" />

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 2 - part 4 (Final part)

ยามเมื่อน้ำแข็งละลาย

เหล่าอาวุธชีวภาพที่ถูกแช่แข็งไว้จึงได้ตื่นขึ้น...

การหลบหนีออกจากสถาบันวิจัยใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!

โนบิตะจะสามารถเอาชีวิตรอดออกมาจากสถานที่แห่งนั้นได้หรือไม่ ในที่สุดก็มาถึงบทสรุปเสียที


Chapter 2 - Outbreak [Part 4 - Final Part]
อสุรกายใต้น้ำแข็งคืนชีพกับการหลบหนีครั้งใหญ่




"สำเร็จ! อากาศอุ่นขึ้นแล้ว!!"

โนบิตะสามารถเปิดการทำงานฮีทเตอร์และเครื่องระบายอากาศของห้องปรับอุณหภูมิได้สำเร็จ ซึ่งมีผลทำให้ไอเย็นที่กระจายอยู่ทั่วตามสถาบันวิจัยหายไปทั้งหมดซึ่งมีผลทำให้..น้ำแข็งบริเวณต่างๆละลายลงไป ซึ่งพวกก้อนน้ำแข็งที่เขาพบตามสถาบันวิจัยนั้นคือ..



ก๊าซซซซซซซซ!!!!!!!!!!

โนบิตะได้ยินเสียงขู่ร้องคำรามดังออกมาจากนอกห้องจำนวนมาก

"เสียงแบบนี้มัน....เจ้าพวกนั้นนี่นา...หรือว่า...เจ้าพวกที่อยู่ในน้ำแข็งก็..!!"


โนบิตะจึงได้หยิบปืนลูกซองมาไว้ในมือพร้อมกับรีบเดินออกไปนอกห้องทันที


โนบิตะรีบเดินก้าวออกมายังทางเดินและก็พบกับ...


"เจ้าพวกฮันเตอร์ที่อยู่ในน้ำแข็งมันยังไม่ตายเหรอเนี่ย!!"


ฮันเตอร์ทั้ง 2 ตัวรีบวิ่งเข้ามาโจมตีโนบิตะ เขาจึงใช้ปืนลูกซองยิงจัดการมันทั้งคู่อย่างรวดเร็ว!!


โนบิตะจัดการฮันเตอร์ที่บุกเข้ามาอย่างง่ายดาย เขารู้สึกว่าพวกฮันเตอร์พวกนี้ดูเหมือนจะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าพวกฮันเตอร์ที่พวกเขาเคยเจอมาก่อนหน้านั้นมาก อาจจะเป็นเพราะว่ามันพึ่งตื่นจากการถูกแช่แข็งก็ได้

"เจ้าพวกนี้เคยอยู่ในน้ำแข็งเมื่อกี้สินะ ถ้างั้นก็....พวกที่เหลือก็คง..."

โนบิตะภาวนาไม่ให้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูก้าวออกมายังห้องโถงหลัก เรื่องร้ายๆที่เขาคิดไว้ได้กลายเป็นจริง...เหล่าฮันเตอร์ที่เคยถูกแช่แข็งในก้อนน้ำแข็งได้คืนชีพขึ้นมาหมดแล้ว!!!


"ต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!!!"

โนบิตะใช้ปืนลูกซองยิงสกัดฝูงฮันเตอร์ตามทางและรีบมุ่งหน้าขึ้นไปยังรถรางไฟฟ้าอย่างเร็ว ซึ่งรถรางไฟฟ้าในตอนนี้ได้รับความร้อนจนละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่บริเวณรอบข้างละลายไปหมดแล้ว


โนบิตะรีบเปิดประตูก้าวขึ้นมาบนรถรางพร้อมกับเดินไปที่แผงควบคุมรถทันที...ตอนนี้สวิตช์ปุ่มต่างๆรวมถึงคันโยกสามารถใช้งานได้แล้ว...


แต่ว่ามันไม่สามารถทำงานได้เนื่องจาก....


"ตายหอง!! ลืมกุญแจ!!"


เมื่อนึกขึ้นได้ เขาจึงรีบวิ่งออกมาจากรถรางพร้อมกับวิ่งหนีพวกฮันเตอร์ที่อยู่ตรงห้องโถงหลัก โชคดีที่ว่าฮันเตอร์พวกนั้นยังคงเคลื่อนที่ได้ช้าอยู่เนื่องจากพึ่งฟื้นขึ้นมาจากน้ำแข็ง โนบิตะจึงหนีพวกมันออกมาจนถึงทางเดิน...

บริเวณหน้าห้องที่มีเจ้าหมาสามหัวตัวร้ายเซลเบรอส เคยถูกแช่แข็งอยู่...




"ถ้าจำไม่ผิดแถวนี้มัน.....ต้องรีบไปให้เร็วที่สุด!!"

โนบิตะต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับเจ้าตัวร้ายซึ่งๆหน้า เขาจึงรีบวิ่งฝ่าทางเดินบริเวณนั้นไปอย่างรวดเร็ว จนสุดทาง ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้โนบิตะรู้สึกโล่งอกเล็กน้อยที่ไม่ต้องไปเจอกับการต่อสู้กับหมาสามหัวที่ชวนฝันร้ายเหมือนไม่กี่วันก่อน


โนบิตะรีบไต่บันไดลงมายังชั้นล่างบริเวณที่เขาเคยเห็นกุญแจดอกนั้นถูกแช่แข็งแน่นอยู่กับพื้น เขาพบว่าตอนนี้น้ำแข็งได้ละลายหมดแล้วทำให้ฮันเตอร์หนึ่งตัวตรงนั้นหลุดออกมาด้วย


โนบิตะไม่รอช้าให้มันเดินเข้ามาหา เขาจึงยกปืนลูกซองขึ้นมายิงใส่มันจนกระจุย!


และบนพื้นนั้นเขาก็พบกับกุญแจรถรางตกอยู่ ในตอนนี้เขาสามารถเก็บมันขึ้นมาได้แล้ว

กุญแจรถรางฉุกเฉินที่ใช้สตาร์ทเครื่องยนต์รถราง



"ได้แล้ว!! เท่านี้ก็หนีออกจากที่นี่ได้สักที"

โนบิตะจึงรีบวิ่งย้อนกลับมาตามทางเดินทางเก่าที่มุ่งหน้ากลับไปยังรถรางไฟฟ้าด้วยความดีใจที่จะหนีออกไปจากสถานที่ที่เลวร้ายนี้ได้สักที


"เท่านี้ก็กลับไปหา......"

โครม!!!!!

ก่อนที่โนบิตะจะวิ่งหนีออกไปยังทางออกตรงบริเวณทางเดินนั้นก็มีบางสิ่งพุ่งทะลุออกมาจากกำแพงทางเดินดักหน้าโนบิตะไว้...


"ไม่จริงน่า....."

เจ้าสิ่งนั้นหันหน้ามาทางโนบิตะ....พร้อมกับส่งเสียงร้องคำรามใส่!!


โนบิตะคุ้นเคยกับลักษณะของมันดี เพราะว่าเจ้าตัวนี้คือฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน....ตอนที่อยู่ในเมือง R ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนี้จะไม่ใช่ตัวเดียวกับตัวที่เขาเคยปราบมันลงไปได้ แต่ลักษณะโดยรวมของมันนั้นยังคงเหมือนเจ้าสิ่งนั้นทุกประการ

อาวุธชีวภาพหมา 3 หัวที่มีนามว่า "เซลเบรอส (Zerberos - ツェルベロス)"* ได้ปรากฏตัวแล้ว!!

**เซลเบรอสเป็นตัวที่ถอดแบบมาจากทินดาลอสและถูกตั้งชื่อใหม่ เป็นคนละตัวกับภาค 2

การปรากฏตัวของเซลเบรอสคล้ายกับการปรากฏตัวของ  G-Mutant ใน RE เลยตรงที่มันแหกอะไรออกมาสักอย่าง อาจกล่าวได้ว่ามันถอดแบบบทบาทมาจาก G-Mutant เลยก็ว่าได้ แต่ G-Mutant จะเกิดออกมาจากท้องของนักวิจัยที่ชื่อโมนิก้า (Monica) และไล่ตามพวกตัวเอกขึ้นมาก่อนเปลี่ยนเป็นร่างพัฒนาทีหลัง

"ฮะๆ... นี่มันอะไรกันเนี่ย?..ต้องมาสู้กับไอ้หมา 3 หัวนี่อีกแล้วเหรอ!?"


โนบิตะไม่รอช้าชักปืนลูกซองขึ้นมายิงเจ้าหมา 3 หัวตรงหน้า!


ปัง!!!!!!

ปรากฎว่าเซลเบรอสสามารถกระโดดหลบกระสุนปืนลูกซองที่โนบิตะยิงใส่มันได้

"หลบกระสุนได้ด้วยเหรอเนี่ย!?"

โนบิตะเริ่มคิดหนักมากขึ้น ถึงแม้เขาเคยชนะศัตรูที่กระโดดหลบกระสุนอย่างทินดาลอสมาได้แล้ว แต่ก็ทำเอาเขาเกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในตอนนั้นอีก...


แต่แล้วเซลเบรอสก็เริ่มขาสั่นแปลกๆหลังจากที่มันหลบกระสุนออกได้

"หืม?....หรือว่ามัน..."

โนบิตะจึงใช้ปืนลูกซองเล็งยิงใส่มันอีกครั้ง

ปัง!!!!

เซลเบรอสพยายามจะโดดหลบกระสุนอีกครั้งแต่ดูท่าว่ามันจะกระโดดช้าเกินไปทำให้มันถูกยิงเข้าให้ที่ขาหน้า...


สิ่งนั้นทำให้โนบิตะรู้ทันทีว่า การที่มันหลบกระสุนได้ในตอนแรกนั้นเป็นแค่ฟลุ๊กเท่านั้น ดูเหมือนว่ามันเองก็ได้รับผลเช่นเดียวกับพวกฮันเตอร์ที่พึ่งตื่นจากน้ำแข็งเช่นเดียวกัน ทำให้มันยังควบคุมร่างกายตัวเองได้ไม่สมบูรณ์นัก

"ได้การล่ะ!! ถ้าเป็นแบบนี้ก็อาจจะมีทางชนะอยู่!"

โนบิตะหยิบปืนลูกซองขึ้นมาพร้อมกับเล็งยิงไปที่มันอีกครั้ง แต่มันก็แดชตัวเองพุ่งเข้ามาใกล้กับโนบิตะ พร้อมกับกระโดดกัด


การเคลื่อนไหวของมันค่อนข้างช้ากว่าทินดาลอสที่เขาเคยเจอมาก โนบิตะจึงสามารถกระโจนหลบไปด้านข้าง


พร้อมกับหันปืนลูกซองยิงใส่มันจนเลือดพุ่ง!!!


แต่ว่ามันก็ยังคงดันทุรังวิ่งเข้าจู่โจมโนบิตะอีกครั้ง


มันพุ่งเข้าประชิดตัวโนบิตะอย่างรวดเร็ว


โนบิตะพยายามกระโดดหลบแต่ว่า...ชั่วพริบตาความเร็วของมันก็เพิ่มมากขึ้น

"เฮ้ย!!!"


ผลั่ก!!!!!

โนบิตะรีบใช้ปืนลูกซองยกขึ้นมายิงมันแต่ว่าช้าเกินไป มันได้ใช้ขาหน้าตบใส่โนบิตะอย่างรุนแรงจังหวะเดียวกับที่ลูกซองถูกยกขึ้นมา ทำให้ปืนลูกซองที่โนบิตะใช้หักครึ่ง!!

ในเกม RE ภาค Outbreak ปืนลูกซองมีโอกาสที่จะถูกฮันเตอร์ตบทำลายได้
หากมันตบเข้ามาตอนที่ยกปืนยิงมันพอดี

"อ้ากกกกก!!!"


โนบิตะถูกแรงตบของมันอัดจนกระเด็นหัวกระแทกผนัง


"อุ๊บ!!!"

โนบิตะรู้สึกมึนเล็กน้อยจนเห็นภาพเซลเบอรอสเริ่มเบลอไปนิด แต่เขารู้ได้ว่ามันกำลังเข้ามาใกล้ ถึงแม้เขาจะเห็นภาพไม่ชัดเจน


แต่เขาก็เห็นตำแหน่งทิศทางที่มันพุ่งเข้ามาได้ และตอนนั้นเองนัยน์ตาของโนบิตะก็กลายเป็นสีแดงชั่วขณะ เขาจึงหยิบปืนพกขึ้นมา!!

"ตรงนั้น!!!"

ปัง!!!


ปืนพกเจาะทะลุเข้ากลางดวงตาที่ 3 กลางหน้าผากที่หัวด้านหน้าของเซลเบรอสอย่างแม่นยำจนมันตะโกนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด โนบิตะพยายามจะยิงใส่มันซ้ำ


แต่มันกลับชิ่งวิ่งหนีไปก่อนและการที่โนบิตะยังรู้สึกมึนจากการถูกกระแทกอยู่ทำให้เขาไม่มีแรงลุกขึ้นมาวิ่งไล่ตามมันไปติดๆ


โนบิตะพักเหนื่อยอยู่สักครู่

"กะ..เกือบไปแล้วสิ...เมื่อกี้โชคช่วยงั้นสินะ?"

นับว่าเป็นโชคดีของโนบิตะที่สามารถชักปืนเล็งยิงจุดสำคัญใส่มันจนบาดเจ็บถอยไปได้ก่อนที่มันจะเข้าถึงตัว


"ไม่อยากเชื่อเลยว่า เจ้าพวกอัมเบรล่ามันสร้างไอ้เจ้าตัวอันตรายแบบนี้มาอีกเท่าไหร่กัน"


"หวังว่า..โดราเอม่อน  ชิสุกะจัง ทุกคนคงจะไม่เป็นอะไรกันนะ.."

โนบิตะเริ่มห่วงใยสวัสดิภาพของทุกคนที่ยังกระจัดกระจายกันอยู่ในเมืองนี้เสียแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เพื่อนแต่ละคนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง แถมโทรศัพท์มือถือก็ยังใช้การไม่ได้เหมือนเดิมด้วย (เสียบ่อยจริงเวลาสำคัญแบบนี้) ถ้าหากพวกเขาไม่ไปเจอไอ้ตัวบ้าจอมโหดแบบที่โนบิตะเจอก็คงจะดี


โนบิตะตั้งสติพร้อมกับมองไปด้านหน้า

"เอาล่ะ ไปกันเถอะ!"

โนบิตะวิ่งมาตามทางเดิน ผ่านห้องโถงหลักและเดินเข้ามายังห้องที่เก็บรถรางฉุกเฉิน เขาสามารถใช้กุญแจที่ได้เปิดระบบการทำงานของรถรางได้..


ระบบประมวลผล (CPU - Control Processing Unit) : รถรางคันนี้ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยระดับ S (Security-S) เพื่อป้องกันผู้บุกรุกมาใช้งาน กรุณาใส่พาสโค้ดยืนยันตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง


ระบบประมวลผล : โปรดกรอกรหัสผ่าน


หลังจากนั้นหน้าจอมอนิเตอร์ก็ปรากฏที่ใส่รหัสขึ้นมา...


ซึ่งรหัสที่ว่านั้นโนบิตะได้มาจากสมุดบันทึกผู้ดูแลเครื่องจักรจาก [part 2]



รหัสที่ว่าก็คือ.. [เอสเคป (Escape) エスケープ] ที่แปลว่าหลบหนี


ถ้าเป็นใน RE รหัสผ่านจะเป็น HOPE ที่แปลว่าความหวัง

โนบิตะกรอกรหัสผ่านเข้าไปพร้อมกับกดปุ่มตกลง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียง ตื้ด!!

รหัสผ่านถูกต้อง...
เริ่มดำเนินการลี้ภัยฉุกเฉินได้...



ตอนนั้นเองก็มีเสียงสัญญาณไซเรนดังขึ้นโดยรอบพร้อมกับไฟสีแดงส่องกระพริบไปทั่วห้อง โนบิตะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวใต้เท้าของเขา กลไกเครื่องจักรภายในสถาบันวิจัยเริ่มทำงาน

คัตซีนตามคลิปนี้


 พื้นที่เป็นส่วนรอยต่อระหว่างพื้นรถรางกับพื้นสถาบันวิจัยได้ถูกยกสูงขึ้น


พร้อมกับมีที่กั้นยกขึ้นมา


พื้นที่ตั้งรถรางนั้นก็คือลิฟต์ขนาดใหญ่นั่นเอง ลิฟต์นั้นได้พารถรางที่มีโนบิตะนั่งอยู่ข้างในขึ้นไปด้านบน เผยให้เห็นผนังตัวอักษร UMBRELLA ข้างหลัง


ลิฟต์นั้นยังคงขึ้นไปเรื่อยๆและคงจะขึ้นสู่บนพื้นดินในไม่ช้า


แต่โนบิตะไม่รู้เลยว่า ขณะที่ลิฟต์นั้นกำลังเลื่อนขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ


สายตาดวงหนึ่งได้จับจ้องอยู่ที่ลิฟต์ตัวนั้น...


ขณะที่ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้นไปด้านบน...


ตึง!!!

จู่ๆ พื้นลิฟต์ก็มีรอยแตกเกิดขึ้น!!!


โนบิตะรู้สึกได้ว่าลิฟต์ได้หยุดการเคลื่อนไหวที่ชั้นบนสุดแล้วแต่ไม่สามารถวิ่งจากรางได้เพราะ...

ตึง!!!!
โนบิตะสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบางอย่างบนตัวรถราง

"อะไรกันน่ะ เมื่อกี้!?"

CPU : แจ้งเหตุฉุกเฉิน!! มีการตรวจพบบีโอดับเบิ้ลยู (BOW) ที่ยังมีชีวิตอยู่บุกเข้ามาในรถรางขบวนนี้ รถรางไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้....  


"โถ่เว้ย!!..ตัวอะไรมันบุกเข้ามาฟะ!?"

เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมด โนบิตะจึงเดินออกไปสำรวจดูส่วนด้านหลังของรถราง


และที่ตรงนั้นเขาก็พบกับเซลเบรอสอีกครั้ง!


"บ้าน่า! ไอ้เจ้านี่มันยังตามมาอีกเหรอ!!?"


นอกจากทุกอย่างจะเหมือนทินดาลอสแล้ว เรื่องความตื๊อของเจ้าตัวนี้ก็ยังก็อปปี้มาอีกต่างหาก!!

"ไม่ได้การแล้ว!! ถ้าหากจัดการมันไม่ได้ล่ะก็..มันคงจะตามราวีไม่เลิกแน่ ถ้างั้นล่ะก็..."


โนบิตะจึงชักปืนพก 2 กระบอกขึ้นมาไว้บนมือทั้งคู่พร้อมกับตะโกนลั่น!!

"เข้ามาเลย!! ไอ้สัตว์ประหลาด!!"


การต่อสู้ของโนบิตะกับเซลเบรอสในรถรางจึงเริ่มต้นขึ้น!!


เซลเบรอสได้พุ่งเข้าจู่โจมโนบิตะด้วยความเร็วสูง แต่โนบิตะสามารถกระโจนหลบไปด้านข้าง


แล้ววิ่งอ้อมไปด้านหลังก่อนระดมยิงใส่มัน!!


กระสุนทุกนัดเจาะเข้าไปที่ร่างของมันอย่างต่อเนื่องและแม่นยำ จนกระทั่งมันถอนกลับไปตั้งหลักพร้อมกับหอนขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่โนบิคะไม่เคยเห็นมาก่อน..และตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงดังตึงตังมาจากข้างหลังพร้อมด้วยเสียงกระจกแตก!!

"เฮ้ย!!!"

โนบิตะรีบกระโจนหลบสิ่งที่พุ่งเข้ามาจากกระจกด้านนอก!! มันคือเคลเบรอส! หรือสุนัขซอมบี้ธรรมดา!?

"นี่มัน...หรือว่า...?"

มันเป็นความสามารถใหม่ที่เขาเคยอ่านเจอในบันทึกของหมา 3 หัวตัวนี้....ความสามารถในการเรียกเคลเบรอสที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาช่วยกันโจมตีเหยื่อ!! 

เป็นการคัดลอกลักษณะเหมือนกับ G-Mutant ใน RE ตรงที่สามารถเรียกตัวลูกน้องออกมาช่วยต่อสู้ได้


โนบิตะต้องคอยรับมือกับเจ้าเซลเบรอสกับเคลเบรอสที่เป็นลูกน้องของมันในเวลาเดียวกัน


โนบิตะต่อสู้กับพวกมันอย่างดุเดือด...


เขารีบวิ่งหนีไปตั้งหลักอีกครั้งและทำท่าล่อให้พวกมันเข้ามาในบริเวณที่เขาต้องการ


จากนั้นโนบิตะจึงกราดยิงปืนพกที่อยู่ในมือโจมตีใส่พวกมันทั้ง 2 ตัวไปพร้อมกัน


จนกระทั่งเซลเบรอสล้มลงไป แต่โนบิตะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาจึงรีบเดินเข้ามาจ่อยิงเซลเบรอสกระหน่ำในระยะประชิดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจัดการมันได้จริง!!! จนมันแน่นิ่งไป


การต่อสู้เมื่อสักครู่ทำเอาโนบิตะเหนื่อยหอบ...

"แฮ่กๆๆ  จบกันสักทีนะ..."

หลังจากที่จัดการมันจนแน่นิ่งเขาจึงเดินกลับไปยังด้านหน้ารถราง..


พร้อมกับเดินไปกดปุ่มสวิตช์ออกเครื่องรถไฟแต่มันก็ยังทำงานไม่ได้

"เอ๋ ทำไมกันล่ะ? ทั้งๆที่จัดการมันไปแล้ว...หรือว่ามันยัง..."

ตอนนั้นเองโนบิตะก็ได้ยินเสียงหอนดังออกมาจากทางด้านหลังรถ ดูเหมือนว่าเจ้าหมา 3 หัวนั่นยังไม่ตาย!!! มันได้หอนเรียกพรรคพวกของมัน และไม่นานนักก็มีเคลเบรอส 2 ตัว กระโดดเข้าขึ้นมาบนรถรางพร้อมกับโจมตีโนบิตะจากทางด้านหลัง


------ เรื่องราวต่อไปนี้ขอรับชมในเวอร์ชั่นการ์ตูนที่วาดโดยแอดมินไวท์เดย์ จากเพจ Up 2 Me------

เคลเบรอสทั้ง 2 ตัวพุ่งเข้าโจมตีโนบิตะ

โนบิตะเปิดฉากยิงเคลเบรอสตัวหนึ่งจนมันล้มตายลงไป
พร้อมกับกระโดดหลบเคลเบรอสอีกตัวที่ยังมีชีวิตก่อนหันปืนกลับไป



 "อั่ก!!!"


โนบิตะเริ่มคิดถึงเพื่อนๆทุกคนในกลุ่มของเขา...


โนบิตะได้กัดมือตัวเองเพื่อใช้ความเจ็บปวดเรียกสติตัวเองกลับมาจนถึงขีดสุด...!!!! เซลเบรอสพุ่งเข้างับโนบิตะอย่างรวดเร็วแต่โนบิตะได้หายไปพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นด้านข้างมันอย่างรวดเร็วพร้อมกับ...






เซลเบรอสถูกโนบิตะเตะกระเด็นจนทะลุหน้าต่างออกไปนอกรถรางทางด้านหน้า ก็ได้ก็มีคำเตือนของระบบรถรางขึ้นมาว่า..

[ไม่พบ BOW ที่ยังมีชีวิตอยู่บนรถรางแล้ว ระบบขับเคลื่อนสามารถทำงานได้ตามปกติ]


"ตอนนี้แหละ!!"

โนบิตะรีบกดสวิตช์เดินเครื่องทันที...เครื่องจักรของรถรางได้ทำงานแล้ว!!


แสงไฟของรถรางเบื้องหน้าได้ส่องสว่างเผยให้เห็นร่างของเซลเบรอสที่ยังคงนอนบาดเจ็บอยู่กลางรถรางนั่น


ไม่นานนักรถรางก็เริ่มเคลื่อนที่ออกมาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่สัตว์ประหลาดเคราะห์ร้ายจะวิ่งหนีออกมาไหว


รถรางขนาดใหญ่ได้บดขยี้ทับร่างของเซลเบรอส


จนแหลกเละไปในที่สุด!!


"เท่านี้....ก็....จบ....สัก....ที"

โนบิตะที่อ่อนล้าและบาดเจ็บก็ได้นอนสลบไปบนรถรางคันนั้น...


รถรางยังคงวิ่งออกมาจากสถาบันวิจัยเรื่อยๆด้วยระบบอัตโนมัติ...เขาสามารถหนีออกมาจากห้องทดลองนรกได้สำเร็จ


รถรางได้วิ่งต่อไปโดยมีดวงจันทร์บนฟ้าที่ส่องแสงสว่างยามค่ำคืนที่แสนสวยงาม


ภาพตัดกลับเข้ามาในเมืองที่ยังคงสภาพนรกบนดินไม่ต่างจากเดิม


โนบิตะยังคงนอนอยู่ได้ตกอยู่ในห้วงความฝัน..

ผมถูกใครสาปมาหรือเปล่านะ? ถึงต้องมาเผชิญกับเรื่องร้ายๆไม่มีที่สิ้นสุดตามลำพังแบบนี้?
ทำไมถึงมีแต่ผมที่รอดชีวิตออกมาเพียงคนเดียว? ทำไมกัน ทำไม....


รถรางยังขับเคลื่อนไปตามราง.
และได้วกกลับเข้ามาในเมืองเดิมที่เปรียบเสมือนนรกอีกครั้ง ให้ตายเถอะ.
ผมนึกว่ามันจะพาหนีออกไปจากดินแดนนรกนี้ได้ซะอีก


นี่ผมต้องวกกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้งหรือนี่ ผมน่าจะหาที่ปลอดภัยลงจอดรถรางในสถานีที่ดีกว่านี้ แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะตอนนั้นผมสลบอยู่ แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่มันลงจอดได้อย่างปลอดภัย
ผมว่า ผมควรจะดีใจมากกว่าที่มันวกกลับมาในเมืองอีกครั้งเพื่อที่จะได้ตามหาเพื่อนคนอื่นๆที่ยังกระจัดกระจายเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้


แต่ว่านะ...ตอนนี้ผม..ไม่ไหวแล้ว..ง่วงเหลือเกินแถมขาระบมไปหมด ผมคงต้องพักบนรถรางนี่เสียแล้วสิ


จบเนื้อเรื่อง Chapter 2

โปรดติดตามเนื้อเรื่องของโนบิตะใน Chapter 3 ต่อไปในบทความหน้า!!

======================================================================



ในเวลาเดียวกันนั้นเอง...ที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่บริเวณด้านในสุดของห้องท่าทางของพวกเขาแต่ละคนต่างดูตื่นตระหนกและตึงเครียดราวกับพวกเขากำลังกลัวอะไรบางอย่าง...


ตอนนั้นเองประตูห้องได้เปิดออกเผยให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มในชุดสีขาวที่ถืออาวุธปืนคนหนึ่งเดินถอยหลังเข้ามาในห้อง... เขาคือเดคิสุงิ...เด็กหนุ่มอัจฉริยะ หนึ่งในพวกคนสำคัญของโนบิตะนั่นเอง

"บ้าเอ้ย!!! ไอ้เจ้านั่นมันแข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!!"


เดคิสุงิรีบปิดประตูพร้อมกับถอยหลังเดินเข้ามาด้านในและไม่นานนัก..



โครม!!

ประตูเบื้องหน้าของเดคิสุงิก็ถูกพังจนแหลกละเอียดพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหัวโล้นใส่ชุดเขียวร่างยักษ์ปริศนาเดินเข้ามาในห้อง



ท่าทางของเขาดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เสียงฝีเท้าที่หนักอึ้งของมันดังสนั่นไปทั่วห้องทุกครั้งที่มันย่างก้าว ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังเดคิสุงิยิ่งกดดันและกลัวชายชุดเขียวคนนี้มากขึ้น


"สู้กันตรงนี้แย่แน่ๆ...ถ้างั้นล่ะก็..."

เดคิสุงิหันหลังไปทางกลุ่มผู้รอดชีวิตที่อยู่ด้านหลังเขาพร้อมกับพูดออกมาว่า...

"ฉันจะล่อมันไว้เอง! ทุกคนน่ะ...รีบหนีไปซะ!!"


"ขะ ขะ ขะ ข้างหลัง...!"

หนึ่งในกลุ่มคนผู้รอดชีวิตได้พยายามชี้มาทางข้างหลังเขา

"เฮ้ย!!"

ตอนที่เขาหันไปบอกกับผู้รอดชีวิตนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่ ชายร่างยักษ์เข้ามาประชิดตัวเขาพร้อมกับง้างกำปั้นขึ้นพร้อมกับทุบเดคิสุงิทันที


แต่เดคิสุงิสามารถสไลด์ตัวหลบออกมาด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด...


ชายในชุดเขียวจึงหันไปทางเดคิสุงิพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้ง

"ตอนนี้แหละทุกคน! รีบวิ่งไปเร็วเข้า!!"


หลังจากที่เดคิสุงิหันไปให้สัญญาณกับกลุ่มผู้รอดชีวิตเสร็จเขาก็จับปืนไว้ให้มั่นพร้อมกับชี้ไปยังชายร่างยักษ์เบื้องหน้าเขา

"ถ้าคิดว่าจะจัดการฉันได้ก็ลองดูสิ! แกเอาชนะอัจริยะอย่างฉันไม่ได้หรอก!"


to be continue >>>>>
โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban 3 (Outbreak) Chapter 3 - part 1

แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม 2556 เวลา 09:44

    โนบิตะดูท่าจะมีอะไรสัมพันธ์กับหมาสามหัวมากไหมเนี่ย เห็นตามไปทุกที่เลย =='' (อยากเห็นเดคิสุงิโชว์เมพบ้างอ่ะ!! เห็นโนบิตะจนชินแล้ว =w=)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ภาคนี้ตอนสู้บอสตัวสุดท้าย พวกพระเอกได้โชว์เมพกันสมใจแน่

      ลบ