" />

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 23]


โนบิตะตัดสินใจปีนรั้วใหญ่และวิ่งตรงเข้าไปยังอาคารสถาบันวิจัยของอัมเบรล่าตามลำพังโดยให้เซก้ากับไจแอนท์คอยรับมือพวกทหารยามเอาไว้



"ประตูทางเข้าอยู่ไหนกันนะ...?"

สิ่งที่กำลังรอคอยโนบิตะอยู่ ณ ที่แห่งนั้นก็คือ....



บทที่ 23
ยุทธการตอบโต้อัมเบรล่า
ความลับของคฤหาสน์บนเกาะที่ตั้งสถาบันวิจัยลับ


ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
ก่อนที่พวกโนบิตะจะมาถึงสถาบันวิจัยบนเกาะ

สถานที่แห่งนี้ถูกปิดล้อมด้วยกองกำลังรักษาความปลอดภัยติดอาวุธจำนวนมาก


เหล่าทหารยามที่เฝ้ารักษาการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้สิ่งกีดขวางที่แน่นหนา


แถมยังมีรถถังอีกด้วย...จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบุกยึดสถานที่แห่งนี้ซึ่งๆหน้า


แต่ทว่าในตอนนั้นเอง ก็มีกลุ่มรถบรรทุกกลุ่มหนึ่งวิ่งแล่นตรงเข้ามาในสถานที่แห่งนี้


เหล่าทหารยามติดอาวุธหลายนายจึงทำการเรียกหยุดรถ


รถบรรทุกทั้ง 3 คันจอดอยู่เบื้องหน้าเหล่าทหารยามอย่างสงบโดยไม่มีการขัดขืน


เหล่าทหารยามจึงค่อยๆเดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆรถบรรทุกโดยไม่คิดที่จะลดอาวุธลงเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาไม่อาจเห็นหน้าตาคนขับรถได้ด้วยลักษณะกระจกที่มองไม่เห็นจากด้านนอก


....แอ้ดดดดด

ทหารยามนายหนึ่งก็สังเกตเห็นว่าประตูด้านหลังรถบรรทุกมันถูกเปิดออก
พวกเขาจึงระมัดระวังตัวเองมากขึ้น


พวกเขามัวแต่จับจ้องไปยังคนขับรถหรือไม่ก็ด้านท้ายรถ...

โดยไม่ทันสังเกตส่วนอื่นจนกระทั่งได้ยินเสียงดังตึงตังบนหลังคารถ...
ทำให้พวกเขาหันไปมอง...


และพบกับ....!!
ตัวอะไรบางอย่างที่มีสีแดงเกาะอยู่บนหลังคา!!!


ชั่วพริบตาสิ่งที่พวกทหารยามจำความได้มีเพียงฟันเขี้ยวสีขาวแหลมคมเท่านั้น
ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดไป และไม่มีแสงสว่างอีกเลย



ตัดมาในช่วงเวลาปัจจุบันที่โนบิตะอยู่ตอนนี้

เขาตรวจเช็คอาวุธที่ตัวเองพกมาให้เรียบร้อยซึ่งอาวุธที่เขามีทั้งหมดประกอบด้วย
1) มีดพก     2) ปืนพก (แฮนดกัน)
3) ปืนลูกซอง (มอสเบิร์ก M590 00B)   4) ปืนกลเบา (AK-47)
5) ปืนยิงลูกระเบิด (M79)


"เอาล่ะ...ลุยกันเลย"

โนบิตะจึงเดินมุ่งหน้าตามเส้นทางตรงไปยังทางเข้าด้านหน้าของตัวอาคาร ถึงแม้ว่าระหว่างทางจะมีพวกอีกาบินอยู่ แต่มันก็มีจำนวนไม่เยอะมากนัก โนบิตะจึงใช้ปืนพกยิงจัดการพวกมันจนหมด


จนกระทั่งเขาเดินมาถึงประตูทางเข้าหลักด้านหน้า...

"นะ...นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย!!?"

เบื้องหน้าของเขาคือกลุ่มซากปรักหักพังเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างบุกเข้าทำลาย


อีกทั้งยังเต็มไปด้วยซากศพทหารยามที่เละเทะนอนจมกองเลือดเกลื่อนกลาดอยู่ตามซากนั้น ในสภาพที่น่าเวทนา ราวกับถูกสัตว์ร้ายบางอย่างรุมทึ้งจนเละเทะ อวัยวะหลุดขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ ไม่ก็ไส้ไหลกระจัดกระจาย


"อุ๊บ!!!!"

กลิ่นเหม็นของคาวเลือดและซากเนื้อโชยเตะจมูกโนบิตะจนทำให้เขารู้สึกอยากจะอาเจียนในวูบแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มคุ้นกับกลิ่นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกวาดสายตามองดูสภาพซากศพตามทาง



และที่น่าสังเกตยิ่งกว่านั้น โนบิตะยังมองเห็นซากศพบางอย่าง... มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดสีแดง มีกรงเล็บ ที่เขาคุ้นเคย....


สัตว์ประหลาดสีแดง...ฮันเตอร์เบต้า

 "นี่เป็น..ฝีมือของพวกฮันเตอร์งั้นหรือเนี่ย"

โนบิตะเดินผ่านป้อมยามก็เห็นแต่ศพของทหารยามเช่นกัน.....


ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีรถถังหรือที่กำบัง แต่ก็ไร้ค่าเมื่อเผชิญหน้ากับฝูง B.O.W. ที่กระหายเลือดจำนวนมาก
โนบิตะจึงทำการไว้อาลัยให้พวกเขาเหล่านั้น


ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังอาคารเป้าหมายเบื้องหน้า



แต่ยังไม่ทันที่โนบิตะจะเดินเข้าไปในอาคาร ก็มีตัวอะไรบางอย่างวิ่งตรงเข้ามาทางโนบิตะประมาณ 2-3 ตัว  พวกมันคือ....

"ชิ!! ยังมีพวกฮันเตอร์เหลืออยู่แถวนี้อีกเหรอเนี่ย!?"

ฮันเตอร์เบต้าสีแดงวิ่งนำหน้า พวกฮันเตอร์สีเขียวตัวอื่นๆ เข้ามาหมายจะจัดการกับโนบิตะ


โนบิตะถืออาวุธพร้อมกับสไลด์หลบการโจมตีไปด้านข้างแล้วใช้ปืนลูกซองยิงสวนกลับไปที่พวกฮันเตอร์..  (ภายในเกมส์ฮันเตอร์เบต้าสามารถหลบกระสุนได้เหมือนทินดาลอส และถ้าเป็นภาค L3D มันยังสามารถสะท้อนกระสุนได้ด้วย)


ปืนลูกซองของโนบิตะสามารถจัดการกับพวกฮันเตอร์ลิ่วล้อได้ เหลือเพียงฮันเตอร์เบต้าตัวเดียวเท่านั้นที่หนังหนากว่าฮันเตอร์ตัวอื่นๆ  โนบิตะจึงโยนปืนลูกซองทิ้งพร้อมกับคว้าปืนยิงลูกระเบิด M79 ขึ้นมายิง

"เสร็จฉันละ!!!"

ฮันเตอร์เบต้าถูกกระสุนยิงลูกระเบิดอัดใส่ร่างจนกระเด็นเละเทะ


"อ้ะ นั่นมัน...!!"

โนบิตะสังเกตของบางอย่างที่ตกลงมาจากร่างของฮันเตอร์เบต้า


มันคือกุญแจสีทองดอกใหญ่ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ในสถาบันวิจัยแห่งนี้ โนบิตะจึงเก็บมันขึ้นมา




โนบิตะจึงเดินมุ่งหน้าตรงไปยังสถาบันวิจัย ที่เป็นอาคารหินอ่อนและมีประตูทำด้วยไม้





ภายในด้านในตัวอาคารสถาบันวิจัย


"ที่นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย!?"


ตัวอาคารด้านนอกน่าตกใจแล้ว ข้างในนี้น่าตกใจยิ่งกว่า เพราะมันน่าจะเรียกว่าคฤหาสน์ยุคกลางมากกว่าสถาบันวิจัยเสียอีก แถมยังปูพรมและตกแต่งจนเหมือนกับบ้านผู้มีอิทธิพลด้วย


"ลักษณะแบบนี้มันเหมือนกับพวกบ้านคนรวยเลยนะเนี่ย...."


และพอโนบิตะเอ่ยคำว่าบ้านออกมาแล้ว ทำให้เขาชะงักและหวนกลับไปคิดถึงบ้านของเขา

"บ้าน........คุณแม่......."


โนบิตะก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าที่เผลอนึกถึงอดีตที่เจ็บปวดและในตอนนั้นเอง...

!!!!?


เขาสังเกตเห็นลำแสงเลเซอร์สีแดงกำลังส่องลงมาที่ขาของเขาโดยบังเอิญ และแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่า แสงเลเซอร์แบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแสงที่ใช้เล็งเป้าหมายที่มักจะติดอยู่กับ....


"เฮ้ย!!!!!"


ปัง!!!

ชั่วพริบตาที่กระสุนจากปากกระบอกปืนไรเฟิลพุ่งตรงไปทางโนบิตะ เขาก็กระโจนหลบกระสุนที่ลอยเฉี่ยวหัวออกมาอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด พร้อมกับหาที่หลบอยู่หลังเสาใกล้ๆ



"ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย! ไอ้พวกเวรตะไล!!"


เสียงตวาดของผู้ชายที่ยิงปืนไรเฟิลใส่โนบิตะดังลั่นไปทั่วห้องโถง

"คุณเป็นใครกัน!!!?"


โนบิตะถามออกไปทั้งๆที่ยังหลบอยู่หลังเสา


"บังอาจนักที่มาถล่มเกาะของฉันจนเละเทะแบบนี้ ยกโทษให้ไม่ได้!!!"


"ดะ..เดี๋ยวก่อนสิครับ!! ผมไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นนะครับ!!"


"งั้นแกก็คงทำตามคำสั่งของไอ้พวกนั้นสินะ!! 
ใช่สิ! พวกมันต้องการผลงานของฉันอยู่แล้ว...แต่ว่านะ.."


ชายคนนั้นพูดไปด้วยพลางเดินลงไปตามขั้นบันไดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งมุมเล็งปืนไรเฟิลของตนไปด้วย โดยที่โนบิตะซ่อนอยู่หลังเสาไม่รู้ เพราะโนบิตะมัวแต่คิดถึงสิ่งที่ชายคนนี้พูดไปจึงถามกลับไปว่า..


"..อะ..ไอ้พวกนั้นงั้นเหรอ? ใครกันล่ะที่ทำเรื่องแบบนี้..."


โนบิตะพูดเสร็จก็ค่อยๆยื่นหน้าหันออกไปดูหน้าของชายที่คิดจะฆ่าตนโดยไม่ทันสังเกตเลยว่า เขาเปลี่ยนตำแหน่งแล้วทำให้มุมเดิมที่เคยปลอดภัยของโนบิตะหายไป อีกทั้งยังไม่รู้ตัวเลยว่า ตอนนี้แสงเลเซอร์กำลังเลื่อนมาที่ใบหน้าของโนบิตะที่ยื่นออกมาพอดี


"อย่ามาแกล้งโง่นะ!!"


แสงเล็งตรงศีรษะของโนบิตะเรียบร้อยเหลือแค่เหนี่ยวไกเท่านั้น!!
ชายคนนั้นยิ้มและค่อยเหนี่ยวไกปืนพร้อมพูดออกมาว่า...


"ชื่อของฉันก็คือ...อั.."


ปัง!!!

กระสุนจากถูกยิงออกไป.....

มันพุ่งทะลุกลางศีรษะของชายที่ถือปืนไรเฟิลอยู่บนขั้นบันไดอย่างแม่นยำ


กระสุนนั้นไม่ได้ถูกยิงจากปากกระบอกปืนของผู้ชายคนนั้น...


"เอ๋!!!? เอ๋!!!? เอ๋!!!?"


แต่มันถูกยิงออกมาจากปืนไรเฟิลของหญิงสาวสไนเปอร์ผมบลอนด์ประจำกลุ่ม U.B.C.S. - รีซิสซ่านั่นเอง

เธอกับหัวหน้าหน่วยลิทเชนคุสกี้ปรากฏตัวออกมาช่วยโนบิตะไว้ได้อย่างฉิวเฉียด!!

"เป็นอะไรหรือเปล่า เจ้าหนู..? ไม่โดนยิงตรงไหนใช่ไหม"


โนบิตะจึงรีบวิ่งออกจากหลังเสามาหาพวกเขา

"คุณลิทเชนคุสกี้ คุณรีซิสซ่า..."

รีซิสซ่าลดปากกระบอกปืนลงแล้วเอาปืนสะพายไว้ที่บ่าตามปกติ

"เกือบไปแล้วไหมล่ะ...ขืนช้ากว่านี้เธอโดนไอ้บ้านั่นส่องกะาลไปแล้วนะ
ว่าแต่..เธอรู้จักเจ้านั่นหรือเปล่าล่ะ?"



"เอ่อ..อ่า...."

โนบิตะพูดอะไรไม่ออกจึงส่ายหัวเป็นคำตอบแทน


จากนั้นลิทชี่ก็บอกว่า เขากับรีซิสซ่าจะตั้งหลักรอพวกเซก้าอยู่ตรงนี้ก่อน เพราะระหว่างทางเกิดการปะทะกันทั้งกลุ่มยามและพวก B.O.W. ทำให้ เสียรูปและหลงเหลือรอดเข้ามาที่นี่เพียงแค่เขากับรีซิสซ่าเท่านั้น


รีซิสซ่าเองก็บอกว่าทางด้านเอสเตอร์ยังไม่ได้ตอบกลับมาเลย และหวังว่าทุกคนคงจะปลอดภัยดี


ลิทชี่จึงบอกกับโนบิตะว่า พวกเขาจะรอตั้งหลักอยู่บริเวณหน้าประตูตรงนี้ ให้โนบิตะเดินเข้าไปสำรวจตรวจสอบด้านในก่อนเลย และก็ขอให้ระวังตัวมากกว่าเดิมด้วย เพราะถ้าพวกเขามาช้ากว่านี้เพียงนิดเดียวล่ะก็ โนบิตะคงจะโดนยิงตายไปแล้ว


อือ...

โนบิตะคิดในใจว่า ท่าทางพวกเขาคงเป็นห่วงพวกพ้องมากเหมือนกันถึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่แทนที่จะไปตรวจสอบด้านใน อีกทั้งยังไม่คิดที่จะห้ามเขาเข้าไปตรวจสอบก่อนด้วย จึงไม่น่ามีปัญหา 


โนบิตะแอบได้ยินเสียงลิทชี่พูดพึมพัมว่า ... หวังว่าพวกเซก้าคงจะไม่เป็นอะไรนะ


รีซิสซ่าเองก็พึมพัมออกมาว่า... พวกยานอฟคงจะปลอดภัยดีนะ...แต่รู้สึกกังวลยังไงก็ไม่รู้..เหมือนกับจะมีอะไรเลวร้ายบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น


โนบิตะจึงเริ่มออกสำรวจสถาบันวิจัยที่เหมือนปราสาทแห่งนี้ โดยเริ่มจากห้องทางด้านซ้าย


ปรากฏว่ามันเป็นห้องน้ำและมีซอมบี้จำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ


"อ้ะ จริงสิ..ชายคนนั้น..."

โนบิตะจึงออกจากห้องน้ำและรีบวิ่งขึ้นบันไดไปดูศพของผู้ชายที่คิดจะยิงตนคนนั้น ท่าทางเป็นผู้ดี มีฐานะและเป็นเจ้าของปราสาทหลังนี้ เขาพยายามจะบอกชื่อว่า เขาชื่อ "อั..." อะไรสักอย่าง แต่โดนยิงตายซะก่อน ก็เลยเป็นว่า ไม่รู้ชื่อไป






เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้เป็นการสร้างสถานการณ์ที่ล้อเลียนเนื้อเรื่องจากเกมส์ Resident Evil ภาคโค้ดเวโรนิก้าอย่างชัดเจน ตรงที่เริ่มตั้งแต่การลุยบนเกาะที่ถูกใครบางคนจู่โจมมาก่อน ใน RE ผู้ที่นำกองทัพบุกเกาะร็อคฟอร์ดคือเวสเกอร์ เพื่อแย่งชิงไวรัสโค้ดเวโรนิก้ามาจากอัลเฟรด แอชฟอร์ด (Alfred Ashford) และในที่นี้โนบิตะก็รับบทเป็นแคลร์ เรดฟิลด์นางเอกของภาคนี้ ที่มีเหตุการณ์เผชิญหน้ากับอัลเฟรดในคฤหาสน์ที่เป็นคนยิงไรเฟิลใส่ พร้อมกับต่อว่าว่าเป็นคนนำทัพบุกเกาะตามคำสั่งใครบางคน แต่ตามเกมส์ RE อัลเฟรดจะยอมปล่อยไปก่อน ซึ่งต่างจากในโนบิตะโนะไบโอฮาซาร์ดที่ยิงทิ้งมันเลย.... แน่นอนว่าถ้าให้เดาชื่อที่ผู้ชายคนนั้นบอก เราคิดว่าต้องเป็น อัลเฟรด แน่นอน (เพราะพิมพ์เริ่มต้นด้วย 'อั..' แต่ปิดฉากให้ตายก่อนไม่งั้นเนื้อเรื่องจะซ้ำเกินไป เหอะๆๆๆ)


โนบิตะลองเดินสำรวจเข้าในห้องทางด้านซ้ายบนชั้น 2


จะเป็นโรงครัว ซึ่งที่นี่มีจุดเซฟให้เซฟเกมส์ได้


จากนั้น โนบิตะก็วกกลับมาสำรวจห้องอีกห้องด้านล่างก่อน


ตามทางเดินด้านในจะมีพวกฮันเตอร์คอยดักเล่นงานอยู่ แต่โนบิตะไม่สนใจพร้อมพุ่งตรงไปยังประตูห้องที่อยู่ใกล้ๆ


ห้องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ดูสวยงามเหมาะแก่การสำรวจหาข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัย....แต่ติดตรงที่ว่า ดันมี B.O.W. เจ้าเก่าอย่างเฟอโรวิเนอร์โต้ รอต้อนรับอยู่ตัวนึง



"ให้ตายสิ...ไอ้บ้านี่อีกแล้ว!!!"

เมื่อก่อนจัดเป็นศัตรูที่รับมือยาก แต่ตอนนี้โนบิตะสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดายโดยการเอาปืนลูกซองยิงเป่าหัวมันจนกระจุยจนไม่สามารถรักษาตัวเองจนฟื้นคืนชีพได้อีก


และแล้วโนบิตะก็พบกับเอกสารที่น่าสนใจเข้าเล่มหนึ่ง



สิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกว่า สาส์นแด่ผู้นำตระกูลคนใหม่


เนื้อหาในบันทึกค่อนข้างคล้ายคลึงกับไฟล์เอกสารที่ชื่อ "Message to The New Family Master" ในเกมส์ RE ภาคโค้ดเวโรนิก้า (ที่ใช้ในการแก้ปริศนารูปภาพประจำตระกูล) แต่มีการดัดแปลงให้มีการระบุรายละเอียดน้อยลงและเซนเซอร์ชื่อบรรพบุรุษไว้



มันเป็นจดหมายที่เขียนถึงท่าน *** (ใน RE ก็คือ อัลเฟรด)
ที่แสดงความยินดีในการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นเจ้าบ้านคนใหม่


พร้อมกับเนื้อหาประมาณว่า ถึงเวลาที่ท่านจะได้รับเกียรติให้เข้าถึงความลับประจำตระกูลแล้วซึ่งจะเป็นวัฒนธรรมประจำตระกูลที่จัดขึ้นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ พร้อมกับมีการกล่าวสรรเสริญผู้นำประจำตระกูลคนก่อน เรียงตามลำดับ


(ในเอกสารตรงนี้ชื่อผู้นำตระกูลจะถูกเซนเซอร์หมดแต่ถ้าเป็น RE จะเป็นชื่อพร้อมบรรยายลักษณะมาเลย)
ผู้นำตระกูลคนแรก ท่าน....ที่เป็นผู้นำตระกูลท่านแรกที่มีอายุน้อยที่สุด
ต่อมารุ่นที่ 2 เป็นของท่าน...ซึ่งเป็นหญิงสาวที่งดงามเหลือจะกล่าว
รุ่นที่ 3 เป็นท่าน... ถึงเป็นผู้นำที่มีอายุเยอะ และชราภาพแต่ก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง
ส่วนรุ่นที่ 4 นั้นคือท่าน...เป็นบุรุษที่ดูมีสง่าราศี

***คีย์เวิร์ดเหล่านี้จะต้องจำไว้ให้ดีเพราะจะต้องถูกนำไปใช้แก้ Puzzle เพื่อผ่านทาง***


ในส่วนท้ายจดหมายเขียนบอกประมาณว่า อันที่จริงแล้วยังมีอีกคนที่ควรเป็นบุรุษผู้นำตระกูลก่อนท่านแต่ต้องจากไปเสียก่อนเหลือเพียงภาพแห่งความทรงจำไว้ก่อนที่จะนำไปขึ้นประดับ  (ข้อความต่อจากนี้ไม่สามารถอ่านได้อีก)

***คีย์เวิร์ดเหล่านี้จะต้องจำไว้ให้ดีเพราะจะต้องถูกนำไปใช้แก้ Puzzle เพื่อผ่านทาง***


โนบิตะยังไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไรจึงเก็บเอาไว้ก่อน จากนั้นเขาจึงออกจากห้องและเดินไปยังทางเดินด้านในสุด


"ห้องนี้!? มันอะไรกันเนี่ย!?"

โนบิตะตกใจลักษณะของห้องที่มีรูปภาพติดเต็มฝาผนังเรียงกัน 4 รูป


และสิ่งที่ทำให้โนบิตะรู้สึกสะดุดตาที่สุดในห้องนี้คงจะเป็น...


กล่องทองคำขนาดเล็กที่ถูกวางตรึงอยู่บนโต๊ะที่แกะสลักด้วยลวดลายที่สวยงาม และมีความแข็งแกร่งมากในระดับที่ปืนยิงลูกระเบิดที่เขามียังไม่สามารถทำลายมันได้ มันถูกสร้างมาแบบพิเศษ แถมยังไม่มีรูกุญแจด้วยและที่จับด้วย


"กล่องใบนี้ต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ แต่จะเปิดมันยังไงล่ะ..."

โนบิตะพยายามหาวิธีเปิดกล่องที่ตรึงอยู่กับโต๊ะออกจนหันไปมองเห็นรูปภาพรูปหนึ่งที่แยกออกมาจากรูปภาพ 4 รูปที่ติดเรียงกัน


มันเป็นรูปของผู้ชายวัยกลางคนที่อุ้มเด็กเล็กๆอยู่ 2 รูป และสิ่งที่น่าสนใจคือ รูปใบนี้ถูกแยกออกมาเพียงลำพัง....อีกทั้งไม่ถูกประดับด้วยกรอบทองแบบรูปทั้ง 4 ที่อยู่บนผนังอีกฝั่ง แถมยังมีข้อความเขียนด้านล่างไว้ว่า...ผู้นำที่สิ้นใจก่อนวันได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูล...



"ชายคนนี้...ตายก่อนได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล....ผู้นำตระกูล...?" 

"เอ๊ะ...!!  หรือว่า....!!"

ในตอนนั้นเองโนบิตะได้สังเกตเห็นว่าใต้รูปภาพนี้ยังมีสิ่งที่ยื่นออกมาเหมือนกับปุ่มสวิตช์บางอย่าง ทำให้เขาเริ่มเข้าใจ แล้วก็มองไปยังรูปภาพทั้ง 4 ที่ประดับผนังเรียงกัน....

"หรือว่านี่จะเป็น...ผู้นำตระกูลรุ่นก่อน...ถ้าอย่างนั้นล่ะก็....."

จากนั้นโนบิตะก็หยิบเอกสารที่ตนเคยเก็บไว้ขึ้นมาดู....พลางใช้ความคิดว่า...ถ้าหากเขาลองกดปุ่มใต้รูปภาพของผู้นำตระกูลเรียงลำดับถูกต้องล่ะก็....

ทีนี้ก็เริ่มเข้าสู่วิธีการแก้ปริศนา...โจทย์แรกที่เขาต้องคิดให้ออกก็คือ...เขาจะกดปุ่มใครก่อน...

รูปภาพทั้ง 4 นั้นเรียงลำดับจากซ้ายไปขวาเป็นรูปดังต่อไปนี้...
1) รูปภาพผู้หญิงที่งดงาม
2) รูปภาพเด็กผู้ชายวัยรุ่น
3) รูปภาพผู้ชายวัยกลางคน
4) รูปภาพคนแก่



"จากข้อความในเอกสารบอกไว้...
รุ่นที่ 1 อายุน้อยที่สุดก็หมายความว่า.."

สวิตช์ที่ต้องกดเป็นอันดับแรกคือรูปของเด็กผู้ชายวัยรุ่นซึ่งเป็นรูปที่ 2 จากทางซ้ายมือ
[ปุ่มที่ 1 - รูปที่ 2]


จากนั้นโนบิตะก็ไล่หาไปเรื่อยๆ โดยรูปที่ต้องกดเป็นอันที่สองคือผู้นำลำดับที่ 2 หมายถึง หญิงสาวงาม
ดังนั้น...ก็คือรูปที่มีผู้หญิงเพียงรูปเดียวเท่านั้น
สวิตช์ที่ต้องกดเป็นอันดับที่สองคือรูปของหญิงสาวด้านซ้ายมือสุด
[ปุ่มที่ 2 - รูปที่ 1]


ผู้นำรุ่นต่อไป เขาก็คือคนแก่ ซึ่งคนแก่ที่ว่าก็มีเพียงรูปเดียวเท่านั้นก็คือ..

สวิตช์ที่ต้องกดเป็นอันดับที่สามคือรูปของคนแก่ด้านขวามือสุด
[ปุ่มที่ 3 - รูปที่ 4]

ทีนี้ก็เหลือรูปชายหนุ่มที่มีอายุประมาณ 30 ปี เพียงคนเดียว จึงเป็นผู้นำตระกูลรุ่นที่ 4 ดังนั้น

สวิตช์ที่ต้องกดเป็นอันดับที่สี่คือรูปของคนหนุ่มรูปที่ 3 นับจากทางซ้าย
[ปุ่มที่ 4 - รูปที่ 3]


หลังจากที่โนบิตะกดปุ่มครบทั้ง 4 แล้ว เขาจึงเดินไปที่รูปสุดท้ายที่ถูกแยกออกมา ... ผู้ที่สิ้นใจก่อนขึ้นรับเป็นผู้นำตระกูลและกดปุ่มที่อยู่ใต้รูปเป็นปุ่มสุดท้าย....


แกร๊ก!!
โนบิตะได้ยินเสียงเหมือนกลไกบางอย่างกำลังถูกปลดล็อกดังออกมาจากกล่องทองคำบนโต๊ะ

"สำเร็จแล้ว"

โนบิตะสามารถเปิดกล่องสมบัตินั้นได้ และสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นคือ ไอดีการ์ด (ID Card) ที่มีตราสัญลักษณ์ของอัมเบรล่าสำหรับปลดล็อกอะไรสักอย่าง...




สรุปได้ว่าปริศนานี้อ้างอิงตามปริศนาการกดรูปไล่ตามลำดับ
ผู้นำในตระกูลของเกมส์ RE ภาคโค้ดเวโรนิก้าเลย

หลังจากที่หยิบไอดีการ์ดขึ้นมา...

เพล้ง!!

โนบิตะก็รู้สึกตกใจสุดขีดเมื่อพบว่ามีอะไรบางอย่างพังกระจกที่ด้านหลังเขาเข้ามาในห้อง


"เหวอ!!!"

มันคือฮันเตอร์เบต้า!!! และมันก็พุ่งเข้าโจมตีโนบิตะอย่างเร็ว!!!


นอกจากนี้เขายังพบว่ามีฮันเตอร์กลุ่มหนึ่งโดดตามเข้ามาด้วย เขาจึงรีบกระโดดข้ามโต๊ะ


และวิ่งหนีออกไปจากห้องโดยเร็ว!!


มุกนี้ก็เอามาจาก RE : โค้ดเวโรนิก้าเหมือนกัน

หลังจากที่ออกมานอกห้อง โนบิตะก็รีบวิ่งเข้าไปสำรวจในห้องใกล้ๆ เพื่อหลบฮันเตอร์ที่เดินอยู่เต็มทางเดินอีก...


"เฮ้อ.... เกือบไปแล้ว..."

ห้องที่ตั้งอยู่ข้างห้องประดับรูปนี้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ของสะสมบางอย่าง และสิ่งที่โนบิตะรู้สึกสะกิดใจมากที่สุดคือ ของที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งก็คือ "ที่จับคันโยก" มันตั้งไว้โดดเด่นเกินของชิ้นอื่นๆ เขาจึงคิดว่ามันต้องเป็นสิ่งที่ช่วยในการเข้าถึงห้องทดลองลับอะไรแบบนี้แน่ๆ จึงเก็บมันไปด้วย





คลิปการแก้ปริศนา

ที่ชั้น 1 โนบิตะก็สำรวจจนเกือบหมดแล้ว เขาจึงเดินขึ้นไปยังชั้น 2 และมุ่งหน้าตรงไปยังห้องด้านขวาที่ยังไม่เคยเข้าไป และพบว่ามันถูกล็อกอยู่  เขาจึงลองใช้กุญแจที่เก็บมาจากซากศพฮันเตอร์เบต้าตอนก่อนเข้าคฤหาสน์ดู ปรากฏว่ามันไขได้พอดี...


โนบิตะเดินเข้ามาตามทางเดินจนกระทั่งสุดทางก็มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น...นั่นคือห้องทำงานของเจ้าของคฤหาสน์ด้านในสุด


โนบิตะลองสำรวจภายในห้องจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นอะไรที่น่าสนใจ จนกระทั่ง...

"เอ๊ะ!? นี่มันรูอะไรเนี่ย...."

ที่ผนังด้านหลังโต๊ะทำงานเขาพบว่ามีรูอะไรบางอย่าง 2 รูปต่อกัน

"อ้ะ...ลองใช้ที่จับคันโยกนั่นดูดีกว่า...."

โนบิตะจึงลองเสียบที่จับคันโยกลงไปและพบว่ามันเข้ากันได้พอดีเป๊ะ จนกลายเป็นคันโยกที่ใช้สับขึ้นลงได้


จากนั้นเขาลองโยกลงก่อนหนึ่งครั้ง...


แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงยกคันโยกขึ้นไปอีกครั้ง



หลังจากดึงคันโยกขึ้นไม่นาน ช่องเพดานใกล้ๆก็เปิดออกพร้อมกับมีบันไดเลื่อนลงมาด้านล่าง...


"กะแล้วเชียว...."

โนบิตะจึงไต่บันไดขึ้นไปสำรวจด้านบนก็พบทางเดินลับที่ตรงไปยังประตูอิเล็กทรอนิกส์ด้านใน ซึ่งมีเครื่องอ่านไอดีการ์ด (ไอดีการ์ดรีดเดอร์) ติดอยู่ข้างๆ โนบิตะจึงใช้ไอดีการ์ดรูดดู


ตื้ดดดด.....ไอดีการ์ดถูกต้อง...

"หึ...ของกล้วยๆ"

จากนั้นก็มีข้อความแสดงในหน้าจอไอดีการ์ดรีดเดอร์ขึ้นมาว่า..

กรุณากรอกโค้ดที่หารด้วย 2 ด้วยค่ะ....


"ห้ะ!? โค้ดหารด้วยสอง?"

โนบิตะจึงพลิกด้านหลังไอดีการ์ดก็พบว่ามีโค้ดตัวเลขเขียนอยู่ด้านบน (เลขรหัสจะสุ่มไปเรื่อยๆ)


หลังจากใช้เวลาอยู่สักครู่ใหญ่ โนบิตะจึงกรอกรหัสลงไปได้ถูกต้อง

[จากตัวอย่างโค้ดที่ดูจากไอดีการ์ดคือ 21386 ดังนั้นรหัสที่ต้องกรอกก็คือ 21386 / 2 = 010693 ซึ่งเล่นทุกครั้งรหัสส่วนนี้จะไม่เหมือนกันดังนั้นพยายามคิดเลขหน่อยละกัน]


จากนั้นประตูด้านในจึงเปิดออก


ห้องที่อยู่ด้านในนี้เป็นห้องทดลองลับขนาดกว้างใหญ่และมีอุปกรณ์ต่างๆมากมาย...


"ห้องทดลองลับคือที่นี่เองสินะ....อืม.... มันจะมีอะไรซ่อนอยู่กันนะ?"


และในตอนนั้นเองโนบิตะก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกจากด้านหลัง

"โนบิตะ!!"


โนบิตะจึงหันหลังกลับมามองคนที่เรียกก็พบกับ...


"จะ ไจแอนท์!!!  แล้วก็...คุณเซก้า!!?"

เมื่อเห็นว่าเป็นทั้งคู่ โนบิตะจึงรู้สึกดีใจอย่างโล่งอก

"โชคดีจริงๆ ที่ทั้งสองคนไม่เป็นอะไร..."


"โฮ้ย ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องห่วง
ใครมันจะทำอะไรท่านไจแอนท์ผู้นี้ได้กันเล่า...!!"


ขณะที่ไจแอนท์กำลังพูดอย่างดีอกดีใจ 
เซก้าก็ทำท่าทางเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่


"คุณเซก้า?"


"ต้องขอบใจเธอนะ ที่หามันจนเจอ"

ในตอนนั้นเองเซก้าก็ทำสิ่งที่เด็กหนุ่มทั้ง 2 คนไม่คาดคิด
เขาหยิบปืนพกขึ้นมาจ่อหน้าผากโนบิตะ


"เฮ้ย!! นี่แก!!!"


ไจแอนท์อยากจะเข้าไปห้ามแต่ดูเหมือนว่าเขาคงไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะระยะปากกระบอกปืนมันอยู่ชิดกับโนบิตะเกินไป... และเซก้าเองก็เป็นคนที่มีประสาทสัมผัสดีมาก เขาคงจะเหนี่ยวไกยิงโนบิตะได้ก่อนที่ไจแอนท์จะเข้าไปถึงตัว....และจากระยะแค่นี้เขาคงยิงไม่พลาดแน่ๆ



"เอ๊ะ!?....คุณเซก้า....?
ทำไม...?"







โปรดติดตามตอนต่อไป....
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 24]

แสดงความเห็นบน Facebook!

6 ความคิดเห็น :

  1. เท่มาตั้งนาน ไหงมาหักมุมกันแบบนี้ซะละเนี่ย ลุงเซก้าค้าบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รู้สึกดีที่ไม่ได้เขียนหักมุมหลอกคนอ่านแบบนี้มานานแล้ว (เนื้อเรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆนะ ดูในคลิปจิ)

      ลบ
  2. ตอนหน้าโนบิโดนยิงหัวแตกแล้วก็เกมส์โอเวอร์ รู้สึกตัวอีกทีเอ๊ะนี่ฝันไปซินะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อันนั้นแสดงว่าตัวเกมส์ทำไม่จบแล้วล่ะ

      ลบ
  3. ถ้าโทชิบะยังอยู่มันจะไม่เป็นแบบนี้ใช่ม้ายยย T^T

    ตอบลบ