" />

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

มีใครอยากช่วยเจ้าของบล็อกแปลเนื้อเพลงธีมของโดจิน Doraemon : Nobita no Biohazard บ้างไหม??

หลังจากที่ตัวเกมโดจินซีรี่ย์โดราเอม่อนกับโนบิตะตะลุยโลกไบโอฮาซาร์ดได้มีการเผยแพร่และทำต่อเนื่องกัน(ในกลุ่มเล็กๆที่ญี่ปุ่น)กันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดเนื้อหาภาคต่อมาอีกหลายๆภาค

ภาคเนื้อเรื่องที่น่าสนใจนั้นคือ เนื้อเรื่องในส่วนที่มีการนำไปเขียนเป็นภาคโนเวลฟิคชั่น (Novel Fiction)  ที่แต่งโดยคุณ "ฮาจิเมะ อากิระ (はじめアキラ - Hajime Akira)" ซึ่งเป็นเนื้อหาต่อเนื่องต่อจากภาค G2 โดยใช้ชื่อภาคโนเวลว่า "จุดสิ้นสุดของฝันร้าย (最期の夢に終止符を - saigo no yume ni shuushibu wo)" หรือที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "End of the nightmare"  มีทั้งหมด 90 บทจบ [ซึ่งเราคิดว่าคงยังไม่แปลให้ในตอนนี้] ท่านสามารถตามอ่านได้ที่เว็บ pixiv.net (ต้อง Login สมาชิกของเว็บ pixiv ก่อนถึงจะเข้าไปดูได้)



วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

[ข้อมูลศัตรูในเกม] : คริมสันเฮด (Crimson Head)

คริมสันเฮด (Crimson Head : クリムゾン・ヘッド)

ภาพจากเกมโดจิน

 
ภาพจากเกม Resident Evil 1 (Remake)

พื้นฐานนำเข้ามาจากเกม : Resident Evil 1 (Remake Version)
ปรากฏในเกมโดจินภาค : ออริจินอลรีเมคVX และ มุดะนิไคโซวบังภาค 5 (ไซด์สตอรี่)

 

[Download] RAW Doujin Manga Doraemon : Nobita no Biohazard (diodio)

หลังจากที่เราสปอยล์เนื้อเรื่องโดจินมังกะจนครบจบภาค 1 แล้ว
>>โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [แนะนำเกมเบื้องต้น]

บางคนอาจจะอยากอ่านโดจินตัวเต็มทั้งหมด ทางเราก็ได้รวบรวมมาไว้ในไฟล์ .rar แล้วอัพโหลดขึ้น Mediafire ให้เรียบร้อยแล้ว (เป็น RAW ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดนะ)


โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [ของแถมท้ายของคนเขียนโดจิน]

ในที่สุดเนื้อเรื่องของโดจินมังกะที่วาดโดยคุณ diodio ภาคแรกก็จบลงเสียที
ถ้าใครอยากอ่านเนื้อเรื่องสปอยล์โดจินทั้งหมดสามารถอ่านได้ตั้งแต่บทความนี้ >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

ซึ่งหลังจากที่จบภาคแรกแล้วคุณ diodio นั้นยังมีเนื้อหาพิเศษแถมในท้ายเล่มหลังจากที่วาดภาค 1 จบ ด้วย ซึ่งเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆทั้งหมดนั้น คุณ diodio ได้ลงเอาไว้ในเว็บ http://www.pixiv.net ซึ่งเราจะลองหยิบเนื้อหาส่วนนั้นมาดูกัน

คนวาดขอกล่าวอะไรแถมท้ายพิเศษเล็กน้อย...


คุณ diodio เขาบอกว่า...


วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ (ตอนกลาง)

เนื้อหาของบทความนี้เป็นไซด์สตอรี่ต่อเนื่องมาจากบทความนี้
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ (ตอนต้น)
ใครที่ยังไม่เคยอ่านบทความที่แล้ว แนะนำให้ไปอ่านมาก่อน...

อ้อ แล้วขอประกาศอีกเรื่องคือเนื้อหาไซด์สตอรี่ของเซย์นะช่วงท้ายนั้นมีปริมาณเยอะมากจนเราต้องแบ่งออกมาอีก 2 ตอน ทำให้ไซด์สตอรี่ของเซย์นะถูกแบ่งออกเป็น 3 ตอน ไม่ใช่ 2 ตอนแล้วนะ


วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 3.5] : Side Story - ภาคเซย์นะ (ตอนต้น)

เนื้อเรื่องไซดสตอรี่ในบทความนี้มาจากภาคมุดะนิไคโซวบัง 5 ซึ่งกล่าวถึงเนื้อหาส่วนเสริมในเนื้อเรื่องในภาคมุดะนิไคโซวบัง 1 ในมุมมองของเซย์นะ

การพบเจอกับเซย์นะสำหรับเนื้อเรื่องเกมภาคมุดะนิไคโซวบัง 1 ในเกมจะแตกต่างจากการ์ตูนโดจินมังกะที่วาดโดยคุณ diodio มาก เพราะในโดจินจะเจอเซย์นะทันทีที่โนบิตะพึ่งมาถึงโรงเรียนและเข้าไปในห้องพยาบาลครั้งแรกในบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2]

แต่ว่าเนื้อเรื่องในเกมจริงๆนั้น เธอจะปรากฏตัวออกมาครั้งแรกตอนที่โนบิตะได้ทำการสำรวจห้องล็อคเกอร์ตามที่เดคิสุงิบอกในบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 4]
ตามคลิปข้างล่าง...



ซึ่งก่อนที่เซย์นะจะเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องล็อคเกอร์นี้และพบกับพวกโนบิตะ เธอได้ผ่านเรื่องเลวร้ายต่างๆมามากมาย ซึ่งไซด์สตอรี่ในบทนี้จะมาเล่าในเนื้อเรื่องส่วนของเธอกัน (เนื่องจากเนื้อเรื่องของเธอค่อนข้างยาวมาก เราเลยแยกเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบ)



[ผลงาน FanMade] เนนโดรอยด์ - เซย์นะจัง! (เซย์นะจิ๋วฉบับน่ารักสไตล์เนนโดรอยด์)

ขออภัยที่วันนี้เจ้าของบล็อกหายไปเกือบทั้งวัน เพราะติดธุระและพอกลับมาก็กะจะลองหาคลิปอะไรที่น่าสนใจเอามาแปะขึ้นแฟนเพจดู ปรากฏว่าคลิปที่โหลดจาก Niconico ที่น่าสนใจหลายตัวมันดันเป็นไฟล์ .swf ซะนี่... ทำให้ไม่สามารถอัพโหลดในรูปแบบวิดีโอได้ จึงต้องหาตัวแปลงไฟล์ตั้งน๊าน ตั้งนาน เจอทั้งโปรแกรมหลอกบ้าง โปรแกรมห่วยแตกติดบ้าง ติด License หาตัวแคร๊ก + ซีเรียลไม่ได้บ้าง จนในที่สุดก็มาจบลงที่โปรแกรม Free Software avi converter....

โอย ช่างเถอะ....

เอาเป็นว่าตอนนี้เจ้าของกระทู้ก็เอาคลิปจาก Niconico มาฝากให้ทุกคนได้ดูกัน ซึ่งก็คือวิธีการทำตัวเนนโดรอยด์เซย์นะจัง ตัวเอกประจำโดจินซีรี่ย์สุดน่ารักนั่นเองจ้า

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

[ข้อมูลศัตรูในเกม] : ไทแรนท์ T-002 (Tyrant T-002)

  ไทแรนท์ T-002 (Tyrant T-002  : タイラントT-002型)


ภาพตัวอย่างจากเกมโดจิน


ภาพจากเกม Resident Evil 1

พื้นฐานนำเข้ามาจากเกม : Resident Evil 1
ปรากฏในเกมโดจินภาค : เกือบทุกภาค

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 22 - ตอนจบ]

และแล้วในที่สุดก็เขียนมาถึงตอนจบของภาคนี้พอดี ซึ่งทุกท่านควรจะอ่านตอนที่แล้วมาก่อนนะ
>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 21]


ตัวละครหญิงตัวใหม่นี้ชื่อมินะหรือเซย์นะกันแน่? พบคำตอบได้ที่นี่!!

อยากแรกเลยก็ต้องขอขอบคุณท่าน Jinoga มากๆ ที่ได้หยิบโดจินเรื่องนี้ (เขียนโดยคุณ diodio) มาแปลเป็นภาษาไทยให้พวกเราทุกคนได้อ่านกันใน Nekopost ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรา เจ้าของบล็อกค้นคว้าเกี่ยวกับโดจินเรื่องนี้มากขึ้นจึงถือกำเนิดเรื่องราวของบล็อกนี้ขึ้นมา

ตอนนี้คนเขียนบล็อกอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนอะไรที่ธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่เนื้อเรื่องเกมบ้าง ก็คือบทความนี้นั่นเอง ซึ่งเนื้อหาตรงนี้เราจะหยิบประเด็นในเรื่องตัวละครหญิงสาวผมยาวที่คาดผมเหลือง ซึ่งเป็นตัวละครตัวใหม่ที่พึ่งปรากฏตัวในโดจินซีรีย์นี้ขึ้นมาถกประเด็นกัน

ประธานนักเรียนสาวรุ่นพี่ปี 6
มิโดริคาว่า เซย์นะ  [緑川聖奈] - Midorikawa Seina


ภาพในเวอร์ชั่นการ์ตูนโดราเอม่อน

ภาพในเวอร์ชั่นเกมโดจินของคุณ diodio



ถ้าหากหลายคนได้ลองอ่านโดจิน Doraemon : Nobita no Biohazard ที่ท่าน Jinoga แปลมา (ในตอนที่ 2) จะเห็นได้ว่าตอนแนะนำตัวเธอคนนี้ เขาใช้ชื่อว่า "มิโดริคาว่า มินะ (Midorikawa Mina)"



ซึ่งก่อนหน้านั้นทางเราก็เคยอ่านบทความเกมโดจินเรื่องนี้มาก่อนในเว็บ dek-d ซึ่งก็คือกระทู้การ์ตูนบทความของคุณ cammy >> ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ ตอนที่ 226 : Nobita no Biohazard โดเรมอนตะลุยโลกซอมบี้

ก็บอกไว้ว่าเธอคนนี้ชื่อ "มิโดริคาว่า มินะ" เช่นกัน  ประกอบกับตอนที่เราดูเว็บรวบรวมรูปภาพอย่าง lolibaka ในยุคแรกก่อนที่เราจะมาสืบค้นบทความเกมนี้ก็ใช้ชื่อ tags ว่า Midorikawa_Mina เหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นเราก็เชื่อว่า เธอคนนี้คงจะชื่อ "มินะ" อย่างที่หลายคนบอก

แต่พอเราไปฟังเสียงแคสต์เกมของคนญี่ปุ่นในคลิป Youtube ดูตอนที่เรียกชื่อเธอคนนี้เหมือนจะไม่ได้ยินว่า มินะ เลย แต่เป็น "เ...นะ" มากกว่า ทำให้เราประหลาดใจมากว่าเอ๊ะ ตกลงไม่ได้ชื่อมินะเหรอ?



จากนั้นเราก็ได้สืบหาแหล่งโดจินล่วงหน้าจนกระทั่งพบ แต่ปรากฏว่าตรงหน้าที่แสดงสถานะแบบ Resident Evil ตอนท้ายเล่มโดจินประมาณตอนที่ 4 นั้น กลับแสดงชื่อเป็น "Seina" = เซย์นะ


ซึ่งตอนนั้นเองเราก็เริ่มเอะใจชื่อแล้วว่า ตกลงมัน "มินะ" หรือ "เซย์นะ" กันแน่ จนในที่สุดเราก็ตัดสินใจที่จะสืบหาความจริงในเรื่องนี้ ประกอบกับด้วยความที่เราเป็นคนเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน (ถึงจะสอบได้แค่ระดับ N4 ก็เถอะ) ทำให้เราคิดว่า เราต้องหาคำตอบเรื่องนี้ได้แน่นอน


เนื่องจากชื่อตัวละครนี้ถูกเขียนด้วยตัวอักษรคันจิ 緑川聖奈 ที่อ่านชื่อได้หลายแบบ ทำให้หลายคนที่เก่งญี่ปุ่นเบื้องต้น(ยังไม่ขึ้นเรื่องคันจิ) ที่สามารถอ่านได้แต่อักษรคานะที่อ่านตายตัว ไม่อาจจะอ่านชื่อนี้ได้แน่นอน ซึ่งการที่พวกเขาจะอ่านคันจิได้นั้นจะต้องมีตัวอักษรคานะกำกับการอ่านด้วย แต่เนื่องจากเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเกมโดจินนี้ยังรู้จักกันแค่ในวงการเฉพาะกลุ่มแบบแคบๆ ทำให้ยังไม่มีคนที่สามารถสะกดได้อย่างตายตัว จึงได้แต่หาคำตอบการอ่านชื่อแบบทางอ้อมไปเรื่อยๆ


หลังจากที่เราหาข้อมูลอยู่นานก็ได้คำตอบว่า
ชื่อที่ถูกต้องของเธอคือ "มิโดริคาว่า เซย์นะ" ต่างหาก ไม่ใช่ "มิโดริคาว่า มินะ"
จากหลักฐานต่อไปนี้...

1) คำอ่านฮิรางานะจากเว็บไซต์ข้อมูลเกม (Pixiv Wikipedia) และตัวเกมในภาค Insanity Destiny  


เราได้สืบค้นไปถึง Wikipedia ในเว็บญี่ปุ่นแห่งหนึ่งซึ่งก็คือ www.pixiv.net ซึ่งมีข้อมูลของเกมโดจิน Doraemon : Nobita no Biohazard มากพอในระดับหนึ่ง รวมถึงรายชื่อตัวละครใหม่ด้วยและเมื่อคลิกเข้าไปดูข้อมูลตัวละครใหม่ตัวนี้ก็พบว่าเธอมีชื่อตัวอักษรฮิรางานะ (คานะแบบหนึ่ง) กำกับด้วยซึ่งก็คือ >> ข้อมูลตัวละคร




"มิโดริคาว่า เซย์นะ" 



นอกจากนี้ในตัวเกมภาคอินเซนิตี้ เดสทินี่ (Insanity Destiny) ยังมีการแนะนำชื่อตัวละครที่เขียนด้วยตัวคันจิและวงเล็บการอ่านออกเสียงกำกับด้วยตัวฮิรางานะด้วย ตอนที่เซย์นะแนะนำตัวเองให้ลีออนรู้จัก






ดังนั้นหากดูจากตัวเกมหรือคำอ่านที่คนญี่ปุ่นใช้แล้วจึงเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเธอชื่อเซย์นะ


2) จากการวิเคราะห์ตัวคันจิจากชื่อทีละตัวโดยละเอียด

ชื่อของเธอถูกเขียนด้วยตัวคันจิ 緑川聖奈 ซึ่งเราขอวิเคราะห์แค่ 2 ตัวสุดท้าย เพราะ มิโดริคาว่า (緑川) นั้นเป็นนามสกุลที่ถูกต้องอยู่แล้ว ทีนี้เราจะใช้เว็บในการตรวจสอบการอ่านแบบคันจิกันซึ่งก็คือ 
 http://www.minnanokanji.com 

เว็บมินนะโนะคันจิเป็นเว็บที่รวบรวมการใช้คันจิที่มีการอธิบายภาษาไทยได้ดีที่สุด ดังนั้นเราจึงทำการตรวจสอบคันจิชื่อของเธอทีละตัว   (聖奈)


คันจิ 聖 อ่านได้แค่เสียง セイ (sei = เซย์) ได้อย่างเดียวค่ะ ไม่มีทางอ่านอย่างอื่นได้เลย



คันจิ อ่านได้แค่เสียง ナ (na = นะ) ได้อย่างเดียวเช่นกัน

ดังนั้นคันจิ 2 ตัวรวมกันจึงอ่านได้แค่ว่า 聖奈 = セイナ = seina = เซย์นะ
ไม่มีทางอ่านเป็น มินะ (mina) ได้อย่างแน่นอน

3) ตรวจสอบที่มาความคลาดเคลื่อนจากการอ่านเซย์นะเป็นมินะ

นอกจากตรวจสอบที่มาของการอ่านได้แล้ว เราก็ต้องตรวจสอบด้วยว่า ชื่อ "มินะ" นั้นมีที่มาอย่างไร ทำไมคนที่บัญญัติการอ่านชื่อนี้คนแรกถึงบอกว่า 聖奈 อ่านว่า "มินะ"

 ซึ่งเราก็ค้นพบว่า ความน่าจะเป็นในการผิดพลาดมากที่สุดก็คือ..เจ้าเว็บนี้นั่นเอง translate.google.co.th


Google Translate นั่นเอง... ถ้าหากเอา 聖奈 มาแปลเป็นอังกฤษตรงๆจะได้ว่า Mina ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่า  聖奈 อ่านว่า มินะ นั่นเอง.... (อย่าไปเชื่อ Google Translate มาก)

และเนื่องจากว่าในตอนนั้นยังไม่ค่อยมีผู้คนสนใจในเรื่องนี้มาก (เพราะอย่างที่บอกคือเกมโดจินนี้เป็นที่รู้จักกันในแค่กลุ่มเล็กๆซึ่งไม่ค่อยมีคนไทยเอามาเผยแพร่มากนัก) จึงทำให้เรียกชื่อ มินะ กันต่อมาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ โดยไม่รู้สึกติดใจอะไร  จนกระทั่งได้มีคนมาค้นพบความจริงใหม่ เราจึงได้แก้ชื่อจาก มินะ และใช้ชื่อ เซย์นะ มาตลอดจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงเราเลยได้ทำการรื้อ Tags ใน lolibaka ที่ชื่อ Midorikawa Mina ทั้งหมด ออกไปและเปลี่ยนเป็นชื่อ midorikawa_seina ทั้งหมด


ดังนั้นหวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะได้คำตอบเกี่ยวกับที่มาของชื่อตัวละครหญิงตัวใหม่ตัวนี้เสียที





"ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ ว่าคนไทยจะเรียกชื่อฉันผิดๆมาโดยตลอดแบบนี้
ต่อจากนี้ไปขอให้เรียกชื่อของฉันว่า "เซย์นะ" ด้วยนะคะ!!"



อ้อ ทิ้งท้ายนี้ทางคนเขียนบล็อกหรือแอดมินเพจขอบอกไว้ก่อนว่า บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้ในการโจมตีผู้แปลโดจินหรือคนอื่นว่าการเรียกชื่อว่า "มินะ" เป็นความผิดร้ายแรงแต่อย่างใดเพราะทางเราเองก็เข้าใจว่า เรื่องนี้มีน้อยคนที่จะสามารถสืบลึกเข้าไปถึงตรงนี้ได้ แถมเป็นแค่ที่รู้จักในกลุ่มเล็กๆเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเราได้รู้ตรงนี้แล้วอย่างน้อยก็น่าจะเป็นข้อมูลที่จะนำไปปรับปรุงให้ถูกต้องต่อไป ซึ่งทางเราต้องขอบคุณคนแปลโดจินอย่างท่าน Jinoga ด้วยซ้ำที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงแปลโดจินมาให้พวกเราได้อ่านกันและทำให้มีสังคม Blog และ Fanpage จนถึงทุกวันนี้ ต้องขอบคุณมากจริงๆ 

ปล. ต่อจากนี้ในทางเราจะไม่มีการพูดว่าการเรียกชื่อตัวละครว่า มินะ เป็นการเรียกที่ผิดแต่อย่างใด แต่ทางเราก็จะขอเรียกชื่อเซย์นะต่อไป และถ้าหากมีใครมาทักท้วงว่าควรเรียกอะไรล่ะก็..ขอให้เอาบทความนี้โยนให้อ่านเลยแล้วกัน...

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

[ข้อมูลศัตรูในเกม] : คิเมร่า (Chimera)

คิเมร่า (Chimera  : キメラ)

ภาพตัวอย่างจากเกมโดจิน
ภาพจากเกม Resident Evil 1


พื้นฐานนำเข้ามาจากเกม : Resident Evil 1
ปรากฏในเกมโดจินภาค : เกือบทุกภาค

ข้อมูลในซีรี่ย์เกม Resident Evil
        คิเมร่าจัดเป็นอาวุธชีวภาพ (B.O.W.) ชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างโดยการนำดีเอ็นเอของแมลงวันและที-ไวรัสมาใส่ในเนื้อเยื่อของมนุษย์จนเกิดการกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ มีความสามารถในการปีนป่ายผนังและเพดาน แต่ไม่สามารถบินได้ มีมือที่เป็นเหมือนกับตะขอที่แหลมคมมีไว้สำหรับจู่โจมเป้าหมาย แต่ถึงกระนั้นความร้ายกาจของมันนั้นไม่สามารถพัฒนาต่อได้มากเหมือนกับฮันเตอร์ ทำให้มีขอบเขตจำกัดในการพัฒนา (เพราะเหตุนี้มันจึงไม่ถูกนำไปลงทะเบียนรหัส B.O.W.)

ข้อมูลของเกมโดจินภาคออริจินอล
        คิเมร่าพบครั้งแรกในห้องทดลองลับใต้ดินซึ่งมีความสามารภพิเศษในการเกาะฝ้าเพดาน โดยในเกมจะสังเกตได้จากเงาบนพื้น ซึ่งก็คือตำแหน่งที่มีคิเมร่าเกาะอยู่ และเมื่อมันเข้าใกล้ผู้เล่นมันก็จะปรากฏตัวลงมาบนพื้นพร้อมกับใช้ตะขอในการจัดการต่อสู้
ข้อมูลของเกมโดจินภาครีเมค VX
      คิเมร่าในภาครีเมคถูกเพิ่มความสามารถในการโจมตีที่น่ากลัวโดยการจับกดแล้วเอาตะขอปักสมองของเป้าหมายเข้าไปซึ่งมีผลในการทำให้ตายในทีเดียว
ข้อมูลของเกมโดจินภาคจี
      คิเมร่าสามารถกระโดดย่นระยะเพื่อเข้าหาเป้าหมายได้ แต่ขณะเดียวกันผู้เล่นก็สามารมุดลอดใต้ตอนที่มันกระโดดได้เช่นกัน ทำให้คิเมร่าเป็นศัตรูที่เอาชนะได้ยากในภาคนี้เนื่องจากมีความสามารถในการหลบหลีกเพิ่มขึ้น
 
อ่านรายละเอียดส่วนลึกของคิเมร่าต่อได้ที่ >> Resident Evil Database : Chimera
อ่านรายละเอียดส่วนลึกเกี่ยวกับตำนานของชื่อคิเมร่าได้ที่ >> Wikipedia

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคซูเนโอะ

เนื้อเรื่องนี้เป็นเนื้อเรื่องของเกมโดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban ภาค 5 ที่เป็นเนื้อเรื่องในส่วนของไซด์สตอรี่ในมุมมองของอีกตัวละครหนึ่งที่ปรากฏขึ้นใน Muda ni Kaizouban ภาค 1

ซึ่งก็คือตอนที่พวกโนบิตะกับผอง เพื่อนกลับมาที่บ้านของโนบิตะและเตรียมแยกย้ายกันกลับบ้าน และในตอนนั้นเองที่พวกเขาพบว่าโลกของพวกเขาทั้งใบนั้นเปลี่ยนไปแล้ว พวกเพื่อนๆของโนบิตะต่างก็ต้องหาทางเอาตัวรอดจนกว่าจะมาพบกันที่โรงเรียนอีก ครั้ง ซึ่งพวกเพื่อนๆของโนบิตะเองก็ต้องเผชิญหน้าจากอันตรายไม่ต่างจากโนบิตะเช่นกัน

หลังจากที่เขียนเนื้อเรื่องของwไจแอนท์ไปในบทความที่แล้ว  โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคไจแอนท์ (ทาเคชิ)

ส่วนในบทนี้เราจะมาดูเนื้อหาของเพื่อนอีกคนในกลุ่มโนบิตะกัน ซึ่งก็คือ ซูเนโอะ นั่นเอง...ว่าหลังจากที่กลับมาแล้วซูเนโอะต้องเผชิญอะไรมาบ้าง

เนื้อเรื่องในบทความนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

ท่านสามารถดูคลิปประกอบเนื้อเรื่องได้ข้างล่าง




วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 21]

ไม่คิดเลยว่าจะอัพเร็วขนาดนี้นะเนี่ย... แต่ช่างมันเถอะ... ไหนๆก็ใกล้จะจบแล้วก็เอาให้เต็มที่ไปเลยเนอะ....

ความเดิมตอนที่แล้วโนบิตะได้...อ่านเอาเองดีกว่า  >>> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 20]




============================================


ความหวังสุดท้าย!! : T-Virus Burst Mode!!!

โนบิตะได้เริ่มมองเห็นภาพความตายของตัวเองอยู่เบื้องหน้า...ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาคงต้องถูกเจ้าซุปเปอร์ไทแรนท์นั่นฆ่าตายแน่ๆ  แต่ตอนนี้เขาขยับไม่ได้.....

ทำไม...ทำไม....



ว้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เขาได้แหกปากร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่น!!!!

ในช่วงที่ไทแรนท์กำลังจะฟาดเมื่อใส่เขา และในตอนนั้นเองก็มีวัตถุบางอย่างตกเข้ามาข้างๆไทแรนนท์พร้อมกับเปล่งแสงสว่างวาบออกมา


วัตถุนั้นได้ก่อให้เกิดระเบิดเปลวเพลิงลุกท่วมไทแรนท์อย่างแม่นยำโดยที่ไม่โดนโนบิตะเลยแม้แต่น้อย ท่าทางคนที่โยนเจ้านี่มาคงจะกะระยะได้เป็นอย่างดี

ไทแรนท์ถูกไฟครอกถึงกับเปล่งเสียงร้องออกมา ดูเหมือนกับว่ามันจะดิ้นทุรนทุรายกับเปลวไฟจากระเบิดนั้นเป็นเวลานานระดับนึงเลยทีเดียว

และในตอนนั้นเองที่โนบิตะได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา

"ตอนนี้แหละรีบหนีขึ้นไปบนรถไฟเร็วเข้า!!"


คนที่มาช่วยโนบิตะไว้ได้อย่างฉิวเฉียดก็คือเดคิสุงินั่นเอง ซึ่งเขาได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกระเป๋าถือใบหนึ่ง


"ตอนนี้แหละได้โอกาสแล้ว!!  เดคิสุงิกับฉันจะไปพาตัวโนบิตะขึ้นมา ชิสุกะกับยาสุโอะพวกเธอทั้งสองคนรีบไปช่วยไจแอนท์เร็วเข้า!! ส่วนที่เหลือโดยเฉพาะซูเนโอะ ช่วยยิงถ่วงเวลามันเอาไว้ให้ได้!!"

โดราเอม่อนรีบสั่งการอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างทราบหน้าที่ของตัวเองจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นๆทันที

ตอนนั้นเองที่เคนจิบอกให้ทุกคนรีบขึ้นมาข้างบนก่อน (ส่วนเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นค่อยคิดทีหลังละกัน)


ชั่วพริบตา ไทแรนท์ตัวนั้นก็ได้ใช้พลังแขนของมันปัดไฟออกไปจนหมด

"แย่ล่ะสิ จะให้เจ้าตัวอันตรายนั่นเข้าใกล้รถไฟไม่ได้เด็ดขาด"

เดคิสุงิเห็นท่าไม่ดีจึงโยนกระเป๋าสี่เหลี่ยมที่เขาถือมาให้กับโดราเอม่อน ส่วนตัวเขาจะรับหน้าที่เป็นคนล่อไทแรนท์ด้วยปืนกล M16 ที่เขาถือเอง  เดคิสุงิจึงเริ่มเหนี่ยวไกยิงปืนกลใส่มันทันที พร้อมกับวิ่งล่อมันออกไปให้ห่างจากรถไฟ
 

ตัดกลับมาด้านในรถไฟซึ่งไจแอนท์ได้เข้ามาก่อนแล้วยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับแรงกระแทกจากการโจมตีของมัน ยาสุโอะจึงถามไจแอนท์ด้วยความเป็นห่วงแต่ไจแอนท์ก็บอกไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บนี้แค่นี้ทำอะไรท่านไจแอนท์ผู้นี้ไม่ได้หรอก

ดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็คับขันเต็มทีแล้วเห็นทีเขาต้องใช้เจ้าไพ่ตายที่พกติดอยู่กับหลังเขามาตลอดเสียที...

เครื่องยิงระเบิดจรวด RPG ที่สามารถถล่มได้แม้กระทั่งรถถังนี่แหละ!!!

แต่การจะใช้งานเขาก็ต้องคิดหนักเนื่องจาก เครื่องยิงระเบิดอันนี้มีอานุภาพทำลายล้างสูงมาก แต่ก็เล็งยากมากด้วยหากเป้าหมายไม่นิ่งอยู่กับที่ แถมดีไม่ดีพวกเดียวกันเองอาจจะโดนลูกหลงจากระเบิดนี้อีก เขาต้องหาบริเวณโล่งๆที่จะเล็งยิงเจ้าสิ่งนี้ใส่เป้าหมายเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกสิ่งกีดขวางระเบิดกลางทางเสียก่อน



เซย์นะกับเคนจิยังคงสาดกระสุนปืนพกใส่ไทแรนท์ที่อยู่นอกตัวรถไฟอย่างต่อเนื่อง  เคนจิได้ทำการรีโหลดกระสุนใหม่พร้อมกับวิตกกังวลว่า กระสุนปืนที่เขาใช้อยู่ใกล้จะหมดเต็มที ถ้าหากกระสุนที่เขาใช้เกิดหมดขึ้นมาเดคิสุงิต้องลำบากแน่ (กระสุนปืนพกที่เซย์นะกับเคนจิ ทำได้แค่เพียงสะกัดการเคลื่อนไหวของไทแรนท์ชั่วคราวเท่านั้น)

เซย์นะเองก็คิดแบบเคนจิเช่นเดียวกัน เธอเองก็กังวลเรื่องจำนวนกระสุนไม่น้อย  และในตอนนั้นเองซูเนโอะก็เปลี่ยนจากปืนไรเฟิลมาเป็นปืนพกกระหน่ำยิงไทแรนท์ที่อยู่ข้างนอก ยาสุโอะจึงถามว่า แล้วปืนไรเฟิลล่ะ ซูเนโอะบอกว่ากระสุนหมดไปแล้ว  ทางด้านเดคิสุงิเองก็เช่นกัน ตอนนี้เขาได้ใช้กระสุนปืนกลจนหมดแล้วด้วย จึงตัดสินใจโยนปืนทิ้ง และตอนนั้นเองที่ไจแอนท์ได้ตะโกนบอกเดคิสุงิจากบนหลังคารถไฟว่าให้เขาช่วยเป็นตัวล่อไทแรนท์ให้หน่อย


ไจแอนท์ที่อยู่บนหลังคารถไฟได้ประทับเครื่องยิงจรวดไว้บนบ่าพร้อมที่จะยิงแล้ว เขาต้องการให้เดคิสุงิสร้างโอกาสให้เขาสามารถยิงโจมตีใส่ไทแรนท์นั่นเอง เดคิสุงิที่เห็นไจแอนท์ในสภาพนั้นก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วจึงรับหน้าที่วิ่งล่อไทแรนท์ให้ ดูเหมือนว่าเรื่องจัดการปิดฉากไทแรนท์นั้นคงต้องเป็นหน้าที่ของไจแอนท์ที่ถืออาวุธที่แรงที่สุดไว้แล้ว

ซึ่งตอนนั้นเองเป็นเวลาเดียวกับที่โดราเอม่อนกำลังพยุงโนบิตะที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตายขึ้นรถไฟ.. โนบิตะจึงได้หันหลังไปมองเดคิสุงิที่กำลังวิ่งล่อไทแรนท์อยู่ในตอนนั้น


เดคิสุงิได้วิ่งล่อให้ไทแรนท์วาดแขนฟาดจั่วลมกลางอากาศทำให้มันชะงักไปชั่วครู่พร้อมกับเร่งสปีดตัวเองจนทิ้งห่างไทแรนท์ไป ซึ่งตอนนั้นเองไจแอนท์ได้เห็นโอกาสที่จะยิงแล้วจึงเหนี่ยวไกยิงจรวดติดระเบิดใส่ทันที


จรวดพุ่งเข้าหาไทแรนท์ด้วยความเร็วอย่างแม่นยำและในที่สุด....

"เฮ้ย!!! บ้าน่า!!!!!"

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น...!!!


"เจ้านั่นมันหยุดจรวดได้งั้นเหรอ!!!!"

ไทแรนท์ได้ใช้แขนทั้งสองของตนเองรับจรวดที่กำลังติดไอพ่นพุ่งใส่ตัวเองได้

"ตอนนี้ รีบยิงทำลายจรวดเร็วเข้า!!!"

เดคิสุงิที่ได้สติก่อนเพื่อนพยายามบอกเพื่อนคนอื่นที่ยังคงช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ถึงมันจะรับได้ แต่ถ้าหากทำให้กระสุนจรวดระเบิดก่อนที่มันจะปัดทิ้งไปก็ยังดี!!!  ยาสุโอะที่ได้ยินเสียงเดคิสุงิจึงรีบชักปืนเตรียมยิง



แต่ไทแรนท์กลับใช้แขนเหวี่ยงจรวดกลับมาทางพวกเดคิสุงิก่อนที่พวกเขาจะทำจรวดระเบิด!!

"มันขว้างกลับมางั้นเรอะ!!!"

เคนจิได้แต่ตะโกนบอกสิ่งที่เกิดขึ้น จรวดนั้นกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเขา ซูเนโอะได้แต่ก้มหน้าพร้อมกับแหกปากร้องหาหม่าม้า

ทางด้านเดคิสุงิ...ได้แต่ช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง...

"ทะ..ทุกอย่าง...จบสิ้นแล้วงั้นรึ"

ถ้าหากจรวดพุ่งมาถึงตรงนี้ได้..ทุกอย่างก็จบ ทุกคนคงไม่รอดจากแรงระเบิดได้แน่ หรือต่อให้รอด รถไฟก็จะพังจนใช้งานไม่ได้ พวกเขาก็ต้องตายกับสถานที่ที่กำลังจะระเบิดตัวเองแห่งนี้อยู่ดี


ปัง!!!!

กระสุนได้พุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนของคนๆหนึ่งเข้าใส่จรวดที่พุ่งกลับมาจนเกิดระเบิดกลางอากาศอย่างแม่นยำก่อนที่จะถึงขบวนรถไฟ

 ผู้ที่ยิงปืนกระบอกนั้นคือผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าจรวดนั้นตรงทางขึ้นประตูรถไฟ


แรงระเบิดมหาศาลได้สร้างคลื่นอากาศอย่างรุนแรงจนทำให้พวกเพื่อนๆที่อยู่ในรถไฟกระเด็นกันถ่วนหน้า โดยเฉพาะไจแอนที่ยืนอยู่บนหลังคารถนั้นเกือบจะกระเด็นตกรถไฟเลยทีเดียวแต่โชคดีที่เขาเกาะขอบรถไฟทันจึงไม่ร่วงลงไป  ไจแอนท์สงสัยมากว่าใครเป็นคนยิงปืนเมื่อสักครู่ออกไปและก็ต้องพบคำตอบเมื่อมองไปข้างล่าง


"โนบิตะ??"


"เฮ้ย!!! ไอ้สัตว์ประหลาด!!!!"

โนบิตะคือคนที่ยิงปืนช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้ และดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเปลี่ยนไป  นัยน์ตาของเขาได้กลายเป็นสีแดงฉานและยังเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ได้แม้จะเกิดแรงระเบิดมหาศาล

ไทแรนท์จ้องมองโนบิตะศัตรูเก่าด้วยความเคียดแค้นก่อนที่จะวิ่งพุ่งเข้ามาหาโนบิตะอย่างสุดกำลัง

"มะ มันพุ่งเข้ามาแล้ว" ซูเนโอะบอกสถานการณ์ที่เขาเห็นอยู่กับคนอื่น



 "บ้าเอ้ย....!!  เหลือแค่ลูกสุดท้ายแล้วนะ"

ไจแอนท์ได้แต่สบถพร้อมกับบรรจุหัวจรวดใส่ปากกระบอกปืนใหม่ ซึ่งตอนนี้เหลือนัดสุดท้ายแล้ว

โนบิตะได้ยกปืนขึ้นพร้อมกับประเมินสถานการณ์ในใจ แต่เขารู้สึกถึงบางอย่างได้... เขารู้สึกว่า ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขานั้นช้าลง... สายตาของเขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน ทั้งการเคลื่อนไหวของไทแรนท์ ทั้งตำแหน่งปืนของตนเอง ทุกอย่างเริมชัดเจนในสายตาเขา สมองเขาเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว

(ปืนแม็กนั่มก็ร่วงไปแล้ว ทุกคนต่างก็พยายามเต็มที่เพื่อช่วยเรา ฉันจะต้องยิงไม่พลาดเด็ดขาด  คนที่พอจะจัดการมันได้ก็มีแต่ไจแอนท์เท่านั้น ฉันต้องสร้างโอกาสให้เขา..ฉันจะต้องหยุดมันให้ได้!)


"ตรงนั้น!!!"

โนบิตะได้ยิงปืนออกไป 2 นัดด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ ซึ่งเป้าหมายของเขาคือ...ดวงตาทั้งสองข้างของไทแรนท์



กระสุนปืนทั้งสองพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองข้างของไทแรนท์อย่างแม่นยำทำให้มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับยืนบิดตัวไปมา

(มันหยุดการเคลื่อนที่แล้ว ตอนนี้แหละ)


"ไจแอนท์!!!!!" 

โนบิตะตะโกนขอกไจแอนท์อันเป็นสัญญาณให้ไจแอนท์ยิงจรวดโจมตีใส่มันอีกครั้ง!!!



ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ร่างของไทแรนท์ถูกระเบิดฉีกร่างเละออกเป็นชิ้นๆ!!!



"จะ จัดการไทแรนท์ ได้แล้วสินะ"

ซูเนโอะพูดในขณะที่สั่นออกมาไม่หยุด ส่วนทางด้านเดคิสุงิเองก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เขามองมาตลอด..สิ่งที่เขาตกใจไม่ใช่อานุภาพของจรวด RPG ที่ยิงใส่ไทแรนท์จนร่างแหลกเละ

"มะ เมื่อกี้...ตาของโนบิตะคุงเป็นสีแดงงั้นเหรอ?  เขาสามารถยิงจรวดที่พุ่งกลับมาด้วยความเร็วสูงได้แถมยังสามารถคุมสติในการยิงปืนพกใส่ตาของเจ้านั่นอย่างแม่นยำโดยไม่มีท่าทีหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยด้วย.. พลังความสามารถที่เหลือเชื่อนี่มัน.."

"สุดยอด..โนบิตะ นายทำได้ยังไงกัน"  โดราเอม่อนเองก็ทึ่งในความสามารถอันเหลือเชื่อนั้น

ตอนนั้นเองที่โนบิตะได้เอามือกุมศีรษะเอาไว้ พร้อมกับทรุดลงไปบนพื้น

"โนบิตะ!!!!"

โดราเอม่อนรีบพยุงตัวโนบิตะเข้ามาในรถไฟทันที

"ทุกคนขึ้นมาบนรถไฟเร็วเข้า!! เราไม่มีเวลาแล้วนะ!!!"

เซย์นะรีบตะโกนบอกทุกคนที่อยู่นอกตัวรถไฟทันที ใช่แล้ว พวกเขาเกือบลืมไปแล้วว่า เหลืออีกไม่กี่วินาทีเท่านั้นสถานที่แห่งนี้จะทำการระเบิดตัวเอง

เดคิสุงิรีบวิ่งกระโดดขึ้นมาบนรถไฟทันที...


เวลา 6.00 นาฬิกา......

ระบบทำลายตัวเองเริ่มทำงาน

ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

รถไฟฉุกเฉินเคลื่อนตัวออกไปตามรางพร้อมกับหนีเปลวเพลิงจากการระเบิดที่ไล่ตามหลังมาได้อย่างทันฉิวเฉียดพอดี




โปรดติดตามตอนต่อไปได้ที่ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 22 - ตอนจบ]






[ข้อมูลศัตรูในเกม] : แบล็คไทเกอร์ (Black Tiger)

แบล็คไทเกอร์ (Black Tiger  : ブラックタイガー)



ภาพในเกมโดจิน

ภาพจากเกม Resident Evil 1

พื้นฐานนำเข้ามาจากเกม : Resident Evil 1
ปรากฏในเกมโดจินภาค : เกือบทุกภาค

 

         แบล็คไทเกอร์ (Black Tiger) คือตัวหัวหน้าของเหล่าแมงมุมยักษ์ที่เรียกว่า "เว็บสปินเนอร์ (Web Spinner)"

ข้อมูลในซีรี่ย์เกม Resident Evil
        แมงมุมยักษ์ที่ได้รับเชื้อที-ไวรัสเข้าไปมากจนกลายพันธุ์เป็นอาวุธชีวภาพรหัส MA-25 ซึ่งได้มีการตั้งชื่อให้ตอนแรกว่า "เว็บสปินเนอร์ (Web Spinner)" ซึ่งเป็นอาวุธชีวภาพที่สามารถแพร่พันธุ์ได้จำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ในบรรดาเว็บสปินเนอร์ทั้งหมดนั้น จะมีอยู่ตัวหนึ่งที่มีลักษณะที่แปลกประหลาดกว่าตัวอื่น คือ ร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตมหาศาลและมีร่างกายสีคล้ำกว่าเว็บสปินเนอร์ตัวอื่น ซึ่งก็คือเว็บสปินเนอร์ที่พัฒนาการได้สมบูรณ์แบบที่สุดและมีความดุร้ายที่สุด ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อเจ้าตัวนี้ว่า "แบล็คไทเกอร์ (Black Tiger)" เพราะว่ามีลักษณะที่มีลายคล้ายเสือ แต่เป็นสีดำ  แบล็คไทเกอร์เป็นแมงมุมที่มีพิษ อีกทั้งยังสามารถพ่นใยในการรัดเหยื่อก่อนพุ่งเข้าจู่โจมอีกด้วย ซึ่งใยของมันนั้นเหนียวมากและไม่สามารถดึงออกได้ง่ายนัก พวกมันถูกนักวิทยาศาสตร์ของอัมเบรล่าจับขังไว้ในอุโมงค์ใต้ดินทำให้มันสร้างอาณาจักรของตัวเองในที่แห่งนั้นเรื่อยมา

ข้อมูลของเกมโดจินภาคออริจินอล
        คนสร้างในตอนแรกนั้นได้ตัดคุณสมบัติพิษของแมงมุมออกไป (เพราะว่าความเป็นพิษคนสร้างเกมเอาไปให้ไบโอเกลลัสแทน) อีกทั้งในเกมภาคแรกๆนั้นยังไม่มีบลูเฮิร์บที่เป็นสมุนไพรแก้พิษ ดังนั้นถ้าหากให้มันมีท่าพิษด้วยจะทำให้ตัวเกมโหดเกินไปมาก (เพราะโดนทียังไงก็ตาย) ในภาคแรกๆ จะมีการใช้แบล็คไทเกอร์บ่อยกว่าเว็บสปินเนอร์เสียอีก ซึ่งในเกมจะมีศัตรูประเภทแมงมุมตัวเดียวเท่านั้นคือแบล็คไทเกอร์ (พวกเว็บสปินเนอร์ธรรมดาจะถูกเพิ่มไปในภาครีเมคขึ้นไป) แต่ถึงกระนั้นการต่อสู้กับแบล็คไทเกอร์ในภาคออริจินอลก็มีความยากอยู่ดีตรงที่แบล็คไทเกอร์สามารถพ่นใยเพื่อรัดเป้าหมายออกเป็นวงกว้างได้ อีกทั้งมันยังมีการเคลื่อนไหวและการโจมตีที่รวดเร็วด้วย จึงจัดว่าเป็นบอสที่น่ากลัวตัวหนึ่งของเกมโดจินซีรี่ย์นี้เลยทีเดียว
        แบล็คไทเกอร์ปรากฏตัวครั้งแรกในอุโมงค์ใต้ดินแบบเดียวกับใน Resident Evil แต่จะปรากฏตัวหลักจากที่เจอคัตซีนอีเว้นท์ตอนที่เดคิสุงิเปิดเผยความจริงและคิดจะเล่นงานโนบิตะในตอนนั้น แต่ว่าแบล็คไทเกอร์ก็ได้ปรากฏตัวออกมาฆ่าเดคิสุงิตายเสียก่อน โนบิตะจึงต้องต่อสู้กับแบล็คไทเกอร์เพียงคนเดียวทั้งๆที่ยังบาดเจ็บอยู่

ข้อมูลของเกมโดจินภาครีเมค VX
      แบล็คไทเกอร์สามารถพ่นพิษให้เกิดการติดพิษได้ แต่ว่าจะมีไอเท็มสมุนไพรสีฟ้า บลูเฮิร์บ มาคอยช่วยเหลืออยู่ตามทาง

ข้อมูลของโดจินมังกะ
      ในโดจินจะมีการเรียกเหมารวมเลยว่าเป็นเว็บสปินเนอร์ ไม่ได้พูดแยกแบบในเกมโดจินหรือจากเกม Resident Evil และมีลักษณะการปรากฏตัวที่คล้ายกับภาคออริจินอลคือจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่แบล็คไทเกอร์จะปรากฏตัวเพื่อฆ่าใครสักคน

อ่านรายละเอียดส่วนลึกของเว็บสปินเนอร์ต่อได้ที่ >> Resident Evil Database : Web Spinner
อ่านรายละเอียดส่วนลึกของแบล็คไทเกอร์ต่อได้ที่ >> Resident Evil Database : Black Tiger

โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคไจแอนท์ (ทาเคชิ)

เนื้อเรื่องนี้เป็นเนื้อเรื่องของเกมโดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban ภาค 5 ที่เป็นเนื้อเรื่องในส่วนของไซด์สตอรี่ในมุมมองของอีกตัวละครหนึ่งที่ปรากฏขึ้นใน Muda ni Kaizouban ภาค 1

ซึ่งก็คือตอนที่พวกโนบิตะกับผองเพื่อนกลับมาที่บ้านของโนบิตะและเตรียมแยกย้ายกันกลับบ้าน และในตอนนั้นเองที่พวกเขาพบว่าโลกของพวกเขาทั้งใบนั้นเปลี่ยนไปแล้ว พวกเพื่อนๆของโนบิตะต่างก็ต้องหาทางเอาตัวรอดจนกว่าจะมาพบกันที่โรงเรียนอีกครั้ง ซึ่งพวกเพื่อนๆของโนบิตะเองก็ต้องเผชิญหน้าจากอันตรายไม่ต่างจากโนบิตะเช่นกัน

หลังจากที่เขียนเนื้อเรื่องของชิสุกะไปในบทความที่แล้ว  โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1.5] : Side Story - ภาคชิสุกะ

เนื้อเรื่องนี้ก็ต้องกล่าวถึงเพื่อนคนสำรคัญอีกคนหนึ่งของโนบิตะ ซึ่งก็คือโกดะ ทาเคชิ หรือที่เรียกติดปากว่า ไจแอนท์ นั่นเอง โดยในบทความนี้เราจะได้เห็นความรู้สึกต่างๆของไจแอนท์ในช่วงเวลานั้น ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านดูท่านจะพบว่า..ในตัวไจแอนท์มีอะไรที่น่าสนใจกว่าที่คิดในสถานการณ์เช่นนี้

เนื้อเรื่องในบทความนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับบทความนี้ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 1]

ท่านสามารถดูคลิปประกอบเนื้อเรื่องได้ข้างล่าง



หน้าที่ของไจแอนท์


วันที่ 28 เดือนกันยายน ปี 2004
 

ตอนที่ทุกคนกลับมาจากการเที่ยวพักผ่อนอันแสนสนุกสุดเหวี่ยง


เมื่อมาถึงบ้านของโนบิตะ พวกเพื่อนๆก็ได้บอกลาโนบิตะและขอตัวกันกลับบ้าน ซึ่งไจแอนท์เองก็เช่นกัน ซึ่งก่อนเขาออกจากบ้าน เขาก็บอกให้โนบิตะไปทักทายคุณแม่ด้วยล่ะ
ก่อนที่ไจแอนท์จะลงบันได้เขาก็ได้ยินเสียงโหยหวนบางอย่าง แต่เขาคิดว่า เขาคงหูแว่วไปเอง



เขาเดินลงมาชั้นล่างก็เห็นแม่ของโนบิตะหันหลังอยู่ในครัวพร้อมกับทำอะไรบางอย่างเสียงแปลกๆ ไจแอนท์ได้แต่คิดในใจว่า สงสัยกำลังทำอาหารเย็นอยู่แน่ๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่ต้องการไปรบกวนคุณแม่ของโนบิตะเช่นเดียวกับชิสุกะ และซูเนโอะ จึงตัดสินใจเดินออกจากบ้านไป
ไจแอนท์ ซูเนโอะและชิสุกะได้เดินออกจากบ้านของโนบิตะ พวกเขาก็ต้องพบว่าเมืองข้างนอกตอนนี้มีบรรยากาศบางอย่างแปลกไป ซูเนโอะเป็นคนพูดทักขึ้นมาก่อนว่า พวกเธอรู้สึกแปลกๆอะไรบ้างหรือเปล่า

และตอนนั้นชิสุกะก็ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างซึ่งมันก็คือ..


"อะไรน่ะ เกิดไฟไหม้งั้นเหรอ!!"

ไจแอนท์พูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นเพลิงไหม้และควันไฟตามท้องถนน อาคาร ต่างๆบริเวณที่อยู่ห่างออกไป


"เฮ้ ไจแอนท์ ทางที่อยู่ตรงนั้นมันเป็นบ้านนายไม่ใช่เหรอ"


"อย่าปากเสียนะเว้ย เจ้าซูเนโอะ!!"


และตรงนั้นเองชิสุกะก็บอกให้ดูว่าทางตรงนั้นมีคนอยู่ด้วย


ไจแอนท์จึงบอกว่ายังไงก็แล้วแต่ ไปดูกันเถอะอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา


ตรงนั้นมีคนคนหนึ่งกำลังก้มลงทำอะไรบางอย่างอยู่ (พวกไจแอนท์ยังไม่เห็นสภาพคนที่นอนข้างล่าง)

"เฮ้ยย นายน่ะ ทำอะไรอยู่งั้นเหรอ"


ชิสุกะก็พูดเสริมว่า รู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้ แต่พวกเขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือก็ได้


ไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิสุกะจึงเข้าไปเดินดูใกล้ๆอีก


"เฮ้ย!! เป็นอะไรไหม มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ"

ไจแอนท์พยายามถามคนๆนั้น ขณะที่เขากำลังนั่งทำอะไรบางอย่างกับคนข้างล่างอยู่


"จะ ไจแอนท์ บางทีเขาอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้นะ"

ซูเนโอะพูดขึ้นมา


"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูไม่ค่อยดีเลย"

ชิสุกะถามคนๆนั้นต่อ


และในตอนนั้นเอง คนที่ก้มลงทำอะไรบางอย่างกับคนข้างล่าง ก็ค่อยๆลุกขึ้นและหันมามองพวกเขาอย่างช้าๆ


ซึ่งการกระทำของเขาทำให้พวกไจแอนท์มองเห็นสิ่งที่เหมือนกับคลิปข้างล่างนี้เป๊ะ!!



กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ชิสุกะกรี๊ดร้องกับภาพสยดสยองเบื้องหน้าพร้อมกับถอยหลังออกมา


"ฮะ..เฮ้ย!!! แก...แก.. เป็นตัวอะไรกันแน่วะ!!"


"จะ จะ จะ จะ... ไจแอนท์!!!"
ซูเนโอะเองก็ตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออก


และแล้วเจ้าสิ่งที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาดนั้นก็เดินเข้ามาหาพวกเขา


ทำให้พวกไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิสุกะ แยกกระจายไปคนละทางอย่างไว เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยกับเจ้านี่


"คะ คนนี้ เขา..เป็นอะไรไปแล้วเนี่ย"

ชิสุกะยิ่งสงสัยหนักขึ้นเมื่อเห็นสภาพที่น่าสยดสยองและรอยเลือดที่เปรอะเต็มหน้าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น


และตอนนั้นเองที่ซูเนโอะได้มองเห็นว่า..มีร่างของเด็กผู้หญิงคนนึงในสภาพเละเทะจมกองเลือดเหมือนถูกกัดจนเละโดยฝีมือเจ้านั่นด้วย


ตอน นั้นเองที่ไจแอนท์บอกให้ทุกคนตั้งสติพร้อมกับให้ทุกคนรีบกลับไปบ้านของโนบิ ตะและขอความช่วยเหลือจากโดราเอม่อนดีกว่า!! เรื่องแบบนี้มันเกินสามัญสำนึกของพวกเขาแล้ว!


ชิ สุกะจึงพูดแย้งว่า..แต่เราเดินกันมาไกลจากบ้านของโนบิตะมากแล้วนะ แล้วก็.... เธอมองไปทางซอมบี้เบื้องหน้าที่ดูเหมือนว่ามันจ้องจะเล่นงานเธอคนเดียว มันจึงพยายามเดินเข้าไปหาเธอช้าๆโดยไม่สนใจไจแอนท์กับซูเนโอะที่อยู่คนละ ฝั่ง


ซูเนโอะเองก็พูดขึ้นมาว่า เขาเองก็เป็นห่วงพ่อกับแม่ของเขามากกว่า


แต่ไจแอนท์บอกว่า เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังก็ได้ แต่เรื่องนี้สำคัญกว่า ถ้าหากเจอโดราเอม่อนล่ะก็ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย!!


และ ตอนนั้นเองชิสุกะก็เห็นว่ามีรถบรรทุกคันนึงวิ่งมาตามถนนที่เธอวิ่ง อยู่..ซึ่งดูเหมือนการขับของรถคันนั้น...... ไม่มีท่าทีว่าจะช้าลงเลย!!!! 


เธอจึงตะโกนบอกให้ไจแอนท์และซูเนโอะรีบหลบไปไกลๆทันที เพราะเจ้ารถบรรทุกคันนั้นกำลังพุ่งตรงมาทางนี้แล้ว!!!!

(เหตุการณ์นี้เหมือนกับเหตุการณ์เริ่มต้นใน RE2 มาก ซึ่งถ้าใครนึกภาพไม่ออกดูคลิปข้างล่างประกอบ จะเข้าใจว่าทำไมรถบรรทุกถึงไม่เบรค)



เมื่อ รถบรรทุกพุ่งชน(ซอมบี้จนเละเทะ)กับรถอีก 2 คันเบื้องหน้าพวกเขาจึงทำให้เกิดระเบิดไฟลุกท่วม ตรง 4 แยกที่พวกเขายืนอยู่จนทำให้พวกเขาไม่สามารถเดินไปหากันได้

"บ้าเอ้ย!! ไฟไหม้ขนาดนี้ก็เดินไปหากันไม่ได้น่ะเซ่!!"

ไจแอนท์ตะโกนออกมาจากทางซ้ายของถนน


"ไจแอนท์ ขืนอยู่ตรงนี้นานล่ะก็อันตรายแน่ นัดเจอกันที่อื่นก่อนเถอะ.."

ซูเนโอะพูดมาจากทางฝั่งขวาของถนน


"โรงเรียนอยู่ใกล้ที่นี่มากที่สุด ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะไปรวมตัวกันที่นั่นดีกว่านะ"

ชิสุกะเองก็ตะโกนมาจากถนนอีกเส้นหนึ่งเช่นกัน


ไจแอนท์ที่อยู่ฝั่งซ้ายของถนนได้ยินดังนั้นจึงตัดสินใจตะโกนให้ทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายว่าให้แยกย้ายแล้วไป พบกันที่โรงเรียนเลยก็แล้วกัน และก็ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วย พร้อมกับบอกว่า พวกโนบิตะเองก็คงจะต้องตามไปที่โรงเรียนด้วยแน่ๆ

พวกเพื่อนของโนบิตะจึงต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน 

"ระ โรงเรียน..... มันไปทางไหนกันฟะเนี่ย?"



ไจแอนท์ตกใจมากที่พบว่าบนเส้นทางถนนที่เขายืนอยู่นั่นมีเจ้าพวกคนประหลาดน่ากลัวพวกนั้นเเดินเต็มถนนไปหมด ซึ่งเขารู้ดีว่าถ้าเข้าไปใกล้พวกนั้นคงไม่ปลอดภัยแน่

"อะ...ไอ้พวกนั้น อยู่กันเต็มถนนหมดเลยหรือเนี่ย"


ไจแอนท์จึงเดินหลบหนีเจ้าพวกนั้นมาตามเส้นทางบนถนน ซึ่งพวกมันต่างก็ไล่ตามไจแอนท์เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าโชคดีมากที่พวกมันวิ่งช้า ทำให้ไจแอนท์สามารถวิ่งหนีพวกมันมาได้ไม่ยากนัก


 เขาวิ่งหนีเรื่อยๆจนมาถึงตรอกซอบแคบๆเล็กๆที่กั้นด้วยประตูเหล็ก เขาจึงรีบเปิดประตูหนีพวกซอมบี้จำนวนมากเข้าไปข้างใน


ประตูเหล็กนั้นพาเขาเดินมาถึงตรอกซอยเล็กแห่งหนึ่ง


ปรากฏว่า..เขาวิ่งมาเจอตรอกที่เป็นทางตันเข้าให้และในตรอกนั้นก็มีพวกซอมบี้อยู่ 2 ตัวเสียด้วย

"ฮะ...เฮ้ยย!! ตรงทางนี้ก็มีเรอะ!!"


เขาคิดหนักว่า เขาจะทำอย่างไรดี... ตรงนี้ก็ไม่มีที่ให้หนี ประตูก็ล็อก ตรงทางออกตรอกซอยก็มีรถขวางอีก แถมซอมบี้พวกนั้นก็เดินเข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ


เขาสังเกตเห็นว่ามีตำรวจนายหนึ่งนอนอยู่บนพื้นที่อยู่หลังเขา เขาจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือ

"คะ...คุณตำรวจ ช่วยผมที!!"


แต่พอเขาเข้าไปใกล้ตำรวจก็พบว่า ตำรวจคนนั้นนอนจมกองเลือดสภาพเละเทะทำให้ไจแอนท์รู้ทันทีว่าตำรวจคนนี้ตายแล้ว


เขาสังเกตเห็นของบางอย่างที่ตกอยู่ใกล้กับศพตำรวจ...ใช่แล้ว มันคือปืน...ปืนพกเบเร็ตต้า.. ไจแอนท์จึงรีบหยิบมันขึ้นมาพร้อมกันหันมาจ่อหน้าพวกซอมบี้ทันที

"เฮ้ย...อย่าเข้ามานะ...หยุดอยู่ตรงนั้น...ไม่งั้นยิงนะ!!"


ไจแอนท์พยายามพูดขู่แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล มันยังก้าวเท้าเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ  ไจแอนท์ได้แต่คิดหนักในใจ ที่ผ่านมาเขาทำตัวเป็นเด็กอันธพาลมีเรื่องชกต่อยมามาก แต่เรื่องการใช้ปืนจริงยิงฆ่าคนพวกนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เขาเคยคิดมาก่อนเลย  แถมเขาเองก็ไม่รู้วิธีใช้ปืนเสียด้วย


"สถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นโนบิตะล่ะก็..."

ไจแอนท์ได้นึกถึงโนบิตะในสถานการณ์นี้ ถึงหมอนั่นจะอ่อนแอ ปวกเปียก แต่ก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการยิงปืนชนิดหาตัวจับยาก ใช่แล้ว...ถ้าเป็นโนบิตะจะต้องรู้วิธีใช้ปืนจากสถานการณ์แบบนี้ได้แน่ๆ แต่คนที่ใช้ปืนตอนนี้กลับเป็นเขานี่สิ







ตอนที่เขากำลังคิดหนักพวกซอมบี้ก็เดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ทำให้ไจแอนท์กดดันมากขึ้น..

"จะ จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย!!!!!"


ไจแอนท์ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในสถานการณ์เช่นนั้น เขาจึงต้องจำใจใช้ปืนพกที่ได้จากตำรวจยิงใส่ซอมบี้ทั้งสองคนหลายนัดอย่างตื่นตระหนก 



ในที่สุดเขาก็จัดการพวกมันได้ และเดินมายืนพิงกับประตูเหล็กอีกด้านหนึ่งด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ....

"ทะ ทะไงดี....ฉัน....ฉันฆ่าคนตายซะแล้ว"


จริงอยู่ที่เขาต่อยตีกับคนอื่นมานักต่อนัก แต่สำหรับเรื่องการจับปืนจริงขึ้นมายิงคนจนตายนั้น...ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยาก ได้ เขาไม่อาจจะทำใจกับมันได้


"แม่จ๋า....ผม...จะทำไงดี"

ไจแอนท์เริ่มนึกถึงแม่...เขารู้สึกสับสนมากในตอนนี้ เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูก แขนและขาสั่นไปหมด ทั้งตกใจ ทั้งกลัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เหมือนเป็นฝันร้ายที่เขาอยากจะตื่นจากมัน...

ในตอนนี้เองเป็นตอนที่เราได้เห็นตัวตนที่อ่อนแอของไจแอนท์ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้


ในระหว่างที่ไจแอนท์ยืนคิดตอนที่พิงประตูเหล็กอยู่นั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจากอีกฝั่งของประตูเหล็กและเปิดประตูเข้ามา (เนื่องจากประตูเหล็กนั้นถูกล็อกจากอีกฝั่งทำให้คนๆนั้นสามารถเปิดประตูออกมาได้) ทำให้ไจแอนท์ตกใจมากที่จู่ๆก็มีคนโผล่มาทางข้างหลังเขา


ไม่นานนักชายคนนั้นก็กระชากตัวไจแอนท์เข้าไปหาอย่างแรง

"เจ็บ!!!"

การกระทำของเขาทำให้ไจแอนท์ตกใจหนักเข้าไปอีก


"ย้ากกกกกกกก!!!!!"


สิ่งที่ไจแอนท์เห็นก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดไปคือภาพของชายคนนั้นเงื้อกำปั้นและต่อยลงมาบนใบหน้าของเขาอย่างแรง และตามมาด้วยเสียงทุบตีซ้ำๆกันหลายครั้ง  ชายคนนั้นต่อยไจแอนท์อย่างบ้าคลั่งโดยที่ไจแอนท์ไม่อาจจะโต้ตอบได้ เพราะในตอนนั้นเขาไม่มีสติอยู่กับตัว จนในที่สุดไจแอนท์ก็ถูกต่อยจนสลบไป

ในช่วงที่ทุกอย่างดำมืดนั้นเราจะได้ยินเสียงของผู้ชายคนนั้น หัวเราะอย่างสติแตกพร้อมกับหยิบปืนพกที่ไจแอนท์ถือขึ้นมา

"เฮะๆๆๆๆๆ  ฮะๆๆๆๆ ไอ้เด็กนี่มันมีของดีด้วยว่ะ"
 


หลังจากนั้นก็มีเสียงของผู้ชายอีกคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกใจ..

"คาชิวาบาระ (柏原 : Kashiwabara) !? นี่นายทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย!!!  แล้วเจ้าเด็กนั่นล่ะ.."

คำพูดของชายคนนั้นทำให้เรารู้ว่า คนที่ทำร้ายไจแอนท์นั้นชื่อคาชิวาบาระ


"ฮะฮะ...ดูนี่สิ  ของจริง.....ปืนของจริงๆล่ะ ฮ่าๆๆๆ"

ชายที่ชื่อคาชิวาบาระยังคงสนใจปืนที่เขาขโมยมาจากไจแอนท์อย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจชายอีกคน ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน


"เมื่อกี้ฉันเห็นนะ ไอ้เด็กนี่มันขโมยมาจากตำรวจที่ตายแล้วมาใช้ด้วยล่ะ ฮะๆๆๆ ทำไมฉันถึงจะขโมยต่อไม่ได้ล่ะ"


 ชายอีกคนที่รู้จักคาชิวาบาระตกใจกับสิ่งที่เขาพูด

"เพราะเรื่องแค่นั้นน่ะเหรอ...ถ้างั้นทำไมเด็กคนนี้ถึงได้บาดเจ็บขนาดนี้ล่ะ ไม่จริงน่ะ หรือว่านาย..."


"หุบปากโว้ย!!!! ก็แค่แย่งปืนมาจากไอ้เด็กนี่แค่นั้นเอง"

คาชิวาบาระตอบด้วยความไม่พอใจเมื่อคนรู้จักของเขาซักไซร้


"ตอนนี้ก็ได้อาวุธมาแล้ว เราก็ไม่ต้องกลัวพวกบ้านั่นแล้ว ฮะๆๆ ไปกันเถอะ..."

คาชิวาบาระยังคงพูดแบบคนเสียสติต่อไป ซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว จึงได้เรียกชื่อเขาออกมาอย่างละเหี่ยใจ


"คาชิวาบาระ....."


"โอ้ยยย น่ารำคาญจริงโว้ยยยย มึงจะเรื่องมากอะไรกันนักกันหนาวะ อยากโดนยิงหรือไงวะ!!" จากนั้นคาชิวาบาระก็ชวนเพื่อนของเขาอีกคนให้ไปด้วยกัน  ซึ่งเพื่อนของเขาได้มองดูไจแอนท์ที่โดนทำร้ายจนสลบ พร้อมกับทำหน้าออกมาด้วยความรู้สึกที่อยากจะขอโทษ


"ขอโทษนะ..ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ฉันคงจะอยู่ตรงนี้ต่อไม่ได้แล้ว ยกโทษให้หมอนั่นด้วยเถอะนะ"


ชายคนนั้นพูดกับไจแอนท์เสร็จก็เดินจากไปพร้อมกับไอ้บ้าคาชิวาบาระ


หลังจากนั้นไม่นานไจแอนท์จึงฟื้นคืนสติ พร้อมกับบาดแผลที่หายสนิทอย่างรวดเร็ว เขาเอามือกุมขมับอย่างมึนงง

"จะ เจ็บโว้ยยยย ตื่นขึ้นยังรู้สึกมึนๆอยู่เลย"

ไจแอนท์รู้ตัวว่าเมื่อครู่นั้นเขาถูกลอบทำร้ายโดยใครบางคนและตอนนี้พวกเขาก็หายไปแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่จะโทษใครในตอนนี้ จึงตัดสินใจวิ่งออกมาจากตรอกซอยเรื่อยๆ



เขาได้วิ่งฝ่าฝูงซอมบี้มาตามทางถนน ซึ่งรอบข้างนั้นเต็มไปด้วยศพมากมายรวมถึงอาคารและบ้านเรือนที่เกิดเพลิงไหม้นับไม่ถ้วน


จนกระทั่งเขาได้วิ่งเข้ามาในซอบแห่งหนึ่ง ก็พบว่ามีคนๆหนึ่งกำลังสำรวจประตูอยู่ ซึ่งทำให้ไจแอนท์รู้สึกอุ่นใจที่เขายังเจอเพื่อนผู้รอดชีวิตด้วย


ไจแอนท์จึงเข้าไปใกล้ๆเขาก็ได้ยินเสียงเขาสบถออกมา

"บ้าเอ้ย....เปิดหน่อยสิ..."

ดูท่าทางว่าคนๆนั้นกำลังจะมีปัญหากับประตูเหล็กที่เปิดไม่ออกอยู่


"เอ่อ...นายกำลังทำอะไรอยู่เหรอ"

ไจแอนท์เริ่มพูดทักเขาก่อน ทำให้ชายคนนั้นหันมามองไจแอนท์พร้อมกับทำท่าสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจราวกับเห็นผี


"นาย.คือ.......!!"

ชายคนนั้นพูดด้วยความตกใจก่อนที่จะตั้งสติพูดใหม่..

"ค่อยยังชั่วหน่อยที่นายไม่เป็นอะไร รู้สึกผิดๆจริงที่ทิ้งนายไว้ตรงนั้นแล้วหนีมา.."


เมื่อได้ยินคำพูดคำนั้นทำให้ไจแอนท์รู้สึกงงว่า เขาพูดเรื่องอะไรกันแน่?? รู้แต่ว่า เสียงเขาคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน..


ชายคนนั้นจึงบอกความจริงว่า...เขารู้สึกผิดมากที่คาชิวาบาระไปทำร้ายไจแอนท์เข้า..


เมื่อได้ยินดังนั้นทำให้ไจแอนท์ปะติดปะต่อเรื่องได้ทันทีเลยว่า...

"เมื่อกี้นี้ฝีมือพวกนายยังงั้นใช่ไหม!!!"


"เอ่อ ฉันไม่ได้ทำนะ แต่เป็นคาชิวาบาระต่างหากที่ลงมือโดยพลการ ฉันพยายามจะหยุดเขาแล้วแต่.."

ยังไม่ทันทีเขาจะพูดจบ..ไจแอนท์ก็พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า..


"ถ้างั้นรีบพาฉันไปหาไอ้เจ้าคาชิวาบาระเดี๋ยวนี้...ฉันกับมันต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง!!"


ผู้ชายคนนั้นเงียบไปสักพักก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่ดูเศร้าสร้อยพร้อมกับบอกว่า..

"คาชิวาบาระน่ะ เขาตายแล้ว..อยู่ตรงนั้นไงล่ะ"

พร้อมกับชี้ไปทางด้านหลังไจแอนท์


ไจแอนท์จึงหันไปมองด้านหลังของตนก็พบศพผู้ชายคนหนึ่งนอนตายจมกองเลือด เมื่อเห็นดังนั้นทำเอาไจแอนท์พูดอะไรไม่ออก


จากนั้นชายคนนั้นก็พูดต่อประมาณว่า..คาชิวาบาระน่ะเป็นเพื่อนสนิทของเขา อีกทั้งเป็นคนที่ขี้กลัวมาก แถมยังเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอด้วย เขาต้องคอยดูแลคาชิวาบาระตลอดเวลา  หลังจากที่เกิดเรื่องพรรค์นั้นเกิดขึ้นในเมืองนี้ก็ทำให้คาชิวาบาระสติแตก


เขาบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาเอง เพราะระหว่างทางที่มาที่นี่คาชิวาบาระถูกพวกมันทำร้าย เขาได้เผลอหลุดปากออกไปว่า [ขืนเป็นแบบนี้นายได้กลายเป็นแบบพวกมันแน่] เขาคิดผิดที่พูดแบบนั้นออกไป หมอนั่น..คาชิวาบาระจึงตัดสินใจใช้ปืนยิงตัวเองจนตาย


เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่น่าเศร้าของชายคนนั้นทำให้ไจแอนท์รู้สึกเห็นใจและลืมความโกรธไปจนหมดสิ้น


เขาบอกว่ามันเป็นความจริงที่ว่า หากถูกเจ้าพวกนั้นทำร้ายจะต้องตายและกลายสภาพเป็นพวกมัน แต่เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเพื่อนของจะถูกพวกมันเล่นงานจนได้


หลังจากนั้น เขาจึงได้หันหน้าไปทางประตูเหล็กพร้อมกับบอกว่า..ประตูเหล็กนี้ถูกล็อกไว้แน่นมากด้วยกลไกพิเศษ ระหว่างที่เขามัวแต่หาวิธีเปิดประตูอยู่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็พบว่าเพื่อนของเขาดันชิ่งฆ่าตัวตายไปแล้ว


ไจแอนท์จึงถามชายคนนั้นว่าใช้ปืนยิงตัวล็อกออกมาไม่ได้เหรอ


ชายคนนั้นก็บอกว่า เขาเองก็ลองมาแล้ว..แต่ไม่ได้ผลเลย  แต่ถึงกระนั้นเขาก็บอกว่า ยังมีอีกวิธีนึงในการสะเดาะกลอนประตูเหล็กนี้แต่มันต้องใช้เวลาสักพัก


ในระหว่างที่ไจแอนท์กับชายคนนั้นพูดคุยกันอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางเหมือนกับเสียงของซอมบี้ และตอนนี้เองพวกเขาก็รู้ตัวว่าตอนนี้พวกเขาถูกพวกซอมบี้ล้อมไว้ทางด้านหน้าและหลังเรียบร้อยแล้ว


"บ้าจริง สงสัยเป็นเพราะเสียงปืนแน่ๆถึงทำให้พวกมันแห่กันมาที่นี่"

ชายคนนั้นสบถออกมาพร้อมกับมอบปืนกระบอกหนึ่งให้ไจแอนท์

"นายน่ะ ช่วยจัดการพวกมันไว้ก่อน ในระหว่างที่ฉันสะเดาะกลอนประตูนี่"

เพื่อให้เขาทำหน้าที่ยิงถ่วงเวลาคุ้มกันพวกซอมบี้ที่แห่กันเข้ามา


ไจแอนท์ได้ยินเช่นนั้นจึงร้องด้วยความตกใจ..

"เอ๋....จะให้ฉันยิงคนพวกนั้นเหรอ!! แต่จะให้ฆ่าคนพวกนั้น...ฉันทำไม่ได้หรอก!!"

ถึงแม้ว่าไจแอนท์จะเคยใช้ปืนยิงจัดการพวกมันมาก่อนแล้ว แต่ความรู้สึกที่ต้องฆ่าใครสักคนสำหรับเขาเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก ซึ่งคำพูดของไจแอนท์ทำให้ชายคนนั้นหันมาตะคอกใส่


"ไอ้เด็กบ้าเอ้ย!! นั่นเป็นหน้าที่ของนายนะ อยากมีชีวิตรอดไม่ใช่หรือไง!! ถ้าไม่ฆ่าพวกนั้น พวกนั้นก็จะฆ่าเรา อย่าให้ความพยายามของฉันสูญเปล่าสิ"


"ฉัน...ต้องทำมัน จริงๆเหรอ....ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ!?"

ไจแอนท์ยังคงลังเลอยู่..เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดโดยที่เขาไม่ต้องฆ่าคนอื่น


"ถ้านายไม่ทำ นายได้กลายเป็นแบบคาชิวาบาระแน่....!!  เร็วๆเข้า พวกมันแห่กันมาแล้ว!!"


ตอนนั้นเองไจแอนท์จึงรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันอย่างไม่มีทางเลือก เขาต้องตัดใจใช้ปืนยิงพวกคนที่กลายเป็นซอมบี้เข้ามา (หมายเหตุ ถ้าซอมบี้เข้ามาทำร้ายชายที่กำลังเปิดประตูอยู่เกมโอเวอร์ทันที)

ในตอนที่เขาต่อสู้นั้นเขาได้แต่คิดว่า..."เขาจะต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้...พวกเพื่อนทุกคนกำลังรอเขาอยู่ เขาจะมาตายที่นี่ไม่ได้..."


พวกมันบุกเข้ามาเยอะมากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง


จนในที่สุด ชายคนนั้นก็สามารถเปิดประตูเหล็กออกได้

"เปิดแล้ว...เปิดได้แล้ว!!!"

ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างดีใจ


เมื่อไจแอนท์เห็นดังนั้นจึงรีบบอกเขาทันที..

"นะ นี่...เปิดได้แล้วก็รีบๆเข้าไปสิ พวกมันแห่กันมาอีกแล้วนะ!!!"


ไจแอนท์คิดว่าชายคนนั้นจะเดินเข้าประตูไป แต่เขากลับยืนนิ่งและหันมามองไจแอนท์พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป...

"เอาปืนมาให้ฉัน..."


"เอ๋?" ไจแอนท์ประหลาดใจกับท่าที่ของเขา


"ปืนนั่นน่ะ ฉันต้องใช้มันนะ.."

ชายคนนั้นพูดทวงปืนจากไจแอนท์ขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มือแย่งปืนจากไจแอนท์ไป


"เฮ้ย...นี่นายคิดจะ..."

ยังไม่ทันที่ไจแอนท์จะพูดจบ


ชายคนนั้นก็ใช้มือจับคอเสื้อของไจแอนท์พร้อมกับเหวี่ยงร่างของเขาเข้าไปด้านในประตู (เนื่องจากชายคนนั้นเป็นผู้ใหญ่จึงมีแรงมากพอในการจับทุ่มเด็กอย่างไจแอนท์อยู่แล้ว)

 
"จะเจ็บ..ว้อย  นี่นายทำบ้า..."


ตึง!!!!

ก่อนที่ไจแอนท์จะเข้าไปหาเรื่องชายคนนั้น เขาตัดสินใจปิดประตูเหล็กและตามด้วยเสียงล็อกกลอนอัตโนมัติทำให้ไจแอนท์ไม่สามารถเปิดประตูกลับไปหาเขาได้


"เฮ้ย!!! นายคิดจะทำอะไรของนายน่ะ...!!?"

ไจแอนท์ตกใจมากกับสิ่งที่คนๆนั้นทำ


"สำหรับฉันน่ะ มันจบแล้วล่ะ... ฉันอยู่มานานพอแล้ว"  ชายคนนั้นพูดออกมา..พร้อมกับสารภาพความจริงว่า เขาเองก็ถูกพวกมันกัดเหมือนกันและคิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะกลายเป็นแบบเพื่อนของเขาแน่ๆ



เมื่อได้ยินเช่นนั้นไจแอนท์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก


หลังจากนั้นเขายังเล่าต่อว่า..มีเพียงคาชิวาบาระเท่านั้นที่เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามี สำหรับเขาตอนนี้นั้นไม่เหลือใครอีกแล้ว เขาเตรียมใจที่จะตายอยู่ในซอยนี้ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าคาชิวาบาระยิงตัวตายและประตูก็ไม่สามารถเปิดออกได้ง่ายๆแล้ว แต่การที่ไจแอนท์มาหาเขานั้น ทำให้เขาอยากจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายอย่างเต็มที่เพื่อช่วยใครสักคนให้รอดออกไปได้ เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำ


เมื่อได้ยินดังนั้นไจแอนท์ก็รู้สึกโมโหมาก พร้อมกับพูดว่า... ถ้าอย่างนั้นนายคิดจะตายอยู่ที่นี่แบบนั้นเหรอ!! ทั้งๆที่นายพยายามฉันไว้แล้วแท้ๆ!! นายต้องไปให้ถึงที่สุดสิ นายยังช่วยคนได้อีกตั้งเยอะ!!


เขาก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับพูดถึงไจแอนท์ว่า...นายน่ะยังมีเพื่อนพวกพ้องที่ยังมีชีวิตอยู่รอนายอยู่ที่โรงเรียนไม่ใช่เหรอ เขาได้ยินไจแอนท์พูดถึงพวกเพื่อนของเขาตอนที่สู้กับพวกซอมบี้ นั่นคือสิ่งที่ไจแอนท์พูดเตือนสติตัวเองว่า เขาจะต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบการยิงปืนฆ่าคนแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำเขาก็จะไม่รอดกลับไปหาพวกเพื่อนๆที่กำลังรอเขาอยู่ได้  และนั่นคือสิ่งที่ชายคนนั้นรับรู้ว่า เด็กชายตัวใหญ่เบื้องหนาเขาตรงนี้ยังมีหน้าที่ที่ต้องแบกรับอยู่ เขาไม่อาจจะยอมให้เด็กที่มีความเชื่อมั่นแบบนี้ตายด้วยแน่ๆ เพราะพวกพ้องที่อยู่เบื้องหลังของเด็กคนนี้ นั่นคือหน้าที่ที่เขาต้องแบกรับ เด็กคนนี้จะต้องอยู่ต่อไปเพื่อช่วยเหลือเพื่อนพวกพ้องที่กำลังรออยู่


"ฉันขอร้องล่ะ...อย่าหันกลับมาที่นี่อีก...แล้วก็รีบไปหาเพื่อนๆของนายซะ"

จากนั้นชายคนนั้นก็หันหน้าไปทางพวกซอมบี้ที่กำลังบุกเข้ามาพร้อมกับใช้ปืนเล็งยิงพวกมัน


"เฮ้ย!!"  ไจแอนท์พยายามเรียกเขาอีกครั้ง


"รีบไปเดี๋ยวนี้!!"


ไจแอนท์ไม่อาจจะห้ามชายคนนี้ได้อีกแล้ว... แม้ว่าเขาจะพยายามพังประตูเพื่อไปช่วยเหลือชายคนนี้เข้ามาก็ไม่อาจจะทำได้ ไจแอนท์จึงได้แต่วิ่งออกมาตามซอยโดยที่มีเสียงปืนยิงต่อสู้ของชายคนนั้นอยู่เบื้องหลัง  ....


ในที่สุดไจแอนท์ก็เดินทะลุซอยเล็กๆออกมาบนถนนใหญ่ และที่นั่นเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา

"ทาเคชิซัง"


เมื่อไจแอนท์หันมามองทางต้นเสียงเขาก็พบว่าคนที่เรียกเขานั้นคือชิสุกะนั่นเอง

"โอ้ ชิสุกะจัง โชคดีจังเลยที่ไม่เป็นอะไร"


ชิสุกะก็บอกว่า ทาเคชิซังเองก็ไม่เป็นไรสินะ ค่อยยังชั่ว


ชิสุกะเธอบอกว่าคนพวกนั้นมีเยอะมาก ทำเอาเธอกลัวแทบตาย


ไจแอนท์จึงถามหาซูเนโอะว่าเธอเห็นเขาบ้างหรือเปล่า


ชิสุกะส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่าเธอก็ยังไม่เจอเขาเลย


ไจแอนท์พยายามมองในแง่ดีพร้อมกับบอกว่า บางทีเจ้าหมอนั่นอาจจะวิ่งไปถึงโรงเรียนแล้วก็ได้ รีบไปกันดีกว่า


ชิสุกะเห็นด้วยจึงเดินไปพร้อมกับไจแอนท์จนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน และที่นั่น...


พวกเขาได้พบกับซูเนโอะที่อีกฝั่งของถนนทันที

"ซูเนโอะ"  ชิสุกะเรียกชื่อเขาด้วยความดีใจ


ทำเอาไจแอนท์ประหลาดใจมากเหมือนกัน

"ซะ..ซูเนโอะ"



"จะ จะ จะ ไจแอนท์!!!!!!!!!!!!"

ซูเนโอะตะโกนแหกปากพร้อมกับวิ่งพุ่งเข้ามาหาไจแอนท์


พวกเขาทั้งคู่กระโดดกอดกันด้วยความดีใจ

"โอ้วว เพื่อนเลิฟ ดีใจจริงๆที่นายปลอดภัย"


"โชคดีจังที่ เธอไม่เป็นอะไร"

ชิสุกะพูดเสริม


"พะ..พอกันที...น่ากลัวเป็นบ้าเลย....ทั้งหมา ทั้งอีกา...พวกมันทั้งบ้า ทั้งเพี้ยนไปหมดแล้ว!!"

ดูเหมือนว่าซูเนโอะจะเจออะไรที่หนักกว่าสัตว์ประหลาดในร่างคนที่ไจแอนท์เจอเสียอีก


ไจแอนท์ก็พูดด้วยความเห็นใจว่า งั้นเหรอ...ทางฉันเองก็เจอเหมือนกัน


ชิสุกะก็พูดว่า น่ากลัวจริงๆ


ในตอนนั้นเองเธอนึกขึ้นได้จึงถามว่า แล้วโนบิตะล่ะ


ซูเนโอะที่เดินไปแถวๆนั้นก็บอกว่า เขาเองก็ไม่เห็น


ไจแอนท์บอกว่าไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่ยังไงก็แล้วแต่ อย่างน้อยเจ้าหมอนั่นก็อยู่กับโดราเอม่อนคงไม่ต้องห่วงไปหรอก
 

ซู เนโอะเองก็เริ่มเห็นด้วยพร้อมกับเริ่มอิจฉานิดๆที่เจ้าโนบิตะได้อยู่กับโดรา เอม่อนที่ดูพึ่งพาได้ ฝั่งพวกเขาต่างหากที่น่าเป็นห่วงมากกว่า


ทั้ง สามคนจึงหันหน้ามองไปทางประตูโรงเรียน ไจแอนท์ได้พูดขึ้นมาว่า จากนี้ไปอาจจะพบอันตรายอีกมากมาย ขอให้ทุกคนเกาะกลุ่มกันไว้พร้อมกับเดินนำหน้าเข้าโรงเรียนไป


ชิสุกะก็ได้เป็นห่วงอยู่ลึกๆว่าเพื่อนของพวกเธอคงจะเป็นอะไรมากนะ ทั้งโนบิตะ ทั้งโดราเอม่อน ทั้งเดคิสุงิและคนอื่นๆ

ไจแอนท์ก็บอกยืนยันว่า พวกเขาจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน พวกเราจะต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้



แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าทุกคนจะปลอดภัยกันดีหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขาจะมัวแต่ลังเลไม่ได้อีกแล้ว เพราะว่าต่อจากนี้ไป มันคือหน้าที่ของเขาที่จะต้องพาทุกคนให้รอดออกไปจากที่นี่ให้ได้


เมื่อพวกไจแอนท์เดินเข้าไปในโรงเรียนก็จบเรื่องราวของไซด์สตอรี่ที่จะนำพาพวกเขามาพบกับพวกโนบิตะที่ห้องพยาบาลในโรงเรียนแห่งนี้ในบทความ >> โดราเอม่อนกับโนบิตะลุยไบโอฮาซาร์ด Muda ni Kaizouban [เนื้อเรื่องส่วนที่ 2] 
 

หลังจากที่เคลียร์เนื้อเรื่องจบแล้ว... ก็มีข้อความคำสารภาพออกมาจากตัวไจแอนท์เองว่า ก่อนที่เขาจะได้เจอกับพวกโนบิตะและโดราเอม่อนในสถานการณ์แบบนี้ ตัวเขาเองก็รู้สึกกลัวและทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายมากจนเกือบย่ำแย่ จนกระทั่งเขาได้ตระหนักว่าตนเองนั้นมีความสำคัญกับพวกพ้องมากแค่ไหน เขาจึงตัดสินใจที่จะต่อสู้กับความกลัว ความสับสนเหล่านั้นและยืนหยัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเพื่อนพวกพ้องคนอื่นๆให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปให้ได้