หลังจากที่ได้ข้อมูลจากซาช่าเพิ่มเติมว่าอัมเบรล่ากำลังตามล่าพวกโนบิตะอยู่ พวกโนบิตะจึงตัดสินใจหาทางหลบหนีออกจากเมืองแห่งนี้โดยใช้เส้นทางท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินของเมือง
ท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินเวลากลางคืนตอนนี้ค่อนข้างมืดมากจนแทบมองไม่เห็น หนำซ้ำพวกเขาก็พบว่า ภายในที่แห่งนี้ยังมีฝูงสัตว์ประหลาดจำนวนมากอย่างพวกฮันเตอร์มาอาศัยอยู่ด้วย พวกเขาจะสามารถเอาตัวรอดจากเหล่าสัตว์ประหลาดในท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินแห่งนี้ได้หรือไม่
บทที่ 13
สัตว์ประหลาดในความมืด
"ทุกคนระวังตัวด้วยนะ เจ้าพวกนั้นมันจะบุกมาทางไหนบ้างก็ไม่รู้"
เดคิสุงิพยายามกล่าวเตือนทุกคนว่าให้ระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว แต่ว่า...
"หึ!!! ไอ้พวกบ้านั่นฉันจะฆ่ามันให้หมดเอง!!!"
"ไปกันเถอะ!! ซูเนโอะ!!"
แต่ดูท่าว่าไจแอนท์จะไม่ได้ฟังสิ่งทีเดคิสุงิพูดเลย
"หา!!! ฉันด้วยเรอะ!!!?"
"พูดมากน่า ไปกันได้แล้ว!!! ซูเนโอะ!!!"
เมื่อไจแอนท์พูดจบ เขาก็วิ่งนำหน้าหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็วโดยที่คนอื่นไม่สามารถห้ามไว้ได้
"ระ รอด้วยสิไจแอนท์!!! ไปคนเดียวมันอันตรายนะ!!!"
แล้วซูเนโอะก็วิ่งตามไจแอนท์หายเข้าไปในความมืดอีกคน ดูเหมือนว่าไจแอนท์จะยังไม่หายโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นข้างบนนั่นเลยจึงทำให้เขาตัดสินใจโดยไม่ทันคิด
"แย่แล้ว!! ขืนปล่อยให้ 2 คนนั้นไปล่ะก็อันตรายแน่!!! โนบิตะคุง!!!!"
"ขะ เข้าใจแล้ว!!!"
เพียงแค่เดคิสุงิเอ่ยปากเรียกชื่อโนบิตะ เขาก็รู้แล้วว่าเดคิสุงิต้องการให้เขาทำอะไร... เขาจะต้องรีบตามหาตัวไจแอนท์กับซูเนโอะที่รีบร้อนบุกไปอย่างบ้าระห่ำกลับมาให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดอันตรายขึ้นกับพวกเขา
แต่ถึงกระนั้นโนบิตะก็ยังห่วงทางด้านเดคิสุงิอยู่ไม่น้อย ทว่า...เดคิสุงิก็บอกว่า พวกเขาเอาตัวรอดได้ แต่อาจจะไปกันช้าหน่อย เพราะดูเหมือนเซย์นะจะดูเหนื่อยๆหลังจากที่ผ่านอะไรมามาก ส่วนโดราเอม่อนก็ยังระแวงว่าจะเจอหนูอยู่ในท่อระบายน้ำหรือเปล่า ดังนั้นคนที่เดคิสุงิพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็มีแต่โนบิตะเท่านั้น
เรื่องที่โนบิตะห่วงเล็กน้อยก็คงเป็นเรื่องของซาช่าที่ถูกขังไว้ในห้องข้างบนตึกด้วยแต่..เซย์นะก็บอกว่า เธอจัดการเรื่องของซาช่าแล้ว เธอคนนั้นจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยในห้องนั้นแน่นอน
"ขอบคุณมากนะ คุณเซย์นะ ตอนนี้ผมขอตัวไปละ"
จากนี้ไป จะเป็นการผจญภัยสุดแสนอันตรายของโนบิตะภายในท่อระบายน้ำที่มืดมิดซึ่งจะกำหนดทัศนวิสัยการมองเห็นของโนบิตะไว้แคบมาก และจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงฮันเตอร์ในความมืดจำนวนมากด้วย การเล่นด่านนี้จึงเสี่ยงต่อการเกมส์โอเวอร์เป็นอย่างมาก ดังนั้นให้ทำการเซฟให้เรียบร้อยก่อนลุย (จุดเซฟอยู่ใกล้กับจุดเริ่มต้นในท่อระบายน้ำ)
แต่ว่าภายในเกมส์นั้นจะมีตัวช่วยอยู่ ซึ่งหากเดินไปทางด้านขวาผ่านตัวโดราเอม่อนไป
จะพบ NPC ซอมบี้ยืนหมุนติ้วๆๆๆ ซึ่งหากลองคุยด้วยมันจะบอกว่า ต้องการตัวช่วยหรือไม่ เพราะด่านนี้เล่นยากมาก
ซึ่งไอเท็มช่วยเหลือนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ... (ตรงนี้ไม่มีใครแคสต์เลือกตัวช่วยเลย เลยบอกไม่ได้ว่าตัวช่วยมันใช้งานแบบไหน แต่ถ้าให้เดาคาดว่า ใช้แล้วจะเกิดแสงสว่างเหมือนด่านปกติ หรือไม่ก็คอนตินิวเซฟได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่)
แต่ส่วนใหญ่จะเลือกข้อ 4 กัน ซึ่งนั่นก็คือ... จะลองพยายามด้วยตัวเอง
หลังจากที่ตอบข้อ 4 แล้ว ตัว NPC จะพูดว่า อาห์ ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก พร้อมกับให้กำลังใจส่งท้าย
ก่อนที่จะหัวระเบิดตายไป และไม่สามารถคุยกับมันได้อีก (ดังนั้นหากคิดจะเลือกใช้ตัวช่วย อย่าได้เลือกข้อสุดท้ายเป็นอันขาด)
หลังจากที่โนบิตะรับทราบภารกิจตัวเอง... เขาจึงรีบมุ่งหน้าเข้าไปในความมืดอีกคน
"มะ มืดชะมัดเลย"
ถึงแม้เขาจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นเพียงอุปสรรคเล็กๆน้อยเท่านั้น
เขายังคงมุ่งหน้าต่อไป และพบว่ามีเสียงบางอย่างกำลังวิ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว..
!!!!!!!!!
ประสาทสัมผัสด้านการฟังของโนบิตะสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้เขาแยกแยะเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาได้ และมันเป็นเสียงฝีเท้าของ....
ฮันเตอร์สีเขียวตัวหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของเขาหมายที่จะเอากรงเล็บฟันโนบิตะ
"เหวอ!!!!!"
แต่เขาก็เบี่ยงตัวหลบตามสัญชาติญาณได้ก่อนที่จะยกปืนพกขึ้นเล็งยิงเข้าใส่ดวงตาของฮันเตอร์ทะลุไปจนถึงสมองตายได้อย่างแม่นยำ
"กะ...เกือบไปแล้ว!!!! อันตรายชะมัด!!!"
โนบิตะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่มืดมิดเรื่อยๆ หลายครั้งที่เขาโดนฮันเตอร์ลอบจู่โจมจากด้านหลัง
แต่โนบิตะก็สามารถเบี่ยงหลบการโจมตีในความมืดนั้นได้พร้อมกับยิงสวนมันจนตายทุกครั้ง แต่เขาก็พบว่าทุกครั้งที่เขาโจมตีใส่ฮันเตอร์มากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกได้ว่าพวกฮันเตอร์ต่างก็พุ่งเป้ามาที่เขาถี่ขึ้นและมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นเป็นเพราะเสียงกระสุนปืนที่เกิดจากการต่อสู้ดังก้องขึ้นไปทั่วระบายน้ำที่เป็นตัวสัญญาณเรียกพวกฮันเตอร์ใกล้เคียงมาทางเขาเรื่อยๆ และที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ฮันเตอร์มีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินดีกว่าการมองเห็นมาก ดังนั้นความมืดจึงไม่ใช่อุปสรรคในการล่าเหยื่อของพวกมันแม้แต่น้อย
และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกมันหลายตัวบุกเข้ามาหาโนบิตะพร้อมกัน
ถ้าเป็นตอนอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก เขาคงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ เพราะเขาจะรีบยิงจัดการฮันเตอร์ในระยะไกลหมดก่อนทุกครั้ง แต่มันเป็นเพราะความมืดภายในทางเดินที่ทำให้วิสัยทัศน์ของเขามีจำกัด พวกมันจึงล้อมเขาในระยะประชิดอย่างง่ายดาย
(แย่ล่ะสิ ถูกพวกมันล้อมแล้ว...)
พวกมันรุมล้อมโนบิตะไว้ได้จนเขาไม่มีทางหนี
แต่ทว่า ในช่วงเวลาสั้นๆที่โนบิตะคิดว่า เขาอาจจะพลาดท่ามันแล้ว... เขาก็ได้หลับตาลง
(...)
โนบิตะรวบรวมสมาธิในความมืด กรงเล็บของฮันเตอร์จากหลายด้านพุ่งเข้ามายังจุดตายของโนบิตะ ... อย่างช้าๆ....
เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมันในความมืดได้ดีขึ้น...
และในที่สุด....
"ตรงนั้น!!!"
ชั่วพริบตาที่กรงเล็บของพวกฮันเตอร์แทงเข้าไปในร่างของโนบิตะ กลับเป็นแค่อากาศที่ว่างเปล่า โนบิตะเคลื่อนที่ตัวเองด้วยความไวสูงและหันปากกระบอกปืนไปทางเหล่าฮันเตอร์ที่มากระจุกรวมกัน
"ตายซะ!!!!!!"
เสียงกระสุนปืนดังลั่นติดต่อกันหลายนัดพร้อมกับร่างของฮันเตอร์จำนวนมากที่ล้มลงไปบนพื้นพร้อมเลือดที่สาดกระเซ็น
แม้ว่าพวกฮันเตอร์ที่วิ่งตามเข้ามาสมทบทีหลังระบุตำแหน่งเสียงปืนได้ แต่พวกมันก็ไม่อาจจะจับการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงของโนบิตะได้อีกต่อไป...
โนบิตะวิ่งอ้อมหลังของพวกมันไปได้อย่างง่ายดายโดยที่มันไม่รู้ตัวราวกับสายลม
เขาวิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆ จนพบว่ามีห้องๆหนึ่งในทางเดินนั้น
เขาเดินเข้าไปก็พบกับถังแก๊สจำนวนมาก แถมมีซากศพของฮันเตอร์จำนวนมากอยู่ในห้อง
พอเขาเดินลึกเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องออกมา...
"เฮ้ย!!!! อย่าเข้ามานะเว้ย!!!!"
"สะ เสียงแบบนี้มัน... ไจแอนท์นี่นา!!!?"
โนบิตะจึงรีบเดินมาตามต้นเสียง และพบว่า บริเวณใกล้เคียงมีศพของฝูงฮันเตอร์นับสิบตัวที่ถูกตายเพราะถูกของบางอย่างกระแทกทะลุจุดสำคัญจนเละเทะ... และที่ด้านในสุดนั้น เขาก็พบ...
"ไจแอนท์!!!"
ไจแอนท์โยนซากศพฮันเตอร์ที่อยู่ในมือเขาออกไปไกลๆ และตกใจมากที่ได้เห็น..
"นะ โนบิตะ!!!"
"นะ นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม!? โชคดีจริงๆ"
ไจแอนท์ตอบด้วยเสียงหอบอย่างเหนื่อยล้า
"เออ...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แต่ดันพลังหลงกับซูเนโอะไปน่ะสิ
มะ ไม่อยากเชื่อเลย.."
ไจแอนท์ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า เขาพลัดหลงกับซูเนโอะ ตอนที่ฝูงฮันเตอร์จำนวนมากบุกเข้ามาทางเขา เขารู้สึกผิดที่ตัวเองได้ไล่กำจัดฮันเตอร์ในท่อระบายน้ำโดยไม่ทันระวังว่า พวกมันจะได้ยินเสียงของเขาและมุ่งหน้ามาทางนี้ ไจแอนท์จึงตัดสินใจเป็นตัวหลอกล่อมันออกมากำจัดพร้อมกัน โดยให้ซูเนโอะหนีไปอีกทาง และสุดท้าย เขาก็ตามหาซูเนโอะไม่เจอ
"โนบิตะ......ช่วยตาหาซูเนโอะที..... มะ มันเป็นความผิดของฉันเอง..."
"ไจแอนท์..."
โนบิตะรู้สึกได้ว่าไจแอนท์กำลังรู้สึกผิดไม่น้อย เขาจึงรับปากไจแอนท์ว่าจะช่วยตามหาซูเนโอะให้ แต่ก่อนที่เขาจะไป ไจแอนท์ก็ยื่นอะไรบางอย่างออกมา
"จริงสิ นายเอาเจ้านี่ไปด้วย ฉันพบมันตกอยู่ใกล้กับเจ้าพวกนั้น
..ขะ ขอฉันพักที่นี่สักครู่ก่อนนะ"
สิ่งที่ไจแอนท์ยื่นมาให้โนบิตะนั่นก็คือ...ชิ้นส่วนกุญแจท่อนบน..
เขาเล่าให้โนบิตะฟังว่า ตอนที่เขากับซูเนโอะสำรวจหาทางออกอยู่ก็พบกับประตูทางออกที่แข็งแกร่งมากและมันถูกล็อกด้วยกุญแจที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้ พวกเขาจึงตามหามันและก็พบกับชิ้นส่วนทั้ง 2 แต่ว่า ก็เกิดเหตุการณ์ที่ฮันเตอร์บุกเข้ามา ทำให้ชิ้นส่วนของกุญแจแต่ละชิ้นอยู่กับทั้งสองคน ดังนั้นโนบิตะจะต้องตามหาซูเนโอะเพื่อเอากุญแจอีกดอกมาประกอบกันให้ได้
"เข้าใจแล้ว...ฉันจะรีบตามหาซูเนโอะเอง ไม่ต้องห่วง"
"ขะ ขอโทษด้วยนะ โนบิตะ"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า...."
โนบิตะจึงแยกกับไจแอนท์และมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่อันตรายอีกครั้ง เป้าหมายในคราวนี้คือ ตามหาซูเนโอะให้เจอ....
"ถอยไป!! พวกแกจับฉันไม่ได้หรอก!!!"
โนบิตะสามารถเอาตัวรอดจากฝูงฮันเตอร์ในความมืดได้อย่างง่ายดาย... และในที่สุด เขาก็เดินเข้าไปด้านในห้องๆหนึ่ง และภายในห้องนั่น เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังสั่นกึกๆอยู่ที่มุมห้อง เขาจึงรีบเดินเข้าไปดูก็พบกับ...
ซูเนโอะที่กำลังยืนตัวสั่นหันหลังชิดกำแพงที่มุมห้อง เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปเอามือแตะบ่าทักด้วยความดีใจ
"ซะ ซูเนโอะ!!!!"
"ว้ากกกกกกกกกกกก!!!!!"
"จะ ใจเย็นก่อนซูเนโอะ นี่ฉันเองนะ..."
เมื่อได้ยินดังนั้นซูเนโอะจึงค่อยๆหันมามองทางด้านหลังแล้วก็รู้สึกโล่งอก
"นะ โนบิตะเองเหรอ คะ ค่อยยังชั่ว...."
หลังจากพูดจบ เขาก็หงายหลังล้มตึงไปบนพื้น
"ซูเนโอะ!!?"
โนบิตะจึงรีบสำรวจอาการของซูเนโอะ ก็พบว่า เขาช็อกจนหมดสติไปแล้ว แต่โชคดีที่ดูท่าว่า ซูเนโอะสามารถเอาตัวรอดจากฝูงฮันเตอร์มาได้โดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น ที่เขาสลบไปคงเป็นเพราะกลัวมาก
เขาจึงคิดว่า ตอนนี้คงปล่อยซูเนโอะไว้ในห้องนี้ก่อน เพราะถ้าหากพาคนที่สลบอยู่ออกไปเลยคงลำบากแน่ๆ แต่จะปล่อยทิ้งให้นอนสลบไว้แบบนี้ตามลำพังก็ไม่ได้ด้วย เขาตัดสินใจหาถังน้ำมันเปล่าๆมาวางครอบตัวซูเนโอะไว้ พร้อมกับเขียนข้อความบอกว่ามีซูเนโอะอยู่ในนี้ เผื่อว่าพวกเดคิสุงิหรือไจแอนท์มาเห็นจะได้เข้ามาช่วยเหลือเขาออกไป
"อ้ะ!!! นั่นมัน..."
โนบิตะสังเกตเห็นว่ามีของบางอย่างตกออกมาจากกระเป๋ากางเกงของซูเนโอะ และพบว่ามันคือ ชิ้นส่วนของกุญแจท่อนล่างนั่นเอง เขาจึงหยิบมันขึ้นมา
จากนั้น เขาก็เอาถังน้ำมันวางครอบทับซูเนโอะพร้อมเขียนข้อความก่อนออกจากห้องไป
โนบิตะวิ่งไปตามเส้นทางด้านในด้วยความเร็วสูงจนพวกฮันเตอร์ไม่สามารถไล่จับหรือสัมผัสตัวตนของเขาได้เรื่อยๆ
จนกระทั่งมาถึงประตูทางออกด้านในที่แน่นหนาและถูกล็อกด้วยกุญแจตามที่ไจแอนท์บอก
"ตรงนี้สินะ ประตูทางออก"
เขาเอากุญแจทั้ง 2 ดอกมาประกอบกันจนได้กุญแจที่สมบูรณ์และไขเปิดประตูเข้าไปด้านใน
เขาเปิดประตูออกมายังอีกฝั่งก็พบกับ...จุดเซฟ และศพของชายในชุดทหาร... (ตรงนี้แนะนำให้เซฟ)
โนบิตะสำรวจศพของทหารเพื่อควานหาของที่ใช้ได้ ปรากฏว่าเหลือแค่แม็กกาซีนปืนพกเท่านั้น
โนบิตะเดินตามทางต่อไปเรื่อยๆ จู่ๆเขาก็พบว่า เส้นทางท่อระบายน้ำข้างหน้าเริ่มสว่างขึ้นผิดหูผิดตา..
"หือ...? เส้นทางข้างหน้ามีแสงสว่างด้วย..."
โนบิตะรีบวิ่งไล่ไปตามทางเดินเพื่อหาต้นตอของแสงสว่าง เขาหวังว่าแสงนั้นจะเป็นหนทางที่จะพาเขาออกไปจากทางเดินที่มืดมิดแห่งนี้
เขาวิ่งมาจนถึงจุดๆหนึ่งก็เกิดแรงสั่นสะเทือนและการพังทลายจากด้านหน้าอย่างรุนแรงจนฝุ่นคลุ้งไปทั่วทางเดิน....
"มะ มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ!!?"
หลังจากที่ฝุ่นเริ่มจางลง เขาก็เห็นบางสิ่งขนาดใหญ่ร้องคำรามเบื้องหน้าเขาเสียงดังก้อง... มันเหมือนกับปากขากรรไกรขนาดยักษ์ที่มีฟันสีขาวรายล้อม
ขากรรไกรยักษ์ได้หุบลงเผยให้เห็นใบหน้าที่น่าสะพรึงอันใหญ่โตของสิ่งที่เรียกว่า...
จระเข้ยักษ์!!
จระเข้ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่พอจนขวางเส้นทางเดินของโนบิตะจนหมด
"วะ วะ วะ ว้ากกกกกกกกกกกกก!!!!
ไอ้เข้ยักษ์!!!!!!"
ที่ซ้ำร้ายกว่านั้น แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทำให้เส้นทางประตูด้านหลังของโนบิตะเกิดการปิดล็อกโดยอัตโนมัติ.... เขาไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้อีกแล้ว....!!!
ข้อควรระวังในการต่อสู้กับจระเข้ในเกมส์
- ถ้าจระเข้ประชิดตัวโนบิตะได้เมื่อไหร่เกมส์จะโอเวอร์ทันที ดังนั้นการต่อสู้กับจระเข้ยักษ์จะใช้อาวุธได้แค่ปืนเท่านั้น
- จระเข้จะเคลื่อนที่ประชิดตัวโนบิตะเรื่อยๆ และบ่อยครั้งจะมีการพุ่งตัวรวดเร็วโดยที่ไม่รู้ตัว (ถ้าถูกชนเมื่อไหร่ก็จบเกมส์) ในระหว่างยิงจะต้องคอยเดินถอยหลังไปด้วยอย่าให้มันเข้าใกล้ได้
- เส้นทางในการเดินถอยหนีมีจำกัด ต้องระดมกระสุนที่มี (ไม่ต้องกั๊ก) กำจัดมันให้ตายโดยเร็ว...
- ระวังช่วงการรีโหลดกระสุนและการถอยหลังด้วย
โนบิตะรีบชักปืนลูกซองขึ้นมาสาดกระสุนใส่มันทันที....แต่ทว่า...
กระสุนปืนลูกซองของเขา ทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยบนตัวมันเท่านั้น เจ้าจระเข้ยังคงเดินย่างก้าวเข้ามาหาโนบิตะอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุด
"อะ ไอ้เจ้านี่หนังหนาชะมัด!!"
โนบิตะพยายามยิงไปในส่วนของร่างกายที่คิดว่ามันอ่อนนุ่ม เช่นในปากหรือดวงตา แต่ก็ไม่อาจจะหยุดการรุกล้ำของมันได้.... แถมยังยากต่อการเล็งด้วย
"แย่ล่ะสิ... เราต้องหาอะไรที่มันแรงกว่าปืนลูกซองนี้"
ในขณะที่ยิงสะกัดมัน โนบิตะพยายามหาตัวช่วยอื่นๆที่คาดว่าจะเล่นงานมันได้ และแล้วเข้าก็สังเกตเห็น...
แก๊สที่รั่วออกมาตรงวาล์วควบคุมในท่อชั้นใต้ดินจากด้านบน อันเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของจระเข้ยักษ์ และตอนนี้มันก็อยู่ในตำแหน่งศรีษะของจระเข้ยักษ์พอดี
"ได้การละ!!!!"
โนบิตะไม่รอช้า เขาเล็งปืนพกยิงใส่จุดนั้นทันที จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ไฟไหม้ลุกลามไปทั่วผิวหนังของจระเข้ยักษ์ จนมันดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด...
แรงแก๊สระเบิดสามารถสร้างความเสียหายให้กับจระเข้ยักษ์ได้พอสมควร
จนมันล้มลงไปบนพื้น....พร้อมกับเปลวเพลิงที่ค่อยๆมอดลงช้าๆ
โนบิตะลดปืนลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
"ฟู่วววว จัดการมันได้...."
ในจังหวะนั้นเอง ... จู่ๆดวงตาของโนบิตะก็กลายเป็นสีแดง
"เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!"
จู่ๆหัวของจระเข้ยักษ์ก็ขยับขึ้นและเหวี่ยงส่วนปากฟาดเข้าเข้าใส่โนบิตะ แต่โนบิตะสามารถสไลด์ตัวถอยออกมาข้างหลังอย่างรวดเร็วจนเขาต้องกระเด็นไปด้านหลัง... โชคดีที่เขารู้สึกตัวทันไม่อย่างงั้นคงโดนแรงอัดจากปากเข้าไปเต็มๆแน่
"ไม่ได้ผลเหรอเนี่ย!!!"
โนบิตะพยายามพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา
พร้อมกับวิ่งถือปืนถอยไปตั้งหลังด้านหลัง
(ระเบิดนั้นแรงไม่พองั้นเหรอ? ไม่สิ...ดูเหมือนผิวหนังของมันจะชื้นและหนามาก
จนเปลวไฟจากระเบิดไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้มากกว่า...)
โนบิตะยังคงวิ่งถอยหลังพร้อมกับหาวิธีจัดการมันต่อไป
แล้วก็พบว่า เขาถอยมาจนสุดทางแล้ว และไม่สามารถถอยได้มากกว่านี้...
โนบิตะเอาหลังของตนพิงกับประตูที่ถูกล็อกสนิท..เขากำลังถูกต้อนจนมุม
"มันต้องมีอะไรสักอย่างสิ อะไรสักอย่าง ที่แรงๆ และเล่นงานมันจากภายในได้..."
สายตาของโนบิตะกวาดมองไปรอบสถานที่ที่อยู่รอบตัวจระเข้ยักษ์ และแล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็น...ถังแก๊สที่ถูกตรึงไว้กับโซ่ตรงผนังด้านขวาใกล้กับตัวมัน
"ใช่แล้ว!!! ไอ้นี่แหละ!!!!"
โนบิตะรีบเล็งปืนพกยิงกระสุนตัดสายโซ่ที่พันรอบถังแก๊ส
โซ่นั้นถูกยิงจนขาด ส่งผลให้ถังแก๊สกลิ้งตกมาตามแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของจระเข้ยักษ์
จระเข้ยักษ์ที่มองเห็นบางอย่างกลิ้งตกลงมาเบื้องหน้ามัน มันจึงใช้ปากพุ่งเข้างับตามสัญชาตญาณ
โดยหารู้ไม่ว่า เจ้าสิ่งนั้นคือใบเบิกทางที่จะลากมันลงไปในนรก....
"ตอนนี้แหละ!!!"
ปัง!!!!
กระสุนปืนพกของโนบิตะพุ่งแหวกอากาศตรงไปยังกลางถังแก็สที่จระเข้ยักษ์คาบอยู่อย่างแม่นยำ....
ตูมมมมม!!!!
แรงอัดจากการระเบิดมหาศาลเริ่มฉีกกระชากผิวหนังในปาก และรุนแรงจนถึงขั้นฉีกขากรรไกรท่อนบนแหลกสลาย....
จระเข้ที่ถูกไฟลุกท่วมอยู่ค่อยๆสิ้นฤทธิ์ และล้มลง.....
ปิดฉากจอมเขมือบร่างยักษ์แห่งท่อระบายน้ำไปตลอดกาล
โนบิตะที่กำลังเหนื่อยหอบค่อยๆทรุดตัวนั่งลงไปบนพื้น..พร้อมกับดวงตาที่กลายเป็นปกติ...
"สะ...สำเร็จแล้ว"
หลายนาทีต่อมา....
โนบิตะได้ลองเปิดประตูด้านหลังของเขาอีกครั้ง และในที่สุดมันก็ถูกปลดล็อกกลับมาเป็นปกติ....
พร้อมกับพวกเดคิสุงิที่ตามมาทันพอดี...
พวกเขาจึงเดินทางสำรวจด้านหน้าไปพร้อมกันและในที่สุด
พวกเขาก็พบ...ทางออกไปจากท่อระบายน้ำที่มืดมิด
โนบิตะได้บอกเล่าเรื่องราวต่อว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่ให้กลับต่อไปอีกแล้ว ตราบใดที่อัมเบรล่ายังไล่ล่าพวกเขาอยู่ เขาและพวกพ้องจะต้องหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วต่อจากนี้...พวกเขาจะทำอะไรต่อไปดีล่ะ....
และแล้ว ในเมืองแห่งนั้น ก็ไม่มีเงาของพวกโนบิตะอีกเลย...
การกลับมาสำรวจบ้านเกิดของพวกเขา จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้....
คลิปภาพประกอบเอามาจากตอนสู้กับบอสจระเข้ใน Resident Evil 2 : Darkside Chronicle
======================================================================
วันต่อมา.....
ที่เมืองแห่งนั้น ก็ได้มีเฮลิคอปเตอร์ปรากฏขึ้นจากด้านบนของเมือง พร้อมกับมีคนกลุ่มหนึ่งโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์...
พวกเขาต่างถืออาวุธติดตัวเป็นจำนวนมากพร้อมกับสวมเสื้อกั๊กที่มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปโลโก้ร่มสีแดงสลับขาวของอัมเบรล่าอยู่ด้านหลัง และตรงกลางร่มก็มีรูปดาบคู่ไขว้กันซึ่งถูกทับด้วยรูปโล่อีกที
ตราสัญลักษณ์พิเศษของหน่วย U.B.C.S.
เจ้าหน้าที่ UBCS ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย
- ผู้นำหน่วยซึ่งเป็นชายหนุ่มผมฟ้า ผ้าคาดหัวสีแดง ถือปืนกลเล็กเป็นอาวุธ : ลิทเชนคุสกี้
- ชายร่างยักษ์สวมหมวกปีกกว้าง คาบมีดเล่มยักษ์ไว้ในปาก : เซก้า
- ชายผมน้ำตาล ผ้าคาดหัวสีขาว ในมือถือปืนกลเล็ก : เอสเตอร์
- หญิงสาวผมยาวสีบลอนด์ ถือปืนไรเฟิลเป็นอาวุธคู่กาย
- ชายผมบ๊อบสีฟ้าอ่อนสั้น ถืออาวุธเครื่องยิงจรวด : ยานอฟ
พวกเขาโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ลงมาอยู่บนพื้นในเมืองร้างแห่งความตายบนทุ่งหญ้าสุสุกิ
และที่ลำโพงติดหูฟังของพวกเขาก็มีเสียงของหญิงสาวที่ฟังดูขี้เล่นไร้เดียงสาดังขึ้น
เธอได้อธิบายข้อมูลของเมืองที่พวกเขาอยู่ให้ฟังพร้อมกับบอกภารกิจให้พวกเขา
พร้อมกับพูดส่งท้ายทุกคนว่า...
"อาราระ ...ระวังตัวด้วยน้า..ทุกคน..อย่าทำให้พี่สาวคนนี้เป็นห่วงมากน้าาา..."
ลิทชี่ถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมกับบ่นว่า...
"ทำงานกับคนนี้จะไหวเหรอเนี่ย....?"
ตอนต่อไปย้ายกลุ่มมาดูฝั่ง UBCS อีกครั้ง....
พร้อมกับเปิดตัวตัวละครใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง....
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 14]
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น