" />

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 10]

ความเดิมตอนที่แล้ว >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 9]

โนบิตะจะต้องออกค้นหาไอเท็มทั้ง 3 ชิ้นซึ่งได้แก่...
- สายเคเบิ้ลพลังไฟฟ้า
- ฟิวส์
- น้ำมันสำหรับเครื่องจักร


 ซึ่งเป็นวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในการซ่อมแซมรถรางไฟฟ้าตามรายการที่ขาดหายไป เพื่อที่จะทำให้รถรางไฟฟ้าที่เป็นยานพาหนะสำหรับหลบหนีออกจากเมืองนี้ใช้งานได้อีกครั้ง... แต่ว่าการค้นหาสิ่งของเหล่านี้ไม่สามารถทำได้โดยง่ายเพราะต้องออกตามหาภายในเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้และสัตว์ประหลาดมากมายนับไม่ถ้วน

โนบิตะเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลังจากที่เกิดการระเบิดที่ปั้มน้ำมันตอนที่เขาไปเอาน้ำมันเครื่อง



แต่สิ่งที่ได้ติดมือกลับมาเป็นเพียงแค่น้ำมันดิบที่ยังไม่สามารถใช้งานได้เท่านั้น


เขาจึงต้องออกเดินทางตามหาไอเท็มและส่วนผสมอื่นต่อไป....


***หมายเหตุสำหรับเนื้อเรื่องตอนนี้...  เจ้าของบล็อกอาจจะมีการเพิ่มเนื้อหาและแต่งภาพ+เรื่องเสริมด้วยพลังจิ้นส่วนตัวนอกเหนือจากข้อมูลที่มีในคลิปคนแคสต์เกม (แต่ก็ยังคงยึดตามเนื้อหาในคลิปอยู่)





 

เนื้อเรื่องส่วนที่ 10 :การค้นหาที่ยังดำเนินต่อไป..


ณ เวลากลางดึกของวันที่ 22 ธันวาคม 2004

 
"บ้าจริง...ตอนนี้ได้มาแค่น้ำมันดิบเอง...."
 เขากำลังหัวเสียจากการที่ เขายังไม่สามารถหาไอเท็มที่ต้องการได้เลยสักชิ้น แต่สักพักเขาก็ใจเย็นลงแล้วลองนึกดูดีๆว่า น้ำมันสำหรับเครื่องจักรที่ต้องการนั้น..อาจจะมีการดัดแปลงโดยการนำเอาสารอย่างอื่นใส่ผสมลงไปได้ เขาจึงคิดว่าน้ำมันดิบที่ได้ในมือของเขาตอนนี้ยังคงมีประโยชน์อยู่..ซึ่งสารตัวนั้นเขากะว่าจะลองเดินเข้าไปสำรวจดูที่ร้านขายของบริเวณใกล้กับสถานีเสียหน่อย  แต่ว่าตอนนี้เขาก็เดินออกมาไกลจากสถานีมากแล้ว เขาคิดว่าตอนนี้คงจะต้องหาของอื่นๆไปก่อน


ตามหาไอเท็มชิ้นที่ 1 : สายเคเบิ้ลพลังไฟฟ้า

โนบิตะได้เดินย้อนกลับไปยังอาคารที่เขาไล่ถอนสมุนไพรของท่านประธานที่ตาย(ห่า)ไปแล้วใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]


เขาเดินออกมายังโรงรถที่เกิดเพลิงไหม้ที่มีซอมบี้เดินอยู่เต็มไปหมด...แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นของบางอย่างใกล้ๆกับเปลวไฟตรงนั้น ซึ่งเขาพบว่ามันคือสายเคเบิ้ลที่เขาต้องการนั่นเอง

**คนแคสต์เกมเขาบอกว่าบางทีไอเท็มชิ้นนี้อาจจะหาง่ายที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะหาได้ยากที่สุดในเวลาเดียวกันด้วย เพราะหลายคนมักจะมองไม่ค่อยเห็นไอเท็มชิ้นนี้ เนื่องจากประกายเพลิงไหม้แถวนั้นบางครั้งอาจจะไปบังแสงกระพริบของไอเท็มในสายตาคนเล่น


แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นกลับตั้งอยู่ด้านหลังฝูงซอมบี้ไร้หนัง (เนื่องจากถูกไฟคลอกผิวหนัง) ทำให้เขาไม่สามารถเดินเข้าไปเก็บมันได้โดยตรง

  
"พวกซอมบี้มีเยอะเกินไป ต้องล่อพวกมันออกมาก่อน..."
  
เขาจึงวิ่งออกมาหลบบริเวณหลังรถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อดึงความสนใจพวกซอมบี้แถวๆนั้นเสียก่อน


หลังจากที่ซอมบี้มารวมตัวกันบริเวณรถเขาเป็นจำนวนมากพอแล้ว เขาก็รีบอ้อมฝูงซอมบี้ออกไป


และในที่สุดเขาก็สามารถเดินเข้าไปเก็บไอเท็มบริเวณรถที่ถูกไฟไหม้ได้


มันคือสายเคเบิ้ลพลังไฟฟ้าตามที่เขาต้องการนั่นเอง


ตามหาไอเท็มชิ้นที่ 1 : สายเคเบิ้ลพลังไฟฟ้า
ตามหาไอเท็มชิ้นที่ 2 : ฟิวส์
  
"อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคงต้องไปที่โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า" 
เมื่อรู้เป้าหมายของสถานที่ที่จะไปโนบิตะจึงรีบมุ่งหน้าไปยังโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าประจำเมือง R ทันที..ซึ่งต้องผ่านบริเวณสถานที่ก่อสร้างซึ่งเป็นทางแคบเล็กๆ ซึ่งที่นั่นโนบิตะจะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด ตัวหมัดที่เกิดจากการกลายพันธุ์เนื่องจากเชื้อที-ไวรัส ที่มีชื่อว่า "เดรนดีมอส (Drain Deimos)"





**ข้อควรระวังสำหรับในเกมสำหรับการเผชิญหน้ากับเดรนดีมอสมี 2 ประการคือ..
1) มันสามารถยกขาตัวเองและจับกดเป้าหมายเพื่อจู่โจมได้...ท่านี้จะมีผลในการสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นอย่าให้ถูกมันจับได้จะดีที่สุด


2) เดรนดีมอสสามารถพ่นน้ำกรดในการโจมตีเป้าหมายจากระยะไกลได้ ดังนั้นเวลาต่อสู้กับมันห้ามยืนยิงเฉยๆเด็ดขาดในเวลาที่มันอยู่ห่างจากเราไม่มากนักเพราะน้ำกรดนั้นจะถูกยิงออกมาใส่เป้าหมายอย่างแม่นยำ


หลังจากที่ฝ่าฝูงเดรนดีมอสมาได้แล้ว โนบิตะก็ขึ้นไปบนบันไดตามทาง

(โนบิตะ รับบทเป็น จิลใน RE3)


และที่ปลายทางนั้นก็มีลิฟต์อยู่ เมื่อโนบิตะสังเกตแผงควบคุม เขาพบว่าลิฟต์นั้นไม่มีแหล่งพลังงานทำให้มันสามารถใช้งานได้


เขาจึงการใส่แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ได้มาบนรถรางไฟฟ้าใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 9] เข้าไป




ลิฟต์จึงสามารถใช้การได้อีกครั้ง...


เมื่อโนบิตะลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง ก็พบว่าบริเวณนั้นคือ...โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าประจำเมือง R นั่นเอง..
 

แต่บริเวณลานกว้างด้านหน้าของโรงงานนั้นมีพวกเดรนดีมอสอยู่เต็มไปหมด...


โนบิตะตัดสินใจที่จะเก็บกวาดพวกมันทั้งหมดบริเวณนั้น..เพราะเขาไม่รู้ว่า เขาจะต้องสำรวจที่นี่นานแค่ไหน และถ้าหากไม่กำจัดพวกมันก่อน พวกมันอาจจะคอยมาตามรังควานเขาไปตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่แน่

"ต้องจัดการพวกมัน...สินะ..."

ทันทีที่พวกมันเห็นโนบิตะเดินเข้ามา พวกมันก็รีบกรูกันเข้ามาหาโนบิตะทันที ทำให้โนบิตะวิ่งหลบอ้อมหลังมันไปก่อนที่จะหันปืนพกมาชักยิงใส่ตัวที่ใกล้ที่สุด..


ปัง!  ปัง! ปัง!

เดรนดีมอสที่อยู่ใกล้ที่สุดถูกโนบิตะยิงใส่อย่างต่อเนื่องจนเลือดสีขาวของมันสาดกระจาย ก่อนที่จะล้มลงไป...โนบิตะรู้สึกได้ว่า ถึงพวกมันจะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่เป็นตัวอันตรายมากนัก..ถึงแม้ว่ามันจะมีพิษสงหลายอย่าง แต่ความเร็วในการต่อสู้ของมันนั้นต่ำกว่าเขามาก


แต่ก่อนตายมันก็ได้พยายามพ่นน้ำกรดใส่เขา


โนบิตะสามารถกระโดดสไลด์หลบไปข้างหลังได้อย่างฉิวเฉียด


ก่อนที่จะวิ่งไปอีกฝั่งแล้วยิงใส่พวกเดรนดีมอสที่เหลืออยู่..


ถึงแม้ว่ามันจะพ่นน้ำกรดใส่มา เขาก็สามารถเดินหลบไปด้านข้างได้..


เขายิงมันตายไปอีกตัวจนกระทั่งเหลือตัวสุดท้าย.... ซึ่งบุกมาหาเขาซึ่งๆหน้าพร้อมกับพ่นน้ำกรดใส่เขา..


เขารีบวิ่งเข้าประชิดตัวมันพร้อมกับหลบน้ำกรดที่ลอยผ่านเหนือศีรษะเข้าไปด้วยและในที่สุด..


 "เสร็จฉันละ!!!"

ปัง!!!!!

กระสุนปืนพกถูกยิงออกมาในระยะประชิดเข้าแสกกลางศีรษะของเดรนดีมอสตัวสุดท้าย เลือดสีเขียวพุ่งทะลักออกมาอย่างแรงก่อนที่จะล้มแน่นิ่งไปบนพื้น


โนบิตะสามารถจัดการเดรนดีมอสทั้งสามตัวได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่เขาสำรวจบริเวณรอบข้างนี้ดูแล้วเขาพบว่ามันไม่มีสิ่งที่เขาต้องการอยู่แถวนี้ โนบิตะจึงเดินเข้าไปในอาคารจ่ายกระแสไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ที่สุด


ภายในอาคารจ่ายไฟนั้นเงียบสงบจนดูวังเวง และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่เลย และด้านในนั้นเขาเห็นว่าภายในห้องนั้นมีประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกควบคุมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไฟฟ้าล็อกอยู่อย่างแน่นหนา เขาคิดว่าภายในหนึ่งในสองห้องนั้นอาจจะมีสิ่งที่เขากำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้


ทางด้านในสุด..โนบิตะพบแผงควบคุมจ่ายไฟที่ไม่มีแบตเตอรี่อยู่ ซึ่งโชคดีที่เขาได้พกแแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ได้มาจากห้องแห่งหนึ่งใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 7] เข้ามาด้วยพอดี เขาจึงนำมันใส่เข้าไปทำให้แผงควบคุมทำงาน ในระบบกำหนดค่าเองหรือแมนนวล (Manual)




 แต่ก่อนที่เขาจะใช้งานแผงควบคุมเบื้องหน้า เขาต้องอ่านคู่มือการตั้งค่าเสียก่อน..ซึ่งตัวคู่มือนั้นแปะอยู่บนผนังใกล้ๆ


คู่มือการปรับความต่างศักย์ไฟฟ้าเพื่อใช้งานระบบ...


มันเขียนไว้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของทั้งสองห้องนั้นแน่นหนามาก การจะเปิดมันออกมาได้นั้นจะต้องมีค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่เหมาะสมซึ่งก็คือ 34 โวลต์


ตัวควบคุมการปรับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้านั้นหากโยกไปทางขวาจะเพิ่มความต่างศักย์ขึ้น 8 โวลต์ (+8) แต่ถ้าหากโยกไปทางซ้ายจะเป็นการลดความต่างศักย์ลง 5 โวลต์ (-5)


เมื่อได้อ่านคู่มือแล้วโนบิตะ..จึงกลับมาที่แผงควบคุมเพื่อเริ่มงานระบบทันที




ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 25 โวลต์
โนบิตะลองโยกไปทางขวา (คำสั่งบน)


มันก็ขึ้นสถานะใหม่ว่าความต่างศักย์ถูกเพิ่มเป็น 33 โวลต์แล้ว (25+8=33)



"นี่ฉันต้องคิดเลขใช่ไหมเนี่ย......"

แล้วในที่สุดโนบิตะก็ได้เริ่มเกมพัซเซิลปรับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าแสนสนุก นั่นคือ เริ่มจาก 25 จะ +8 หรือ -5 กี่ครั้งก็ได้ ขอให้มันเหลือเท่ากับ 34

และแล้วเวลาก็ผ่านเลยไป...(คนแคสต์เกมถึงกับตัดฉากเลยทีเดียว)


  
"อืม ตอนนี้..26...แล้วถ้าลอง +8 ล่ะก็............"


 "อ้ะ!!!!  26 + 8 = 34 นี่นา!!! ได้การล่ะ...!!"

แล้วโนบิตะก็โยกตัวควบคุมไปทางขวาทำให้ค่าศักย์ไฟฟ้ากลายเป็น 34 พอดี!! และตอนนั้นเอง..ประตูทั้งสองบานก็ได้เปิดออกทั้งหมด


"ดะ...ได้แล้ว....!!"

โนบิตะจึงรีบเดินเข้าไปสำรวจภายในห้องแรกและที่ส่องแสงอยู่บนชั้นวางของนั่นก็คือ...


ฟิวส์ที่เขาตามหาอยู่นั่นเอง!!!!



 ตามหาไอเท็มชิ้นที่ 2 : ฟิวส์

เนื่องจากว่าได้ของตามที่ต้องการแล้วโนบิตะจึงเดินออกไปจากโรงงานทันที


สำหรับในเกม...ถ้าหากโนบิตะได้ลองเดินเข้าไปสำรวจล็อคเกอร์ในอีกห้องนั้น เขาจะพบกับกล่องปืนปริศนาซึ่งในเกม RE3 มันคือหนึ่งในอาวุธแบบสุ่มซึ่งขึ้นอยู่กับอาวุธที่ได้มาตอนอยู่ในสถานีตำรวจใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5] นั่นเอง เช่น ถ้าหากในสถานีตำรวจได้ปืนยิงลูกระเบิดเกรเนดลันเชอร์ (Grenade Launcher) มา..สถานที่ตรงนี้จะได้ปืนแม็กนั่มโคลท์ไพธ่อน (Colt Python) มาแทน


**คนแคสต์เกมได้อธิบายเพิ่มเติมว่า...สำหรับเกมภาคนี้ที่จริงแล้ว...มันไม่มีปืนแม็กนั่มโคลท์ไพธ่อนหรอก แต่เป็นปืนกลแอสซัลท์ไรเฟิล (Assult Rifle) มากกว่า ซึ่งคนแคสต์เกมไม่ต้องการที่จะให้โนบิตะใช้ปืนพวกนั้น..ซึ่งนอกจากมีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีแล้วยังไม่ค่อยเหมาะกับโนบิตะเท่าไหร่จึงไม่ได้หยิบออกมาด้วย แต่ถ้าเป็นเราเล่นเกมเองก็เก็บๆมันไปเถอะ ถึงมันจะไม่ดี แต่มันก็ยังเป็นอาวุธสำรองได้**


และทันทีที่โนบิตะเดินออกมาจากห้องจ่ายไฟ...เขาได้มองเห็นสิ่งๆหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางพายุหิมะภายนอก..บริเวณด้านกว้างหน้าโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า...

 
"ไอ้เจ้านี่!! มันไม่คิดจะเลิกราเลยใช่ไหม!!!"

โนบิตะคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาดีเพราะมันคือ...



...ทินดาลอส...สุนัขสามหัวจอมตื๊อตัวเดิมนั่นเอง!!



การต่อสู้ระหว่างโนบิตะกับทินดาลอสจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


โนบิตะได้วิ่งพร้อมกับกระโจนหลบทินดาลอสไปอยู่ทางด้านขวาพร้อมกับชักปืนพกหันมายิงใส่


ปรากฏว่ามันสามารถกระโดดหลบกระสุนที่โนบิตะยิงออกมาได้ทุกนัด


พร้อมกับกระโดดหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมผนัง


"ไม่ได้การแล้ว....สถานที่ตรงนี้เสียเปรียบมาก!!"

สถานการณ์ในตอนนี้นับว่าโนบิตะเสียเปรียบมากในเรื่องพื้นที่ต่อสู้ตรงที่...บริเวณนี้เป็นที่โล่งซึ่งทำให้ทินดาลอสสามารถหลบกระสุนได้อย่างอิสระทุกทิศทาง ถึงเมื่อก่อนเขาจะเคยสู้กับมันในพื้นที่กว้างถึง 2 ครั้ง ซึ่งก็คือ หน้าสถานีตำรวจกับหน้าประตูใจกลางเมือง แต่ว่าทั้ง 2 สถานที่นั้นมีตัวช่วยอยู่ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดมาได้

- หน้าประตูใจกลางเมืองมีฝูงซอมบี้ซึ่งคอยเป็นสิ่งกีดขวางระหว่างตัวเขากับทินดาลอสทำให้มีช่องว่างในการชิงจังหวะเล่นงานฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ทันตั้งตัวได้ (เล่นเอาซอมบี้รอบข้างตายเกลี้ยง)

- หน้าสถานีตำรวจเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเขากับทินดาลอส ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่รู้จักความสามารถของอีกฝ่ายดีพอทำให้ขาดความระมัดระวังตัวในการต่อสู้ ทำให้โนบิตะล่อทินดาลอสเข้ามาจนมุมพร้อมกับยิงใส่จุดตายของมันอย่างแม่นยำโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช้วิธีนั้นอีกไม่ได้แล้วเพราะมันเป็นวิธีที่เสี่ยงเกินไป แถมเจ้าตัวทินดาลอสเองก็ไม่ได้โง่ ท่าทางมันมีสติปัญญาที่ฉลาดพอตัวที่มันจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแน่...


โนบิตะจึงตัดสินใจวิ่งกระโจนผ่านตัวทินดาลอสที่ซ่อนอยู่มุมกำแพงไปอยู่ด้านหลังมันพร้อมกับหันปืนพกมายิงใส่มันอย่างเร็ว โดยที่ไม่ทันตั้งตัว


ปัง!!!!!


กระสุนปืนพุ่งตรงเข้าใส่ทินดาลอสโดยที่มันไม่ทันตั้งตัวซึ่งมันหลบไม่ได้จนเลือดไหลออกมา..แต่มันกลับพุ่งตรงเข้ามาหาโนบิตะโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด


"ยิงพลาด!!?? ไม่สิ...!!! ไม่ได้ผล!?"

โนบิตะจึงรีบวิ่งถอยห่างออกจากตัวมันทันทีเมื่อรู้ว่ากระสุนปืนพกธรรมดาตอนนี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายกับมันได้เหมือนเดิมแล้ว...



โนบิตะจึงเปลี่ยนอาวุธใหม่เป็นปืนยิงกระสุนระเบิดเกรเนดลันเชอร์ (Grenade Launcher)


เมื่อเปลี่ยนปืนเสร็จโนบิตะจึงรีบกระโดดหลบการโจมตีของทินดาลอสไปอีกฝั่ง พร้อมกับหันปืนกลับมายิง...

เปรี้ยง!!!!

ลูกกระสุนระเบิดพุ่งเข้าใส่ทินดาลอสจนมันเลือดไหล...


แต่ว่าโดนแค่เฉียดไปเท่านั้น เพราะทินดาลอสสามารถหลบกระสุนลูกระเบิดในพื้นที่กว้างได้อย่างง่ายดาย!!


ตูม!!! กระสุนระเบิดที่พลาดไปได้พุ่งเข้าไประเบิดใส่รถที่อยู่ด้านหลังมันแทน...

 

"แย่แล้ว!!!!!   อ้ากกกกก!!!!"

ช่วงที่โนบิตะชะงักจากการยิงกระสุนระเบิดกลายเป็นช่องว่างให้ทินดาลอสที่หลบอยู่ด้านข้างพุ่งเข้าโจมตีใส่เขา  กรงเล็บที่ขาหน้าของมันได้ตวัดเข้าใส่ลำตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาพยายามจะกระโจนหลบการโจมตีของมันแต่ก็ไม่พ้นจนเกิดบาดแผล


นอกเหนือไปจากสถานที่ต่อสู้ที่เสียเปรียบแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ยังทำให้เขาได้รับรู้ถึงอันตรายมาจากเจ้าสุนัขสามหัวขึ้นสองอย่างซึ่งก็คือ....

อย่างแรก...

"อุ๊บ.....ค่อก..... !!! "

โนบิตะรับรู้ถึงบาดแผลของตนที่เกิดโดยฝีมือทินดาลอส...เขารู้สึกถึงความปวดแสบปวดร้อนที่เกิดขึ้นบนรอยแผลนั้น...มันไม่ได้แค่สร้างบาดแผลให้กับเขาเพียงอย่างเดียว...

แต่มันทำให้เขาติดพิษอีกด้วย!!!



"สะ...แสบแผลมาก....นี่มัน...พิษงั้นหรือ!?"

นี่ขนาดเขาโดนโจมตีเฉียดยังรู้สึกเจ็บปวดได้ขนาดนี้..แล้วเซย์นะที่โดนโจมตีถึงขั้นท้องฉีกขาดล่ะ!? เขาแทบไม่อยากคิดเลยว่าเธอจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทรมานขนาดไหน...

"ไม่ได้การแน่...ต้องหนีไปตั้งหลักก่อน..."

โนบิตะจึงสะกดกลั้นความเจ็บปวดที่เกิดจากพิษเอาไว้...พร้อมกับวิ่งหนีออกไปจากตัวทินดาลอสให้ห่างที่สุด..แต่ว่า...

ความน่ากลัวของทินดาลอสอย่างที่ 2

ท่าใหม่ของทินดาลอส....ทินดาลอสจะสามารถกระโดดดักทางหน้าเป้าหมายพร้อมกับหันมากัดพุ่งเข้าโจมตีใส่โนบิตะอย่างรวดเร็ว



"อะ...ไอ้ท่าแบบนี้มัน...!! เหมือนเจ้ากอริลล่าเมื่อตอนนั้น...!!*"

คนแคสต์เกมได้บอกว่า มันเป็นท่าแบบเดียวกับซอมบี้ลิงเฟอร์โรวิเนอร์โต้ใช้ในภาคมุดะนิไคโซวบัง 1 ซึ่งมันมีท่าในการกระโดดข้ามหัวเป้าหมายมาตั้งท่ารอจัดการในอีกฝั่ง ทำให้ผู้เล่นหนีรอดจากมันได้ยาก..(รายละเอียดให้ดูเพิ่มเติมในคลิปบทสรุป)





โนบิตะจึงรีบวิ่งหลบไปอีกฝั่ง แต่ก็โดนมันกระโดดข้ามหัวดักหน้าและหันมาตะปบใส่อีก... 




โนบิตะรู้ดีว่า..เขาไม่สามารถหนีรอดพ้นจากเงื้อมมือของมันได้อีกแล้ว..และในตอนนั้นเอง..ตาของโนบิตะได้เริ่มเปลี่ยนสีอีกครั้ง... 

"ปัดโถ่เว้ย!!!! .....  ชักจะเหลืออดแล้วนะ!!!"

แน่นอนว่าการที่โนบิตะถูกทินดาลอสโจมตีใส่จนติดพิษ มันยังทำให้เขาได้รับเชื้อที-ไวรัส(เอส)เข้าไปด้วย พลังของที-ไวรัสในร่างกายของโนบิตะจึงสำแดงขึ้นอีกครั้ง...

ในตอนนั้นเอง โนบิตะจึงรีบวิ่งไปฝั่งตรงข้าม...ซึ่งแน่นอนเขาคิดอยู่แล้วว่า เขาอาจจะถูกมันกระโดดข้ามหัวดักหน้า...แต่เขาก็ยังทำต่อ...

"วัดดวงกันตรงนี้แหละ!!!"

แล้วมันก็เป็นความจริงตามที่เขาคาดมันคิดที่จะวิ่งกระโดดไปดักหน้าเขาอีกครั้ง


แต่คราวนี้โนบิตะกลับเป็นฝ่ายกระโดดกระโจนข้ามหัวมันด้วยความเร็งสูงด้วยพลังของที-ไวรัสทันทีที่เจ้าทินดาลอสกระโดดลงมาดักหน้าเขา!!... และช่วงที่โนบิตะกระโจนนั้น เขาได้ม้วนตัวตีลังกากลางอากาศกลับหัวพร้อมกับหันปืนเกรเนดลันเชอร์ไปทางด้านหลัง ซึ่งในตอนนั้นทินดาลอสได้แต่ตกตะลึงอยู่กับที่เพราะมันมองไม่เห็นเป้าหมายตอนกลับหลังหันไป!

ใครนึกภาพไม่ออกให้ดูตัวอย่างภาพข้างล่าง


"หึ!! จบกันแค่นี้แหละ...!!"

โนบิตะที่ยังลอยอยู่กลางอากาศในสภาพตีลังกากลับหัวได้เหนี่ยวไกปืนยิงกระสุนเกรเนดลันเชอร์โจมตีใส่มันจากทางด้านหลัง...กระสุนลูกระเบิดอันร้อนแรงพุ่งเข้าใส่รูทวารของมันอย่างแม่นยำ..เปลวเพลิงอันร้อนแรงของกระสุนได้เจาะทำลายและเผาผลาญก้นของทินดาลอสจนเนื้อผนังที่อ่อนนุ่มบริเวณนั้นหลุดเป็นชิ้นๆ เลือดสาดกระเซ็น


แถมกระสุนที่เจาะเข้าไปนั้นยังเป็นกระสุนระเบิดอีกด้วยดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ...

ตูม!!!!!!!!!!!!




การโจมตีครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับทินดาลอสมากและคิดว่ามันจะจดจำการถูกเล่นงานครั้งนี้จำไปจนตายแน่ๆ เพราะโนบิตะเล่นยิงกระสุนระเบิดอัดก้นจนตูดแหกเลยทีเดียว...

แต่ยังไม่ทันที่โนบิตะจะได้เล่นงานมันต่อมันก็รีบกระโดดหนีข้ามกำแพงไปทั้งๆที่ก้นยังเป็นแผลที่ถูกระเบิดเหวอะหวะ...


"ชิ..หนีไปได้อีกงั้นเหรอ?"


แล้วสักพักโนบิตะก็รู้สึกแสบแผลขึ้นมาอีก...เขาจึงคิดได้ว่าคงจะเป็นฤทธิ์ของพิษที่ถูกมันทำร้ายแน่ๆ แต่โชคดีที่เขาพกสมุนไพรตะไคร่สีน้ำเงินบลูเฮิร์บติดตัวมาด้วย...ซึ่งเขารู้ว่ามันช่วยถอนพิษในร่างกายได้...


งั่มๆ.........

โนบิตะเคี้ยวสมุนไพรสีน้ำเงินไป 1 ชิ้น และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย พร้อมกับดวงตาที่กลับมาเป็นสีเหลืองตามปกติ..ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาของทีไวรัสในร่างกายของโนบิตะจะลดลงไปด้วย...

"ค่อยยังชั่วหน่อย......."

หลังจากนั้นโนบิตะจึงได้ใช้ไอเท็มพยาบาลในการรักษาตัวเองอย่างสเปรย์ปฐมพยาบาลในการเยียวยาบาดแผลจนหายดี ก่อนที่จะมุ่งหน้าออกจากโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าออกไป



โปรดติดตามตอนต่อไป..

คลิปสรุปเนื้อเรื่องในตอนนี้จริงๆ


ปล. แอคชั่นตอนนี้เกิดจากจินตนาการของคนเขียนล้วนๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

แสดงความเห็นบน Facebook!

8 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ15 เมษายน 2556 เวลา 06:43

    ตอนนี้โนบิตะโชวเมพคิดเลข+จัดการทินดาลอส!!(ถึงมันจะหนีไปได้ก็เหอะ =w=)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 เมษายน 2556 เวลา 10:31

    ยิงเกรเน็ตกลับหัวกลางอากาศ อืม..... หลุดออกจากการต่อสู้แบบมนุษย์ไปเรียบร้อย(ฮา) (อย่าลืมว่าเกรเน็ตก็มีรีคอย และค่อนข้างดีดแรงพอสมควร)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ15 เมษายน 2556 เวลา 10:32

      อ้อ ส่วนการบรรยายการต่อสู้ด้วยจินตนาการของคุณ อ่านแล้วสนุกมากครับ

      ลบ
    2. ขอบคุณจ้า ตอนนี้มีคอนเซ็ปส่วนตัวใหม่คือโนบิตะตาแดงเมือไหร่ความเว่อร์จะบังเกิดค่ะ

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 07:12

    เบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาสินะ....นั้นมันคนละเรื่องแล้ว แต่ตื้อซะเหมือนเจ้าของประโยค "กันดั้มกูรักมึงวะ!!" จริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อันนั้นมันมีลาย แต่อันนี้ตาแดงเฉยๆ

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ17 ตุลาคม 2556 เวลา 06:57

    มาหลายครั้งจนพูดว่า

    "มึงอีกแล้วเหรอ=[]=?!!!"

    ตอบลบ