ความเดิมตอนที่แล้ว >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12.5] : Side Story - ภาคไจแอนท์ (ตอนที่ 3)
ไจแอนท์ได้รับการช่วยเหลือจากชายในชุดทหารคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าซาคาตะจากพวกฝูงซอมบี้ข้างหลัง ไจแอนท์จึงพาเขาขึ้นมาที่ห้องรักษาความปลอดภัยที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของสถานีโทรทัศน์
การปรากฏตัวของทหารหนุ่มคนนี้ทำให้หลายคนที่อยู่บนนั้นไม่ว่าจะเป็นลุงยามโทชิโร่หรือเด็กสาวที่ชื่อฮารุมิรู้สึกดีใจมากเพราะคิดว่าพวกตนคงจะได้รับการช่วยเหลือให้พาออกไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว..
"...มีคนมาช่วยเราแล้ว....."
เรื่องราวทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดี ทว่า....
ไจแอนท์ไซด์สตอรี่ตอนที่ 4 : ตัวปัญหาประจำสถานีโทรทัศน์
หลังจากที่ไจแอนท์พาทหารหนุ่มคนนั้นขึ้นมาที่ชั้นบน เขาก็เริ่มแนะนำชื่อตนเอง...
"ฉันชื่อ ซาคาตะ....... ซาคาตะ เอฟ นอร์แมน (酒田 F. ノーマン : Sakata F. Norman) เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น...ยินดีที่ได้รู้จักนะ..."
หลังจากนั้น เขาก็พูดแนะนำตัวต่อไปอีก..
"พวกเราคือหน่วย ยูบี..(U.B. ).. มะ..ไม่สิ.....พวกเราคือหน่วยกองกำลังป้องกันตนเอง* (自衛隊 = Jieitai = จิเอไต) ที่ถูกส่งเข้ามาช่วยเหลือผู้คนในเมืองอย่างพวกเธอทุกคน"
*กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (自衛隊 (じえいたい Jieitai , จิเอไต)) หรือ JSDF บางครั้งเรียกว่า JSF หรือ SDF เป็นบุคลากรจากประเทศญี่ปุ่นที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงเพื่อแทนที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ถูกยุบ และฝ่ายสัมพันธมิตรยึดครองญี่ปุ่น ในเวลาหลังสงคราม กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นถูกใช้งานในเฉพาะภายในประเทศมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศอธิปไตยชาติเพียงอย่างเดียวและไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ แม้อาจมีภารกิจในต่างประเทศในปฏิบัติการรักษาสันติภาพก็ตาม
ข้อมูลนำมาจาก >>> Japan Self-Defense Forces
เมื่อได้ยินชื่อนั้นทำเอาเด็กสาวที่ชื่อชิโอดะ ฮารุมิ ทำตาลุกวาว
"ว้าวว กองกำลังป้องกันตนเองงั้นเหรอ!? ทางการส่งคนมาช่วยพวกเราแล้วสินะ!!"
ชายหนุ่มในชุดทหารจึงพยักหน้าและส่งเสียงตอบ
"อะ...อืม...."
ท่าทางของเขาสร้างความประหลาดใจให้ไจแอนท์กับลุงยามโทชิโร่มาก เพราะดูเหมือนว่านายทหารคนนี้จะพูดอะไรบางอย่างที่มีพิรุธออกมา
"เมื่อกี้เขาพูดว่า.. ยูบี.... อะไรงั้นเหรอ? มันหมายความว่ายังไงน่ะ.."
ทางด้านลุงโทชิโร่เองก็สงสัยไม่แพ้กัน แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
(.........................)
(...น่าแปลกจังเลย.... กองกำลังป้องกันตนเองเขาไม่ได้พกพาอาวุธเยอะขนาดนี้นี่นา)
(และอีกอย่าง..ชุดแบบนั้น....มันก็ไม่ใช่ชุดของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นด้วย...ผู้ชายคนนี้...กำลังปิดบังเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่านะ.)
แต่ดูเหมือนว่าจะมีฮารุมิคนเดียวที่ไม่ใส่ใจในความสงสัยนั้น เธอจึงทำท่าตื่นเต้นพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นมาที่ซาคาตะพร้อมกับพูดว่า..
"ถะ..ถ้างั้น นายก็รีบพาฉันออกไปจากที่นี่ได้เลยใช่ไหมล่ะ!? เราจะถูกพาตัวไปที่นี่ไหนกันล่ะ..กองบัญชาการของพวกนายใช่ไหม..?? รีบพาไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"อะ..เอ่อ เรื่องนั้น..."
ซาคาตะลำบากใจที่จะพูดแต่เขาก็ต้องพูดออกมาและเล่าเรื่องราวให้พวกไจแอนท์ฟัง
"ศูนย์บัญชาการของพวกฉันตอนนี้ถูกพวกซอมบี้บุกทำลายไปแล้ว ทุกคนที่นั่นตายหมดเลย เหลือแต่ฉันเท่านั้นที่มีชีวิตรอดมาได้"
"หา!!?"
ฮารุมิไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ซาคาตะพูด เพราะคำพูดของเขาทำเอาฟางเส้นสุดท้ายของเธอลอยหายไปในพริบตา เธอก็ได้แต่หวังว่าเรื่องที่เขาพูดมาเมื่อสักครู่เป็นเรื่องล้อเล่น
แต่สีหน้าที่ดูเศร้าๆของซาคาตะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาพูดความจริง
".....ขอโทษด้วยนะ เรื่องที่พูดไปเป็นความจริง ฉันในตอนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพวกเธอนั่นแหละ..."
"เฮ้อ..นึกอยู่แล้วเหรอว่ามันต้องลงเอยแบบนี้"
ลุงโทชิโร่ที่เงียบมาตลอดจึงเริ่มพูดออกมา
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ สงสัยฉันคงต้องอยู่ที่นี่พร้อมกับพวกเธอแล้วล่ะ.."
เพียงเท่านั้นนั่นแหละ ฮารุมิถึงกับลุกขึ้นมาโวยวายอีกครั้ง พร้อมกับชี้หน้าด่ามาทางซาคาตะ
"นะ..นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!! โถ่เอ้ย นึกว่าจะมาช่วยออกไปแล้วแท้ๆ!! ทำไมกองกำลังป้องกันตัวเองของญี่ปุ่นมันถึงได้ไร้ประโยชน์แบบนี้นะ "
การด่าของเด็กสาวในชุดนักเรียนอย่างฮารุมิทำเอาทหารหนุ่มซาคาตะใบ้แดกเลยทีเดียว
"บ้า งี่เง่า!!! ไอ้พวกไร้ประโยชน์เอ้ย... ไม่ได้เรื่องทุกคนเลย!!!!!!"
บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เธอยังคงด่าพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มมีอาการทางประสาทเสียแล้ว...
แต่ผู้ชายทั้งสามคนก็ไม่คิดจะใส่ใจท่าทางของเด็กสาวต่อ...เนื่องจากระอาเต็มที่แล้ว..
พวกเขาจึงเริ่มหันมาคิดเรื่องของตัวเองกันบ้าง
"ต่อจากนี้ไปพวกเราจะทำยังไงกันต่อดีล่ะครับ?"
ซาคาตะก็พูดออกมาว่า...
"คงต้องติดอยู่ที่นี่แหละ อย่าได้คิดจะออกไปหาที่พึ่งข้างนอกเลย หาเรื่องตายชัดๆ"
"ตอนแรกพวกฉันก็ลองเข้าไปตรวจสอบดูในสถานีตำรวจมาแล้วเพื่อหวังว่าจะได้เจออะไรที่ใช้งานได้บ้าง"
**สถานีตำรวจเป็นสถานที่ที่โนบิตะเคยเข้าไปสำรวจเมื่อ 3 วันก่อน...
"แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเราพบคือ ที่นั่นกลายเป็นรังของพวกสัตว์ประหลาดอาวุธชีวภาพที่เรียกว่าบีโอดับเบิ้ลยูไปแล้วล่ะ..."
"อะไรกัน...เรื่องแบบนั้น..?"
"เราคงต้องหาทางรอดอื่นๆออกไปจากที่นี่ด้วยกำลังของตัวเองที่มีอยู่แล้วล่ะนะ"
ระหว่างที่ผู้ชายทั้ง 3 คนกำลังปรึกษากันอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงแหกปากของฮารุมิตะโกนลั่นห้องด้วยท่าทางสติแตกสุดๆ
เมื่อเห็นท่าทีอันตรายเช่นนั้น...ลุงยามโทชิโร่จึงรีบพูดขึ้นมา
"ดะ..ได้โปรด ใจเย็นก่อนเถอะครับ!!! คุณหนู!!!!!"
หลังจากนั้นเขาจึงรีบมองหาวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อที่จะระงับอาการของเด็กสาวทันที...
"คุณซาคาตะครับ"
ลุงโทชิโร่จึงเรียกชื่อซาคาตะขึ้นมา
"มีอะไรเหรอ?"
"ตอนที่คุณมาถึงที่นี่ได้ ทางศูนย์บัญชาการหลัก(ที่ยังไม่ถูกทำลาย) เขาส่งคุณมาที่นี่หรือเปล่าครับ?"
"เปล่า...ไม่มีใครส่งฉันมาที่นี่หรอก ฉันบังเอิญเดินมาถึงที่นี่มากกว่า..."
"ถ้ายังงั้นล่ะก็ พวกเราพอจะมีวิธีการแจ้งศูนย์บัญชาการหลักให้พวกเขารู้ตำแหน่งของเราเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้หรือเปล่าครับ"
"อืม...ก็อาจจะนะ แต่ว่าวิทยุสื่อสารของฉันมันใช้การไม่ได้เสียด้วย"
"อืม..." ลุงโทชิโร่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่...
"กำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรือครับ?"
ตอนนั้นเองลุงโทชิโร่ก็บอกมาว่า...ที่ชั้นใต้ดินของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างเก็บอยู่เป็นจำนวนมาก ของบางอย่างอาจจะสามารถนำมาใช้ได้ก็ได้ เพียงแต่ว่า...มันยังมีปัญหาตามมาหลายอย่างคือ ...นอกจากห้องชั้นใต้ดินจะถูกล็อกด้วยกุญแจแล้วยังถูกล็อกด้วยระบบไฟฟ้าที่ชำรุดอยู่ด้วย ซึ่งจำเป็นจำต้องหาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จะนำมาซ่อมเสียก่อน
"อืม....."
ซาคาตะฟังอย่างตั้งใจ
และปัญหาอีกอย่างหนึ่งเขาจำเป็นต้องรีเซ็ทระบบพลังงานหลักเพื่อซ่อมแซมระบบในส่วนนั้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในช่วงนั้นพวกเขาจะไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ด้วยกล้องวงจรปิดได้ เพราะระบบจะถูกปิดทั้งหมด
"แค่รวบรวมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ตามอาคารมายังงั้นใช่ไหม? ลุง..."
ซาคาตะถามย้ำ
โทชิโร่จึงบอกว่าซาคาตะเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้เร็วดี พร้อมกันนั้น เขาก็ได้หยิบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เขาต้องการขึ้นมาให้ดู เพื่อให้ซาคาตะจดจำรูปร่างของมันได้ก่อนที่จะออกสำรวจตามอาคาร
"ให้คนแก่กับเด็กผู้หญิงไปมันอันตราย... ให้ฉันกับเจ้าหนุ่มนั่นไปก็พอแล้ว..."
ดูเหมือนว่า ซาคาตะต้องการผู้ช่วยที่จะออกไปหาของร่วมกับเขา
"หา? ผมเหรอ?"
"ใช่ ฉันต้องการผู้ช่วยที่พอจะรับมือกับพวกซอมบี้ที่เพ่นพ่านในตึกได้ ดังนั้นนายนั่นแหละที่เหมาะสมที่สุด"
ไจแอนท์จึงยอมรับข้อตกลงแต่โดยดี เพราะดูเหมือนว่าสถานการณ์ในตอนนี้ คงมีแต่เขาเท่านั้นที่พอจะช่วยงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้ได้ แถมตามอาคารแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะว่ามันยังมีพวกซอมบี้เดินเพ่นพ่านตามตึกเต็มไปหมด
"มีแค่นี้ใช่ไหม? ถ้างั้นทุกคนก็แยกย้ายกันได้ เวลายิ่งไม่ค่อยมีอยู่ เสร็จแล้วให้มารวมกันที่ตรงนี้นะ"
ซาคาตะจึงบอกให้ทุกคนเริ่มไปปฏิบัติหน้าที่ของตน
ซึ่งก่อนออกจากห้องไป ลุงโทชิโร่ได้เอาวิทยุสื่อสารของยามที่อยู่ภายในห้องให้กับไจแอนท์และซาคาตะ พร้อมกับสอนวิธีใช้งานเบื้องต้นให้พวกเขาสำหรับติดต่อกันเวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เพราะว่าตอนนี้กล้องวงจรปิดจะไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว
"ยังไงก็แล้วแต่ ระวังตัวด้วยนะทั้งสองคน"
ลุงยามโทชิโร่พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะดำเนินการหันไปปิดระบบกล้องวงจรปิดทั้งหมดเพื่อซ่อมแซมระบบใหม่ โดยทิ้งให้ฮารุมิที่ดูเหมือนจะเงียบสงบลงอยู่ข้างหลัง...
"เข้าใจแล้วครับ..."
แล้วไจแอนท์กับซาคาตะก็เดินออกจากห้องพร้อมกับแยกย้ายกันตามหาชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะนำมาซ่อมแซมระบบ...
ซึ่งในเกมนั้นไจแอนท์จะต้องออกตามค้นหาทั้งหมด 4 ชิ้น ได้แก่ ชิ้นส่วน A,ชิ้นส่วน B,ชิ้นส่วน C และชิ้นส่วน D
ชิ้นที่ 1 อยู่บนชั้น 4
ในห้องที่พบตัวเด็กสาวที่ชื่อชิโอดะ ฮารุมิในตอนแรก
จะมีชิ้นส่วน D วางอยู่บนโต๊ะ
ชิ้นที่ 2 อยู่บนชั้น 3
ภายในห้องสตูดิโอ ชิ้นส่วน C จะอยู่บนโต๊ะด้านในสุด
แต่ตอนที่ไจแอนท์กำลังจะเดินออกจากห้อง เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีตัวอะไรบางอย่างเดินตามเขาเข้ามาในห้องด้วย!!!
"เฮ้ย!!! ไอ้นี่มันตัวบ้าอะไรวะเนี่ย!!!"
เจ้าตัวนั้นคือซอมบี้ที่มีส่วนหัวถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือดและมีกรงเล็บยาวที่น่ากลัว...ใช่แล้ว พวกมันคือซอมบี้สายพันธุ์ใหม่ที่ดุร้ายกว่าซอมบี้ธรรมดา "คริมสันเฮด (Crimson Head)" นั่นเอง....
ไจแอนท์ทดลองยิงใส่มันหลายนัดแต่ดูเหมือนว่า จะไม่สามารถหยุดมันได้ แถมมันยังวิ่งพุ่งเข้ามาที่เขาด้วยความเร็วสูง ไจแอนท์รู้สึกได้ว่า เจ้าตัวนี้มันอันตรายเกินกว่าที่เขาจะมาสู้ด้วยจึงตัดสินใจวิ่งอ้อมมันหนีออกประตูไป
ชิ้นที่ 3 อยู่บนชั้น 1 แต่ต้องใช้กุญแจจากชั้น 2
ที่ชั้น 2 ไจแอนท์ได้ใช้กุญแจห้องพักผ่อนที่ได้จากห้องพยาบาลชั้น 1 มาใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12.5] มาไขประตูห้องที่ชั้นนี้
ด้านในเป็นห้องพักผ่อนที่มีคริมสันเฮดดักรออยู่ 1 ตัว
บริเวณด้านบนของห้องมีปืนพกที่มีแม็กกาซีนกระสุนปืนให้เก็บ
และตรงกลางของห้องไจแอนท์ได้เดินฝ่าคริมสันเฮดเพื่อเข้าไปหยิบกุญแจห้องเก็บของที่ใช้ในสตูดิโอ
หลังจากนั้นเขาได้เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อนำกุญแจของเก็บของที่ใช้ในสตูดิโอไขเข้าไป
ภายในห้องนั้นมีข้าวของเครื่องใช้ที่น่าแปลกตาเต็มไปหมดแต่เขาไม่อยากใส่ใจกับมันมากเพราะที่นี่มีคริมสันเฮดดักรอเขาถึง 2 ตัว
ไจแอนท์จึงรีบเดินเข้าไปในห้องเก็บของด้านในสุดอีกที
ภายในห้องนั้นมีกล่องต่างๆจำนวนมากให้เขาได้สำรวจและมีซอมบี้ธรรมดาเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น
แน่นอนว่า....
ชั่วพริบตา ซอมบี้ทั้ง 2 ตัวก็กลายเป็นศพเละเทะไปกองกับพื้น
และที่กล่องด้านในนั้น เขาได้กับชิ้นส่วน A
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงสัญญาณบางอย่าง
"อ้ะ....วิทยุสื่อสารที่ลุงให้มา"
"ฮัลโหล.....?"
ที่อีกฝั่งของสายนั้นเป็นเสียงของลุงโทชิโร่
"อา... นี่ลุงมัตสุยาม่าเองนะ
ขอโทษนะ...ไม่ทราบว่าเธอเห็นตัวคุณหนูชิโอดะหรือเปล่า?"
"?? ชิโอดะ?? อ้าว..ยัยนั่นไม่ได้อยู่กับลุงเหรอ??"
"คือ...เรื่องนั้นแบบว่า..."
หลังจากนั้นลุงโทชิโร่ก็ได้บอกความจริงให้กับไจแอนท์ฟังว่า เขามารู้ตอนหลังตอนที่สำรวจของที่เด็กสาวคนนั้นทำตกไว้ในห้องและพบว่าเธอเป็นผู้ป่วยที่มีอาการของ "โรคฮิสทีเรีย (Hysteria)" ขั้นรุนแรง ทำให้กลายเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน ขี้หงุดหงิดและเครียดง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ใช้อธิบายท่าทางแปลกๆของเธอมาโดยตลอด....
**ฮิสทีเรีย (Hysteria) ความจริงไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการทางประสาทชนิดหนึ่ง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> วิชาการ.คอม
"ตอนนี้เด็กคนนั้น.....หนีออกจากห้องไปแล้ว"
"ว่ายังไงนะ!!!!!?"
(ยัยนั่นคิดจะก่อเรื่องไปถึงไหนเนี่ย)
ยังไม่ทันที่ไจแอนท์จะรวบรวมอุปกรณ์ได้ครบ เขาก็ได้รับรู้เรื่องราวที่น่าหนักใจอีกอย่างที่เขาต้องทำนั่นคือ....
เด็กสาวที่ชื่อชิโอดะ ฮารุมิ ได้หนีออกจากห้องรปภ.บนชั้น 5 ออกมายังทางเดินของอาคารที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้และสัตว์ประหลาดมากมายเสียแล้ว
โปรดติดตามตอนต่อไป....
ได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 15.5] : Side Story - ภาคไจแอนท์ (ตอนที่ 5)
ได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 15.5] : Side Story - ภาคไจแอนท์ (ตอนที่ 5)
คลิปประกอบเนื้อเรื่องตอนนี้
อ้อ... เธอเป็นผู้ป่วยเองหรอกเรอะ มิน่าชอบโวยวายจัง แต่แบบนี้ก็ยิ่งยืนยันได้ว่า เป็น"ตัวภาระ" เต็มๆเลยนะนั้น (ขืนโวยวายไม่เข้าท่าเดี๋ยวได้ซวยกันหมด)
ตอบลบอ่านะ ถ้าใครยังจำได้อยู่ เราว่าเราพิมพ์บอกไปในตอนแรกของไซด์สตอรี่นี้แล้วว่า สถานที่ที่ไจแอนท์อยู่ก่อนที่จะหนีเข้ามาในสถานีโทรทัศน์ก็คือด้านหน้าของโรงพยาบาล ดังนั้น เธอก็คงจะหนีมาจากที่นั่นเข้ามาก่อนนั่นแหละ
ตอบลบ....ก็ถึงว่าทำไมติ่งจัดจังถึงจะอันตรายยังไงก็น่าจะใจเย็นลงได้แล้วแท้ๆ
ตอบลบพลังผู้หญิงฮิสทีเรียนี่อันตรายมากๆนะ ลองไปดูตัวอย่างในเกมสยองขวัญอย่าง paranoiac ดูจิ เหอๆๆๆๆ
ลบ