" />

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ (ตอนต้น)

เนื้อเรื่องไซดสตอรี่ในบทความนี้มาจากภาคมุดะนิไคโซวบัง 5 ซึ่งกล่าวถึงเนื้อหาส่วนเสริมในเนื้อเรื่องในภาคมุดะนิไคโซวบัง 1 ในมุมมองของเซย์นะ

การพบเจอกับเซย์นะสำหรับเนื้อเรื่องเกมภาคมุดะนิไคโซวบัง 1 ในเกมจะแตกต่างจากการ์ตูนโดจินมังกะที่วาดโดยคุณ diodio มาก เพราะในโดจินจะเจอเซย์นะทันทีที่โนบิตะพึ่งมาถึงโรงเรียนและเข้าไปในห้องพยาบาลครั้งแรกในบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2]

แต่ว่าเนื้อเรื่องในเกมจริงๆนั้น เธอจะปรากฏตัวออกมาครั้งแรกตอนที่โนบิตะได้ทำการสำรวจห้องล็อคเกอร์ตามที่เดคิสุงิบอกในบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]
ตามคลิปข้างล่าง...



ซึ่งก่อนที่เซย์นะจะเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องล็อคเกอร์นี้และพบกับพวกโนบิตะ เธอได้ผ่านเรื่องเลวร้ายต่างๆมามากมาย ซึ่งไซด์สตอรี่ในบทนี้จะมาเล่าในเนื้อเรื่องส่วนของเธอกัน (เนื่องจากเนื้อเรื่องของเธอค่อนข้างยาวมาก เราเลยแยกเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบ)




โชคชะตาของเซย์นะ (ตอนต้น) : ความห่วงใยของลูกสาวคนโต


เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นใน 27 เดือนกันยายน ปี 2004  
(เป็นวันก่อนที่พวกโนบิตะจะกลับมาที่บ้าน 1 วันในวันที่ 28 เดือนกันยายน ปี 2004)


วันที่เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น เธอไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น...
วันที่กลายเป็นฝันร้ายของเด็กสาวคนหนึ่งและมันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล...

เวลาตอนเย็น ณ ที่บ้านของเด็กสาวที่ชื่อ "มิโดริคาว่า เซย์นะ"


ในบ้านแห่งนั้นมีคนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน เป็นเด็กสาว 1 คน ผู้ชายวัยสูงอายุ 1 คน และเด็กชายอีก 1 คน 

"โถ่ จะใช้ยาตัวไหนดีนะ"

เด็กสาวที่ชื่อมิโดริคาว่า เซย์นะพูดออกมาขณะกำลังค้นยาที่อยู่ในกล่องปฐมพยาบาลประจำบ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าในตอนนี้เธอต้องคอยดูแลคนในครอบครัวของเธอที่กำลังป่วยด้วยอาการบางอย่างที่เกิดขึ้นกะทันหัน


"แค่ก แค่ก!!  ไข้หวัด ปะ..ปี..นี้...รุนแรง...กว่า แค่กๆ...ที่คิด แหะ.."

คุณพ่อของเซย์นะที่นอนอยู่บนเสื่อไอออกมาพร้อมกับบ่นออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง

"คุณพ่อคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า? เสียงดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ"

เซย์นะสอบถามอาการของชายผู้เป็นพ่ออย่างเป็นห่วง

"อุ....มะ...ไม่เป็นไรหรอก ลูก..."  ผู้เป็นพ่อตอบออกมาเพื่อไม่ให้ผู้เป็นลูกสาวเป็นห่วง จากนั้นเขาจึงพยายามพูดต่อว่า..

"ดีๆจริงๆ อย่างน้อย..แค่กๆ...ก็มีเซย์นะ  แค่ก...คนนึงที่ไม่ได้ป่วยน่ะ..."

เขาพูด (พร้อมกับไอ) เช่นนั้นเพราะดูเหมือนว่าคนที่อยู่ในบ้านของเขาจะป่วยกันหมดมีเพียงเซย์นะคนเดียวที่ดูแข็งแรงเป็นปกติดี

"โถ่..พ่อ...ก็พี่เขาเป็นพวกบ้ายังไงล่ะฮะ พ่อไม่เคยได้ยินเหรอ สำนวนที่ว่า คนบ้าย่อมไม่ป่วยอยู่แล้ว แค่กๆๆ"  

น้องชายของเซย์นะที่ชื่อ  "โทชิกิ (俊樹 : Toshiki)" ยังคงฝืนพูดล้อเลียนพี่สาวตัวเองอย่างที่เคยทำมาก่อนแม้ว่าจะป่วยอยู่ ทำเอาคุณพี่สาวไม่พอใจจึงทำหน้าถมึงใส่น้องชายตัวดีพร้อมกับพูดว่า..


"เป็นหวัดก็นอนนิ่งๆดีๆสิยะ!! เจ้าน้องบ้านี่..!!"

เมื่อได้ยินพี่สาวตวาดใส่เช่นนั้น ทำให้ผู้เป็นน้องยอมมุดกลับไปในผ้าห่มของตัวเองแต่โดยดี


แล้วก็ตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างสะใจ "อุอุอุ" ที่ทำให้พี่สาวที่มักทำท่าทางเอาจริงเอาจังวีนใส่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการหยอกเล่นกันที่มีการโหวกเหวกนิดหน่อย แต่ผู้เป็นพ่อของเซย์นะก็ได้แต่แอบยิ้มอย่างดีใจที่เห็นลูกทั้งสองยังสนิทกันดี
 

ต่อจากนั้นพ่อของเซย์นะก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อที่จะกลบเกลื่อนอาการหวัดของตนเอง

"แต่พ่อน่ะ เป็นห่วงเรื่องแม่มากกว่าพวกเราอีกนะ แค่กๆ จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าหายตัวไปไหน ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว" จากนั้นพ่อของเซย์นะจึงหันไปถามเซย์นะ

"เซย์นะ...ลูกได้ข่าวจากทางตำรวจบ้างหรือเปล่า?"

เธอส่ายหน้า พร้อมกับพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า "ไม่เลยค่ะ..."


"แม่น่ะหายตัวไปตอนกลางดึกแล้วคืนหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้ติดต่อพวกเรากลับมาอีกเลย จนป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้? แค่กๆ แถมรู้สึกว่าก่อนที่เธอจะหายไปเธอก็ป่วยแบบเดียวกับที่พ่อเป็นอยู่ด้วย"

พ่อของเซย์นะยังคงบ่นพร่ำเพ้อต่อไป...

"เรื่องหวัดบ้านี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง...แค่กๆ  แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับแม่แกล่ะก็.....อึก..."

แล้วพ่อของเซย์นะก็เงียบไป ก่อนที่จะบ่นเพ้อออกมาอย่างน่ากลัว ทำให้ทั้งเซย์นะและโทชิกิสะดุ้งตกใจมาก


"ต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบต้องหาเธอให้พบ ฮือ....."


หลังจากที่ผู้เป็นพ่อเพ้ออย่างรุนแรงสักพัก จู่ๆเขาก็ทรุดลงไปบนเสื่อและเงียบเสียงไปซึ่งทำให้เซย์นะรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของพ่อเธอด้วยความเป็นห่วง
"คะ คุณพ่อ!!! คุณพ่อคะ!!!?  เป็นอะไรหรือเปล่าคะ!!? คุณพ่อ!!?"


ท่าทางพ่อของเซย์นะตอนนี้ไม่ดีเลย ทั้งเหงื่อออก ใบหน้าเริ่มทรุดโทรมแสดงถึงความอ่อนล้า แถมยังหายใจถี่ขึ้นด้วย


"พ่อ!!?" 

แม้แต่น้องชายที่อยู่ใกล้ๆก็ยังเป็นห่วงผู้เป็นพ่อด้วย ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นไข้หวัดด้วยแต่อาการของเขานั้นน้อยกว่าผู้เป็นพ่อมาก


"!!!!!  แย่แล้ว!!!  ไข้ขึ้นสูงเลย!!"  เซย์นะพูดขึ้นหลังจากที่เอามือทาบศีรษะคุณพ่อซึ่งมันร้อนมาก ร้อนจนน่ากลัว.. ตอนนั้นเองที่เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นพร้อมเดินหันหลัง


แต่ก่อนที่เธอจะออกไปน้องชายของเธอก็ได้ทุกเธอขึ้นมาก่อน

"พี่ฮะ....พี่จะออกไปซื้อยาข้างนอกเหรอ"


เซย์นะจึงหันกลับมาตอบน้องชายด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงพร้อมกับบอกว่า..

"คุณพ่อเขาอาการหนักขนาดนี้ บ้านเราก็ไม่มียาแก้ไข้เสียด้วยสิ...พี่ก็คง..."


"แต่เมื่อกี้ผมพึ่งดูข่าวมา เขาบอกว่าในเมืองมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเต็มไปหมดเลย มันน่ากลัวมากเลยฮะ"


"อย่าพึ่งออกไปตอนนี้เลยนะฮะ พี่..." น้องชายของเซย์นะไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเซย์นะอีกคนจึงพยายามห้ามเธอไว้


เมื่อได้ยินดังนั้นผู้เป็นพี่สาวจึงตอบกลับไปว่า..

"เรื่องอาการของพ่อกับเรื่องแบบนั้น เธอคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากันล่ะ...และอีกอย่าง เป็นคนป่วยอย่าพึ่งฝืนออกไปดูทีวีสิ!"


เมื่อได้ยินคำพูดดังนั้นน้องชายก็ตอบอ้อมแอ้ม

"เอ่อ.เรื่องแบบนั้นก็คง ต้อง..."


"เอาเถอะ...พี่เข้าใจดีถึงสิ่งที่เธออยากบอก เดี๋ยวพี่จะไปแค่ร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ดูแลตัวเองได้"


เมื่อได้ยินพี่สาวตั้งใจมุ่งมั่นแน่วแน่ (เยี่ยงคนบ้า) เช่นนั้น น้องชายของเธอจึงเริ่มใจอ่อนและยอมให้เธอไป พร้อมกับพูดว่า..

"เอ่อ ถ้างั้นพี่ช่วยซื้อเครื่องดื่มให้ผมหน่อยได้ไหมฮะ"


"อือ....งั้นเอาเป็น โพคารี่* นะ"

*ในชื่อมันเขียนด้วยคำว่า ポ (po) แล้วก็เซนเซอร์คำตรงกลางแล้วตามด้วย リ (ri) ทำให้เราคาดการณ์การณ์ว่าเครื่องดื่มที่ว่ามันคือเครื่องดื่มที่ชื่อว่า "โพคารี่ เสวท (ポカリスエッ : Pocari Sweat)" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของญี่ปุ่น อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> Wikipedia : Pocari Sweat


"เอาอะไรก็ได้ฮะ.."

เครื่องดื่มเป็นเพียงของแถมที่ทำให้พี่สาววางใจเขาเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการที่พี่สาวของเขากลับมาอย่างปลอดภัยต่างหาก


"ถ้างั้น คุณพ่อคะ หนูขอออกไปซื้อยาข้างนอกก่อนนะคะ แล้วหนูจะรีบกลับมาค่ะ..."


คุณพ่อของเซย์นะก็ไม่ได้พูดอะไร ทำให้เซย์นะเข้าใจว่าบางทีคุณพ่อของเธอคงจะรู้สึกเพลียจนหลับไปแล้วก็ได้


หลังจากที่เธอบอกลาพ่อกับน้องชายออกไปซื้อยาข้างนอกแล้ว เธอก็เดินออกไปข้างนอก แต่ก่อนที่เธอจะย่างเท้าออกไป เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอจะต้องรีบแล้ว


เธอจึงเดินออกไปจากบ้านทันที


หลังจากที่เซย์นะออกไปแล้ว... ที่บ้านก็เหลือเพียงพ่อกับน้องชายสองคนทำให้บ้านเริ่มเงียบขึ้นมา และโทชิกิ น้องชายของเซย์นะก็ทำลายความเงียบนั้นโดยการเริ่มพูดด้วยความสงสัยขึ้นมาว่า...

"ทำไมมีแต่พี่เขาถึงไม่เป็นหวัดอยู่คนเดียวกันน้า"


"ทั้งที่เมื่อก่อนออกจะเป็นคนที่ป่วยบ่อยด้วยซ้ำ ว่างั้นไหมฮะ พ่อ.."  แล้วโทชิกิก็หันไปมองพ่อของเขาแล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า....


พ่อของเขาได้ลุกขึ้นมาจากเสื่อด้วยท่าทางที่แปลกไป...!!! สีผิวของเขาดูเหมือนคนป่วยที่ย่ำแย่ แถมมีเลือดไหลออกมา พร้อมกับร้องครางเสียงประหลาดดังอือๆ ตลอดเวลา  และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ..ดวงตาที่ดูไร้ชีวิตชีวาเหมือนศพจนดูน่ากลัว


"วะ เหวอ!!!??  พ่อฮะ!!!!??"

โทชิกิได้เห็นพ่อของตัวเองในสภาพนั้นจึงเผลอตะโกนร้องออกมาด้วย ความตกใจ


จู่ๆผู้เป็นก็เริ่มเดินมาทางเขาด้วยท่าทางประหลาดๆ แขนของเขายื่นออกมาข้างหน้าแล้วเดินแบบโซซัดโซเซเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

"เกิดอะไรขึ้นฮะพ่อ...ทำไมพ่อถึงเป็นแบบนั้นล่ะ พ่อฮะ"


ในที่สุดพ่อของเขาก็ยืนอยู่เหนือศีรษะของเขาพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาด้วยสีหน้าที่น่ากลัว

"พ่อ...!!!?"



แล้วทุกอย่างก็เป็นสีดำ ซึ่งคงมีแต่เพียงเสียงที่เกิดขึ้นเหมือนเนื้อกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังลั่นต่อเนื่องไปทั่วห้อง พร้อมกับเสียงของเหลวที่สาดกระเซ็นก่อนที่จะมีเสียงสุดท้ายขึ้นมาว่า..



"พะ...พี่ฮะ..!!! ชะ... ช่วย......................ด้วย!.... อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!"



====================================================

ทางด้านเซย์นะที่ออกมาจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูน่ากลัวขึ้นมานิดหน่อย

เธอเดินไปตามเส้นทางถนนเรื่อยๆแล้วก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางแปลกๆยืนหันหน้าเข้าหากำแพงอยู่



(เอ..คนนี้เป็นอะไรมากหรือเปล่านะ) เธอรู้สึกสงสัยขึ้นมาเพราะ เขามีท่าทางแปลกๆ แถมยังส่งเสียงครางอือๆ จนน่าขุนลุก บางทีเขาอาจจะรู้สึกแย่ก็ได้


เมื่อเธอคิดได้ดังนั้น จึงได้เอ่ยปากเรียกเขา

"เอ่อ....ขอโทษนะคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า"



เมื่อชายคนนั้นถูกเรียก เขาจึงค่อยๆหันหน้ามาทางเซย์นะอย่างช้าๆ...


 สีหน้าของเขาดูขาวซีดเหมือนคนไม่สบาย แถมด้วยท่าทางประหลาดนั้นทำให้เซย์นะรู้สึกใจคอไม่ดีเลย (เพราะสีหน้าออกจะดูไม่ใช่คนปกติขนาดนั้น) แต่ดูแล้วไม่เหมือนคนที่กำลังบาดเจ็บหนักอะไรตรงไหน เธอจึงได้ตักเตือนเขาไปว่า..



"ขะ ขอโทษนะคะ!! กรุณาอย่าทำอะไรแปลกๆแถวนี้จะได้ไหมคะ!!"  เซย์นะจึงได้กล่าวเตือนผู้ชายคนนั้นก่อนที่จะเดินหนีไป เพราะเธอคงคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่ยุ่งกับคนพิลึกพรรค์นี้


ว่าแล้วเธอก็รีบเดินไปตามถนนต่อ..


แต่ปรากฏว่า!! เขากลับเดินตามเธอมาเสียนี่!! แถมเดินด้วยท่าทางแปลกๆ อย่างเอามือยื่นมาข้างหน้า และเดินกระโผลกกระเผลกแบบพวกซอมบี้ในหนังเสียอีก (ก็ซอมบี้ของจริงนี่หว่า)


(ดะ เดี๋ยวสิ!!! เขาตามเรามาเหรอ!!)

 เซย์นะรู้สึกตกใจกับท่าที่ของชายคนนั้นมาก เธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความเป็นอันตรายจากคนๆนั้น


(หรือว่าเขาจะเป็นคนโรคจิต...!? คงต้องรีบหนีไปให้ไกลจากคนๆนี้ซะแล้วสิ!!)


เซย์นะจึงใส่เกียร์หมาโกยไปตามถนนเพื่อหนีให้พ้นจากคนแปลกๆคนนี้ให้ไกลที่สุด โดยที่เขายังตามมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ ทำให้เธอพูดขณะวิ่งไปด้วยว่า..

"คนๆนั้นเป็นอะไรของเขากันนะ! ทำไมถึงต้องตามมาด้วยล่ะ!!"


"ใช่แล้ว เขาต้องเป็นคนโรคจิตแน่ๆ?"

เธอวิ่งมาตามถนนเรื่อยๆและในที่สุดเธอก็เห็นเป้าหมายเบื้องหน้า

"อ้ะ...ร้านขายยาอยู่ตรงนั้น!!"


เซย์นะรีบวิ่งเข้าไปในร้านขายยาทันที ซึ่งโชคดีมากที่ร้านยังเปิดอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปในร้าน

เธอพบว่าบรรยากาศในร้านค่อนข้างมืดและให้ความรู้สึกวังเวงอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งบางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง


 เธอรู้สึกสนใจต้นพืชสีเขียวในกระถางที่วางอยู่หน้าทางเข้าเป็นพิเศษ

"วัชพืชสีเขียวนี้....อืม...เขาเรียกว่า 'เฮิร์บ (Herb)' สินะ บางทีอาจจะใช้รักษาไข้หวัดได้ล่ะมั้ง?" เธอตัดสินใจอยู่สักพักก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมา


ได้รับกรีนเฮิร์บ 1 ต้น


จากนั้นเธอจึงหยิบมันขึ้นมาอีก 1 กระถาง พลางคิดอยู่ว่า..

"เอ เจ้าสิ่งนี้เขาจะขายให้ไหมนะ? สงสัยต้องลองถามคุณเจ้าของร้านดู"

(กรุณาสังเกตลักษณะเจ้าของร้านทางด้านมุมขวาบนของภาพให้ดี เราคิดว่าทุกท่านคงเดาเนื้อเรื่องต่อไปได้)


หลังจากนั้นเซย์นะจึงเริ่มค้นหาสิ่งที่เธอต้องการภายในร้าน ซึ่งเริ่มเดินไล่ดูตั้งแต่ตู้กระจกข้างในสุด

'มุมเครื่องดื่ม' 


"นี่มันมีแต่เหล้าทั้งนั้นเลยนี่นา"


เธอจึงเลื่อนมาดูอีกตู้ 'มุมเครื่องดื่ม 2'
 

"อ้ะ..มุมน้ำอัดลมนี่นา.."
 

"อืม...ถึงจะเป็นหวัดแต่ก็คงจะดื่มได้หน่อยล่ะนะ.."


"จะบ้าหรือไง....คุณพ่อเขายิ่งสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่ ดื่มเข้าไปเดี๋ยวได้อาการกำเริบกันพอดี"


จากนั้นเซย์นะจึงเดินมาดูในกลุ่มตู้ที่ตั้งอยู่กลางร้าน ตู้แรก
'กลุ่มอาหารเสริม'


"เอ่อ...เจ้านี่มันใช้แทนได้ไหมเนี่ย" เธอดูสักพักแล้วก็เริ่มคิดในใจ


"อืม..วันนั้น(ของเดือน)มาถึงหรือยังน้า"


ตู้ถัดไป
'กลุ่มยาบำรุงร่างกาย'


"ของแต่ละอย่างให้แต่แคลอรี่สูงทั้งนั้นเลยนะเนี่ย คงใช้ไม่ได้หรอกมั้ง?"

 

ตู้ถัดไป
'กลุ่มยาจิปาถะสัพเพเหระ'


"อย่าพึ่งสนตู้นี้เลยดีกว่า"


ตู้ถัดไป 
'กลุ่มยาแก้อักเสบ'


"คงใช้ไม่ได้หรอก...ทั้งสองคนไม่ได้มีอาการนั้นนี่นะ"


ตู้ถัดไป 
'ดูเหมือนยาตู้นี้จะมีแต่ยานำเข้ามาจากต่างประเทศ'


"ไม่ไหวๆ ถ้าจะให้ใช้ยาพวกนี้ดูจะเสี่ยงเกินไปหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเพื่อนๆชอบใช้ยาพวกนี้กันได้ยังไงนะ"


ตู้ถัดไป 
"กลุ่มยารักษาไข้หวัด"   นั่นคือกลุ่มยาที่เซย์นะต้องการแต่ดูเหมือนว่าจะเหลือแต่แบบขวดใหญ่ที่มีขนาดเกินความจำเป็น


"ปริมาณขนาดนี้สงสัยต้องมาแบ่งอีก? เฮ้อ ลำบากจังเลย"


จากนั้นเซย์นะก็ลองมาไล่ดูที่ตู้ชั้นล่าง
'ยาที่เกี่ยวกับสารชำระร่างกาย เช่น สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม ฯลฯ'


"นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสนของแบบนี้สักหน่อย ของแบบนี้อีกนานค่อยมาซื้อก็ได้ จะมีใครที่ไหนอาบน้ำได้ตลอดทั้งวัน" << (คนเขียนบล็อก : ข้ารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนแถวนี้กำลังสะดุ้ง)


ตู้ถัดไป 'กลุ่มขนมหวาน'


"อย่าเชียวนะ...ของแบบนี้จะซื้อไปเพื่ออะไร"


ตู้ถัดไป 'กลุ่มยาสัพเพเหระจิปาถะ บลาๆๆๆๆ จำนวนมาก'


"เฮ้อ...ยุ่งยากจริงๆ"


ตู้ถัดไป 'กลุ่มยาแก้ปวด'


"ตอนนี้ยังไม่ต้องใช้หรอกมั้ง"


พอเซย์นะเดินดูมากๆเข้าก็เริ่มเครียดและพอเริ่มไปดูตู้ถัดไป เธอก็เริ่มเกิดอาการแบบนี้...

"ขวดหนึ่ง ขวดสอง ขวดสาม อ่ะอันนี้ก็ดี อันนั้นก็น่าสนใจ อ้ะ อันนี้ก็มี"


(....อืม บลาๆๆๆ...)


"หือ? เมื่อกี้ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย"


 และแล้วก็ถึงตู้สุดท้าย

'กลุ่มยารักษาไข้หวัด'


"อ้ะ....เจอแล้วล่ะ!! แถมยังเหลือขวดเดียวอีกด้วย!"

และแล้วก็สิ้นสุดการค้นหา


"โชคดีจังเลย (ลัคกี้)"


เซย์นะหยิบยาแก้ไข้หวัดมาขวดนึงพร้อมกับดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อที่จะจ่ายเงินค่ายา แต่ปรากฏว่าตรงตำแหน่งที่เก็บเงินนั้นจะมองไม่เห็นเจ้าของร้านที่อยู่หลังเคาน์เตอร์

เธอจึงเดินไปด้านข้างเคาน์เตอร์ที่มีทางเดินไปหาเจ้าของร้านขายยาได้ เธอจึงตะโกนเรียกเจ้าของร้านที่กำลังนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่บนพื้นที่มองไม่เห็น

"ขอโทษนะคะ..." 


เจ้าของร้านยังคงนิ่งอยู่กับที่ยังไม่สนใจเธอในตอนนี้ ทำให้เธอพูดเสียงดังขึ้นไปอีก

"ขอโทษนะคะ!! รบกวนคิดเงินค่ายาด้วยค่ะ!!"


 ตอนนั้นเองที่เจ้าของร้านลุกขึ้นยืนพร้อมหันมาหาเธอ แต่เธอยังไม่สามารถเห็นหน้าเจ้าของร้านได้ชัดเจน แต่กลับเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่บนพื้นเจ้าของร้านมากกว่า


เธอจึงเหลือบไปมองด้านข้างเคาน์เตอร์ที่จะมองสิ่งที่อยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าเจ้าของร้าน


และแน่นอนว่าสิ่งที่เธอเห็นคือตามคลิปวิดีโอข้างล่างเป๊ะ!!! พร้อมกับใบหน้าของเจ้าของร้านที่ดูน่าสยดสยอง


เมื่อเธอได้เห็นสิ่งนั้นชัดเจน เธอถึงกับกรีดร้องออกมา!!!

(นะ นั่นมัน...คน...คนใช่ไหม!!! ถ้างั้นสีแดงที่อยู่บนร่างนั้นก็...)



และในตอนนั้นเองที่หน้าประตูก็มีชายท่าทางประหลาดบุกเข้ามาในร้าน ซึ่งเซย์นะจำได้ว่ามันคือชายที่ไล่ตามเธอมานั่นเอง


"ดะ..เดี๋ยวสิ!! ตามมาถึงที่นี่เลยเหรอ!!!"



ทั้งเจ้าของร้าน ทั้งผู้ชายประหลาดต่างก็เดินเข้ามาหาเซย์นะพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างเข้ามาเพื่อจับเธอไว้ ทำให้เธอต้องหนีลัดเลาะไปตามตู้ยาเพื่อหาทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ เธอรู้แล้วว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเมืองนี้...และผู้คนที่เธอพบ

และเมื่อเธอเดินออกมาจากร้านเธอก็พบว่า...โลกอันแสนสงบสุขที่เธอเคยอยู่นั้นได้หายไปแล้ว..




โปรดติดตามต่อได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ (ตอนกลาง)

แสดงความเห็นบน Facebook!

2 ความคิดเห็น :

  1. ไม่ระบุชื่อ23 มีนาคม 2556 เวลา 10:21

    ........... เปิดเรื่องมาก็กดดันกันเลยทีเดียว

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 มีนาคม 2556 เวลา 03:41

    รู้สึกเครียดกันเลยทีเดียว T^T

    ตอบลบ