โนบิตะยังคงวิ่งวนในโรงงานกำจัดของเสียเพื่อหาทางปลดล็อกระบบประตูและสำรวจสถานที่ต่างๆภายในโรงงานเพื่อหาวิธีการติดต่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกให้รีบพาเขาและพรรคพวกออกไปจากเมืองให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะถึงยามเช้าของวันรุ่งขึ้นซึ่งตรงตามกำหนดการในการทำลายเมืองนี้ทิ้ง
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีจะปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความซับซ้อนของที่นี่ได้...
นอกจากนั้น ในบทความนี้โนบิตะได้ล่วงรู้ความลับของอะไรบางอย่างที่กำลังไล่ล่าเขามาจนถึงตอนนี้ด้วย
เนื้อเรื่องส่วนที่ 19 : นามนั้นคือทินดาลอส
"เร็วๆเข้าซี่.....เจ้าระบบตรวจสอบบ้าเอ้ย!!"
โนบิตะยังคงรอผลการตรวจสอบของเหลวที่เขานำไปปรับปรุงคุณภาพ เพื่อใช้ในการปลดล็อกระบบของประตูตามอาคาร
หลังจากที่เขารอได้สักพัก เครื่องยนต์ก็มีเสียง ตื๊ด!!! พร้อมกับมีคำพูดขึ้นมาว่า...
[ยืนยันการตรวจสอบคุณภาพของเหลวอยู่ในระดับปลอดภัย การปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไฟฟ้า เสร็จสิ้น..]
"เอาล่ะ...เท่านี้ห้องนั้นก็น่าจะเปิดได้แล้วล่ะนะ..."
โนบิตะจึงเดินออกมาจากห้องควบคุมด้านในสุด และพอเขาออกมาก็พบกับ...
"อ้ะ! คุณโอทากะ"
โนบิตะรู้สึกตกใจมากที่จู่ๆ นายทหารที่ชื่อโอทากะก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่...
"วะ ว่าไง เจ้าหนู....ฉันมีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอกเธอ"
โอทากะจึงเริ่มพูดข่าวร้ายก่อน ข่าวร้ายก็คือ..ดูเหมือนว่าเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายที่มีอยู่ในสถานที่แห่งนี้จะถูกใครบางคนขโมยขับออกไปแล้ว
"เอ๋......ถ้างั้น..."
แต่โอทากะก็รีบชิ่งพูดตัดหน้าก่อนขึ้นมาว่า...ข่าวดีก็คือ..ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้จะมีหอบังคับการที่มีวิทยุสื่อสารที่ยังใช้งานได้อยู่ ดังนั้นเขาจะพยายามติดต่อเรียกคนที่เขารู้จักส่งเฮลิคอปเตอร์มารับพวกเขาได้
"คะ ค่อยยังชั่วหน่อย...."
"แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง..."
จู่ๆโอทากะก็ทำสีหน้าเศร้า...
"อีกเรื่องหนึ่ง...เหรอครับ???"
"โรวฮะตายแล้ว"
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หลังจากนั้นโอทากะก็พูดต่อไปว่า...เพราะไอ้หมอนั่นมันบ้าแท้ๆ ทั้งๆที่น่าจะรอดแล้วแท้ๆ แต่หมอนั่นก็ยัง.....เอาตัวเข้าไปเสี่ยง...เพื่อช่วยเขาออกมา...
"คุณโรวฮะ...."
และตอนนั้นเองที่โอทากะได้กำหมัดขึ้นมาอย่างหนักแน่น...
"ฉันจะไม่ยอมให้การเสียสละของผู้พันกับโรวฮะสูญเปล่าแน่...ฉันจะต้องพาพวกเธอออกไปจากที่นี่ให้ได้! ฉันสัญญา!!"
ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่มัวแต่จะมาคิดเรื่องเศร้า การที่พวกเขายอมสละชีวิตตัวเองก็เพื่อให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถดิ้นรนอยู่รอดต่อไปได้ไม่ใช่หรือ!?
"ถ้างั้น ไอ้หนู...ช่วยจัดการเรื่องเส้นทางหนีให้ทีนะ"
"เข้าใจแล้วครับ!"
หลังจากนั้นโอทากะจึงเดินออกจากห้องควบคุมไป
หลังจากนั้นโนบิตะจึงได้เดินกลับออกไปตามเส้นทางท่อระบายน้ำ เพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องที่ยังคงถูกล็อกด้วยระบบไฟฟ้าอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เขาสามารถเดินเข้าไปด้านในห้องได้แล้ว
"โอเค เรียบร้อย!"
สิ่งที่เขายังขาดไปในตอนนี้ก็คงจะเป็นคีย์การ์ดที่ใช้เปิดการทำงานของลิฟต์ไปยังทางออก ซึ่งเขาหวังว่า ภายในเส้นทางที่เขากำลังจะไปนั้นจะต้องมีคีย์การ์ดอยู่
ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านในสุด เขาพบศพของผู้ชายที่ดูน่าสงสัยที่มีสมุดบันทึกตกอยู่ด้านข้าง
โนบิตะจึงลองหยิบขึ้นมาอ่านดู ซึ่งหน้าปกของหนังสือนั้นคือ...
บันทึกของด็อกเตอร์เซริซาว่า....
[มีใครคุ้นกับชื่อนี้หรือเปล่าเอ่ย?]
[บันทึกนี้เป็นบันทึกข้อมูลออริจินอลไม่มีจริงใน RE3 นะ]
[เราอ่านคร่าวๆแล้วอาจจะไม่ได้แปลตรงตัว จะพยายามสรุปแบบรวบรวดให้ มั่วตรงไหนขออภัย]
ในบันทึกนี้เขียนไว้ถึงเรื่องราวของหัวหน้านักวิจัยคนหนึ่งของบริษัทอัมเบรล่าซึ่งก็คือด็อกเตอร์เซริซาว่า เขาเป็นคนเขียนบันทึกเล่มนี้และได้เขียนบรรยายการทำงานของเขา ว่าเขาเป็นหัวหน้าทีมของการพัฒนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ให้กับอัมเบรล่า
พวกเขาได้ทดลองเชื้อไวรัสกับสิ่งมีชิวิตหลายชนิด รวมถึงมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ถูกจับมาทดลองอย่างไรมนุษยธรรมเพื่อสร้างอาวุธชีวภาพสายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกมันก็เป็นได้แค่ซอมบี้
ทั้งหนู ทั้งแมว สุนัข หรือแม้แต่อีกา เมื่อได้รับเชื้อไวรัสตัวหลักนี้เข้าไปมันก็กลายเป็นซอมบี้เหมือนกันหมด ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะต้องมีการปรับปรุงเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ขึ้น
คนเขียนบันทึกนั้นพร่ำบ่นถึงการพัฒนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นอย่างมาก อีกทั้งประสบปัญหาต่างๆนานนับประการ ทั้งเรื่องตัวอย่างที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมถึงตัวทดลองที่มีไม่เพียงพอกับความต้องการ แถมผลการทดลองที่ได้ก็ไม่มีแนวโน้มว่ามันจะพัฒนาขึ้นมาเลย แต่เขาก็ไม่อยากจะให้ผลการทดลองที่ผิดพลาดนี้สูญเปล่า เขาจึงได้ย้ายสถานที่ทดลองมาเป็นโรงงานกำจัดขยะแห่งนี้เผื่อคาดหวังว่า..ผลการทดลองที่ล้มเหลวอาจจะมีบางส่วนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
แต่มันเสี่ยงมากที่จะมาทำการทดลองที่นี้เพราะว่า มีโอกาสติดเชื้อไวรัสสูงมาก แต่เขาก็ัยังคงดำเนินการต่อไปจนกระทั่งวันหนึ่ง...
เขาพบว่าเคลเบรอสที่เขาทดลองเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งได้พลัดตกลงไปในบ่อตกค้างในโรงงานแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายที่แปลกประหลาดมาก ซึ่งเขาคิดว่ามันคงได้รับเชื้อไวรัสหลายอย่างเข้าไป เขาจึงฉีดวัคซีนที่เขาคิดมันขึ้นมาเพิ่มให้กับมัน
ปรากฏว่าร่างกายของมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง หัวของสุนัขตัวนั้นได้งอกออกมาเป็น 3 หัว รวมถึงมีดวงตาอีกดวงปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผาก!! มันมีความดุร้ายต่อผู้อื่นมาก
ผมจึงตั้งชื่อให้กับมันว่า [ทินดาลอส] ซึ่งเป็นร่างพัฒนาพิเศษของ [เคลเบรอส] ที่ผมทดลองเลี้ยงไว้ ผมพบว่า [ดวงตาของมันนั้นบอดสนิท] แต่กลับมีประสาทสัมผัสด้านหูและจมูกเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อ
นอกจากนั้นมันยังมีมีประสาทสัมผัสการตอบสนองที่รวดเร็วต่อภัยอันตรายรอบข้างเป็นอย่างดี แต่มันก็ควบคุมได้ยาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม...ผมได้ลองพัฒนาเชื้อไวรัสแบบพิเศษที่สร้างจากที-ไวรัสใหม่ ฉีดเข้าไปในตัวมัน และทำให้มันเชื่อฟังคำสั่งของผม ผมจึงได้ตั้งชื่อที-ไวรัสชนิดนั้นว่า ที-ไวรัสเอส (S)
มันสามารถทำตามคำสั่งได้และในที่สุดมันก็ได้รับคำสั่งพิเศษนั่นคือการไล่ล่ากลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งที่ล่วงรู้ความลับทางการทดลองและพัฒนาไวรัสของอัมเบรล่า...
การหลบหนีทินดาลอสนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะว่ามันจะจดจำเป้าหมายและติดตามไล่ล่าจนกว่ามนุษย์คนนั้นจะถูกกำจัด
ทินดาลอสสามารถจดจำกลื่น รสชาติของมนุษย์ที่เป็นเหยื่อได้อย่างแม่นยำและพร้อมสังหารเหยื่อได้ทุกเมื่อจนกว่าเหยื่อจะตาย... การเอาชนะทินดาลอสด้วยปืนธรรมดานั้นไม่สามารถทำได้
แต่สุดท้ายแล้วไมว่าอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้จิตใจ เพราะสุดท้ายแล้วหลังจากที่มันทำตามคำสั่งเสร็จสิ้นมันก็จะทำลายล้างผู้คนอื่นๆอีกมากมายไปทั่ว...
และผมคิดว่าผมคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เพราะเจ้านั่นมันแย่งชิงผลงานของผมไป และทิ้งให้ผมตายอยู่ตรงนี้ ตอนที่ผมกำลังจะตายผมรู้ว่าความทรงจำทุกอย่างกำลังไหลออกมา... และผมรู้สึกผิดเหลือเกิน
ดูเหมือนว่าจะมีเลือดอยู่ที่ด้านหลังบันทึก
หลังจากที่อ่านบันทึกจบ จะเห็นว่าคนแคสต์เกมเขียนไว้ว่า... สรุปคือไอ้หมาสามหัว ทินดาลอส บ้านั้น เจ้าหมอนี่...ซึ่งมีชื่อว่าด็อกเตอร์เซริซาว่าเป็นคนสร้างขึ้นมานั่นเอง
"เจ้าหมาสามหัวบ้านั่น...มันชื่อทินดาลอส..งั้นเหรอ...
ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเราจะถูกเจ้าตัวอันตรายขนาดนี้ไล่ล่า...
ต้องรีบหาวิธีจัดการมันให้ได้...ไม่อย่างนั้นมันคงจะตามราวีไม่เลิกแน่ๆ"
แต่คิดอะไรมากไปในตอนนี้ก็ไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่สำคัญตอนแรกคือ ต้องหาทางหนีออกจากเมืองก่อน ส่วนเรื่องปราบทินดาลอสนั่นคงต้องหาวิธีจัดการมันทีหลัง
เบื้องหน้าของโนบิตะนั้นมีประตูอยู่ และดูเหมือนว่ามันต้องใช้อะไรบางอย่างในการปลดล็อก ซึ่งที่ใส่สิ่งที่ว่านั่นดูเหมือนจะเป็นเครื่องใส่แผ่น
"อ้ะ แผ่นซีดีงั้นเหรอ?"
โนบิตะรู้ตัวว่าเขานั้นพกแผ่นดิสก์ข้อมูลบางอย่างอยู่จึงลองเอาแผ่นที่ว่านั่นใส่ดู
ปรากฏว่ามันใส่ได้พอดี แถมยังปลดล็อกระบบได้ด้วย...โนบิตะจึงเดินเข้าประตูไป!!
"เหวอ!!? ที่แบบนี้มันอะไรกันเนี่ย!!!?"
ทันทีที่โนบิตะก้าวเท้าเข้ามาในห้องเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ซึ่งมันเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆแคบๆ แต่ว่า...
มีซากศพของพวกสัตว์ประหลาดและซอมบี้กองอยู่ในห้องเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นขยะอาวุธชีวภาพ ร่างทดลองที่ใช้งานไม่ได้ที่จะนำมากำจัดทิ้งทั้งสิ้น
"อุ๊บ...!! กลิ่นแย่มาก บรรยากาศชวนอ้วก น่าอึดอัดชมัด"
โนบิตะไม่อยากที่จะอยู่ในห้องนี้นานนัก เขาแทบอยากจะออกจากห้องนี้ไปเลยด้วยซ้ำแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาเขาวางอยู่บนพื้นเบื้องหน้า... เขาจึงเดินเข้าไปเก็บมันขึ้นมา...
มันคือคีย์การ์ดประจำโรงงานที่มีตราสัญลักษณ์ของอัมเบรล่า..ที่เขากำลังหาอยู่นั่นเอง
"ให้ตายสิ...ทำไมมันถึงตกอยู่ในที่แบบนี้นะ เอาเถอะรีบออกไปจากที่....."
พอเขาหันไปมองที่ประตูทางออก ปรากฏว่ามีอะไรบางอย่างยืนขวางทางประตูเขาไว้... ซึ่งมันก็คือ...
"ปัดโถ่เว้ย!!! แม้แต่ในที่แบบนี้มันก็ยังตามมาอีกเหรอเนี่ย!?"
และดูเหมือนว่า..หลังจากที่ทินดาลอสเข้ามาได้ ตัวประตูห้องก็ได้ทำการปิดล็อกโดยอัตโนมัติ
พร้อมกับมีประกาศแจ้งเตือนขึ้นมาว่า...
[จะทำการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงด้านล่างเพื่อดำเนินการกำจัด]
[การดำเนินการจะเริ่มในอีก 2 นาที]
เมื่อได้ยินดังนั้น โนบิตะจึงตระหนักได้ว่า...
"ชิบหายแล้ว!!"
โนบิตะจะต้องหาวิธีออกจากห้องกำจัดขยะนี้ โดยที่ยังมีทินดาลอสที่กำลังโกรธจัดอยู่ในห้องด้วย โนบิตะหยิบอาวุธทั้งหมดออกมา
"ต้องจัดการไอ้เจ้าบ้านั่นก่อน!!"
การต่อสู้ของโนบิตะกับทินดาลอสโดยมีเวลาจำกัดภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีจึงเริ่มขึ้น
โนบิตะพยายามสาดกระสุนโจมตีใส่ทินดาลอสเช่นเดิม แต่ดูเหมือนว่า ทักษะการหลบกระสุนของมันนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
"บะ บ้าน่า!! ตอนนี้มันไวขนาดนี้เลยเหรอ!!?"
ชั่่วพริบตา ทินดาลอสก็พุ่งเข้าประชิดตัวโนบิตะ!!
แต่โนบิตะก็สามารถหลบการโจมตีของมันได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าความสามารถการหลบหลีกของโนบิตะจะเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา...
พร้อมกับหันไปตั้งหลักสาดกระสุนโจมตีใส่มันใหม่...
แต่มันก็ยังคงเดินหลบกระสุนที่โนบิตะยิงใส่ได้อย่างง่ายดาย...ด้วยความเร็วที่มากขึ้นกว่าที่เขาเคยสู้มา..
การต่อสู้ดำเนินไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง...
[การดำเนินการจะเริ่มในอีก 1 นาที]
"โถ่เว้ย!!! ทำไมมันถึงได้เร็วแบบนี้นะ!!"
ในตอนนั้นเองโนบิตะเริ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย เนื่องด้วยสภาพกลิ่นที่อบอวลไปทั่วห้องสร้างความมึนงงให้กับประสาทสัมผัสเขามาก แต่แล้ว..เขาก็เงยหน้าขึ้น
"ฉันจะยอมตายที่นี่ไม่ได้!!! ฉันจะต้องจัดการแกให้ได้"
ในช่วง 1 นาทีสุดท้ายเป็นการตัดสินระหว่างโนบิตะกับทินดาลอส!!!!
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โนบิตะเลือกใช้อาวุธปืนที่คล่องตัวที่สุดพร้อมกับใช้ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่เริ่มเหนือมนุษย์...
ทินดาลอสพุ่งเข้าจู่โจมโนบิตะด้วยความเร็วสูงอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับใช้กรงเล็บและฟันพุ่งเข้ากัดโนบิตะ แต่ว่าสิ่งที่มีกัดได้มีเพียงความว่างเปล่า... โนบิตะจึงใช้ปืนพกยิงส่วนเข้ามาใส่ร่างกายของมันอย่างแม่นยำ แต่ว่า...กระสุนปืนพกไม่อาจจะเจาะเข้าผิวหนังของมันได้อีกแล้ว!!!
"ฮึ่ม!!! ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็...!!"
โนบิตะเปลี่ยนอาวุธที่ใช้เป็นปืนลูกซองพร้อมกันวิ่งกราดยิง...ใส่มันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไล่ตามยิงให้ทัน
[การดำเนินการจะเริ่มในอีก 30 วินาที]
เวลาเริ่มนับถอยหลังลงเรื่อยๆ และในที่สุด!!!
กระสุนลูกซองชุดสุดท้ายได้พุ่งทะลุกลางตัวจองทินดาลอสอย่างแม่นยำ
จนมันกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้นแน่นิ่งไป
"สะ...สำเร็จ...."
"ไม่สิ!! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมามัวดีใจแล้วนะ!! อ้ะ...นั่น!!!"
ตอนนั้นเองที่โนบิตะสังเกตเห็นว่ามีการ์ดชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากการ์ดที่เขาได้ตอนแรกตกลงมาจากศพ
เขาจึงรีบเดินเข้าไปเก็บมันขึ้นมา...และพบว่ามันคือการ์ดทางออกฉุกเฉินสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องที่หลุดเข้ามาข้างในนี้ตอนที่ประตูล็อก
โนบิตะจึงรีบวิ่งมาที่ประตูพร้อมกับเอาการ์ดรูดที่เครื่องตรวจบัตรเพื่อปลดล็อกประตู
[การดำเนินการจะเริ่มในอีก 10 วินาที]
และในตอนนั้นเองโนบิตะจึงรีบเปิดประตูออกจากห้องทันที....ประตูได้ปิดลงพร้อมกับล็อกอีกครั้ง
[การดำเนินการจะเริ่มในอีก 5 วินาที]
[4]
[3]
[2]
[1]
[เริ่มดำเนินการปล่อยส่งปฏิกูลลงชั้นล่างเพื่อดำเนินการกำจัด]
โนบิตะได้ยินเสียงเครื่องจักรบางอย่างกำลังทำงานภายในห้องจากทางด้านหลังประตู
เริ่มจากการมีเสียงสัญญาณไซเรนดังขึ้นพร้อมกับไฟกระพริบสีแดง
เครื่องจักรกลภายในเริ่มทำงาน
พื้นที่อยู่ภายในห้องได้แยกออกจากกันเป็นทางลาดชันพร้อมกับดันเศษซากทั้งหมดจมลงสู่พื้นที่ด้านล่าง
และแน่นอนว่าตัวทินดาลอสเองก็จมลงไปด้านล่างเช่นกัน...
"ฮะฮะ....ลาขาดกันสักทีนะ...ไอ้หมาบ้า...."
โนบิตะกล่าวเช่นนั้นหลังจากเครื่องจักรด้านในทำงานจนหมด ห้องทั้งห้องกลับสู่ความว่างเปล่า...ไม่มีสิ่งใดอยู่ในห้องนั้นอีกต่อไป...เขามั่นใจว่า เจ้าหมาบ้านั่นคงจะต้องตกไปอยู่ในเครื่องกำจัดขยะด้านล่างเรียบร้อยแล้วแน่อน
คล้ายกับการต่อสู้กับเนเมซิสใน RE3 ที่ห้องนั้นเลย
แต่เนเมซิสให้เวลาต่อสู้ยาวถึง 4 นาที
โปรดติดตามตอนต่อไป....
ท่านสามารถสลับไปอ่านเนื้อเรื่องของไจแอนท์ๆได้ที่
โอววว โรฮะไปอีก1 แล้ว TT ขอบคุณที่ทำให้อ่านขรับ ><
ตอบลบไปได้ง่ายมาก = ="
ตอบลบไม่มีโอกาสได้ร่ำลาซะคำจริงๆ
ตอบลบทำไมผมขำคนพากษ์ญี่ปุน- -^
ตอบลบ