ลิทชี่หัวหน้าหน่วยของ U.B.C.S ได้เปิดแผ่นดิสก์ข้อมูลที่ได้รับมาจากโทชิบะและพบว่า สิ่งที่เธอมอบให้เขามานั้น ทำให้เขาตัดสินใจ....
บทที่ 22
ยุทธการตอบโต้อัมเบรล่า
บุกเกาะสถาบันวิจัยกลางทะเล
มีตัวเลือกขึ้นมาว่าจะข้ามอีเว้นท์หรือไม่เช่นเคย แน่นอนว่าเราจะเลือกดู
(ความจริงมันไม่มีภาพอะไรหรอก แต่เป็นบทพูดที่ตัวละครพูดขึ้นมาแค่นั้นเอง)
ลิทชี่ได้ตัดสินใจเปิดปากพูดคุยกับทุกคนถึงสิ่งที่เขาจะทำต่อไป...ซึ่งในที่นี้เขาจะขอพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเข้าใจ
และขอร้องให้เซก้าแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นให้พวกเด็กๆฟังอีกที...
ลิทชี่ตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขาให้พวกเด็กๆฟังว่า พวกเขาคือหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า "หน่วยตอบโต้ภัยอันตรายทางชีวภาพของอัมเบรล่า" ที่มีชื่อย่อว่า หน่วย U.B.C.S. [Umbrella Biohazard Countermeasure Service] เป็นหน่วยงานที่อัมเบรล่าจัดตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้และช่วยชีวิตผู้ประสบภัยที่เกิดจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เขาคิดว่าหน่วยนี้ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ดีและต่อสู้เพื่อคนอื่นๆ
แต่แท้จริงแล้ว เขาก็พบว่าพวกเขาถูกอัมเบรล่าหลอกใช้มาโดยตลอด การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่อัมเบรล่าจงใจให้เกิด ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ พวกเขาทำแบบนั้นเพื่อที่จะทดลองวัดระสิทธิภาพการแพร่ระบาดและการสร้างความเสียหายโดยเชื้อไวรัส อีกทั้งหน่วยของเขาที่ถูกตั้งขึ้น เป็นเพียงหน่วยที่ถูกหลอกใช้ให้ต่อสู้กับเหล่าอาวุธชีวภาพเพื่อประเมินประสิทธิภาพของอาวุธชีวภาพต่างๆเท่านั้น เพื่อที่พวกเขาจะนำไปพัฒนาสร้างอาวุธชีวภาพที่ร้ายกาจกว่าเก่า
และสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้ เป็นเพียงแผนการบ้าๆที่เขาคิดขึ้นเอง เพื่อตอบโต้สิ่งที่อัมเบรล่าทำกับเขาไว้ มันเสี่ยงอันตรายมาก และเขาไม่ต้องการบังคับใครให้ร่วมมือพร้อมกับเขา อีกทั้งหน่วยงาน U.B.C.S ตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทางเดินของตัวเองต่อไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะเลือกอะไร
เอสเตอร์ก็พูดขึ้นมาว่า มาทิ้งพวกเราตอนนี้มันจะโหดร้ายเกินไปหน่อยล่ะมั้งหัวหน้า มาด้วยกันถึงขนาดนี้แล้วจะให้พวกเราหนีไปได้อีกล่ะ...
รีซิสซ่ายิ้มขึ้นแล้วก็พูดเห็นด้วยกับเอสเตอร์ อีกอย่างคือ [เรื่องเสี่ยงๆ] แบบนี้ก็เป็นเรื่องถนัดของเธออยู่แล้ว
ยานอฟเองก็ไม่ขัดข้อง เขาบอกว่าไม่ว่าหัวหน้าลิทชี่จะไปไหนหรือตัดสินใจอย่างไร พวกเขาก็จะร่วมทางด้วย แม้ว่าจะเป็นการจัดการเบื้องบนก็ตาม
ทางด้านเซก้าเองก็พยักหน้าเป็นการตอบรับแทนคำพูด... เขาเองก็พร้อมที่จะไปกับลิทชี่ด้วยเช่นกัน
ลิทชี่รู้สึกพอใจกับคำตอบที่จนได้รับจากอดีตลูกน้องของเขา
เขามองไปทางหญิงสาวผมสีชมพูอีกคนที่ยืนอยู่ในห้อง...และเธอก็ยังไม่ได้ให้คำตอบเขา
"..แล้วเธอล่ะ? ซาช่า...."
"ฉันยังติดหนี้พวกนายไว้อยู่น่ะ...ยังไงก็ขอไปด้วยละกัน"
"งั้นเหรอ..."
ดูท่าว่าตอนนี้พวกผู้ใหญ่ทุกคนก็ไม่มีใครคิดจะถอยหนีจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในตอนนั้นเองเดคิสุงิก็พูดแทรกขึ้นมาว่า..
"...หลังจากนี้พวกเราจะเอายังไงกันต่อดีล่ะครับ?"
"คงเตรียมพร้อมจะเคลื่อนไหวกันแล้วสินะ?"
ลิทชี่จึงพูดขึ้นมาว่า เขาวางแผนที่จะบุกโจรกรรมข้อมูลแก๊สเชื้อไวรัสจากสถาบันวิจัยของอัมเบรล่าที่เป็นตัวตั้งตัวตีการปล่อยจรวดใส่เมือง
"สถาบันวิจัย? ถ้างั้นคงจะรู้แล้วสินะคะว่ามันอยู่ที่ไหน?"
"....ใช่ รู้แล้วล่ะ สถานที่แห่งนั้น มันอยู่ในดิสก์ข้อมูลที่โทชิบะให้มา...."
"เอ้า..ดูซะ"
จากนั้นลิทชี่ก็กดปุ่มให้สิ่งที่เขาเห็นบนจอคอมพิวเตอร์ปรากฏขึ้นบนโปรเจคเตอร์ที่ฉายในห้อง
สิ่งที่ฉายอยู่บนนั้นคือภาพแผนผังของเกาะแห่งหนึ่งในน่านน้ำญี่ปุ่น
เขาบอกว่า เกาะแห่งนี้คือเกาะบ้านพักตากอากาศที่ถูกทำเป็น "รีซอร์ทไอซ์แลนด์ (Resort Island)" ส่วนบุคคลที่อัมเบรล่ากว้านซื้อไว้เพื่อสร้างสถาบันวิจัยอย่างลับๆบริเวณใจกลางเกาะ และสถานที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกฝึกพิเศษมาเป็นอย่างดี รวมถึงกองกำลังทหารที่ถูกจ้างมาจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธสงคราม
สิ่งที่ลิทชี่รายงานมาทำให้พวกโนบิตะสีหน้าซีดเผือด
"ละ แล้วเราจะบุกเข้าไปในสถานที่ที่อันตรายแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ..."
ส่วนฝั่งที่จะบุกลอบเข้าไปด้านในจริงๆ จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีอุโมงค์ลับซ่อนอยู่ ซึ่งน่าจะใช้ประมาณ 3 คนพอ
ทางด้านเอสเตอร์ก็พูดขึ้นมาว่า ถ้าอย่างนั้นการจะเดินทางไปเกาะก็คงต้องใช้เรือลอบขับเข้าไปในเวลากลางคืน และฝากหน้าที่เฝ้าเรือให้พวกเด็กๆเอาไว้
ทีมที่บุกจริงคาดว่าคงให้เซก้าเป็นคนนำทีม และอยากได้พวกเด็กๆที่พอต่อสู้ได้สัก 2-3 คน
ลิทชี่พูดขึ้นมาว่า หากจะต้องเลือกพวกเด็กๆที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายในการบุกเข้าไปด้านใน ก็ต้องเป็นพวกเด็กผู้ชายที่ดูเก่งกาจและมีทักษะในการต่อสู้สูง ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เด็กผู้หญิงมาเสี่ยงอันตรายด้วยเด็ดขาดแม้ว่าพวกเธอจะเก่งกาจก็ตาม (อาจจะเป็นเพราะการใช้เด็กผู้ชายในการปฏิบัติภารกิจนี้จะทำให้เกิดการประสานงานกับทีมได้โดยไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงหรือเกรงใจมากกว่า)
"ถะ ถ้าพูดถึงการต่อสู้ล่ะก็...คงต้องยกให้นายล่ะนะ โนบิตะ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไจแอนท์ก็กำหมัดและชกมือตัวเองอย่างมั่นใจ
"ดีล่ะ...!! ถ้างั้นคนที่ไปก็คงต้องเป็นฉันกับนายสินะ โนบิตะ!!"
"เอ๋!!!!!?"
"ดูท่าจะตัดสินใจกันได้แล้วสินะ ถ้าอย่างงั้นก็จะบอกในส่วนต่อไปเลยละกัน"
ดูเหมือนว่ามติจะเป็นเอกฉันท์โดยที่โนบิตะยังไม่เต็มใจเสียแล้ว....
ลิทชี่ได้แบ่งทีมของเขาออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นคือ ทีมที่จะดึงดูดความสนใจมีเพียงเขากับยานอฟเท่านั้น ส่วนทีมของเอสเตอร์จะมีทั้งหมด 3 คน ได้แก่ เอสเตอร์ รีซี่ (รีซิสซ่า) และซาช่า
"รับทราบ"
ยานอฟตอบรับ
"จ้า...."
รีซิสซ่าเองก็ตอบรับเช่นกัน
ทางด้านซาช่าเองก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เอสเตอร์เขาก็ยืนยันว่าทีมของเขาจะบุกในส่วนคลังอาวุธให้ได้
จากนั้นก็เป็นแผนยุทธศาสตร์บลาๆๆๆๆๆๆ ให้รีซิสซ่าคอยรอสัญญาณจากลิทชี่ในการโจมตีสนับสนุน
ในตอนนั้นเธอก็บอกว่าโชคดีที่กลุ่มเธอไม่ต้องมาคุ้มกันพวกเด็กๆ ซึ่งหน้าที่นั้นก็ตกไปเป็นของเซก้าไปโดยปริยายเพราะ...
ลิทชี่บอกว่าคนที่จะอยู่คู่กับเด็กสองคน (ไจแอนท์ + โนบิตะ) จะต้องเป็นคนที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร
หลังจากที่ทุกคนเตี๊ยมกันเรื่องตำแหน่งต่างๆเรียบร้อยแล้ว เวลาต่อมาพวกเขาก็ได้เริ่มต้นภารกิจ
และในขณะนี้ พวกเขาทุกคนก็กำลังนั่งอยู่บนเรือกลางทะเลที่จะพุ่งตรงไปยังเกาะแห่งนั้น
(สงสัยคนทำเกมส์ขี้เกียจสร้างฉากตอนนั่งเรือแน่ๆ ถึงได้ทำฉากมืดมีแต่เฉพาะเสียงกับบทสนทนา)
ลิทชี่พูดขึ้นมาว่าเหลืออีกประมาณ 30 นาทีก็จะถึงที่หมายแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม อย่าลืมเด็ดขาด
"ใช้เรือที่ขโมยมาแบบนี้จะดีเหรอคร้าบบบ..."
"ไม่ด้ายคาโมยสักหน่อย แค่ขอลืมใช้โดยไม่บอก"
"ถึงจะพูดแบบนั้นแต่มันก็คือขโมยอยู่ดีล่ะนะ...."
ในระหว่างที่กำลังถกกันเรื่องเรือนั้น รีซิสซ่าก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างบริเวณด้านหน้าของเรือ
"หือ...? เฮ้ ทุกคน..เห็นควันที่ลอยอยู่ตรงนั้นไหม"
"...อืม จริงด้วย......เอ้ยย นั่นมันเป้าหมายของเรานี่"
ลิทชี่ตะโกนร้องอย่างตกใจเมื่อพบว่าที่มาของควันนั้นลอยออกมาจากเกาะที่เป็นเป้าหมายของเขา
เรือที่ถูกขโมยมามุ่งตรงไปยังเกาะเป้าหมายและในที่สุด ทุกคนบนเรือก็เห็นทัศนียภาพบนเกาะชัดเจน....ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาจากสิ่งที่เห็นนั้น เพราะเกาะที่พวกเขากำลังจะไปตอนนี้...
สภาพของเกาะที่เต็มไปด้วยควันจากเปลวเพลิง
"ฟ..ไฟไหม้ขนาดนั้นมันอะไรกันน่ะ?"
เอสเตอร์พูดขึ้น
"...ไม่ใช่แค่ไฟไหม้แค่นั้นหรอกครับ"
ยานอฟเองก็รู้สึกหวั่นไม่น้อย
สภาพของเกาะที่พวกเขาเห็นตอนนี้พอจะเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่ได้เป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่ๆ แต่ตอนนี้พวกเขาคงไม่สามารถหยุดแผนการไว้ได้แล้วและต้องรีบทำโดยเร็ว
ลิทชี่ตัดสินใจที่จะดำเนินแผนการต่อเมื่อเรือเทียบท่าเข้าไปใกล้เกาะ เขาให้พวกเด็กๆที่เหลือคอยเฝ้าเรือเอาไว้ ส่วนพวกตนก็ลอบขึ้นไปบนเกาะตามจุดต่างๆ โดยฝากให้เซก้าช่วยคุ้มครองโนบิตะกับไจแอนท์ด้วย
"นี่...คือแบบยกเลิกไม่ได้จริงๆเหรอครับ"
ซูเนโอะพยายามทักท้วงลิทชี่ แต่สุดท้ายก็ถูกลิทชี่ตอกกลับมาว่า ยกเลิกไม่ทันแล้วถ้าหากคิดจะกลับออกไปในทะเลตอนนี้...
"ช่างเป็นคนที่ดื้อดึงอะไรอย่างนี้นะ..."
และแล้วเรือก็แล่นไปถึงตำแหน่งที่พวกโนบิตะจะต้องลง...มันเป็นอุโมงค์เล็กๆที่ติดอยู่บนเกาะ
"เอาล่ะ...ถึงตำแหน่งนี้แล้ว... ไปเลยเซก้า....ช่วยดูแลเจ้าเด็ก 2 คนนี่ด้วยนะ"
"ระวังตัวด้วยนะ โนบิตะคุง ทาเคชิคุง"
"ทั้ง 2 คนจะต้องกลับมาให้ได้นะ"
"เรื่องเรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเองเถอะ"
"ไว้ใจได้เลย! ไปกันเถอะ โนบิตะ!!"
"อะ..อืม..."
และแล้ว โนบิตะ ไจแอนท์ และเซก้าก็เข้ามายังอุโมงค์ใต้ดินบนเกาะได้สำเร็จ.... พวกเขาทั้ง 3 จะต้องหาทางลอบเข้าไปยังสถาบันวิจัยที่อยู่ตรงใจกลางเกาะตามเวลาที่ลิทชี่ดำหนดไว้
"เรื่องลอบเข้าไปจู่โจมแบบนี้ของกล้วยๆน่า...แค่พวกเรากันเองยังทำได้เลยมั้ง"
ไจแอนท์พูดอย่างมั่นใจเพราะพวกเขาเองก็เคยบุกถล่มสถานที่ของอัมเบรล่ามาแล้ว
".ในเวลาแบบนี้อย่าประมาทจะดีกว่านะ
เพราะถ้าหากที่นี่มีการระเบิดขึ้นแล้วล่ะก็..."
ยังไม่ทันที่เซก้าจะพูดต่อ พวกเขาทั้ง 3 คนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจำนวนมากดังระงมไปทั่วอุโมงค์แห่งนี้
!!!!!!
"หึ..กะแล้วเชียวว่ามันแปลกๆ เจ้าพวกบ้านั่นคงจะหลุดเข้ามายังอุโมงค์นี่แล้วสินะ"
เซก้ามั่นใจอย่างแน่นอนว่าสิ่งที่ตนคิดจะต้องเป็นจริง เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นบนเกาะเมื่อครู่คงส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและทำให้เหล่าอาวุธชีวภาพบนเกาะหลุดออกมาเพ่นพ่านบนเกาะ
"อะไรจะเกิดขึึ้นก็ช่างมันเซ่! ขอแค่จัดการอัมเบรล่าได้ก็พอแล้วล่ะน่า"
ท่าทางไจแอนท์จะไม่ฟังสิ่งที่เซก้าพูด เซก้าเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า...
"....ขอเตือนอะไรอย่างนะไอ้หนู ถ้าคิดจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ล่ะก็
ช่วยสงบสติอารมณ์บ้าๆของเธอซะ ไม่งั้นล่ะก็ เธอคงไม่ได้ตายดีแน่"
"นี่แก...!"
ไจแอนท์ที่กำลังใจร้อนอยากเข้าไปต่อยเซก้าแต่ก็ถูกโนบิตะห้ามไว้
"เดี๋ยวก่อนไจแอนท์!! ใจเย็นๆก่อน"
แต่ดูท่าว่าเซก้าจะไม่ใส่ใจ ไจแอนท์เลยแม้แต่น้อย เขาจับปืนลูกซองคู่กายขึ้นมาไว้ในมือพร้อมกับบอกว่า จะขอตัวไปสำรวจอุโมงค์ด้านนี้หน่อย...
แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
"ใครจะไปฟังหมอนั่นกันเล่า... โนบิตะ เรารีบหาทางออกไปจากที่นี่กันเถอะ"
หลังจากที่พูดจบ ณ ตรงด้านหน้าจะมีจุดเซฟ ก็ควรทำการเซฟให้เรียบร้อย
โนบิตะจึงเริ่มเดินทางสำรวจในอุโมงค์เพื่อหาทางออก...และก่อนหน้านั้น เขาก็อยากตามเข้าเซก้าเข้าไปด้านใน
และทางที่เซก้าเดินนำไปนั้นก็พบกับ..
"เหวอ...พวกซอมบี้...!!"
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เซก้าคาดคิด และในตอนนี้ทั่วทั้งเกาะคงจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ด้านในสุด โนบิตะก็พบกับเซก้ายืนอยู่ท่ามกลางศพของพวกซอมบี้จำนวนมาก
เขาบอกเตือนโนบิตะว่า ท่าทางพวกคนติดเชื้อจะเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมดในอุโมงค์แห่งนี้ ขอให้ระวังตัวเอาไว้ด้วย
นอกจากซอมบี้แล้ว โนบิตะยังต้องเผชิญหน้ากับอาวุธชีวภาพประเภทอื่นๆอีกด้วย
แต่เขา ไจแอนท์และเซก้าก็สามารถตะลุยฝ่าพวกมันมาได้จนถึงทางออกที่ปลายอุโมงค์ แต่แล้วเขาก็ต้องพบปัญหาใหญ่ เมื่อพบว่ามีก้อนหินขนาดใหญ่ขวางทางออกไว้ และดูแล้วท่าทางจะทำลายได้ยาก
เซก้าจึงบอกให้โนบิตะลองควานหาระเบิดพร้อมกับตัวจุดชนวนที่น่าจะอยู่ในอุโมงค์ที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นเหมืองแร่อยู่ในนี้
โนบิตะจึงรับหน้าที่ไปตามหาอุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างซึ่งได้แก่
1) ฟิวส์ตัวจุดชนวนระเบิด - อยู่บนกล่องทางด้านซ้ายบนของเหมือง
2) ระเบิด TNT สำหรับระเบิด - อยู่ข้างกล่องในบริเวณมุมขวาล่างของเหมือง
หลังจากที่ได้ส่วนประกอบครบทั้ง 2 อย่าง โนบิตะจึงรีบวิ่งกลับมาทางปากอุโมงค์ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า พวกซอมบี้ในอุโมงค์ทุกตัวกำลังเดินไล่ตามเขามาเป็นจำนวนมาก
"ว้ากกก พวกมันจะมาเยอะเกินไปแล้ว!!"
เมื่อมาทางบริเวณที่ไจแอนท์กับเซก้ารออยู่ ไจแอนท์จะบอกให้เรารีบเอาระเบิดจัดการหินที่ขวางทางเร็วๆเข้า เพราะว่าเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้นกำลังแห่มาทางนี้แล้ว ขืนชักช้าล่ะก็จะโดนมันรุมกินโต๊ะอัดมุมแน่
โนบิตะจึงรีบเอาอุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างไปติดตั้งไว้ที่หิน
"นะ นี่...ไอ้ของแบบนี้มันติดตั้งยังไงเนี่ย!!!"
ดูท่าว่าอุปกรณ์จุดระเบิดนั้นค่อนข้างเก่ามากทำให้ยากต่อการติดตั้งกว่าปกติที่โนบิตะเคยทำมา เซก้าเองก็กำลังวุ่นวายกับการต่อสู้กับพวกซอมบี้ตรงหน้าจึงได้แต่คอยบอกวิธีลัดให้โนบิตะ
"ละ แล้วยังไงต่อล่ะครับ!!"
"เร็วเข้าสิเว้ย!! โนบิตะ!! ฉันจะต้านไอ้พวกบ้านี่ไม่ไหวแล้วนะ!!!"
ไจแอนท์เร่งโนบิตะโดยเร็วในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาดที่กรูกันเข้ามาอย่างไม่มีวันหยุด
"ระ รู้แล้วน่า!!!"
ถ้าเป็นในเกมส์ตรงนี้จะเป็นการให้กดปุ่มลูกศรหมุนตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ
กริ๊ก! ในที่สุดระเบิดกับชนวนก็ถูกต่อกันเรียบร้อย
"เสร็จแล้ว!!"
เซก้าจึงรีบตะโกนออกมาว่า...
"ตอนนี้แหละ รีบกดระเบิดเร็วเข้า!!!"
โนบิตะถอยหลังออกมาพร้อมกับกดชนวนระเบิดอย่างเร็ว
ตูม!!!
หินที่ขวางทางอยู่แตกละเอียดในพริบตา .... โนบิตะ เซก้า และไจแอนท์จึงรีบออกไปจากอุโมงค์โดยเร็ว
หลังจากที่ออกมาจากอุโมงค์มืดได้ พวกโนบิตะก็หาก้อนหินมากลิ้งปิดทับอุโมงค์ไว้ปิดทางขังพวกมันไว้ได้
"ไม่เป็นไรใช่ไหม!?"
"ก็ เกือบไปน่ะนะ"
ทัศนียภาพรอบด้านของพวกโนบิตะตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นป่าทึบที่อยู่บนเกาะ หลังจากที่พวกเขาเดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น.... เซก้าบอกว่า เสียงนั้นคงจะเป็นเสียงปืนของพวกลิทชี่ที่กำลังยิงล่อความสนใจของพวกอัมเบรล่าเอาไว้ และให้เรามุ่งหน้าไปที่นั่นแบบเงียบที่สุด
ระหว่างทางอาจจะมีเคลเบรอสดักซุ่มโจมตีอยู่ในป่าได้ ดังนั้นให้ระมัดระวังด้วย
พวกเขาทั้ง 3 เดินต่อไปจนในที่สุดก็ถึงเขตรั้วของสถาบันวิจัย
"ในที่สุดก็มาถึงจนได้สินะ...."
เซก้าบอกว่า ถ้าหากข้ามรั้วตรงนี้ไปล่ะก็จะถึงตัวอาคารแล้ว
เขาบอกว่าตอนนี้คงจะถึงเวลาที่พวกหัวหน้าหน่วย (ลิทชี่) กับรีซี่ส่งสัญญาณให้ลอบเข้าไปได้แล้ว และจากนี้ไปจะไม่มีทางหวนกลับออกมาได้อีก เขาจึงถามโนบิตะย้ำว่า ต้องการจะไปต่อใช่หรือไม่
"ผมตัดสินใจแล้วครับ..."
แน่นอนว่าโนบิตะ เลือกตกลง...
พวกเขาทั้ง 3 จึงพากันปีนรั้วเข้าไปด้านในอย่างเงียบๆ แต่ทว่า...
"เฮ้ย!!! นั่นพวกแกเป็นใคร!!? มาทำอะไรที่นี่น่ะ"
พวกเขากลับถูกยามที่ยังคงประจำตำแหน่งอยู่พบตัวเสียแล้ว!!
เซก้าเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าหายามด้วยความเร็วสูงพร้อมกับต่อยหมัดเข้าใส่ยามคนนั้นจนสลบ...
แต่มันสายเกินไปแล้ว เพราะยามคนนั้นก็ดันกดสัญญาณฉุกเฉินได้ก่อนที่เขาจะสลบไป และไม่นานนักก็มีกลุ่มทหารรักษาความปลอดภัยกำลังวิ่งกรูกันเข้ามาทางนี้พร้อมอาวุธปืน เซก้าเห็นท่าไม่ดีจึงยกปืนขึ้นเล็งยิงพวกเขา พร้อมกับตะโกนบอกว่า..
"ไอ้หนู...รีบล่วงหน้าเข้าไปในตึกก่อนเลยเร็วเข้า! ไปไปไป!!"
"คุณเซก้า!!"
"รีบไปเร็วเข้าเซ่!! ที่นี่ฉันจัดการเอง รีบไปเร็ว!!!!"
เซก้าพูดขณะใช้ปืนกลยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ที่ยิงสวนมา
"ขะ เข้าใจแล้วครับ!! ไจแอนท์ เราไปกัน..."
โนบิตะพยายามจะลากไจแอนท์เข้าไปด้วย แต่ทว่าเขากลับยืนนิ่งราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่...
................
"เร็วๆเข้าซี่ ไจแอนท์!!!!"
แต่แล้วไจแอนท์ก็ทำสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเขาหยิบปืนกลที่สะพายอยู่ด้านหลังออกมา
"เจ้าหมอนั่นคนเดียวต้านไม่ไหวหรอก!!"
"ไจแอนท์...หรือว่านาย..."
แล้วไจแอนท์ก็ใช้ปืนกลยิงเข้าไปใส่ถังน้ำมันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจนเกิดการระเบิด พวกเจ้าหน้าที่ที่ยิงต่อสู้กับเซก้าถึงกับกระเด็นไปคนละทาง เปิดโอกาสให้เซก้าได้หยุดพักชั่วขณะ
"รีบล่วงหน้าไปก่อนเลยโนบิตะ!!! ฉันกับเจ้านั่น 2 คนจะอยู่ต้านที่นี่ไว้เอง!!"
"ขะ เข้าใจล่ะ..... ถ้างั้น อย่าตายนะ!!"
โนบิตะที่มองเห็นสถานการณ์ดังนั้นจึงตัดสินใจวิ่งล่วงหน้าพวกเขาไปตามลำพัง ถึงแม้จะมียามบางคนจะใช้อาวุธปืนเล็งไปที่โนบิตะ แต่เขาก็ถูกเซก้ายิงสกัดไว้จนทำอาวุธตก...
"เออ....แกคิดว่าฉันเป็นใครกันล่ะ..?"
ตอนนี้มีเพียงไจแอนท์กับเซก้า 2 คนเท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับ 10 คน.... และตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ที่ดูโหดๆพวกนั้น...
"แกนี่มันเป็นคนดีจริงๆเลยนะไอ้หนู...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า
คนอย่างฉันจะได้ร่วมต่อสู้กับเด็กที่บ้าบิ่นอย่างเธอ"
เซก้าพูดชมขณะโยนปืนทิ้งพร้อมกับหักข้อนิ้วเสียงดังกร๊อบเตรียมที่จะต่อยคน
ก่อนที่จะหันหลังให้เด็กหนุ่ม
"เออ...ฉันก็ไม่อยากจะร่วมต่อสู้กับนายหรอก แต่มันช่วยไม่ได้นี่หว่า..."
ไจแอนท์เองก็วางอาวุธพร้อมกับกำหมัดในมือไว้แน่นเตรียมที่จะบดขยี้ศัตรูที่รายล้อมพวกเขา
พร้อมกับหันหลังให้กับเจ้าหน้าที่ร่างยักษ์ ตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 คอยระวังหลังซึ่งกันและกัน
"มาพนันกันไหมว่าใครจะจัดการได้เยอะกว่ากัน"
"แบบนี้ก็สวยสิ..."
หลังจากสิ้นเสียงคำพูด กลุ่มเจ้าหน้าที่จำนวนมากก็พุ่งตรงเข้าไปจับทั้งคู่พร้อมกับอาวุธระยะประชิดอย่างท่อนเหล็กหรือกระบองทันที.....
"ฉันจะอัดพวกแกให้น่วมเลยคอยดูสิ!!"
=======================================================
ตัดกลับไปทางด้านโนบิตะ ซึ่งเขาได้ปีนรั้วลอบเข้ามาทางเขตสวนด้านในของสถาบันวิจัยได้สำเร็จ
"ประตูทางเข้าอยู่ไหนกันนะ...?"
การผจญภัยของโนบิตะในสถาบันวิจัยบนเกาะมรณะได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว....เขาจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้างโปรดติดตามตอนต่อไป....
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น