" />

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 7]

ในที่สุดก็มาถึงเนื้อเรื่องส่วนที่ 7 เสียที...ดังนั้นก่อนที่จะมาอ่านบทความตอนนี้ควรจะอ่านตอนที่แล้วมาก่อนให้เรียบร้อยนะ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]

หลังจากที่เขียนเนื้อหาจิตตก(หรือฮา)ในตอนที่แล้ว ทีนี้เรามาต่อเนื้อเรื่องการผจญภัยของโนบิตะกัน...




เนื้อเรื่องส่วนที่ 7 : ผู้ที่ถูกส่งมาช่วยเหลือชาวเมือง

ความเดินตอนที่แล้วโนบิตะได้เก็บสิ่งของที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ซึ่งอาวุธในตัวของโนบิตะตอนนี้มีถึง 3 ชนิด คือ ปืนพก,ปืนลูกซอง และปืนยิงลูกระเบิด (ถ้าในเกมบางครั้งอาจจะเป็นแม็กนั่มหรือปืนกลก็แล้วแต่) และเสบียงสำหรับการรักษาบาดแผลไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิเศษทั้ง 3 สีหรือสเปรย์ปฐมพยาบาล

พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะเอาชีวิตรอดภายในเมือง R ตามลำพังแล้ว...

โนบิตะเดินออกมาจากตัวอาคาร..มาตามทางเดิน และระหว่างทางนั้นก็มีซอมบี้สองตัวกำลังกัดกินศพคนสวมเครื่องแบบที่เต็มไปด้วยเสื้อเกราะและหมวกเหล็กอยู่...ซึ่งเขาคิดว่าคงจะเป็นทหารที่ถูกส่งมากวาดล้างพวกซอมบี้ในเมืองนี้


เมื่อเห็นดังนั้น โนบิตะจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการซอมบี้ทั้ง 2 ตัวนี้ให้เรียบร้อย... เขาจึงหยิบมีดพกบัตเตอร์ฟลายไนฟ์ออกมาจ้วงซอมบี้ตัวแรกก่อนที่จะฟันเข้าไปที่คอซอมบี้ตัวที่สองอย่างแรงจนคอหลุด... ในตอนนี้โนบิตะสามารถใช้อาวุธได้เชี่ยวชาญกว่าแต่ก่อนแล้ว...


 โนบิตะได้ทำการสำรวจร่างของคนที่สวมชุดทหารที่ตาย..ก็ต้องแปลกใจในชุดเครื่องแบบที่ดูเหมือนว่า สัญลักษณ์ด้านหลังของเสื้อนั้นเป็นสัญลักษณ์ของอัมเบรล่า


**อธิบายเพิ่มเติม หน่วยรบพิเศษที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจในที่เมืองนี้คือหน่วยตอบโต้ภัยอันตรายทางชีวภาพหรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า  หน่วยยูบีซีเอส - U.B.C.S. (Umbrella Biohazard Countermeasure Service)  - ซึ่งชุดเครื่องแบบของพวกเขานั้นอาจจะคล้ายกับทหารรับจ้างทั่วๆไป แต่จะมีสัญลักษณ์ของอัมเบรล่าติดอยู่ด้านหลัง (บางครั้งก็มีที่แขนเสื้อ) แต่บางคนอาจจะไม่มีก็ได้...

 "คนพวกนี้...เป็นคนของอัมเบรล่างั้นหรือ?"


หลังจากนั้นโนบิตะก็เห็นว่าที่มือและตามชุดของเขามีกระสุนปืนอยู่เป็นจำนวนมากที่ดูใช้งานได้


เขาจึงหยิบมันขึ้นมา...


หลังจากนั้นโนบิตะจึงเดินฝ่าฝูงซอมบี้ออกมาตามทางเดินเรื่อยๆ ซึ่งเขาคิดว่า ถ้าหากเดินหลบพวกมันได้ก็ควรเลี่ยงดีกว่าเพราะมันจะเปลืองกระสุนเปล่าๆ และเขาไม่รู้เหมือนกันว่าเขาต้องเดินภายในเมืองนี้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้


เขาเดินมาถึงหัวมุมถนนที่มีการก่อสร้างและที่นั่นเขาก็ต้องพบกับศัตรูตัวใหม่!!!


พวกมันคือตัวหมัดกลายพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายกับเบรนซัคเกอร์ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับมันเมื่อ 5 เดือนก่อน แต่เจ้าตัวนี้มีแขนระยางงอกออกมาอีก 2 แขน และมีขนาดตัวใหญ่กว่าเล็กน้อย... พวกมันคือ

"เดรนดีมอส (Drain Deimos)"



 แต่โนบิตะก็ไม่สนใจที่จะสู้กับมันมากนัก เขาจึงเดินหนีขึ้นไปตามเส้นทางด้านบน


ถนนตอนบนนั้นมีซอมบี้เดินอยู่เต็มไปหมด แต่ตัวถนนนั้นมีความกว้างมากพอให้เขาสามารถเดินเลี่ยงพวกมันได้ง่าย โดยเขาตัดสินใจที่จะเดินไปตามถนนเส้นขวาก่อน


เขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงหัวมุมแล้วก็เดินขึ้นไป...


ตามถนนเส้นบนนั้นมีฝูงซอมบี้เป็นจำนวนมาก แต่โนบิตะก็เดินเลี้ยวหลบพวกมันบนถนนกว้างท่ามกลางหิมะได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีสะดุด


แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าปลายถนนสายนี้คือทางตัน แต่เขาสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างตกอยู่ตรงลังกล่องใกล้ๆ มันคือ..ประแจเลื่อนนั่นเอง...

ประแจเลื่อนไอเท็มที่สำคัญใน RE3
 โนบิตะจึงเก็บมันไว้กับตัวก่อนเพราะมีลางว่าในอนาคตอันใกล้เขาอาจจะต้องใช้มัน...


หลังจากนั้นโนบิตะจึงเดินย้อนกลับไปตามเส้นทางถนนเพื่อไปยังอีกด้านหนึ่งซึ่งต้องเดินผ่านประตูลูกกรงเหล็กเข้าไป


เมื่อเดินผ่านประตู เขาพบว่าเส้นทางเบื้องหน้าเป็นถนนแคบๆที่มีขนาดเล็ก หนำซ้ำยังมีพวกสุนัขซอมบี้เคลเบรอสดักอยู่เต็มไปหมด เขาคิดว่าเส้นทางนั้นยาวเกินกว่าที่เขาจะวิ่งหนีพวกมันพ้นแน่ๆ


โนบิตะจึงใช้อาวุธปืนที่มีอยู่ในตัวยิงเข้าใส่พวกมันทั้งหมดจนตายทั้งหมด...และที่ถนนด้านในสุดนั้นดูเหมือนว่า เขาจะได้ยินเสียงร้องของสุนัข....อีกตัว...


"ยังเหลืออีก 1 ตัวงั้นหรือ เข้ามาเลย...."

แต่พอเขาเดินตามถนนไปถึงหัวมุมเลี้ยวเท่านั้นแหละ เจ้าสุนัขที่โนบิตะคิดไว้ก็โผล่มาพอดี...แต่มันดันไม่ใช่เคลเบรอสนี่สิ...เพราะมันคือ...


 "มันยังจะตามมาอีกเหรอเนี่ย!!!"

การต่อสู้ระหว่างโนบิตะกับทินดาลอสจึงได้เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง

(คนแคสต์เกมเลยคอมเม้นแซวไปว่า สงสัยตรงนี้อาจจะมีตัวเลือกให้ก็ได้ระหว่างต่อสู้กับหนี แน่นอนว่า คนแคสต์เลือกที่จะสู้!!!)


 การต่อสู้ครั้งนี้โนบิตะได้เปลี่ยนปืนที่ใช้เป็นเครื่องยิงลูกระเบิดเกรเนดลันเชอร์ที่สร้างความเสียหายได้รุนแรงถึงแม้กระสุนมันจะพุ่งช้าไปบ้าง แต่ว่าในสถานที่แคบแบบนี้มันคงไม่มีที่ให้หลบหลีกมากนัก และการโจมตีในแต่ละครั้งของปืนมันน่าจะสร้างความเสียหายให้กับมันได้มากพอตัว


แล้วก็เป็นไปตามที่โนบิตะคาด ถึงมันจะมีความเร็วในการหลบหลีกกระสุนปืนเช่นเดิม แถมยังสามารถวิ่งไต่ไปตามกำแพงเพื่อจ้องเล่นงานเขาได้ แต่โนบิตะก็สามารถหลบหลีกมันได้อย่างง่ายพร้อมกับสาดกระสุนปืนสวนกลับได้เช่นกัน จนในที่สุด...

ปัง!!!!

กระสุนปืนพกพุ่งเข้าทะลุจุดสำคัญของร่างกายของมันอีกครั้ง...


เมื่อมันรู้ตัวว่าใกล้จะแพ้ มันจึงรีบกระโดดเกาะกำแพงหนีไปได้ โนบิตะลืมคิดถึงจุดนี้ไปเล็กน้อย ถึงกำแพงแคบรอบด้านจะช่วยบีบการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ได้มาก แต่ก็เป็นช่องทางสำหรับหนีได้เช่นกัน และในที่สุดมันก็หนีไปอีกครั้ง...


โนบิตะเดินมาตามเส้นทางเรื่อยๆและรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เขาจึงเดินเข้าไปอยู่ในบ้านพักใกล้ๆ


ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นจุดพักที่ปลอดภัยสำหรับเขา (ซึ่งเป็นห้องเซฟเกม)


คลิปประกอบจนถึงจุดนี้...


ที่บริเวณใกล้กันนั้นมีแบตเตอรี่ขนาดยักษ์วางอยู่..ราวกับมีพรายกระซิบบอกว่า เขาอาจจะต้องใช้มันในอนาคต เขาจึงแบกมันไปด้วย...


หลังจากที่พักเหนื่อยสักครู่หนึ่งแล้วเขาจึงออกเดินทางต่อไปตามถนน

(ขอย้ำอีกครั้งขณะนี้คือเวลากลางคืนของวันที่ 22 เดือนธันวาคม ซึ่งมีเป็นฤดูหนาวและมีหิมะตกหนัก)

จนมาถึงบริเวณลานกว้างของเมืองที่มีซอมบี้เดินอยู่เต็มไปหมด


บริเวณด้านบนสุดของถนนเขาพบว่า บริเวณนี้คือ..ประตูทางเข้าใจกลางเมือง R (R City Hall) นั่นเอง




 และตรงที่อยู่ข้างประตูนั้นเขาพบว่า..มีแท่นรูเสียบกุญแจบางอย่างอยู่...




ซึ่งมันทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่สำรวจสถานตำรวจใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5] ที่เขาพบเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับกุญแจ 2 ดอกที่หายไป ซึ่งเขาได้กุญแจผลึกสีแดงมาดอกนึงจากสถานีตำรวจแล้ว ยิ่งบวกกับข้อมูลของกระดาษที่ถูกแปะไว้ในโกดังที่เขาเคยอยู่ว่ากุญแจสีแดงมีไว้สำหรับเปิดทาง..ทำให้เขารู้ว่ากุญแจดอกนั้นต้องถูกใช้งานที่นี่แน่นอน ว่าแล้วโนบิตะก็ใส่กุญแจสีแดงเข้าไป...




เขาพบว่ามีแสงบางอย่างส่องออกมาจากแผงควบคุมนั้น ทำให้เขารู้ว่าวงจรได้ทำงานแล้ว แต่ว่าประตูก็ยังไม่เปิดออก...
 
"จริงสิ ยังเหลือกุญแจอีกดอกนึงนี่นา...."

จากหลักฐานการขโมยกุญแจเปิดประตูใจกลางเมือง R ในสถานีตำรวจบ่งบอกว่า มันถูกขโมยไป 2 ดอก ดังนั้นเขาต้องหากุญแจอีกดอกนึงให้เจอ...แต่...เขาจะหาที่ไหนล่ะ...

เขาเหลือบมองไปทางด้านขวาก็พบว่า...ตึกบริเวณนั้นมีประตูที่น่าสงสัยเปิดทิ้งไว้อยู่ เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไป แต่ก่อนหน้านั้น เขาก็ต้องใช้ปืนทั้งหมดที่มีอยู่จัดการพวกซอมบี้เสียก่อนเพื่อไม่ให้มันไปรวมตัวขวางทางเขาตอนออกจากตึก...


เขาพบว่าภายในตึกแห่งนี้คือสำนักพิมพ์ประจำเมือง R นั่นเอง (R-Press)



บริเวณด้านในตรงเคาน์เตอร์นั้นมีศพนอนตายอยู่บนโต๊ะและด้านข้างศพนั้นมีข้อความบางอย่างทิ้งไว้...


ข้อความนั้นดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ชายคนที่ตายตรงนี้เขียนบอกไว้ว่าเขาไม่สามารถเปิดชัตเตอร์รักษาความปลอดภัยเพื่อช่วยเหลือหัวหน้าที่ติดอยู่ข้างในได้...ดังนั้นใครก็ได้ที่ได้อ่านข้อความนี้ได้โปรดทำลายชัตเตอร์ทิ้งเพื่อเข้าไปช่วยคนด้านในที



"ดูเหมือนว่าน่าจะมีคนติดอยู่ที่นี่สินะ..."

โนบิตะจึงเดินเข้าไปดูด้านในก็พบกับสวิตช์ชัตเตอร์ ซึ่งดูเหมือนว่า มันน่าจะพังและใช้การไม่ได้แล้ว


ถ้าเป็นใน RE3 มันยังคงใช้ได้อยู่....



 เมื่อเห็นดังนั้นโนบิตะจึงลั่นกระสุนปืนยิงลูกระเบิดใส่เพื่อทำลายมันทิ้งทันที..


โนบิตะพบว่าด้านบนของสำนักพิมพ์นั้นเกิดไฟไหม้ค่อนข้างรุนแรงมากเลยทีเดียว....


แต่เขาก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆจนขึ้นมาถึงชั้น 3 ของอาคารเพื่อตามหาหัวหน้าสำนักพิมพ์ตามที่ชายที่ตายแล้วข้างล่างเขียนไว้แต่ก็ต้องพบว่า...คนๆนั้นได้กลายเป็นศพไปเสียแล้ว

"อ้ะ...ดูเหมือนเขาจะถืออะไรบางอย่างอยู่.."


โนบิตะได้หยิบของที่อยู่ในมือของศพหัวหน้าสำนักพิมพ์ดูก็พบว่ามันเป็นบันทึก...
(เนื้อหาในตัวบันทึกแถบจะเหมือนต้นฉบับเกม RE3 ทุกประการ)

"สมุดบันทึกของนักข่าว...."


ข่าวล่าสุดจากสถานที่เกิดเหตุของ ["โรคกินคน" (ญี่ปุ่นเรียกว่า - 人食い病 - Hito Kui Byou)]  คดีประหลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงนี้มันเหมือนกับมนุษย์กัดกินกันเองจนตาย ไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่อดอยาก โหดร้ายและเป็นบ้า แถมด้วยซากร่างกายที่เหวอะหวะ เหมือนกับเนื้อสัตว์ที่ถูกกินเหลือทิ้งเอาไว้จริงๆ



ระยะหลังๆมานี้ชาวเมืองเริ่มเป็นโรคประหลาดนี้มากขึ้น โดยที่ยังไม่สามารถค้นหาสาเหตุได้ คงต้องลองค้นหาความจริงจากบริเวณนี้ก่อนละ

เพราะเกิด "โรคกินคน" ในเมืองบ่อยครั้งขึ้น จึงมีการประกาศกฏอัยการศึกออกมาตอนนี้ สื่อและข้อมูลทั้งหมดในเมืองนี้จึงถูกควบคุมไว้อย่างเข้มงวด



แต่ผมไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นแน่ เพราะผมไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ ที่ใครจะมาปิดบังอะไรได้ง่ายๆ บางที เจ้าโรคประหลาดที่นี้ อาจจะแพร่ไปทั่วญี่ปุ่นได้เช่นกัน เชื่อว่าต้นเหตุอาจจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่แน่



รอบนอกเมืองถูกหน่วยทหารปิดล้อมเอาไว้ ทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ ชาวเมืองล้มตายกันเป็นจำนวนมาก พวกที่มีชีวิตรอดอยู่เพียงน้อยนิดก็กำลังจะกลายเป็นตัวแพร่เชื้อ ต้องรีบหาทางที่จะระงับการแพร่กระจายนี้ ก่อนที่จะระบาดไปทั่วประเทศให้ได้



มีอยู่เพียงสองทาง ไม่ติดเชื้อก็ต้องถูกกินบ้าชะมัด! ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ผมต้องหาความจริงให้ได้ อย่างน้อยก็รู้ว่าไม่ใช่การติดเชื้อทางอากาศแน่ มันต้องเป็นอะไรบางอย่างที่มาสัมผัสโดยตรง แต่ว่า....


บันทึกจบอยู่เพียงเท่านี้...

และในตอนนั้นโนบิตะก็พบว่าในกระเป๋าของเขามีอะไรบางอย่างซ้อนอยู่...มันคือ...


กุญแจสีเขียวที่เขาตามหาอยู่นั่นเอง!!

ทำหน้าที่เหมือนกับอัญมณีเขียวอีกอันใน RE3



หลังจากที่เขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋า ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีคนๆหนึ่งเปิดประตูเข้ามากะทันหัน!!!


โนบิตะจึงรีบชักปืนขึ้นเตรียมยิงทันที....


"ดะ..เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งยิงนะ ฉันไม่ใช่ซอมบี้!!"


คนๆนั้นรีบพูดออกมาก่อนที่โนบิตะจะลั่นไกใส่เขา... โนบิตะได้สังเกตคนๆนั้นดีๆ

เขาเป็นชายหนุ่มในชุดสีเขียวสวมเสื้อกั๊ก และหมวกเหล็กสีเขียว ไว้ผมสั้นสีน้ำตาล... (หากใครยังจำหน้าปกเปิดเรื่องของภาคนี้ได้ให้ลองสังเกตกลุ่มคนชุดเขียว)


ใช่แล้ว...คนที่โนบิตะเจอ คือคนตรงกลางในกลุ่มนั้น...


"ฉันคือ ผู้พัน ฮารุนะ (榛名 : Haruna) เป็นเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองแห่งนี้!! ใช่ๆพวกฉันมีภารกิจในการช่วยเหลือคนแบบพวกเธอนั่นแหละ!!"


หลังจากที่ชายคนนั้นได้แนะนำตัวเองเรียบร้อยแล้วเขาจึงพูดต่อ..

"ก่อนหน้านั้นฉันได้ทำการสำรวจทั่วอาคารแห่งนี้แล้วดูเหมือนว่า จะไม่มีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่แล้วล่ะ..อันที่จริงแล้วฉันมากับพรรคพวกอีก 2 คนน่ะ แต่ตอนนี้ฉันให้พวกเขาเฝ้าที่มั่นไว้ก่อน"


"ยะ อย่างนั้นเหรอครับ...ค่อยยังชั่วหน่อยที่ได้เจอคนแบบคุณที่นี่.."


"ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ฉันอยากให้เธอไปที่สถานีรถรางไฟฟ้าที่ใจกลางเมืองก่อนกับฉันก่อน.ถ้าเป็นที่นั่นคงจะปลอดภัยสักระยะเพราะพวกของฉันอยู่ที่นั่น.."


แต่ก่อนที่ทั้ง 2 จะพากันออกไปจากตึกแห่งนี้...พวกเขาทั้งคู่ได้ยินเสียงร้องคำรามดังมาจากชั้นล่าง...มันฟังแล้วดูเหมือนเสียงของสุนัขประหลาดกำลังคำราม....


  
"มะ ไม่จริงน่า...!!  เสียงร้องแบบนี้...!!! เจ้านั่นอีกแล้วเหรอ!!!"

 

จากนั้นภาพก็ตัดมายังบริเวณชั้นล่าง มันคือสัตว์ประหลาดจอมตื๊อเจ้าเก่าทินดาลอสนั่นเอง...มันได้ไล่ตามโนบิตะขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว เหลืออีกเพียงชั้นนึงก็จะถึงตัวโนบิตะ..



 โปรดติดตามตอนต่อไป......
>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 8]


=====================================================



ตอนนี้เป็นการเปิดตัวตัวละครใหม่ที่มีบทบาทในภาคนี้...ซึ่งก็คือชายหนุ่มเจ้าหน้าที่หน่วย U.B.C.S. "ผู้พัน ฮารุนะ (榛名 : Haruna)"  นั่นเอง ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยของกลุ่มที่เหลืออยู่เพียง 3 คน เท่านั้น ส่วนอีก 2 คนที่เหลือคงจะได้เจอกันเร็วๆนี้แน่นอน..
 

ผู้พันฮารุนะ (คนกลาง) กับพรรคพวกที่เหลืออีก 2 คน



โดยในตอนนี้จะเห็นได้ว่าท่านผู้พันคนนี้รับบทเป็นคาร์ลอส โอลิเวร่า (Carlos Olivera) ตอนพบกับจิลครั้งแรกที่สำนักพิมพ์ตามคลิปข้างล่างนี้นั่นเอง แถมเจ้าหมาสามหัวทินดาลอสก็ยังคงเล่นบทนักตื๊ออย่างเนเมซิสเช่นเดิม
สรุปคือ...
ผู้พัน ฮารุนะ รับบทเป็น คาร์ลอส โอลิเวร่า
โนบิตะ รับบทเป็น จิล วาเลนไทน์
ทินดาลอส รับบทเป็น เนเมซิส












UPDATE 23/03/2016 
อนึ่งเนื้อหาในโดจินมังกะที่ออกมาทีหลัง พวกฮารุนะไม่ใช่หน่วย U.B.C.S. แต่เป็น พวกจิเอย์ไตหรือที่รู้จักในชื่อ JSDF = กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น




แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 06:50

    เหอๆๆ เนเมซิสช่างตื้อยังไงเจ้าหมาทินดาลอสก็ช่างตื้อแบบนั้นเลยแฮะแบบนี้ผู้หญิงไม่ชอบนะเนี่ย(โนบิตะ - ผู้ชายก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แม้แต่เพศที่ 3 ก็ยังไม่ชอบเลย (ไม่ช่ายแล้ว!!)
      - ก็นะ มันรับบทบาทที่ถอดแบบตามกันมา

      ลบ