที่โนบิตะกำลังเดินทางกลับออกมาจากสถานีตำรวจ (ที่มีไฟลุกท่วม) ไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกที่มืดมน



ระหว่างที่เดินในเมือง เขาก็สังเหตเห็นซากศพจำนวนมาก โดยเฉพาะศพของสุนัขซอมบี้เคลเบรอส ทำให้เขานึกไปถึงตอนที่เผชิญหน้ากับอาวุธชีวภาพหมา 3 หัวทินดาลอสที่ทำร้ายเซย์นะ เขายังคงเจ็บใจที่ตนไม่สามารถช่วยเซย์นะไว้ได้


ในตอนนั้น เขาก็ได้นึกถึงคนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุด แต่คนๆนั้นก็ไม่อาจจะอยู่เคียงข้างเขาได้ในเวลานี้..

"โดราเอม่อน ฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี?"


จากนั้นก็เปิดตัวด้วยหน้าปกตอนที่ 4 ในชื่อว่า...

แปลตรงตัว >> บทที่ 4 : ผู้ที่จะตอบคำถามนั้นไม่มีอยู่อีกแล้ว (答える者は誰もいない - kotaeru mono wa Dare mo inai)

[แต่โดยส่วนตัวเราอยากตั้งชื่อตอนใหม่ว่า "ไม่เหลือใครอีกแล้ว" มากกว่า..ซึ่งเดี๋ยวจะเอาไปใส่ Text ในการ์ตูนแทนละกัน]

(หลายคนอาจจะงงว่าสื่ออะไร เดี๋ยวมาลองดูกัน)






ทันทีที่โนบิตะเดินกลับมาถึงโกดังในตรอกเล็กๆประจำเมือง R [ที่เขาใช้ซ่อนตัวในตอนแรก] เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของเด็กผู้หญิงที่เขาเคยเห็นหน้ามาก่อนตอนซ่อนอยู่ในโกดัง มานั่งอยู่ด้านนอกในสภาพเหมือนโดนซอมบี้กัดและตายอนาถตรงนั้น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดูสถานการณ์ในโกดังทันที


และก็ต้องพบว่าเหล่าผู้รอดชีวิตที่เคยอยู่ในโกดังถูกซอมบี้กัดกินตายกันหมด...


โนบิตะกรีดร้องด้วยความตกใจ ที่ตนไม่คิดมาก่อนว่าจะกลายเป็นแบบนี้
ซึ่งเสียงกรีดร้องของโนบิตะนั้นก็ดึงดูดให้ซอมบี้ที่อยู่ในโกดังหันมาเล่นงานเขา


แต่สิงห์ปืนไวอย่างโนบิตะก็ไหวตัวทัน จึงรีบคว้าปืนพกคู่กาย (ยังไม่ได้ใช้ปืนพกซามูไรเอดจ์) ยิงกบาลพวกซอมบี้ที่กรูกันเข้ามาจนหมด


เขาสังเกตเห็นประตูด้านในโกดังที่กำลังเปิดอยู่


เขารีบรีโหลดกระสุนใหม่พร้อมกับเดินเข้าไปสำรวจในห้องด้านในเพื่อหวังว่าจะมีคนรอดชีวิตเหลืออยู่ และพบว่ายังมีคนที่ยังมีสติพอพูดคุยกับเขาได้ ก็คือนายตำรวจประจำโกดังที่เป็นคนบอกให้โนบิตะมุ่งหน้าไปขอความช่วยเหลือที่สถานีตำรวจเมือง R ในตอนแรก


นายตำรวจคนนั้นอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บอย่างหนัก... เขาดีใจที่เจอโนบิตะอีกครั้ง เขาได้ฝืนตัวเองเล่าเรื่องถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า หลังจากที่โนบิตะออกไปได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมาขอความช่วยเหลือพาเขาเข้าไปในโกดังหน่อย และ 1 ในกลุ่มนั้นก็มีคนที่บาดเจ็บอย่างหนักมาด้วย

นายตำรวจคนนั้นไม่อาจทอดทิ้งคนที่บาดเจ็บแบบนั้นอยู่ได้จึงยอมให้เข้ามา แล้วก็พบว่านั่นเป็นทางเลือกที่เขาคิดผิด เพราะชายที่บาดเจ็บคนนั้นก็ได้กลายร่างเป็นเหมือน 'พวกมัน' และเริ่มกัดทำร้ายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในโกดังทั้งหมดอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครได้ตั้งตัว ซึ่งนั่นทำให้นายตำรวจรู้ว่า หากได้โดนกัดไปแล้ว ก็คงจะต้องกลายเป็นเหมือนพวกมันแน่ๆ  ซึ่งเขาเองก็โดนกัดไปแล้ว

เขารู้ตัวว่าจะต้องกลายเป็นแบบพวกมันแน่ๆ (พร้อมกับชูบาดแผลที่ถูกกัดที่มือซ้ายให้ดู) ซึ่งเขารับไม่ได้แบบสุด จึงเริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับหาวิธีที่จะไม่ให้ตัวเองกลายเป็นแบบพวกมันได้

โนบิตะ - "คะ คุณน้า..."


ใช่แล้ว...ถ้าหากว่าไม่อยากกลายเป็นพวกมันล่ะก็ มีแต่วิธีนี้เท่านั้นแหละ!!!


ปัง!!!

เมื่อสิ้นเสียงปืน โนบิตะจึงเดินกลับออกมาด้านนอก และเขาก็พบว่า...


เจ้าหมา 3 หัวทินดาลอสกำลังยืนดักรอเขาอยู่ที่หน้าโกดัง.(พลางกินของว่างระหว่างทางไปด้วย)..มันยังคงตามโนบิตะมาอย่างไม่ลดละ


โนบิตะช็อกมากเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องเผชิญหน้ากับมันในสภาพที่อยู่ใกล้ตัวเช่นนี้....
มันจึงปล่อยของเคี้ยวเล่นลงพื้น พร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจมโนบิตะ!!


ในตอนนั้นโนบิตะคิดว่าตัวเองต้องตายแล้วแน่ๆ แต่ปรากฏว่า ก่อนที่ทินดาลอสจะบุกเข้ามาถึงตัว มันก็ถูกยิงด้วยกระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนจากใครบางคน


คนที่มาช่วยโนบิตะเป็นใครนั้นเป็นใครกันแน่..?
โปรดติดตามชมตอนต่อไป..

แต่ถ้าคนที่เคยอ่านบทความเรามาแล้วคงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้ามันเป็นไปตามเกมส์ คนๆนั้นคือ....
ผู้พันฮารุนะ เจ้าหน้าที่หน่วย U.B.C.S. ที่ถูกส่งมาช่วยเหลือชาวเมือง ซึ่งคนในหน่วยนี้ถูกส่งมากว่า 120 คน แต่เหลือไม่ถึง 10 คน

แล้วก็ปิดท้ายด้วยหน้าแถม ภาพสเก็ตท่าร่างไจแอนท์ (ซึ่งพอเดาได้ว่าอาจารย์ diodio แกคงอยากกลับไปเขียนไซด์สตอรี่ฝั่งไจแอนท์ต่อแน่ๆ)

ตามด้วยภาพร่างเซย์นะจังที่สวม ม็อดส์โค้ท (Mods Coat = モッズコート) ซึ่งเป็นเสื้อโค้ทแบบยุคสมัยใหม่นิยมที่เรียกว่า "Modernism"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> Wikipedia - ม็อดส์ [Modernism]
และร่างภาพแอคชั่นโนบิตะสักเล็กน้อย


ส่วนหน้าสุดท้ายก็คงเป็น Interface สไตล์ Biohazard [Resident Evil] เช่นเคย ซึ่งรายงานสถานการณ์ปัจจุบันว่า ปืนพกเบเร็ตต้าของโนบิตะตอนนี้เหลือกระสุนอยู่ 5 นัด ส่วนซามูไรเอดจ์ยังคงมีกระสุนเหลือ 15 นัด

และมีการพูดถึงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆน้อยที่กล่าวถึงรายละเอียดในตัวเกมส์ และเนื้อเรื่องหลักที่เขาแต่ง ที่ใช้อธิบายข้อแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน
- ก็มีเรื่องของ [วัคซีน T-Virus] ที่โนบิตะกับยาสุโอะได้รับในเรื่องท้ายตอนของภาค 1 (แต่ถ้าเป็นในเกมส์จะไม่พูดถึงเนื้อหาส่วนนี้) มีการดัดแปลงเนื้อหาให้มันสมจริงขึ้นมาเล็กน้อย (แต่โครงเรื่องหลักๆยังคงดำเนินตามเกมส์อยู่จนถึงภาค 4 นั่นแหละ)
- เกี่ยวกับเรื่องสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวหลักประจำซีซั่นนี้อย่าง "หมา 3 หัวทินดาลอส" ก็อาจจะมีการปรับแต่งเล็กน้อยสไตล์ diodio ไม่เอาตามเกมส์เป๊ะ
- เรื่องของรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างในมังกะจะถูกตัดทอนจากในเกมส์ เช่น การมีตัวตนของซามูไรเอดจ์ หรือการรวบรวมไปเท็มเพื่อเตรียมพร้อมไปยังสถานที่ใหม่ๆ (ไม่ต้องมานั่งไล่หาวัตถุดิบทั้ง 3 แบบในเกมส์อะไรแบบนี้)


ก็เอาเป็นว่าเกมส์ก็อยู่ส่วนเกมส์ มังกะก็อยู่ส่วนมังกะ แต่โครงเรื่องและบทสรุปยังคงเหมือนเดิมน่ะนะ ถ้าใครสนใจรายละเอียดในตัวเกมส์เพิ่มก็ไปอ่านดูในบทความที่เรา-เจ้าของบล็อก เขียนไว้ละกันจ้า...

แล้วก็แน่นอน ถึงจะเล่นหรืออ่านตามเนื้อเรื่องเกมส์มาแล้วก็ใช่ว่าในมังกะจะเก็บรายละเอียดเหมือนในเกมส์ตลอด ดังนั้นก็ยังมีอะไรหลายๆอย่างให้ตามลุ้นกันต่อไป... ดังนั้น

To be Continue ... โปรดติดตามตอนต่อไป...

แสดงความเห็นบน Facebook!

5 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ24 ตุลาคม 2556 เวลา 17:23

    5 เดือนที่รอมานาน ในที่สุดก็ออกตอนใหม่สักที T^T

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 ตุลาคม 2556 เวลา 19:44

    อืม..ออกมาให้อ่านแล้วสินะค่ะ พื่สาว:-)
    คนแปลได้ทำงานซะที >_<

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปกติคนแปลก็ทำงานอยู่ทุกวันแล้วจ้า...

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ29 ตุลาคม 2556 เวลา 15:28

      ฮ่าๆคนแปลเบื่อไหมเนื่ยค่ะ พี่สาว^^

      ลบ
    3. ก็ไม่หรอกนะ ถ้ามีคนถามตอบไปมา....

      ลบ