" />

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12]

หลังจากที่ห่างหายไปกับการเขียนเนื้อเรื่องไซด์สตอรี่ของไจแอนท์  ตอนนี้เนื้อเรื่องก็ได้วกกลับมาที่โนบิตะอีกครั้งแล้วจ้า!!!

จากเนื้อเรื่องช่วงที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11]

รถรางที่โนบิตะนั่งอยู่ได้เกิดอุบัติเหตุ (พร้อมเรื่องน่าสลด) ทำให้ไม่สามารถใช้งานเบรกได้ ทำให้รถรางที่กำลังวิ่งอยู่ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พุ่งเข้าชนกับหอนาฬิกาเข้าอย่างจัง!!!




การผจญภัยของโนบิตะจะเป็นอย่างไรต่อไป เชิญอ่านต่อได้ในบทความนี้...





เนื้อเรื่องส่วนที่ 12 : ถึงหอนาฬิกาแล้ว...



ขอย้อนถอยหลังไปสักเล็กน้อย ก่อนที่รถรางจะพุ่งชนหอนาฬิกา ขณะที่โนบิตะอยู่บนรถรางจะมีตัวเลือก 2 อย่างคือ
1) กระโดดหนีทางหน้าต่าง
2) ใช้เบรกฉุกเฉิน

ถ้าเลือกกระโดดหนีทางหน้าต่างก่อนจะเป็นดังคลิปข้างล่าง



โนบิตะกลัวตายมากจึงเลือกข้อ 1


เขาจะรีบกระโดดหนีออกจากหน้าต่างรถรางก่อนเป็นคนแรกทำเอานายทหาร 2 คน โอทากะ กับโรวฮะทำหน้าเหวอเพราะเขาชิ่งหนีไปก่อนโดยไม่ทันตั้งตัว


และปล่อยให้นายทหาร 2 คนกับเซย์นะที่นอนบาดเจ็บที่อยู่บนรถรางพุ่งชนกับหอนาฬิกาอย่างจัง


โนบิตะจะรู้สึกตัวอีกทีที่ห้องด้านหลังของหอนาฬิกา


ที่มีซอมบี้ดักรอเต็มไปหมด


ซึ่งวิธีนี้จะลงท้ายด้วย Bad End เพราะเซย์นะจะโดนปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเป็นรอบที่ 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลือกบางอย่างของตัวเกมนั้นจะมีเหตุการณ์ที่โนบิตะต้องเลือกหลายครั้งซึ่งมีผลกับการดำเนินเรื่องเมื่อไปถึงฉากจบ อย่างตอน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4] ที่จะเลือกว่าต่อสู้กับทินดาลอสเพื่อช่วยเซย์นะหรือว่าจะหนีเข้าสถานีตำรวจไปเลย


ดังนั้นตอนเลือกตัวเลือกแต่ละอย่างควรพิจารณาให้ดีก่อนเลือก..ว่าการเลือกนั้นจะมีผลในการทอดทิ้งเซย์นะให้ตายหรือไม่... ซึ่งแน่นอนว่าส ในความเป็นจริงคนอย่างโนบิตะจะไม่มีวันทอดทิ้งเพื่อนเด็ดขาด ดังนั้น เขาจึงเลือกข้อ 2 ซึ่งก็คือใช้งานเบรกฉุกเฉิน (จะทำให้ทหาร 2 คนเลือกที่จะโดดหนีลงจากรถรางก่อน)


แต่สุดท้ายเบรกฉุกเฉินก็ไม่สามารถหยุดการวิ่งของรถรางได้อย่างสมบูรณ์ทำให้รถรางพุ่งเข้าชนกับหอนาฬิกาอย่างจัง...ทำให้โนบิตะกับเซย์นะกระโดดลอยออกมาจากรถรางพร้อมกับสลบไป


หลายชั่วโมงต่อมา...
เข้าสู่ช่วงวันใหม่ วันที่ 23 เดือนธันวาคม ปี 2004


ที่หอนาฬิกาช่วงเช้ามืด เวลาตี 5 .. 50 นาที


โนบิตะกับเซย์นะที่กำลังสลบไสลอยู่ที่ทางเข้าหอนาฬิกา ซึ่งร่างของพวกเขากระเด็นออกมาหลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง


โนบิตะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา
"อุ....อูยยยย.... เจ็บๆ"

เขาได้มองออกไปบริเวณรอบข้าง

"ทะ ที่นี่มัน....?"



เขาได้มองเห็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้ ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ตนเองได้มาถึงหอนาฬิกาของเมือง R แล้ว ซึ่งตอนนี้ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่....

ทุกอย่างเป็นไปตามคลิปนี้...โนบิตะรับบทเป็นจิลใน RE3 ที่นั่งรถรางมาจนถึงหอนาฬิกานั่นเอง



สิ่งที่ทำให้เขากังวลในตอนนี้มีเพียงอย่างนึงคือ...บริเวณลานกว้างหน้าหอนาฬิกาที่เขาอยู่นี่มีอีกาเยอะมาก!!!



เขารีบใช้ปืนจัดการอีกาที่บินเข้ามาทางเขาให้หมดก่อนที่จะหันไปสำรวจด้านหลัง ซึ่งเป็นซากรถรางที่มีเพลิงลุกไหม้จากการระเบิดเพราะแรงกระแทกตอนพุ่งชน และใกล้ๆกันนั้นเขาได้พบกับร่างๆหนึ่ง



"คุณเซย์นะ!!!!!!!!!!"

โนบิตะรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเซย์นะทันที ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ฟื้นขึ้นมา... นอกจากบาดแผลเก่าที่เธอมีตามร่างกายแล้ว เธอยังมีรอยบาดแผลเพิ่มจากการกระเด็นตกรถรางลงมาอีก 



แต่โชคดีที่บาดแผลกว้างที่ท้องยังไม่เปิดมากนักทำให้โนบิตะรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย


"ยังไงก็เถอะ ถ้าทิ้งไว้ที่นี่คงไม่ปลอดภัยแน่ ต้องรีบพาออกไปจากที่นี่ด่วน"

โนบิตะประเมินสถานการณ์รอบข้างอย่างถี่ถ้วนและพบว่าบริเวณนี้ไม่มีความปลอดภัยแน่ แถมพวกอีกาที่ยังเฝ้าสังเกตการณ์ห่างๆก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยการบินมาบริเวณที่เขากับเซย์นะอยู่แล้ว



"หวังว่าข้างในหอนาฬิกาคงจะมีที่ปลอดภัยนะ!!"


หลังจากพูดจบโนบิตะจึงรีบอุ้มเซย์นะมาไว้ในอ้อมแขนทันที โชคดีที่เซย์นะเป็นคนที่มีน้ำหนักเบามากพอที่โนบิตะจะสามารถยกขึ้นมาได้ (อีกทั้งโนบิตะก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อนด้วย)

ซึ่งในเกมตรงนี้จะมีคำเตือนขึ้นมาว่า ระหว่างที่โนบิตะอุ้มเซย์นะอยู่จะไม่สามารถใช้อาวุธได้ ดังนั้นถ้าเจอศัตรูตามทางก็ให้โกยอย่างเดียว


โนบิตะได้อุ้มเซย์นะที่ยังนอนสลบและบาดเจ็บขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับมองไปยังหอนาฬิกาเพื่อหาทางเข้า


ภาพประกอบอันนี้ต้องขอบคุณ คุณไวท์เดย์  (WhiteDay) แอดมินเพจ Up 2 ME (อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเจ้าของบล็อก) ที่อาสาเป็นนักวาดภาพประกอบฉากนี้ให้ หากใครสนใจจะติดต่อหรือดูผลงานของเขาสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/up.2.me.whiteday  นะจ้ะ  แล้วก็อย่าลืมกดไลค์ให้เขาด้วยล่ะ เขาจะได้มีกำลังใจมาวาดภาพประกอบเนื้อเรื่องเพิ่มอีก





"ต้องรีบแล้ว!! พวกมันมากันเป็นฝูงเลย!!"

หลังจากที่พูดจนจบโนบิจะจึงได้วิ่งหนีฝูงอีกาพร้อมกับอุ้มเซย์นะไปทางประตูหน้าหอนาฬิกาทันที


เขาได้ใช้ตัวเองดันประตูของหอนาฬิกาออกพร้อมวิ่งเข้ามาข้างในส่วนห้องโถงใหญ่ของหอนาฬิกาและพบว่า...

"บ้าเอ้ย!!!! ในนี้ก็มีเหรอเนี่ย!!!!"

แต่ความซวยยังไม่จบ เพราะบริเวณแถวนั้นมีพวกหมัดกลายพันธุ์เดรนดีมอสรออยู่เต็มไปหมด


เขาจึงรีบวิ่ง (โดยที่ยังอุ้มเซย์นะไปด้วย) เข้าไปยังห้องทางด้านซ้ายเพื่อหนีพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้น


เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาข้างในก็พบว่า ห้องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องอาหารของพวกซอมบี้.. เพราะซอมบี้ทุกตัวในห้องกำลังให้ความสนใจกับเนื้อและเครื่องในดิบที่อยู่ข้างหน้าพวกมัน


"ตอนที่พวกมันกำลังสนใจกินอยู่นี่แหละ....ต้องรีบไปโดยด่วน!!"

โนบิตะจึงเดินอุ้มเซย์นะ ลัดเลาะมายังประตูที่อยู่ด้านล่างของห้องเพื่อไปต่อ เพราะห้องนี้อีกสักพักก็คงไม่ปลอดภัยเหมือนกัน


ห้องถัดไปเขาก็พบว่า...

"พวกมันมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย!!!"

โนบิตะจึงรีบวิ่งอุ้มเซย์นะฝ่าฝูงซอมบี้ไปยังประตูอีกฝั่งโดยไว!!!!


และแล้วเขาก็เดินเข้ามาถึงห้องที่อยู่ด้านในสุด....ที่นั่นเขาพบกับคนในชุดทหารยืนหันหลังให้เขาอยู่...


"อ้ะ.....คนๆนั้น....."

โนบิตะจึงเดินเข้าไปหาเขาและก็ต้องดีใจมากเพราะว่าชายคนนั้นคือโอทากะ หนึ่งในทหาร 2 คนที่อยู่บนรถรางด้วยกันนั่นเอง

"อ้ะ เจ้าหนูนี่เอง.... โชคดีจังที่ยังมีชีวิตอยู่"


โอทากะทักโนบิตะอย่างดีใจและตอนนั้นเองเขาได้หันไปมองเห็นร่างของเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของโนบิตะ

"อืม...เด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่สินะ โชคดีจัง... เอาล่ะ!! พาเธอมาไว้ตรงนี้เลย"


แล้วโอทากะกับโนบิตะก็ค่อยๆวางร่างเซย์นะลงบนเวทีด้านหน้า


(ดูๆไปแล้วมันก็คือห้องเดียวกับที่คาร์ลอสวางร่างจิลหลังสู้กับเนเมซิสใน RE3 นั่นแหละ)



หลังจากนั้น โอทากะกับโนบิตะก็ช่วยกันปฐมพยาบาลเซย์นะ พร้อมกับรักษาบาดแผลให้โนบิตะด้วย สักพักแผลของโนบิตะก็เริ่มหายดีเป็นปกติแถมเลือดก็หยุดไหลด้วย


นอกจากนั้นเขายังบอกต่อไปอีกว่า เขากับเพื่อนของเขาอีกคนซึ่งก็คือ โรวฮะพลัดหลงกันตอนที่กระโดดลงมาจากรถราง แต่เขาคิดว่าโรวฮะเองก็คงจะอยู่ภายในหอนาฬิกาใกล้ๆนี้แหละ และฝากให้โนบิตะช่วยตามหาเขาด้วย ควรรีบพาเขาเข้ามารวมกลุ่มด้วยกันจะดีที่สุด ส่วนเรื่องเซย์นะเขาจะเป็นคนดูแลให้เอง


"เข้าใจแล้วครับ...!!"




"อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!"

และในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเซย์นะ!!

"คุณเซย์นะ!!!!!!!!!!!!"



"เฮ้...เป็นอะไรหรือเปล่า!? ทำใจดีๆไว้นะ!?"

โอทากะรีบตรวจสอบอาการของเซย์นะทันที


"นะ...นี่มันอะไรกันเนี่ย!?  ทำไมผิวหนังของเด็กคนนี้ถึงได้ลอกมาแบบนี้ล่ะ!?"


โอทากะรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนร่างกายของเซย์นะ เพราะตอนนี้ผิวหนังของเธอบางส่วนเริ่มหลุดออกมาแล้ว

คล้ายๆกับน้องเรย์จาก Sankarea แบบนี้แหละจ้ะ

"เฮ้ย! อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ! อดทนไว้ก่อน!!"



"อ๊ะ......อ๊าาาา...!!! ไม่ไหว...มัน...คัน......คัน....คันไปหมด....... อุ๊!!"


เซย์นะยังคงพูดละเมอออกมา...แล้วก็เริ่มใช้มือเกาตามส่วนต่างๆของร่างกายแบบไม่มีสติอย่างรุนแรง โอทากะเห็นท่าไม่ดีจึงรีบใช้มือล็อกแขนของเซย์นะทันที...

"คันงั้นเหรอ!? แย่ล่ะสิ ดูเหมือนว่าอาการของเด็กคนนี้จะแย่ลงเรื่อยๆแล้วล่ะ"


"ต้องรีบแล้ว.....ต้องรีบพาเจ้าหมอนั่นมาให้เร็วที่สุด!!"

โอทากะเองก็ดูตื่นตระหนกกับอาการของเซย์นะไม่แพ้กัน


หลังจากนั้นโอทากะจึงหันมาบอกกับโนบิตะว่า..

"แย่แล้วล่ะเจ้าหนู!! รีบไปตามโรวฮะมาด่วนเลย!! เจ้านั่นเชี่ยวชาญด้านการพยาบาลเป็นอย่างดีแถมยาทุกอย่างก็อยู่ที่หมอนั่นด้วย!!"


"ถ้าหากไม่รีบพาหมอนั่นมาล่ะก็ เด็กคนนี้อาจจะเกาจนตายก็ได้นะ!!!"


เพิ่มเติมนิดนึง คนแคสต์เกมเข้าใจทำมากพอถึงบทนี้ พี่ท่านก็อัดคลิปการ์ตูนเรื่องหนึ่งแทรกมาให้ดู...เพื่อบอกว่าการเกาทำให้ตายได้จริงๆนะ..ดูอย่างตาแว่นคนนี้สิ...



"คะ...ครับ!!!!!!!!!"


โนบิตะรีบรับปากอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง

(...อาการคัน...งั้นเหรอ!?  ทำไมคุณเซย์นะถึงได้เกิดอาการแบบนี้ได้....?..)


เขากำลังคิดย้อนกลับไปว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เซย์นะเกิดอาการนี้....ก่อนหน้าที่เธอจะบาดเจ็บเธอโดนเจ้าสัตว์ประหลาดใช้กรงเล็บแทงจนเกิดบาดแผล!??  สัตว์ประหลาด!?  อาวุธชีวภาพ!? เชื้อไวรัส!?

(.....!  ไม่จริงนะ.....คุณเซย์นะ......ไม่จริงใช่ไหม!?...)


ขอสรุปที่โนบิตะได้ตอนนั้นคือ..
เซย์นะติดเชื้อไวรัส!

และตอนนั้นเองโอทากะก็เริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติของเซย์นะอีกอย่าง

(เอ๊ะ..?  ดวงตาของเด็กคนนี้...)


( นะนี่มัน...รูม่านตาของเด็กคนนี้เริ่มขยายออก เหมือนดวงตาคนตายของพวกซอมบี้เลยนี่นา...เด็กคนนี้กำลังจะกลายเป็นซอมบี้งั้นเหรอ!?)




โอทากะจึงย้ำกับโนบิตะอีกครั้งว่ารีบไปตามหาโรวฮะด่วนที่สุดเลย!!!


โนบิตะจึงรีบวิ่งออกจากห้องกลับมายังห้องโถงหลักอีกครั้งเพื่อตามหาโรวฮะ


เขาเดินข้ามไปยังอีกฝั่งของห้องโถงที่เต็มไปด้วยเดรนดีมอส


ห้องนี้เป็นห้องพักผู้ดูแล แต่ดูเหมือนว่าจะมีทางเดินไปต่อ เขาจึงเดินลงมาตามทาง


และในที่สุดเขาก็พบตัวโรวฮะภายในห้องนั้น


โนบิตะจึงรีบเดินเข้าไปทักทหารหนุ่มคนนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังอ่านเอกสารอะไรสักอย่างอยู่

"โอ้!!ไอ้หนูเองเหรอ!!? ดีใจจริงๆที่ยังไม่ตายนะ!!! ให้ตายสิ เกลียดพวกซอมบี้ชะมัดเลย!!"


ก่อนที่โนบิตะจะได้เริ่มพูดอะไร โรวฮะก็ยื่นสิ่งที่เขาอ่านให้โนบิตะดูเสียก่อน

"นะ นี่ไงล่ะ...วิธีที่จะช่วยพาพวกเราออกไปจากเมืองบ้านี่!! อ่านซะสิ!!"


โนบิตะจึงอ่านเอกสารที่โรวฮะนำมาให้ มันคือเอกสารแผนการรบที่มีในใน RE3 นั่นเอง


เอกสารแผนการรบ - Operation Instruction



ถึงหน่วย UBCS เอคโค่ทีม

เอคโค่ทีมจะต้องปฏิบัติภารกิจการกวาดล้างเขตเมือง แล้วรีบอพยพชาวเมืองที่ยังมีชีวิตอยู่ไปไว้ภายในหอนาฬิกาซึ่งเป็นเป้าหมายแรก  


ในบรรดาชาวเมืองที่ท่านช่วยเหลือมานั้น ถ้าหากผู้ใดเป็นพนักงานของทางอัมเบรล่าควรจะช่วยเหลือพวกเขาก่อน (จะมีรางวัลให้เป็นพิเศษ)

ส่วนเจ้าพวกคนตายแบบเป็นๆ (หรือที่เรียกว่า ซอมบี้หลังจากที่ตายเพราะได้ติดเชื้อ) จะมีความทนทานสูง ฉะนั้นการจะหยุดยั้งพวกมันจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ขอให้ระวังตัวกันอย่างเต็มที่


การถอนกำลังจากเขตปฎิบัติการณ์
1 :ให้ถอนกำลัง เพราะเสร็จสิ้นแผนการ หรือไม่สามารถดำเนินหน้าที่ต่อไปได้
2 :นำเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่จอดรออยู่นอกชานเมือง ไปยังสวนทางด้านหน้าหอนาฬิกา



3 :ใช้เสียงระฆังจากหอนาฬิกาเป็นสัญญาณหลังจากที่ปฏิบัติการตามแผนหลักเสร็จสิ้น หรือไม่ก็ใช้เป็นตัวบอกให้ทุกหน่วยที่กำลังปฏิบัติแผนการอยู่ภายในเมือง ยกเลิกหน้าที่เพราะแผนการล้มเหลว


ซึ่งในเกม RE3 เอกสารมันควรจะจบตั้งแต่บรรทัดที่แล้ว แต่สำหรับเกมนี้ยังมีต่อ เพราะมันเขียนว่า..

ดูเหมือนจะมีข้อความลายมือเขียนต่อที่ด้านล่าง


ทีม C ทีม B และทีม A ปัจจุบันถูกเจ้าพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นจัดการไปหมดแล้วรวมถึงชาวเมืองที่อยู่ในหอนาฬิกาก่อนหน้านั้นด้วย ทุกคนต่างล้มตายกลายเป็นพวกซอมบี้กันหมดแล้ว!! นี่มันสิ้นหวังชัดๆ


ภายในหอนาฬิกานี้เต็มไปด้วยพวกอาวุธชีวภาพบีโอดับเบิ้ลยู (BOW) จำนวนมาก แถมอุปกรณ์ขับเคลื่อนการส่งสัญญาณหอนาฬิกาก็ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีเอาไปซ่อนไว้ด้วย ให้มันได้ยังงี้สิ!!


โนบิตะอ่านข้อความนั้นจบโรวฮะก็ได้บอกกับโนบิตะว่า ดูเหมือนคนที่เขียนข้อความด้านล่างจะเขียนได้เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับสบถออกมาว่านึกว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้ง่ายแท้ๆ พวกเขาจะต้องมาเสี่ยงภัยในที่แบบนี้อีก



แต่สิ่งที่โนบิตะรู้สึกแปลกใจมากที่สุดก็คือ เอกสารนี้เป็นข้อความของอัมเบรล่า...

"อัมเบรล่า!?  หรือว่าพวกคุณ......"


แต่ดูเหมือนว่าโรวฮะจะไม่สนใจสิ่งที่โนบิตะพูด เขายังคงพูดออกมา

"ฉันกับโอทากะจะขอสำรวจหาวิธีอื่นในการส่งสัญญาณหอนาฬิกาก่อน ส่วนเธอน่ะไปหาที่ซ่อนตัวรอซะ.."



"เอ่อคือ...เรื่องนั้น"



หลังจากนั้นโนบิตะก็เล่าเรื่องของโอทากะให้ฟัง โรวฮะเมื่อได้ยินเรื่องเขาก็บอกว่า....


"ถ้างั้น เรื่องเด็กคนนั้นฉันจะไปจัดการให้ ส่วนนายน่ะรออยู่เฉยๆ ไว้  เป็นแค่เด็กอย่าทำซ่ากับบริเวณนี้ให้มาก เดี๋ยวได้ตายอีกศพนึงหรอก"


"งั้นขอตัวล่ะ..."


แล้วโรวฮะก็เดินจากไป...โดยทิ้งโนบิตะอยู่เบื้องหลัง


"คนเป็นผู้ใหญ่เขาพูดอะไรกันแบบนี้เหรอ ให้ตายสิ!!!"


แต่โนบิตะไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงได้เก็บกุญแจแห่งหอนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับเริ่มพิสูจน์ตัวเองด้วยการหาวิธีส่งสัญญาณจากหอนาฬิกาเอง





โปรดติดตามตอนต่อไป...
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 13]



อัพเดตคลิปประกอบบทความ


ท่านอาจจะอยากพักเบรกไปอ่านเนื้อเรื่องของไจแอนท์ต่อได้ที่

แสดงความเห็นบน Facebook!

4 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ22 เมษายน 2556 เวลา 06:24

    แหม โยงไปเรื่อง "ฮิกุราชิ" เฉยเลย 5555+ ก็นะ การเกาอย่างรุนแรงมันทำให้เกิดบาดแผล และถ้ายิ่งเกาไปเรื่อยๆ นอกจากจะมีโอกาสตายเนื่องจากเลือดไหลไม่หยุด ก็อาจจะพ่วงการติดเชื้อได้อีก...

    ว่าแต่... สรุปนี่เซย์นะไม่สามารถผนวกกับไวรัสได้สินะ อืม... จำได้ว่าไอ้เชื้อจากเจ้าหมานั้น มันใช้ได้ผลเฉพาะหมานี่นา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตามนั้นเลยค่ะ

      ส่วนเรื่องฮิกุราชินี่ คนแคสต์เป็นคนเอาคลิปมาอัดคั่นไว้เองค่ะ เราเลยยกมาอธิบายด้วย

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 07:27

    โอทากะนี่กับโนบิตะอย่างกับมีแสตนท์เครซี่ไดมอนท์เลยนะแป็บเดียวหายขาดเหมือนใหม่

    ตอบลบ