" />

วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 13]

ความเดิมจากตอนที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12]

หลังจากที่ได้ข้อมูลจากซาช่าเพิ่มเติมว่าอัมเบรล่ากำลังตามล่าพวกโนบิตะอยู่ พวกโนบิตะจึงตัดสินใจหาทางหลบหนีออกจากเมืองแห่งนี้โดยใช้เส้นทางท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินของเมือง


ท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินเวลากลางคืนตอนนี้ค่อนข้างมืดมากจนแทบมองไม่เห็น หนำซ้ำพวกเขาก็พบว่า ภายในที่แห่งนี้ยังมีฝูงสัตว์ประหลาดจำนวนมากอย่างพวกฮันเตอร์มาอาศัยอยู่ด้วย พวกเขาจะสามารถเอาตัวรอดจากเหล่าสัตว์ประหลาดในท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินแห่งนี้ได้หรือไม่




บทที่ 13
สัตว์ประหลาดในความมืด


"ทุกคนระวังตัวด้วยนะ  เจ้าพวกนั้นมันจะบุกมาทางไหนบ้างก็ไม่รู้"


เดคิสุงิพยายามกล่าวเตือนทุกคนว่าให้ระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว แต่ว่า...

"หึ!!! ไอ้พวกบ้านั่นฉันจะฆ่ามันให้หมดเอง!!!"

"ไปกันเถอะ!! ซูเนโอะ!!"



แต่ดูท่าว่าไจแอนท์จะไม่ได้ฟังสิ่งทีเดคิสุงิพูดเลย

"หา!!! ฉันด้วยเรอะ!!!?"



"พูดมากน่า ไปกันได้แล้ว!!! ซูเนโอะ!!!"


เมื่อไจแอนท์พูดจบ เขาก็วิ่งนำหน้าหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็วโดยที่คนอื่นไม่สามารถห้ามไว้ได้


"ระ รอด้วยสิไจแอนท์!!! ไปคนเดียวมันอันตรายนะ!!!"


แล้วซูเนโอะก็วิ่งตามไจแอนท์หายเข้าไปในความมืดอีกคน ดูเหมือนว่าไจแอนท์จะยังไม่หายโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นข้างบนนั่นเลยจึงทำให้เขาตัดสินใจโดยไม่ทันคิด

"แย่แล้ว!! ขืนปล่อยให้ 2 คนนั้นไปล่ะก็อันตรายแน่!!!  โนบิตะคุง!!!!"


"ขะ เข้าใจแล้ว!!!"

เพียงแค่เดคิสุงิเอ่ยปากเรียกชื่อโนบิตะ เขาก็รู้แล้วว่าเดคิสุงิต้องการให้เขาทำอะไร... เขาจะต้องรีบตามหาตัวไจแอนท์กับซูเนโอะที่รีบร้อนบุกไปอย่างบ้าระห่ำกลับมาให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดอันตรายขึ้นกับพวกเขา


แต่ถึงกระนั้นโนบิตะก็ยังห่วงทางด้านเดคิสุงิอยู่ไม่น้อย ทว่า...เดคิสุงิก็บอกว่า พวกเขาเอาตัวรอดได้ แต่อาจจะไปกันช้าหน่อย เพราะดูเหมือนเซย์นะจะดูเหนื่อยๆหลังจากที่ผ่านอะไรมามาก ส่วนโดราเอม่อนก็ยังระแวงว่าจะเจอหนูอยู่ในท่อระบายน้ำหรือเปล่า ดังนั้นคนที่เดคิสุงิพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็มีแต่โนบิตะเท่านั้น

เรื่องที่โนบิตะห่วงเล็กน้อยก็คงเป็นเรื่องของซาช่าที่ถูกขังไว้ในห้องข้างบนตึกด้วยแต่..เซย์นะก็บอกว่า เธอจัดการเรื่องของซาช่าแล้ว เธอคนนั้นจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยในห้องนั้นแน่นอน




"ขอบคุณมากนะ คุณเซย์นะ ตอนนี้ผมขอตัวไปละ"


จากนี้ไป จะเป็นการผจญภัยสุดแสนอันตรายของโนบิตะภายในท่อระบายน้ำที่มืดมิดซึ่งจะกำหนดทัศนวิสัยการมองเห็นของโนบิตะไว้แคบมาก และจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงฮันเตอร์ในความมืดจำนวนมากด้วย การเล่นด่านนี้จึงเสี่ยงต่อการเกมส์โอเวอร์เป็นอย่างมาก ดังนั้นให้ทำการเซฟให้เรียบร้อยก่อนลุย  (จุดเซฟอยู่ใกล้กับจุดเริ่มต้นในท่อระบายน้ำ)



แต่ว่าภายในเกมส์นั้นจะมีตัวช่วยอยู่ ซึ่งหากเดินไปทางด้านขวาผ่านตัวโดราเอม่อนไป


จะพบ NPC ซอมบี้ยืนหมุนติ้วๆๆๆ ซึ่งหากลองคุยด้วยมันจะบอกว่า ต้องการตัวช่วยหรือไม่ เพราะด่านนี้เล่นยากมาก


ซึ่งไอเท็มช่วยเหลือนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ... (ตรงนี้ไม่มีใครแคสต์เลือกตัวช่วยเลย เลยบอกไม่ได้ว่าตัวช่วยมันใช้งานแบบไหน แต่ถ้าให้เดาคาดว่า ใช้แล้วจะเกิดแสงสว่างเหมือนด่านปกติ หรือไม่ก็คอนตินิวเซฟได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่)
แต่ส่วนใหญ่จะเลือกข้อ 4 กัน ซึ่งนั่นก็คือ... จะลองพยายามด้วยตัวเอง


หลังจากที่ตอบข้อ 4 แล้ว ตัว NPC จะพูดว่า อาห์ ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก พร้อมกับให้กำลังใจส่งท้าย


ก่อนที่จะหัวระเบิดตายไป และไม่สามารถคุยกับมันได้อีก (ดังนั้นหากคิดจะเลือกใช้ตัวช่วย อย่าได้เลือกข้อสุดท้ายเป็นอันขาด)


หลังจากที่โนบิตะรับทราบภารกิจตัวเอง... เขาจึงรีบมุ่งหน้าเข้าไปในความมืดอีกคน 

"มะ มืดชะมัดเลย"

ถึงแม้เขาจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นเพียงอุปสรรคเล็กๆน้อยเท่านั้น

เขายังคงมุ่งหน้าต่อไป และพบว่ามีเสียงบางอย่างกำลังวิ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว..

!!!!!!!!!

ประสาทสัมผัสด้านการฟังของโนบิตะสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้เขาแยกแยะเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาได้ และมันเป็นเสียงฝีเท้าของ....


ฮันเตอร์สีเขียวตัวหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของเขาหมายที่จะเอากรงเล็บฟันโนบิตะ

"เหวอ!!!!!"

แต่เขาก็เบี่ยงตัวหลบตามสัญชาติญาณได้ก่อนที่จะยกปืนพกขึ้นเล็งยิงเข้าใส่ดวงตาของฮันเตอร์ทะลุไปจนถึงสมองตายได้อย่างแม่นยำ


"กะ...เกือบไปแล้ว!!!! อันตรายชะมัด!!!"

โนบิตะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่มืดมิดเรื่อยๆ หลายครั้งที่เขาโดนฮันเตอร์ลอบจู่โจมจากด้านหลัง


แต่โนบิตะก็สามารถเบี่ยงหลบการโจมตีในความมืดนั้นได้พร้อมกับยิงสวนมันจนตายทุกครั้ง แต่เขาก็พบว่าทุกครั้งที่เขาโจมตีใส่ฮันเตอร์มากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกได้ว่าพวกฮันเตอร์ต่างก็พุ่งเป้ามาที่เขาถี่ขึ้นและมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 

นั่นเป็นเพราะเสียงกระสุนปืนที่เกิดจากการต่อสู้ดังก้องขึ้นไปทั่วระบายน้ำที่เป็นตัวสัญญาณเรียกพวกฮันเตอร์ใกล้เคียงมาทางเขาเรื่อยๆ และที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ฮันเตอร์มีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินดีกว่าการมองเห็นมาก ดังนั้นความมืดจึงไม่ใช่อุปสรรคในการล่าเหยื่อของพวกมันแม้แต่น้อย

 และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกมันหลายตัวบุกเข้ามาหาโนบิตะพร้อมกัน


ถ้าเป็นตอนอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก เขาคงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ เพราะเขาจะรีบยิงจัดการฮันเตอร์ในระยะไกลหมดก่อนทุกครั้ง แต่มันเป็นเพราะความมืดภายในทางเดินที่ทำให้วิสัยทัศน์ของเขามีจำกัด พวกมันจึงล้อมเขาในระยะประชิดอย่างง่ายดาย

(แย่ล่ะสิ ถูกพวกมันล้อมแล้ว...)

พวกมันรุมล้อมโนบิตะไว้ได้จนเขาไม่มีทางหนี


แต่ทว่า ในช่วงเวลาสั้นๆที่โนบิตะคิดว่า เขาอาจจะพลาดท่ามันแล้ว... เขาก็ได้หลับตาลง

(...) 

โนบิตะรวบรวมสมาธิในความมืด กรงเล็บของฮันเตอร์จากหลายด้านพุ่งเข้ามายังจุดตายของโนบิตะ ... อย่างช้าๆ....

เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมันในความมืดได้ดีขึ้น...

และในที่สุด....

"ตรงนั้น!!!"

ชั่วพริบตาที่กรงเล็บของพวกฮันเตอร์แทงเข้าไปในร่างของโนบิตะ กลับเป็นแค่อากาศที่ว่างเปล่า  โนบิตะเคลื่อนที่ตัวเองด้วยความไวสูงและหันปากกระบอกปืนไปทางเหล่าฮันเตอร์ที่มากระจุกรวมกัน


"ตายซะ!!!!!!"

เสียงกระสุนปืนดังลั่นติดต่อกันหลายนัดพร้อมกับร่างของฮันเตอร์จำนวนมากที่ล้มลงไปบนพื้นพร้อมเลือดที่สาดกระเซ็น



แม้ว่าพวกฮันเตอร์ที่วิ่งตามเข้ามาสมทบทีหลังระบุตำแหน่งเสียงปืนได้ แต่พวกมันก็ไม่อาจจะจับการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงของโนบิตะได้อีกต่อไป...

โนบิตะวิ่งอ้อมหลังของพวกมันไปได้อย่างง่ายดายโดยที่มันไม่รู้ตัวราวกับสายลม


เขาวิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆ จนพบว่ามีห้องๆหนึ่งในทางเดินนั้น


เขาเดินเข้าไปก็พบกับถังแก๊สจำนวนมาก แถมมีซากศพของฮันเตอร์จำนวนมากอยู่ในห้อง


พอเขาเดินลึกเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องออกมา...

"เฮ้ย!!!! อย่าเข้ามานะเว้ย!!!!"


"สะ เสียงแบบนี้มัน... ไจแอนท์นี่นา!!!?"


โนบิตะจึงรีบเดินมาตามต้นเสียง และพบว่า บริเวณใกล้เคียงมีศพของฝูงฮันเตอร์นับสิบตัวที่ถูกตายเพราะถูกของบางอย่างกระแทกทะลุจุดสำคัญจนเละเทะ... และที่ด้านในสุดนั้น เขาก็พบ...

"ไจแอนท์!!!"


ไจแอนท์โยนซากศพฮันเตอร์ที่อยู่ในมือเขาออกไปไกลๆ และตกใจมากที่ได้เห็น..

"นะ โนบิตะ!!!"


"นะ นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม!? โชคดีจริงๆ"


ไจแอนท์ตอบด้วยเสียงหอบอย่างเหนื่อยล้า

"เออ...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แต่ดันพลังหลงกับซูเนโอะไปน่ะสิ
มะ ไม่อยากเชื่อเลย.."


ไจแอนท์ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า เขาพลัดหลงกับซูเนโอะ ตอนที่ฝูงฮันเตอร์จำนวนมากบุกเข้ามาทางเขา เขารู้สึกผิดที่ตัวเองได้ไล่กำจัดฮันเตอร์ในท่อระบายน้ำโดยไม่ทันระวังว่า พวกมันจะได้ยินเสียงของเขาและมุ่งหน้ามาทางนี้ ไจแอนท์จึงตัดสินใจเป็นตัวหลอกล่อมันออกมากำจัดพร้อมกัน โดยให้ซูเนโอะหนีไปอีกทาง และสุดท้าย เขาก็ตามหาซูเนโอะไม่เจอ

"โนบิตะ......ช่วยตาหาซูเนโอะที..... มะ  มันเป็นความผิดของฉันเอง..."


"ไจแอนท์..."


โนบิตะรู้สึกได้ว่าไจแอนท์กำลังรู้สึกผิดไม่น้อย เขาจึงรับปากไจแอนท์ว่าจะช่วยตามหาซูเนโอะให้ แต่ก่อนที่เขาจะไป ไจแอนท์ก็ยื่นอะไรบางอย่างออกมา

"จริงสิ นายเอาเจ้านี่ไปด้วย ฉันพบมันตกอยู่ใกล้กับเจ้าพวกนั้น
..ขะ ขอฉันพักที่นี่สักครู่ก่อนนะ"


สิ่งที่ไจแอนท์ยื่นมาให้โนบิตะนั่นก็คือ...ชิ้นส่วนกุญแจท่อนบน..
เขาเล่าให้โนบิตะฟังว่า ตอนที่เขากับซูเนโอะสำรวจหาทางออกอยู่ก็พบกับประตูทางออกที่แข็งแกร่งมากและมันถูกล็อกด้วยกุญแจที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้ พวกเขาจึงตามหามันและก็พบกับชิ้นส่วนทั้ง 2 แต่ว่า ก็เกิดเหตุการณ์ที่ฮันเตอร์บุกเข้ามา ทำให้ชิ้นส่วนของกุญแจแต่ละชิ้นอยู่กับทั้งสองคน ดังนั้นโนบิตะจะต้องตามหาซูเนโอะเพื่อเอากุญแจอีกดอกมาประกอบกันให้ได้


"เข้าใจแล้ว...ฉันจะรีบตามหาซูเนโอะเอง ไม่ต้องห่วง"

"ขะ ขอโทษด้วยนะ โนบิตะ"

"ไม่เป็นไรหรอกน่า...."

โนบิตะจึงแยกกับไจแอนท์และมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่อันตรายอีกครั้ง เป้าหมายในคราวนี้คือ ตามหาซูเนโอะให้เจอ....


"ถอยไป!! พวกแกจับฉันไม่ได้หรอก!!!"


โนบิตะสามารถเอาตัวรอดจากฝูงฮันเตอร์ในความมืดได้อย่างง่ายดาย... และในที่สุด เขาก็เดินเข้าไปด้านในห้องๆหนึ่ง และภายในห้องนั่น เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังสั่นกึกๆอยู่ที่มุมห้อง เขาจึงรีบเดินเข้าไปดูก็พบกับ...


ซูเนโอะที่กำลังยืนตัวสั่นหันหลังชิดกำแพงที่มุมห้อง เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปเอามือแตะบ่าทักด้วยความดีใจ

"ซะ ซูเนโอะ!!!!"


"ว้ากกกกกกกกกกกก!!!!!"

"จะ ใจเย็นก่อนซูเนโอะ นี่ฉันเองนะ..."

เมื่อได้ยินดังนั้นซูเนโอะจึงค่อยๆหันมามองทางด้านหลังแล้วก็รู้สึกโล่งอก

"นะ โนบิตะเองเหรอ คะ ค่อยยังชั่ว...."


หลังจากพูดจบ เขาก็หงายหลังล้มตึงไปบนพื้น

"ซูเนโอะ!!?"


โนบิตะจึงรีบสำรวจอาการของซูเนโอะ ก็พบว่า เขาช็อกจนหมดสติไปแล้ว แต่โชคดีที่ดูท่าว่า ซูเนโอะสามารถเอาตัวรอดจากฝูงฮันเตอร์มาได้โดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น ที่เขาสลบไปคงเป็นเพราะกลัวมาก


เขาจึงคิดว่า ตอนนี้คงปล่อยซูเนโอะไว้ในห้องนี้ก่อน เพราะถ้าหากพาคนที่สลบอยู่ออกไปเลยคงลำบากแน่ๆ แต่จะปล่อยทิ้งให้นอนสลบไว้แบบนี้ตามลำพังก็ไม่ได้ด้วย เขาตัดสินใจหาถังน้ำมันเปล่าๆมาวางครอบตัวซูเนโอะไว้ พร้อมกับเขียนข้อความบอกว่ามีซูเนโอะอยู่ในนี้ เผื่อว่าพวกเดคิสุงิหรือไจแอนท์มาเห็นจะได้เข้ามาช่วยเหลือเขาออกไป


"อ้ะ!!! นั่นมัน..."


โนบิตะสังเกตเห็นว่ามีของบางอย่างตกออกมาจากกระเป๋ากางเกงของซูเนโอะ และพบว่ามันคือ ชิ้นส่วนของกุญแจท่อนล่างนั่นเอง  เขาจึงหยิบมันขึ้นมา


จากนั้น เขาก็เอาถังน้ำมันวางครอบทับซูเนโอะพร้อมเขียนข้อความก่อนออกจากห้องไป


โนบิตะวิ่งไปตามเส้นทางด้านในด้วยความเร็วสูงจนพวกฮันเตอร์ไม่สามารถไล่จับหรือสัมผัสตัวตนของเขาได้เรื่อยๆ


จนกระทั่งมาถึงประตูทางออกด้านในที่แน่นหนาและถูกล็อกด้วยกุญแจตามที่ไจแอนท์บอก

"ตรงนี้สินะ ประตูทางออก"


เขาเอากุญแจทั้ง 2 ดอกมาประกอบกันจนได้กุญแจที่สมบูรณ์และไขเปิดประตูเข้าไปด้านใน


เขาเปิดประตูออกมายังอีกฝั่งก็พบกับ...จุดเซฟ และศพของชายในชุดทหาร... (ตรงนี้แนะนำให้เซฟ)


โนบิตะสำรวจศพของทหารเพื่อควานหาของที่ใช้ได้ ปรากฏว่าเหลือแค่แม็กกาซีนปืนพกเท่านั้น


โนบิตะเดินตามทางต่อไปเรื่อยๆ จู่ๆเขาก็พบว่า เส้นทางท่อระบายน้ำข้างหน้าเริ่มสว่างขึ้นผิดหูผิดตา..

"หือ...? เส้นทางข้างหน้ามีแสงสว่างด้วย..."


โนบิตะรีบวิ่งไล่ไปตามทางเดินเพื่อหาต้นตอของแสงสว่าง เขาหวังว่าแสงนั้นจะเป็นหนทางที่จะพาเขาออกไปจากทางเดินที่มืดมิดแห่งนี้


เขาวิ่งมาจนถึงจุดๆหนึ่งก็เกิดแรงสั่นสะเทือนและการพังทลายจากด้านหน้าอย่างรุนแรงจนฝุ่นคลุ้งไปทั่วทางเดิน....

"มะ มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ!!?"




หลังจากที่ฝุ่นเริ่มจางลง เขาก็เห็นบางสิ่งขนาดใหญ่ร้องคำรามเบื้องหน้าเขาเสียงดังก้อง... มันเหมือนกับปากขากรรไกรขนาดยักษ์ที่มีฟันสีขาวรายล้อม


ขากรรไกรยักษ์ได้หุบลงเผยให้เห็นใบหน้าที่น่าสะพรึงอันใหญ่โตของสิ่งที่เรียกว่า...

จระเข้ยักษ์!!


จระเข้ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่พอจนขวางเส้นทางเดินของโนบิตะจนหมด




"วะ วะ วะ ว้ากกกกกกกกกกกกก!!!!
ไอ้เข้ยักษ์!!!!!!"



ที่ซ้ำร้ายกว่านั้น แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทำให้เส้นทางประตูด้านหลังของโนบิตะเกิดการปิดล็อกโดยอัตโนมัติ.... เขาไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้อีกแล้ว....!!!

ข้อควรระวังในการต่อสู้กับจระเข้ในเกมส์
- ถ้าจระเข้ประชิดตัวโนบิตะได้เมื่อไหร่เกมส์จะโอเวอร์ทันที ดังนั้นการต่อสู้กับจระเข้ยักษ์จะใช้อาวุธได้แค่ปืนเท่านั้น
- จระเข้จะเคลื่อนที่ประชิดตัวโนบิตะเรื่อยๆ และบ่อยครั้งจะมีการพุ่งตัวรวดเร็วโดยที่ไม่รู้ตัว (ถ้าถูกชนเมื่อไหร่ก็จบเกมส์) ในระหว่างยิงจะต้องคอยเดินถอยหลังไปด้วยอย่าให้มันเข้าใกล้ได้
- เส้นทางในการเดินถอยหนีมีจำกัด ต้องระดมกระสุนที่มี (ไม่ต้องกั๊ก) กำจัดมันให้ตายโดยเร็ว...
- ระวังช่วงการรีโหลดกระสุนและการถอยหลังด้วย

โนบิตะรีบชักปืนลูกซองขึ้นมาสาดกระสุนใส่มันทันที....แต่ทว่า...


กระสุนปืนลูกซองของเขา ทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยบนตัวมันเท่านั้น เจ้าจระเข้ยังคงเดินย่างก้าวเข้ามาหาโนบิตะอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุด

"อะ ไอ้เจ้านี่หนังหนาชะมัด!!"

โนบิตะพยายามยิงไปในส่วนของร่างกายที่คิดว่ามันอ่อนนุ่ม เช่นในปากหรือดวงตา แต่ก็ไม่อาจจะหยุดการรุกล้ำของมันได้.... แถมยังยากต่อการเล็งด้วย

"แย่ล่ะสิ... เราต้องหาอะไรที่มันแรงกว่าปืนลูกซองนี้"

ในขณะที่ยิงสะกัดมัน โนบิตะพยายามหาตัวช่วยอื่นๆที่คาดว่าจะเล่นงานมันได้ และแล้วเข้าก็สังเกตเห็น...


แก๊สที่รั่วออกมาตรงวาล์วควบคุมในท่อชั้นใต้ดินจากด้านบน อันเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของจระเข้ยักษ์ และตอนนี้มันก็อยู่ในตำแหน่งศรีษะของจระเข้ยักษ์พอดี


"ได้การละ!!!!"

โนบิตะไม่รอช้า เขาเล็งปืนพกยิงใส่จุดนั้นทันที  จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ไฟไหม้ลุกลามไปทั่วผิวหนังของจระเข้ยักษ์ จนมันดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด...


แรงแก๊สระเบิดสามารถสร้างความเสียหายให้กับจระเข้ยักษ์ได้พอสมควร


จนมันล้มลงไปบนพื้น....พร้อมกับเปลวเพลิงที่ค่อยๆมอดลงช้าๆ


โนบิตะลดปืนลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ

"ฟู่วววว จัดการมันได้...."

ในจังหวะนั้นเอง ... จู่ๆดวงตาของโนบิตะก็กลายเป็นสีแดง

"เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!"

จู่ๆหัวของจระเข้ยักษ์ก็ขยับขึ้นและเหวี่ยงส่วนปากฟาดเข้าเข้าใส่โนบิตะ แต่โนบิตะสามารถสไลด์ตัวถอยออกมาข้างหลังอย่างรวดเร็วจนเขาต้องกระเด็นไปด้านหลัง... โชคดีที่เขารู้สึกตัวทันไม่อย่างงั้นคงโดนแรงอัดจากปากเข้าไปเต็มๆแน่


"ไม่ได้ผลเหรอเนี่ย!!!"

โนบิตะพยายามพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา


พร้อมกับวิ่งถือปืนถอยไปตั้งหลังด้านหลัง


(ระเบิดนั้นแรงไม่พองั้นเหรอ? ไม่สิ...ดูเหมือนผิวหนังของมันจะชื้นและหนามาก
จนเปลวไฟจากระเบิดไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้มากกว่า...)

โนบิตะยังคงวิ่งถอยหลังพร้อมกับหาวิธีจัดการมันต่อไป


แล้วก็พบว่า เขาถอยมาจนสุดทางแล้ว และไม่สามารถถอยได้มากกว่านี้...


โนบิตะเอาหลังของตนพิงกับประตูที่ถูกล็อกสนิท..เขากำลังถูกต้อนจนมุม

"มันต้องมีอะไรสักอย่างสิ อะไรสักอย่าง ที่แรงๆ และเล่นงานมันจากภายในได้..."

สายตาของโนบิตะกวาดมองไปรอบสถานที่ที่อยู่รอบตัวจระเข้ยักษ์ และแล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็น...ถังแก๊สที่ถูกตรึงไว้กับโซ่ตรงผนังด้านขวาใกล้กับตัวมัน


"ใช่แล้ว!!! ไอ้นี่แหละ!!!!"

โนบิตะรีบเล็งปืนพกยิงกระสุนตัดสายโซ่ที่พันรอบถังแก๊ส


โซ่นั้นถูกยิงจนขาด ส่งผลให้ถังแก๊สกลิ้งตกมาตามแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของจระเข้ยักษ์


จระเข้ยักษ์ที่มองเห็นบางอย่างกลิ้งตกลงมาเบื้องหน้ามัน มันจึงใช้ปากพุ่งเข้างับตามสัญชาตญาณ


โดยหารู้ไม่ว่า เจ้าสิ่งนั้นคือใบเบิกทางที่จะลากมันลงไปในนรก....


"ตอนนี้แหละ!!!"

ปัง!!!!

กระสุนปืนพกของโนบิตะพุ่งแหวกอากาศตรงไปยังกลางถังแก็สที่จระเข้ยักษ์คาบอยู่อย่างแม่นยำ....


ตูมมมมม!!!!



แรงอัดจากการระเบิดมหาศาลเริ่มฉีกกระชากผิวหนังในปาก และรุนแรงจนถึงขั้นฉีกขากรรไกรท่อนบนแหลกสลาย....


จระเข้ที่ถูกไฟลุกท่วมอยู่ค่อยๆสิ้นฤทธิ์ และล้มลง.....

ปิดฉากจอมเขมือบร่างยักษ์แห่งท่อระบายน้ำไปตลอดกาล

โนบิตะที่กำลังเหนื่อยหอบค่อยๆทรุดตัวนั่งลงไปบนพื้น..พร้อมกับดวงตาที่กลายเป็นปกติ...

"สะ...สำเร็จแล้ว"


หลายนาทีต่อมา....

โนบิตะได้ลองเปิดประตูด้านหลังของเขาอีกครั้ง และในที่สุดมันก็ถูกปลดล็อกกลับมาเป็นปกติ....

พร้อมกับพวกเดคิสุงิที่ตามมาทันพอดี...



พวกเขาจึงเดินทางสำรวจด้านหน้าไปพร้อมกันและในที่สุด
พวกเขาก็พบ...ทางออกไปจากท่อระบายน้ำที่มืดมิด


โนบิตะได้บอกเล่าเรื่องราวต่อว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่ให้กลับต่อไปอีกแล้ว ตราบใดที่อัมเบรล่ายังไล่ล่าพวกเขาอยู่ เขาและพวกพ้องจะต้องหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้


แล้วต่อจากนี้...พวกเขาจะทำอะไรต่อไปดีล่ะ....


และแล้ว ในเมืองแห่งนั้น ก็ไม่มีเงาของพวกโนบิตะอีกเลย...

การกลับมาสำรวจบ้านเกิดของพวกเขา จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้....


คลิปภาพประกอบเอามาจากตอนสู้กับบอสจระเข้ใน Resident Evil 2 : Darkside Chronicle


======================================================================


วันต่อมา.....

ที่เมืองแห่งนั้น ก็ได้มีเฮลิคอปเตอร์ปรากฏขึ้นจากด้านบนของเมือง พร้อมกับมีคนกลุ่มหนึ่งโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์...

พวกเขาต่างถืออาวุธติดตัวเป็นจำนวนมากพร้อมกับสวมเสื้อกั๊กที่มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปโลโก้ร่มสีแดงสลับขาวของอัมเบรล่าอยู่ด้านหลัง และตรงกลางร่มก็มีรูปดาบคู่ไขว้กันซึ่งถูกทับด้วยรูปโล่อีกที

ตราสัญลักษณ์พิเศษของหน่วย U.B.C.S.

เจ้าหน้าที่ UBCS ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย
- ผู้นำหน่วยซึ่งเป็นชายหนุ่มผมฟ้า ผ้าคาดหัวสีแดง ถือปืนกลเล็กเป็นอาวุธ : ลิทเชนคุสกี้
- ชายร่างยักษ์สวมหมวกปีกกว้าง คาบมีดเล่มยักษ์ไว้ในปาก : เซก้า
- ชายผมน้ำตาล ผ้าคาดหัวสีขาว ในมือถือปืนกลเล็ก : เอสเตอร์
- หญิงสาวผมยาวสีบลอนด์ ถือปืนไรเฟิลเป็นอาวุธคู่กาย
- ชายผมบ๊อบสีฟ้าอ่อนสั้น ถืออาวุธเครื่องยิงจรวด : ยานอฟ

พวกเขาโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ลงมาอยู่บนพื้นในเมืองร้างแห่งความตายบนทุ่งหญ้าสุสุกิ
และที่ลำโพงติดหูฟังของพวกเขาก็มีเสียงของหญิงสาวที่ฟังดูขี้เล่นไร้เดียงสาดังขึ้น

เธอได้อธิบายข้อมูลของเมืองที่พวกเขาอยู่ให้ฟังพร้อมกับบอกภารกิจให้พวกเขา


พร้อมกับพูดส่งท้ายทุกคนว่า...

"อาราระ ...ระวังตัวด้วยน้า..ทุกคน..อย่าทำให้พี่สาวคนนี้เป็นห่วงมากน้าาา..."

ลิทชี่ถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมกับบ่นว่า...

"ทำงานกับคนนี้จะไหวเหรอเนี่ย....?"



ตอนต่อไปย้ายกลุ่มมาดูฝั่ง UBCS อีกครั้ง....
พร้อมกับเปิดตัวตัวละครใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง....
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 14]

แสดงความเห็นบน Facebook!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น