" />

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 32]



เอสเตอร์กับซาช่าได้บุกทะลวงเข้าไปยังศูนย์ควบคุมใจกลางสถาบันวิจัยอัมเบรล่าสาขาฮอกไกโดได้สำเร็จ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการทดลองได้เนื่องจากมีใครบางคนได้ถ่ายโอนข้อมูลตัดหน้าพวกเขาไปแล้ว


เอสเตอร์พยายามค้นหาที่มาที่ไปของข้อมูลไล่ตามจนพบกับเป้าหมายที่อยู่ในบริเวณลานจอดรถภายในอาคาร เขาจึงติดต่อไปหาหัวหน้าหน่วยลิทชี่กับเซก้าให้ตามไปสมทบ ซึ่งเขากับซาช่าจะล่วงหน้าไปก่อน แต่ทว่าระหว่างทาง เอสเตอร์กับซาช่าก็ต้องเจอกับพวกของอัมเบรล่ารถถังตามไล่บี้พวกเขา


หนำซ้ำเอสเตอร์ยังถูกสะเก็ดระเบิดจากปืนใหญ่รถถังจนล้มลงไปบนพื้นในขณะที่กำลังวิ่งหนีด้วย...เขาจะถูกรถถังทับอย่างนั้นหรือ??






บทที่ 32
ถล่มพวกมันให้เละ!!

ตัดกลับไปทางด้านลิทชี่กับเซก้าที่กำลังยืนอยู่ในลิฟต์ หลังจากที่เขาได้รับรายงานจากเอสเตอร์  เขาก็จัดแจงเตรียมอาวุธทั้งหมดที่มีอยู่ให้พร้อม

"เอาล่ะ เตรียมตัวไปกันเถอะ"


"เราต้องไปชิงข้อมูลการทดลองไวรัสมาจากไอ้เจ้าบ้าได้...
แล้วก็มีแค่โอกาสนี้เท่านั้น...!!!"


จากนั้นลิทชี่ก็บรรยายเป้าหมายต่อไปให้เซก้าฟัง... เป้าหมายของพวกเขาคือ...
มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถของตัวอาคารที่อยู่ด้านบนเพื่อตามหาไอ้บ้าที่ลักขโมยข้อมูลตัดหน้าพวกเขา


จากนั้น ลิฟต์ก็ได้หยุดเคลื่อนที่ลงพร้อมกับบ้านประตูที่เปิดออก ลิทชี่วิ่งนำเซก้าออกไป (ซึ่งตรงนี้เราจะเห็นได้ว่า มีซากศพของพวกฮันเตอร์ที่ถูกลิทชี่จัดการตายคาลิฟต์เกลื่อนไปหมด) เซก้าไม่รอช้า เขาจึงออกวิ่งตามลิทชี่ไป...


เซก้าวิ่งตามลิทชี่ไปติดๆ และมาหยุดอยู่ที่โกดังสำหรับจอดรถทางทหาร


ลิทชี่บอกเซก้าว่า ขอเขาสำรวจที่นี่หน่อย... เพราะมันอาจจะเป็นลานจอดรถที่เอสเตอร์พูดถึง


ภายในโกดังมีรถจำพวกรถบรรทุก รถฮัมวี่ และรถถังจอดอยู่ แต่ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะไม่ใช่ลานจอดรถที่นี่ แต่เป็นลานจอดรถที่อื่น


"สงสัยที่ที่เจ้านั่นบอกคงจะเป็นลานจอดรถทั่วไป ไม่ใช่คลังแสงแบบนี้ล่ะมั้ง....."


ตูม!!!!!

ในตอนนั้นเอง ลิทชี่กับเซก้าก็รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่รุนแรงมาก
เหมือนกับสถานที่ไหนสักแห่งในตึกนี้ถูกวางระเบิด


"อะไรน่ะ!!  ไอ้เสียงระเบิดเมื่อกี้นี้มัน....!!??"


จากนั้นก็เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง


ลิทชี่กับเซก้าจึงเริ่มระวังตัวมากขึ้น

"อีกแล้ว!? ดูท่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ด้วยสิ!! รีบไปดูกันเถอะ เซก้า..!!!"


ตัดไปยังฝั่งที่มาที่เกิดเสียงระเบิดเมื่อสักครู่
เอสเตอร์กับซาช่ากำลังหลบอยู่หลังเสาหินเพื่อหลบการโจมตีจากกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกมาจากรถถังที่ไล่บี้พวกเขาตั้งแต่ออกมาจากห้องควบคุม


เอสเตอร์ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กๆ ขณะยืนหลบอยู่ด้านหลังเสาหิน...

ซึ่งเมื่อก่อนหน้านี้ เขาเกือบจะถูกรถถังไล่บี้


โชคดีที่พื้นบริเวณที่รถถังเหยียบเกิดทรุดลงกะทันหันทำให้รถถังเคลื่อนที่ช้าลงชั่วขณะ


ซึ่งเปิดโอกาสให้เอสเตอร์ลุกขึ้นวิ่งหนีถอยห่างออกมาจากล้อตีนตะขาบของมันได้ทันฉิวเฉียด


เขาเร่งสปีดหนีออกมาจากทางเดินแคบๆ นั้น 
แต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอทางตันในห้องโถงกว้างเข้าให้จนได้

ในระหว่างที่หลบอยู่หลังเสาคนละฟากนั้น เอสเตอร์ก็พูดกึ่งเล่นๆออกมาให้ซาช่าฟัง
เพื่อบรรเทาอากาศเจ็บที่ขา (จากการถูกสะเก็ดระเบิดก่อนหน้านั้น) ประมาณว่า..

"เน่.... ซาช่า... เธอคิดว่าเจอพวกซอมบี้รุมล้อมยังดีกว่ามาเจอไอ้บ้าไล่ยิงแบบนี้เลยใช่ม้า..."


หลังจากที่เขาพูดเสร็จ ก็ต้องก้มหลบการโจมตีของปืนกลที่ถูกยิงออกมาจากทหารที่ปรากฏตัวออกมาจากทางเข้ารถถังด้านบน



เอสเตอร์ถึงกับสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียว่า...

"ไอ้พวกบ้านี่กะไม่ให้พักกันเลยหรือไงฟระ!?"


เอสเตอร์ค่อยๆกวาดสายตามองดูรถถังในช่วงที่มันหยุดการยิงชั่วขณะ เพื่อประเมินลักษณะ
และขีดจำกัดของรถถัง และหาจุดอ่อนของมัน.... ดูท่าว่าจะเป็นรถถังที่กองกำลังป้องกันตัวเอง
ใช้อยู่ คงเอาชนะไม่ได้ง่ายๆแน่ๆ หนำซ้ำอาวุธที่เขามีอยู่ก็ไม่น่าจะสะกิดเข้าไปได้เลย

"ดูท่าว่า เราจะไม่มีทางจัดการไอ้เจ้ารถถังบ้านี่ได้เลยมั้งเนี่ย?"


ตอนนั้นซาช่าก็พูดขึ้นมาว่า...

"เออ...ถึงจะทำอะไรมันไม่ได้มาก แต่ฉันก็ไม่อยาก
โดนไอ้รถบ้านั่นยำเละนะเฮ้ย..."


จากนั้นทั้งสองคนก็ได้ยินเสียงตะโกนแหกปากดังมาจากคนที่ขับรถถังว่า

"ออกมาเดี๋ยวนี้นะโว้ยไอ้พวกเปรต!!!"


นายพลกัสกี้ที่ขับรถถังก็ตะโกนขึ้นมาว่า หยุดยิงก่อน!!  พร้อมกับเปิดโอกาสให้พวกเอสเตอร์ยอมแพ้และเดินออกมาแต่โดยดี....


เวย์น หนึ่งในสมาชิกอีกคนที่อยู่ในรถถังก็บอกถามว่า เจ้าพวกนั้นคงจะยอมเหรอครับ!?


นายพลกัสกี้ดูสถานการณ์รอบข้างพร้อมกับบอกว่า ถึงพวกมันจะยอมแต่ยังไงเราก็ต้องฆ่ามันตามคำสั่งเบื้องบนอยู่ดี


เวย์นเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่า ให้ใช้รถถังฆ่าคนแบบนี้มันจะไม่โหดไปหน่อยเหรอ?


นายพลกัสกี้ก็บอกว่า มันช่วยไม่ได้นี่หว่า ไอ้เจ้าพวกนี้ดูท่าว่าจะไม่ใช่ผู้บุกรุกธรรมดา แต่น่าจะเป็นทหารหน่วยพิเศษที่เชี่ยวชาญการต่อสู้อยู่ เผลอๆ มันอาจจะพก RPG มาด้วย


แต่ว่านะ ดูท่าตอนนี้พวกมันคงจะจนตรอกจริงๆและไม่มีอาวุธที่ว่านั่นด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่จะฆ่าพวกมันให้เละไปเลย...จากนั้น กัสกี้จึงเร่งให้พวกที่เหลือบรรจุกระสุนปืนใหญ่เข้าไป


เอสเตอร์กับซาช่าที่ฟังการสนทนาอยู่ถึงกับหน้าซีดเผือด ตอนนี้พวกเขาต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว ถ้าหากเจ้าพวกที่อยู่ในรถถังนั่นบรรจุกระสุนปืนใหญ่เสร็จล่ะก็ พวกเขาต้องเละแน่ๆ

"ซาช่า!! เธอมีแผนอะไรหรือเปล่า!!?"


"เอ่อ...ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ
ทางรอดของเราก็คงมีแต่ใช้อาวุธที่มีจัดการพวกมันแหละ.... นายมีอะไรบ้างล่ะ!?"


เอสเตอร์บอกซาช่าว่า..
"เอิ่มม มีแค่... ระเบิดควัน (สโมคเกรเนด : Smoke Grenade) แล้วก็ปืนพก 1 กระบอก
 กระสุน 2 แม็กกาซีน"


ซาช่าเองก็บอกว่า เหลือแต่อาวุธไม่กี่อย่างเท่านั้น
เช่นมีด ปืน แล้วก็ระเบิดมือ...
สงสัยต้องลองวัดดวงแล้วล่ะ...


"แล้วจะทำยังไงล่ะ!!"


ซาช่ากำมีดในมือแน่น พร้อมกับบอกว่า

"หลังจากที่นายโยนระเบิดควันแล้ว!!! ที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการเอง!!!"


ดูเหมือนว่าแผนของซาช่าเป็นอะไรที่บ้าบิ่นมาก ซึ่งเอสเตอร์เองก็อาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ จึงถามย้ำเตือนออกมาอีกครั้งว่า...

"เอางั้นเรอะ!?"


"นายเชื่อใจฉันหน่อยเซ่!!!"


ดูท่าว่าตอนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว....

"เออๆๆ จะเอายังไงก็เอา!! ถ้างั้นจะเริ่มล่ะนะ!!!"


ในตอนนั้นเองรถถังก็สาดกระสุนปืนกลใส่พวกเอสเตอร์อีกครั้ง เอสเตอร์พยายามสังเกตช่วงที่กระสุนปืนกลของพวกมันใกล้หมด...


จากนั้นเขาจึงเริ่มนับเลขถอยหลัง....

5....4....3....


เขาหยิบระเบิดควันขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า.... โอ้ะ ช่างแม่ง ขี้เกียจนับ 0!!! ปาเลยละกัน!!!


เอสเตอร์จึงทำการปาระเบิดควันไปทางรถถัง


ระเบิดควันที่เอสเตอร์คว้างไปเริ่มทำงาน
มันได้ทำการสร้างม่านควันบดบังทัศนวิสัยของพวกที่นั่งอยู่ในรถถัง
นายพลกัสกี้ตะโกนร้องเตือนพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังแตกตื่นทันที!!

"นี่มัน!! ระเบิดควัน!!!"


จากนั้นเขาจึงเตือนให้เจ้าหน้าที่ทุกคนอย่าตื่นตระหนก พร้อมกับสั่งให้รถถังถอยหลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ



ในระหว่างนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามากระแทกบนตัวรถถังเสียงดังโครมคราม เวย์นที่นั่งอยู่ด้านในเริ่มรู้สึกไม่ดี...


เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมปืนกลด้านบนเริ่มคุมสติไม่อยู่ จึงกราดกระสุนปืนกลไปมั่วๆ จนกระทั่ง กระสุนหมด...
ซึ่งเปิดโอกาสให้ใครบางคนใช้ม่านควันที่ยังไม่จางหายไปหมดพรางตัวเข้ามาประชิดรถถัง


เขาจึงทิ้งปืนกลพร้อมกับหยิบปืนพกขึ้นมาเล็งยิง...


โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีของมีคมบางอย่างปรากฏขึ้นด้านข้างเขา... ในตอนนี้ซาช่ากำลังนั่งหมอบอยู่บนรถถังด้านข้างทางเข้าที่อยู่ตรงมุมอับสายตา เธอกำมีดในมือไว้แน่น


"ตอนนี้แหละ!!"


ชั่วพริบตา ซาช่าก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับตวัดมีดเชือดคอเจ้าหน้าที่ที่กำลังมึนอยู่จนเลือดสาดกระจายพร้อมกับหยอดบางสิ่งลงไปในรูทางเข้าที่เจ้าหน้าที่คนนั้นโผล่หน้ามา

เจ้าสิ่งนั้นตกลงไปด้านในห้องคนขับรถถัง



นายพลกัสกี้รีบมองไปหาของที่ตกลงมาจากช่องทางเข้าด้านบน...และพบว่า...


มันคือ....


"เหวอออ!!!!!!!"


ระเบิดมือที่ซาช่าแอบปล่อยลงมาทางช่องหลังจากที่เชือดเจ้าหน้าที่ที่โผล่มาจากด้านบนเสร็จ
ถึงแม้รถถังจะมีเกราะที่หนามากจนไม่สามารถสร้างความเสียหายจากภายนอกได้
ก็มีแต่ต้องทำลายมันจากด้านในเท่านั้น!!  เธอจึงยัดระเบิดลงไปในช่องคนขับส่งผลทำให้...

ตูมมม!!!



ระเบิดที่ถูกยัดลงไปในที่นั่งคันขับทำลายล้างทุกอย่างภายในห้องพร้อมกับฉีกร่างเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านในทั้งหมดจนหมด... ซาช่ารีบถอยออกห่างจากรถถังก่อนที่จะเกิดระเบิดได้ทันเวลา...

เอสเตอร์ได้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดถึงกับพูดตะโกนขึ้นมาด้วยความดีใจ

"โอ้!! สุดยอดมากเลย!!!
ระเบิดพวกมันซะเกรียมไปเลย"


"อืม......สำเร็จได้ด้วยดีใช่ไหมล่ะ..."


แผนการพิชิตรถถังของซาช่าสำเร็จลุล่วง แต่ซาช่าเองก็รู้สึกกลัวไม่น้อยที่ต้องรับบทเสี่ยงขนาดนั้น 
ซึ่งหลังจากการบุกจู่โจมครั้งนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกเข่าอ่อน...เนื่องด้วยความตื่นเต้น
 ... เอสเตอร์จึงรีบเข้าไปพยุงซาช่า..พร้อมกับกล่าวชมเธอว่า

"ทำได้ดีมาก ซาช่า.. เธอเนี่ยเจ๋งสุดๆไปเลย"

"มะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า...."

ซาช่าตอบด้วยความอายๆ ขณะที่เอสเตอร์กำลังช่วยพยุงเธอขึ้น

"ยังไงก็เถอะ..ฉันว่าเราน่าจะออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า...."


และในตอนนั้นเอง ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อรถถังที่ควรจะระเบิดจนไฟลุกท่วมไปแล้ว กลับขยับส่วนของปืนใหญ่เล็งมาทางพวกเขาได้... 

ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ยังไม่ตายทันทีจากการถูกแรงระเบิดอัดคาที่นั่งคนขับ... และคนๆนั้นก็คือ...เจ้าหน้าที่ที่ชื่อ เวย์น!!  เนื่องจากร่างของนายพลกัสกี้และเจ้าหน้าที่อีกคนได้บังตัวจากแรงระเบิดโดยตรงเอาไว้ทำให้เขายังไม่ตายทันทีแต่ก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน เขาจึงใช้ลมหายใจสุดท้ายหมายจะฆ่าศัตรูเป้าหมายให้สิ้นซาก...

"อะ...ไอ้พวกบ้าเอ้ย!!...... บังอาจทำกับทุกคนได้นะ!!
ตายซะเถอะ!!!"


เมื่อเห็นดังนั้น เอสเตอร์จึงรีบผลักซาช่าให้กระเด็นไปอยู่ด้านหลังเสาโดยไว...ส่วนตัวเขา...

"เอสเตอร์!!!!!"





ตูม!!!!


กระสุนปืนใหญ่พุ่งออกมาจากรถถังตรงเข้าไปหาเอสเตอร์...
และทุกอย่างก็มืดลง


ตัดกลับไปทางด้านลิทชี่และเซก้าที่กำลังมุ่งหน้าตรงมายัง
ลานกว้างที่เอสเตอร์กับซาช่าอยู่


ลิทชี่กับเซก้าเดินเข้ามาถึงห้องกว้างที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมรถถัง...


ลิทชี่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก

"นะ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นที่นี่วะเนี่ย?"


เซก้าเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน เขาจึงเดินไปสำรวจด้านในสุดก็พบกับหญิงสาวผมสีชมพูที่พวกเขารู้จักดี....  ซาช่านั่นเอง...



แต่ว่าเธอมีอาการแปลกไป... เธอยืนนิ่งเงียบและมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนเต็มหน้าและตามตัว


ลิทชี่เห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปดูอาการของเธอทันที...

"ซาช่า!! เป็นอะไรหรือเปล่า!?
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย... แล้วเลือดนั่น..."


..............................

เธอยังนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามของลิทชี่ทำให้เขาประหลาดใจมาก

"ซาช่า?"


แต่แล้วซาช่าก็พยายามกัดฟันพร้อมกับพูดออกมาว่า...

"เอส....เอสเตอร์น่ะ....
เอสเตอร์ตายแล้ว..."


"...ฮะ..เฮ้.... เธอพูดอะไรออกมาน่ะ..."

ลิทชี่แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ซาช่าพูด...


"เขาปกป้องฉัน.... ในขณะที่พวกเรากำลังชะล่าใจ
นึกว่าจัดการรถถังนั้นได้แล้วแท้ๆ"


"แต่ว่า เจ้าคนในรถถังนั่นยังไม่ตาย มันเลื่อนปืนมาทางฉัน
แต่ว่า เอสเตอร์... เอสเตอร์ช่วยฉันไว้ เขาผลักฉันให้หลบไป เขาจึงถูก..."

ซาช่ารู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องพยายามฝืนพูดในเหตุการณ์ที่เธอไม่อยากจะจำ..
โดยเฉพาะตอนที่เอสเตอร์ถูกกระสุนปืนใหญ่ของรถถังยิงจนร่างกายระเบิดเป็นชิ้นๆ
ต่อหน้าต่อตาเธอ... เลือดของเขายังเปรอะอยู่บนตัวของเธออยู่เลย..


ลิทชี่กับเซก้ารู้สึกช็อกตามกัน ลิทชี่จึงถามซาช่าว่า...

"นี่...แล้ว..เอสเตอร์ล่ะ...
เขาอยู่ไหนล่ะ!!?"


ลิทชี่ไม่มีทางเชื่อว่า เอสเตอร์จะตายจริง จนกว่าจะเจอศพของเขา

ซาช่าจึงบอกว่า... ข้างหลัง...พวกลิทชี่นั่นแหละ
ร่องรอยที่เกิดจากการระเบิดเนื่องจากกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงใส่กำแพงตรงนั้น...


หลังจากที่ลิทชี่ได้ยิน เขาจึงหันไปทางกองซากอาคารที่มีไฟลุกท่วมกำแพงด้านหลัง


พร้อมกับพยายามใช้มือเปล่าของตนยกเศษอาคารขึ้นโดยไม่สนว่า มือของตนเองจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน... เขายังคงตะโกนเรียกหาเอสเตอร์ทุกครั้งที่ยกเศษซากอิฐที่ร้อนจัดขึ้น เขาหวังว่า เอสเตอร์อาจจะแค่ถูกซัดกระเด็นไปจมอยู่ใต้ซากอิฐเท่านั้น

"เอสเตอร์!! อยู่ไหนน่ะไอ้เจ้าบ้าเอ้ย!!!"


แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตามซอกอิฐทำให้ความหวังยิ่งริบหรี่ลงไปทุกที เพราะสิ่งที่เจอมีเพียงเศษของเลือดเนื้อและแขน-ขาบางส่วนเท่านั้น หัวหน้าลิทชี่พยายามคิดว่าอาจจะเป็นของคนอื่น...

"นายยังตายไม่ได้นะ!! นายสัญญาณกับฉันแล้วไม่ใช่เหรอวะ นายจะต้องรอดกลับไปให้
ฉันเลี้ยงเหล้าให้ได้น่ะ... ไอ้บ้าเอ้ย!!!"

แต่แล้ว ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลิทชี่หยุดชะงัก เพราะสิ่งที่เขาเห็นชัดเจนและทำให้ตาสว่างที่สุดก็คือ...

ผ้าโพกศีรษะสีขาวที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดของเอสเตอร์์จนกลายเป็นสีแดง


"เอสเตอร์!!!"


"....คุณหัวหน้าหน่วย...."


ในระหว่างนั้นเอง เซก้าที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ตลอดก็คว้าตัวหัวหน้าของเขาให้ลุกขึ้น
พร้อมกับเพ็งมองด้วยสายตาที่เย็นชา... ราวกับตนจะบอกว่า..

"เรื่องเสียใจน่ะ เอาไว้ก่อน...เรามีภารกิจต้องทำต่อนะครับ หัวหน้า!!"


ทางด้านซาช่าเองตอนนี้ก็พอจะทำใจได้แล้ว เธอจึงบอกกับลิทชี่ว่า

"..ฉันไม่สมควรจะพูดแบบนี้แต่..ตอนนี้ฉันอยากให้หัวหน้าใจเย็นก่อน
เพราะพวกเรายังมีภารกิจต้องตามไล่ล่าหาเจ้าตัวที่ขโมยข้อมูลไวรัสอยู่นะ"


ทางด้านเซก้าเองก็พูดขึ้นมาว่า...

"ไปกันเถอะครับ หัวหน้า.... เราต้องสานต่อภารกิจของพวกเราให้จบนะครับ"


"....อืม.. นั่นสินะ...
ไปกันเถอะ...."

หัวหน้าลิทชี่พยายามสงบจิตใจให้เย็นลง เขาสูดหายใจลึกๆพร้อมกับออกคำสั่ง

"พวกนายทั้ง 2 คนรีบตามฉันมาเร็วเข้า.... เราต้องจับไอ้บ้านั่นให้ได้"


"ครับ/ค่ะ"

ในเวลาต่อมา หัวหน้าลิทชี่ก็รีบวิ่งนำทุกคนในกลุ่มมุ่งหน้าออกไปยังลานจอดรถที่เป้าหมาย


ระหว่างทาง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังของพวกอัมเบรล่าจำนวนหนึ่ง แต่ทว่า... พวกเขาก็ถูกลิทชี่ฆ่าตายเรียบ.... แม้แต่เซก้ายังต้องตกใจในความบ้าระห่ำของหัวหน้าตัวเอง...ที่สามารถสังหารพวกเจ้าหน้าที่จำนวนมากได้ในชั่วพริบตา..ราวกับเป็นการล้างแค้นให้เอสเตอร์ที่ตายไป



ตัดกลับไปที่ลานจอดรถเป้าหมายของพวกลิทชี่

ณ ที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการถ่ายโอนข้อมูลอาวุธชีวภาพและเชื้อไวรัสทั้งหมด


การถ่ายโอนข้อมูลนั้นก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด...ชายคนนั้นยิ้มหัวเราะออกมา

"หึหึ ข้อมูลเชื้อไวรัสที่ฉกมาจากอัมเบรล่าพวกนี้นี่แหละที่จะทำให้ฉันรวยเละเทะ
ไม่เสียทีที่ยอมทนทำงานร่วมกับพวกมันมานาน... ฉันจะเรียกกำไรจากพวกผู้ซื้อในตลาดมืด
รายใหญ่ให้ได้ราคาสูงๆอยู่กินทั้งชาติเลยคอยดูสิ "


จากนั้นเขาก็รีบพับโน้ตบุ๊กแล้วเอาทุกอย่างลงไปในเคสกระเป๋าเดินทาง

"เอาล่ะ... ได้เวลาชิ่ง...."

ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะพูดจบ เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า...

พวกลิทชี่ไล่ตามเขามาทันจนถึงโรงรถ!! พร้อมกับใช้ปืนกราดยิงลูกสมุนที่อยู่รอบตัวของเขาจนตายเกลี้ยง เหลือเพียงบอดี้การ์ดในชุดทหารที่อยู่ข้างเขาเพียงคนเดียว...


"บ้าน่า!!! ทำไมพวกแก.....!!!!"



ลิทชี่ประกาศต่อชายคนนั้นเสียงดังก้องว่า...

"เอาข้อมูลเชื้อไวรัสส่งมาเดี๋ยวนี้!!!!!"


คลิปประกอบตอนนี้ัทั้งหมด


to be continue.....

======================================================


เนื้อหาใกล้ถึงจุดไคลแม็กซ์เข้าไปทุกที 
แต่ตอนนี้ขอให้ทหารทุกนายไว้อาลัยให้กับ "เอสเตอร์" 
ที่ถูกปืนใหญ่ยิงจนไม่เหลือร่างให้เก็บด้วย...

แสดงความเห็นบน Facebook!

1 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ24 มีนาคม 2557 เวลา 08:03

    ไม่นะ!! เอสเตอร์ไปแล้วหรือ!(ทำไมลิทชี่ชวนใครไปดื่มดนตายหมดเลย=___='')
    ร่วมไว้อาลัย TwT

    ตอบลบ