พวกโนบิตะกับเหล่า U.B.C.S. ตัดสินใจที่จะสงบศึกและจับมือร่วมทีมกันใน..
พวกเขาทุกคนต้องการที่จะหนีออกไปจากเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้แห่งนี้ให้ได้...พวกเขาจึงรวบรวมอาวุธที่อยู่ในอาคารแห่งนี้ทั้งหมด...เตรียมพร้อมมุ่งหน้าออกไปยังเส้นทางหลบหนีขึ้นทางด่วนที่อยู่ตรงทิศใต้ของเมืองที่อยู่ห่างออกไป 1 กิโลเมตร ที่นั่นมีรถที่จะพวกเขาทุกคนออกไปได้
การหลบหนีของพวกโนบิตะและเหล่าเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. จึงได้เริ่มต้นขึ้น
บทที่ 20
ฝ่าฝูงซอมบี้ในม่านหมอก
หลังจากที่มีการวางแผนกันเรียบร้อย .... ลิทชี่จะเป็นผู้ที่นำในการพาพวกเขาทุกคนออกไปนอกเมือง ส่วนโทชิบะ... เธอบอกว่าเธอขอทำธุระอะไรบางอย่างก่อนและอาสาเป็นคนที่อยู่ป้องกันพวกเขารั้งท้ายเอาไว้ ถึงแม้ว่าลิทชี่จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่หลังจากที่ได้เห็นทักษะการต่อสู้ของเธอในการจับกุมพวกโนบิตะแล้ว ลิทชี่จึงไว้ใจให้เธออยู่ในตำแหน่งนั้นได้
"เอาล่ะ ออกไปลุยกันเลยทุกคน!"
ลิทชี่ประกาศพร้อมกับวิ่งเปิดประตูนำทัพออกไปข้างนอก ตามด้วยลูกน้องของเขาพร้อมกับพรรคพวกของโนบิตะจำนวนหนึ่ง...
"พวกเทอ ลีบมาเลวๆ เขาจี้!!
เด๋วโดนทิ้งหลอก"
ซาช่าตะโกนใส่ 2 คนที่ยังอยู่ในตึก ได้แก่ โนบิตะ และโทชิบะ
" รีบตามมาเร็วๆด้วยนะครับ คุณพี่สาว!!"
แล้วโนบิตะก็วิ่งออกจากตึกตามซาช่าไปโดยมีโทชิบะรั้งท้ายไว้
พวกโนบิตะโผล่ออกมาด้านนอกก็พบกับบรรยากาศยามกลางคืนที่น่าวังเวงและมีเสียงแห่งความอลหม่านดังไปทั่วทุกแห่ง
"แก๊สพวกนั้นมัน.... ไวรัสสินะ!!"
โนบิตะพูดออกมาหลังจากเหลือบสายตาขึ้นไปมองด้านบนตึกสูงใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยควันลอยขโมง เขารู้ทันทีว่าควันพวกนั้นคงจะเป็นไวรัสที่อัมเบรล่าปล่อยออกมาเพื่อเปลี่ยนให้คนกลายเป็นซอมบี้
จากนั้น พวก U.B.C.S. กับพวกโนบิตะก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกของเจ้าหน้าที่ผู้ชายนายหนึ่ง...
"พวกเราต้องรีบอพยพออกไปจากที่นี่นะ เร็วเข้าเซ่!!"
เขาแนะนำตัวเองสั้นๆว่า เขาเป็นลูกน้องของโทชิบะเพียงคนเดียวที่ยังเหลือรอดอยู่ในตอนนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น ลิทชี่จึงรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้นพร้อมกับพูดว่า...
"พวกเราต้องการการให้ช่วย..."
แน่นอนว่า เจ้าหน้าที่คนนี้เป็นคนในเมือง จึงเชี่ยวชาญเส้นทางต่างๆของเมืองนี้เป็นอย่างดี เขาจึงรับอาสาที่จะพาพวกลิทชี่และเหล่าเด็กๆหนีออกไปจากเมืองแห่งนี้โดยเร็วตามคำไหว้วานของโทชิบะที่แจ้งเข้ามา
การหลบหนีของพวกลิทชี่และพวกโนบิตะจึงเริ่มขึ้น...โดยมีเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นคนนำ
บริเวณนี้มีพวกซอมบี้ไม่มาก พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องใช้ปืนจัดการเท่าไหร่ จึงรีบวิ่งตามกันไปเป็นกลุ่ม (โนบิตะอยู่รั้งท้ายในตอนนี้)
"เดี๋ยวก่อน!!!"
เจ้าหน้าที่คนนั้นให้สัญญาณหยุด.....หลังจากที่สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง... เขาเหลือบตามองไปด้านบนตึกที่ปกคลุมด้วยแก็ส
แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่า มีกลุ่มแก๊สกำลังแพร่กระจายมาทางนี้!!
"ท่าไม่ดีแล้วสิ!!"
ลิทชี่พูดขึ้นมา.... พร้อมจับปืนในมือไว้ให้มั่น เขาสังเกตเห็นว่า นอกจากแก๊สที่กำลังแพร่เข้ามาทางเขา แล้วยังมีกลุ่มคนเดินออกมาอย่างรวดเร็วจากข้างในแก๊สนั้นด้วย
กลุ่มคนที่เดินออกมาจากแก๊สทั้งหมดล้วนดูซีดขาว ร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ดวงตาที่เหมือนกับคนตาย... พวกชาวเมืองที่โดนแก๊สจนกลายเป็นซอมบี้นั่นเอง และพวกมันก็สังเกตเห็นพวกลิทชี่และพวกเด็กๆจึงกรูกันเข้ามาหาพวกเขา พวกมันมีจำนวนมากมายมหาศาล
"พวกซอมบี้นี่นา....."
เจ้าหน้าที่ที่นำหน้ารีบวิ่งย้อนกลับไปถนนอีกเส้นโดยเร็ว พร้อมกับบอกให้พวกลิทชี่และพวกเด็กๆตามมาติดๆ พลางตะโกนขึ้นมาว่า...
"อย่าเข้าไปใกล้ๆกับแก๊สนะ!!"
นั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเพราะเส้นทางนั้นไม่สามารถผ่านไปได้เลย และเส้นทางอีกด้านก็มีพวกซอมบี้จำนวนหนึ่ง แต่ก็น้อยกว่าที่เดินออกมาจากแก๊สเป็นจำนวนมาก พวก U.B.C.S. จึงเปิดฉากใช้อาวุธหนักจัดการกับพวกซอมบี้ที่ขวางทางอยู่ให้พอเดินผ่านเส้นทางได้
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายนัก เพราะพวกมันมีอยู่ทั่วทิศ
แต่พวกโนบิตะก็สามารถหลบหลีกฝูงซอมบี้จำนวนมากตามพวก U.B.C.S. ไปติดๆได้
เจ้าหน้าที่หนุ่มเดินนำพวกเขามาถึงประตูกรงเหล็กแห่งหนึ่ง เขาจึงรีบนำกุญแจที่ติดกับตัวไขออกไป พร้อมกับบอกให้พวกเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. คอยยิงคุ้มกันเขาเอาไว้
หลังจากผ่านประตูเหล็กมาได้ พวกเขาทุกคนก็รีบวิ่งตามกันมาติดๆ จนมาถึงจุดๆหนึ่ง
"แย่แล้ว!!! ทางนี้ก็มีแก๊สดักหน้า!!!"
ลิทชี่ตะโกนขึ้นมาหลังจากที่เห็นแก๊สกลุ่มหนึ่งกำลังไล่ต้อนผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้วิ่งหนีมาทางเขา แต่ว่าพวกลิทชี่จำเป็นต้องใช้เส้นทางแถวนี้ในการผ่านทางเสียด้วย
เจ้าหน้าที่หนุ่มที่นำพวกลิทชี่ก็รีบตะโกนบอกทุกคน
"ประตูนั่น!! รีบเข้าประตูตึกนั้นไปเลยครับ!!!
มันมีทางเชื่อมออกไปยังทางไฮเวย์ทิศใต้ได้!!"
เมื่อได้ยินดังนั้น พวกลิทชี่จึงวิ่งกรูกันเข้าไปในตึกนั้น....โดยมีเจ้าหน้าที่หนุ่มคอยรออยู่ข้างประตูเพื่อตรวจสอบจำนวนคน
"ระ รอด้วยสิ ทุกคน!!!"
โดยมีโนบิตะรั้งท้าย....
"ละวัง!!!"
ซาช่าที่เดินเข้าไปในตึกแล้วหันกลับไปมองทางโนบิตะก็พบว่า ซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังจะเอื้อมมือจับโนบิตะได้แล้ว เธอจึงยกปืนกล M16 กราดยิง..พวกซอมบี้ด้านหลังโนบิตะจนพวกมันตายไป
"กะ..เกือบไปแล้ว!!"
และในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงปืนพกดังขึ้น...ด้านหลังโนบิตะ....ที่น่าจะเป็นคนสุดท้าย...
"คุณพี่สาว!!!"
"รีบปิดประตูเร็วเข้า!!!"
"แต่ว่าคุณ....!!"
โนบิตะพยายามจะรีบออกไปช่วย แต่โทชิบะก็หันหลังพร้อมกับใช้ปืนพกยิงหัวซอมบี้ทุกตัวที่เข้ามาใกล้จนล้มตายเป็นจำนวนมาก
สถานการณ์ในตอนนี้ดูท่าว่ากลุ่มแก๊สกำลังจะลามมาถึงหน้าประตูแล้ว...เธอคงจะหนีเข้าประตูมาไม่ทันแน่ๆ แต่เธอกลับหันมายิ้มให้พวกโนบิตะพร้อมกับพูดว่า
สถานการณ์ในตอนนี้ดูท่าว่ากลุ่มแก๊สกำลังจะลามมาถึงหน้าประตูแล้ว...เธอคงจะหนีเข้าประตูมาไม่ทันแน่ๆ แต่เธอกลับหันมายิ้มให้พวกโนบิตะพร้อมกับพูดว่า
"คิดว่าฉันเป็นใครกันจ้ะ....รีบไปกันได้แล้ว เดี๋ยวพี่สาวจะตามไปทีหลังนะจ้ะ"
เมื่อได้ยินคำสั่งนั้น เจ้าหน้าที่ลูกน้องของโทชิบะก็รีบปิดประตูตึกล็อกทันที....
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กลุ่มแก๊สแพร่ออกมาขวางประตู พวกโนบิตะสามารถหลบหนีเข้ามาในตึกเพื่อหลบแก๊สได้ครบทุกคน เหลือเพียงโทชิบะคนเดียวที่อยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่ลูกน้องของโทชิบะเดินเข้ามาถามโนบิตะ
"เธอไม่เป็นอะไรแน่นะ? ให้ตายสิไอ้พวกนี้มันบ้าอะไรเนี่ย?"
ฉากผจญภัยจนมาถึงเข้าประตูในตึกตามคลิปนี้เลย
พวกเขาสังเกตเห็นซอมบี้จำนวนหนึ่งในกลุ่มแก๊สพยายามจะพังประตูเข้ามา แต่พวกมันก็ถูกโทชิบะที่อยู่ด้านนอกยิงจนตายไปหลายตัว..
"หันมาทางนี้สิ เจ้าพวกผีดิบ!!"
โทชิบะพยายามหลอกล่อพวกซอมบี้ที่ติดกับตัวตึกให้หันมาสนใจเธอ
"ไม่ต้องห่วงหรอก.... หัวหน้าต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ... ตอนนี้รีบไปกันต่อเถอะ"
เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งนำพวกโนบิตะไป ภารกิจเขาในตอนนี้คือต้องพาพวก U.B.C.S. ออกไปจากตึกนี้ให้ได้
หลังจากที่เข้ามาในตึกได้ โนบิตะก็สังเกตเห็นว่า คนที่อยู่ในห้องนี้...มี ซาช่า เอสเตอร์ โดราเอม่อน และซูเนโอะ...
"ลีบไปเล็วๆเข้าซี่..
เด๋วได้ตายหลอก"
ซาช่าพยายามพูดภาษาญี่ปุ่นกับโนบิตะ แม้จะฟังตะกุกตะกักไปบ้างแต่ก็พอจะรู้เรื่อง...โนบิตะจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเธอพร้อมกับบอกว่า...
"เมื่อกี้ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ คุณซาช่า...."
เมื่อได้เห็นท่าทีของโนบิตะ ซาช่าถึงกับสะดุ้งเฮือก เพราะตกใจมากที่มีคนมาขอบคุณตนเป็นครั้งแรก
"มะ ไม่ดั้ยจ้วยจั๊กหน่อย คะ แค่ทำตามหน้าตี้น่ะ"
ช่วงนั้นเองซูเนโอะกับโดราเอม่อนก็เข้ามาพูดกับเขา
"มาช้าจังนะ โนบิตะ!!
ไม่เป็นอะไรใช่ไหม.....?"
"อ...อืม.."
"โชคดีที่ไม่เป็นอะไรนะ โนบิตะ.."
"อือ ฉันไม่เป็นไร"
"รีบๆไปกันเถอะ โนบิตะ ทุกคนเขาล่วงหน้าไปกันแล้วนะ"
หลังจากนั้นโนบิตะก็ได้ยินเอสเตอร์พูดบ่นๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า เขารู้สึกประหลาดใจกับผู้คนในเมืองที่กลายพันธุ์เป็นซอมบี้เพราะแก๊สไวรัสได้ถึงขนาดนี้ แถมรู้สึกกังวลมากว่าพวกมันอาจจะบุกตามเข้ามาในนี้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"คะ คนนี้พูดอะไรของเขาอยู่ล่ะเนี่ย?"
แน่นอนว่า เอสเตอร์พูดออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดของเขาจึงทำให้โนบิตะฟังไม่ออก แต่เขาก็ไม่คิดจะถามตอบกลับแต่อย่างใด
"เฮ้!! พวกที่อยู่ตรงนั้นน่ะรีบตามมาเร็วๆเข้าเซ่!!!"
แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนเรียกของพวกพ้องดังขึ้นมาจากบนอาคารชั้น 2 ให้พวกโนบิตะที่อยู่ห้องนี้ตามขึ้นไป
พวกโนบิตะทุกคนรีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
เพล้ง!!!
"เหวอ!!!"
จู่ๆบานกระจกชั้น 2 ก็แตกออกกะทันหันจนทำให้โนบิตะโดนแก๊สที่แพร่เข้ามาเต็มๆ..
"เฮ้ย!! ไม่เป็นไรใช่ไหม!!?"
เอสเตอร์รีบเข้าไปสอบถามโนบิตะ
อึก....
"ไม่เป็นไรครับ ผมสบายดี ไปกันต่อเถอะ..."
เอสเตอร์ดูอยู่สักพักจนแน่ใจว่าเขาไม่เป็นอะไร จึงตัดสินใจออกเดินทางต่อ... โชคดีที่เขายังไม่ต้องยิงเด็กคนนี้ทิ้ง ถ้าหากเขาไม่กลายเป็นซอมบี้
อันที่จริงแล้ว ถึงพวกโนบิตะจะสูดแก๊สไวรัสนี้เข้าไปก็ไม่ทำให้กลายเป็นซอมบี้ได้เพราะทุกคนต่างก็ได้รับวัคซีนมาในเหตุการณ์ภาค 3 กันหมดแล้ว
แต่สิ่งที่พวกโนบิตะกลัว ไม่ได้เป็นแก๊สแต่เป็น...สิ่งที่เวียนว่ายอยู่ในแก๊สต่างหาก
เพล้ง!!!
นอกจากนั้น ยังเกิดเสียงกระจกแตกตรงด้านล่างชั้น 1 ในห้องที่พวกโนบิตะคุยอยู่
"พวกมังพังกาจกเข้ามาล้าว!!!"
ซาช่าตะโกนขึ้นมาก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงสาดกระสุนปืนของพวกซาช่า... ที่กำลังวิ่งหนีไล่ตามพวกโนบิตะมาติดๆ....
"พวกเราต้องหนีแล้ว เร็วเข้า!!!!!"
"หนีเร็ววว!!!!"
"คุณซาช่า รีบหนีกันเถอะ"
"ละ ลู้แล่ว"
พวกโนบิตะ พยายามวิ่งหนีพร้อมกับยิงต่อสู้ไปตามทางเดิน
"อีกนิดเดียวก็จะถึงทางออกแล้ว!!"
"ทุกคน พยายามถอยและโจมตีมันไปเรื่อยๆนะ!!"
โนบิตะพูดพร้อมกับช่วยสาดกระสุนใส่พวกซอมบี้จำนวนมากที่กรูกันเข้ามาจำนวนมาก
จนเกิดการชุลมุนกันสักพักใหญ่ พวกโนบิตะก็พยายามถอยมาตามทางขณะที่ยิงไปด้วย
เสียงสาดกระสุนในความมืดดังต่อกันเป็นช่วงๆ แต่ดูท่าว่าพวกมันจะไม่มีวันหมดสักที
"(ให้ตายสิ สงสัยต้องใช้ไอ้นี่!!!)"
เอสเตอร์หยิบกระบอกสีแดงบางอย่างที่เหน็บไว้ข้างตัวขึ้นพร้อมกับดึงสลักมันออกแล้วโยนออกไป... มันคือ ระเบิดเพลิง!! (Incendiary Grenade)
ตูมมมม!!!
ระเบิดเพลิงของเอสเตอร์สร้างความเสียหายให้กับฝูงซอมบี้ที่กรูกันเข้ามาจนพวกมันเดินสะเปะสะปะมั่วซั่วก่อนล้มลงตายไปหลายตัว อีกทั้งจุดที่เกิดระเบิดยังก่อให้เกิดอาณาเขตเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่จะเผาซอมบี้ทุกตัว ที่เดินเข้ามาทั้งหมด ทำให้พวกเขาสามารถยื้อพวกมันได้สักพัก
พวกโนบิตะจึงเดินไปตามทางเดินต่อ ซึ่งระหว่างทางพวกเขาก็พบว่า ตามอาคารมีขอบเขตที่เกิดเพลิงไหม้เป็นระยะๆ ซึ่งคงจะเป็นฝีมือของพวกเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. ที่บุกตะลุยล่วงหน้าไปก่อน... พวกเขาคงจะใช้ระเบิดเพลิงสร้างพื้นที่กั้นพวกซอมบี้ที่บุกมารอบทิศไว้เหมือนกัน
พวกโนบิตะเดินไปตามทางเดินด้านในจนกระทั่งพบกับ...
"ชะ ชิสุกะจัง กับคุณเซย์นะนี่..."
"โนบิตะคุง/โนบิตะ......!!?"
เซย์นะกับชิสุกะที่ยืนอยู่ที่นี่ก็เพราะ เซย์นะกับชิสุกะยังคงทำใจไม่ได้ ในเรื่องที่พวกเธอหรือพวกหน่วย U.B.C.S. ไม่สามารถช่วยผู้รอดชีวิตที่อยู่หลังกองเปลวเพลิงนี้ได้ เซย์นะบอกว่า พวกซอมบี้พยายามบุกเข้ามาทุกทิศทุกทาง แต่พวกเขาก็พยายามต้านอย่างสุดความสามารถแต่มันเยอะเกินไป จำเป็นต้องใช้ระเบิดเพลิงหรือไม่ก็จรวด RPG ของคุณยานอฟสร้างเปลวเพลิงกั้นเส้นทางเอาไว้ ซึ่งในระหว่างนั้นพวกเธอก็เห็นผู้รอดชีวิตจำนวนหนึ่งที่อยู่ในตึกไม่สามารถวิ่งมาหาความช่วยเหลือจากพวกเธอได้ด้วย จึงได้แต่ทนเห็นพวกเขาถูกซอมบี้ที่อยู่อีกฝั่งรุมกัดกินจนตาย หรือไม่ก็พยายามฝืนวิ่งมาจนถูกไฟคลอกตายซะก่อน
"ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นะ...."
"ชิสุกะจัง..."
โนบิตะรู้สึกถึงความรู้สึกเจ็บปวดของพวกชิสุกะดี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมัวเอ้อระเหย... หรือเวลาปลอบใจสักเท่าไหร่นัก เซย์นะพยายามรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดและพาตัวชิสุกะให้ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ซึ่งตรงบริเวณบันไดที่จะพาลงกลับไปชั้น 1 ของอีกฝั่ง โนบิตะได้พบกับยานอฟที่กำลังทำการตรวจสอบเครื่องยิงจรวด RPG อยู่
เขาพูดประมาณว่า...เขาได้ทำการเคลียร์พื้นที่และปิดเส้นทางรอบด้านที่คาดว่าพวกซอมบี้จะบุกเข้ามาแล้ว (อย่างที่บอกว่าเขตเพลิงที่กั้นอยู่แถวนี้เกิดจาก RPG ของยานอฟด้วย) ที่นี่คงจะปลอดภัยสักระยะ
แน่นอนว่าเขาพูดออกมาเป็นภาษารัสเซีย ทำให้โนบิตะงงอีกครั้งว่า เขาพูดอะไรกันแน่...? แต่ก็พอเดาได้อยู่
พวกโนบิตะ ชิสุกะ เซย์นะ โดราเอม่อน ซูเนโอะ ซาช่า และเอสเตอร์รีบวิ่งลงบันไดตามกลุ่มพวกลิทชี่ที่นำหน้าไปติดๆ ปรากฏว่าพวกเขากำลังติดแหง่กอยู่ที่ประตูทางออกขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนว่าต้องใช้รหัสในการปลดล็อก และมันแข็งแกร่งมากจนไม่สามารถทำลายประตูด้วยปืนที่มีอยู่ แต่ระเบิดที่พวกเขามีก็ไม่เพียงพอที่จะใช้ทำลายประตูได้ ตอนนี้จึงจำเป็นต้องพึ่งเจ้าหน้าที่หนุ่มลูกน้องของโทชิบะแก้ไขรหัสอยู่
โนบิตะวิ่งมาด้านข้างลิทชี่ และได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่าง...
แต่ดูเหมือนในยามคับขันแบบนี้ เขากลับลืมตัวพูดเป็นภาษาของตัวเอง (ภาษารัสเซีย) ซะอย่างนั้น
"เอ๋ ?? เขาพูดว่าอะไรเนี่ย"
"...ไปให้ถึงที่ปลอดภัยก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆค่อยคิดทีหลัง..."
จู่ๆ ก็มีคนแปลคำพูดของลิทชี่ให้โนบิตะเข้าใจ...
และคนๆนั้นก็คือ....
เจ้าหน้าที่ เซก้า!!! ซึ่งเป็นคนที่ไม่เคยมีบทพูดเลยตอนอยู่ในกลุ่ม U.B.C.S.
และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดประโยคยาวๆออกมาแบบนี้
"ขะ...ขอบคุณครับ"
จากนั้นพอโนบิตะเดินเข้าไปอยู่ด้านข้างพี่สาวผมบลอนด์รีซิสซ่า ก็ได้ยินหล่อนพึมพำบางอย่างออกมา
"เอ่อ... ไม่ทราบว่า คุณจะบอกอะไรเหรอครับ"
แล้วเซก้าก็แปลให้ฟังประมาณว่า เธอหัวเสียมากที่้องมาติดตรงนี้แต่ไม่ต้องห่วง ถ้ามีไอ้ผีบ้าตัวไหนมา แม่จะยิงให้ร่วงเลย ขอให้อดทนเข้าไว้ละกัน
"ขะ...ขอบคุณครับ"
แต่ว่า พอโนบิตะจะเข้าไปคุยกับเซก้าบ้าง ปรากฏว่า เขากลับไม่พูดอะไรออกมา...
และข้างๆเซก้านั้นก็มีเดคิสุงิกับไจแอนท์ยืนอยู่ใกล้ๆ
"เราจะไว้ใจไอ้พวกนั้นได้ไหมเนี่ย?"
"คนของพวกอัมเบรล่าถึงจะยังไม่สามารถเชื่อใจได้ก็จริง
แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยพวกเราออกไปจากเมืองนี้ได้นะ"
เดคิสุงิพยายามพูดอธิบายให้ไจแอนท์สงบลง โดยส่วนตัวเดคิสุงิก็ไม่ไว้ใจพวกเขาเหมือนกัน แต่ตอนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่น และแน่นอนว่า พวกเขาเองก็คงไม่อยากตายที่นี่ด้วย ดังนั้นส่วนนี้จึงเป็นหลักประกันที่ทำให้เขายังคงมั่นใจว่า พวก U.B.C.S. กลุ่มนี้จะไม่ทำอะไรที่มันออกนอกลู่นอกทางแน่นอน
ในตอนนั้นเอง พวกโนบิตะก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง...
"กรี๊ดดดดดดดด!!!!"
"ชิสุกะจัง เกิดอะไรขึ้น!!?"
"ไฟที่ไหม้อยู่ดับหมดแล้ว ตอนนี้พวกซอมบี้กำลังตามเข้ามาแล้วล่ะค่ะ!!!!"
"ว่าไงนะ!!! "
ลิทชี่ได้ยินจึงรีบตะโกนถามเจ้าหน้าที่ที่ปลดรหัสประตูโดยเร็ว เขาบอกว่า อีกไม่เกิน 3 นาทีน่าจะไขประตูออกได้แล้ว.... เมื่อได้ยินเช่นนั้นลิทชี่จึงจับอาวุธในมือไว้แน่นพร้อมกับตะโกนออกคำสั่งทุกคน...
"ทุกคน... พยายามต้านมันไว้ให้ได้...!!!!"
ลิทชี่บอกให้ทุกคนที่มีอาวุธเตรียมยิงฝูงซอมบี้ที่กรูกันเข้ามาทันที ไม่เว้นแม้แต่พวกโนบิตะ!!! พวกเด็กๆทุกคนต่างก็หยิบปืนพกคู่กายมาประจำข้างตัวไว้ แล้วเล็งเป้าไปที่ทางเดิน ที่พวกมันกำลังเข้ามา
"พยายามต้านมันไว้ให้ได้นะ ทุกคน!!!"
พวกซอมบี้จำนวนมากกำลังกรูกันเข้ามาตามทางเดินแคบๆในตึกจนมาถึงบริเวณที่พวกโนบิตะและพวกลิทชี่อยู่
"โจมตี!!!"
ลิทชี่ออกคำสั่งให้ทุกคนระดมยิงฝูงซอมบี้ทั้งหมด.... อาวุธที่หน่วย U.B.C.S. ใช้ในแนวหน้ามักจะเป็นพวกปืนลูกซองไม่ก็ปืนกล
การสาดกระสุนสุดมันส์ได้เริ่มต้นขึ้น...
"เร็วๆ เข้า!!!!"
ลิทชี่พูดเร่งเตือนเจ้าหน้าที่หนุ่ม เพราะท่าทางการต่อสู้นี้คงจะถ่วงเวลาได้ไม่นานนักพวกซอมบี้ที่บุกมานั้นมีจำนวนเยอะมากจนทำให้เจ้าหน้าที่ U.B.C.S. บางคนในแนวหน้าเริ่มเสียหลัก แต่พวกเขาที่อยู่ด้านหลังก็คอยคุ้มกันคนด้านหน้าได้เป็นอย่างดี
การสาดกระสุนดำเนินไปพักใหญ่ๆ พวกซอมบี้หลายตัวถูกกระสุนปืนยิงจนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แต่ดูท่าว่าพวกมันจะไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
"บ้าเอ้ย!"
เจ้าหน้าที่ U.B.C.S. บางคนยิงจนกระสุนหมด จึงเปลี่ยนอาวุธมาใช้ปืนพกยิงกระหน่ำใส่ฝูงซอมบี้ไม่ยั้ง พวกเขาไม่มีเวลามากังวลเรื่องจำนวนกระสุนแล้ว
"โอเคได้แล้ว!!!"
เหมือนดั่งเสียงแห่งสวรรค์ เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการปลดล็อกประตูสามารถทำได้สำเร็จ เมื่อได้ยินดังนั้นลิทชี่จึงรีบวิ่งไปที่ประตู ซึ่งมีรีซิสซ่าอยู่ใกล้ๆ
ทั้งคู่ช่วยกันผลักประตูเปิดออกไป
"ดีล่ะ... ทุกคนรีบออกไปเร็วเข้า!!!!"
"ทุกคนรีบวิ่งออกไปทางประตูเร็ว!!!"
ลิทชี่จึงรีบวิ่งออกไปด้านนอกพร้อมกับรีซิสซ่าและเปิดประตูกว้างให้คนอื่นรีบวิ่งหนีกันออกมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. คนอื่นๆ หรือแม้แต่พวกเด็กๆทุกคน....รวมถึง ซาช่าก็หนีออกมาเรียบร้อย...
ยกเว้นเจ้าหน้าที่ลูกน้องของโทชิบะคนเดียวที่ยอมออกเป็นคนสุดท้าย แต่แล้วก็ต้องพบเรื่องไม่คาดฝันเมื่อซอมบี้พวกนั้นกลับคว้าร่างของเขาไว้ได้!!
"แย่แล้ว!!!!!"
ลิทชี่พยายามจะเอิ่อมมือเข้าไปช่วยจนเขาเกือบลืมไปว่าเขาจับประตูเลื่อนง้างไว้อยู่จนทำให้ประตูเริ่มปิด แถมซอมบี้ที่อยู่ด้านหลังก็คว้าร่างของเจ้าหน้าที่คนนั้นมากเกินไป.... เขาคงจะช่วยออกมาไม่ได้แน่ๆ
แถมเจ้าหน้าที่คนนั้นยังพูดออกมาว่า...
"อย่าหันกลับมาทางนี้นะ!! รีบไป!! เร็วเข้า!!"
"คุณเจ้าหน้าที่!!"
"เดี๋ยวก่อนโนบิตะ! เราช่วยเขาไม่ทันแล้ว!!!"
หลังจากนั้นไม่นานประตูนั้นก็ค่อยๆปิดลง และภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นก็คือ..เจ้าหน้าที่คนนั้นยอมสละตัวเองอย่างห้าวหาญและโดดถอยหลังกลับเข้าไปด้านใน
ประตูก็ได้ปิดลงพร้อมกับเจ้าหน้าที่หนุ่มลูกน้องของโทชิบะผู้กล้าหาญอีก 1 ชีวิต
"บ้าเอ้ย........โชคดีนะ...."
พวกโนบิตะและเหล่าเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. ทุกคนต่างรอดชีวิตเพราะการนำทางของเจ้าหน้าที่คนนั้น...ซึ่งความกล้าหาญและเสียสละของเขาจะเป็นที่จดจำของพวกเขาไปตลอดชีวิต...
การเดินทางมุ่งหน้าไปยังเส้นทางไฮเวย์ของพวกเขายังไม่จบลง....
แต่ก็เข้าใกล้เป้าหมายไปแล้วทุกที...
=======================================================================
ตัดฉากมาทางด้านโทชิบะ.....ที่อยู่รั้งท้ายภายในเมือง
ณ ตอนนี้พวกเธอกำลังเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้จำนวนมากที่ล้อมรอบพวกเธออยู่
แถมกระสุนปืนพกก็ดันมาหมดเสียแล้ว เธอจึงชักมีดขึ้นมา...
"ถ้าคิดว่าจะจัดการฉันได้ก็ลองดูสิ"
ซอมบี้ตัวหนึ่งพุ่งเข้าประชิดเธอได้และพยายามใช้มือคว้าร่างของเธอไว้ แต่โทชิบะสามารถสไลด์หลบไปด้านข้างก่อนที่จะยกมีดแทงสวนไปปักกลางหลังศีรษะจนตายจากนั้นจึงถีบให้กระเด็นออกไป ในขณะที่ซอมบี้อีกตัวอาศัยจังหวะนั้นงับเธอ แต่เธอก็ไหวตัวทันจึงหลบการจู่โจมของมันได้
พร้อมกับตีเข่าเสยกระเด็นกลับไป ก่อนที่จะกระโดดเหวี่ยงตัวเตะซอมบี้โดยรอบกระเด็น....
เธอประเมินสถานการณ์แล้วว่าถ้าสู้ตรงต่อไปล่ะก็คงจะเสียเปรียบแน่ๆ เธอจึงรีบหาทางหนีโดยการไต่ขึ้นไปบนขอบอิฐ เพื่อกระโดดหนี แต่แล้วก็มีซอมบี้ัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาตรงจุดที่เธอตกไปพอดี เธอจึงย้ายตำแหน่งขาขึ้นมาประทับหน้าของซอมบี้ตัวนั้นและใช้มันเป็นแท่นโดดอีกจังหวะหนึ่ง
พร้อมกับหาทางหนีเข้าไปในตัวอาคาร....แล้วล็อกประตูหนีพวกมันได้สำเร็จ
ดูเหมือนว่าภารกิจของเธอในตอนนี้จะเป็นการดึงความสนใจพวกซอมบี้ในบางพื้นที่ไม่ให้เข้าใกล้พวกลิทชี่ในขณะที่พวกเขากำลังจะหนี....
(หวังว่าพวกเขาคงจะปลอดภัยดีนะ....)
เธอเดินสำรวจตามอาคารและพบกับกระสุนปืนจำนวนหนึ่งจึงได้หยิบขึ้นมาบรรจุปืนพกที่เธอมีอยู่ แะละที่แห่งนั้นเธอก็ได้พบกับเบาะแสอะไรบางอย่าง....
รวมถึงศพของนักวิทยาศาสตร์ปริศนา.... เธอพบว่าเขาคงจะตายไปแล้ว และพอเธอเดินหันหลังกลับไปก็พบว่า....
จู่ๆร่างซอมบี้ของเขาก็พุ่งเข้ามาหาเธออย่างเร็ว
"แย่แล้ว!!!!!!"
ชะตากรรมของโทชิบะจะเป็นอย่างไรต่อไป เธอจะสามารถกลับไปรวมกลุ่มกับพวกลิทชี่ได้หรือไม่
To be continue....
คลิปประกอบในเกมส์จริงๆ (มีนิดเดียว เนื้อเรื่องตอนนี้เมคขึ้นเองล้วนๆ)
ปล. อันที่จริงเนื้อหาในเกมส์บทนี้มีโคตรน้อยมากๆ เลยใส่เนื้อหาอารมณ์บู๊เพิ่มแทน ซึ่งเนื้อหาในฉากนี้ค่อนข้างตรงกับเนื้อเรื่องใน RE6 เลยทีเดียว แถมเพื่อความสมบูรณ์ของคลิปเลยมีการใส่ตัวประกอบเพิ่มไปตัวนึงแทนด้วย..... แต่ก็นะ.....
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น