" />

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 8]

ในที่สุดก็เขียนมาถึงส่วนที่ 8 แล้ว.... หวังว่าทุกท่านคงจะอ่านเนื้อเรื่องส่วนที่ 7 มาก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้วนะ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 7]

ทางเราคิดว่า ตอนนี้คงเป็นตอนที่เซอร์ไพรส์ใครหลายๆคนแน่นอน เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรลองติดตามดูได้เลยจ้า



เนื้อเรื่องส่วนที่ 8 : รถรางแห่งความหวัง


ความเดิมตอนที่แล้ว ทินดาลอสได้ไล่ล่าติดตามโนบิตะขึ้นไปบนตึกของสำนักพิมพ์ประจำเมือง R  โนบิตะที่อยู่บนชั้น 3 กับผู้พันฮารุนะได้ยินเสียงของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นและรู้ว่าตอนนี้มันได้ไล่ตามพวกเขาขึ้นมาจนถึงชั้น 2 แล้วด้วย....




"เจ้านั่นตามเข้ามาถึงที่นี่เลยเหรอ....เนี่ย!?"


"เสียงเมื่อกี้นี้.....มันเสียงตัวบ้าอะไรวะนั่น!?"

ถึงแม้ว่าผู้พันฮารุนะเองไม่เคยเจอสัตว์ประหลาดตัวนี้มาก่อน แต่เซ้นส์ทางด้านการต่อสู้ของเขาบอกว่า เจ้าสัตว์ร้ายที่ส่งเสียงนี้ต้องเป็นศัตรูที่ดุร้ายและเก่งกาจจนถึงขั้นประมาทไม่ได้แน่ๆ เขาจึงได้ยกปืนกลประจำตัวของเขาขึ้นเตรียมพร้อมสู้กับมัน...



โนบิตะได้ประเมินสถานที่ต่อสู้รอบข้างอย่างถี่ถ้วน เขารู้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเกิดการต่อสู้ไม่ได้เด็ดขาด...บริเวณนี้มีเพลิงไหม้และพื้นนั้นเริ่มผุพังไปหมด ขืนต่อสู้กันในที่แบบนี้มีหวังพื้นได้ถล่มลงไปแน่ๆ

(ไม่ได้การแล้ว....จะต่อสู้กับมันที่นี่ไม่ได้แน่ๆ เขาจะทำยังไงดี?...ตอนนี้เขาจะทำยังไงดี?)



แล้วในตอนนั้นเองก็จะเป็นตัวเลือกบังคับว่าโนบิตะจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่าง...
1) กระโดดหนีออกมาทางหน้าต่างชั้น 3  (เหยดดดด มึงเทพขนาดนั้นเลย)
2) หลบซ่อนอยู่ในตึกดูสถานการณ์ไปก่อน..


สมมุติว่าเลือกข้อ 1) อยากเป็นนักแสดงหนังแอคชั่นแบบไม่มีตัวแสดงแทน
โนบิตะจะบอกกับผู้พันฮารุนะว่าเขาขอหนีเจ้าตัวนั้นดีกว่า...
ผู้พันฮารุนะจะบอกว่า ห้องที่อยู่ด้านหลังเขามีหน้าต่างอยู่.... ให้ใช้เส้นทางนั้นโดดหนีได้เลย..!!!
รีบไปเร็วเข้า!!!


"คะ ครับ!!!"


นอกจากนั้นผู้พันฮารุนะยังบอกต่อไปอีกว่า เขาจะเป็นคนถ่วงเวลาเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นเอง....และขอให้โนบิตะรีบมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบของเขาซึ่งก็คือสถานีรถรางไฟฟ้าที่ใจกลางเมืองทันที!!!

หลังจากที่โนบิตะวิ่งเข้าไปในห้องแล้วเขาก็ได้ยินเสียงต่อสู้ด้วยปืนกลของผู้พันฮารุนะ...


โนบิตะจึงได้โชว์เทพ...กระโดดพังหน้าต่างหนีราวกับคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังแอคชั่น... แต่เขาลืมไปว่า....


"เฮ้ย!!!! นี่มันชั้น 3 นี่หว่า!!!!  ว้ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!"



ตุ้บ!!!!!!

โชคดีที่ว่า...บริเวณด้านล่างชั้น 1 ด้านข้างตึกสำนักพิมพ์นั้นมีกองขยะที่มีโซฟาเก่าๆรองรับร่างเขาไว้พอดีราวกับผู้กำกับหนังเตี๊ยมมา....ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก


"อูยยย  เกือบไปแล้วไหมล่ะ...."

โนบิตะตั้งสติได้ เขาจึงเดินออกมาจากซอยด้านข้างตึกสำนักพิมพ์ทันที 

ซึ่งการกระโดดหนีออกจากสำนักพิมพ์นี่เหมือนกับเหตุการณ์ใน RE3 ในคลิปนี้เลยเนอะ




และพอเขามาอยู่ทางด้านหน้าสำนักพิมพ์ได้ เขาก็พบว่า...


"ทะ ทำไมมันถึงดักรออยู่ตรงนี้ได้ล่ะ!!!?"


ปรากฏว่าโนบิตะต้องเผชิญหน้ากับทินดาลอสที่อยู่ด้านหน้าสำนักพิมพ์อีกครั้ง.....ดูเหมือนว่า ผู้พันฮารุนะจะไม่สามารถดึงความสนใจของมันได้เลย.... เพราะอะไรน่ะเหรอ?....เดี๋ยวลองมาดูอีกตัวเลือกละกัน...


ถ้าหากโนบิตะเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง......
ข้อ 2) หลบซ่อนในตึกเพื่อดูท่าทีของมันไปก่อน....ยังไม่ใจกล้าพอที่จะโดดลงหน้าต่างชั้น 3... 


หลังจากที่เลือกข้อนั้น โนบิตะจึงได้วิ่งนำผู้พันฮารุนะเข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังเขาพร้อมกับบอกว่าให้รีบมาซ่อนตัวในนี้ก่อน


จากนั้นฉากก็จะตัดมาข้างล่างเพื่อให้มองเห็นว่าเจ้าทินดาลอสก็ไล่ตามมาทางเดินเรื่อยๆ


ตูม!!!!!!!!!!!!


ประตูที่อยู่ด้านข้างก็เกิดการระเบิดเนื่องจากเพลิงไหมอย่างรุนแรงในจังหวะที่มันเดินผ่านห้องนั้นพอดี..ทำให้มันถูกแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บหนักจนร้องเอ๋งด้วยความเจ็บปวด ทำให้มันต้องถอยหนีออกมาข้างนอกตึก...


หลังนั้นสักพัก ผู้พันฮารุนะกับโนบิตะก็ออกมาจากที่ซ่อนในห้อง ผู้พันเขาบอกว่า ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะหนีไปแล้ว....



โนบิตะก็รู้สึกโล่งอกตามกัน....ที่บังเอิญโชคช่วยไว้


หลังจากที่จบเรื่องตรงนั้นแล้ว ผู้พันฮารุนะก็ได้บอกกับโนบิตะว่า เขาอยากจะขอสำรวจข้อมูลเอกสารภายในห้องนี้เพิ่มเติมสักเล็กน้อยก่อน...เพราะดูเหมือนตอนที่เขาไปหลบซ่อนในห้องเขาก็ไปสะดุดตากับเอกสารบางอย่างเข้า เดี๋ยวเขาจะตามโนบิตะไปทีหลัง


เขาบอกกับโนบิตะว่าให้โนบิตะเดินล่วงหน้าไปที่สถานีรถรางไฟฟ้าที่ใจกลางเมืองได้เลย ที่นั่นน่าจะเจอเพื่อน(ลูกน้องใต้บังคับบัญชา)ของเขาอีก 2 คนที่มีชื่อว่าโอทากะ (大鷹 - Otaka) กับโรวฮะ (狼波 - Rouha) รออยู่


"ทราบแล้วครับ..."

"ช่างเป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็งอะไรอย่างนี้นะ.... ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ.."

ผู้พันฮารุนะพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้อง...


โนบิตะจึงเดินลงบันไดมุ่งหน้าออกไปจากตึกทันที...


แล้วก็เดินออกจากสำนักพิมพ์ไป...


แน่นอนว่าถ้าโนบิตะเลือกข้อนี้มันก็เหมือนกับเหตุการณ์ใน RE3 ตามคลิปข้างล่างที่ เนเมซิสดันเดินไปอยู่ในตำแหน่งประตูที่เกิดการระเบิดพอดี



เมื่อออกมาจากสำนักพิมพ์ได้ เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า...



"นะ นี่มันดักรอฉันอยู่ข้างนอกเหรอเนี่ย!!!?"


"โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!"

....โนบิตะก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับทินดาลอสที่หน้าสำนักพิมพ์เช่นเดิม


สรุปคือ...ตัวเลือกที่ 2) จะมีภาษีกว่าตรงที่ว่าได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสหายร่วมรบของผู้พันคือเราได้รู้จักชื่อของพวกเขา และตัวเลือกที่ 2) นี้ยังเป็นคำตอบของตัวเลือกที่ 1) ตรงที่ว่า ต่อให้ไม่ต้องกระโดดหนีไปข้างล่างยังไงซะทินดาลอสก็ขึ้นมาบนชั้น 3 ได้อยู่แล้วนั่นเอง... แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ตาม เมื่อออกมาจนถึงถนนด้านหน้าของสำนักพิมพ์ได้ โนบิตะจะต้องเผชิญหน้ากับทินดาลอสที่ดักรออยู่ตรงหน้าสำนักพิมพ์เหมือนกัน

"เมื่อไหร่ไอ้เจ้านี่มันถึงจะยอมเลิกราสักทีเนี่ย!!!"

การต่อสู้ระหว่างโนบิตะกับทินดาลอสจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งที่หน้าสำนักพิมพ์แห่งนี้ โนบิตะได้ประเมินสถานที่ในการต่อสู้ไว้แล้วว่า บริเวณหน้าสำนักพิมพ์นั้นเป็นทางเดินแคบๆ ซึ่งจะช่วยบีบทางเส้นทางการหลบกระสุนของทินดาลอสได้...

แต่!!!! บริเวณนี้กลับมีพวกซอมบี้เดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด!! ถ้าหากเขามัวแต่สู้กับทินดาลอสในบริเวณนี้ต่อไป เขาอาจจะถูกฝูงซอมบี้กรูกันเข้ามาเล่นงานเขาได้ เมื่อคิดดังนั้นโนบิตะจึงวิ่งฝ่าฝูงซอมบี้ออกไปตั้งรับบริเวณลานกว้างหน้าประตูใจกลางเมือง


เขารีบวิ่งออกมาบริเวณด้านกว้างพร้อมกับหันกลับไปยิงปืนใส่ทินดาลอส แต่ดูเหมือนว่ามันจะฉลาดพอที่จะกระโดดหลบหลังฝูงซอมบี้ ก่อนที่จะบุกเข้ามาหาโนบิตะ


แต่โนบิตะได้คาดการณ์ไว้ล่วงแล้วว่าช่วงที่เขายิงซอมบี้ที่บังมันจนล้ม มันต้องวิ่งพุ่งเข้ามาหาเขาโดยตรงซึ่งโนบิตะได้เตรียมปืนอีกชนิดหนึ่งตั้งรับพร้อมไว้สำหรับการโจมตีสวนกลับแล้ว ทำให้ทินดาลอสถูกกระสุนปืนของโนบิตะยิงเข้าให้... แต่ก็ไม่ถูกจุดตาย...


มันจึงได้กระโดดข้ามหัวของโนบิตะไปเพื่อหวังจะเล่นงานเขาจากด้านหลัง...


โนบิตะจึงได้ติดสปีดวิ่งหนีมันเข้ามาในที่ทางเดินข้ามสำนักพิมพ์อย่างเร็ว ซึ่งดูเหมือนว่าพวกซอมบี้จะขวางเส้นทางการจู่โจมของทินดาลอสเข้าพอดี ทำให้โนบิตะสามารถวิ่งหนีไปตั้งหลักได้ไวโดยไม่ต้องระวังข้างหลังมากนัก..


หลังจากนั้นโนบิตะจึงได้หยิบปืนลูกซองขึ้นมายิงกวาดใส่พวกซอมบี้กับทินดาลอสไปพร้อมกันจนซอมบี้ที่เป็นเหมือนที่กำบังกระสุนของทินดาลอสล้มกระจายระเนระนาด


ทินดาลอสจึงกระโดดหลบไปด้านข้างพร้อมกับพุ่งเข้าจู่โจมโนบิตะอีกครั้ง


แต่โนบิตะก็ได้วิ่งกระโดดข้ามตัวมันไปด้านหลังพร้อมกับหลบซอมบี้สองตัวสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก่อนที่จะหันปืนลูกซองกลับมาซึ่งตอนนั้นเป็นจังหวะที่...เจ้าทินดาลอสวิ่งเข้ามาหลบอยู่หลังซอมบี้ตัวหนึ่งพอดี...

แกร่กๆ ปัง!!!!!!!!!

กระสุนปืนลูกซองได้กระจายพุ่งเข้าใส่ซอมบี้สองตัวที่เหลือและทินดาลอสอย่างแม่นยำตรงจุดตายทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างรุนแรง


โนบิตะจึงตัดสินใจเปลี่ยนอาวุธเป็นปืนยิงลูกระเบิดเกรเนดลันเชอร์เพื่อปิดฉากมัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะฉลาดพอที่จะเลือกกระโดดหนีไปก่อนที่โนบิตะจะจัดการมันขั้นสุดท้าย ซึ่งสถานที่ต่อสู้บริเวณนี้เป็นลานกว้างมากทำให้โนบิตะไม่สามารถเล็งยิงปืนใส่มันตอนหนีได้อย่างแม่นยำนัก และในที่สุดมันก็ได้วิ่งหนีหายวับไปจากสายตาเขา


 
"บ้าจริง!! มันหนีไปได้อีกแล้ว!!"

โนบิตะรู้สึกเจ็บใจนิดๆที่เขาไม่สามารถจัดการมันให้เด็ดขาดไปได้... แต่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่เวลาที่เขามัวแต่จะไล่ฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายนี่  เขาจะต้องเดินทางต่อไปยังสถานีรถรางไฟฟ้าที่เป็นจุดนัดพบของผู้พันฮารุนะเสียก่อน... ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะต้องเดินไปยังใจกลางเมืองที่ต้องผ่านประตูด้านหน้าที่ยังถูกล็อกอยู่เข้าไป

โนบิตะจึงได้เสียบกุญแจดอกสุดท้ายลงไป...


กลไกของแผงควบคุมจึงได้เริ่มต้นทำงาน...ขึ้นแล้วในที่สุดประตูก็ได้เปิดออก




โนบิตะจึงมุ่งหน้าฝ่าฝูงซอมบี้ต่อไป....เขาเดินไปตามถนน..ผ่านสวนหย่อมที่ถูกปิดกั้นด้วยประตูลูกกรงเหล็กที่มีพวกซอมบี้พยายามจะพังออกมา...


เขาเดินไปตามเส้นทางถนนสายหลักเรื่อยๆ จนถึงประตูเส้นทางที่มีป้ายแปะชี้เส้นทางที่ใช้มุ่งหน้าไปยังสถานีรถรางไฟฟ้าในตัวเมือง R


เขาจึงเดินมาตามทาง และเดินผ่านรถที่กำลังไฟไหม้


โครม!!!!!!

เขาแทบตกใจเมื่อพบว่า...หลังจากที่เขาเดินผ่านรถคันนั้นได้ไม่นานก็มีซอมบี้พังประตูรถออกมาไล่จับเขา (ในเกม RE3 ก็มีมุกนี้เช่นกันคือระหว่างตามทางเดินอาจจะเจอซอมบี้พังประตูโผล่พรวดออกมาจากคันรถ)


 เขายังคงวิ่งหนีพวกมันมาตามทาง


ใกล้ถึงสถานีรถรางมากขึ้นทุกที


โครม!!!!!!!!!!!



แล้วในที่สุด โนบิตะก็สามารถสลัดกลุ่มซอมบี้ทั้งหมดจนพ้นและเข้าสู่สถานีรถรางไฟฟ้า ซึ่งดูเหมือนว่ามีรถรางคันหนึ่งจอดเทียบท่าอยู่...เขาจึงเดินเข้าไปในตัวรถทันที...


แกร่กๆ!!!!

ทันทีที่โนบิตะเปิดประตูก้าวเข้าไปในรถ เขาก็พบว่าชายหนุ่มในชุดทหาร สวมหมวกเบเรต์ที่อยู่ด้านหน้าของเขาหันปืนมาทางเขาทันที...





"เฮ้!!! หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!!" 

ทหารคนนั้นพูดขึ้น..ซึ่งถ้าหากเราอ่านชื่อเขาออกบวกกับข้อมูลที่ได้จากผู้พันฮารุนะ เราจะรู้ว่าเขามีชื่อว่า...โรวฮะ (狼波 - Rouha) 





  
"ดะ...เดี๋ยวก่อนครับ!!! ผมไม่ใช่ซอมบี้นะ..."

หลังจากนั้นชายหนุ่มในชุดทหารอีกคนที่สวมหมวกเหล็กมีสาย ซึ่งยืนอยู่หน้าแท่นควบคุมรถรางก็ใช้สายตาสอดส่องโนบิตะสักพักก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า..

"อืม...ดูเหมือนจะไม่ใช่ซอมบี้จริงๆ.... โรวฮะ วางปืนลงเถอะ"

ทหารคนนั้นจึงได้บอกให้เพื่อนเอาปืนลง ซึ่งคนๆนี้คือทหารหนุ่มที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้พันฮารุนะอีกคนที่มีชื่อว่า โอทากะ (大鷹 - Otaka)


UPDATE 23/03/2014
หน้าตาของทั้งสองคนในเวอร์ชั่นมังกะของคุณ diodio (ซ้าย-โอทากะ, ขวา-โรวฮะ)

"เธอน่ะ....ไม่เป็นไรใช่ไหม? ว่าแต่รู้จักที่นี่ได้ยังไง"

โอทากะเริ่มเอ่ยปากถามโนบิตะ


โนบิตะจึงตอบกลับไปว่า...

"เอ่อ คือ คุณฮารุนะบอกว่าให้ผมเดินทางมาที่นี่น่ะครับ"


พอโนบิตะเอ่ยชื่อของฮารุนะปุ๊บ โอทากะจึงพูดออกมาว่า...

"โอ้....เธอเจอผู้พันด้วยเหรอ...ดีจัง... ทางนี้ไม่ได้รับการติดต่อมานานเป็นชั่วโมงแล้ว คิดว่ามันคงจะตายห่าไปแล้วนะเนี่ย"



ตอนนั้นเองที่โรวฮะทำหน้าเครียดๆพร้อมกับพูดออกมาว่า...

"ฮึ..!!  ถ้าไอ้เจ้านั่นกลับมาเมื่อไหร่เห็นทีจะต้องจัดหนักกันสักหน่อยแล้ว..."


  
"อะ เอ๋?? จัดหนักเหรอครับ?"



เมื่อเห็นสีหน้าของโนบิตะ โอทากะจึงพูดออกมาว่า..

"เด็กอย่างเธอยังไม่ต้องรู้ความหมายมันหรอก...ว่าแต่ตอนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่า...."


ต่อจากนั้นโอทากะก็เริ่มอธิบายแผนการหลบหนีของพวกเขาให้ฟังว่า...พวกเขาจะทำการหลบหนีออกไปจากเมือง โดยอาศัยรถรางไฟฟ้าที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เดินทางมุ่งหน้าไปยังหอนาฬิกาเพื่อทำการสั่นระฆังส่งสัญญาณให้เฮลิคอปเตอร์มารับ ซึ่งเป็นวิธีการหลบหนีแบบฉุกเฉินที่หน่วยของพวกเขาบอกไว้ก่อนที่จะมาปฏิบัติภารกิจในเมืองนี้

(คนเขียน : พล็อตเรื่องคุ้นๆไหมๆ)


 จากนั้นโรวฮะก็ได้พูดเสริมขึ้นมาว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามรถรางไฟฟ้าตอนนี้ยังใช้การไม่ได้ พวกเขาจึงรับหน้าที่ซ่อมแซมไปพลางๆ ซึ่งในระหว่างนั้นผู้พันก็ได้อาสาออกไปตระเวนหาสิ่งของพร้อมกับตามหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าหมอนั่นจะกลับมาทันหรือเปล่า


โอทากะก็พูดต่อว่า..ช่างผู้พันเถอะน่า เขาเอาตัวรอดได้..กว่าเขาจะกลับมา เราคงซ่อมรถรางนี่เสร็จแล้วล่ะ หลังจากนั้นโอทากะก็ขอให้โนบิตะนั่งพักรออยู่ที่นี่ไปก่อนเพื่อความปลอดภัยในขณะที่พวกเขากำลังซ่อมรถ


อันนี้ขอย้อนเรื่องราวกลับไปเล่าเรื่องใน RE3 นิดนึงตรงที่พล็อตเนื้อเรื่องตรงนี้จะเหมือนกับ RE3 เป๊ะเลย ตรงที่พอจิล วาเลนไทน์ขึ้นไปบนรถรางแล้ว เธอได้พบกับเจ้าหน้าที่ U.B.C.S. 3 คน ซึ่งได้แก่ คาร์ลอส โอลิเวร่า, นิโคไล ซิโนวิล (Nicholai Zinoviev) และมิคาเอล วิคเตอร์ (Mikhail Victor) ที่นอนบาดเจ็บอยู่ในรถไฟ...ซึ่งจะเห็นได้ว่าใน RE3 นิโคไล จะเป็นคนบอกความคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานให้จิลฟังโดยมีคาร์ลอสเป็นคนเสริม



ดังนั้นสรุปได้ว่า
โอทากะกับโรวฮะ รับบทเป็น นิโคไลกับคาร์ลอส
โนบิตะ รับบทเป็น จิล
??? รับบทเป็น มิคาเอล ที่นอนบาดเจ็บอยู่ในรถ...

หลังจากที่จบบทสนทนาของทหารทั้งสองคน โนบิตะก็พึ่วรู้สึกตัวว่า..
มีใครบางคนนอนบาดเจ็บสาหัสมีเลือดออกเต็มตัวอยู่ในรถด้วย

"เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ...."


โนบิตะจึงเดินเข้าไปใกล้ๆเธอคนนั้นแล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้มองเห็นใบหน้าเธอชัดเจน...









"!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"




"คุณเซย์นะ.............!?"






To be continue...........

อ่านตอนต่อไปได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 9]



ส่วนอันนี้เป็นคลิปปิดท้ายบทสรุปของเนื้อเรื่องส่วนนี้ทั้งหมด


ท่านสามารถคลิกอ่านเนื้อเรื่องของเซย์นะไซด์สตอรี่เพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 8.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ

======================================================


นอกจากเรื่องของคุณเซย์นะแล้วจะเห็นได้ว่าเนื้อหาบทนี้ได้มีการแนะนำตัวละครเพิ่มมาอีก 2 ตัว ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่หน่วย U.B.C.S ที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอยู่อีก 2 นาย ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้พันฮารุนะ ซึ่งได้แก่ โอทากะ (大鷹 - Otaka) กับ โรวฮะ (狼波 - Rouha) นั่นเอง... ส่วนบทบาทของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้างก็ต้องลองติดตามกันต่อไป

ความแตกต่างของทั้งสองคนนี้แยกแยะได้ตรงที่โรวฮะจะเป็นคนสวมหมวกเบเล่ย์ซึ่งไม่มีสายรัดส่วนโอทากะจะมีสายรัดอยู่ที่หมวก ส่วนสีผมอันนี้บอกยากเหมือนกัน =w=

โรวฮะ (ซ้าย) กับ โอทากะ (ขวา) ผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้พันฮารุนะ (หันหลัง) ตัวละครสำคัญของภาคนี้

แสดงความเห็นบน Facebook!

8 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ12 เมษายน 2556 เวลา 09:44

    ผมสนใจฟังเหตุผลแถสีข้างอยู่ว่า เซย์นะมาไง(ฮา)

    เอิ่มแต่วางบทมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าเซย์นะจะเป็นคนคามิคาเซ่ใส่ทินดาลอสหรอกนะ...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แหม...... ตอนเซย์นะรับบทเป็นแบรด..ยังเล่นบทพี่ท่านตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะ =w=
      ทำไมเธอจะเล่นบทมิคาเอลไม่ได้ล่ะ หุหุหุ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2556 เวลา 06:34

    .....เรื่องมันจะหักมุมไปไหนเนี่ย!! สรุปเซย์นะจะรอดไหมเนี่ย TT (แต่ทินดาลอสนี่อึดถึกโคตรอ่ะ ตามไปทุกที่เลยอ่ะ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เพราะเนื้อเรื่องเกมซีรี่ย์นี้มันน่าสนใจ เราถึงได้เขียนยังไงล่ะ =w=

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2556 เวลา 09:43

      ความน่าสนใจคือคนแต่งได้วางเรื่องราวไว้ได้อย่างเหมาะสม และลงตัวมากอย่างน่าตกใจ

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 06:56

    พวกคุณทหารอาจจะเทพกว่าที่คิดนะแอบฉกร่างเซย์นะมาด้วยความเร็วสูง

    ตอบลบ