" />

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 5] (เขียนนำโดจินมังกะไปแล้ว)

เนื้อเรื่องในบทความนี้เป็นเนื้อหาเฉพาะในส่วนของเกมที่ดำเนินเรื่องต่อจากบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]

ซึ่งวันที่เราเขียนบทความนี้นั้น ผู้ที่เขียนโดจินมังกะเรื่องนี้ คุณ diodio ยังไม่ได้เขียนตอนล่าสุดออกมา ดังนั้นเนื้อเรื่องในภาคนี้เราจึงเขียนตามเนื้อเรื่องของเกมไปก่อน ซึ่งเอาจริงๆ โดจินมังกะเองก็เขียนตามเนื้อเรื่องของเกมส่วนใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนอะไรก็คงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทางเราก็ยังคงรออัพเดทผลงานโดจินมังกะอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น...ขอเขียนสปอยล์ตามเนื้อเรื่องเกมไปก่อนละกันเนอะ...ยังเหลืออีกหลายภาคแน่ะ กว่าจะจบ.... แถมเรายังสามารถโยงบทสรุปของเกม เข้ากับเนื้อหาของ RE3 ได้อีกด้วย.....

ถ้าหากต้องการอ่านต่อเฉพาะในส่วนของโดจินมังกะที่คุณ diodio วาด เราจะทำการอัพเดทต่อเนื่องเฉพาะในหัวข้อนี้...

>> Update โดจินมังกะของคุณ diodio ที่มาหลังบทความแปล [ภาค 2 ตอนที่ 3]



เนื้อเรื่องส่วนที่ 5 : สำรวจสถานีตำรวจเมือง R


ความเดิมตอนที่แล้ว...หลังจากที่จบเหตุการณ์การต่อสู้กับทินดาลอส อาวุธชีวภาพที่ไล่ล่าพวกโนบิตะที่หน้าสถานีตำรวจ โนบิตะต้องสูญเสียเซย์นะไปในการต่อสู้ครั้งนั้น



โนบิตะจึงต้องมุ่งหน้าเข้าสู่สถานีตำรวจตามลำพัง

สำหรับในเกม หากโนบิตะเลือกที่จะต่อสู้กับทินดาลอสโดยไม่หนีเข้าไปในสถานีตำรวจก่อน ในระหว่างที่ต่อสู้กับทินดาลอสนั้นจะสามารถสำรวจศพของตำรวจที่นอนตายอยู่บริเวณทางเข้าสถานีตำรวจได้ซึ่งจะได้ไอเท็มสำคัญมาซึ่งก็คือ "บัตรประจำตัวตำรวจ" นั่นเอง


ดูแล้วเหมือนกับ RE3 ตอนที่แบรดถูกเนเมซิสฆ่าตายแล้ว จิลเลือกที่จะต่อสู้กับเนเมซิสแล้วได้บัตรประจำตัวของแบรดมาจากศพเลยเนอะ



หลังจากที่โนบิตะเข้าไปยังสถานีตำรวจแล้ว เขาต้องรีบทำหน้าที่ของตัวเองให้เร็วที่สุด ซึ่งก็คือ ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆในสถานี หรือไม่ก็ให้ค้นหาอาวุธและสิ่งจำเป็นในสถานีให้มากที่สุดก่อนที่จะกลับไปช่วยเหลือคนในโกดัง (ถ้าเป็นในโดจินมังกะที่สูญเสียเซย์นะไปเพราะแรงระเบิด โนบิตะจะไม่สามารถออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกได้เพราะไฟลุกท่วมแรงมาก ต้องรอให้ไฟด้านนอกดับหมดซะก่อน)


บริเวณมุมซ้ายสังเกตดีๆจะเห็นว่าจะมีสมุนไพรตะไคร่มหัศจรรย์สีเขียว กรีนเฮิร์บอยู่ ให้เก็บมาด้วย


นอกจากนั้นยังมีเรดเฮิร์บตะไคร่มหัศจรรย์อีกชนิดอยู่อีกด้วย




คนที่เล่น RE จะรู้ดีว่า เรดเฮิร์บนั้นเป็นสมุนไพรที่เคี้ยวโดยตรงไม่มีประโยชน์  ในเกมนี้เองก็เช่นกัน ถ้าหากเลือกกดใช้เรดเฮิร์บ


จะมีคำสั่งของการนำไปผสมกับกรีนเฮิร์บโดยอัตโนมัติ



หากผสมกันแล้วจะได้ผงสมุนไพรผสมซึ่งสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ 100%
 


หลังจากเก็บสมุนไพรแล้ว โนบิตะรู้สึกสงสัยกล่องบนโต๊ะกลางห้องใกล้กับศพตำรวจ เมื่อเขาสำรวจดูก็พบ..กล่องกระสุนปืนลูกซอง..และเมื่อนำมารวมกับปืนลูกซองที่เขาเก็บมาจากเมื่อเนื้อเรื่องตอนที่ 2 แล้ว



 "เท่านี้ก็ใช้ปืนลูกซองได้สักที"

และบริเวณด้านข้างก็มีกระสุนปืนพกอีก 3 แม๊กกาซีน


 ที่ศพตำรวรนั้นยังมีปืนตกอยู่แต่ว่าปืนนั้นตัวลั่นไกหักไม่สามารถใช้งานได้


เป้าหมายต่อไปคือสำรวจศพตำรวจข้างโซฟาและพบว่ามีกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งตกอยู่


หัวกระดาษเขียนว่าใบออกคำสั่ง :


เนื้อหาเอกสารเป็นการกล่าวถึงใบออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายประจำเมือง R [R.P.D. - R-city Police Department] ออกปฏิบัติภารกิจคุ้มกันเมืองทุกนาย หรือเรียกได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายจะมารวมตัวกันทั้งหมด

ลงชื่อ ผู้กำกับ : ชิมาสุ (島津 : Shimazu)




โนบิตะจึงตระหนักว่า...หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ และถ้าเขาไม่พบใครเลย นั่นก็หมายความว่า..ตำรวจทุกนายที่เขาจะมาขอความช่วยเหลือคงจะตายหมดแล้ว....

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคิดจะสำรวจภายในสถานีตำรวจต่อไป ถึงจะไม่เจอตำรวจคนอื่น แต่ก็ขอให้เจอคลังอาวุธก็ยังดี

เขาเดินไปเห็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเปิดอยู่...พอเขาไปสำรวจก็พบว่าที่หน้าจอคอมเครื่องนั้นมันเขียนว่า... "กรุณาแสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่"

**ตรงนี้ถ้าหากว่าโนบิตะไม่ได้เก็บบัตรมาจากศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้านนอก ก็จะต้องเข้าไปสำรวจศพที่มีบัตรในสถานีตำรวจด้านในเพื่อไปหยิบบัตรมา เพราะว่าตอนนี้โนบิตะไม่สามารถออกไปข้างนอกสถานีตำรวจข้างนอกได้**


โนบิตะจึงเอาบัตรตำรวจที่เขาเก็บได้จากข้างนอกสแกนเข้าไป


เหมือนกับแม่นางจิลใน RE3 ใส่บัตรตำรวจประจำหน่วย S.T.A.R.S. (ที่ได้จากศพแบรด) เข้าไป



ตื้ด....บัตรผ่านยืนยัน ระบบทำการปลดล็อกห้องผู้ต้องขังบนชั้น 2 ซึ่งโนบิตะเองก็สงสัยมากว่าที่นั่นมีอะไรกันแน่? ทำไมต้องเป็นห้องนั้น...


ส่วนคอมพิวเตอร์ข้างหน้าคือคอมพิวเตอร์สำหรับเซฟเกม..


โนบิตะพบว่ามีเพียงประตูบานเดียวเท่านั้นที่สามารถเดินทางไปต่อได้...เขาจึงเดินเข้าไป


ห้องที่เขาเดินเข้าไปนั้นเป็นห้องธุรการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพบว่าบริเวณนี้มีพวกซอมบี้เต็มไปหมด




บรรยากาศน่าจะประมาณ RE3 แบบนี้น่ะนะ


ในห้องนี้น่าจะมีเอกสารข้อมูลบางอย่างที่สำคัญแน่ๆและควรค่าแก่การสำรวจ โนบิตะคิดเช่นนั้นจึงลงมือจัดการพวกซอมบี้ที่อยู่ใกล้เคียงด้วยมีดและปืนที่เขามีอยู่


แถมที่ด้านในห้องเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็มีกระสุนปืนพกกับกรีนเฮิร์บให้เก็บด้วย


ดูเหมือนว่าบริเวณใกล้เคียงห้องด้านในจะมีศพเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกำเอกสารบางอย่างไว้


ตำแหน่งนี้ใน RE3 ก็คือศพของนายตำรวจ "มาร์วิน บราเนอร์ (Marvin Branagh)" นั่นเอง แถมเอกสารรายงานที่เขียนไว้ยังคล้ายกับเอกสารรายงานของมาร์วินอีกต่างหาก แต่เปลี่ยนชื่อและวันที่บางอย่าง


บันทึกรายงานของมาซาโตะ (真敏 - Masato)


วันที่ 20 ธันวาคม ตอนเช้ามืดของวันนี้ได้เกิดการปล้นที่ว่าศาลากลางเมือง ซึ่งสิ่งของที่ถูกขโมยไปนั้นคือกุญแจฝังอัญมณีจำนวน 2 ดอกจากทั้งหมด 12 ดอกที่ต้องถูกนำไปใช้งานในการเปิดประตูย่านใจกลางเมือง แต่ตอนนี้สถานการณ์ในเมือง R วุ่นวายมากจึงทำการหยุดพักการสอบสวนไว้ก่อน


เช้าวันถัดมาเวลา 10 นาฬิกาได้มีการจับกุมของชายวัย 22 ปี (ไม่ทราบอาชีพ) ที่ได้หนีเข้ามาในสถานีตำรวจ และได้มีการตรวจพบว่าชายคนนี้เป็นคนที่ขโมยกุญแจ 1 ในสองดอกที่หายไปเมื่อวานจึงได้ทำการจับกุมไว้ในห้องขังที่ชั้น 2 ก่อน


แต่ยังไม่ทันทีจะได้จัดการเรื่องของชายคนนั้นให้เรียบร้อย พวกซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกก็ได้บุกเข้ามาจึงได้ทำการยกเลิกการสอบสวนทั้งหมด และทำการปิดล็อกสถานที่ที่สำคัญไว้หลายจุดไว้เพื่อทำการตั้งรับพวกศัตรูที่บุกเข้ามา หลังจากที่จัดการเรื่องเบื้องหน้าเสร็จแล้วจะรีบทำการดำเนินการสอบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับกุญแจที่หายไปอีก 1 ดอกในทันที

ลงชื่อ : มาซาโตะ


โนบิตะจึงเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่อยู่ในห้องผู้ต้องขังนั้นคืออะไร...มันคือ...กุญแจ 1 ใน 12 ดอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้เปิดประตูเมืองนั่นเอง

หลังจากที่เขาอ่านเอกสารจนจบเขาจึงเดินทางไปยังห้องที่ว่า...


เขาต้องเดินผ่านห้องล็อคเกอร์ที่มีฝูงซอมบี้จำนวนหนึ่ง


บรรยากาศประมาณนี้





โนบิตะจึงจัดการพวกซอมบี้ในห้องแคบๆ ก่อนที่จะเดินไปยังประตูถัดไป



บริเวณนี้เป็นทางเดินที่มีบันได้ที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะสำรวจศพตำรวจเพื่อเก็บกระสุนปืนพกด้วย


เขาเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆจนถึงหน้าบันได


เขาเดินมาจนถึงห้องที่มีป้ายเขียนไว้ว่าคลังอาวุธ แต่ดูเหมือนว่ามันจะล็อกอย่างแน่นหนามาก และประตูก็ถูกสร้างมาเพื่อป้องกันแรงกระแทกด้วย เขาคิดว่าคงจะมีกุญแจอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพราะประตูนี้ไม่ได้ถูกล็อกด้วยระบบไฟฟ้า


เมื่อไม่มีอะไรเพิ่มเติมเขาจึงเดินขึ้นไปสำรวจบนชั้น 2


บนทางเดินชั้น 2 มีซอมบี้ถึง 3 ตัว


แต่โนบิตะก็ได้ใช้ความสามารถส่วนบุคคลในการจัดการซอมบี้ทั้ง 3 ตัวจนหมดด้วยอาวุธที่มีอยู่



ตามทางเดินเขาก็พบกับศพตำรวจไปเป็นระยะๆ และดูเหมือนว่าศพที่อยู่ใกล้ประตูไม้นั้นถือบันทึกอะไรบางอย่างไว้ในมือ


เนื้อหาในตัวบันทึกนั้นเหมือนกับบันทึกของเดวิด (David's Memo) ใน RE3 แทบทุกอย่างเลย..แต่เปลี่ยนเนื้อหาบางส่วน

บันทึกของซาซากิ (佐々木 - Sasaki)


นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย..
การต่อสู้เมื่อเย็นวานนี้ก็มีคนตายอีกแล้ว ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่กับการบุกโจมตีของไอ้พวกซอมบี้ ก็ได้ท่านผู้กองแผนกฆาตกรรมสุดเก่งช่วยเอาไว้ แต่ผมกลับวิ่งหนีเอาตัวรอดทอดทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง เขาร้องเรียกชื่อผม แต่ผมกลัวเกินที่จะหันกลับไป ผมได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเขา ผมตกใจและหวาดกลัวมากในตอนนั้น

ตกเย็นวันนี้กำแพงกั้นได้ถูกพวกซอมบี้จำนวนมากทำลายลง ในขณะที่ผมกำลังเสพแอลเอสดี* อยู่ (ถ้าเป็นต้นฉบับจะเป็นดื่มวิสกี้) ผมจึงต้องหยิบปืนลูกซองกระหน่ำยิงไอ้เจ้าพวกบ้านั่นจนพรุนไปหมด ผมโห่ร้องด้วความดีใจทุกครั้งที่มันได้ผล ผมคงไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้ว

 *แอลเอสดี (อังกฤษ: Lysergic acid diethylamide - LSD) อาจเรียกว่า แอซิด เป็นสารเสพติดที่สกัดได้จากเชื้อราที่อยู่บนข้าวไรย์ เป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรงที่สุด ผู้เสพนิยมเรียกว่า กระดาษเมา กระดาษมหัศจรรย์ หรือ สแตมป์มรณะ

แต่พวกมันมีมากมายและคงอยากจะได้ผมเป็นพวกด้วย ผมยังสังเกตเห็นตำรวจหลายคนที่รวมอยู่กับไอ้ซอมบี้พวกนั้นน่าสมเพชเหลือเกิน เหมือนจะเป็นการจัดงานปาร์ตี้ก่อนตายจริงๆ


เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของผมตอนนี้เหลืออยู่เพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งใกล้จะย่ำแย่เต็มทีแล้ว พวกคนที่เหลือก็ตายกันหมด ตอนนี้ขอเสพ LSD ให้สบายใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนละกันไหนๆก็จะตายกันหมดแล้ว


จบบันทึกของซาซากิ ..... ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าที่สถานีตำรวจแห่งนี้คงไม่มีคนเหลืออยู่แล้ว  โนบิจะจึงเดินทางไปต่อและพบกับประตูไม้กั้นข้างหน้า ดูเหมือนว่ามันจะถูกคล้องด้วยโซ่เหล็กอยู่


แต่เขาน่าจะพังมันได้ จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงโซ่จนขาดแล้วเดินเข้าไป


ภายในทางเดินชั้นในก็มีซอมบี้อีกจำนวนหนึ่ง แต่โนบิตะก็สามารถเอาตัวรอดได้อย่างง่ายดาย


 และห้องเดียวที่เขาเห็นตรงทางเดินนี้คือ...ห้องผู้ต้องขังที่ล็อกด้วยระบบไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาได้ใช้บัตรตำรวจในการปลดล็อกมันแล้ว


แต่ถ้าเป็นในกรณีที่ไม่ได้เก็บบัตรตำรวจมาก่อนที่จะเข้าสถานี ประตูห้องขังจะถูกล็อกอยู่ ซึ่งถ้าเดินเลยไปข้างบนหน่อย จะพบกับศพตำรวจที่มีบัตรประจำตัวอยู่ ซึ่งต้องเดินกลับไปปลดล็อกที่คอมพิวเตอร์ห้องโถงหลักใหม่



ที่ห้องผู้ต้องขัง...โนบิตะพบว่านักโทษบางคนได้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว แต่โชคดีที่พวกมันอยู่อีกฝั่งของลูกกรง


โนบิตะจึงเดินเข้าไปด้านในส่วนลึกก็พบกับศพชายนิรนามไร้หัวศพหนึ่ง

"อุ๊บ!!!...."

กลิ่นคาวเลือดอย่างแรงลอยเข้าใส่จมูกเขาจนรู้สึกแทบอ๊วก

"กลิ่นเลือด แรงมาก..."


และตอนนั้นเองที่โนบิตะสังเกตเห็นว่า ในกองเลือดที่แดงฉานนั้นมีบางอย่างส่องประกายอยู่

"..? อะไรส่องแสงอยู่น่ะ"


"มีอะไรอยู่ในกองเลือดด้วย"


โนบิตะได้หยิบสิ่งที่อยู่ในกองเลือดขึ้นมาซึ่งก็คือ...

"กุญแจสีแดง...."  

ใช่แล้วกุญแจสีแดงต้องเป็นกุญแจ 1 ใน 12 ดอกที่ใช้เปิดประตูใจกลางเมืองตามรายงานของตำรวจที่เขาพบแน่ๆ

ซึ่งกุญแจสีแดงดอกนี้เปรียบเสมือนผลึกอัญมณีสีฟ้า 1 ใน 12 ผลึกจากหน้าปัดนาฬิกาประตูใจกลางเมืองแรคคูนซิตี้ที่ถูกพบในสถานีตำรวจของเกม RE3 นั่นเอง


 หลังจากที่เก็บกุญแจเสร็จ โนบิตะได้หันมองออกไปทางหน้าต่างนักโทษที่ติดลูกกรงในห้องขังนั้น เขาพบว่าตอนนี้ท้องฟ้าได้มืดครึ้มแล้ว แถมหิมะก็ยังตกลงมาอีก...อากาศข้างนอกก็คงจะหนาวขึ้น เพราะที่นี่คือวันที่ 22 ธันวาคม ซึ่งก็เป็นช่วงปลายปีก่อนถึงวันคริสมาสต์

"อา....มืดแล้วเหรอเนี่ย..."


"ทุกคนที่อยู่ในโกดังจะเป็นยังไงบ้างนะ...?  หวังว่าคงจะปลอดกันดีนะ?"


ตอนนี้โนบิตะคิดว่าเขาเสียเวลาสำรวจในสถานที่แห่งนี้มามากพอแล้ว แถมคลังอาวุธก็ถูกปิดล็อกด้วยกุญแจที่หายไปไหนไม่รู้อีก แต่อย่างน้อยเขาก็ได้กระสุนปืนพกกับกระสุนปืนลูกซองมาพอสมควรคิดว่าคงพอใช้กันแทนได้บ้าง...และที่สำคัญ....

"คุณเซย์นะ..."

 ตอนนี้เขาคิดไว้แล้วว่า สถานการณ์ที่อยู่ด้านหน้าสถานีตำรวจน่าจะสงบลงบ้างแล้ว มันถึงเวลาที่เขาจะต้องรีบไปดูเซย์นะสักที..ถึงแม้ว่าเขาก็ทำใจเผื่อไว้แล้วว่า เธออาจจะไม่รอดแล้วก็ตาม...



โนบิตะจึงเดินลงบันไดกลับมายังชั้นแรกเพื่อที่จะกลับออกไปข้างนอก แต่ทว่า....


เพล้ง!!!!!!!



"ไม่จริงน่า....เจ้านี่มัน...."


เจ้าสัตว์ประหลาดหมาสามหัวทินดาลอสที่เคยต่อสู้กับพวกโนบิตะที่หน้าสถานีตำรวจเจ้าเก่าก็ได้บุกพังหน้าต่างเข้ามา


ทำตัวยังกะเนเมซิสตามล่าครั้งที่ 2 ใน RE3 แน่ะ!! แต่ว่าเนเมซิสมันถือบาซูก้ามาด้วย..ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าในโดจินมังกะของคุณ diodio จะเขียนความสามารถพิเศษให้เจ้าทินดาลอสเพิ่มตามอย่างเช่น พ่นระเบิดไฟออกจากมาก เหมือนกับเนเมซิสที่ยิงบาซูก้าได้หรือเปล่าอันนี้ต้องรอติดตามในมังกะต่อไปนะ...



การต่อสู้ระหว่างทินดาลอสกับโนบิตะครั้งที่ 2 จึงได้เริ่มตึ้นขึ้น...


โนบิตะถอยหลังกลับไปตั้งหลักพร้อมกับยิงกระสุนปืนพกใส่มัน


แต่มันก็หลบได้ ทำให้กระสุนถูกยิงแค่เฉียดจุดสำคัญเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าท่าทางของมันจะหลบกระสุนได้ไม่ดีเท่าเดิมอาจจะเป็นเพราะว่าสถานที่ต่อสู้มันแคบลงทำให้มันหลบการโจมตีได้ยากขึ้น


โนบิตะกระโดดหลบไปข้างหลังมันพร้อมกับกระหน่ำปืนพกอย่างต่อเนื่อง


มันจึงต้องกระโดดหลบเข้าไปอยู่ในมุมโต๊ะ


ซึ่งจังหวะนั้นเองโนบิตะได้ทำการเปลี่ยนอาวุธใหม่เป็นปืนลูกซอง ช็อตกัน!!!


"ถ้าหลบอยู่ในมุมนั้นล่ะก็ แกเสร็จฉันแน่!!!"





ปัง!!!!!



กระสุนปืนลูกซองยิงสาดกระจายออกเป็นรูปพัดพุ่งเข้าใส่เป้าหมายที่กระจายอยู่รอบด้าน ถึงแม้ว่าปากกระบอกปืนจะไม่ได้หันไปทางเป้าหมายตรงๆแต่ก็ทำให้เจ้าทินดาลอสที่ติดอยู่ข้างโต๊ะโดนกระสุนปืนลูกซองเช่นกัน แถมตำแหน่งนั้นก็ไม่มีที่หลบไปต่อด้วยดังนั้นมันจึงรับลูกกระสุนไปเต็มๆ


ในเกมจัดว่าเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งคือ ยิงปืนพกให้ทินดาลอสหลบเข้าไปติดโต๊ะแล้วเดินเข้าไปด้านในทำให้มันเดินต่อมาหาเราไม่ได้ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นลูกซองยิงกระจายที่มีผลสร้างความเสียหายรอบข้างด้วยทำให้สามารถปราบมันได้ง่ายขึ้น 



ช่างเป็นเทคนิคเดียวกับในการต่อสู้กับเนเมซิสครั้งที่ 2 ใน RE3 ตามคลิปนี้จริงๆ ที่ล่อเนเมซิสไปติดตู้แล้วหรอยฟรี



หลังจากที่มันถูกโนบิตะยัดลูกปืนใส่มากๆเข้า มันจึงบาดเจ็บสาหัสและหนีถอยกลับไปตั้งหลัก...



"เฮ้อ เกือบไปแล้ว...."


ก่อนที่จะออกไปข้างนอกโนบิตะสังเกตเห็นแสงบางอย่างบนโต๊ะใต้หน้าต่างที่เจ้าทินดาลอสบุกเข้ามา ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะคาบอะไรบางอย่างเข้ามาตอนที่พังหน้าต่างเข้ามาด้วยแล้วปล่อยออกมาก่อนที่จะสู้กับโนบิตะ

โนบิตะสังเกตเห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นคือ..."กุญแจที่มีตราสัญลักษณ์ตำรวจ"

กุญแจตราตำรวจสำหรับไขเข้าห้องที่ทำการของหน่วย S.T.A.R.S. ใน RE3

เขาคิดว่าบางทีกุญแจนี่อาจจะเป็นกุญแจที่ใช้เปิดคลังอาวุธก็ได้...


"อ้ะ!! มีของบางอย่างตกอยู่ใต้โต๊ะด้วย"

นอกจากกุญแจแล้วโนบิตะก็เห็นว่ามีชิ้นอะไรบางอย่างอยู่ใต้โต๊ะ แสดงว่าเจ้านั่นไม่ได้คาบกุญแจมาอย่างเดียว แต่มันยังคาบ...



ชิ้นส่วนคนที่ถือกุญแจติดมาด้วย....


"...................."

หลายนาทีผ่านไปหลังจากตั้งสติได้.....

"ไอ้ของแบบนี้ไม่จำเป็นสักหน่อย...."


แล้วโนบิตะก็โยนมือของใครก็ไม่รู้ทิ้งไป...

โนบิตะจึงลองเอากุญแจที่ได้มาไปไขห้องคลังอาวุธดูปรากฏว่า...


แกร๊ก!!!!!!  มันไขได้พอดี!!!

"เอาล่ะ...หวังว่าคงจะมีของดีๆเหลืออยู่บ้างนะ..."


เมื่อเข้าไปข้างในห้องนั้นได้ เขาจึงเลือกเดินเข้าไปดูล็อคเกอร์สีเทาด้านในสุด...เมื่อเปิดดูเขาก็พบกับกล่องใบใหญ่หนึ่งกล่อง


ซึ่งมันเป็นกล่องสุ่มอาวุธปืนนั่นเอง...แบบเดียวกับล็อคเกอร์ในห้องทำงานเกม RE3 เป๊ะเลย


**อาวุธที่ได้จากตรงนี้จะสุ่ม 2 แบบ...เหมือนกับเกม RE3 ซึ่งก็คือ
1) ปืนพกแม๊กนั่ม (โคลท์ไพธ่อน) : ปืนพกพลังมหากาฬสะใจวัยโจ๋
2) ปืนยิงลูกระเบิด (เกรเนดลันเชอร์) : ใส่กระสุนหลากหลายยิงใส่ตูมตาม


ซึ่งในเกมของคนที่แคสต์นี้เขาได้ปืนยิงลูกระเบิดเกรเนดลันเชอร์มาใช้

[ในโดจินมังกะยังไม่เปิดเผย แต่เราเดาไว้ว่ามันน่าจะเป็นโคลท์ไพธ่อน ปืนที่โนบิตะเคยใช้มาก่อนในภาค 1 มากกว่า]



หลังจากนั้นโนบิตะจึงสำรวจตามตู้ล็อคเกอร์ที่เหลืออื่นๆก็พบกับกระสุนอีกจำนวนมาก เขาคิดว่ามันมากพอที่จะใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวแล้ว ตอนนี้เขาคงจะได้ของฝากกลับไปหาเหล่าผู้คนในโกดังเสียที


โนบิตะจึงได้ขนอาวุธทั้งหมดที่มีในตัว (ทั้งปืนพก,ปืนลูกซอง,ปืนยิงลูกระเบิด และกระสุนจำนวนมาก) พร้อมกับเดินกลับออกมายังทางเข้าสถานีตำรวจ


เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู...แต่อีกใจหนึ่งก็ลังเล...

เขากลัวที่จะเห็นบางสิ่งที่อยู่เบื้องหลังประตูอย่างนั้นเหรอ?

......

"คุณเซย์นะ....."


เขาไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้เจอกับคุณเซย์นะอีกครั้งในสภาพไหน...... เธออาจจะกลายเป็นศพ หรือเป็นซอมบี้ หรือร่างเละจนแหลกละเอียดไปแล้ว....


แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องไป...


โนบิตะจึงได้เปิดประตูออกมาข้างนอกสถานีตำรวจ ข้างนอกนั้นหิมะตกหนักมากและอากาศเริ่มเย็นลง ที่นั่นไม่มีไฟไหม้อีกแล้ว


ที่ข้างนอกนั่นเขาต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า.....เพราะภาพเบื้องหน้าเป็นภาพที่เขาคิดไม่ถึง...


















ที่ตรงนั้นกลับไม่มีร่างของเด็กสาวที่ชื่อเซย์นะอีกต่อไป???





โปรดติดตามตอนต่อไป......

>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 2 [เนื้อเรื่องส่วนที่ 6]

คลิปสรุปเนื้อเรื่องตอนนี้




==========================================================


ตอนนี้รบกวนทุกคนช่วยคอมเม้นตรงที่เนื้อหาเล็กน้อยเพราะเนื้อหาหลังจากนี้...จะเป็นส่วนที่เราเขียนโดยเทียบเคียงกับเกมไม่มีโดจินมังกะของคุณโดจินประกอบรายละเอียดบางส่วน เลยไม่รู้ว่าชอบให้เขียนแบบนี้ไหม (แบบเทียบข้อมูลของ RE3 ไปด้วย)

ส่วนเรื่องปมปริศนาสุดท้ายทางเราจะไม่ขอตอบคำถามในทุกกรณีนะจ้ะ (และก็จะตามลบสปอยล์ความเห็นของบางคนที่รู้แค่ผลลัพธ์ในระดับนึงด้วย)

แสดงความเห็นบน Facebook!

4 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ10 เมษายน 2556 เวลา 09:47

    ตามรูปการณ์ที่ผมคิด เธอน่าจะติดเชื้อ หรือว่า.... O_o!!

    ตอบลบ
  2. ก็นะ รอดูในบทต่อๆไป เดี๋ยวจะได้เจอพวกคาลอสแล้วล่ะ...

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 06:39

    แล้วที่บรรยายว่ามันเคี้ยวร่างเซย์นะวะสยองนั้นมันใครกันละนั้น(หรือโนบิตะคิดไปเอง)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อันนั้นกรณีเลือกหนีเข้าไปแบบไม่สมกับเป็นพระเอกอ่ะจ้ะ ในเนื้อเรื่องเกมนี้มันมีหลายรูท... ซึ่งเราคิดว่า ถ้าเป็นตัวมังกะจริงๆคงไม่เลือกรูท Bad End แบบนั้น แต่เรายกมาให้ดูเฉยๆว่าถ้าเลือกอันนั้นแล้วจะเป็นยังไง

      ลบ