จากเนื้อเรื่องช่วงที่แล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11]
รถรางที่โนบิตะนั่งอยู่ได้เกิดอุบัติเหตุ (พร้อมเรื่องน่าสลด) ทำให้ไม่สามารถใช้งานเบรกได้ ทำให้รถรางที่กำลังวิ่งอยู่ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พุ่งเข้าชนกับหอนาฬิกาเข้าอย่างจัง!!!
การผจญภัยของโนบิตะจะเป็นอย่างไรต่อไป เชิญอ่านต่อได้ในบทความนี้...
เนื้อเรื่องส่วนที่ 12 : ถึงหอนาฬิกาแล้ว...
ขอย้อนถอยหลังไปสักเล็กน้อย ก่อนที่รถรางจะพุ่งชนหอนาฬิกา ขณะที่โนบิตะอยู่บนรถรางจะมีตัวเลือก 2 อย่างคือ
1) กระโดดหนีทางหน้าต่าง
2) ใช้เบรกฉุกเฉิน
ถ้าเลือกกระโดดหนีทางหน้าต่างก่อนจะเป็นดังคลิปข้างล่าง
โนบิตะกลัวตายมากจึงเลือกข้อ 1
เขาจะรีบกระโดดหนีออกจากหน้าต่างรถรางก่อนเป็นคนแรกทำเอานายทหาร 2 คน โอทากะ กับโรวฮะทำหน้าเหวอเพราะเขาชิ่งหนีไปก่อนโดยไม่ทันตั้งตัว
และปล่อยให้นายทหาร 2 คนกับเซย์นะที่นอนบาดเจ็บที่อยู่บนรถรางพุ่งชนกับหอนาฬิกาอย่างจัง
โนบิตะจะรู้สึกตัวอีกทีที่ห้องด้านหลังของหอนาฬิกา
ที่มีซอมบี้ดักรอเต็มไปหมด
ซึ่งวิธีนี้จะลงท้ายด้วย Bad End เพราะเซย์นะจะโดนปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเป็นรอบที่ 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลือกบางอย่างของตัวเกมนั้นจะมีเหตุการณ์ที่โนบิตะต้องเลือกหลายครั้งซึ่งมีผลกับการดำเนินเรื่องเมื่อไปถึงฉากจบ อย่างตอน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4] ที่จะเลือกว่าต่อสู้กับทินดาลอสเพื่อช่วยเซย์นะหรือว่าจะหนีเข้าสถานีตำรวจไปเลย
ดังนั้นตอนเลือกตัวเลือกแต่ละอย่างควรพิจารณาให้ดีก่อนเลือก..ว่าการเลือกนั้นจะมีผลในการทอดทิ้งเซย์นะให้ตายหรือไม่... ซึ่งแน่นอนว่าส ในความเป็นจริงคนอย่างโนบิตะจะไม่มีวันทอดทิ้งเพื่อนเด็ดขาด ดังนั้น เขาจึงเลือกข้อ 2 ซึ่งก็คือใช้งานเบรกฉุกเฉิน (จะทำให้ทหาร 2 คนเลือกที่จะโดดหนีลงจากรถรางก่อน)
แต่สุดท้ายเบรกฉุกเฉินก็ไม่สามารถหยุดการวิ่งของรถรางได้อย่างสมบูรณ์ทำให้รถรางพุ่งเข้าชนกับหอนาฬิกาอย่างจัง...ทำให้โนบิตะกับเซย์นะกระโดดลอยออกมาจากรถรางพร้อมกับสลบไป
หลายชั่วโมงต่อมา...
เข้าสู่ช่วงวันใหม่ วันที่ 23 เดือนธันวาคม ปี 2004
ที่หอนาฬิกาช่วงเช้ามืด เวลาตี 5 .. 50 นาที
โนบิตะกับเซย์นะที่กำลังสลบไสลอยู่ที่ทางเข้าหอนาฬิกา ซึ่งร่างของพวกเขากระเด็นออกมาหลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง
โนบิตะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา
"อุ....อูยยยย.... เจ็บๆ"
เขาได้มองออกไปบริเวณรอบข้าง
"ทะ ที่นี่มัน....?"
เขาได้มองเห็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้ ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ตนเองได้มาถึงหอนาฬิกาของเมือง R แล้ว ซึ่งตอนนี้ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่....
ทุกอย่างเป็นไปตามคลิปนี้...โนบิตะรับบทเป็นจิลใน RE3 ที่นั่งรถรางมาจนถึงหอนาฬิกานั่นเอง
สิ่งที่ทำให้เขากังวลในตอนนี้มีเพียงอย่างนึงคือ...บริเวณลานกว้างหน้าหอนาฬิกาที่เขาอยู่นี่มีอีกาเยอะมาก!!!
เขารีบใช้ปืนจัดการอีกาที่บินเข้ามาทางเขาให้หมดก่อนที่จะหันไปสำรวจด้านหลัง ซึ่งเป็นซากรถรางที่มีเพลิงลุกไหม้จากการระเบิดเพราะแรงกระแทกตอนพุ่งชน และใกล้ๆกันนั้นเขาได้พบกับร่างๆหนึ่ง
"คุณเซย์นะ!!!!!!!!!!"
โนบิตะรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเซย์นะทันที ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ฟื้นขึ้นมา... นอกจากบาดแผลเก่าที่เธอมีตามร่างกายแล้ว เธอยังมีรอยบาดแผลเพิ่มจากการกระเด็นตกรถรางลงมาอีก
แต่โชคดีที่บาดแผลกว้างที่ท้องยังไม่เปิดมากนักทำให้โนบิตะรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย
"ยังไงก็เถอะ ถ้าทิ้งไว้ที่นี่คงไม่ปลอดภัยแน่ ต้องรีบพาออกไปจากที่นี่ด่วน"
โนบิตะประเมินสถานการณ์รอบข้างอย่างถี่ถ้วนและพบว่าบริเวณนี้ไม่มีความปลอดภัยแน่ แถมพวกอีกาที่ยังเฝ้าสังเกตการณ์ห่างๆก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยการบินมาบริเวณที่เขากับเซย์นะอยู่แล้ว
"หวังว่าข้างในหอนาฬิกาคงจะมีที่ปลอดภัยนะ!!"
หลังจากพูดจบโนบิตะจึงรีบอุ้มเซย์นะมาไว้ในอ้อมแขนทันที โชคดีที่เซย์นะเป็นคนที่มีน้ำหนักเบามากพอที่โนบิตะจะสามารถยกขึ้นมาได้ (อีกทั้งโนบิตะก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อนด้วย)
ซึ่งในเกมตรงนี้จะมีคำเตือนขึ้นมาว่า ระหว่างที่โนบิตะอุ้มเซย์นะอยู่จะไม่สามารถใช้อาวุธได้ ดังนั้นถ้าเจอศัตรูตามทางก็ให้โกยอย่างเดียว
โนบิตะได้อุ้มเซย์นะที่ยังนอนสลบและบาดเจ็บขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับมองไปยังหอนาฬิกาเพื่อหาทางเข้า
"ต้องรีบแล้ว!! พวกมันมากันเป็นฝูงเลย!!"
หลังจากที่พูดจนจบโนบิจะจึงได้วิ่งหนีฝูงอีกาพร้อมกับอุ้มเซย์นะไปทางประตูหน้าหอนาฬิกาทันที
เขาได้ใช้ตัวเองดันประตูของหอนาฬิกาออกพร้อมวิ่งเข้ามาข้างในส่วนห้องโถงใหญ่ของหอนาฬิกาและพบว่า...
"บ้าเอ้ย!!!! ในนี้ก็มีเหรอเนี่ย!!!!"
แต่ความซวยยังไม่จบ เพราะบริเวณแถวนั้นมีพวกหมัดกลายพันธุ์เดรนดีมอสรออยู่เต็มไปหมด
เขาจึงรีบวิ่ง (โดยที่ยังอุ้มเซย์นะไปด้วย) เข้าไปยังห้องทางด้านซ้ายเพื่อหนีพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้น
เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาข้างในก็พบว่า ห้องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องอาหารของพวกซอมบี้.. เพราะซอมบี้ทุกตัวในห้องกำลังให้ความสนใจกับเนื้อและเครื่องในดิบที่อยู่ข้างหน้าพวกมัน
"ตอนที่พวกมันกำลังสนใจกินอยู่นี่แหละ....ต้องรีบไปโดยด่วน!!"
โนบิตะจึงเดินอุ้มเซย์นะ ลัดเลาะมายังประตูที่อยู่ด้านล่างของห้องเพื่อไปต่อ เพราะห้องนี้อีกสักพักก็คงไม่ปลอดภัยเหมือนกัน
ห้องถัดไปเขาก็พบว่า...
"พวกมันมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย!!!"
โนบิตะจึงรีบวิ่งอุ้มเซย์นะฝ่าฝูงซอมบี้ไปยังประตูอีกฝั่งโดยไว!!!!
และแล้วเขาก็เดินเข้ามาถึงห้องที่อยู่ด้านในสุด....ที่นั่นเขาพบกับคนในชุดทหารยืนหันหลังให้เขาอยู่...
"อ้ะ.....คนๆนั้น....."
โนบิตะจึงเดินเข้าไปหาเขาและก็ต้องดีใจมากเพราะว่าชายคนนั้นคือโอทากะ หนึ่งในทหาร 2 คนที่อยู่บนรถรางด้วยกันนั่นเอง
"อ้ะ เจ้าหนูนี่เอง.... โชคดีจังที่ยังมีชีวิตอยู่"
โอทากะทักโนบิตะอย่างดีใจและตอนนั้นเองเขาได้หันไปมองเห็นร่างของเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของโนบิตะ
"อืม...เด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่สินะ โชคดีจัง... เอาล่ะ!! พาเธอมาไว้ตรงนี้เลย"
แล้วโอทากะกับโนบิตะก็ค่อยๆวางร่างเซย์นะลงบนเวทีด้านหน้า
(ดูๆไปแล้วมันก็คือห้องเดียวกับที่คาร์ลอสวางร่างจิลหลังสู้กับเนเมซิสใน RE3 นั่นแหละ)
หลังจากนั้น โอทากะกับโนบิตะก็ช่วยกันปฐมพยาบาลเซย์นะ พร้อมกับรักษาบาดแผลให้โนบิตะด้วย สักพักแผลของโนบิตะก็เริ่มหายดีเป็นปกติแถมเลือดก็หยุดไหลด้วย
นอกจากนั้นเขายังบอกต่อไปอีกว่า เขากับเพื่อนของเขาอีกคนซึ่งก็คือ โรวฮะพลัดหลงกันตอนที่กระโดดลงมาจากรถราง แต่เขาคิดว่าโรวฮะเองก็คงจะอยู่ภายในหอนาฬิกาใกล้ๆนี้แหละ และฝากให้โนบิตะช่วยตามหาเขาด้วย ควรรีบพาเขาเข้ามารวมกลุ่มด้วยกันจะดีที่สุด ส่วนเรื่องเซย์นะเขาจะเป็นคนดูแลให้เอง
"เข้าใจแล้วครับ...!!"
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!"
และในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเซย์นะ!!
"คุณเซย์นะ!!!!!!!!!!!!"
"เฮ้...เป็นอะไรหรือเปล่า!? ทำใจดีๆไว้นะ!?"
โอทากะรีบตรวจสอบอาการของเซย์นะทันที
"นะ...นี่มันอะไรกันเนี่ย!? ทำไมผิวหนังของเด็กคนนี้ถึงได้ลอกมาแบบนี้ล่ะ!?"
โอทากะรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนร่างกายของเซย์นะ เพราะตอนนี้ผิวหนังของเธอบางส่วนเริ่มหลุดออกมาแล้ว
คล้ายๆกับน้องเรย์จาก Sankarea แบบนี้แหละจ้ะ
"เฮ้ย! อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ! อดทนไว้ก่อน!!"
"อ๊ะ......อ๊าาาา...!!! ไม่ไหว...มัน...คัน......คัน....คันไปหมด....... อุ๊!!"
เซย์นะยังคงพูดละเมอออกมา...แล้วก็เริ่มใช้มือเกาตามส่วนต่างๆของร่างกายแบบไม่มีสติอย่างรุนแรง โอทากะเห็นท่าไม่ดีจึงรีบใช้มือล็อกแขนของเซย์นะทันที...
"คันงั้นเหรอ!? แย่ล่ะสิ ดูเหมือนว่าอาการของเด็กคนนี้จะแย่ลงเรื่อยๆแล้วล่ะ"
"ต้องรีบแล้ว.....ต้องรีบพาเจ้าหมอนั่นมาให้เร็วที่สุด!!"
โอทากะเองก็ดูตื่นตระหนกกับอาการของเซย์นะไม่แพ้กัน
หลังจากนั้นโอทากะจึงหันมาบอกกับโนบิตะว่า..
"แย่แล้วล่ะเจ้าหนู!! รีบไปตามโรวฮะมาด่วนเลย!! เจ้านั่นเชี่ยวชาญด้านการพยาบาลเป็นอย่างดีแถมยาทุกอย่างก็อยู่ที่หมอนั่นด้วย!!"
"ถ้าหากไม่รีบพาหมอนั่นมาล่ะก็ เด็กคนนี้อาจจะเกาจนตายก็ได้นะ!!!"
เพิ่มเติมนิดนึง คนแคสต์เกมเข้าใจทำมากพอถึงบทนี้ พี่ท่านก็อัดคลิปการ์ตูนเรื่องหนึ่งแทรกมาให้ดู...เพื่อบอกว่าการเกาทำให้ตายได้จริงๆนะ..ดูอย่างตาแว่นคนนี้สิ...
"คะ...ครับ!!!!!!!!!"
โนบิตะรีบรับปากอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง
(...อาการคัน...งั้นเหรอ!? ทำไมคุณเซย์นะถึงได้เกิดอาการแบบนี้ได้....?..)
เขากำลังคิดย้อนกลับไปว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เซย์นะเกิดอาการนี้....ก่อนหน้าที่เธอจะบาดเจ็บเธอโดนเจ้าสัตว์ประหลาดใช้กรงเล็บแทงจนเกิดบาดแผล!?? สัตว์ประหลาด!? อาวุธชีวภาพ!? เชื้อไวรัส!?
(.....! ไม่จริงนะ.....คุณเซย์นะ......ไม่จริงใช่ไหม!?...)
ขอสรุปที่โนบิตะได้ตอนนั้นคือ..
เซย์นะติดเชื้อไวรัส!
และตอนนั้นเองโอทากะก็เริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติของเซย์นะอีกอย่าง
(เอ๊ะ..? ดวงตาของเด็กคนนี้...)
( นะนี่มัน...รูม่านตาของเด็กคนนี้เริ่มขยายออก เหมือนดวงตาคนตายของพวกซอมบี้เลยนี่นา...เด็กคนนี้กำลังจะกลายเป็นซอมบี้งั้นเหรอ!?)
โอทากะจึงย้ำกับโนบิตะอีกครั้งว่ารีบไปตามหาโรวฮะด่วนที่สุดเลย!!!
โนบิตะจึงรีบวิ่งออกจากห้องกลับมายังห้องโถงหลักอีกครั้งเพื่อตามหาโรวฮะ
เขาเดินข้ามไปยังอีกฝั่งของห้องโถงที่เต็มไปด้วยเดรนดีมอส
ห้องนี้เป็นห้องพักผู้ดูแล แต่ดูเหมือนว่าจะมีทางเดินไปต่อ เขาจึงเดินลงมาตามทาง
และในที่สุดเขาก็พบตัวโรวฮะภายในห้องนั้น
โนบิตะจึงรีบเดินเข้าไปทักทหารหนุ่มคนนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังอ่านเอกสารอะไรสักอย่างอยู่
"โอ้!!ไอ้หนูเองเหรอ!!? ดีใจจริงๆที่ยังไม่ตายนะ!!! ให้ตายสิ เกลียดพวกซอมบี้ชะมัดเลย!!"
ก่อนที่โนบิตะจะได้เริ่มพูดอะไร โรวฮะก็ยื่นสิ่งที่เขาอ่านให้โนบิตะดูเสียก่อน
"นะ นี่ไงล่ะ...วิธีที่จะช่วยพาพวกเราออกไปจากเมืองบ้านี่!! อ่านซะสิ!!"
โนบิตะจึงอ่านเอกสารที่โรวฮะนำมาให้ มันคือเอกสารแผนการรบที่มีในใน RE3 นั่นเอง
เอกสารแผนการรบ - Operation Instruction
ถึงหน่วย UBCS เอคโค่ทีม
เอคโค่ทีมจะต้องปฏิบัติภารกิจการกวาดล้างเขตเมือง แล้วรีบอพยพชาวเมืองที่ยังมีชีวิตอยู่ไปไว้ภายในหอนาฬิกาซึ่งเป็นเป้าหมายแรก
ในบรรดาชาวเมืองที่ท่านช่วยเหลือมานั้น ถ้าหากผู้ใดเป็นพนักงานของทางอัมเบรล่าควรจะช่วยเหลือพวกเขาก่อน (จะมีรางวัลให้เป็นพิเศษ)
ส่วนเจ้าพวกคนตายแบบเป็นๆ (หรือที่เรียกว่า ซอมบี้หลังจากที่ตายเพราะได้ติดเชื้อ) จะมีความทนทานสูง ฉะนั้นการจะหยุดยั้งพวกมันจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ขอให้ระวังตัวกันอย่างเต็มที่
การถอนกำลังจากเขตปฎิบัติการณ์
1 :ให้ถอนกำลัง เพราะเสร็จสิ้นแผนการ หรือไม่สามารถดำเนินหน้าที่ต่อไปได้
2 :นำเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่จอดรออยู่นอกชานเมือง ไปยังสวนทางด้านหน้าหอนาฬิกา
3 :ใช้เสียงระฆังจากหอนาฬิกาเป็นสัญญาณหลังจากที่ปฏิบัติการตามแผนหลักเสร็จสิ้น หรือไม่ก็ใช้เป็นตัวบอกให้ทุกหน่วยที่กำลังปฏิบัติแผนการอยู่ภายในเมือง ยกเลิกหน้าที่เพราะแผนการล้มเหลว
ซึ่งในเกม RE3 เอกสารมันควรจะจบตั้งแต่บรรทัดที่แล้ว แต่สำหรับเกมนี้ยังมีต่อ เพราะมันเขียนว่า..
ดูเหมือนจะมีข้อความลายมือเขียนต่อที่ด้านล่าง
ทีม C ทีม B และทีม A ปัจจุบันถูกเจ้าพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นจัดการไปหมดแล้วรวมถึงชาวเมืองที่อยู่ในหอนาฬิกาก่อนหน้านั้นด้วย ทุกคนต่างล้มตายกลายเป็นพวกซอมบี้กันหมดแล้ว!! นี่มันสิ้นหวังชัดๆ
ภายในหอนาฬิกานี้เต็มไปด้วยพวกอาวุธชีวภาพบีโอดับเบิ้ลยู (BOW) จำนวนมาก แถมอุปกรณ์ขับเคลื่อนการส่งสัญญาณหอนาฬิกาก็ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีเอาไปซ่อนไว้ด้วย ให้มันได้ยังงี้สิ!!
โนบิตะอ่านข้อความนั้นจบโรวฮะก็ได้บอกกับโนบิตะว่า ดูเหมือนคนที่เขียนข้อความด้านล่างจะเขียนได้เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับสบถออกมาว่านึกว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้ง่ายแท้ๆ พวกเขาจะต้องมาเสี่ยงภัยในที่แบบนี้อีก
แต่สิ่งที่โนบิตะรู้สึกแปลกใจมากที่สุดก็คือ เอกสารนี้เป็นข้อความของอัมเบรล่า...
"อัมเบรล่า!? หรือว่าพวกคุณ......"
แต่ดูเหมือนว่าโรวฮะจะไม่สนใจสิ่งที่โนบิตะพูด เขายังคงพูดออกมา
"ฉันกับโอทากะจะขอสำรวจหาวิธีอื่นในการส่งสัญญาณหอนาฬิกาก่อน ส่วนเธอน่ะไปหาที่ซ่อนตัวรอซะ.."
"เอ่อคือ...เรื่องนั้น"
หลังจากนั้นโนบิตะก็เล่าเรื่องของโอทากะให้ฟัง โรวฮะเมื่อได้ยินเรื่องเขาก็บอกว่า....
"ถ้างั้น เรื่องเด็กคนนั้นฉันจะไปจัดการให้ ส่วนนายน่ะรออยู่เฉยๆ ไว้ เป็นแค่เด็กอย่าทำซ่ากับบริเวณนี้ให้มาก เดี๋ยวได้ตายอีกศพนึงหรอก"
"งั้นขอตัวล่ะ..."
แล้วโรวฮะก็เดินจากไป...โดยทิ้งโนบิตะอยู่เบื้องหลัง
"คนเป็นผู้ใหญ่เขาพูดอะไรกันแบบนี้เหรอ ให้ตายสิ!!!"
แต่โนบิตะไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงได้เก็บกุญแจแห่งหอนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับเริ่มพิสูจน์ตัวเองด้วยการหาวิธีส่งสัญญาณจากหอนาฬิกาเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป...
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 13]
อัพเดตคลิปประกอบบทความ
ท่านอาจจะอยากพักเบรกไปอ่านเนื้อเรื่องของไจแอนท์ต่อได้ที่
แหม โยงไปเรื่อง "ฮิกุราชิ" เฉยเลย 5555+ ก็นะ การเกาอย่างรุนแรงมันทำให้เกิดบาดแผล และถ้ายิ่งเกาไปเรื่อยๆ นอกจากจะมีโอกาสตายเนื่องจากเลือดไหลไม่หยุด ก็อาจจะพ่วงการติดเชื้อได้อีก...
ตอบลบว่าแต่... สรุปนี่เซย์นะไม่สามารถผนวกกับไวรัสได้สินะ อืม... จำได้ว่าไอ้เชื้อจากเจ้าหมานั้น มันใช้ได้ผลเฉพาะหมานี่นา
ตามนั้นเลยค่ะ
ลบส่วนเรื่องฮิกุราชินี่ คนแคสต์เป็นคนเอาคลิปมาอัดคั่นไว้เองค่ะ เราเลยยกมาอธิบายด้วย
โอทากะนี่กับโนบิตะอย่างกับมีแสตนท์เครซี่ไดมอนท์เลยนะแป็บเดียวหายขาดเหมือนใหม่
ตอบลบอ่า ฮะๆๆๆๆ
ลบ