" />

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 15]

ภารกิจตามหาซาช่าของเหล่าเจ้าหน้าที่ UBCS จากบทความ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 14] ยังคงดำเนินต่อไป...


พวกเขาตามแกะรอยจนมาถึงเมืองที่ซาช่าปรากฏตัวครั้งสุดท้าย และที่แห่งนั้นก็คือ เมืองบ้านเกิดของพวกโนบิตะที่เคยอาศัยอยู่...

เซก้ายืนนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านของโนบิตะก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป...


และสิ่งที่เขาพบภายในบ้านหลังนั้นก็คือ....





บทที่ 15
ภารกิจในประเทศญี่ปุ่นของหน่วย U.B.C.S.
ภาคแกะรอยไล่ตามข้อมูลที่สูญหาย


ภายในบ้านไม้ที่มืดมิด ไร้ซึ่งแสงไฟ แต่ชายหนุ่มที่มีชื่อว่าเซก้าสามารถมองเห็นทัศนียภาพภายในบ้านอย่างชัดเจนเนื่องจากแว่นไนท์วิชั่นที่เขาสวมอยู่ทำให้มองเห็นในที่มืดได้

เขาจัดการเชือดฮันเตอร์ด้วยมีดยักษ์คู่กายไปอีกตัวหนึ่ง...


เขาพบรอยกระสุนที่ซาช่ายิงเข้ามาในบ้านหลังนี้ และเมื่อเขาเดินลึกเข้าไปในครัวก็ต้องพบกับ...

กองกระดูกของมนุษย์จำนวน 2 กอง


กองที่อยู่หน้าเตาอบดูเหมือนจะเป็นของมนุษย์ผู้หญิงและมีรูอยู่ที่กะโหลกส่วนหัว


หากใครยังจำได้ นี่ก็คือโครงกระดูกของแม่โนบิตะในบทความในภาค 1 >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

ส่วนซอกด้านในก็ดูเหมือนจะเป็นกระดูกของมนุษย์ผู้ชาย (ซึ่งก็คือ พ่อของโนบิตะ)


นอกจากนี้ทางด้านข้างกระดูกแม่ของโนบิตะ เขายังพบชิ้นส่วนผ้าประหลาดๆสีขาวรูปครึ่งทรงกลมที่ขาดวิ่นจนดูแล้วไม่น่าจะใช้เก็บของอะไรได้ตกอยู่ด้วย  (ซึ่งมันก็คือ กระเป๋า 4 มิติของโดราเอม่อนที่ขาดตอนที่โดราเอม่อนเอาตัวเข้ามาขวางแม่ของโนบิตะไว้ก่อนที่จะทำร้ายโนบิตะนั่นเอง)


หลังจากนั้น เซก้าก็ไม่พบอะไรเป็นที่น่าสนใจอีก เขาจึงตัดสินใจเดินออกจากบ้านหลังนี้ไป โดยก่อนที่จะออกจากบ้าน ลิทชี่ก็วิทยุติดต่อเข้ามาพอดี เขาบอกให้เซก้ามารวมตัวกันที่อพาร์ทเม้นที่เขาอยู่ได้แล้ว ซึ่งพวกรีซิสซ่าเองก็อยู่ที่นั่นแล้ว...


ซึ่งจุดนั้นเป็นจุดสุดท้ายที่พวกเขาทุกคนยังไม่ได้สำรวจ  ทันทีที่ออกจากบ้านของโนบิตะ เซก้าจึงรีบมุ่งหน้าไปตามถนน (เส้นทางที่โนบิตะวิ่งหลบลูกกระสุนปืนของซาช่า) เข้าไปในอพาร์ทเม้นทันที


เมื่อเข้าไปในอพาร์ทเม้น ลิทชี่ก็ติดต่อมาว่าพวกเขาสำรวจที่ชั้น 2 เรียบร้อยแล้ว ให้รีบวิ่งขึ้นมาที่ชั้น 3 ได้เลย


เซก้าจึงรีบวิ่งขึ้นมาบนชั้น 3 ก็พบกับศพของพวกฮันเตอร์(เบต้า) เต็มไปหมด ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกพวกลิทชี่จัดการ


ที่ชั้น 3 เซก้าพบว่า สมาชิกทุกคนในหน่วยก็มารวมตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทันที่ลิทชี่มองเห็นเซก้า

"มาช้านะเซก้า!! นายมาถึงเป็นคนสุดท้ายเลยนะ"

(เจ้าของบล็อก : ทำไมเซก้ามันทำอะไรช้าตลอดเลยวะ - -a)


ลิทชี่บอกว่า พวกเขาทุกคนไล่สำรวจห้องที่อยู่ตรงริมครบทุกห้องแล้ว เหลือแต่ห้องตรงกลางที่ปิดตายนี่เท่านั้น...ซึ่งรีซิสซ่ากำลังทำการสะเดาะกลอนอยู่


แกร๊ก!!!!  เธอสามารถปลดล็อกประตูได้สำเร็จ

"พร้อมแล้วค่ะ หัวหน้า"


ลิทชี่พูดขึ้นมาว่า บางทีสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูบานนี้อาจจะไม่ใช่องค์หญิง (หมายถึงซาช่า) อย่างที่เราคิดกันก็ได้ บางทีมันอาจจะเป็นพวกฮันเตอร์หรือเจ้าหมาบ้า (เคลเบรอส) พวกนั้น


เพื่อความไม่ประมาท ลิทชี่สั่งให้ทุกคนเตรียมอาวุธเอาไว้ให้พร้อม และเอ่ยถามขึ้นมาว่า ใครมีระเบิดแสง (แฟลชบอมบ์ - Flash Bomb) หรือเปล่า..


รีซิสซ่าก็หยิบแฟลชบอมบ์ที่เสื้อกั๊กของตนเองขึ้นมาพร้อมกับบอกว่า นี่ลูกสุดท้ายแล้วนะ


หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ลิทชี่ก็ออกคำสั่งให้เซก้ากับยานอฟคอยระวังหลังอยู่นอกห้องก่อน ส่วนเขา รีซิสซ่า และเอสเตอร์จะเป็นคนบุกเข้าไป


ทันทีที่ลิทชี่ทำสัญญาณมือ รีซิสซ่าจึงแง้มประตูห้องพร้อมกับโยนระเบิดแสงที่ดึงสลักออกแล้วไปข้างในก่อนปิดประตู.....พร้อมรอเสียงสัญญาณการบุก


"ไป ไป ไป!!!!!!"


ลิทชี่ รีซิสซ่า และเอสเตอร์รีบบุกจู่โจมเข้าไปในห้องสุดท้ายทันที....

เวลาผ่านไปสักพัก...

เซก้ากับยานอฟยังคงรอสัญญาณอยู่นอกห้องอยู่สักระยะ จนกระทั่งเสียง รีซิสซ่ากับเอสเตอร์ตะโกนออกมาว่า "เคลียร์"


เมื่อทำการสำรวจว่าภายในห้องนั้นปลอดภัยแล้ว ลิทชี่จึงตะโกนบอกให้ทั้ง 2 คนที่อยู่ข้างนอกเข้ามาทำการค้นหาในห้องโดยละเอียด


และสิ่งที่เขาพบในห้องนั้นคือ...

"ยัยนี่....ไม่ขยับเลยแฮะ"


ลิทชี่พูดขึ้นขณะที่เดินอยู่ข้างๆร่างของหญิงสาวหัวชมพูที่ล้มนอนอยู่ภายในห้อง

ยานอฟจึงรีบเข้ามาดู

"เอ่อ มาช่วยทันหรือเปล่าครับเนี่ย"


เอสเตอร์ก็บอกว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น...ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้มานอนไม่ได้สติอยู่ตรงนี้ได้ แต่เขาตรวจสอบแล้วว่า เธอยังมีชีวิตอยู่แน่นอน


รีซิสซ่าพูดเสริมขึ้นมาว่า สงสัยต้องรอให้เจ้าตัวฟื้นขึ้นมาก่อนถึงจะสอบถามเรื่องอื่นๆได้ล่ะมั้งเนี่ย


เมื่อเห็นดังนั้นลิทชี่จึงออกคำสั่งเพิ่มว่า ให้เซก้ากับยานอฟสำรวจห้องนี้เพื่อหาข้อมูล บันทึกของผู้หญิงคนนี้ให้ทั่ว


ส่วนตัวเขากับรีซิสซ่าก็จะพาผู้หญิงคนนี้ไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อทำการปลุกและรีดข้อมูลต่อ



ตัดมาด้านซาช้าที่กำลังมึนๆสลึมสลือ....

...อึก.....


เธอเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้น...

...อา...นี่...คง....เจ้าพวกนั้น (สัตว์ประหลาด)...บุกเข้ามา
ในห้องได้แล้วสินะ...ไม่ไหวแล้ว เราคงมาได้แค่นี้สินะ..


"ลาก่อน...โลกใบนี้
ลาก่อนเพื่อนๆทุกคน
ลาก่อน..."


ซาช่าละเมอดังออกมาจนรีซิสซ่าที่อยู่ใกล้ๆได้ยิน แล้วเกิดอาการยั๊วะขึ้น!!!


(ยะ....ยัยนี่....ละเมออะไรของหล่อนเนี่ย!!?)

รีซิสซ่าไม่รอช้า เธอจึงใช้สันมือ ฟาดป๊าบ เข้าไปกลางศีรษะของซาช่าทันที

เฮือก!!!!!


ซาช่าถึงกับลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลกภายนอก ก็พบว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยมีผู้คนแปลกหน้าในชุดเครื่องแบบทหารกำลังรุมจ้องมองเธออยู่..... (ปล. ตอนนี้เธอเหลือชุดแค่เสื้อกล้ามเท่านั้น)

ลิทชี่พูดขึ้นมาว่าพวกของเขาไม่เจอข้อมูลที่ผู้หญิงคนนี้บันทึกอยู่เลย ดังนั้น มีหนทางเดียวที่จะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนนั่นก็คือสอบถามจากปากของเจ้าตัวโดยตรง


แล้วลิทชี่ก็พูดทักซาช่า...

"เธอน่ะ...ชื่อซาช่าสินะ"


 "ค  ค่ะ..."

**ตอนนี้ ซาช่าสามารถพูดกับเจ้าหน้าที่ UBCS ได้ชัดเจนเพราะพวกเขาพูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษที่แต่ละฝ่ายถนัด**


ลิทชี่บอกกับซาช่าว่า พวกเขามาเพื่อช่วยเหลือเธอที่กำลังบันทึกข้อมูลสำคัญของอัมเบรล่า (บันทึกเกี่ยวกับฮันเตอร์) อยู่และทางสำนักงานใหญ่ต้องการมันมาก



????


และลิทชี่ก็พูดต่อว่า พวกเขาหาข้อมูลที่ซาช่ารวบรวมไว้ไม่พบ


เอสเตอร์บอกว่า พวกเขาลองหามันทั่วแล้ว แต่มันไม่ได้อยู่ในตึกนี้


รีซี่จึงพูดเสริมขึ้นมาว่า บางทีเธอคงพอรู้ใช่ไหมว่า เธอเก็บมันไว้ที่ไหน??


ซาช่าจึงนึกย้อนไปก่อนที่เธอจะสลบ...และในที่สุดเธอก็พอจะนึกออกแล้วว่าข้อมูลที่เธอรวบรวมมานั้น...การที่มันหายไปแบบนี้ ก็คงมีแค่เหตุผลเดียว...

"อะ....เออ.....ระ เรื่องนั้นคือ.......แบบว่า..."


"นะ นี่เธอ...อย่าบอกนะว่า..."

รีซิสซ่าเริ่มรู้สึกไม่ดี


".....มันถูกขโมยไปแล้วล่ะ..."


เหล่า UBCS แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินจากปากหญิงสาวคนนี้ ลิทชี่จึงถามต่อ...

"แล้วใครขโมยมันไป?"


"พวกเด็กๆ"

นั่นเป็นคำตอบที่ซาช่าไม่อยากจะพูดออกมาเลยเพราะนับได้ว่าเป็นความอับอายมาก ถึงมากที่สุด


ลิทชี่ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่

"เด็กเนี่ยนะ?"


"อือ เจ้าพวกนั้นมีประมาณ 6 คนได้มั้ง..."



ลิทชี่ถามต่อ

"พวกนั้นเอาไปเมื่อไหร่"


"เมื่อวานซืน (2 วันก่อน)"


ลิทชี่เริ่มสงสัยว่า คนที่ขโมยไปได้นี่เป็นแค่เด็กจริงๆหรือ...หรือว่า เขาจะได้ยินเป็น..

"พวกหน่วยพิเศษที่ใช้ชื่อรหัสว่า 'เด็ก' ใช่ไหม?"


"พวกนั้นเป็นเด็กจริงๆนะ ฉันเห็นกับตา"


"นี่เธอ เล่นตลกคาเฟ่กับฉันใช่ไหม?"


"คะ เค้าพูดจริงๆนะ"


"แน่นะ?"


"เรื่องจริงสิ..."


ซาช่าแทบจะกราบเท้าหรือสาบานต่อหน้าพวกเขาเลยว่า สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง...  ลิทชี่จ้องมาดูซาช่าสักพัก ทำให้เขารู้ว่า ท่าทางเธอไม่ได้พูดโกหก... อีกทั้งยังมีข่าวลือภายในเกี่ยวกับอัมเบรล่าว่า พวกเขากำลังถูกบ่อนทำลายโดยผู้ร้ายที่เป็นเด็กจริงๆ บางทีคงจะหมายถึงเด็กพวกนี้ก็ได้ ตอนแรกลิทชี่ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่หลังจากที่เขาได้เห็นสิ่งที่เอสเตอร์เคยรายงานมาเมื่อครั้งก่อนหน้านั้นในบทความ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [ปฐมบท]  ทำให้เขาเริ่มเชื่อขึ้นมาบ้าง

จากนั้นลิทชี่ก็ออกคำสั่ง..

"เซก้า ติดต่อคุณโตชิบ้าที...ดูเหมือนเราจะเจอปัญหาซะแล้ว"


เซก้าทำตามที่หัวหน้าหน่วยบอก เขาเปิดวิทยุสื่อสารติดต่อหัวหน้าโทชิบะ ทันที พร้อมกับเปิดลำโพงให้สมาชิกคนอื่นๆฟังด้วย

"จ้า จ้า  โทชิบ้าพูดอยู่จ้า  นั่นใช่หน่วย UBCS หรือเปล่าจ้ะ?"


เสียงใสๆของหญิงสาวดังออกมาจากลำโพง.....ช่างดูไม่เข้ากับบรรยากาศที่พวกเขาอยู่เลย

"มีอะไรเหรอจ้า... เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?"


เซก้าได้พูดอะไรบางอย่างเข้าไปในวิทยุให้โทชิบะฟัง (ซึ่งแน่นอนว่า คนในหน่วยไม่ได้ยินเสียงพูดคุยของเซก้าตามเคย....)

"เอ๋...งั้นหรอกเหรอ....
ว้า...ถ้าเป็นแบบนี้มีหวัง   เบื้องบ่นได้หัวเสียกันใหญ่แน่เลยอ่า...."


"แถมพวกเด็กๆ ก็เอาข้อมูลที่เราต้องการไปด้วยงั้นสิน้า...
อืมๆๆ ดูท่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่เลยเนอะ...
ขืนเป็นแบบนี้เธอคงไม่มีหน้าไปพบกับพวกเขาได้แหงๆ"


"อ่ะ....เอาเป็นว่า...พวกเธอกลับมาได้แล้วจ้า.... ยกเลิกภารกิจค้นหาแล้วก็กลับมากันเถอะ
ส่วนผู้หญิงคนนั้น พวกเธอจะจัดการยังไงก็ได้ตามสบายน้า...."


จากนั้นโทชิบะก็ตัดสายไป..... รีซิสซ่าก็ทำหน้าเครียดขึ้นมา

"ถ้าอย่างนั้น..."


และแล้วเธอก็ยกปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อไปที่ซาช่า

"สงสัยต้องฆ่ายัยนี่ทิ้งจริงๆซะแล้ว"


เอสเตอร์ก็ยกปากกระบอกปืนขึ้นเหมือนกัน พร้อมกับบอกว่า...

"ฉันก็เห็นด้วย"


ยานอฟไม่พูดอะไรแต่เขาก็ยกปากกระบอกปืน RPG มาจ่อซาช่าเหมือนกัน

(คนเขียน : เฮ้ยๆๆๆ ปากกระบอก RPG นะเฮ้ย!! ยิงทีก็ตูมสิฟะ)


เมื่อเห็นดังนั้น ลิทชี่จึงตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า...

"เดี๋ยวก่อน ทุกคน!!! 
ถึงยัยนี่จะไม่มีประโยชน์แล้ว แต่ก็เป็นพยานสำคัญที่จะชี้ตัวเด็กพวกนั้นนะ.."


จากนั้นลิทชี่ก็บอกให้ทุกคนเตรียมสแตนด์บายไว้สำหรับภารกิจตามไล่ล่าเด็กพวกนั้นต่อ...


เขาบอกว่าตอนนี้ก็ใกล้จะสว่างแล้ว เดี๋ยวเตรียมตัวออกจากที่นี่กัน



ซาช่ารู้สึกตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นลิทชี่เดินเข้ามาใกล้ๆเธอ พร้อมกับทำหน้าซีเรียสและพูดอะไรบางอย่าง


"จากนี้ไป เธอจะต้องทำตามที่ฉันบอกและช่วยฉันจับเจ้าเด็กพวกนั้นแล้วเอาข้อมูลกลับมาให้ได้
ถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังเลยว่า เธอจะได้เป็นอิสระ...."


ซาช่าจึงต้องจำใจทำตามในสิ่งที่ลิทชี่บอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

(เฮ้อ.... นึกแล้วเชียวว่า...คนพวกนี้
ไม่ได้มาช่วยเราจริงๆ)


หลังจากนั้นไม่นานนัก เหล่า UBCS และซาช่าจึงถูกพาออกไปจากเมืองที่อันตรายแห่งนี้


---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ณ เวลาต่อมา ที่ห้องประชุมภารกิจของเหล่า U.B.C.S. ที่โทชิบะดูแลอยู่

บนกลางโต๊ะนั้นมีข้อมูลและรูปถ่ายของเด็กๆที่เป็นเป้าหมายจำนวน 7 คน  (ยาสุโอะกับเคนจินั้นตกสำรวจไป)



โทชิบะเริ่มพูดเปิดประเด็น

"แล้ว..นี่คือเหล่าเด็กๆที่พวกเธอพูดถึงกันสิน้า.... แหม น่ารักจัง..."


จากนั้นเธอก็นั่งไล่ดูประวัติของทุกคนพร้อมกับเอามาเทียบข้อมูลที่ลิทชี่รวบรวมมาจากซาช่า (ตอนนี้ซาช่าอยู่กับพวกลิทชี่แล้ว)


"ฮะฮะๆ ดูเหมือนว่าทางเบื้องบนเองก็หัวปั่นเพราะฝีมือเด็กพวกนี้มาเยอะเลยสิน้า..
ท่าทางอัมเบรล่านี่คงฝีมือตกไปเยอะเลยเนอะ"


โทชิบะรู้สึกขำกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนลิทชี่ขึ้นมาท้วงว่า เลิกขำแบบนั้นได้แล้วน่า...(เพราะหากบอกว่าอัมเบรล่าฝีมือตก ก็คงเหมารวมไปถึงพวกลิทชี่ที่ทำงานให้ด้วย)


"จ้า จ้า...."  โทชิบะจึงหยุดขำและเริ่มใช้ความคิด


คนเขียน : ต่อจากนี้บทพูดยาวจะยาวมากๆ ส่วนมากจะเป็นการบรรยายเหตุการณ์บลาๆๆๆๆ ดังนั้นขอสรุปย่อๆละกัน

โทชิบะบอกว่า ตอนนี้เธอได้รวบรวมข้อมูลจากที่ต่างๆมามากพอแล้ว ทำให้ทราบว่า พวกเด็กๆพวกนั้นกำลังอาศัยอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไม่ไกลจากเมืองร้างมากนัก พวกเขาปักหลักกันอยู่ที่นั่น


ถึงพวกเขาจะพยายามซ่อนตัวมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายสืบของโทชิบะได้ (เพราะคนรู้จักของเธอในเมืองนั้นมีเยอะมาก)


เธอสั่งให้พวกเขาจับตาและเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเด็กพวกนั้นและรายงานมาตลอดจนในที่สุด เธอก็คิดแผนการที่จะเริ่มการวางแผนจับเด็กพวกนั้นทุกคนในภาพถ่ายนี้สักที


โทชิบะหยิบรูปถ่ายขึ้นมา 2 ใบ ซึ่งเป็นรูปของเด็กผู้หญิงในกลุ่มของโนบิตะ เซย์นะ กับชิสุกะนั่นเอง

เธอบอกว่า เธอจะเล็งเป้าไปที่เด็กผู้หญิงพวกนี้ก่อน...เพราะถ้าจับตัวพวกเธอมาได้ล่ะก็...ทางพรรคพวกที่เหลือจะต้องรู้สึกสับสนกันใหญ่แน่ๆ และต้องวางแผนในการจับเด็กผู้หญิง 2 คนนี้นิดนึง


เอสเตอร์ก็พูดขึ้นมาว่า เราจำเป็นต้องวางแผนอะไรที่มันรัดกุมหรือซับซ้อนขนาดนี้ด้วยเหรอฝ่ายตรงข้ามเป็นแค่เด็กๆเองนะ บุกไปจับตรงๆก็ได้


ลิทชี่ประเมินสถานการณ์ว่าเขาเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เอสเตอร์บอก ... เด็กผู้หญิงแค่ 2 คนเอง


แต่โทชิบะก็บอกว่า ถ้าดูถูกเด็กพวกนี้ระวังจะเสียใจทีหลังนะ แถมยังอ้างด้วยว่า ขนาดซาช่ายังพลาดท่าเด็กพวกนี้มาแล้วเลย


เมื่อโดนพาดพิงถึง ซาช่าเลยสะดุ้งเป็นธรรมดา

............................


จากนั้นยานอฟจึงเอ่ยถามแผนการที่จะจัดการเด็กผู้หญิง 2 คนนี้ต่อ


โทชิบะหัวเราะ หุหุหุ พร้อมกับว่ามันต้องเป็นเรื่องที่น่าสนุกสำหรับทุกคนแน่ๆเลย จากนั้นเธอก็ได้บอกแผนการจับกุมเด็กสาวทั้งสองคนนี้


"ฉะ ฉันด้วยเหรอ??"

ไม่เว้นแม้แต่รีซิสซ่าที่เชี่ยวชาญการซุ่มยิงก็ยังต้องอยู่ในแผนนั้นด้วย


รีซิสซ่าคิดหนักว่า เธอต้องออกไปวิ่งไล่จับเด็กพวกนั้นด้วยเหรอ เพราะเธอไม่ถนัดเรื่องแบบนี้เลย (ถนัดยิงทิ้งอย่างเดียว) โทชิบะก็บอกว่า ไม่ได้เป็นหน้าที่แบบนั้นหรอก เพราะเธอก็เข้าใจเหมือนกันว่าลูกทีมในกลุ่มแต่ละคนถนัดอะไรบ้าง เธอจะเลือกบทบาทที่เหมาะสมเอง


หลังจากได้ยินแผน รีซิสซ่าก็ยืนยันว่า "เดี๋ยวจัดการเรื่องนั้นให้เอง!!"


จากนั้นโทชิบะก็สรุปแผนอีกครั้ง พร้อมกับบอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อเตรียมดำเนินการตามแผนต่อไป


คลิปประกอบ


ตัดฉากไปที่ห้องอาบน้ำหญิง....

เสียงฮัมเพลงที่ไพเราะของหญิงสาว ดังก้องไปทั่ว ราวกับเธอกำลังมีความสุขกับการชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยมาทั้งวัน

"พรุ่งนี้แล้วสินะ พรุ่งนี้แล้วสินะ....."

โทชิบะพูดอย่างร่าเริงด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสานั้น.....

ก่อนที่จะเปลี่ยนน้ำเสียงพูดใหม่


"ทำให้ฉันรู้สึกสนุกหน่อยละกัน พวกหนูๆทั้งหลาย..."


บทความถัดไป
การปะทะกันอันแสนดุเดือดระหว่างแก๊งเด็กแว่นกับเจ้าหน้าที่พิเศษของอัมเบรล่าได้เปิดฉากขึ้นแล้ว.....

แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ก่อนที่จะคิดว่าเป็นเด็กไม่มีใครสนใจม่อนหรอหรือคิดว่าแค่คนสวมชุด?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ในสามัญสำนึกของคนธรรมดาก็คิดว่าเป็นคนสวมชุดตุ๊กตาอ่านะ

      ลบ