" />

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Sword Series : Sword 1 [ปฐมบท]

ปกติก่อนถึงหน้าปฐมบท เราจะเขียนหน้าข้อมูลตัวละครก่อน แต่ พอถึงภาคนี้ขี้เกียจเขียนแล้ว เพราะตัวละครออกมาก็โอเคมีเยอะ แต่บางคนก็ไร้บทและไม่รู้เขียนไปทำไม ไปดูเอาเองในเนื้อเรื่องเลยละกัน...

เนื้อเรื่องภาคนี้ก็ดำน้ำ + แปลมั่วเยอะมากขออภัย....

โอเค หลังจากที่อ่านบทที่แล้วในหน้านี้จบ...
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Sword Series : Sword 1 [แนะนำเกมเบื้องต้น]

ก็มาเริ่มดูเนื้อเรื่องภาคนี้กันเลยดีกว่า

=======================================================================


Doraemon Nobita no Biohazard
Sword Series : Sword 1

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Sword Series : Sword 1 [แนะนำเกมเบื้องต้น]

หลังจากที่เขียนเนื้อเรื่องเกมส์ซีรี่ย์รวมภาคมุดะนิไคโซวบังตั้งแต่ภาค 1 จนกระทั่งปิดฉากซีรี่ย์ลงที่ภาค 4 เจ้าของบล็อกก็ได้พักการเขียนมาเป็นเวลายาวนานเกือบ 1 ปี และตอนนี้ ก็เกิดบ้าอะไรไม่รู้... ถึงได้กลับมาเขียนบล็อกใหม่อีกครั้ง...ซึ่งแน่นอนว่า คราวนี้ก็เตรียมตัวปูเรื่องที่จะเขียนภาคใหม่ต่อขึ้นมาพอดี ซึ่งภาคใหม่ที่ว่านั่นก็คือ...

"Doraemon : Nobita no Biohazard  ソード低難易度 : Sword Teinanido : ซอร์ด เทย์นันอิโดะ" หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า "ภาคซอร์ด 1 (ระดับง่าย)"



ข้อมูลเบื้องต้น

- ภาคซอร์ดตอนต้น : ระดับง่าย (ソード低難易度 : Sword Teinanido : ซอร์ด เทย์นันอิโดะ)

ผู้สร้าง : ◆mVHNOU1D/U
ซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้าง : RPG Maker 2000

ปล่อยผลงาน : 4 สิงหาคม 2010
อัพเดทล่าสุด : 24 สิงหาคม 2010

ดาวน์โหลดที่ : http://www42.atwiki.jp/nobitahazard-wiki/pages/105.html



เกมส์ภาคซอร์ดถูกสร้างขึ้นหลังจากจบเนื้อเรื่องภาคซีรี่ย์มุดะนิไคโซวบัง หรือ มุริโนะไนไบโอทั้ง 4 ภาค และจัดทำโดยผู้สร้างเกมส์คนละคนกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เนื้อหาของเกมส์ภาคนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับมุดะนิไคโซวบัง.. แต่!! ทางเราซึ่งได้ดูตัวเกมส์ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นกลับพบว่า เนื้อหานั้นกลับเชื่อมโยงต่อไปยังภาค G ซึ่งเป็นภาคสำคัญของเนื้อเรื่องเกมส์ด้วย (ความจริงแล้วมันเป็นความบังเอิญที่ดูท่าจะลงตัวพอดี) เนื่องด้วยปริศนาที่ทิ้งท้ายในภาคซอร์ดที่ทำได้ไม่จบสมบูรณ์

ดังนั้นเพื่อให้ได้อรรถรสในการติดตามภาคซอร์ดอย่างต่อเนื่องก็อยากให้ทางผู้อ่านได้ติดตามเนื้อเรื่องเกมส์ในซีรี่ย์มุดะนิไคโซวบังตั้งแต่ต้นจนจบภาค 4 เสียก่อน



เกมส์ภาคซอร์ดนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค ซึ่งผู้สร้างเกมส์ได้ใช้ชื่อการแบ่งภาคว่า "ซอร์ดระดับง่าย" (ซึ่งก็คือภาค 1) และ "ซอร์ดระดับยาก" (ซึ่งก็คือภาค 2) โดยเราจะเริ่มพูดถึงเกมส์ภาคซอร์ดระดับง่าย ซึ่งขอเรียกสั้นๆว่า "ซอร์ด 1" เท่านั้น

และเนื้อเรื่องของเกมส์ซอร์ด 1 นี้ เราจะมีการเขียนเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องของภาคมุดะนิไคโซวบัง 4 ด้วยเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องกัน (อันที่จริงแล้วต้องเรียกว่าแถซะมากกว่านะ เพราะเนื้อเรื่องเกมส์จริงมันก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น)

=======================================================================


เหตุการณ์หลังจากจบภาคมุดะนิไคโซวบัง 4
เบื้องหลังการล่มสลายของอัมเบรล่า

จากบทสรุปเหตุการณ์ในภาค 4 ที่ทิ้งท้ายถึงเหตุการณ์การล่มสลายของอัมเบรล่า ซึ่งเป็นผลงานของพวกโนบิตะที่สามารถเปิดโปงความชั่วร้ายของอัมเบรล่าได้สำเร็จ จึงส่งผลให้บริษัทอัมเบรล่าทั่วโลกปิดตัวลง แต่ถึงกระนั้น ผลงานที่อัมเบรล่าสร้างไว้ก็ยังคงถูกแอบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆของโลก มีสถาบันวิจัยและสถานที่ลับหลายแห่งที่ยังคงถูกซ่อนอยู่อยู่ และสถานที่เหล่านั้นก็ยังคงเก็บสะสมเชื้อไวรัสและเหล่าอาวุธชีวภาพจำนวนมากไว้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเหล่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทหารกล้าที่จะต้องตามทำลายของเหล่านี้ให้สิ้นซาก....

ทางด้านพวกโนบิตะเองก็เช่นกัน... พวกเขาต่างฝึกฝนฝีมือและออกตามล่าต่อสู้กับเหล่าอาวุธชีวภาพไปทั่วญี่ปุ่นเรื่อยมา... 

และแล้วก็มาถึงเมืองแห่งหนึ่งที่โนบิตะมาอาศัยอยู่ตามลำพังเพื่อจับตาเฝ้ามองสถานการณ์อยู่นั้น ก็เกิดเหตุการแพร่ระบาดไวรัสปริศนาขึ้น...


โนบิตะที่นอนหลับอยู่ในโกดังหลังจากฝึกฝนเสร็จจึงตื่นขึ้นมาเพราะเสียงวิทยุจากยาสุโอะที่กระจายข่าวบอกให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ตึกใหญ่กลางเมือง หลังจากทราบข่าวจากยาสุโอะแล้ว โนบิตะจึงคว้ามีด ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของเขาเปิดประตูมุ่งหน้าออกไปยังเมืองที่กำลังตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย


เป็นเวลากว่า 4 เดือน นับจากเหตุการณ์ในภาค 4 ที่เขาไม่ได้จับต้องอาวุธปืนอีกเลย เขาได้เปลี่ยนวิธีการต่อสู้มาเป็นอาวุธประชิดตัวด้วยมีดดาบเพื่อเพิ่มพูนทักษะการใช้อาวุธ และไม่ยอมจับอาวุธปืนขึ้นมาอีก..จนกว่าจะถึงเวลาที่เขายอมรับ  เขาฝึกฝนการใช้มีดต่อสู้อยู่นานจนเกิดความช่ำชองและคล่องแคล่วว่องไวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบกาย และลมหายใจของทุกสิ่งมีชีวิต มันเป็นความรู้สึกประหลาดที่เขาเองก็ไม่อาจจะอธิบายได้ เขารู้แต่เพียงว่า พลังของเขานั้นมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และเริ่มควบคุมพลังมหาศาลที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์จากการต่อสู้ที่ผ่านมาตลอดหลายปีได้....  

ระบบเกมส์ของภาคนี้จึงเน้นไปที่การต่อสู้ด้วยอาวุธระยะประชิดทั้งสิ้น.. ถ้าหากว่า เขาสามารถรอดจากวิกฤติคราวนี้ด้วยมีดเพียงเล่มเดียวได้... เขาก็จะสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้....   โนบิตะไม่ลังเล และไม่เกรงกลัวที่จะใช้อาวุธเพียงอย่างเดียวนี้ในการต่อสู้กับฝูงอาวุธชีวภาพตลอดทั้งเรื่อง


ถ้าหากเขาสามารถเอาชนะทุกอย่างด้วยมีดเล่มเดียวได้ เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น...และปกป้องคนอื่นๆไว้ได้มากกว่าที่เคยทำมาได้...


เรื่องราวของโนบิตะที่จะต้องเผชิญหน้ากับหายนะด้วยอาวุธเพียงเล่มเดียวอย่าง 'มีด' จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ในบทความถัดไป....ในมหากาพย์... "มีดเล่มเดียว" ภาคซอร์ด 1...ได้เลย

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 40] [End Credit - เบื้องหลังการถ่ายทำ]

ในที่สุดเนื้อเรื่องของภาคมุดะนิไคโซวบังภาค 4 ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยในบทความนี้

ก็ต้องขอขอบคุณตัวละครนักแสดงทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้เนื้อหาของเกมส์ภาคนี้ออกมาได้อย่างดีที่สุด...ขอบคุณที่ร่วมมือกันถ่ายทำจนสำเร็จ



.....
....
....


"หา!!!?"


Update โดจินมังกะของคุณ diodio ที่มาหลังบทความแปล [ภาค 2 ตอนที่ 6]

เป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่คุณ diodio ดองมังกะตอนล่าสุด Update โดจินมังกะของคุณ diodio ที่มาหลังบทความแปล [ภาค 2 ตอนที่ 5] ไปเมื่อเดือนเมษยน...จนกระทั่งถึงช่วงเวลาปลายปีช่วงต้นเดือนธันวาคม คุณ diodio ก็ได้อัพเดท มังกะตอนล่าสุดออกมาอีกครั้ง....

ในช่วงตลอดเวลา 1 ปีนี้ ทางเจ้าของบล็อกก็หายเงียบกริบไปเหมือนกัน เนื่องจากติดเกมส์ Guns Girls - School DayZ และ Ragnarok รวมไปถึงธุระต่างๆในโลกจริงมากมาย และหลังจากที่โดนจินมังกะตัวนี้ได้มีการอัพเดทขึ้นมาในระยะนึง ทางเราก็เริ่มกลับไปให้ความสนใจเรื่องนี้อีกครั้ง.... (แต่ก็ต้องใช้เวลาทำใจตัดของเก่าไปสักระยะนึงก่อนน่ะนะ ฮะๆๆๆๆๆๆ)

อย่างแรกก็หน้าปกที่เปิดตัวโดยหน้าตาเซย์นะที่โทรมสุดขีด...(เพราะโดนระเบิด) ราวกับซอมบี้...

ตอนที่ 6 ถ้าหากว่าต้องมีสภาพที่น่าเกลียดแบบนั้นล่ะก็...
[ชื่อตอนสื่อถึงความรู้สึกของเซย์นะในตอนนั้น...]



เนื้อเรื่องจะย้อนความกลับไปยังฉากที่เซย์นะโดนระเบิดตอนที่สู้กับทินดาลอสในเหตุการณ์ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]  ทินดาลอสที่ถูกไฟลุกท่วมจึงต้องเผ่นหนีไปในขณะที่เซย์นะก็โดนแรงระเบิดไปเต็มๆ


เซย์นะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างหนัก เริ่มมีสติเลือนลางและขยับร่างกายไม่ได้ เธอคิดไว้แล้วว่าอาจจะต้องตายที่นี่...จึงหลับตาลงและเอ่ยขอโทษโฯบิตะและทุกคนที่ตนเอง อาจจะไม่สามารถรักษาสัญญากลับไปหาพวกเขาได้

แต่แล้วเธอก็เริ่มคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าหากเธอตายไปในตอนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น...

เธอถูกอาวุธชีวภาพข่วน...ทำให้ติดเชื้อ... และถ้าหากเธอตายตรงนี้ล่ะก็...


ในตอนนั้นเองที่เซย์นะเริ่มจินตนาการถึงตัวเองหลังจากที่ตายไป ในสภาพที่ติดเชื้อ ซึ่งแน่นอนว่าเธอในตอนนั้นจะต้อง...


กลายเป็นซอมบี้ ไปอย่างแน่นอน  เธอมองเห็นสภาพตัวเธอเองในเวลานั้นกำลังไล่กัดกินศพที่อยู่ข้างทาง...


ไม่นะ!! เรื่องแบบนั้น!!!!

เธอรับสภาพแบบนั้นไม่ได้ จึงได้กรีดร้องในใจอย่างรุนแรง จนเธอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง.... [แน่นอนว่า ตอนนี้ทีไวรัส-S แบบพิเศษ เริ่มทำงานแล้ว...]  เธอยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง ซึ่งยังเป็นหลักฐานว่า เธอยังคงมีชีวิตอยู่....  เธอรู้ว่า...เธอยังไม่อยากตาย...ในที่แบบนี้


เธอรู้สึกกลัวความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าเธอตัดสินใจว่าจะสละชีวิตเพื่อช่วยโนบิตะ และเผชิญหน้ากับความตาย แต่เธอก็รู้สึกกลัวมันมาก จนเธอไม่อาจทำใจยอมรับความตายได้  เธอจึงดั้นดนฝืนสังขารตัวเอง เดินหนีออกมาจากสถานีตำรวจ (ก่อนที่โนบิตะจะออกมาจากด้านในอาคาร) เธอเดินไปอย่างช้าๆ ผ่านฝูงซอมบี้ที่กำลังกัดกินเนื้อ  ดูเหมือนว่าพวกมันก็ไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย บางทีพวกมันอาจจะคิดว่า เธอกลายเป็นพวกเดียวกับมันไปแล้วก็ได้

เธอเดินต่อไปด้วยความรู้สึกแต่เพียงว่า "อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป"....



จากนั้นเนื้อหาทุกอย่างก็ถูกตัดบทมายังฉากปัจจุบันที่เซย์นะได้รับการช่วยเหลือจากพวก JSDF ที่พามายังรถรางนี้...

รายละเอียดระหว่างนั้นลองไปอ่านเอาที่นี่ละกัน >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 8.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ  มันก็ดำเนินเรื่องตามนั้นน่ะนแหละ



ตัดฉากกลับมายังปัจจุบัน  โนบิตะก็ได้เข้าไปกุมมือเซย์นะ เขารู้สึกดีใจมากที่เซย์นะยังมีชีวิตอยู่  ซึ่งโอทากะก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่า พวกเขาทั้ง 2 คนรู้จักกันด้วยรึ?.....

หลังจากนั้นโรวฮะจึงเข้ามาแทรกกลางในช่วงที่โนบิตะกำลังทราบซึ่งก็คือ ยังไงก็ตาม เด็กคนนั้นน่ะติดเชื้อไปเรียบร้อยแล้ว และอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หากไม่ได้รับการรักษาล่ะก็....

โนบิตะเองก็หนักใจกับเรื่องนี้ไม่น้อยเหมือนกัน



ในตอนนี้ เขาพยายามนึกหาวิธีที่จะช่วยเซย์นะจากความทุกข์ทรมานนี้ให้ได้ เขาจึงตัดสินใจปล่อยมือเธอ พร้อมกับเดินออกจากรถราง ซึ่งโรวฮะจึงได้ทักขึ้นมาว่า เฮ้ย จะไปไหน เจ้าหนู



โนบิตะบอกว่า เขาจะช่วยผู้พันฮารุนะในการหาเสบียงเพื่อทำให้รถรางนี่เคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายของพวก JSDF ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะพาเซย์นะหนีออกไปจากเมืองนี้และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โอทากะก็ปรามว่า ออกไปตอนนี้มันอันตรายมากนะ  โนบิตะจึงอธิบายว่า เขาไม่มีทางเลือก  เขาจำเป็นต้องรีบพาเซย์นะไปรักษานอกเมืองให้เร็วที่สุด  เมื่อเห็นความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของโนบิตะ โอทากะจึงไม่คิดจะค้าน


แต่ว่าก่อนจะออกไป เขาก็อยากให้โนบิตะได้รับการรักษาเบื้องต้นก่อน (เริ่มด้วยการฉีดพยาบาลและแปะพลาสเตอร์ตามลำดับ ซึ่งโรวฮะเป็นคนทำให้...)  นอกจากนี้ เขายังให้กระเป๋าสะพาย วิทยุสื่อสาร และอาวุธกับโนบิตะจำนวนหนึ่งด้วย


หลังจากนั้นไม่นาน โนบิตะก็เตรียมพร้อมรบเต็มที่ เขาเดินออกมาจากรางรถไฟ และตอนนั้นเอง ฮารุนะก็ติดต่อเข้ามาทางวิทยุสื่อสารให้มาช่วยขนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินเครื่องรถราง (สายไฟ แบตเตอรี่ น้ำมัน....) ทั้งหมด


จากนั้นฉากจะตัดมาถึงตอนที่ โนบิตะและฮารุนะจัดการเสบียงเรียบร้อย ตอนนี้พวกเขาได้เตรียมพร้อมในการขับเคลื่อนรถรางขบวนนี้ที่จะใช้มุ่งหน้าไปยังหอนาฬิกาเรียบร้อยแล้ว


ฮารุนะจึงได้สั่งการเดินเครื่องรถรางได้... แต่แล้วสักพักก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันเมื่อจู่ๆทินดาลอสก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังฮารุนะ



พร้อมกับฝังคมเขี้ยวลงไปบนร่างของเขาจนเลือดสาดกระจาย....

โนบิตะทำได้แต่ตะโกนเสียงเรียก....  "คุณฮารุนะ!!!!!!!!!!!"



บทความต่อไป การต่อสู้บนรถรางที่กำลังเคลื่อนที่ไปยังหอนาฬิกา... ฮารุนะจะตายหรือไม่... หลายคนคงรู้แล้วมั้ง... ถ้ามันดำเนินเรื่องตามเกมส์จริง มันก็คงเป็นแบบนั้น... ยกเว้นแต่ว่า อาจารย์ diodio แกจะหักมุมเนื้อเรื่องใหม่อีก.....เหมือนที่เคนจิไม่ตาย....

จากนั้นก็เป็นหน้าแถม... ฉากร่างต่างหๆที่อาจารย์ diodio แกวาดเอาไว้ แต่ไม่ได้ใช้จริง เพราะคิดว่ามันเสียเวลา... (คงเป็นฉากตอนต่อสู้กับพวกซอมบี้ระหว่างตามหาเสบียงนั่นแหละ...)


จากนั้นก็เป็นหน้าสุดท้ายที่บ่งบอกสถานะปัจจุบันของโนบิตะ พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเล็กน้อย อย่างเช่น....

เนื้อในส่วนของเซย์นะหลังจากโดนระเบิดกลายเป็นฮาล์ฟซอมบี้ มาจากไซด์สตอรี่ของเกมส์ภาคมุดะนิไคโซวบัง 5 (ซึ่งเราเองก็เคยเขียนไปแล้ว) ซึ่งจะตัดมาแสดงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

แล้วก็ลำดับฉากตอนที่ไปหาอุปกรณ์พวกถังน้ำมันอะไรนี่ก็หั่นกระจาย ตัดบทไปตามดูเอาที่รายละเอียดในเกมส์แล้วกัน....ว่าตอนไปหาวัตถุดิบแต่ละชิ้นมันมีเนื้อเรื่องที่ยากลำบากเพียง (ซึ่งก็ถือว่าสรุปเนื้อเรื่องได้รวบรัดไม่เยิ่นเย้อดี เราเองก็เขียนรายละเอียดในบล็อกนี้ไว้แล้วล่ะ...)



แล้วก็ทิ้งท้ายว่า ขออภัยที่หายไปนาน และโปรดติดตามตอนต่อไปปีหน้า...(แต่ไม่รู้ว่าเดือนไหน รู้แต่ปีหน้าแน่นอน... ปีนึงออก 2-3 ตอนนะเรื่องนี้ เหอะๆๆๆๆๆๆ)



วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 39] [True End]

ความเดิมตอนที่แล้ว >>

ในขณะที่พวกโนบิตะกับพวกลิทชี่พยายามต้านทานกองทัพฮันเตอร์ที่ล้อมเข้ามาบนสะพานทางออก

ตอนนั้นเองก็มี ฮันเตอร์ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนสะพานและอยู่เบื้องหน้าโนบิตะ

"เหวออ!! มันขึ้นมาจากแม่น้ำ......"


และชั่วพริบตานั้น โนบิตะเริ่มมองเห็นภาพชัดเจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป... ใช่แล้ว... เขาเริ่มจำได้แล้วว่า.... เหตุการณ์ที่เหมือนกับเดจาวูที่เขารู้สึกตอนนั้น... ถ้าหากว่า.... เดคิสุงิเป็นคนยิงฮันเตอร์ตัวนี้ล่ะก็....
"โนบิตะคุง อันตราย!!"


เดคิสุงิหันปากกระบอกปืนลูกซองไปทางฮันเตอร์ตัวนั้นพร้อมกับใช้นิ้วเหนี่ยวไก...
"เดคิสุงิ!!!. อย่า!!!.."


ปัง!!!!

และแล้วกระสุนปืนก็ถูกยิงออกมาใส่ฮันเตอร์ตัวนั้น.....


ถ้าหากกระสุนที่ออกจากปากกระบอกปืนของเดคิสุงิถูกยิงใส่ฮันเตอร์ตัวนั้นในทิศทางนี้ จะทำให้กระสุนพุ่งกระเด็นไปยังถังแก๊สที่ติดกับตัวรถใกล้ๆ และจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้น!!


ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยอีกครั้งแล้วอย่างนั้นหรือ?

ในที่สุดเรื่องราวของมุดะนิไคโซวบังภาค 4 ก็มาถึงบทสรุปที่แท้จริงแล้ว!!

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 38]

ความเดิมตอนที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 37]  

ยานอฟที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที


และภารกิจต่อจากนี้.... พวก UBCS และโนบิตะ ก็เริ่มแผนที่จะบุกโจมตีสถาบันวิจัยบนที่ฮอกไกโดอย่างต่อเนื่อง (โดยทิ้งโทชิบะไว้คอยเฝ้ายานอฟไว้เบื้องหลัง)


ซึ่งแผนการบุกถล่มศูนย์วิจัยอัมเบรล่าที่ฮอกไกโดจะเป็นไปตามบทความนี้ทุกประการ


ตรงนี้เราจะขอข้ามไปยังเนื้อเรื่องส่วนที่สำคัญ คือ เนื้อเรื่องในส่วนที่...
เอสเตอร์กับซาช่าเผชิญหน้ากับรถถังภายในสถาบันวิจัยและโยนระเบิดปราบรถถังได้สำเร็จ...


และฉากต่อไปก็คือ....

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 37]

เนื้อหาต่อจากคราวที่แล้ว โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 36]  สมาชิกหน่วย U.B.C.S. ทุกคนรวมถึงโทชิบะสามารถหนีรอดออกจากเมืองได้อย่างปลอดภัย...

ซึ่งเนื้อหายังคงดำเนินเรื่องต่อไปตามเนื้อหาส่วนนี้ โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 22]

พวกลิทชี่และโนบิตะตัดสินใจบุกถล่มฐานทัพลับของอัมเบรล่าที่อยู่บนเกาะกลางทะเล



และในครั้งนี้โทชิบะก็ได้ติดตามมาด้วย


ทว่า โทชิบะต้องรับตำแหน่งอยู่ในกองหลังเพราะเธอพึ่งฟื้นขึ้นมาจากการที่เธอได้รับการฉีดวัคซีนรักษาการติดเชื้อไวรัส... ดังนั้น เนื้อเรื่องทุกอย่างจึงเป็นไปตามรูทเดิมที่เคยเขียนมา

จนกระทั่งถึงเหตุการณ์...ที่ยานอฟยังคงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและเดินไม่ได้เหมือนเดิม





เรื่องราวจะต่างจากเนื้อหา โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 24] หรือไม่?.....


วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 36]

จากเนื้อเรื่องฉากจบในตอนที่แล้ว

ซึ่งเป็นฉากจบที่ทำเอาหลายคนไม่สบายใจเอามากๆ  แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นแค่ตัวอย่างฉากจบทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เล่นเกมส์รอบเดียวเท่านั้น

หลังจากที่เล่นจบรอบแรกแล้วให้ลองเลือกโหลดเกมส์



จะมีเซฟตัวหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ ไฟล์ที่มีชื่อว่า ซีนาริโอ้


หลังจากที่เลือกเซฟนี้ เราจะสามารถควบคุมโนบิตะได้อีกครั้ง...


วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 35] [Normal End]

และแล้วก็มาถึงเนื้อเรื่องตอนจบพอดี... หลังจากที่ได้อ่านความเดิมในตอนที่แล้ว 

พวกโนบิตะได้หลบหนีออกจากสถาบันวิจัยของอัมเบรล่าสาขาฮอกไกโดจนมาจนมุมที่บนสะพานใหญ่ ที่ซึ่งมีซุปเปอร์ไทแรนท์ดักรอคอยอยู่ข้างหน้า (พร้อมกับพังพื้นสะพานเละเทะจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้) ส่วนทางด้านหลังก็มีฝูงฮันเตอร์ตามมา  

โนบิตะ ลิทชี่ และซาช่า อาสาต้านไทแรนท์ไว้โดยให้พวกเซก้าคอยดูแลเด็กๆที่เหลือในการต้านทานพวกฮันเตอร์อยู่ทางด้านหลัง... การต่อสู้ที่ดุเดือดและบทสรุปของเรื่องราวต่างๆ ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว


วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 34]

หลังจากที่ทิ้งท้ายช็อตเด็ดไว้ในช่วงสุดท้ายของ โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 33]

นั่นคือฉากที่รีซิสซ่าถูกฮันเตอร์ (เบต้า) ฆ่าตาย..... 


มันเป็นสิ่งที่พวกลิทชี่ไม่คาดคิดไว้....


และแล้วพวกลิทชี่ก็ไม่สามารถติดต่อกับรีซิสซ่าได้อีกเลย


วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 33]

ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของบล็อกกำลังติดเกมส์งอม... ก็เพื่อปั่นเลเวลกิลด์ RainbowFallen ในเกมส์ Aura Kingdom Server Siren นั่นเอง ซึ่งตอนที่กำลังโหลดแพทช์ใหม่ ก็อาศัยข่วงเวลานี้มาเขียนเนื้อเรื่องส่วนที่ 33 ต่อ หลังจากที่ไม่ได้เขียนต่อเนื่องมาจาก โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 4 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 32] มานาน


เนื้อหาในบทนี้ พวกลิทชี่ได้ไล่ตามบุรุษสวมแว่นตาปริศนาที่คอยแย่งชิงข้อมูลตัดหน้าพวกเขามาตลอดจนพบเสียที...  เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป...?