>>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) [ปฐมบท]
ก็เข้าสู่เนื้อเรื่องหลักของตัวเกม...
การนำเสนอเนื้อเรื่องของภาคนี้จะแบ่งออกเป็น 5 บท หรือ 5 แชปเตอร์ (Chapter) ตามแบบเกม Resident Evil Outbreak ซึ่งมีซีนนาริโอ้ (Scenario) ทั้งหมด 5 ด่าน แบบเดียวกัน
Chapter 1 - Outbreak [Part 1]
หายนะที่แผ่ขยายไปทั่วทุกที่
บทเกริ่นนำ (ไม่แปลตามภาพจากเกม RE แต่แปลประยุกต์ตามเกมโดจินนี้)
- ยามค่ำคืนกลางฤดูหนาวปลายเดือนธันวาคมที่หนาวเหน็บในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
- แขกผู้ไม่ได้รับเชิญได้ย่างก้าวเข้ามาพังงานสังสรรค์ภายในร้าน
- การเอาชีวิตรอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างพวกเราจึงได้เริ่มต้นขึ้น
วันที่ 28 เดือนธันวาคม ปี 2004
เวลา 18.50 นาฬิกา
ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
สถานที่ซึ่งโนบิตะกับเหล่าผองเพื่อนของเขา ซึ่งประกอบด้วยโดราเอม่อน เดคิสุงิ ไจแอนท์ ซูเนโอะ ชิสุกะ และเซย์นะมาปรึกษาหารือกันพร้อมกับรับประทานอาหารไปด้วย
"ต่อจากนี้พวกเราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ..."
เซย์นะเป็นคนเริ่มเอ่ยปากขึ้นมาคนแรกหลังจากที่เธอรับประทานอาหารที่อยู่ในจานเบื้องหน้าจนหมด
"อืม...ดูเหมือนว่าเมืองนี้เองก็มีสถานที่สำหรับการทดลองลับๆของอัมเบรล่าซุกซ่อนอยู่ด้วยน่ะนะ
เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมาหรือเปล่า"
เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมาหรือเปล่า"
เดคิสุงิเป็นคนพูดออกมา..
เขาสรุปเช่นนั้นหลังจากที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลบางส่วนที่่พวกโนบิตะ เซย์นะ และไจแอนท์นำกลับมาจากเมือง R เมื่อวันก่อน...
เขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในความปลอดภัยของเมืองนี้เลยหลังจากที่รู้ว่า เมืองที่พวกเขาอุตส่าห์ลี้ภัยมาอยู่ปัจจุบันนี้ก็มีสถานที่ลับที่อันตรายของพวกอัมเบรล่าอีกตามเคย...สมกับเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาต่างๆทั่วโลกจริงๆ
"เฮ้...ไจแอนท์ ฟังอยู่หรือเปล่าน่ะ?"
ซูเนโอะหันไปถามไจแอนท์ที่กำลังโซ้ยอาหารเบื้องหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
"งั่มๆๆๆๆๆ เออ ฉันฟังอยู่น่า ซูเนโอะ.... งั่มๆๆๆๆๆๆๆ"
ไจแอนท์ตอบทั้งๆที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปากก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารต่อ ดูท่าทางพี่แกจะอดอยากมากหลังจากที่พึ่งผ่านประสบการณ์ตะลุยกับฝูงซอมบี้และสัตว์ประหลาดจากเมือง R มาเมื่อวันก่อน
"โถ่ ไจแอนท์!"
ท่าทางซูเนโอะคงจะรู้ว่าไจแอนท์ไม่ได้ฟังสิ่งที่เดคิสุงิพูดเรื่องซีเรียสออกมาเมื่อกี้จริงๆ เพราะดูท่าไจแอนท์จะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
"ถ้ายังงั้นล่ะก็...เราก็ลองสำรวจเมืองนี้กันก่อนดีไหม
เผื่อว่าจะได้หาทางรับมือป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา"
ชิสุกะเป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้น
"อืม มันก็เป็นความคิดที่ดีน่ะนะ แต่ว่ามันคงจะไม่สามารถทำได้ง่ายขนาดนั้นหรอก"
โดราเอม่อนกำลังพิจารณาความเห็นของชิสุกะ ว่ามันยังมีจุดบกพร่องอยู่เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จู่ๆเด็กที่ถูกอัมเบรล่าหมายหัวอย่างพวกเขาจะเข้าไปเดินป้วนเปี้ยนแถวๆห้องลับนั่น
นอกจากนั้นโดราเอม่อนยังให้ข้อมูลเสริมอีกว่า...
"แถมเมื่อเช้านี้ก็มีข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการรั่วไหลของสารพิษบางอย่างที่เจือปนในน้ำด้วย
ฉันคิดว่าถ้าจะสำรวจเมืองนี้คงต้องระมัดระวังกันหน่อย"
ในตอนนั้นเองไจแอนท์ที่กินอาหารอยู่จึงพูดขึ้นมาว่า....
"เออ...เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะน่า ยังไงวันนี้ทุกคนก็คงจะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
รีบกลับไปนอนพักกันที่โรงแรมดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันอีกที"
ทางด้านเดคิสุงิก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ไจแอนท์พูด เพราะว่าในตอนนี้พวกเขาทุกคนเองก็เหนื่อยกันมามากกับการตรวจสอบหลักฐานมาพออยู่แล้ว เขาจึงถอนหายใจพร้อมกับยิ้มออกมา
"นั่นสินะ งั้นเอาเป็นว่าเรื่องวันนี้น่ะพอแค่นี้ก่อน
พวกเราควรจะนอนหลับให้เต็มที่ไว้ตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ดีกว่า"
"ดังนั้นก็..รีบกลับโรงแรมกันเถอะ..."
"อืม.. วันนี้พอแค่นี้ดีกว่า"
เมื่อเห็นว่าไม่มีการทำงานที่เสี่ยงภัยอันตรายอีกแล้ว ซูเนโอะจึงยิ้มออกมา...
"นะ นั่นสินะ...และอีกอย่าง พวกเราก็เช็คอินกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นรีบกินรีบกลับเถอะ"
"อือ...เข้าใจแล้วล่ะ"
"อืม..ก็ดีนะ"
"ตอนนี้ทุกอย่างก็ยังปกติดีอยู่ดังนั้นทุกคนไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ
ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก"
ไจแอนท์เช็ดปากตัวเองหลังจากที่กินอาหารในจาน (ที่มีมากกว่า 1 จาน) จนหมด
"...อิ่มแล้ว!! ถ้างั้นขอตัวกลับก่อนนะ! เอาล่ะซูเนโอะ แกต้องกลับไปกับฉัน.."
"เอ๋!? ตอนนี้เลยเหรอ แต่ฉันยัง.."
ซูเนโอะไม่กล้าพูดต่อว่าตัวเองยังกินไม่เสร็จ..แต่เมื่อได้เห็นท่าทีมองเหล่ๆของไจแอนท์ลึกๆ
"อ่า ช่างเถอะ กลับก็กลับเนอะแอ้นท์"
แล้วซูเนโอะกับไจแอนท์ก็เดินออกจากร้านไป ซึ่งหลายคนได้แอบเห็นสีหน้าเสียดายปนร้องไห้ของซูเนโอะไว้เบื้องหลัง ดูท่าว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ลองของเด็ดๆในร้านนี้เลยด้วยซ้ำ
(อยากลองกิน XXX ร้านนี้สักครั้งอ่า.....)
และคนที่จะเดินออกจากร้านเป็นคนต่อไปคือ...
"ถ้างั้นก็ตาฉันแล้วสินะ...."
คนที่ทานอาหารเบื้องหน้าหมดเป็นคนต่อไปก็คือเซย์นะ...ตอนนี้เธอพร้อมที่จะเดินทางกลับไปยังโรงแรมแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น..
"ว่าไง ชิสุกะจัง เธอจะเดินไปกับฉันไหม"
"เอาสิๆ จะไปที่นั่นก่อนใช่ม้า..
ถ้างั้น...โนบิตะ โดราเอม่อน ขอตัวก่อนนะ"
"อือ แล้วเจอกันนะ"
แต่โนบิตะเองก็สงสัยในคำพูดของสองสาว
"เอ.... ว่าแต่ว่า ทั้งสองคนจะไปไหนก่อนเหรอ"
"ฮิฮิ...ความลับค่ะ"
"ยังไงก็แล้วแต่ก่อนกลับโรงแรม ฉันขอเดินออกไปสังเกตการณ์รอบเมืองนี้สักรอบนึงก่อนละกัน..
แล้วโนบิตะคุงล่ะ จะเอายังไงต่อ..?"
เดคิสุงิหันมาถามโนบิตะ
"เอ่อ คือ ฉันยังทานอาหารไม่หมดเลยน่ะนะ ถ้าทานเสร็จแล้วฉันจะรีบกลับไปโรงแรมทันที
แล้วโดราเอม่อนล่ะ?"
โดราเอม่อนที่ทานโดรายากิในจานหมดแล้วจึงพูดออกมาว่า...
"สำหรับฉันอยากจะเดินออกไปตรวจดูสถานการณ์โดยรอบพร้อมกับเดคิสุงิคุงน่ะนะ"
"ขอบคุณมาก...เอาเป็นว่าฉันกับโดราเอม่อนขอตัวก่อนแล้วค่อยตามกลับไปที่โรงแรมทีหลังนะ
แล้วเจอกัน โนบิตะคุง"
แล้วเดคิสุงิกับโดราเอม่อนก็เดินทางออกจากร้านไป....
ในตอนนี้มีเพียงโนบิตะคนเดียวเท่านั้นที่นั่งทานอาหารอยู่ในร้านตามลำพัง
ถึงโนบิตะจะเป็นคนที่ชักช้ามาก แต่ก็ไม่ถึงขนาดกินอาหารช้าขนาดนั้น เขากำลังนั่งทานอาหารไปพร้อมกับครุ่นคิดถึงเรื่องที่เขากับพวกเพื่อนจะต้องออกสำรวจสถานที่ที่มีการทดลองลับของอัมเบรล่าในเมืองนี้ในวันรุ่งขึ้นที่จะถึง
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของอัมเบรล่าทุกครั้ง มักจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นตามมาเสมอ ทั้งคนที่พวกเขารู้จัก ทั้งสิ่งรอบตัวนั้นได้ย่ำแย่ลงไปหมด ราวกับนรกฝันร้ายที่รายล้อมอยู่รอบตัวเขา
โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาผจญภัยในแดนนรกที่เมือง R เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาย่อมรู้ถึงความโหดร้ายของนรกบนดินได้เป็นอย่างดี ขนาดมีแค่ 3 คน เขายังเกือบที่จะต้องสูญเสียเพื่อนของเขาทั้งเซย์นะและไจแอนท์ไป มันจะดีหรือเปล่าที่เขาต้องพาเพื่อนๆมาเสี่ยงอันตรายครั้งนี้ มันควรจะเป็นหน้าที่ของเขาเพียงคนเดียวหรือเปล่า...
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นดูสับสนไปหมด เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขาใช้เวลาไปกับอาหารเบื้องหน้าของเขาไปนานสักเท่าไหร่ แม้แต่บรรยากาศของเหตุการณ์ที่อยู่ส่วนหน้าของร้าน เขาไม่รู้อะไรเลยว่ามีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น...
บริเวณทางเข้าด้านหน้าของร้าน มีชายท่าทางแปลกๆ เดินโซซัดโซเซเข้ามา...
"วันนี้มีลูกค้าแปลกๆด้วยแฮะ..."
ชายที่เป็นเจ้าของร้านอาหารรู้สึกแปลกใจ และไม่ค่อยไว้ใจลูกค้าคนนี้มากนัก
แต่ก็ต้องเดินเข้าไปหาตามหน้าที่
จนมองเห็นใบหน้าที่ดูเละเทะและน้ำลายไหลย้อยของชายประหลาดคนนั้น แต่แล้วก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น!!!
จู่ๆ ชายคนนั้นก็พุ่งเข้างับไหล่เจ้าของร้านจนเลือดพุ่งสาดกระจายทันที...
เจ้าของร้านพยายามฝืนดันลูกค้าคนนั้นออกไปข้างนอกร้าน
พร้อมกับล็อกประตูในทันที!!!
เขาเองก็ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก แต่ถึงกระนั้้นเขาก็ยังทำตามหน้าที่ต่อไป และนึกขึ้นได้ว่า ภายในร้านของเขายังมีเด็กคนหนึ่งกินอาหารอยู่ ทางที่ดีควรจะเข้าไปเตือนให้เขารีบกลับบ้านดีกว่า...
หลังจากนั้น ชายเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปในห้องด้านในที่โนบิตะกำลังนั่งกินอาหารอยู่
"เฮ้!! ไอ้หนู!! นี่มันเย็นมากแล้วนะ...รีบกลับบ้านไปได้แล้วนะ!!"
"อ้ะ... ขอโทษครับ คือแบบว่าผม...."
แต่แล้วโนบิตะก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณไหล่ของเจ้าของร้านคนนั้น
"ละ...ไหล่คุณ..."
"อ้อ...ไอ้บาดแผลนี่น่ะเหรอ เมื่อกี้มีลูกค้าท่าทางแปลกๆเดินเข้ามาในร้านแล้วก็งับฉันอย่างแรงเลยล่ะ... ..."
นอกจากนี้เขายังเตือนให้โนบิตะระวังตัวคนแปลกๆข้างนอกนั่นด้วย ถ้ากินข้าวเสร็จแล้วขอให้รีบกลับเข้าไปในบ้านทันที
"คนท่าทางแปลกๆงั้นเหรอครับ? ....เรื่องแบบนั้นมัน...?"
โนบิตะรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย เพราะถ้าหากว่ามีคนแปลกๆแล้วจู่ๆกระโดดเข้ามางับคนเบื้องหน้า ตามประสบการณ์เขาแล้วมันก็มีแต่...
ตึง!!!!!!!
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะบางอย่างดังขึ้นที่หน้ากระจกร้าน
และสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นคือ...!!!
"เหวอ!!!!!"
ในที่สุดโนบิตะก็เข้าใจแล้ว....ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
...เขาได้รู้แล้วว่าฝันร้ายของเขาได้หวนกลับมาอีกครั้ง....
บริเวณด้านนอกของร้านนั้นถูกฝูงซอมบี้ยืนล้อมไว้หมดแล้ว!!
ตามคลิปนี้
"ฮะ...เฮ้ยยยยยย!? ไอ้คนพวกนี้มันพวกบ้าอะไรเนี่ย!?"
โนบิตะรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขาจึงตะโกนเรียกเจ้าของร้านให้เดินหนีเข้าไปด้านใน ส่วนตนเองก็รียล่วงหน้าเดินเข้าไปหยิบสเปรย์ปฐมพยาบาลกับมีดปลอกผลไม้ด้านในไว้เป็นอาวุธติดตัวก่อน
"คุณน้าเจ้าของร้าน!!!"
แต่ปรากฏว่าเจ้าของร้านกลับไม่ยอมเดินเข้าไปด้านในตามที่โนบิตะเรียก โนบิตะจึงรีบวิ่งเข้ามาดึงตัวเจ้าของร้านให้ไปด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของร้านจะยืนตัวแข็งทื่อช็อกกับภาพฝูงชนแปลกๆเบื้องหน้า
"รีบหนีไปเร็วสิครับ!! คุณเจ้าของร้าน เดี๋ยวพวกนั้นมันก็..."
แต่ปรากฏว่าโนบิตะไม่สามารถดึงตัวเจ้าของร้านเข้าไปข้างในได้ แถมยังถูกเขาผลักล้มลงไปด้านหลังอีก และในตอนนั้นเอง...
ตึง!!!!
ในที่สุดพวกซอมบี้ก็พังประตูหน้าร้านเข้ามาจนได้ ทำให้เจ้าของร้านตกใจกระเด็นล้มลงไปกองกับพืนและทำอะไรไม่ถูก
"วะ เหวอ!? พวกแกจะทำอะไรน่ะ!! อย่านะโว้ย!! อย่าเข้ามา!!! ใครก็ได้ ช่วย..."
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
และแน่นอนว่าเจ้าของร้านถูกพวกฝูงซอมบี้รุมจับกดและกัดกินร่างกายจนเละเทะต่อหน้าต่อตาโนบิตะ!!!
"โถ่เว้ย!!!"
ระหว่างที่พวกซอมบี้กำลังกัดกินร่างของเจ้าของร้านอยู่ โนบิตะได้สังเกตเห็นกุญแจบางอย่างตกลงมาข้างๆพื้นใกล้กับศพเจ้าของร้าน
มันคือกุญแจสีดำที่มีชื่อว่า กุญแจห้องพนักงานร้าน (สต๊าฟรูมคีย์)
นอกจากนี้ โนบิตะลองล่อพวกซอมบี้ให้วิ่งออกมาติดโต๊ะด้านนอกก่อนจะเข้าไปสำรวจกระเป๋ากางเกงศพเจ้าของร้าน
และก็ได้กุญแจไขตู้ล็อกเกอร์ A มา 1 อัน
หลังจากนั้นพวกซอมบี้ก็ได้บุกเข้ามาในร้านมากขึ้นเรื่อยๆ โนบิตะจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องด้านในทันที
"ห้องน้ำชายงั้นเรอะ!?"
ห้องที่โนบิตะเดินเข้ามานั้นคือห้องน้ำชาย เขาหวังว่าประตูกระจกที่อยู่ในห้องน้ำจะสามารถพาเขาหนีออกไปข้างนอกได้
"เหวอ!!!!"
พร้อมกับมีซอมบี้ตัวหนึ่งกระโจนเข้ามา ซอมบี้ได้งับเข้าไปที่คอของตำรวจคนนั้นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจคนนั้นหันปากกระบอกปืนลั่นไกใส่หัวซอมบี้ตัวนั้นพอดี
ซอมบี้ถูกตำรวจคนนั้นยิงจนตายและขณะเดียวกัน ตำรวจคนนั้นก็เสียเลือดที่คอมากจนล้มตายลงไปด้วย
"ดูท่าว่าทางนี้คงจะหนีไม่ได้แล้ว"
โนบิตะรีบเดินเข้าไปสำรวจศพของตำรวจคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดเขาก็ได้อาวุธปืนสำหรับป้องกันตัวนั่นคือ ปืนพก SIG P210
นอกจากนี้ยังได้แม็กกาซีนกระสุนสำรองอีก 3 แม็กกาซีน
โนบิตะรีบเดินออกเปลี่ยนไปเป็นห้องน้ำหญิงบ้างและพบว่าที่นี่มีเพียงสมุนไพรสีเขียว กรีนเฮริ์บเท่านั้น เขาจึงเก็บมันขึ้นมาด้วย
โนบิตะจึงรีบเดินออกจากห้องน้ำและใช้กุญแจสีดำสต๊าฟรูมคีย์หนีเข้าไปยังด้านในของร้านอาหารทันที
ซึ่งถ้าเป็นภาคเอาท์เบรคจะเห็นได้ว่าคนที่ถูกซอมบี้กัดในตอนแรกได้ฟื้นขึ้นมากลายเป็นซอมบี้ไปเรียบร้อยแล้ว
โนบิตะรีบวิ่งเข้าไปยังด้านในและมุ่งหน้าขึ้นไปยังชั้น 2 โดยที่ระหว่างทางนั้นมีเสียงของพวกซอมบี้ร้องระงมไปทั่วบริเวณ
ที่ด้านบนชั้น 2 โนบิตะรีบเข้าไปสำรวจห้องที่ใกล้ที่สุด เพื่อที่จะพยายามหาทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด
ภายในห้องนั้นไม่มีทางที่จะออกไปได้เลย แต่อย่างน้อยก็มีเอกสารบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ
มันคือ บันทึกของพนักงาน (Staff Diary)
ข้อมูลโดยคร่าวๆเขียนบอกไว้ประมาณว่า...
พนักงานที่อยู่ที่นี่ (ที่เขียนบันทึกนี้) รู้สึกเกลียดพวกเด็กซนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นข้างร้านอาหารแห่งนี้มาก ซึ่งเจ้าพวกเด็กบ้านั่นชอบปีนข้ามหลังคาเข้ามาในห้องแห่งนี้
เหล่าพนักงานพยายามหาวิธีสกัดกั้นไว้หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงทำการล็อกประตูทางเข้า-ออกดาดฟ้าไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าพวกเด็กบ้านั่นก็ชอบมาทำเสียงโครมครามบนร้านแห่งนี้ทุกที
หลังจากอ่านข้อความจบทำให้โนบิตะรู้ทันทีว่า ยังมีทางออกอีกแห่งหนึ่งซึ่งก็คือดาดฟ้าของตึกนี้ที่น่าจะมีทางเชื่อมกับตึกอีกฝั่งหนึ่ง แต่ก็ทำให้เขาทราบข่าวร้ายด้วยว่า... ทางขึ้นไปยังดาดฟ้าแห่งนี้นั้น
ถูกล็อกอยู่....
"โถ่เว้ย!! ให้มันได้อย่างงี้สิ!!"
โนบิตะสังเกตเห็นศพที่อยู่ใกล้กับประตูที่ใช้ออกไปยังดาดฟ้านั้น เขาจึงลองสำรวจดูและได้กุญแจล็อกคเกอร์ดอกที่ 2 (B) เพิ่มมาอีกดอกหนึ่ง
โนบิตะรีบเดินเข้าไปในห้องฝั่งตรงข้าม ซึ่งเขียนชื่อป้ายไว้ว่าเป็นห้องเก็บของ...
ภายในห้องนั้นมีตู้ล็อกเกอร์จำนวนมาก... เขาคิดว่ากุญแจตู้ล็อกเกอร์ทั้ง 2 ดอกนั้นอาจจะไขตู้ใดตู้หนึ่งที่น่าจะมีของมีประโยชน์ในห้องนี้ได้ และในตอนนั้นเอง...
ก็มีพวกซอมบี้เดินเปิดประตูตามเขาเข้ามาในห้อง
ในที่สุดมันก็ต้อนเขาจนมุม...
"แย่แล้ว.....!!!"
โนบิตะพยายามจะยกปืนพกขึ้นยิงพวกซอมบี้ที่เดินตามเข้ามา และในตอนนั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกมึนหัว...มันมากขึ้นพอที่จะทำให้เขาปล่อยปืนลงกับพื้นและโซซัดโซเซไปตามผนังจนติดมุม
"อุ้บ!! มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย โถ่เว้ย ดันมาปวดหัวในเวลาแบบนี้"
โนบิตะไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้นัยน์ตาของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีแดง...ดูเหมือนว่าไวรัสที่อยู่ในร่างกายของเขาจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น...
แต่สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือต้องจัดการพวกซอมบี้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาก่อน... เขาจึงล้วงมือหาอาวุธที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงดูและพบว่านอกจากมีดปลอกผลไม้แล้ว เขายังมีมีดอีกชนิดที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย นั่นคือ บัตเตอร์ฟลายไนฟ์ (Butterfly Knife) ที่เคนจิเป็นคนให้มาเมื่อ 5 เดือนก่อน!!!
"เอาล่ะ...ทีนี้ก็"
โนบิตะกำมีดทั้ง 2 ไว้ในมืออย่างมั่นคง มีดปลอกผลไม้ไว้ที่มือขวา และมีดบัตเตอร์ฟลายไนฟ์ไว้ในมือซ้าย ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าใส่ซอมบี้ด้วยความเร็วสูง
การเคลื่อนไหวของซอมบี้นั้นเชื่องช้ากว่าโนบิตะมากพอสมควรอีกทั้งโนบิตะในตอนนี้มีความเร็วเหนือมนุษย์มาก เขาจึงกระหน่ำแทงพร้อมกับหลบการยื่นมือเข้ามาจับของพวกซอมบี้ได้อย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังร่ายรำด้วยมีด
ชั่วพริบตา!! หัวของซอมบี้ตัวแรกก็ขาดกระเด็นออกจากกันด้วยการกระหน่ำแทงมีดของโนบิตะด้วยความเร็วสูงรวมไปจุดเดียวที่คอ!!!
โนบิตะวิ่งกระโจนตัดหน้าซอมบี้ที่เหลืออีก 2 ตัวด้วยความไวสูงก่อนจะหมุนตัวระบำมีดปาดเข้าใส่คอของพวกมันอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนคอขาดกระเด็นหายไป ก่อนที่จะลงมาตั้งท่าบนพื้นอย่างสวยงาม
คลิปประกอบการต่อสู้
จากนั้นเขาก็พยายามลุกขึ้นยืน แต่มันปวดหัวมาก เขาจึงรีบหยิบกรีนเฮิร์บขึ้นมาเคี้ยวในปาก...ถึงแม้มันจะมีรสชาติขมแต่มันก็ช่วยเขาได้มาก แล้วในที่สุด ดวงตาของเขาก็กลับมาสู้ในสภาวะปกติ...
"คะ ค่อยยังชั่วหน่อย....ว่าแต่ อาการแบบนี้มันอะไรกัน? ทำไม...."
โนบิตะรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มมีความผิดปกติทางร่างกาย...
ใช่ เขารู้จักอาการแบบนี้มาก่อน.... เขาทราบดีว่า เขาเคยติดเชื้อที-ไวรัส และก็ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีโดยการฉีดวัคซีนเข้าไปแล้ว...แต่มันก็จะแสดงผลแบบนี้ออกมาทุกครั้งที่บริเวณรอบข้างมีการแพร่กระจายของเชื้อที-ไวรัสมากขึ้น หรือจะพูดให้ถูกคือ...
ตอนนี้เขาได้ติดเชื้อที-ไวรัสอีกครั้ง ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ได้ถูกพวกสัตว์ประหลาดหรือซอมบี้ทำร้ายมาก่อนตอนที่อยู่ในเมืองนี้...?
โนบิตะไม่อยากคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเป็นไปได้...
เชื้อไวรัสที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ไม่ได้มีแค่การถูกทำร้ายโดยพวกสัตว์ร้ายพวกนั้น แต่อาจจะแพร่กระจายอยู่ในน้ำหรืออากาศได้ด้วย ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นน้อยมาก แต่มันก็อาจจะเป็นเช่นนั้นได้...
แค่อยู่ในเมืองนี้เฉยๆ โดยไม่ถูกกัดหรือถูกทำร้าย เขาก็ติดเชื้อที-ไวรัสเสียแล้ว...และเพื่อนๆของเขาล่ะ...ถ้าหากเพื่อนๆของเขายังอยู่ในเมืองนี้ด้วยพวกเขาก็คงจะ....ติดเชื้อกันหมดแล้ว...
โปรดติดตามการผจญภัยของโนบิตะในตอนต่อไป.......
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 1 - part 2
เพิ่มเติม ตรงนี้จะมีไซด์สตอรี่ของเซย์นะอยู่ลองอ่านดูได้
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) : Side Story ภาคเซย์นะ
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 1 - part 2
เพิ่มเติม ตรงนี้จะมีไซด์สตอรี่ของเซย์นะอยู่ลองอ่านดูได้
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) : Side Story ภาคเซย์นะ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น