" />

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 22.5] - ฉากจบอีกแบบหนึ่งของเกม [Bad Ending]

อันที่จริงแล้วในภาค 2 ก็ยังมีฉากจบของเกมอีกแบบหนึ่งด้วย....ซึ่งต้องขอขอบคุณคุณ  Holina Sylph ที่่อุตส่าห์เล่นฉากจบนี้ให้เราดู.....

ซึ่งเงื่อนไขฉากจบแบบนี้คือการเลือกทางเลือกในอีเว้นต์ที่เกิดขึ้นใน [เนื้อเรื่องส่วนที่ 18]





ในตอนที่ถึงสะพานแล้วจะมีฮันเตอร์ไล่ตามเรามา..



ซึ่งจะมีทางเลือกอยู่ 2 ข้อให้เลือก ระหว่าง...
- กระโดดหนีลงไปด้านล่าง
- ผลักฮันเตอร์ให้ตกลงไป

การเลือกตรงนีมีผลต่อฉากจบของเกม ซึ่งถ้าหากเลือกผลักฮันเตอร์ให้ตกลงไป



ฮันเตอร์ก็ถูกโนบิตะถีบให้ตกลงไปข้างล่างอย่างง่ายดาย


และโนบิตะก็เดินไปตามสะพานเพื่อเข้าทางด้านหน้าของโรงงาน


จุดเริ่มต้นของโรงงานจะเปลี่ยนไป..


และก็มีประกาศแจ้งเตือนเช่นเดิม...

ส่วนปริศนาต่างๆในโรงงานนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างจะมาเปลี่ยนอยู่อย่างเดียวคือฉากจบหลังจากขึ้นเฮลิคอปเตอร์

เพราะตอนที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ได้นั้นเป็นเวลาที่จรวดถูกยิงเข้ามาในเมืองพอดี

**การเข้าด้านหน้าโรงงานตามเนื้อเรื่องจริงส่งผลให้เวลาที่ใช้ในการปลดล็อกระบบต่างๆมากขึ้นดังนั้นเนื้อเรื่องจึงเปลี่ยนไป พวกเขาจึงออกมาจากโรงงานช้ากว่ากำหนดมาก



"มันจบแล้วสินะ...."

โนบิตะเริ่มเอ่ยปากออกมา....



"อือ...จบแล้วล่ะ พวกเราได้รับการช่วยเหลือแล้ว..."

โอทากะที่ยืนอยู่ฝั่งประตูด้านหลังพูดออกมา



"เฮ้...เจ้าหนูมาดูอะไรนี่สิ..."

ตอนนั้นเองโอทากะก็เรียกให้โนบิตะออกมายืนดูหน้าต่างในบริเวณที่เขาอยู่

"...ตอนนี้ถึงรุ่งเช้าแล้วล่ะ..."




โนบิตะจึงเดินออกไปหาโอทากะและมองไปยังท้องฟ้าผ่านทางกระจกหน้าต่างด้านหลัง ซึ่งมันเป็นเวลาเช้าแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว



"..ตอนนี้มิสไซล์คงจะถูกยิงออกมาแล้วล่ะนะ...อีกไม่นานเมือง R แห่งนี้ก็จะถูกทำลายจนราบเป็นนาบกลอง... พวกผู้รอดชีวิตที่ยังหลบซ่อนอยู่ในเมือง R คงจะหนีออกมาไม่ทันแล้วล่ะ..."




"ทำไมถึงต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย!?"

โนบิตะรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่โอทากะพูด..เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า..เรื่องแบบนี้กำลังจะเกิดขึ้นได้...



"เมืองแห่งนี้และประชากรอีกกว่าหมื่นชีวิตในเมือง..พวกเขาคงจะไม่มีโอกาสรอดออกมาแล้วล่ะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าพวกนั้นจะเลือกวิธีแบบนี้ได้..."

โอทากะเองก็รู้สึกเจ็บใจที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย..พวกเขาไม่มีอำนาจมากพอที่จะหยุดยั้งแผนการทำลายล้างเมืองได้


"ทั้งผู้พัน ทั้งโรวฮะเองก็ต้องตายที่เมืองนี้เหมือนกับพวกเขา....ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่านี้ล่ะก็..."

โอทากะเริ่มกัดฟันอดทนกับความรู้สึกนั้น...




"......"

โนบิตะเองก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจโอทากะอย่างไรดี....เพราะตอนนี้โนบิตะเองก็ตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกัน... เขาเองก็ยังมีเพื่อนของเขาอีกคนที่อยู่ในเมืองนี้....

เขาไม่ทราบชะตากรรมของไจแอนท์เลยว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร...ถ้าหากไจแอนท์ยังอยู่ในเมืองนี้ล่ะก็ เขาคง....



อันนี้คือจุดเปลี่ยน....ของฉากจบ...
"เมื่อถึงเวลานั้น..ทุกคน...ทุกคนต้องตายหมดยังงั้นเหรอ..."


โนบิตะจึงหันมามองทางเซย์นะ


"ตอนนี้ฉันน่ะ...ฉันน่ะ..ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว...จะอยู่ไปเพื่ออะไรกัน
ทั้งคุณพ่อ...ทั้งคุณแม่....และทุกคน....ก็ไม่เหลือแล้ว"



โนบิตะรู้สึกตกใจมากที่ไม่คิดมาก่อนว่าเซย์นะจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา...


"ฉันน่ะ.....ทำไม... ทุกคน.....คุณพ่อ...ฮึก..ฮึก"

ดูเหมือนว่าเซย์นะกำลังจะร้องไห้ออกมา


และในตอนนั้นเองก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างแรง


อันเกิดจากการที่มิสไซล์ได้ระเบิดเข้าถล่มเมือง ซึ่งทุกคนมัวแต่สนใจเซย์นะอยู่เลยไม่ได้มองมิสไซล์ที่พุ่งมา


"เฮ้ย!!! อะไรวะนั่น!?"

นักบินตะโกนร้องออกมา หลังจากได้รับแรงสั่นสะเทือน แต่ก็ยังขับเฮลิคอปเตอร์ต่อไปได้

ดูเหมือนว่าการขับเฮลิคอปเตอร์ออกมาในครั้งนี้จะไม่มีไจแอนท์ติดมาด้วย...เขาคงถูกทิ้งไว้ในเมืองที่ถูกระเบิดไปเมื่อสักครู่แล้ว



"...คิดแบบนั้นน่ะ มันดีแล้วเหรอ...?"

โอทากะเริ่มเอ่ยปากออกมา



"เอ๋?"


หลังจากนั้นโอทากะจึงหันหน้ามามองเซย์นะด้วยสีหน้าที่โกรธสุดขีด..

"อยากตายงั้นเหรอ....ทั้งๆที่ ผู้พันฮารุนะและโรวฮะช่วยเธอไว้ขนาดนี้แท้ๆ.....ยังจะมาพูดแบบนี้งั้นเหรอ! พวกเขาคงจะดีใจมากเลยล่ะ ที่รู้ว่าคนที่ช่วยพวกเขายอมสละชีวิตเพื่อช่วยมาอยากตายขนาดนั้น"

โอทากะพูดประชด...


"เรื่องพ่อแม่ของเธอจะเป็นอย่างไร ฉันไม่รู้หรอกนะ...แต่ว่าพวกเขาคงไม่ดีใจแน่ๆ ที่เห็นลูกสาวของพวกเขาเป็นแบบนี้น่ะ... พวกเขาก็อยากให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนที่ส่วนของพวกเขาเหล่านั้น..นั่นคือสิ่งที่พวกเขาปราถนาไม่ใช่เหรอ!!?"


"เธอเนี่ยน่าสมเพชชะมัดที่คิดว่าชีวิตของตัวเองไร้ค่าจนอยากตายขนาดนั้น รู้งี้ฉันไม่น่ามาช่วยคนแบบเธอเลย...ปล่อยให้ตายๆไปกับระเบิดซะก็ดี...ถ้าเธอยังมีความรู้สึกแบบนี้ต่อไป เธอก็ไม่สามารถที่จะอยู่ต่อไปได้หรอกนะ"



(........................)

เซย์นะถึงกับจุกจนพูดอะไรไม่ออก...


"เพราะงั้น...เลิก [โทษตัวเอง] ได้แล้ว!! เธอน่ะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อพวกเขาสิ!!"


ตอนนั้นโอทากะพึ่งสังเกตเห็นว่า เซย์นะจะเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า

"อ้ะ.....ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าฉันจะพูดแรงไปหน่อย"


.................................

โนบิตะในตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก


"ทะ ทุกคน...ฉัน...ฉันนี่มัน.."

เซย์นะได้หันหลังเข้าเบาะที่นั่งก่อนที่จะ...

"โฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

เซย์นะถึงกับร้องไห้โฮออกมาเพราะเธอรู้สึกผิดอย่างมาก


"อ่า.....แย่ล่ะสิ.... ขอโทษนะ...เจ้าหนู....ช่วยไปปลอบเด็กคนนั้นทีสิ"

โอทากะพยายามเกลี้ยกล่อมให้โนบิตะไปปลอบเซย์นะ


"ไม่ล่ะครับ แบบนี้แหละดีแล้ว  ปล่อยให้เธอร้องไห้ออกมาแบบนี้คงจะดีกว่า.."


"ขอโทษนะ"

โอทากะยังรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกมา


หลังจากนั้นเขาจึงหันกลับไปมองทางหน้าต่างด้านหลัง อดีตเมือง R บัดนี้ได้กลายเป็นทุ่งราบโล่งอันเนื่องมาจากมิสไซล์นั่น เขากำหมัดแน่น

"โรวฮะ....ผู้พันฮารุนะ.....โถ่เว้ย!!! บัดซบเอ้ย!!! "


โอทากะเองก็ไม่ต่างจากเซย์นะเท่าไหร่ เขาก็ยังทำใจกับการที่ไม่สามารถช่วยเหลือพวกพ้องของเขาได้เช่นกัน

และในตอนนั้นเองโนบิตะจึงเริ่มพูดออกมาว่า...

"อัมเบรล่า....ฉันจะต้องจัดการถอนรากถอนโคนมันให้ได้!!"



แล้วเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินออกจากเมือง R ไปโดยที่ไม่มีไจแอนท์ไปด้วย


คลิปบทสรุปเนื้อเรื่องนี้



มันคงเหมือนกับฉากจบใน RE3 อีกแบบเช่นกัน ซึ่งก็คือ
แทนที่แบร์รี่ เบอร์ตัน (Barry Burton) จะขับเฮลิคอปเตอร์มารับคาร์ลอสกับจิล
คาร์ลอสกลับรับบทเป็นคนขับเฮลิคอปเตอร์แทน





พวกเขากับผองเพื่อนคงจะต้องฝืนสู้ต่อไปโดยที่ไม่มีไจแอนท์อีกแล้ว...
เซย์นะกับโอทากะเองก็เริ่มสิ้นหวังและไม่มีใจสู้


ขอต้อนรับสู่ฉากจบแบบ Bad Ending

แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2556 เวลา 08:42

    ไจแอนท์ไม่รอดขึ้นมาจนถึงดาดฟ้าสินะ

    ตอบลบ
  2. แค่ไจแอนมันเดินร้องเพลงมันก็น่าจะเดินออกเมืองมาแบบชิวๆเลยมัง

    ตอบลบ