" />

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2]

หลังจากที่อ่านจบเนื้อเรื่องส่วนที่ 1 จบแล้ว >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

เราก็มาต่อเนื้อเรื่องส่วนที่ 2 กันเลย...ซึ่งความเดิมตอนที่แล้วคือโนบิตะเลือกที่จะออกไปสำรวจสถานการณ์ข้างนอกโกดังพร้อมกับได้รับมอบหมายให้มุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจเมือง R เพื่อขอความช่วยเหลือ





เนื้อเรื่องส่วนที่ 2 : พบกันโดยบังเอิญ



ถ้าเป็นในเกม...หลังจากจบอีเว้นท์ในโกดังแล้วหากเดินมาสำรวจใบประกาศที่แปะอยู่ใกล้กับทางเดินก่อนถึงทางออกโกดังจะมีคำอธิบายและเลือกโหมดอีกโหมดที่ใช้ในการเล่นเกมได้ ซึ่งก็คือโหมดเล่นแบบง่าย (Easy Mode) ซึ่งจะทำให้ปราบศัตรูได้ง่ายขึ้น (ศัตรูเดินช้าลง โจมตีเบาลง รวมถึงปราบบอสง่ายขึ้น) มีไอเท็มให้เก็บตามทางเยอะขึ้น


นอกจากนั้นไม่พอ ยังมีของแถมสมน้ำหน้าคุณให้ตั้งแต่ตอนนี้ซึ่งได้แก่ สเปรย์พยาบาล 3 กระป๋อง และปืนหนักๆอย่างแอสซัลท์ไรเฟิล (Assult Rifle) พร้อมกับกระสุนอีก 3 แม็กกาซีนให้อีก 1 ชุด


ปืนแอสซัลท์ไรเฟิล ปืนที่ได้มาตอนแรกหากเล่นEasy Mode ซึ่งเหมือนกับ RE3 เด๊ะๆเลย




พร้อมกับตัวเลือกยืนยันว่าอยากจะเล่นโหมดอีซี่ไหม (ถ้าอยากเล่นก็เลือกตัวแรกไป แต่ถ้าไม่ก็เลือกตัวที่ 2) ซึ่งแน่นอนว่าคนแคสต์เกมเขาเลือกอันที่ 2 เพราะเขาบอกว่า "กูไม่ได้นู้บ(มือใหม่)นะว้อยยย"


 นอกจากนั้นยังมีการเข้าไปสำรวจห้องที่อยู่ด้านซ้ายของใบประกาศ





หากลองคุยกับผู้หญิงในห้องเธอจะบอกว่าห้องแห่งนี้คือห้องที่ปลอดภัยที่สุดหรือที่เรียกว่า "เซฟรูม (Safe Room)" [ก็คือห้องเซฟเกมนั่นแหละ] พวกศัตรูจะไม่สามารถเข้ามาในห้องนี้ได้



ถ้าลองคุยกับผู้ชายข้างในเขาจะบอกว่า..คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงข้างหน้าของเขานั้นมีไว้ใช้เซฟเกมเท่านั้น ดังนั้นเราสามารถใช้คอมพิวเตอร์เป็นจุดเซฟเกมได้


บริเวณด้านข้างคอมพิวเตอร์นั้นจะมีขวดสเปรย์พยาบาลอยู่ 1 กระป๋อง อย่าลืมเก็บมันมาก่อนลุยด้วยล่ะ...สุดยอดไอเท็มฟื้นฟูพลังชีวิตที่หาเก็บได้ยากกว่าตะไคร่เขียวมหัศจรรย์ (กรีนเฮิร์บ) เลยนะ



ถ้าคิดว่าตัวเองไม่โปรพอ ก็จงเซฟเกมซะ...


หลังจากที่เซฟเกมเรียบร้อยแล้วก็ออกมาลุยข้างนอกกันได้เลย


เมื่อโนบิตะเดินออกมาข้างนอกโกดังก็พบกับศพซอมบี้ที่ตายแล้ว เขาสำรวจรอบข้างก็พบว่าเขากับคนในโกดังยังโชคดีอยู่ที่พวกซอมบี้กลุ่มใหญ่หลักๆในเมืองยังไม่รู้ตัวและมุ่งหน้ามาทางที่เขาอยู่



โนบิตะจึงออกเดินมาตามซอยเรื่อยๆ ซึ่งเขาพบว่าเวลาตอนนี้เริ่มถึงช่วงเวลาพลบค่ำแล้ว


เขาเดินมาจนถึงปากซอยติดกับถนนและบริเวณรอบด้านนี้มีซอมบี้เต็มไปหมด


โชคดีที่พวกซอมบี้ในบริเวณนี้มีจำนวนไม่มากเท่าไหร่แถมเส้นทางบนถนนก็กว้างพอที่จะทำให้เขาเดินหลบพวกซอมบี้ที่เชื่องช้าพวกนี้ได้ โนบิตะมุ่งหน้าฝ่าฝูงซอมบี้ไปด้วยความเร็วสูงเท่าที่เขาจะทำได้เพราะเป็นการประหยัดกระสุนเพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจะดีกว่า..


หากเป็นเส้นทางแคบที่ต้องปะทะกับซอมบี้...


ก็แค่ล่อให้มันออกมาในบริเวณกว้างก่อนที่จะวิ่งอ้อมหลบไปด้านหลังของมันแล้วไปต่อเท่านั้นเอง


โนบิตะเดินมาตามเส้นทางบนถนนเรื่อยๆ


จนมาถึงย่านร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งมีประตูเปิดอยู่ข้างใน


เขาจึงลองเดินสำรวจเข้าไปข้างในดู


บริเวณด้านในร้านค้านั้นไม่มีคนเหลืออยู่แถมยังมีร่องรอยความเสียหายจากไฟไหม้อีกด้วย เขาคิดอยู่ว่าของบางอย่างในร้านค้าอาจจะจำเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในอนาคตก็ได้


เขาเลยเดินเข้าไปหยิบกล่องบรรจุน้ำมันก๊าดเผื่อเอาไว้ใช้งานบางอย่าง

น้ำมันก๊าดใน RE3 ได้จากตอนที่ไปสำรวจในห้องแห่งหนึ่งในเมือง


เขาเดินกลับออกมาตามถนนพร้อมกับฝ่าฝูงซอมบี้ไปยังอีกฝั่งที่ยังไปได้


เขาเดินมาตามทางเรื่อยๆแล้วก็ได้ยินเสียงปืนแห่งหนึ่งดังขึ้น....พร้อมกับคิดในใจว่า แถวนี้คงจะมีคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย


แต่เขาก็ยังไม่ใส่ใจมากพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ที่มาของเสียงปืนเรื่อยๆ ซึ่งเขาได้ยินว่ามันดังออกมาจากบาร์ที่อยู่ใกล้ๆ

หากเป็นในเกม..ตรงใกล้ๆกับบาร์จะมีสมุนไพรตะไคร่วิเศษสีเขียวกรีนเฮิร์บให้เก็บด้วย



เขาได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากบาร์ขึ้นอีกนัด แต่คราวนี้ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งด้วย และเขาจำเสียงผู้หญิงคนนั้นได้!!

"สะ เสียงกรีดร้องแบบนี้!!  หรือว่า!!?"



โนบิตะไม่รอช้าจึงรีบวิ่งตามไปดูในบาร์ทันทีแต่พบว่าประตูมันล็อกอยู่ แต่ประตูนี้ก็เก่ามากแล้วเขาจึงวิ่งใช้ตัวเองกระแทกประตูจนเปิดออกและข้างในก็เป็นอย่างที่เขาคิด..

เสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยนั้นคือ..เด็กสาวรุ่นพี่ปี 6 สุดป๊อปและมีความสามารถรอบด้าน
"มิโดริคาว่า เซย์นะ" นั่นเอง

เซย์นะกำลังใช้ปืนต่อสู้กับซอมบี้ตัวหนึ่งในบาร์ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้เธอ..





"คุณเซย์นะ!!!"


"ยะ...อย่าเข้ามานะ!!"


เธอยังคงสาดกระสุนปืนพกโจมตีใส่ซอมบี้ตัวนั้นเรื่อยๆ จนกระสุนหมด...

"ยะ แย่แล้ว..."

ซอมบี้ตัวนั้นเข้ามาใกล้กับเธอเร็วกว่าที่เธอจะรีโหลดกระสุนใหม่!!

"คุณเซย์นะ!!!"

โนบิตะใช้จังหวะนี้รีบวิ่งเข้าไปในตำแหน่งที่เขาสามารถเล็งได้ จึงยกปืนพกขึ้นยิงใส่ศีรษะซอมบี้ตัวนั้นได้อย่างแม่นยำทันที...


โนบิตะสามารถช่วยชีวิตเซย์นะไว้ได้อีกครั้ง... (ในเกมถ้าปล่อยให้ซอมบี้กัดเซย์นะได้เกมโอเวอร์สถานเดียว)


หลังจากที่ปราบซอมบี้ตัวนั้นได้เซย์นะจึงได้ฟุ้บนั่งลงด้วยความเหนื่อยล้า

"คุณเซย์นะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?"  โนบิตะรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง



"อือ...ไม่เป็นไรหรอก...ขอบใจมากนะโนบิตะคุง..เธอมาทันเวลาพอดีเลย"


เซย์นะเอ่ยขอบคุณโนบิตะพร้อมกับยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดเลือดของซอมบี้ที่กระเด็นมาใส่เธอ เธอเองก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นโนบิตะยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้เธอจะเคยร่วมผจญภัยพร้อมกับพวกเพื่อนๆของเขามาไม่กี่ครั้งแต่ก็นับได้ว่าเขาเป็นเพื่อนคนสำคัญคนหนึ่ง


โนบิตะนิ่งเงียบพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนเอ่ยพูดออกมา..


"ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในเมืองนี้...มันเหมือนกับว่า..."





"แบบที่เธอคิดนั่นแหละ...โนบิตะคุง..เหมือนกับในเมืองของพวกเราไม่มีผิด"

เซย์นะก็ได้พูดต่อ..เพื่อเน้นย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมืองนี้..

"ฝันร้ายของไบโอฮาซาร์ด (Biohazard)* ได้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว"



**คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำว่าไบโอฮาซาร์ดในโลกจริง (อ้างอิงจากหนังสือพลิกแฟ้มผีชีวะ)


Biohazard - คือชื่อเรียกของสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกากำหนดไว้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะถูกประกาศออกสู่สาธารณะเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งมีชีวิตที่เป็นพาหะที่นำมาซึ่งอันตรายต่อโลกมนุษย์เล็ดรอดหรือแพร่กระจายออกมาสู่โลกภายนอกได้ซึ่งมีความรุนแรงถึง 4 ระดับไล่จากน้อยไปมาก (คงไม่ต้องถามนะว่าในเมืองนี้มันระดับไหน ก็ระดับ 4 ระดับสูงสุดนั่นแหละ)

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Biological hazard


หลังจากนั้นเซย์นะจึงได้เริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังว่าตัวเธอนั้นขณะที่สำรวจอยู่ในเมืองอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงเดินไล่มาตามถนนใหญ่จนถึงบาร์แล้วก็พบว่า พวกซอมบี้เองก็แห่กันเข้ามาตามเสียงนั้นด้วย


โนบิตะเองก็เริ่มนึกถึงพวกตำรวจหนุ่มที่เขาเจอในโกดังนั้นแล้วว่า ถ้าขืนยิงต่อสู้กับพวกซอมบี้ในที่แห่งนั้นมีหวังพวกมันได้แห่กันมาแน่ แถมโกดังนั้นเป็นสถานที่ปิดไม่มีทางหนีทางอื่นด้วย


หลังจากนั้นเซย์นะก็เริ่มพูดประมาณว่าชักเป็นห่วงผู้คนที่ติดอยู่ในเมือง R แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในเพื่อนของเขา ทาเคชิคุงเองก็อยู่ในเมืองแห่งนี้ด้วยเช่นกัน เขาจะเป็นอะไรไหมนะ

ถ้าพูดถึงไจแอนท์...


 โนบิตะสามารถฟันเฟิร์มได้เลยว่า...โอ้ยย ท่าเป็นหมอนั่นล่ะก็..ไม่เป็นไรแน่นอน... ดีไม่ดี เวลาเจ้านั่นอยู่คนเดียวอาจจะเอาตัวรอดได้เก่งกว่าพวกเราซะอีก


นอกจากนั้นโนบิตะยังได้บรรยายสรรพคุณความเถื่อนดิบของอันธพาลจอมโฉดประจำก๊วนของเขาอย่างไจแอนท์ให้ฟัง ว่าหมอนั่นน่ะถ้าคิดจะฆ่าใครสักคนแล้ว ซอมบี้สักสิบตัวคงไม่ครณามือหมอนั่นหรอก

ทำเอาเซย์นะซังเริ่มจินตนาการถึงสภาพทาเคชิคุงตอนแปลงร่างเป็นไอ้จอมโฉดถือไม้หน้าสามพร้อมกับเปล่งรัศมีความเถื่อนออกมาเต็ม MAX พร้อมกับคำพูดลอยขึ้นมาว่า

"ดาหน้ากันเข้ามา!! พ่อจะตีให้หัวแบะเลยคอยดูเซ่!!!"


(หมายเหตุข้างล่างคือภาพไจแอนท์ในจินตนาการของทั้งสองคนนะจ้ะ)

หลังจากนั้นโนบิตะจึงพูดขึ้นมาว่า..ตอนนี้พวกเขาควรจะรวมพลกลับไปรวมกลุ่มกับพวกโดราเอม่อนก่อนจะดีกว่าเพราะสถานการณ์ตอนนี้มันย่ำแย่เกินกว่าที่พวกเขาจะสำรวจไว้แล้ว ดังนั้นเรื่องเอาชีวิตรอดจึงต้องมาก่อน พร้อมกับถามเรื่องมือถือของเซย์นะว่าใช้งานได้ไหม?


เซย์นะบอกว่า ตอนนี้มือถือของเธอเองมันใช้งานไม่ได้เลย พร้อมกับบ่นออกมาว่าไม่รู้เครื่องเป็นอะไร แบตก็ชาร์จเต็มแล้วแท้ๆ โนบิตะจึงกังวลหนักมากขึ้นว่า..ถ้ายังงี้คงยากที่จะติดต่อกับเพื่อนคนอื่นๆแน่ๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นเขาจึงชวนเซย์นะให้เธอร่วมเดินทางไปยังสถานีตำรวจพร้อมกับเขาเลยดีกว่า...


 แต่เซย์นะกลับบอกว่า ตอนนี้เธอขอพักที่นี่สักครู่ก่อน โนบิตะคุงน่ะล่วงหน้าไปก่อนได้เลย แล้วก็ไม่ต้องห่วงเธอหรอก เพราะเธอดูแลตัวเองได้



ถึงแม้ว่าเซย์นะจะมั่นใจเช่นนั้นแต่โนบิตะก็อดเป็นห่วงไม่น้อย เพราะเธอยังดูเหนื่อยๆเพลียๆแถมยังรอดตายมาแบบหวุดหวิดและคงไม่รอดถ้าหากเขามาช่วยเธอช้ากว่านี้ แต่ในเมื่อเธอเป็นคนเอ่ยปากบอกเขาว่าไว้ใจได้ เขาจึงลองเชื่อมั่นในตัวเธอดู และอีกอย่างคือยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่โกดังรอเขาอยู่ เขาจึงแยกกับเซย์นะ..พร้อมกับออกจากบาร์ไป...

ซึ่งสถานการณ์ตรงนี้ใน RE3 คือเหตุการณ์เดียวกับที่จิล วาเลนไทน์ พบกับแบรด วิคเกอร์ (Brad Vicker) เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในหน่วยเดียวกันคนหนึ่งกำลังต่อสู้กับซอมบี้ในบาร์นั่นเอง ดังนั้นจากเนื้อเรื่องข้างบนสรุปได้ว่า..
โนบิตะ รับบท จิล วาเลนไทน์
เซย์นะ รับบท แบรด วิคเกอร์



หลังจากที่จบเหตุการณ์ในตอนนี้ทำให้เซย์นะเริ่มประทับใจในตัวโนบิตะมากที่ได้ช่วยชีวิตเธอไว้อีกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นอีเว้นท์ปัก Flag ได้ดีทีนึงเลยทีเดียว
ทั้ง Love Flag และ Dead Flag ในเวลาเดียวกัน...



จากนั้นในโดจินก็จะมีการฉายภาพไปยังบริเวณหนึ่งของเมือง R ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีเฮลิคอปเตอร์ทิ้งอะไรบางอย่างลงมาในเมืองก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นจะบินหนีไป ชายคนหนึ่งที่มองเห็นเหตุการณ์อยู่จึงได้รีบวิ่งเข้ามาดูสิ่งที่เฮลิคอปเตอร์นั้นทิ้งไว้ และก็ต้องตกใจจนก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นสิ่งนั้น....


"อ่ะ....อะ..."

ชั่วพริบตา...เลือดของชายผู้เคราะห์ร้ายก็สาดกระเซ็นไปทั่ว...

ซึ่งเป็นฝีมือของสัตว์ประหลาดรูปร่างอัปลักษณ์ มันเหมือนสุนัขซอมบี้ แต่กลับมีหัวงอกออกมาถึง 3 หัวและดวงตาผุดออกมากลางหน้าผาก



"กรรรรรรรรรรรรรรรรรร"
 

โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในเนื้อเรื่องส่วนที่ 3 ขึ้นเนื้อหาโดจินมังกะบทที่ 2....
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3]

โดราเอม่อนกับโนบิตะตะลุยโลกไบโอฮาซาร์ด II
บทที่ 2 : ดำดิ่งสู่เหวลึกแห่งความสิ้นหวัง 
(深い絶望 : Fukai Zetsubou no Soko e)



========================================================


 ของแถมท้ายตอนหนึ่งเป็นภาพวาดร่างของตำรวจกับเด็กสาวที่เป็นซอมบี้ที่ตายในช่วงปฐมบท โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [ปฐมบท]

ซึ่งคนเขียนคุณ diodio คาดว่า อยากจะลองวาดฉากตอนที่พี่แกต่อสู้ก่อนตายสักหน่อย...


แล้วก็หน้าต่าง Interface แสดงสถานะของพระเอกพร้อมสรุปเนื้อเรื่องย่อในตอนแรก



แถมท้ายซับนรกตอนนี้ขอเสนอ..

แรงบันดาลใจมันเริ่มขึ้นตอนที่เห็นคอมเม้นคุณ Khen WhiteLight ที่กล่าวไว้ว่า...
"เซย์นะกับโนบิตะบันไซ~!(=..=คุณเซย์นะโชว์หวิวตอนนั่งพักเหนื่อยที่ให้โนบิตะไปสถานีตำรวจ)"
พอเราลองไปมองดูอีกที....เออ....เว้ย..... 
เลยจัดซับพิเศษให้เลย

แสดงความเห็นบน Facebook!

3 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ7 เมษายน 2556 เวลา 02:29

    ยิ่งอ่านยิ่งเริ่มเครียด... TwT (แต่ก็ยังจะอ่านต่อไป 555)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ7 เมษายน 2556 เวลา 11:35

    อืม... หวังว่าคงไม่มีศึกชิงโนบิตะ ระหว่างเซย์นะกับชิซุกะนะ(ฮา)

    ตอบลบ
  3. ต้องรอดูกันต่อไปน่ะนะ =w=

    ตอบลบ