" />

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11]

แน่นอนว่าขึ้นเนื้อเรื่องส่วนที่ 11 ต้องเคยอ่านเนื้องส่วนที่ 10 มาก่อน
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 10]

มุ่งหน้าสู่ทางลับชั้นใต้ดิน


ความเดิมตอนที่แล้ว เซย์นะกับเคนจิได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจนกระสุนหมด เธอจึงต้องหาอาวุธป้องกันตัวจากสัตว์ประหลาดอีกตัวที่บุกเข้ามา ซึ่งเหลือเพียงแค่มีดเล่มเดียวเท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง เจ้าสัตว์ประหลาดก็ถูกใครบางคนยิงใส่หัวและหน้าท้องพร้อมกัน





คนที่เข้ามาช่วยเซย์นะไว้ก็คือไจแอนท์กับซูเนโอะ พวกเขาต่างปรากฏตัวพร้อมกับอาวุธที่รุนแรงทั้งคู่ ไจแอนท์ใช้ปืนลูกซอง ส่วนซูเนโอะใช้ปืนไรเฟิล** ซึ่งพวกเขาได้มันจากการที่พบคลังอาวุธในบ้างพักโดยบังเอิญนั่นเอง

**อันที่จริง ปืนไรเฟิลของซูเนโอะนั้นเขาได้มาตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาในโรงเรียนแล้ว ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคซูเนโอะ



"ทะ...ทาเคชิคุง  ซูเนโอะคุง"  เซย์นะเอ่ยชื่อทั้งคู่

"ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะต้องมาเจอสภาพนี้"

ในตอนนั้นเองที่เซย์นะได้ร้องเตือนไจแอนท์ว่า ระวังเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ให้ดี ถ้าหากสมองของมันยังไม่ถูกทำลายมันจะฟื้นฟูบาดแผลตัวเองได้เรื่อยๆ ไจแอนท์จึงได้มองเห็นสิ่งที่เซย์นะพูดถึง คือการที่บาดแผลของมันกำลังสมานจนหายเป็นปกติ



ไม่กี่วินาทีต่อมา สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างสมบูรณ์  ซูเนโอะและไจแอนท์ต่างก็อดทึ่งในความสามารถของมันไม่ได้ ซูเนโอะเริ่มที่จะลังเลว่าตัวเองจะจัดการเจ้านี่ได้หรือไม่ ไจแอนท์จึงได้บุกตะลุยเข้าไปซึ่งๆหน้า พร้อมกับฝากบอกให้ซูเนโอะยิงคุ้มกันเขาจากระยะไกลด้วย ซูเนโอะจึงได้แต่ทำตามสิ่งที่ไจแอนท์บอก


กระสุนที่ซูเนโอะยิงไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้มันได้มาก และก่อนที่ไจแอนท์จะถึงตัวมัน มันก็ได้ฟาดแขนหมายจะใช้เล็บโจมตีไจแอนท์ แต่ทว่า ซูเนโอะก็ยิงเข้าใส่ที่แขนไว้จนมันเกร็งไปชั่วครู่

"ยิงได้สวย ซูเนโอะ"


ไจแอนท์วิ่งเข้าไประยะประชิดพร้อมกับส่องปากกระบอกปืนไว้ข้างหน้ามัน

"ปืนลูกซองน่ะถึงจะโจมตีได้รุนแรงมาก แต่มีข้อเสียอยู่ตรงที่ไม่สามารถยิงในระยะไกลได้อย่างแม่นยำแถมกระสุนยังกระจายออกไปมั่วอีก แต่ว่า...ถ้าหากใช้มันโจมตีในระยะประชิดล่ะก็...ตอนนี้แหละ!!"

 


 ปัง!!

ปืนลูกซองของไจแอนท์ยิงเข้าใส่หัวของสัตว์ประหลาดในระยะประชิดจนเกิดพลังทำลายล้างที่น่ากลัวถึงกับทำให้หัวของสัตว์ประหลาดทั้งหัวกระจุยหายไป.oการโจมตีเพียงครั้งเดียว!!!  เซย์นะได้เห็นดังนั้นก็อดทึ่งในความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาและปืนที่พวกเขาใช้ไม่ได้ มันช่างมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงจริงๆ

 

หลังจากที่ปราบสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ ไจแอนท์จึงโทรเรียกพวกโนบิตะที่ยังพักอยู่ในห้องพักตามมาสมทบทั้งหมดยกเว้นชิรามิเนะคนเดียวที่ยังเดินสำรวจบ้านพักอยู่ แต่ก็แจ้งข่าวให้เขารับทราบแล้วเช่นกัน

(อันที่จริงอยากจะบอกว่า เพราะชิรามิเนะไม่มีตัวตนในโดจินมากกว่า - -)

เมื่อทุกคนมาถึง ชิสุกะจึงรับหน้าที่เข้าไปปฐมพยาบาลบาดแผลให้เคนจิ


"แบบนี้..เป็นไรหรือเปล่า"


ชิสุกะที่พันผ้าพันแผลอยู่ได้เอ่ยถามออกมาเพราะกลัวว่าเคนจิจะบาดเจ็บเพิ่ม

"อ่ะ..อืม..ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ"


เคนจิจึงได้สวมเสื้อนอกกลับเข้าไปอีกครั้งหลังจากที่ชิสุกะพันแผลให้เสร็จจากนั้นเดคิสุงิจึงได้หันมาทักเขา

"นายน่ะ เคนจิสินะ"


"เออ...มีอะไรเหรอ"


เดคิสุงิจึงได้ถามต่อว่าทำไมเขาถึงมาทำอะไรในที่แบบนี้ แถมยังเรื่องที่พูดกับพวกเขาก่อนหน้าซะอีก (ที่ในเกมเคนจิเปิดประตูมาไล่พวกเขาให้ออกไปจากที่นี่) ซึ่งตอนนี้เดคิสุงิก็พอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เคนจิเคยพูดว่าทุกคนในบ้านพักนี้น่าจะเป็นซอมบี้ไปหมดแล้วหมายความว่ายังไงจากข้อมูลบันทึกที่เซย์นะให้มา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่เคนจิเดินสำรวจไปมาอยู่ที่นี่คืออะไร

เคนจิก็บอกไปว่า เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อน (ช่วงที่โนบิตะไปพักร้อนที่เกาะ) ที่พวกเขาพบว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไปหลังจากที่ทางโรงเรียนก่อสร้างบ้านพักแห่งนี้เสร็จ ผู้คนในโรงเรียนเริ่มมีอาการแปลกๆ และกลายเป็นซอมบี้ไปทีละคน เขาได้แต่หนีและหาทางเอาตัวรอดพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน แต่สุดท้ายก็เหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหาเบาะแสเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไล่ตามมาจนถึงบ้านพักแห่งนี้ และเขาก็ได้ค้นพบข้อมูลสำคัญต่างๆที่ได้จากบ้านพักแห่งนี้ (รวมถึงบันทึกที่เซย์นะเจอด้วย) ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มคนได้กระทำลักลอบทำการทดลองบางอย่างลับๆที่นี่ แต่สำหรับเขาคนเดียวนั้นการสำรวจตามส่วนต่างๆของบ้านพักขนาดนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะที่นี่มีซอมบี้เพ่นพ่านเต็มไปหมด แต่อย่างน้อยเขาก็พบข้อมูลจากเอกสารต่างๆในบ้านนี้ว่า การทดลองที่ว่านั้นพวกเขาดำเนินการในห้องทดลองลับที่อยู่ชั้นใต้ดินนั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน


เดคิสุงิจึงสงสัยเกี่ยวกับห้องทดลองลับใต้ดินที่เคนจิเล่าให้ฟัง



และช่วงนั้นเองที่ได้รับการติดต่อจากชิรามิเนะเพิ่มเติมว่า เขาได้พบทางลับลงไปชั้นใต้ดินแล้วซึ่งมันอยู่หลังห้องพักแห่งหนึ่ง แต่มันติดตรงที่ว่า มันมีประตูลูกกรงเหล็กขวางอยู่ทำให้เขาไม่สามารถไปต่อได้ เขาต้องการกุญแจเพิ่มเติม ทีนี้เซย์นะก็สังเกตเห็นห้องที่อยู่ข้างๆตรงที่พวกโนบิตะอยู่นี้ซึ่งเป็นห้องที่เธอยังไม่ได้เข้าไปสำรวจ เธอจึงเดินเข้าไปและพบกับกุญแจชั้นใต้ดินอยู่ข้างๆศพ

 
จากนี้ไปเธอจึงบอกกับพวกโนบิตะว่าขอตนเองไปจัดการเรื่องปริศนาบางอย่างที่คาใจเธอให้เรียบร้อยก่อนและขอให้พวกโนบิตะอยู่ดูแลเคนจิอยู่ที่ห้องนี้


หลังจากได้กุญแจแล้วเธอจึงรีบนำมันไปใช้กับประตูห้องใต้ดินทันที ซึ่งจากรายงานนั้นเธอรู้ว่ามันเป็นทางลับที่อยู่ในห้องพักที่ 103 ทางด้านหลังตู้หนังสือ หากผลักออกไปด้านข้างจะพบกับทางลง



เธอจึงได้เดินลงไปข้างล่างก็พบศพจำนวนมากที่โดนยิงไป (ซึ่งเธอคงคิดว่าชิรามิเนะคงจัดการมันไปก่อนหน้านั้นแล้ว)



เธอเดินจนมาถึงจุดที่มีประตูล๊อคอยู่ เธอก็ได้ใช้กุญแจที่ได้มาไขเข้าไป


ตามทางนั้นเธอได้พบว่าสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนเป็นกรงขังพวกสุนัขซอมบี้เคลเบรอสจำนวนมาก แถมมีบางตัวที่หลุดออกมาเดินเพ่นพ่านด้วย เธอจึงใช้ปืนจัดการพวกที่เหลืออยู่ แล้วก็เดินเข้าไปสำรวจที่ห้องแห่งหนึ่งในชั้นใต้ดิน


ที่ห้องนี้เธอได้พบสิ่งที่เธอต้องรู้สึกสนใจอีกอย่างนั่นคือหนังสือปริศนาที่เธอพบก่อนหน้านั้นอีกส่วนหนึ่ง และถ้าหากมันมารวมกันแล้วก็จะเป็นหนังสือแห่งความตายที่มีหน้าปกข้างบนว่า

"EAGLE of EAST WOLF of WEST"

(ไอเท็มนี้มีในเกม RE1 จริงๆ และยังเป็นสิ่งที่ใช้พบเหรียญด้วย)




หลังจากนั้นชิรามิเนะจึงได้รายงานกับเซย์นะทางโทรศัพท์อีกว่า เขาสำรวจถึงห้องที่มีแท่นหินที่มีข้อความสลักไว้ว่า "EAGLE of EAST WOLF of WEST" อีกด้วย ที่เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความหมายของมันคืออะไร เมื่อได้ยินดังนั้นเซย์นะจึงก้มมองดูหนังสือหน้านั้นอีกครั้ง และพบว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างในด้วยซึ่งมันก็คือเหรียญนกอินทรีย์ (Eagle Medal) เอง และถ้าหากเอาคำที่อยู่บนบันทึกมาตีความ WOLF ที่ว่า มันต้องหมายถึงเหรียญหมาป่าที่เธอเก็บได้จากห้องลับแน่นอน


(ไอเท็มนี้มีในเกม RE1 จริงๆ แถมใช้มันในการเปิดห้องทดลองลับด้วย)


เธอจึงรีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ชิรามิเนะพูดถึงทันทีและที่แห่งนั้นเธอก็ได้พบกับแท่นหิน 3 แท่นและดูเหมือนว่าแท่นซ้านกับขวานั้นมีช่องวงกลมสำหรับใส่บางอย่างอยู่ด้วย ทำให้เธอมันใจทันทีว่า

EAGLE of EAST  : อินทรีย์แห่งตะวันออก นั่นคือเหรียญอินทรีย์ต้องใส่ไว้ที่แท่นหินทางทิศตะวันออก (ทางด้านขวา)

WOLF of WEST  : หมาป่าแห่งตะวันตก นั่นคือเหรียญหมาป่าต้องใส่ไว้ที่แท่นหินทางทิศตะวันตก (ทางด้านซ้าย)


เซย์นะจึงนำเหรียญทั้ง 2 ไปใส่ไว้ในช่องจนครบ


เธอสงสัยเหลือเกินว่าเมื่อใส่เหรียญแล้วมันเกิดอะไรขึ้น



และทันใดนั้นเองเธอก็พบว่าแท่นหินที่อยู่ตรงกลางนั้นได้เลื่อนเปิดออกมา ดูเหมือนเธอจะพบกับทางเข้าลับเข้าให้แล้ว



เธอจึงเดินไต่บันไดลงไปแล้วก็พบลิฟต์ที่อยู่ปลายทางซึ่งดูเหมือนจะใช้การไม่ได้เพราะขาดแบตเตอรี่


แต่เธอก็จำได้ว่า เธอเคยเห็นแบตเตอรี่มาก่อนในห้องที่เธอได้กุญแจชั้นใต้ดิน เธอจึงติดต่อให้พวกโนบิตะฝากไปเอามาให้หน่อยและขอให้ทุกคนมารวมตัวเจอกันในห้องลับที่เธออยู่ตอนนี้เลย

(แบตเตอรี่ก็เป็นไอเท็มที่มีในเกม RE1 ที่ต้องใช้กับลิฟต์เหมือนกัน)





ทุกคนจึงเตรียมตัวเดินทางมาที่ทางลงที่เซย์นะพบ



เดคิสุงิกับโนบิตะจึงเดินลงมาสำรวจข้างล่างก่อนก็พบทางเดินไปต่อ แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องที่เซย์นะรออยู่

 "นะ..นี่มัน..ทางลับใต้ดินในบ้านพักสินะ"


"อืม..เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ...ไปกันต่อเถอะ"




ตอนต่อไป...สำรวจอุโมงค์ใต้ดิน เส้นทางที่นำไปสู่ห้องทดลองลับที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด..



บทความหน้า สำรวจอุโมงค์ลับและเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลักจากเซย์นะกลับมาเป็นโนบิตะ




ปล. อันที่จริงแล้วเนื้อหาในบทความนี้เราไม่ได้เขียนเนื้อเรื่องที่ตรงกับเกมหรือโดจินเป๊ะ ท่านสามารถอ่านความเห็นเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11.5] - เนื้อหาที่มีการตัดแต่งระหว่างเนื้อเรื่องตัวเกมกับโดจิน 


ส่วนบทความช่วงต่อไปสามารถอ่านต่อได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 12]

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 10]

เนื้อหาส่วนนี้เป็นเนื้อเรื่องส่วนที่ 10 ซึ่งควรจะอ่านเนื้อเรื่องส่วนที่ 9 จากที่นี่มาก่อน
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 9]

จะเห็นได้ว่าเนื้อหาตั้งแต่บทที่ 8 ขึ้นไปนั้น เราจะไม่แปะคลิปประกอบแล้ว เนื่องจากว่าเนื้อหาที่จะเล่าต่อๆไปนี้เราจะเล่าโดยการผสมเนื้อเรื่องของการ์ตูนโดจินกับตัวเกมไปพร้อมกัน ไม่ได้ยึดติดกับเนื้อหาใดเนื้อหาหนึ่ง อย่างสิ่งที่เกมมีแต่โดจินไม่มี เราจะเอามาขยายเนื้อหาเนื้อเรื่องหลัก ส่วนเนื้อหาบางส่วนที่มีในโดจินแต่ในเกมไม่มี เราก็จะยืดเนื้อหาของโดจินมาเขียนบรรยายเช่นกัน ส่วนเนื้อหาที่เราตัดทิ้งหรือเข้ากันไม่ได้ เราจะเอาไว้ในส่วนเนื้อเรื่องแถมเวอร์ชั่น .5

การต่อสู้อันแสนดุเดือด


ความเดิมตอนที่แล้ว เซย์นะกับชายผมเหลืองที่ชื่อเคนจิได้เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกอริลล่าที่มีชื่อว่า " เฟอโรวิเนอร์โต้ (Furrows Vinirto)" ที่มีนิสัยดุร้ายและชอบการฆ่าฟัน ที่ห้องโถงชั้น 2 ของบ้านพัก จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น

ทันทีที่ได้เห็นรูปร่างดุดันที่ดูน่ากลัวของมันทำให้เซย์นะนึกถึงข้อความที่อยู่ในบันทึกคนงานที่เธอเคยเจอ

"อาวุธชีวภาพ?? สัตว์ประหลาดที่เหมือนกอริลล่า?? หรือว่าจะเป็นเจ้านี่..."



ชั่วพริบตามันได้โดดลงมาจากโคมไฟเพื่อเล่นงานเคนจิ แต่ว่าเคนจิไหวตัวทันจึงกระโดดหลบการโจมตีของมันจนพ้น



แต่ว่าการที่เขากระโดดหลบนั้นก็ทำให้แรงกระแทกที่ทำให้บาดแผลบนแขนซ้ายของเขาฉีกออกไปอีก และ ณ ตอนนี้มันได้ยืนอยู่เบื้องหน้าเคนจิ  เขาจึงได้หยิบมีดพกอาวุธที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของเขาขึ้นมาป้องกันตัว



เขาได้แต่รอดูท่าทีของมันเพือที่จะหาวิธีหลบหลีกการโจมตีของมัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่  อาวุธที่รุนแรงกว่ามีดก็ไม่มีเสียด้วย






และในตอนนั้นเองที่เซย์นะตัดสินใจใช้ปืนพกที่อัพเกรดแล้วของตัวเองยิงใส่ไหล่ขวาของมันเพื่อให้มันเบนความสนใจมาที่เธอที่พอสู้ได้

อนึ่ง..การต่อสู้ครั้งนี้เซย์นะควรจะใช้ปืนลูกซองต่อสู้กับมัน แต่ว่าเธอไม่สามารถใช้กระสุนปืนลูกซองได้เพราะเธอใช้มันต่อสู้กับพวกซอมบี้จนหมด

(อันที่จริงแล้วเรื่องของเรื่องคือ ในโดจินมันไม่มีตัวละครชิรามิเนะ เลยไม่เกิด Event ตอนที่เซย์นะเก็บปืนลูกซองแล้วติดกับดัก ทำให้เซย์นะในโดจินไม่มีปืนลูกซองใช้)


และเธอก็ทำมันได้สำเร็จ เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้น หันเบนสนใจมาทางเธอ เธอจึงยิงกระสุนใส่อีกหลายนัดทั้งไหล่และหน้าอก ก็พบว่ามันแทบจะไม่สะดุ้งสะเทือนเลย แถมการเคลื่อนไหวยังรวดเร็วมากด้วย เธอจึงได้ประเมินสถานการณ์ด้วยความฉับไวว่า เธอคงจะละสายตาจากมันไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ร้ายกาจมาก



เธอยิงใส่มันจนกระทั่งกระสุนเธอหมดแม๊กกาซีน เธอจึงใช้มือหยิบแม็กกาซีนที่อยู่ในกระโปรงโดยที่ไม่อาจจะละสายตาจากมันได้นานนัก และช่วงจังหวะที่เธอกำลังรีโหลดกระสุนอยู่นั้นมันก็ได้พุ่งเข้าจู่โจมเธอพอดี ทำให้เธอตกใจแต่ยังคงสติไว้ได้


เธอตัดสินใจที่จะกระโจนหลบไปข้างๆ แต่ปรากฏว่าแม็กกาซีนที่มีกระสุนเหลืออยู่ในกระโปรงนั้นกลับหล่นไปอยู่บนพื้นใกล้ตัวมันทั้ง 2 แม็กกาซีน (ซึ่งก็คือทั้งหมดที่เธอมีอยู่)


เธอพยายามประเมินสถานการณ์ด้วยความรวดเร็วพร้อมกับเลือกดูว่า เธอจะตัดสินใจยิงถ่วงเวลาแล้วไปเก็บแม็กกาซีนที่ตกอยู่ข้างๆมันดีไหม แต่เธอประเมินแล้วว่ามันอันตรายเกินไป เธอจึงตัดสินใจที่จะปิดฉากมันด้วยกระสุนที่เธอมีอยู่ทั้งหมดในแม็กกาซีนนั้น แต่ว่าเธอสามารถยิงออกไปได้แค่ 8 นัดเท่านั้น ทำให้เธอเริ่มคิดหนักว่า กระสุน 8 นัดที่เธอมีอยู่จะสามารถฆ่ามันได้หรือไม่ เพราะดูแล้วร่างกายของมันค่อนข้างทนต่อกระสุนปืนด้วย  แต่นั่นไม่ใช่เวลาที่จะมัวรอคำตอบ เธอจึงตัดสินใจเสี่ยงดวงยิงปืนออกไป 3 นัดอย่างต่อเนื่องใส่มัน (ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเกม ปืนพกของเธอจะได้รับการอัพเกรดทำให้สามารถยิงกระสุนต่อเนื่องได้)


กระสุนทั้ง 3 นัดพุ่งเข้าไปที่กลางตัวซึ่งเธอดูแล้ว มันแค่ชะงักไปเล็กน้อยแต่ไม่อาจสร้างความเสียหายถึงตายให้มันได้ เธอจึงหาทางเปลี่ยนแผนที่จะเก็บกระสุนที่อยู่ใกล้ตัวมันดู ทันใดนั้นมันก็กระโจนพุ่งใส่เธออีกครั้ง


 เธอเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่มันใช้เวลาในการดึงเล็บที่ฝังอยู่ในพื้นมากเกินไป ทำให้เธอตัดสินใจวัดดวงด้วยวิธียิงกระสุนต่อเนื่องด้วยฟังก์ชั่นอัพเกรดของตัวปืนออกไปทั้งหมด 5 นัด เข้าใส่ศีรษะที่เธอคิดว่าเป็นจุดตายของมัน


กระสุนทั้ง 5 พุ่งเข้าทะลุส่วนหัวของมันอย่างแม่นยำ เธอยังคงประเมินสถานการณ์อยู่ว่าสามารถจัดการมันได้หรือไม่ และในที่สุดมันก็ล้มตัวลง


เซย์นะยังคงรู้สึกเหนื่อยและใจหายจากการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตเมื่อสักครู่นี้ หลังจากที่มันล้มลงแล้ว เธอจึงหันไปทางเคนจิเพื่อสอบถามอาการของเขา

"เป็นอะไรมากไหม"


เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร และเขาก็ได้แนะนำตัวเองว่าเขาชื่อ "โอกะ เคนจิ"

และได้เอ่ยชมเซย์นะว่า

"เธอเนี่ย สุดยอดจริงๆนะ"


เซย์นะก็ได้ตอบออกมาอย่างอายๆว่า

"ก็นะ.."

แต่เคนจิก็ส่ายหัวเล็กๆและบอกว่า

"ไม่หรอก..เธอน่ะสุดยอดจริงๆ ที่ล้มเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น..."

แต่ยังไม่ทันที่เคนจิจะพูดต่อ เขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างพร้อมกับตะโกนว่า..

"อันตราย!!"



เซย์นะรู้สึกแปลกใจมากกับสิ่งที่เคนจิพูด






และตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้องคำรามของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นจากทางด้านหลัง ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่ามันยังไม่ตาย เธอจึงรีบหันกลับมามองดูและก็ต้องประหลาดใจมากที่ว่า รอยแผลบนใบหน้าของมันที่เธอสาดกระสุนใส่ถึง 5 นัดกลับสมานกันได้สนิท ดูเหมือนว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะมีพลังการฟื้นฟูบาดแผลที่น่าเหลือเชื่อด้วย


มันจึงพุ่งเข้าจู่โจมใส่เซย์นะที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง เธอคิดว่าตัวเองคงจะไม่รอดแน่แล้ว แต่ทันใดนั้นก็มีมีดพุ่งแหวกอากาศเข้ามาปักเข้าใส่ดวงตาของมันอย่างแม่นยำ


ซึ่งมีดที่ลอยมานั้นเป็นฝีมือของเคนจินั่นเอง

"ตอนนี้แหละ!!"


เขาตะโกนบอกให้เซย์นะใช้จังหวะที่มันชะงักอยู่นั้น รีบไปเก็บแม็กกาซีนทั้งสองที่ตกอยู่บนพื้น เธอจึงคว้าหยิบขึ้นมา 1 อันพร้อมกับรีโหลดกระสุนอย่างรวดเร็ว


หลังจากที่รีโหลดกระสุนเสร็จ เธอจึงสั่งใช้งานฟังก์ชันยิงกระสุนต่อเนื่องที่ได้จากการอัพเกรดอีกครั้งติดต่อกัน 8 นัดจนหมด  แล้วเธอก็เห็นสังเกตเห็นว่ารอยแผลที่เกิดจากกระสุน 8 นัดของเธอนั้น กำลังจะสมานกลับเป็นปกติอีกครั้ง ทำให้เธอรู้ทันทีว่า การยิงสาดกระสุนแบบมั่วไม่อาจจะฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดนี้ได้แน่ๆ


เธอจึงใช้ไพ่ตายใบสุดท้าย ซึ่งเป็นแม็กกาซีนที่เหลืออยู่เพียง 1 ชุด ณ ตอนนี้ เธอเหลือกระสุนอยู่เพียง 8 นัดเท่านั้น เธอจึงใช้ยิงกระสุน 2 นัดเข้าใส่ที่ศีรษะซ้าย-ขวา เพื่อให้มันเซล้มก่อนตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยการเข้าไปยืนอยู่เบื้องหน้ามันพร้อมกับเล็งปืนไปที่กลางศีรษะระยะประชิด


 ก่อนที่จะใช้งานฟังก์ชั่นยิงกระสุนต่อเนื่องอีก 5 นัดจนหมดแม๊ก จนเลือดของมันสาดกระเซ็นเปรอะใบหน้าของเธอ ทั้งเคนจิและเซย์นะต่างลุ้นกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในการโจมตีชุดสุดท้ายของพวกเขา


ในที่สุด กระสุนทั้ง 5 นัดของเซย์นะก็เจาะทำลายสมองจนเละเทะ ทำให้มันไม่สามารถฟื้นฟูบาดแผลขึ้นมาได้อีก เธอจึงได้รู้สึกโล่งอกก่อนที่จะขาอ่อนนั่งทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอเริ่มถึงขีดจำกัดเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆก่อนหน้านี้เสียแล้ว


เธอคิดในใจว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกไม่มีแรงที่จะกลับไปหาพวกเขาแล้ว และในช่วงนั้นเองที่เธอได้ยินเสียขู่ร้องคำรามที่แสนคุ้นเคยดังออกมาจากประตูบางนั้น...เสียงนั้นคุ้นมาก


คุ้นมาก...

เหมือนกับเจ้าตัวที่เธอฆ่าไปเมื่อกี้เลย!!!


"ปะ...เป็นไปไม่ได้!! มันไม่ได้มีตัวเดียวหรือเนี่ย!!"



ณ ตอนนี้กระสุนปืนพกของเซย์นะเป็น 0 ตามรูปข้างล่าง และไม่มีปืนลูกซองใช้ด้วย






เธอจึงได้แต่คิดหนักว่า เธอจะทำยังไงดี...กระสุนก็ไม่เหลือ....จะใช้อะไรป้องกันตัวดี...


และแล้วสายตาเธอก็หันไปเห็นมีดเล่มหนึ่งที่อยู่ข้างๆสัตว์ประหลาด ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวที่เคนจิปาใส่สัตว์ประหลาดที่เซย์นะพึ่งฆ่าไป  เธอจึงตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่ามันอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เธอก็คิดว่า ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย



การต่อสู้ยกที่ 2 จึงเริ่มขึ้น ระหว่างเซย์นะที่มีแค่มีดเล่มเดียวกับสัตว์ประหลาดสุดแกร่งที่ฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ เธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้ด้วยมีดเล่มเดียวหรือไม่..

(ถ้าเธอรอดได้คงเป็นลีออนหมายเลข 2 แล้วมั้งเนี่ย...ใช้มีดเล่มเดียวเหลาศัตรูยันจบเกม =w=)




บทความหน้ากับการต่อสู้ยกที่ 2 !!!!  ติดตามเนื้อหาต่อได้ที่

>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 11]