" />

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 21]

ไม่คิดเลยว่าจะอัพเร็วขนาดนี้นะเนี่ย... แต่ช่างมันเถอะ... ไหนๆก็ใกล้จะจบแล้วก็เอาให้เต็มที่ไปเลยเนอะ....

ความเดิมตอนที่แล้วโนบิตะได้...อ่านเอาเองดีกว่า  >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 20]




============================================


ความหวังสุดท้าย!! : T-Virus Burst Mode!!!

โนบิตะได้เริ่มมองเห็นภาพความตายของตัวเองอยู่เบื้องหน้า...ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาคงต้องถูกเจ้าซุปเปอร์ไทแรนท์นั่นฆ่าตายแน่ๆ  แต่ตอนนี้เขาขยับไม่ได้.....

ทำไม...ทำไม....



ว้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เขาได้แหกปากร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่น!!!!

ในช่วงที่ไทแรนท์กำลังจะฟาดเมื่อใส่เขา และในตอนนั้นเองก็มีวัตถุบางอย่างตกเข้ามาข้างๆไทแรนนท์พร้อมกับเปล่งแสงสว่างวาบออกมา


วัตถุนั้นได้ก่อให้เกิดระเบิดเปลวเพลิงลุกท่วมไทแรนท์อย่างแม่นยำโดยที่ไม่โดนโนบิตะเลยแม้แต่น้อย ท่าทางคนที่โยนเจ้านี่มาคงจะกะระยะได้เป็นอย่างดี

ไทแรนท์ถูกไฟครอกถึงกับเปล่งเสียงร้องออกมา ดูเหมือนกับว่ามันจะดิ้นทุรนทุรายกับเปลวไฟจากระเบิดนั้นเป็นเวลานานระดับนึงเลยทีเดียว

และในตอนนั้นเองที่โนบิตะได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา

"ตอนนี้แหละรีบหนีขึ้นไปบนรถไฟเร็วเข้า!!"


คนที่มาช่วยโนบิตะไว้ได้อย่างฉิวเฉียดก็คือเดคิสุงินั่นเอง ซึ่งเขาได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกระเป๋าถือใบหนึ่ง


"ตอนนี้แหละได้โอกาสแล้ว!!  เดคิสุงิกับฉันจะไปพาตัวโนบิตะขึ้นมา ชิสุกะกับยาสุโอะพวกเธอทั้งสองคนรีบไปช่วยไจแอนท์เร็วเข้า!! ส่วนที่เหลือโดยเฉพาะซูเนโอะ ช่วยยิงถ่วงเวลามันเอาไว้ให้ได้!!"

โดราเอม่อนรีบสั่งการอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างทราบหน้าที่ของตัวเองจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นๆทันที

ตอนนั้นเองที่เคนจิบอกให้ทุกคนรีบขึ้นมาข้างบนก่อน (ส่วนเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นค่อยคิดทีหลังละกัน)


ชั่วพริบตา ไทแรนท์ตัวนั้นก็ได้ใช้พลังแขนของมันปัดไฟออกไปจนหมด

"แย่ล่ะสิ จะให้เจ้าตัวอันตรายนั่นเข้าใกล้รถไฟไม่ได้เด็ดขาด"

เดคิสุงิเห็นท่าไม่ดีจึงโยนกระเป๋าสี่เหลี่ยมที่เขาถือมาให้กับโดราเอม่อน ส่วนตัวเขาจะรับหน้าที่เป็นคนล่อไทแรนท์ด้วยปืนกล M16 ที่เขาถือเอง  เดคิสุงิจึงเริ่มเหนี่ยวไกยิงปืนกลใส่มันทันที พร้อมกับวิ่งล่อมันออกไปให้ห่างจากรถไฟ
 

ตัดกลับมาด้านในรถไฟซึ่งไจแอนท์ได้เข้ามาก่อนแล้วยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับแรงกระแทกจากการโจมตีของมัน ยาสุโอะจึงถามไจแอนท์ด้วยความเป็นห่วงแต่ไจแอนท์ก็บอกไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บนี้แค่นี้ทำอะไรท่านไจแอนท์ผู้นี้ไม่ได้หรอก

ดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็คับขันเต็มทีแล้วเห็นทีเขาต้องใช้เจ้าไพ่ตายที่พกติดอยู่กับหลังเขามาตลอดเสียที...

เครื่องยิงระเบิดจรวด RPG ที่สามารถถล่มได้แม้กระทั่งรถถังนี่แหละ!!!

แต่การจะใช้งานเขาก็ต้องคิดหนักเนื่องจาก เครื่องยิงระเบิดอันนี้มีอานุภาพทำลายล้างสูงมาก แต่ก็เล็งยากมากด้วยหากเป้าหมายไม่นิ่งอยู่กับที่ แถมดีไม่ดีพวกเดียวกันเองอาจจะโดนลูกหลงจากระเบิดนี้อีก เขาต้องหาบริเวณโล่งๆที่จะเล็งยิงเจ้าสิ่งนี้ใส่เป้าหมายเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกสิ่งกีดขวางระเบิดกลางทางเสียก่อน



เซย์นะกับเคนจิยังคงสาดกระสุนปืนพกใส่ไทแรนท์ที่อยู่นอกตัวรถไฟอย่างต่อเนื่อง  เคนจิได้ทำการรีโหลดกระสุนใหม่พร้อมกับวิตกกังวลว่า กระสุนปืนที่เขาใช้อยู่ใกล้จะหมดเต็มที ถ้าหากกระสุนที่เขาใช้เกิดหมดขึ้นมาเดคิสุงิต้องลำบากแน่ (กระสุนปืนพกที่เซย์นะกับเคนจิ ทำได้แค่เพียงสะกัดการเคลื่อนไหวของไทแรนท์ชั่วคราวเท่านั้น)

เซย์นะเองก็คิดแบบเคนจิเช่นเดียวกัน เธอเองก็กังวลเรื่องจำนวนกระสุนไม่น้อย  และในตอนนั้นเองซูเนโอะก็เปลี่ยนจากปืนไรเฟิลมาเป็นปืนพกกระหน่ำยิงไทแรนท์ที่อยู่ข้างนอก ยาสุโอะจึงถามว่า แล้วปืนไรเฟิลล่ะ ซูเนโอะบอกว่ากระสุนหมดไปแล้ว  ทางด้านเดคิสุงิเองก็เช่นกัน ตอนนี้เขาได้ใช้กระสุนปืนกลจนหมดแล้วด้วย จึงตัดสินใจโยนปืนทิ้ง และตอนนั้นเองที่ไจแอนท์ได้ตะโกนบอกเดคิสุงิจากบนหลังคารถไฟว่าให้เขาช่วยเป็นตัวล่อไทแรนท์ให้หน่อย


ไจแอนท์ที่อยู่บนหลังคารถไฟได้ประทับเครื่องยิงจรวดไว้บนบ่าพร้อมที่จะยิงแล้ว เขาต้องการให้เดคิสุงิสร้างโอกาสให้เขาสามารถยิงโจมตีใส่ไทแรนท์นั่นเอง เดคิสุงิที่เห็นไจแอนท์ในสภาพนั้นก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วจึงรับหน้าที่วิ่งล่อไทแรนท์ให้ ดูเหมือนว่าเรื่องจัดการปิดฉากไทแรนท์นั้นคงต้องเป็นหน้าที่ของไจแอนท์ที่ถืออาวุธที่แรงที่สุดไว้แล้ว

ซึ่งตอนนั้นเองเป็นเวลาเดียวกับที่โดราเอม่อนกำลังพยุงโนบิตะที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตายขึ้นรถไฟ.. โนบิตะจึงได้หันหลังไปมองเดคิสุงิที่กำลังวิ่งล่อไทแรนท์อยู่ในตอนนั้น


เดคิสุงิได้วิ่งล่อให้ไทแรนท์วาดแขนฟาดจั่วลมกลางอากาศทำให้มันชะงักไปชั่วครู่พร้อมกับเร่งสปีดตัวเองจนทิ้งห่างไทแรนท์ไป ซึ่งตอนนั้นเองไจแอนท์ได้เห็นโอกาสที่จะยิงแล้วจึงเหนี่ยวไกยิงจรวดติดระเบิดใส่ทันที


จรวดพุ่งเข้าหาไทแรนท์ด้วยความเร็วอย่างแม่นยำและในที่สุด....

"เฮ้ย!!! บ้าน่า!!!!!"

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น...!!!


"เจ้านั่นมันหยุดจรวดได้งั้นเหรอ!!!!"

ไทแรนท์ได้ใช้แขนทั้งสองของตนเองรับจรวดที่กำลังติดไอพ่นพุ่งใส่ตัวเองได้

"ตอนนี้ รีบยิงทำลายจรวดเร็วเข้า!!!"

เดคิสุงิที่ได้สติก่อนเพื่อนพยายามบอกเพื่อนคนอื่นที่ยังคงช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ถึงมันจะรับได้ แต่ถ้าหากทำให้กระสุนจรวดระเบิดก่อนที่มันจะปัดทิ้งไปก็ยังดี!!!  ยาสุโอะที่ได้ยินเสียงเดคิสุงิจึงรีบชักปืนเตรียมยิง



แต่ไทแรนท์กลับใช้แขนเหวี่ยงจรวดกลับมาทางพวกเดคิสุงิก่อนที่พวกเขาจะทำจรวดระเบิด!!

"มันขว้างกลับมางั้นเรอะ!!!"

เคนจิได้แต่ตะโกนบอกสิ่งที่เกิดขึ้น จรวดนั้นกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเขา ซูเนโอะได้แต่ก้มหน้าพร้อมกับแหกปากร้องหาหม่าม้า

ทางด้านเดคิสุงิ...ได้แต่ช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง...

"ทะ..ทุกอย่าง...จบสิ้นแล้วงั้นรึ"

ถ้าหากจรวดพุ่งมาถึงตรงนี้ได้..ทุกอย่างก็จบ ทุกคนคงไม่รอดจากแรงระเบิดได้แน่ หรือต่อให้รอด รถไฟก็จะพังจนใช้งานไม่ได้ พวกเขาก็ต้องตายกับสถานที่ที่กำลังจะระเบิดตัวเองแห่งนี้อยู่ดี


ปัง!!!!

กระสุนได้พุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนของคนๆหนึ่งเข้าใส่จรวดที่พุ่งกลับมาจนเกิดระเบิดกลางอากาศอย่างแม่นยำก่อนที่จะถึงขบวนรถไฟ

 ผู้ที่ยิงปืนกระบอกนั้นคือผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าจรวดนั้นตรงทางขึ้นประตูรถไฟ


แรงระเบิดมหาศาลได้สร้างคลื่นอากาศอย่างรุนแรงจนทำให้พวกเพื่อนๆที่อยู่ในรถไฟกระเด็นกันถ่วนหน้า โดยเฉพาะไจแอนที่ยืนอยู่บนหลังคารถนั้นเกือบจะกระเด็นตกรถไฟเลยทีเดียวแต่โชคดีที่เขาเกาะขอบรถไฟทันจึงไม่ร่วงลงไป  ไจแอนท์สงสัยมากว่าใครเป็นคนยิงปืนเมื่อสักครู่ออกไปและก็ต้องพบคำตอบเมื่อมองไปข้างล่าง


"โนบิตะ??"


"เฮ้ย!!! ไอ้สัตว์ประหลาด!!!!"

โนบิตะคือคนที่ยิงปืนช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้ และดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเปลี่ยนไป  นัยน์ตาของเขาได้กลายเป็นสีแดงฉานและยังเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ได้แม้จะเกิดแรงระเบิดมหาศาล

ไทแรนท์จ้องมองโนบิตะศัตรูเก่าด้วยความเคียดแค้นก่อนที่จะวิ่งพุ่งเข้ามาหาโนบิตะอย่างสุดกำลัง

"มะ มันพุ่งเข้ามาแล้ว" ซูเนโอะบอกสถานการณ์ที่เขาเห็นอยู่กับคนอื่น



 "บ้าเอ้ย....!!  เหลือแค่ลูกสุดท้ายแล้วนะ"

ไจแอนท์ได้แต่สบถพร้อมกับบรรจุหัวจรวดใส่ปากกระบอกปืนใหม่ ซึ่งตอนนี้เหลือนัดสุดท้ายแล้ว

โนบิตะได้ยกปืนขึ้นพร้อมกับประเมินสถานการณ์ในใจ แต่เขารู้สึกถึงบางอย่างได้... เขารู้สึกว่า ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขานั้นช้าลง... สายตาของเขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน ทั้งการเคลื่อนไหวของไทแรนท์ ทั้งตำแหน่งปืนของตนเอง ทุกอย่างเริมชัดเจนในสายตาเขา สมองเขาเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว

(ปืนแม็กนั่มก็ร่วงไปแล้ว ทุกคนต่างก็พยายามเต็มที่เพื่อช่วยเรา ฉันจะต้องยิงไม่พลาดเด็ดขาด  คนที่พอจะจัดการมันได้ก็มีแต่ไจแอนท์เท่านั้น ฉันต้องสร้างโอกาสให้เขา..ฉันจะต้องหยุดมันให้ได้!)


"ตรงนั้น!!!"

โนบิตะได้ยิงปืนออกไป 2 นัดด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ ซึ่งเป้าหมายของเขาคือ...ดวงตาทั้งสองข้างของไทแรนท์



กระสุนปืนทั้งสองพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองข้างของไทแรนท์อย่างแม่นยำทำให้มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับยืนบิดตัวไปมา

(มันหยุดการเคลื่อนที่แล้ว ตอนนี้แหละ)


"ไจแอนท์!!!!!" 

โนบิตะตะโกนขอกไจแอนท์อันเป็นสัญญาณให้ไจแอนท์ยิงจรวดโจมตีใส่มันอีกครั้ง!!!



ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ร่างของไทแรนท์ถูกระเบิดฉีกร่างเละออกเป็นชิ้นๆ!!!



"จะ จัดการไทแรนท์ ได้แล้วสินะ"

ซูเนโอะพูดในขณะที่สั่นออกมาไม่หยุด ส่วนทางด้านเดคิสุงิเองก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เขามองมาตลอด..สิ่งที่เขาตกใจไม่ใช่อานุภาพของจรวด RPG ที่ยิงใส่ไทแรนท์จนร่างแหลกเละ

"มะ เมื่อกี้...ตาของโนบิตะคุงเป็นสีแดงงั้นเหรอ?  เขาสามารถยิงจรวดที่พุ่งกลับมาด้วยความเร็วสูงได้แถมยังสามารถคุมสติในการยิงปืนพกใส่ตาของเจ้านั่นอย่างแม่นยำโดยไม่มีท่าทีหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยด้วย.. พลังความสามารถที่เหลือเชื่อนี่มัน.."

"สุดยอด..โนบิตะ นายทำได้ยังไงกัน"  โดราเอม่อนเองก็ทึ่งในความสามารถอันเหลือเชื่อนั้น

ตอนนั้นเองที่โนบิตะได้เอามือกุมศีรษะเอาไว้ พร้อมกับทรุดลงไปบนพื้น

"โนบิตะ!!!!"

โดราเอม่อนรีบพยุงตัวโนบิตะเข้ามาในรถไฟทันที

"ทุกคนขึ้นมาบนรถไฟเร็วเข้า!! เราไม่มีเวลาแล้วนะ!!!"

เซย์นะรีบตะโกนบอกทุกคนที่อยู่นอกตัวรถไฟทันที ใช่แล้ว พวกเขาเกือบลืมไปแล้วว่า เหลืออีกไม่กี่วินาทีเท่านั้นสถานที่แห่งนี้จะทำการระเบิดตัวเอง

เดคิสุงิรีบวิ่งกระโดดขึ้นมาบนรถไฟทันที...


เวลา 6.00 นาฬิกา......

ระบบทำลายตัวเองเริ่มทำงาน

ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

รถไฟฉุกเฉินเคลื่อนตัวออกไปตามรางพร้อมกับหนีเปลวเพลิงจากการระเบิดที่ไล่ตามหลังมาได้อย่างทันฉิวเฉียดพอดี




โปรดติดตามตอนต่อไปได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 22 - ตอนจบ]






แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ21 มีนาคม 2556 เวลา 06:47

    สมกับเป็นพลังของทีไวรัสตามต้นฉบับเลยแฮะ(แม้จะออกฤทธิ์นิดหน่อย) อนาคตจะมีโชว์บิดเกลียวกลางอากาศแบบเวสเกอร์มั้ยเนี่ย(ฮา)

    ว่าแต่เดคิซุงิไปติดเชื้อตอนไหนเนี่ย?(จากที่ดูตามโดจินก็ยังไม่เห็นว่าได้รับบาดเจ็บ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อืม อนาคตโนบิตะอาจจะโดดหลบโชว์กลางอากาศนั่นแหละ แล้วก็หลบเลเซอร์แบบลีออนใน RE4 และคริสใน RE Darkside Chronicle

      ถามว่าเดคิสุงิติดเชื้อตอนไหน ถ้าเป็นโดจินล่ะก็ไม่มีอยู่แล้วเพราะไม่ได้เขียนให้ในโดจินไปฟัดที่ไหน แต่ถ้าเป็นเนื้อเรื่องประกอบในเกม จะพบว่าเดคิสุงิถูกกิ้งก่ายักษ์ในห้องวิทยาศาสตร์ไบโอเกลลัสทำร้ายจนเลือดออก ซึ่งนั่นนับได้ว่าเป็นการติดเชื้อที-ไวรัส (จากข้อมูลวิกิในเกม ไบโอเกลลัสนั้นถ้าถูกมันทำร้ายจนเกิดบาดแผลจากการข่วน จิกกัด หรือถูกลิ้น จะมีผลในการติดเชื้อที-ไวรัสด้วย แต่ฤทธิ์จะอ่อนกว่าถูกกัดจากซอมบี้โดยตรงคือแปลงร่างช้ากว่า แต่นับได้ว่าเป็นการติดเชื้อเหมือนกัน) แต่เอาจริง ไม่ว่าเดคิสุงิจะติดเชื้อหรือไม่ ยังไงก็ไม่มีผลอะไรเท่าไหร่นักหรอกตามเนื้อเรื่องน่ะ.... (ยาสุโอะนี่ติดเชื้อแน่นอนซึ่งจะเฉลยในบทความหน้า)

      ลบ